จึงเป็นที่มาของการปฏิบัติกับฮูหยินใหม่เช่นนี้ เริ่มจากเจ้าบ่าวไม่มาเข้าพิธีให้เจ้าสาวเข้าพิธีกับป้ายชื่่อของเขาและพออีกวันก็สั่งให้ย้ายเรือนไปอยู่เสียไกล เหมือนชิงชังรังเกียจนางนักหนา แต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าตั้งคำถามกับเจ้าของจวนว่าเหตุใดเขาจึงย้ายภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกันใหม่ไปอยู่เสียไกลเช่นนั้น บ่าวชายและสาวใช้สองสามคนมาช่วยกันขนข้าวของๆเจ้าสาวหมาดๆ แล้วก็พากันกลับไป
เยว่ซินและหย่งหลิวพากันเดินสำรวจเรือนน้อยหลังใหม่ที่พวกนางเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ เรือนนี้แม้ไม่ใช่เรือนใหม่นัก แต่ก็พออยู่ได้ ยังไม่ต้องซ่่อมแซมสิ่งใด พ่อบ้านของจวนก็สั่งให้คนมาทำความสะอาดเอาไว้แล้ว ตุ่มน้ำหลังบ้านก็มีบ่่าวไปตักน้ำมาใส่จนเต็มทุกตุ่มแล้ว ครัวเล็กด้านหลังก็สามารถใช้ทำอาหารได้หากพวกนางต้องการ ห้องสุขาที่อยู่ด้านหลังเรือนอีกฝั่งหนึ่งของครัวก็ยังใช้งานได้ดี แต่ในห้องนอนของคุณหนูไม่มีถังอาบน้ำใบใหญ่ กับฉากกั้นสำหรับไว้แต่งตัว
“ คุณหนูเจ้าคะ แล้วคุณหนูจะอาบน้ำอย่างไร ในห้องไม่มีอ่างอาบน้ำนะเจ้าคะ หรือเราจะบอกให้พ่อบ้านนำมาให้ ” หย่งหลิวเมื่อเดินสำรวจจนทั่วเรือนแล้วก็หันมาถามนายหญิงของตนเอง
“ ไม่เป็นไร ข้าอาบที่ห้องน้ำด้านหลังก็ได้ เราเพิ่งย้ายมาอยู่และเจ้าของจวนเขาก็ไม่่ค่อยจะชอบข้านัก ข้าเดินไปอาบที่ห้องด้านหลังก็สะดวกดี หากตอนเช้าๆ หากไม่มีบ่าวมาช่วยเจ้ายกน้ำร้อน เจ้าก็จะเหนื่อยเกินไปอีก ข้าอาบในห้องด้านหลังก็ดีแล้วสะดวกดีทุกอย่าง ” เยว่ซินบอกกับสาวใช้แล้วนางก็เดินไปทรุดนั่งที่ตั่งตัวใหญ่ในห้องโถงเล็กหน้าเรือน แล้วหันมองสำรวจรอบๆห้อง
“ ตอนนี้ข้ายังไม่อยากจะให้มันวุ่นวายมากนัก เพราะก็ยังไม่รู้ว่าเราจะอยู่ที่นี่ไปได้นานอีกสักแค่ไหน เพราะข้าแต่งงานเข้ามาในจวนนี้ ไม่ได้เกิดจากความรัก เขาไม่ใช่บุรุษที่พึงใจต้องการแต่งข้าเข้ามาเป็นฮูหยิน แต่เขาไปสู่ขอข้าด้วยเหตุผลอื่น เราอยู่กันไปก่อน แล้วค่อยๆหาทางแก้ไขกันไป ข้าเองก็ยังไม่รู้ว่าจะอยู่ที่นี่ได้อีกนานแค่ไหน ” เยว่ซินบอกกับสาวใช้ของตนเอง
และคำตอบที่เยว่ซินข้องใจเรื่องที่บุรุษแสนจะเย็นชาและดูเกลียดชังนางมากเช่นนี้จะไปสู่ขอนางมาเพื่ออะไร และทำไมเขาถึงตัดสินใจไปสู่ขอนางทั้งๆที่ไม่เคยพบกันมาก่อนด้วยซ้ำ ก็เฉลยออกมาโดยที่เยว่ซินไม่ต้องรอคำตอบจากชายผู้นั้น
ตอนบ่ายของวันนั้น จางอี้หลานก็ย่างกรายมาที่เรือนหลังเล็กของฮูหยินหมาดๆ ของพี่ชาย นางเดินเข้ามาโดยไม่ได้ขออนุญาตและเมืื่อพบกับเยว่ซินที่นั่งเย็บผ้าม่านอยู่ที่โต๊ะกลมกลางห้อง นางก็เหยียดยิ้มอย่างเย้ยหยัน “ ในที่สุดเจ้ากับสามีของข้าก็มิอาจจะสมรักกัน ข้าล่ะสะใจจริงๆ ตอนนี้พี่เว่ยหลงไม่อยู่เขาออกไปพบลูกค้าที่ต่างเมือง คงจะยังไม่รู้ว่าชู้รักเปลี่ยนใจไปแต่งงานกับพี่ชายของข้าเสียแล้ว ข้าอยากจะเห็นหน้าของเขานักว่าจะเป็นเช่นไร ”
เยว่ซินชะงักมือที่กำลังทำงานง่วน นางพลันเข้าใจในทุุกเรื่องราวได้ทันที โดยที่จางอี้หลานไม่ต้องอธิบายความใดๆมากไปกว่านี้
“ เป็นเจ้าสินะที่ให้พี่ชายไปสู่ขอข้าทั้งๆที่เขาก็ไม่เคยพบข้ามาก่อน ” อี้หลานเหยียดยิ้ม แต่ไม่ได้ตอบว่ากระไร “ ข้าจะบอกเจ้าอีกครั้งนะ ว่าข้าไม่ได้เป็นอะไรกับสามีเจ้า เราคบกันแค่เพียงสหายเก่าที่เคยรู้จัก เขากับข้ารู้จักกันมานานแล้ว ตั้งแต่เรายังเด็ก เขาพบกับข้าเพียงสนทนากันเช่นสหาย ไม่ได้สิ่งใดเกินเลย และมันไม่มีทางเปลี่ยนความจริงนี้ไปได้ ” เยว่ซินพยายามบอกกับจางอี้หลานมาหลายครั้งแล้ว หากนางไม่หึงหวงสามีจนหน้ามืดตามัวก็คงจะพอมีสติอยู่บ้าง แต่นี่นางไม่เคยเชื่อเลย แม้เยว่ซินจะพร่ำอธิบายอย่างไร
หลังๆ เยว่ซินจึงได้เลิกอธิบาย สตรีเช่นจางอี้หลาน เป็นสตรีที่ไร้เหตุผล เอาแต่อารมณ์และความรู้สึกของตนเองเป็นใหญ่นางคงจะรักเว่ยหลงสามีของนางมาก จนขาดสติ เขาใกล้ชิดและคบหากับสตรีใดก็มิได้ นางมักจะเอะอะอาละวาด จนทำให้สามีที่เคยรักใคร่นางกลับกลายเป็นเบื่อหน่าย แต่เยว่ซินก็มองออกว่าที่จริงแล้วเว่ยหลงรักภรรยา ไม่เช่นนั้นเขาไม่แต่งงานกับนางหรอก เว่ยหลงเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลา รูปร่างองอาจผึ่งผาย และฐานะร่ำรวย เขาจะเลือกสตรีนางอื่นก็ได้ แต่เขาเลือกจางอี้หลานก็คงเพราะรักนางนั่นแหละ
“ ข้าไม่เชื่อหรอก ข้ามองออกว่าเจ้ากับสามีข้าไม่ใช่คบหากันเช่นสหาย เขาหลงรักเจ้า แต่บังเอิญต้องมาแต่งงานกับข้าเสียก่อน เขาเคยสารภาพกับข้าว่าเขาอยากจะรับเจ้าเป็นฮูหยินอีกคน แต่เรื่องนั้นข้าไม่มีทางยอมเด็ดขาด ให้ข้าตายเสียยังดีกว่า ที่จะให้สามีของข้ารับเจ้ามาเป็นเมียน้อย ข้าไม่มีทางยอมได้ แต่ตอนนี้ข้าไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นอีกแล้ว เพราะเจ้าแต่งงานกับพี่ชายของข้าแล้ว และข้าก็ได้ยินสาวใช้พูดกันว่าเขามาเข้าหอกับเจ้าแล้ว
เป็นอย่างไรบ้างเล่า พี่ชายของข้า เขาหล่อเหลา และมีเสน่ห์กว่าเว่ยหลงมาก แต่อย่าได้หลงคิดไปล่ะ ว่าพี่ชายของข้าที่เป็นถึงแม่ทัพอนาคตไกล จะรับเจ้ามาเป็นฮูหยินของเขาจริงๆ เขาแค่ช่วยข้าเท่านั้น แต่ครั้นจะรับเจ้ามาเป็นแค่อนุ ก็ไม่สมบทบาท เพราะเขาอยากจะให้สามีของข้าตัดใจจากเจ้าให้ได้อย่างเด็ดขาด เพราะบัดนี้แม้แต่ความสาวเจ้าก็ไม่มีเหลือไว้ให้กับสามีของข้าแล้ว สะใจยิ่งนัก ” แล้วจางอี้หลานก็เดินออกไปพร้อมกับหัวเราะอย่างชอบใจ ที่เรื่องราวมันลงตัวสมดังใจของนาง
ทิ้งให้เยว่ซินและหย่งหลิวอึ้งงันมองตามร่างของสตรีนางนั้นกับสาวใช้ของนางจนลับตา “ คุณหนูเจ้าคะ ” หย่งหลิวจับแขนของนายหญิงของตนเหมือนต้องการปลอบประโลมนาง “ ข้าไม่เป็นไร ข้าไม่ได้เสียใจเรื่องเว่ยหลงหรอก เพราะข้าพูดความจริงกับนางมาตลอดแต่นางไม่เคยเชื่อข้า
เรื่องเว่ยหลงข้าก็ไม่เคยคิดสิ่งใดเกินเลยกับเขา เพียงแค่เห็นใจเขาเพราะเขาทุกข์ใจที่ภรรยาของเขาเป็นสตรีที่ขาดสติเช่นนี้เท่านั้น ข้าไม่ได้คิดอะไรกับเขา แค่เห็นใจเขาในฐานะสหายเก่าเพียงเท่านั้น เขาแค่มาพูดจาปรับทุกข์กับข้าฉันท์คนรู้จักกันมาแต่เก่าก่อน แต่อี้หลานไม่เข้าใจเท่านั้นเอง ”
เยว่ซินบอกกับหย่งหลิวไปตามตรง ทั้งสองได้แต่หนักใจที่เรื่องราวมันบานปลายไปเช่นนี้ แต่ก็ไม่รู้จะแก้ไขสิ่งใดได้ เพราะทุกๆอย่างมันก็ล่วงเลยมาจนกลายเป็นเช่นนี้ไปเสียแล้ว
ด้านแม่ทัพจางที่เมื่อโผเผออกมาจากเรือนหลังเล็กนั่นในตอนรุ่งสางแล้ว ก็กลับเข้าไปนอนในเรือนหลักของตนเอง จวนแม่ทัพนี้ยังไม่มีฮูหยินที่คอยจัดการเรื่องต่างๆในเรือน แทบทุกเรื่องจึงต้องอาศัยพ่อบ้านจางคอยดูแล ส่วนเรื่องบัญชีรายรับรายจ่ายในจวนนั้น แม่ทัพหนุ่มที่ไว้ใจพ่อบ้านจางก็ให้พ่อบ้านดูแลในเรื่องนี้ไปด้วยเพราะเขายังไม่มีฮูหยินมาแบ่งเบาภาระเรื่องนี้
แม่ทัพหนุ่มแต่งงานแล้วก็จริง แต่ก็ยังไม่อาจจะวางใจให้ฮูหยินชั่วคราวนั่นมาดูแลจวนได้ เพราะทั้งเขาและพ่อบ้านจางที่เป็นคนเก่าคนแก่ของเขา ต่างก็รู้ว่าสตรีนางนั้นที่เพิ่งแต่งเข้ามา
และท่านแม่ทัพก็ไม่คิดจะยกย่องนางเป็นฮูหยินที่แท้จริงของเขา เพราะเขาเคยบอกกัับพ่อบ้านเก่าแก่เอาไว้แล้ว ว่าหากปัญหาเรื่องของครอบครัวอี้หลานเสร็จสิ้นลงแล้ว ก็คงจะให้นางย้ายออกไปจากที่นี่ เพราะตอนนี้เขาก็ไม่ได้มีหนังสือสมรสอย่างถูกต้องกับนาง จึงสามารถเลิกรากันได้อย่างง่ายดายนัก
เขาอ้างกับบิดาของนางในวันแต่งงานนั้นว่าเขาติดราชการด่วน จึงทำให้มาเข้าพิธีแต่งงานไม่ได้ และก็เลยลงนามในหนังสือสมรสไม่ได้ด้วยเช่นกัน เรื่องเหล่านี้เขาตั้งใจให้มันเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว
หลังจากเป่าเอ๋อลงมาจากรถม้าของว่าที่สามี แล้วนางก็ยืนรอส่งเขาจนรถม้าแล่นลับตาไป ในอกของนางพองฟูและเบ่งบานไปด้วยความสุขความสมหวัง นางไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่านางจะได้เป็นสตรีที่ชายที่มีฐานะสูงส่งกว่านางจะหันมามอง นางแทบไม่เคยคิดว่านางจะเป็นหญิงที่ร้องครวญครางอยู่บนตักของเขาอย่างเมื่อครู่ที่ในรถม้า เมื่อถูกเขาจูบมัดจำและฟอนเฟ้นร่างงามของนาง ว่าที่สามีจากไปพร้อมกับคำสัญญาว่าอีกสามวันเราจะได้อยู่ด้วยกันอย่างที่ปรารถนาแล้วหลังจากนั้นฮุ่ยหลินก็ต้องเป็นฝ่ายมาส่งเจ้าสาวขึ้นเกี้ยวในอีกสามวันต่อมา และไปร่วมพิธีแต่งงานเล็กๆที่จวนของรองแม่ทัพหนุ่มกับสามี เพราะท่านเจ้ากรมไม่มีทางปล่อยให้ภรรยาไปที่จวนของรองแม่ทัพเหลียงโดยที่ไม่มีเขาไปด้วยอยู่แล้ว หลังจากนั้นก็เป็นอันว่าเป่าเอ๋ออดีตสาวใช้ของฮุ่ยหลินก็กลายเป็นอนุของรองแม่ทัพเหลียงอย่างเต็มตัวแล้ว และเขามีทีท่าว่าทั้งรักและหลงไหลนางมาก ถึงขนาดให้มาอยู่ที่เรือนเล็กข้างๆเรือนหลักของเขา ฮุ่ยหลินก็หวังว่าต่อไปชีวิตของเป่าเอ๋อจะราบรื่นสมหวังและมีความสุขกับชายที่นางรักเช่นนี้ตลอดไปหนึ่งปีต่อมา ฮุ่ยหลินคลอดบุตรชายที่เป็นแก้วตาดวงใจของจวนสกุลฮั่ว เขาตัว
ท่านเจ้ากรมหนุ่มค่อยๆ ขยับเอวสอบของตนเองช้าๆ แล้วค่อยๆเร่งจังหวะ “ อื้อ… อะ อะ อ๊าาย อื้อ อู๊ยยย อู๊ยย อู๊ยยย….” แล้วค่อยๆ โยกขย่มนางอย่างรุนแรงจนกลายรัวบั้นเอวถี่ยิบ โถมเข้าไปในกายของนางอย่างรุนแรง ฮุ่ยหลินหอบหายใจกระชั้น นางเสียว เสียวเหลือเกิน แอ่นสะโพกอวบให้เขาทิ่มแทงเข้ามาอย่างไม่ยั้ง “ อ๊าา อู๊ยยย อู๊ยยย อาาา ซี๊ด … อู๊ยยย ” เสียงครางกระเส่าของนางยิ่งทำให้คนบนร่างแทบจะคลั่ง เขากัดฟันเอาไว้แน่น เพื่อห้ามตัวเองไม่ให้หลั่งออกมา เพราะร่องอวบของนางตอดรัดเขาอย่างบ้าคลั่งรุนแรง ตับ ตับ ตับ ตับ ตับ คุณชายหนุ่มก้มลงดูดผลอิงเถาของนางอีกครั้ง ขณะที่รัวบั้นเอวไม่ยั้งใส่ร่องรักของนาง แทงเข้าแทงออกอย่างรุนแรง เขาทั้งงัดทั้งเสย เข้าออกจนกระทั่งฮุ่ยหลินกระตุกเกร็งหลายๆครั้ง แล้วเสร็จสมไปก่อน นางหายใจแรงๆ หอบเหนื่อยยิ่งนักขณะที่เจ้าบ่าวหมาดๆ ยิ่งโหมกระหน่ำกระแทกร่องสวาทของนางอย่างรุนแรง ด้วยจังหวะกระชั้นชิด เหงื่อไหลโทรมกาย ก่อนที่ทั้งสองจะกอดรัดกันแล้วร่องสวาทของฮุ่ยหลินก็ตอดรัดดูดกลื่นน้ำรักอุ่นของสามีของนางจนหมดสิ้นทุกหยาดหยดที่เขามี เจ้ากรมหนุ่มล้มตัวลงบนอกอวบของนางแล้วหายใจหอบอย่า
ยิ่งนางดิ้นรนและกรีดร้องบอกเขาว่าไม่อยากจะเป็นของเขา ฟู่เฉิงยิ่งออกแรงดูดผลอิงเถาของนางแรงยิ่งขึ้นส่งผลให้ฮุ่ยหลินเสียวซ่าน เสียวขึ้นมาอย่างรวดเร็วอย่างห้ามเอาไว้ไม่ได้ ” อ๊าย อ๊าา อื้อ..อื้อ…" ฮุ่ยหลินครางเสียงสั่นระรัว นางรู้สึกวาบหวามอย่างห้ามตนเองเอาไว้ไม่ได้ นางรับรู้ว่าบัดนี้น้ำรักในร่องอวบของนางนั้นไหลออกมาจนเปรอะเปื้อนตามง่ามขา ช่าง….น่าอาย น่าอับอายเหลือเกิน ไม่นะ นี่ร่างกายของข้า มันสยบยอมเขาอีกแล้ว ไม่นะ ไม่….ท่านเจ้ากรมหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากอกอวบของนาง เขาจ้องมองนางด้วยดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความต้องการอย่างมากมาย จนเจ้าสาวหมาดๆ เบือนหน้าหลบสายตาคมนั้น เจ้ากรมหนุ่มถอดอาภรณ์ของตนเองทีละชิ้นขณะที่ตาก็จ้องมองใบหน้าหวานที่เริ่มแดงระเรื่อ แก้มนวลของนางน่าจูบยิ่งนัก เมื่อกายล่ำสันที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามหนั่นแน่นไปทั้งตัวเปลือยเปล่า เขาก็เบียดต้นขาแข็งแกร่งนั้นแทรกผ่านเรียวขาขาวอวบทั้งสองข้างของนาง แล้วถูไถเสียดสีโหนกบุปผาไปมา แค่เพียงเท่านี้ก็ส่งผลให้ฮุ่ยหลินร้องครวญครางอย่างบ้าคลั่งแล้ว นางบิดกายไปมาเพราะความเสียวที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ไม่ใช่การดิ้นรนหนีไปจากคนบนร่างอีกแล้ว ป
รองแม่ทัพหนุ่มหลงลืมฮุ่ยหลินไปจนหมดสิ้นเมื่อพบสตรีบริสุทธิ์ผุดผ่องที่แม้อ่อนหัดแต่นางเรียนรู้ได้รวดเร็วนัก แม้นางยังใหม่ในเกมรัก และนางก็มีทุกอย่างที่สตรีควรจะมี ผิวพรรณผุดผาดหน้าอกอวบใหญ่และสะโพกที่ผายกำลังดี เขาคิดว่าหากนางได้สวมอาภรณ์ชั้นดี นางก็คงไม่ต่างกับคุณหนูในห้องหอทั้งหลายในเมืองนี้ แม้นางไม่งามเท่าฮุ่ยหลินแต่นางกล้าและเร่าร้อนกว่ามาก นางกล้าทำทุกอย่างตามใจเขา นางไม่เขินอายยามเริงรัก ปล่อยใจและกายให้กับเขาอย่างเต็มที่ ทั้งสองพากันไปโยกขย่มกันในถังน้ำในห้องนอนของอดีตคุณหนูของนางที่บัดนี้ไม่ได้ใช้งานแล้ว เรือนนี้เป็นเรือนว่างที่ปิดเอาไว้ ไม่มีใครมาที่นี่อีก เพราะเก็บข้าวของไปหมดแล้ว ตลอดคืนเรือนหลังน้อยนี้กลายเป็นเรือนรักของรองแม่ทัพเหลียงและเป่าเอ๋ออนุหมาดๆของเขาที่ต่างก็หลงไหลในกันและกัน จนบทรักที่เร่าร้อนดำเนินไปตลอดค่ำคืน เพราะต่างก็ยังไม่อิ่มเอมในกันและกัน คนสนิทของรองแม่ทัพหนุ่มทั้งสองคนที่ติดตามมางานเลี้ยงในวันนี้ นั่งเฝ้าอยู่หน้าเรือนเพราะนายของเขายังอยู่ข้างใน เสียงเริงรักของทั้งสองได้ยินออกมาเป็นระยะตลอดทั้งคืน ทหารคนสนิทต่างยักคิ้วให้แก่กันอย่างร
นายท่านหนุ่มก้มลงชิมน้ำหวานจากร่องอวบของนางจนเหือดแห้ง เขาดื่มมันอย่างเอร็ดอร่อย แล้วอยู่ๆเขาก็จับร่างอวบพลิกคว่ำลงฟูกนอนหนานุ่มนั้น พร้อมกับดึงบั้นท้ายอวบอัดของนางขึ้นให้มันลอยสูงพอที่เขาจะสอดเจ้าลูกชายที่แข็งขึงไปหมดของเขาจ่อเข้ากับร่องอวบของนางจากทางด้านหลัง “ อ๊าาา อ๊าาย นายท่านเจ้าคะ สอดมันเข้ามา ได้โปรดเจ้าค่ะ กระแทกข้าเสียที อ๊าา อ๊าา อ๊ายยย “ สาวใช้คนงามแอ่นก้นงามงอนของนางส่ายไปมาเพื่อยั่วยวนเขาอย่างถึงที่สุด ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อน แต่ทนไม่ไหวแล้ว นางร่าน ร่านเหลือเกินแล้ว และนางต้องการเขา ชายที่เป็นสามีของนาง ในใจของเป่าอันมันแอบมีเขาซุกซ่อนเอาไว้ ตั้งแต่พบเขาคราวแรกพร้อมกับคุณหนู แต่นางมิกล้าอาจเอื้อมได้แต่แอบเมียงมอง และเก็บเอาเขาไปฝันตามภาษาสาวรุ่นที่ต้องการไออุ่นจากคนรัก นางคิดว่าความรักครั้งนี้มัันไม่มีทางจะเป็นไปได้ เพราะชายที่นางบังอาจแอบรัก เป็นคนรักของคุณหนูของนาง ” เป๋าเอ๋อ เจ้าร่านชายเช่นนี้ ถูกใจข้ายิ่งนัก ข้าจะกระแทกเจ้าแล้ว กระแทกเจ้าให้มิดด้าม ขย่มแรงๆ ให้เจ้าเดินไม่ได้เลยคอยดู “ รองแม่ทัพหนุ่มที่บัดนี้อารมณ์รักพุ่งขึ้นสูงมาก จนพร่ำพูดคำ
สาวใช้ตัวน้อยครวญครางออกมาอย่างอดกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป จำต้องปล่อยเสียครางดังแมวที่ขู่ฟ่อเบาๆ แต่มันก็เบาบางมากจนคนใต้ร่างแทบไม่รู้สึกอะไร และยิ่งครางยิ่งถูกเขาบดจูบอีกครั้งอย่างเร่าร้อน ลิ้นสากหนาของเขานั้นเข้าเกี่ยวพันลิ้นเล็กของเป่าเอ๋ออย่างดูดดื่ม เขาดื่มกินความหอมหวานราวกับน้ำผึ้งนั้นอย่างมัวเมา รู้สึกติดใจนัก นางเป็นเพียงสาวใช้แต่นางสดใหม่และหวานหอมยิ่งนัก ทำเอารองแม่ทัพหนุ่มติดใจนางเข้าแล้วส่วนหัวใจดวงน้อยของเป่าอันที่มันเคยแอบหลงรักเขา และแอบมองเขา แต่ไม่กล้าคิดเกินเลย บัดนี้มันรู้สึกวูบโหวงในใจอย่างที่ไม่เคยมาก่อน เรี่ยวแรงที่ควรจะมีเอาไว้ขัดขืนเขากลับเหือดหายไปที่ใดไม่รู้ได้ มือที่ควรจะผลักร่างหนาของเขาออกไป กลับไม่ยอมเคลื่อนไหวทำตามหน้าที่ของมันราวกับยอมให้เขาลงทัณฑ์บนเรือนกายของนาง แต่นางผิดอันใดเล่า เขาพร่ำบอกว่าเขาต้องการให้นางชดเชยให้เขา แต่ไม่ได้บอกว่าผิดอะไร แต่เขาดูแค้นเคืองมาก หรือเขาจะผิดหวังจากคุณหนูของนางเสียก็ไม่รู้ได้ จึงได้มาลงที่นางเช่นนี้ เป๋าเอ๋อครุ่นคิด ดวงตาของเขาที่จ้องมองที่นางในคราวแรกมันจึงเต็มไปด้วยไม่พอใจ แต่บัดนีี้คนที่ดูโกรธแค้นเหล