หน้าหลัก / รักโบราณ / หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน / ตอนที่ 1 เกิดใหม่ในร่างหมิงอี้

แชร์

หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน
หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน
ผู้แต่ง: ฟู่จินเฟย

ตอนที่ 1 เกิดใหม่ในร่างหมิงอี้

ผู้เขียน: ฟู่จินเฟย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-21 12:36:12

ฉันนักศึกษาปี 2 คณะเกษตร มหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง ใครๆ ต่างเรียกฉันว่า “อี้หมิง” ฉันเป็นคนเฉิ่มประจำห้อง แถมซุ่มซ่ามไม่มีใครเกิน วันหนึ่งขณะไปออกค่าย ฉันเป็นลมแดดขณะกำลังปล่อยน้ำเข้าแปลงเกษตรอยู่แล้วก็จำอะไรไม่ได้ ฟื้นขึ้นมาอีกทีก็เห็นป้าแก่ ๆ กำลังกอดตัวฉัน ใช่ฉันรู้สึกว่าเป็นอย่างงั้นนะ ร้องไห้ฟูมฟายอยู่ แล้วสภาพที่ตื่นขึ้นมาถือ อยู่ในบ้านไม้หลังคามุงด้วยฟางเก่า ๆ ห้องแคบๆ มีแต่ฝุ่น ไหนจะเสื้อผ้าเปื้อนๆ นี่อีกล่ะ

“เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ยยย!!” อี้หมิงหันซ้ายขาว ที่นี่ที่ไหนกัน

“หมิงอี้ ลูกแม่ ขอบคุณสวรรค์ที่เมตตาข้า” หญิงสูงวัยรีบคว้าร่างลูกสาวมากอด

“ป้าเป็นใครอ่ะ แล้วหนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” อี้หมิงใช้มือค้ำดันอ้อมกอดของหญิงแปลกหน้าไว้

“โถ่เอ๊ยลูกรัก เจ้าคงสลบจนเลอะเลือนเป็นแน่แท้” หญิงตรงหน้าส่ายหน้าแล้วรวบเธอเข้าสู่อ้อมอก พลางลูบเนื้อตัวเธออย่างปลอบประโลม

“เจ้าคือ หมิงอี้ ลูกของข้า อี้เฟิน ยังไงละพอจะคุ้นบ้างรึไม่”

อี้หมิงส่ายหน้า เธอกำลังฝันอยู่ ๆ แน่ๆ หญิงสาวคิดดังนั้นจึงฟาดมือเรียวตบที่แก้มตัวเองอย่างแรง

“โอ๊ย!! เจ็บ”

“นั่นเจ้าทำอะไรกันเล่า ไปตบตีตัวเองทำไมกัน”

“หนู เออ” อี้หมิงยังไม่เชื่อ รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว พลันความเจ็บปวดจากการโดนทารุณก่อนหน้าก็วิ่งชนเธออย่างจัง สาวน้อยโอดโอ๊ยออกมาด้วยความเจ็บปวด

“โอ๊ยยยย” ร่างบางทรุดลงกับพื้นทันที หญิงสูงวัยเห็นลูกสาวทรุดลงก็รีบเข้าไปหา

“หมิงอี้ลูก อย่าพึ่งลุก พวกคนใจร้ายมันบังอาจมาซ้อมเจ้าเพียงแค่เจ้าไปแย่งซาลาเปาลูกนั้นมาได้ จากเศรษฐีในเมืองที่มาแจกอาหาร ต้องโทษแม่ที่เกิดมาจน ลูกถึงอยู่อย่างยากลำบากแบบนี้ โถ่วลูกรัก แม่ขอโทษ ขอโทษเจ้า แม่ผิดเอง ฮึก ฮึก”

อี้เฟินนางมองดูลูกสาวตัวน้อยอย่างอนาถในใจ พลันกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ร่ำไห้ออกมาอย่างนึงเวทนาตนเอง หน้าตาที่บัดนี้เขียวคล้ำจากการโดนเด็กเร่ร่อนรุมทำร้าย ไหนจะเนื้อตัวที่โดนข่วนเป็นทางยาว ผมเผ้าของนางโดนดึงจนยุ่งเหยิงจนไม่เป็นทรง

ด้านหมิงอี้ ได้แต่อึ้ง นี่เราฝันเป็นตุเป็นตะขนาดนี้เลยหรอนี่ ตื่นได้แล้วมั้ง เธอรู้สึกร่างกายปวดร้าวไปทั้งตัว จึงลุกขึ้นใหม่แล้วตัดสินใจวิ่งชนเสาอย่างแรงเพื่อจะให้ตื่นจากความฝันอันเจ็บปวดเหมือนจริงนี้

“ตึ้งง! ตุบ!”

“หมิงอี้!!!!”

อี้เฟินตะโตนอย่างตกใจเมื่อจู่ๆ ลูกสาวนางก็ลุกขึ้นวิ่งชนเสาไม้ของบ้านจนลมตึ้งลงไปนอนแน่นึ่งที่พื้น นางรีบเข้าไปประคองร่างบางของลูกสาวแล้วเขย่าอย่างแรง ก็ไร้การตอบรับ จึงค่อย ๆ ยื่นมือไปอังจมูกในใจเต้นระทึกเหมือนกลองรัว หน้าถอดสี

“เฮ้อออ! ค่อยยังชั่วหน่อย นี่ลูกข้าเกิดอันใดขึ้นกับเจ้ากันทำไมทำกับตัวเองเยี่ยงนี้ รึเจ้าไม่อยากอยู่กับแม่แล้วรึ ฮึก ฮึก”

เมื่อที่เหี่ยวย่นตามกาลเวลายกขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นสาย พยายามยกประคองร่างลูกสาวไปนอนบนตั่งเตียงไม้แข็งๆ ที่ไม่มีเพียงฟางหญ้ารองไว้พอให้มีความนุ่มขึ้นมาบ้าง จากนั้นก็ลงมือเช็ดเนื้อเช็ดตัวที่มอมแมมเปื้อนไปด้วยดินโคลนจากการต่อยตีก่อนหน้านี้ออก และนำเสื้ออีกชุดซึ่งไม่จากจากชุดที่นางสวมอยู่ที่ผ่านการประเย็บแล้วเย็บอีกจนแทบมองไม่ออกว่าเป็นชุดจากผ้าผืนเดียวกัน เสมือนผ้าจากหลายผืนที่เหลือแล้วนำมาประเย็บให้เป็นผืนใหญ่ขึ้นแทน

3 วันผ่านไป

อี้หมิงในร่างของ หมิงอี้ก็ฟิ้นขึ้นมา รอบนี้สาวน้อยรู้สึกสดชื่นขึ้นจากความรู้สึกครั้งแรกมาก กายบางบิดขี้เกียจไปมาแล้วมองไปรอบ ๆ มือสะดุดกับฟางหญ้าที่ตนนอนทับอยู่

” เอ๊ะ! นี่เรายังไม่ตื่นอีกหรอเนี่ย” จึงเอนกายแล้วนอนลงไปอีกรอบ หลับตาแน่นแล้ว

“ฮึบ!!” ลืมตาขึ้นก็ยังเป็นหลังคามุงฟางหญ้าเช่นเดิม

งั้นลองใหม่ หญิงสาวพูดกับตนเอง

“ฮึบ!!! พรึบ” เฮ้ย!! นี่มันไม่ใช่แล้ว จึงลองใช้มือหยิงไปตามตัวตามแก้มตัวเองอย่างแรง

“โอ๊ะ โอ๊ยย!” สาวน้อยร้องอุทานแล้วเบิกตากว้างทันที นี่คือความจริงหรือนี่ คิดได้ดังนั้นจึงลุกวิ่งไปทางประตู ไปมองดูด้านนอกบ้านทันที

“เฮ้ยยย!” สาวน้อยอุทานออกมา ในสายตาเธอตอนนี้รอบ ๆ บ้านเป็นกำแพงรั้วไม้ ด้านหน้าเป็นทุ่งว่างเปล่า มีบ้านที่เรียกได้ว่า กระท่อม ถัดเธอออกไปอีกหลายหลัง มองเลยไปอีกด้านเห็นเป็นหลังคากระเบื้อง หลังใหญ่ ปลูกติดกันเป็นโซน แต่ละหลังมีพื้นที่มากทีเดียว มีรถม้าวิ่งผ่านไปมาทางด้านนั้น อีกฝากมองไปเห็นคนเดินขวักไขว่ มีเสียงกระดิ่ง เสียงตะโดน เรียกให้ซื้อของไม่หยุด ผู้คนสวมชุดเหมือนในหนังจีนโบราณที่เคยดูผ่านตา สีสันสดใสเดินจับจ่ายซื้อของ สาวน้อยมองอย่างอึ้ง ๆ พลันยกแขนที่หยิกเมื่อครู่ขึ้นมาดูก็เห็นเป็นปื้นแดงเถือก อ้าปากหวออย่างไม่อยากจะเชื่อ นี่เธอทะลุมิติมาหรือนี่ แล้วที่นี่ที่ไหนกัน ยุคอะไรกัน แล้วบ่นโอดครวญในใจ

“แหมะ จะทะลุมาทั้งทีให้ข้าไปเกิดในตระกูลดี ไป หน่อยก็ไม่ได้ พลางยกแขนเสื้อที่มอมแมมขึ้นมาดู มองดูรอบ ๆ ตัวที่เธออยู่ตอนนี้ก็เดินคอตกกลับไปนั่งบนตั่งฟางหงอย ๆ

…………………

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Vilaykan Sengxayyasith
เรื่องนี้สนุกมาก
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 120 ไม้เบื่อไม้เมา

    “หมิงอี้ ไม้ไผ่ที่เจ้าต้องการ ตอนนี้ตัดได้ครบตามจำนวนตามที่สั่งแล้วล่ะ” อู๋ไป๋รีบเดินปรี่เข้ามารายงานหมิงอี้ในทันทีที่ทำงานลุล่วงตามที่หมิงอี้สั่งไว้ ด้วยสภาพที่โชกไปด้วยเหงื่อแต่ก็ทำเพียงใช้หลังมือเช็ดออกเพียงเท่านั้น โดยที่เจ้าตัวนั้นมิได้สนใจที่จะใช้ผ้าเช็ดออกแต่อย่างใดภาพของอู๋ไป๋ตรงหน้านางในเวลานี้ทำให้หมิงอี้ได้แต่ส่ายหน้ายิ้ม ๆ พร้อมทั้งยื่นน้ำเย็นชื่นใจเพื่อเป็นการขอบคุณอยู๋ในที“ครบแล้วเช่นนั้นพวกเราก็เดินทางกลับกันเถิด เดี๋ยวจะค่ำมืดเสียก่อน เฮ้อชินอีหากมีเวลามากกว่านี้ข้าเองก็ยังอยากว่ายน้ำในลำธารนั่นอีกอยู่ดี” หมิงอี้อดที่จะเอ่ยออกมาอย่างนึกเสียดายเสียมิได้ แต่ภาระงานข้างหน้ายังรออยู่อีกอย่างในใจก็ยังเป็นห่วงมารดาอยู่มากจึงเร่งเดินทางกลับในทันที“โธ่ นายหญิงน้ำเย็นเพียงนั้นชินอีล่ะไม่เห็นว่าจะน่าภิรมย์เลยเจ้าค่ะ”“ก็เจ้าไม่ชอบอาบน้ำนี่นา เจ้าไม่เข้าใจหรอกชิ ไปเถอะ ๆ ” หมิงอี้เอ่ยพร้อมทั้งเร่งเดินตามขบวนคนงานเพื่อมุ่งออกจากป่าตรงกลับหมู่บ้านคนอพยพของตนคล้อยหลังเหล่าขบวนขนไม้ของหมิงอี้ เฉิงอี้ที่ซ่อนกายเพื่อซุ่มดูมาครู่ใหญ่ก็ได้เผยตนออกมา พร้อมทั้งหันไปสั่งราชองครักษ์คนสนิ

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 119 หมาป่าถ้ำมอง

    เฉิงอี้ไม่ปล่อยให้ถูกความใครรู้ครอบงำ เขาค่อย ๆ ขยับกายอย่างแผ่วเบาย่องเข้าไปประชิดหลบหลังต้นไม้ใหญ่ใกล้ริมธารน้ำ ทันทีที่แลเห็นใบหน้าหญิงงามที่เข้าใจว่าฝ่ายตรงข้ามวางกลอุบายหวังลวงหลอกตนเข้า ฉับพลับใบหน้าคมคายหล่อยเหลาพลันแดงก่ำ ก่อนครู่ต่อมาจะกัดฟันกรอดหันไปสั่งองครักษ์ของตนอย่างรวดเร็วให้รีบหันหน้ากลับไป“บัดซบ เย่หลาง!หยุดตรงนั้นแล้วหันกลับไปซะ!”“....เอ่อ พะย่ะค่ะ” เย่หลางที่กำลังเตรียมเคลื่อนตัวตามผู้เป็นนายพลันชะงักเท้ากึก แล้วหันไปอย่างรวดเร็วในใจสับสนแลสังสัยอยู่มิน้อยกับคำสั่งกะทันหันของผู้เป็นนายเฉิงอี้หลังออกคำสั่งแล้วเสร็จ แต่ทว่าตนนั้นกลับขยับเท้าเข้าใกล้ริมลำธารอย่างเผลอไผล ภาพสตรีเรือนร่างขาวกระจ่างยวนตาท่ามกลางแสงจันทร์รำไรที่ตกกระทบกับสายน้ำจนเกิดเป็นแสงระยิบระยับขึ้น ทำให้ภาพหมิงอี้เวลานี้ที่เขามองซุ่มดูอยู่นั้นดูราวกับนางฟ้านางสวรรค์ก็มิปาน“นายหญิงขึ้นมาได้แล้วเจ้าค่ะ อากาศเริ่มเย็นมากแล้วเดี๋ยวไม่สบายเอานะเจ้าคะ อีกอย่าง ...เอ่อ แถวนี้น่ากลัวพิลึก นายหญิงขึ้นเถอะเจ้าค่ะ”ชินอีที่เริ่มกลัวขึ้นมาเมื่อบรรยากาศโดยรอบถูกปกคลุมด้วยความมืด มีเพียงแสงโคมไฟพอสลัวที่ตนนั้นห

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 118 ป่าไผ่อลวน [2]

    ขบวนคาราวานของหมิงอี้และพวกที่เดินทางมุ่งหน้าสู่ชายป่าวัดฉงซิ่งในที่สุดก็มาถึงจุดที่เหมาะแก่การตั้งกระโจมที่พัก พื้นที่พักติดริมธารน้ำ ด้านหลังเป็นป่าไผ่ขนาดใหญ่เกิดเรียงกันเป็นทิวแถวสลับกอกันไปทั้งน้อยใหญ่ซึ่งการเดินทางนั้นต้องเดินให้ลึกเข้ามาพอสมควรเพราะต้นไผ่ที่ตนต้องการนั้นต้องลำอวบใหญ่ ฉะนั้นจำต้องเข้าป่ามาลึกกว่าปกติ และชายป่าที่ตนและพวกกำลังตั้งกระโจมอยู่นี้นั้นได้ยินอู๋ไป๋บอกกับว่าที่ ๆ พวกต้นกำลังตะว่าเกือบสุดเขตเมืองหลี่ก็ว่าได้ เวลานี้เป็นเวลาพลบค่ำแล้วแสงตะวันเริ่มจะลาลับขอบฟ้าทำให้ต้องจุดไฟเสียตั้งแต่ยังไม่มืด สายลมเย็นยะเยือกพัดผ่าน ต้นไผ่เอนไหวโน้มกิ่งเข้าหากันลำต้นเสียดสีไปมาพลันเกิดเป็นเสียงเอี๊ยดอ๊าดคล้ายคนบรรเลงเพลง หากแต่ในความคิดของหมิงอี้คิดว่าเสียงนี้ช่างน่ากลัวและวังเวงยิ่งนักจนอดที่จะยกมือขึ้นมาลูบเรียวแขนของตัวเองเสียมิได้“ชินอี ทำไมข้ารู้สึกว่าเสียงนี้มันช่าง...”ชินอีหันมาสนใจผู้เป็นนายอย่างใคร่สงสัยนางนั้นไม่รู้สึกว่ามีสิ่งใดแปลก ป่าก็คือป่าและเสียงเอี๊ยดอ๊าดสีกันของต้นไผ่ในเวลานี้ก็ย่อมเป็นเรื่องปกติ“ช่างกะไรรึเจ้าคะ”“ก็มันช่างน่ากลัวพิลึกน่ะสิ”หมิงอี

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 117 ป่าไผ่อลวน [1]

    “หมิงอี้เจ้าจะไปจริงรึ”อี้เฟินมองบุตรสาวด้วยสายตาเป็นห่วง ในใจนั้นรู้สึกโหวงหวิวพิกล ตั้งแต่เล็กจนโตแม้กระทั่งผ่านความเป็นความตายมาตนและบุตรสาวนั้นล้วนไม่เคยต้องห่างกันเลยซักครา“ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ ข้าไปเพียงสองคืน หากได้ไม้ไผ่ครบแล้วจะรีบกลับมาทันทีเลยเจ้าค่ะ อีกอย่างป่าแถบวัดฉงเซิ่งก็ไม่ไกลล้วนไม่มีอันตรายแน่นอนเจ้าค่ะ อู๋ไป๋ก็ไปด้วยท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงข้านะเจ้าคะ”หมิงอี้โอบกอดมารดาพลางมือยกลูบหลังผู้เป็นมารดาไปมาก่อนจะผละออกเพื่อเตรียมขึ้นรถม้า ส่วนสาเหตุที่ตนต้องไปคุมการตัดไม้ด้วยตนเองนั้นเป็นเพราะว่าลำไม้หากเล็กเกินไปก็ไม่ดีใหญ่เกินไปก็ไม่ดี งานนี้งานใหญ่และเป็นครั้งแรกจำต้องไปดูด้วยตนเอง“พี่หมิงอี้! รอข้าด้วยสิ”เฟิน เฟิน ที่วิ่งเข้ามาพร้อมกับย่ามในมือท่าทางเตรียมพร้อม“เฟิน เฟิน เจ้าจะไปที่ใดเจ้าอยู่กับท่านแม่ข้าที่บ้านดีกว่านะ ข้าไม่ไว้ใจใครนอกจากเจ้า”“แต่พี่หมิงอี้ เฟิน เฟิน ยะ”“เถอะนะ แค่เพียงสองคืนเท่านั้นเองเจ้าอยู่ที่เรือนนี่แหละ นะข้าจะได้สบายใจอีกอย่างเจ้าอยู่ช่วยแม่ข้าจัดหาพวกฟักนุ่นและผักบวบปห้งดีกว่าเมื่อพวกข้ากลับมาจะได้ลงปลูกได้เลย นะ นะ”หมิงอี้

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 116 ออเดอร์ถล่มทลาย [2]

    ‘ผักสะ สลัด รึ อะไรอีกนะ อะออ’‘ชื่อเรียกช่างประหลาดนัก สะ สะ สาลัด ฮะ ฮาย ดะ โอ๊ยชื่อช่างเรียกยากนัก’‘นั่นหนะสิ ชักอยากเห็นแล้วล่ะ’“เอาล่ะทุกท่าน ทุกท่านอาจจะมิคุ้นกับชื่อผักของข้าเท่าใดนัก นั่นเป็นเพราะว่าข้าอยากตั้งชื่อให้แปลกใหม่ ส่วนคำว่า ไฮโดรโปนิกส์ นั้น”ส่วนเหล่าบรรดาลูกค้ารวมไปถึงคนงานในร้าน ไม่เว้นแม้กระทั่งอู๋ไป๋ก็ต่างตั้งอกตั้งใจฟังอย่างใคร่รู้หมิงอี้ตั้งเว้นจังหวะพูดให้ดูน่าสนใจ ก่อนจะแย้มยิ้มออกมาอีกครั้งพลางเอ่ยต่อ“ไฮโดรโปนิกส์ คือ การปลูกพืช/ผักโดยการเลียนแบบธรรมชาติ ซึ่งก็มีหลายอย่างนัก หากผู้ใดสนใจข้ายินดีให้คำแนะนำได้ หากแต่ในครั้งนี้นั้นข้าเลือกใช้การปลูกแบบใช้น้ำแทน โดยที่ผักของข้านั้น...”เมื่อพูดมาจนถึงจุดสำคัญหมิงอี้ก็จับปลายผ้าคลุมและกระตุกเพียงเล็กน้อยผ้าก็เลื่อนหลุดลงพื้นโดยง่ายเผยให้เห็นโครงไม้ไผ่ที่ถูกต่อกันขึ้นเป็นชั้น ๆ สูงเกือบถึงศีรษะโดยแต่ละชั้นถูกเจาะรูและมีผักอยู่ในแต่ละรูที่เจาะมีทั้งสีเขียวสีม่วงสลับกันไป พลันเกิดเสียงฮือฮาขึ้นอีกครั้ง“โอ้โห เฮ้ย! สิ่งใดกันละนั่น”“ดะดูสิ! พวกเจ้าดู ๆ ”หมิงอี้นั้นรู้สึกพอใจเป็นอย่างมากที่เห็นการตอบรับที่เกิ

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 115 ออร์เดอร์ถล่มทลาย [1]

    หน้าร้านเทียนฝู ยามซื่อ (09.00 น.)หญิงชายทั้งบุรุษทั้งสตรีทั้งเด็กหญิงเด็กชายต่างทยอยเดินข้ามฝั่งจากตลาดใหญ่ของเมืองข้ามมายังร้านผักร้านใหญ่ที่ตั้งอยู่ลานหน้าทางเข้าหมู่บ้านของคนอพยพ จนทำให้พ่อค้าแม่ค้าในตลาดสงสัยกันใหญ่บัดนี้ผู้คนในตลาดลดลงอย่างหนาตาเมื่อมองหาสาเหตุก็พบว่าผู้คนนั้นต่างเดินมุ่งหน้าข้ามฝั่งไปยังร้านผักชื่อดังในเวลานี้นั่นเอง“เกิดอันใดขึ้นกัน ลูกค้าหายไปเสียหมด แล้วนั่นจะไปที่ใดกันเล่า”พ่อค้าร้านขนมปังเจ้าดังของตลาดถึงกับเดินออกมาส่องดู ปกติยามนี้ตลาดจะคึกครึ้นไปด้วยผู้คนที่ออกมาจับจ่ายซื้อของแต่ยามนี้ช่างหนาตาลงอย่างผิดปกตินัก“อ๋อ ได้ยินประกาศว่าร้านเทียนฝูจะเปิดขายผักชิดใหม่หนะ”พ่อค้าร้านถังหูลู่ที่ได้ยินเสียงประกาศตอนเตรียมตั้งร้านนั้นเอ่ยบอก“อ๋อถึงว่าล่ะ! ปกติแค่ถั่วงอกกับผักบุ้งก็ได้ยินมาว่าแทบจะขายไม่ทัน นี่ ๆ ข้าเห็นสาวใช้ในวังออกมาซื้อด้วยนะ พูดแล้วข้าก็ชักอยากมีบุญลิ้มลองซักครั้งแล้วสิ เช่นนั้น เมิ่งเอ๋อร์ ๆ ”“ว่าไงตาแก่ฮึ ตะโกนโหวกเหวกแต่เช้า มีเรื่องอันใด”เมิ่งเอ๋อร์ที่เจ้าของร้านขนมปังเรียกเดินออกมายืนท้าวสะเอวส่องดูผู้เป็นสามี“ถ้าจะไปร้านเทียนฝูประ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status