Home / รักโบราณ / เชลยรัก ท่านอ๋องแฝดนรก / บทที่ 4 โรคประหลาดที่มิอาจรักษา

Share

บทที่ 4 โรคประหลาดที่มิอาจรักษา

last update Last Updated: 2025-06-05 12:12:19

เมื่อคิดได้เช่นนั้น โจวอวี้หลันจึงยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากเล็กน้อย แต่ไหนแต่ไรมา นางเองก็มีนิสัยชอบเอาชนะอยู่แล้ว หากนางอยากได้สิ่งใด หรือหมายตาสิ่งนั้นเอาไว้แล้ว นางย่อมจะต้องหาทางเอามาเป็นของตนให้ได้ อย่างเช่นยามนี้ที่นางอยากมีสามีแฝดอย่างไรเล่า!!!

หลายวันมานี้โจวอวี้หลันเริ่มปรับตัวให้เข้ากับจวนอ๋องได้บ้างแล้ว วันทั้งวันนอกจากกวาดใบไม้ที่พื้น และเข้าครัวบ้างเป็นบางครา นางก็ต้องหาเวลาว่างไปแอบดูหลัวเยี่ยนเจ๋อและหลัวเทียนเฉิงที่เรือนใหญ่ เพื่อเฝ้ามองความเป็นไปของเขาในทุก ๆ วัน

เหมือนอย่างเช่นเช้าวันหนึ่ง ในขณะที่นางกำลังจะเดินกลับโรงครัว เนื่องจากได้เก็บกวาดใบไม้ที่สวนด้านหลังจวนเสร็จเรียบร้อยแล้ว นางก็ได้พบกับเรื่องราวที่ทำให้ตื่นตะลึงเป็นอย่างยิ่ง 

หลัวเยี่ยนเจ๋อและหลัวเทียนเฉิง กำลังยืนอยู่ที่หน้าต่าง พลางใช้มือสาวชักลำแท่งเอ็นร้อนเข้าออกแข่งกันอย่างเมามัน เสียงครวญครางด้วยความสุขสมดังเป็นระยะ ๆ โจวอวี้หลันแอบหลบอยู่ที่หลังต้นไม้ใหญ่ พลางจ้องมองไปยังลำแท่งเอ็นร้อนของพวกเขาด้วยแววตาเป็นประกาย 

โอ๊ยย!!! ใหญ่ยาวกว่าหัวไชเท้าที่นางเก็บมาจากสวนท้ายจวนเสียอีก!!!

ยิ่งคิดนางก็ยิ่งเสียวท้องน้อยจนเกินจะทานทน ไม่นานนัก หลัวเยี่ยนเจ๋อและหลัวเทียนเฉิงก็เสร็จสมอารมณ์หมายและก็ปิดหน้าต่างห้องนอนทันที โจวอวี้หลันรู้สึกเสียดายไม่น้อย นางกำลังจะมองอย่างเพลิดเพลินแท้ ๆ จะชักต่ออีกสักรอบก็ไม่ได้ แล้งน้ำใจเป็นที่สุด!!!

เมื่อคิดได้เช่นนั้น โจวอวี้หลันจึงย้อนกลับไปที่โรงครัว เพื่อหาน้ำชาดื่มดับกระหาย แต่ก็ได้พบกับป้าหลิวที่ถือถาดสำรับเดินผ่านมาพอดี สีหน้าของป้าหลิวดูไม่สู้ดีเท่าใดนัก โจวอวี้หลันจึงรู้สึกเป็นห่วงนางไม่น้อย 

"ท่านป้าหลิว ไม่สบายหรือเจ้าคะ?"

ป้าหลิวที่ได้ยินเช่นนั้นจึงหยุดยืนและพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตอบโจวอวี้หลันด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้า 

"โรคคนแก่น่ะ เดินไปไหนมาไหนมิค่อยสะดวกเท่าใดนัก นี่ก็จะรีบนำสำรับยามเช้าไปให้ท่านอ๋องทั้งสองด้วย"

โจวอวี้หลันที่ได้ยินเช่นนั้น ก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้ นางจึงเอ่ยกับป้าหลิวทันที

"ท่านป้า ให้ข้าช่วยยกไปให้ดีหรือไม่เจ้าคะ ท่านป้าไปพักก่อนเถิด"

"เอ่อ...จะดีหรือ ได้ยินว่าท่านอ๋องทั้งสองพระองค์ มิทรงโปรดปรานเจ้า"

"ไม่เป็นอันใดเจ้าค่ะ ข้าเพียงยกสำรับไปให้ แล้วจะรีบออกมาทันทีเจ้าค่ะ"

ป้าหลิวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย และยื่นถาดสำรับส่งให้แก่โจวอวี้หลัน โจวอวี้หลันรับสำรับมาอย่างรู้งาน ก่อนจะมุ่งหน้าตรงไปที่เรือนใหญ่ทันที 

เมื่อมาถึงเรือนใหญ่แล้ว องครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูก็เข้าไปรายงานหลัวเยี่ยนเจ๋อและหลัวเทียนเฉิง ไม่นานนักก็เดินออกมา และบอกให้นางเข้าไปได้ 

วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อนของหลัวเยี่ยนเจ๋อและหลัวเทียนเฉิง เขาจึงไม่ได้ออกไปประชุมยามเช้าเหมือนเช่นทุกวัน 

หลัวเยี่ยนเจ๋อสวมชุดคลุมสีดำนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร พร้อมกับอาลู่ แมวอ้วนสีดำที่กำลังนอนขดกายอยู่บนท่อนขาของเขา ด้านหลัวเทียนเฉิงกำลังหยอกเย้าอาชิง เจ้าแมวอ้วนกลมตัวสีขาวของตนอย่างอารมณ์ดี 

"สำรับยามเช้ามาแล้วเพคะ"

โจวอวี้หลันเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่หวานหยาดเยิ้ม พลางวางถ้วยโจ๊กสองถ้วยลงบนโต๊ะ หลัวเยี่ยนเจ๋อที่เห็นว่าเป็นนาง แววตาเย็นชาก็จ้องมองโจวอวี้หลันอย่างไม่พอใจ แตกต่างกับหลัวเทียนเฉิงที่จ้องมองหน้าอกนางอย่างไม่ยอมลดละเหมือนเช่นคราก่อน 

"เหตุใดจึงเป็นเจ้า!!! ป้าหลิวอยู่ที่ใด!!!"

"ป้าหลิวไม่สบายเพคะ หม่อมฉันจึงอาสานำสำรับเช้ามาถวายให้ท่านอ๋องทั้งสอง"

ไม่พูดเปล่า โจวอวี้หลันยังส่งสายตาหวานเชื่อมให้เขาอย่างไม่ปิดบัง หลัวเยี่ยนเจ๋อที่เห็นเช่นนั้นก็ถลึงตามองนางคราหนึ่ง 

"อืม ข้าหิวแล้ว อาเยี่ยน รีบกินโจ๊กเร็วเข้า"

หลัวเทียนเฉิงวางอาชิงลงบนเตียง ก่อนจะเดินตรงมาทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ หลัวเยี่ยนเจ๋อปรายตามองโจวอวี้หลันคราหนึ่ง ก่อนจะตวาดนางเสียงดัง 

"ยืนบื้ออยู่ทำไม!!! มาปรนนิบัติพวกข้าสิ!!!"

"เจ้าจะแหกปากไปทำไมกัน?"

"ก็นางชักช้า เจ้าไม่แหกตาดูหรือ!!!"

"แล้วมาตะคอกใส่ข้าด้วยเหตุอันใดกันอาเยี่ยน!!!"

เมี้ยว!!!

เมื่อเห็นว่าเจ้านายเริ่มจะตีกันแล้ว อาลู่และอาชิง ก็ส่งสายตาพิฆาตให้แก่กันทันที พร้อมกางเล็บเตรียมตะปบอีกฝ่ายอย่างเกรี้ยวกราด

โจวอวี้หลันที่เห็นว่าเหตุการณ์เริ่มจะไปกันใหญ่แล้ว จึงรีบเอ่ยขึ้นมาทันที 

"เอ่อ  ท่านอ๋อง ลองเสวยเต้าหู้ทอดชิ้นนี้ดูเถิดเพคะ"

โจวอวี้หลันหยิบตะเกียบขึ้นมา ก่อนจะคีบเต้าหู้ชิ้นหนึ่งวางลงบนโจ๊กร้อน ๆ ในถ้วยของหลัวเยี่ยนเจ๋อ

หลัวเยี่ยนเจ๋อกำลังจะตะคอกนางว่าเขาไม่ชอบเต้าหู้ แต่เมื่อหันไปมอง กลับพบว่ายามนี้ หน้าอกอวบสวยของนาง อยู่ใกล้กับใบหน้าของเขายิ่งนัก 

หลัวเยี่ยนเจ๋อลอบกลืนน้ำลายลงคอ โจวอวี้หลันที่ได้เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก จึงขยับกายบดเบียดเนินอกอวบอิ่มเข้าไปใกล้เขามากกว่าเดิม 

หลัวเยี่ยนเจ๋อโมโหแล้ว!!! สตรีชั่วช้าผู้นี้ ทำให้ช่วงล่างของเขาแข็งชูชัน!!!

"ไสหัวไป อย่ามาใกล้ข้าเช่นนี้!"

เขาเอ่ยพลางยกมือขึ้นปัดตะเกียบในมือของนางทิ้ง จนทำให้ร่างบอบบางของโจวอวี้หลันเซถลาไปด้านหลัง หลัวเยี่ยนเจ๋อที่เห็นเช่นนั้น จึงรีบลุกขึ้นมาทันที ก่อนจะยื่นมือไปเกี่ยวรั้งเอวบางของนางเอาไว้ได้ทัน 

"โอ๊ะ!!!"

เขาประคองนางเอาไว้ในอ้อมกอด แต่ทว่ามือสวยของนางกลับจับหมับเข้าที่ลำท่อนเอ็นร้อนใต้ร่มผ้าของเขาทันที หลัวเยี่ยนเจ๋อถลึงตามองนางอย่างขุ่นเคือง ด้านหลัวเทียนเฉิงนั้น ก็รีบละสายตาจากถ้วยโจ๊กมองไปที่สองคนนั้นทันที 

"เอามือออกไปซะ!!! ก่อนที่ข้าจะตัดมือเจ้าทิ้งเสีย!!!"

"ท่านอ๋อง!!! หม่อมฉันป่วยเป็นโรคประหลาดที่รักษาไม่หายน่ะเพคะ หม่อมฉันเป็นโรคมือกระตุกเพคะ!!! หากได้จับของแข็งสักครู่หนึ่งอาการก็จะดีขึ้นเองเพคะ โอ๊ะ!!! กระตุกอีกแล้วเพคะ!!!"

"อวี้หลัน!!!"

โจวอวี้หลันใช้มือสวยบีบลำแท่งเอ็นร้อนของเขาให้แน่นขึ้นกว่าเดิม พลางดึงเล่นอย่างสนุกสนาน หลัวเทียนเฉิงที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยถามนางทันที 

"เจ้าเป็นโรคประหลาดจริงหรือ?"

"เพคะ!!!"

"เช่นนั้นมานี่!!!"

เขาดึงร่างบางของนางออกจากหลัวเยี่ยนเจ๋อ ก่อนจะโอบรั้งเอวบางของนางเอาไว้ แล้วดึงมือของนางไปจับหมับเข้าที่ลำแท่งแก่นกายของตนเองทันที เหมือนเช่นที่นางทำกับหลัวเยี่ยนเจ๋อเมื่อครู่นี้ 

"โอ้วว ดีขึ้นหรือไม่? มือเจ้าน่ะ "

"เพคะ โอ๊ะ!!! กระตุกอีกแล้วเพคะ"

"เช่นนั้นข้าคงต้องเพิ่มความแข็งอีกสักหน่อย!!!"

"หยุดทั้งคู่!!! ก่อนที่ข้าจะถีบพวกเจ้าออกไปด้านนอก!!!"

หลัวเยี่ยนเจ๋อเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราด พลางจ้องมองหลัวเทียนเฉิงเขม็ง 

แฝดน้องบัดซบนี่ก็ช่างหื่นกามไม่ยอมเลิกรา!!!

โจวอวี้หลันที่เห็นเช่นนั้นจึงดีดกายออกจากหลัวเทียนเฉิงทันทีด้วยความเสียดาย ขนาดพอดีมือนางเลยด้วยซ้ำ!!! แค่ใช้มือจับยังสนุกขนาดนี้ หากได้ใช้ปากอม จะเพลิดเพลินเพียงใดกันนะ!!!

"เป็นสตรี แต่กลับหน้าด้านไร้ยางอาย ไล่จับของสงวนของบุรุษเช่นนี้ หน้าด้านหน้าทนเกินไปแล้ว!!!"

หลัวเยี่ยนเจ๋อเอ่ยปากด่าทอโจวอวี้หลันอย่างไม่ไว้หน้า โจวอวี้หลันเองก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ตีหน้าเศร้ามองเขาอย่างออดอ้อน

"เฮ้อ!!! อาเยี่ยน เจ้าอย่าด่านางนักเลย" 

"ยังไม่ทันไรเจ้าก็เข้าข้างนางเสียแล้วหรือ เจ้าลืมแล้วหรืออย่างไร ว่านางมีสายเลือดกบฏ!!!"

"ไม่ลืม แต่เสด็จพี่มอบนางให้ข้ากับเจ้าแล้ว เจ้าจะตั้งแง่รังเกียจนางไปทำไมกัน"

"คนหื่นกามเช่นเจ้า ไม่มีวันเข้าใจ!!! ไสหัวไปเดี๋ยวนี้อวี้หลัน!!!"

โจวอวี้หลันที่ได้ยินเช่นนั้นก็รีบเดินออกมาจากเรือนใหญ่ทันที นางไม่รู้สึกโกรธเคืองพวกเขาเลยแม้แต่น้อย อย่างไรเสียวันนี้นางก็ได้จับมันแล้ว!!! 

เมื่อคิดได้เช่นนั้น โจวอวี้หลันจึงยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาสูดดมอย่างอารมณ์ดี 

อ๊าส์!!! หอมกลิ่นบุรุษยิ่งนัก 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เชลยรัก ท่านอ๋องแฝดนรก   ตอนพิเศษ

    รัชศกหลัวเฉวียนปีที่5ม้าเร็วจากไท่หยาง ส่งข่าวมาแจ้งหลัวเยี่ยนเจ๋อและหลัวเทียนเฉิงว่า ฮ่องเต้หลัวเฉวียน ทรงสิ้นพระชนม์แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา ด้วยเพราะพิษร้ายที่สะสมในร่างกายมันรุนแรงจนกัดกร่อนทุกส่วนในกายจนหมดสิ้น ยามนี้ราชวงศ์กำลังสั่นคลอน ฮองเฮามีเพียงพระธิดาที่มีอายุเพียงไม่กี่ชันษาเท่านั้นไร้พระโอรสสืบทอดราชบัลลังก์ ยามนี้ไท่หยางกำลังต้องการฮ่องเต้พระองค์ใหม่ หลัวเยี่ยนเจ๋อและหลัวเทียนเฉิงรีบเร่งกลับไท่หยางโดยเร็ว พร้อมกับพาโจวอวี้หลันและบุตรชายทั้งสองติดตามมาด้วย ยามนี้โจวอวี้หลันกำลังตั้งครรภ์ที่สอง พวกเขาใช้เวลาร่วมสองคืนสามวันจึงเดินทางถึงไท่หยาง พระศพของฮ่องเต้หลัวเฉวียนถูกนำไปฝังในสุสานของราชวงศ์ ส่วนเหมยฮองเฮาก็ออกจากวังหลวงพร้อมกับองค์หญิงหลัวอิงอิง ไปบำเพ็ญเพียรที่วัดบนหุบเขา รักษาศีลภาวนาให้จิตใจบริสุทธิ์และไม่คิดจะกลับเข้าวังหลวงอีกชั่วชีวิต ยามนี้ที่วัดบนหุบเขาแห่งนั้นมีไต้ซือและสามเณรที่น่านับถือพักอาศัยอยู่หลายร้อยองค์ อีกทั้งยังมีภิกษุณีอาศัยอยู่ในวัดแห่งนั้นอีกด้วย หลัวเฉวียนตอนที่ยังมีชีวิตเขาก็ได้ขยายพื้นที่ของวัดให้กว้างขวางมากขึ้น เหล่าผู้คนต่างพากันไปไหว้พร

  • เชลยรัก ท่านอ๋องแฝดนรก   บทที่ 51 ความสงบสุขมาเยือน

    รัชศกเฉวียนปีที่1 ฮ่องเต้นามว่า หลัวเฉวียน เสียงบรรเลงเพลงขับขานแซ่ซ้อง ฮ่องเต้หนุ่มในชุดพัสตราภรณ์มังกรสีทองกำลังนั่งเคียงคู่อยู่กับสตรีที่สวมชุดสีแดง ปักลวดลายหงส์งามนั่นก็คือฮองเฮาของเขา นามว่า เหมยลี่อิง บุตรสาวของท่านแม่ทัพตระกูลเหมยเหมยฮองเฮาทรงประสูติพระธิดาหนึ่งองค์ ด้วยเพราะร่างกายของหลัวเฉวียนไม่ดีเท่าใดนัก นางจึงมิอาจตั้งครรภ์ได้อีก หลัวเฉวียนยังจำได้ดี วันที่เขาเดินทางมาไท่หยางเพื่อสู้ศึก เหมยลี่อิงกำลังตั้งครรภ์ แต่ทว่านางกลับเข้มแข็งและไม่ยอมเป็นตัวถ่วงเขา นางบอกว่า ขอเพียงประชาชนไท่หยางอยู่อย่างร่มเย็นสงบสุข นางยินดีสละความสุขส่วนตนได้เสมอแผ่นดินไท่หยางกลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครา ฝนตกต้องตามฤดูกาล อีกทั้งสติปัญญาที่เก่งกาจของหลัวเฉวียนทำให้แผ่นดินไท่หยางอุดมสมบูรณ์ เหล่าราษฎรอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ขุนนางในราชสำนักก็ไม่คิดต่อต้านราชวงศ์อีกหลัวเฉวียนสั่งให้คนขุดดินเพื่อสร้างเป็นทางน้ำขนาดใหญ่ ให้แม่น้ำจากนอกเมืองหลวงไท่หยางไหลเข้ามาในพื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้านได้ รวมถึงสร้างพื้นที่กักเก็บน้ำไว้ใช้ยามเกิดภัยแล้งอีกด้วย และยังลดค่าภาษีต่าง ๆ ลงเป็นจำนวนมาก ผู้คนอยู่ดีกิ

  • เชลยรัก ท่านอ๋องแฝดนรก   บทที่ 50 เดินทางกลับไท่หยาง

    เสียงฟ้าร้องพร้อมกับฝนห่าใหญ่ ทำให้โจวอวี้หลันรู้สึกหนาวเย็นยิ่งนัก ฝนตกในครั้งนี้ ไม่ได้สร้างความหวาดกลัวให้นางเหมือนในครั้งก่อน ๆ อีก ยามนี้นางกำลังยื่นมือไปลูบหัวของอาลู่และอาชิงเจ้าแมวอ้วนสองตัวด้วยความรักใคร่ฉาฮวาละสายตาจากสายฝนด้านนอก ก่อนจะทิ้งกายลงนั่งข้างกายโจวอวี้หลัน แล้วจึงเอ่ยขึ้นมา "ฝ่าบาทสิ้นพระชนม์แล้วเพคะ ดวงดาวของฮ่องเต้ดับสูญแล้ว" โจวอวี้หลันที่ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง "ฉาฮวา หรือจะเกี่ยวกับพิธีบูชายัญเหล่านั้น""เพียงแค่ส่วนเดียวเพคะพระชายา การบูชาเทพและปีศาจ เป็นเพียงสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจเพียงเท่านั้น ฝ่าบาททรงถูกอำนาจและความทะเยอทะยานครอบงำจิตใจจนเกินจะแก้ไข ทำให้ขาดสติไตร่ตรองดีชั่ว หลงเชื่อคนผิด คิดกระทำการขัดต่อดวงชะตา ผลจึงออกมาเป็นเช่นนี้เพคะ""แล้วที่ได้ยินมาว่าดวงชะตาของฝ่าบาทคือดวงชะตาที่วิบัติ มันจริงหรือ?""จริงเพคะ ดวงวิบัติไม่ได้หมายถึงแผ่นดินจะวิบัติเพียงอย่างเดียว แต่คนรอบข้างที่รายล้อมฝ่าบาท หากไม่ตายด้วยน้ำมือของเขา ก็จะสิ้นชีพลงเพราะดวงชะตาของเขากดข่มเอาไว้ แต่ถ้าหากฝ่าบาททรงใช้สติปัญญาไตร่ตรองให้ดีและมองดูตนเองอย่างถ่อง

  • เชลยรัก ท่านอ๋องแฝดนรก   บทที่ 49 การบูชายัญครั้งสุดท้าย

    กว่าจะสะสางเรื่องราวตรงหน้าได้จนแล้วเสร็จหลัวเยี่ยนเจ๋อก็เหนื่อยไม่น้อยแล้ว หลัวเฉวียนสั่งให้เหล่าทหารนำซากศพของเหล่ากบฏต้าไห่ไปทิ้งในป่านอกเมืองเสีย ไม่ต้องกลบฝัง ปล่อยให้ฝูงกาทึ้งกินตามยถากรรม ส่วนหัวของโจวอวิ๋น ให้นำไปเสียบประจานที่หน้าประตูเมือง เพื่อมิให้แคว้นอื่นคิดทำเป็นเยี่ยงอย่าง ด้านหลัวเทียนเฉิงในยามนี้เขาบาดเจ็บหนักจากการต่อสู้ หมอหลวงจึงให้เขาพักฟื้นห้ามขยับกายทำสิ่งใดเป็นอันขาด หลัวเยี่ยนเจ๋อเองก็ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น "ขอบพระทัยเสด็จพี่รองยิ่งนัก""ข้าเต็มใจ อย่างไรเสีย ข้าคงต้องรีบกลับแคว้นเย่ว์ก่อนแล้ว ป่านนี้พระชายาคงจะร้อนใจยิ่งแล้ว เรื่องต่าง ๆ ที่ไท่หยางมีพวกเจ้าทั้งสองคอยจัดการ ข้าก็วางใจ""พี่รอง""หืม?""เรื่องราชโองการของเสด็จพ่อ...""ช่างเถิด หลัวม่อเยียนยังไม่ได้สิ้นพระชนม์ หากเขาคิดได้แล้ว ข้าก็ไม่อยากแย่งชิงบัลลังก์กับพี่น้อง"หลัวเฉวียนยิ้มให้หลัวเยี่ยนเจ๋ออย่างอ่อนโยน แต่ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะได้เดินทางกลับแคว้นเย่ว์ ก็ได้ยินเสียงตะโกนก้องของราชเลขาดังขึ้นมาเสียก่อน "เย่ว์อ๋อง!!! ชินอ๋องแย่แล้วพ่ะย่ะค่ะ!!!"หลัวเฉวียนและหลัวเยี่ยนเจ๋อรีบหัน

  • เชลยรัก ท่านอ๋องแฝดนรก   บทที่ 48 นักพรตชราสิ้นชีพ

    ทหารไท่หยางตกตายไปกว่าครึ่ง หลัวเยี่ยนเจ๋อเห็นว่าปล่อยเอาไว้เช่นนี้คงไม่ดีแน่แล้ว จึงสั่งให้พ่อบ้านเฉียวรีบพาหลัวเทียนเฉิงที่บาดเจ็บสาหัสเข้าไปในเรือนเสียก่อน ส่วนเขาและหลัวเฉวียนจะต้านทัพของต้าไห่เอาไว้อย่างสุดกำลัง "ถึงเวลาตายของพวกเจ้าแล้ว!!! ฆ่าคนไท่หยางให้หมด!!!"โจวอวิ๋นส่งเสียงตะโกนก้องฟ้าสะเทือนปฐพี เหล่าทหารต้าไห่ที่ได้ยินเช่นนั้นต่างส่งเสียงโห่ร้องกึกก้อง พร้อมกับพุ่งเข้าเข่นฆ่าราษฎรของไท่หยางอย่างอำมหิตหลัวม่อเยียนในยามนี้จิตใต้สำนึกของเขามีแต่ความว่างเปล่า ความรู้สึกที่อยากได้ตัวฉาฮวาและโจวอวี้หลันไม่มีอีกแล้ว มีเพียงความรู้สึกที่ยากจะอธิบายในยามนี้ "ย้าาาาา!!!"ในความคิดของหลัวม่อเยียนมีเพียงคำว่า ฆ่า ฆ่าให้หมดเพียงเท่านั้น!!!หลัวเฉวียนไม่มีเวลาสนใจสิ่งใดแล้ว เขาร่วมรบเพื่อปกป้องไท่หยางอย่างสุดกำลังเช่นกัน นักพรตชราที่เขาอยากเห็นหน้ายามนี้คงไม่จำเป็นเสียแล้ว เพราะเขาได้ยินกับหูของตนเองแล้ว ว่ามันคือกบฏที่เข้ามาสร้างความปั่นป่วนให้แก่ไท่หยางดาบในมือของหลัวเฉวียนยังคงสังหารคนไม่หยุด แม้มีบางคราที่พิษจะกำเริบขึ้นมา แต่เขาเองก็ไม่ยอมหยุด ดาบในมือกวัดแกว่งอย่างรวดเร็วและว

  • เชลยรัก ท่านอ๋องแฝดนรก   บทที่ 47 หลงกลกบฏ

    เสียงกรีดร้องโหยหวนของราษฎรไท่หยางดังลอยมาเป็นระยะ อีกทั้งยังเกิดเพลิงไหม้เป็นวงกว้างทั่วทั้งเมืองหลวงไท่หยาง เหล่าทหารของต้าไห่ต่างควบม้าพุ่งทะยานเข้ามาในไท่หยางหลายแสนนาย หลัวเฉวียนและหลัวเยี่ยนเจ๋อที่ได้เห็นเช่นนั้นก็มองหน้ากันอย่างตื่นตระหนก จางไห่ถือโอกาสที่ทุกคนไม่ทันระวังตัว เงื้อดาบขึ้นสูงเตรียมจะจ้วงแทงมันลงไปที่หัวใจของหลัวม่อเยียน หลัวเยี่ยนเจ๋อที่ได้เห็นเช่นนั้นก็รีบเขวี้ยงมีดสั้นสกัดดาบของจางไห่ได้ทันเวลา ร่างสูงใหญ่พุ่งทะยานฟาดฝ่ามือเข้าที่กลางอกของจางไห่อย่างเต็มแรง จนฝ่ายตรงข้ามกระอักเลือดอีกครา ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด หลัวม่อเยียนหยัดกายลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะจ้องมองจางไห่ด้วยแววตาที่เย็นชา "จางไห่!!! เจ้า เหตุใดเจ้าจึงคิดสังหารข้า!!!"จางไห่ไม่ตอบ เขากระอักเลือดออกมาอีกคราอย่างทรมาน "เป็นเจ้าที่เปิดประตูเมืองหลวงให้เหล่ากบฏเช่นนั้นหรือ!!!"หลัวม่อเยียนหันไปเอ่ยถามจางไห่ด้วยน้ำเสียงที่คาดคั้น จางไห่ยังคงไม่ตอบ แต่ทว่ากลับหยัดกายลุกขึ้นยืน และเดินไปหาบุรุษวัยกลางคน ที่กำลังควบอาชามุ่งหน้าเข้ามายังทิศทางที่พวกเขาทั้งสี่คนอยู่ "โอ้ววว ได้มาดูพี่น้องเข่นฆ่ากันเช่นน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status