@คอนโด
วาโยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโพสต์ไอจี ถ่ายรูปครึ่งตัวลงแคปชั่นว่า 'พริกที่ว่าเผ็ดยังไม่เด็ดเท่าคนโพสต์' ตามด้วยสติกเกอร์แก้วไวน์สีแดง ไม่นานเสียงแชตก็ดังขึ้น ติ๊ง~ คุณได้รับข้อความจาก 'ภามเพื่อนชั่ว' "จะไปไหน?" ภามเห็นวาโยไม่ตอบเลยทักเข้าไปในกลุ่มที่มีกันอยู่สามคน แชตกลุ่ม เพื่อน (ไม่) สนิท (3) [ภาม : มาดูเพื่อนมึงดิ @JJ] ส่งข้อความพร้อมแคปหลักฐานที่วาโยโพสต์เข้าไปในกลุ่มด้วย [เจเจ : อะไร! แท็กกูทำห่าอะไรล่ะ กูกำลังทำกิจกรรมอยู่] [วาโย : กิจกรรมอะไร?] เห็นข้อความอยู่ด้านบนเลยตอบแชตกลุ่มก่อน แต่ไม่ได้เมินเฉยกับแชตส่วนตัวที่ภามส่งมา เพราะเธอส่งสติกเกอร์ยิ้มตอบกลับไปแล้ว [เจเจ : กิจกรรมเข้าจังหวะกับน้องจอย เดี๋ยวมาๆ อีกยี่สิดนาทะยัะรยบ่ยซบบย] [วาโย : ทุเรศที่สุดเลยไอ้เจ!] ตอบกลับไปพร้อมส่งสติ๊กเกอร์อ้วก พิมพ์กลับมาแบบนี้รู้ได้ทันทีเลยว่าไอ้เจทับโทรศัพท์ชัวร์ วาโยเลยย้ายมาคุยในแชตส่วนตัวแทน 'ภามเพื่อนชั่ว' "เหลือแกคนเดียวแล้วนะภามเพื่อนรัก~" "จะไปไหน ถามก็ไม่ตอบ" "มีคลับเปิดใหม่ตรงข้ามร้านฟรีสไตล์..." "แล้ว?" "เราไปกันไหม~" ส่งสติกเกอร์หมาอ้อน "ไม่ไป...ขี้เกียจ! ว่าจะกลับไปนอนแล้ว" "ฉันเป็นผู้หญิงน่ารัก ตัวเล็ก แถมสวยอีกต่างหาก จะปล่อยให้ไปคนเดียวได้ยังไง หรือถ้าให้ฉันรอไอ้เจ มีหวังคลับปิดก่อนพอดี ไปส่งฉันหน่อยน้า~ ภามเพื่อนรักของวาโย" ส่งสติกเกอร์พนมมือ ฉันพิมพ์ดักไว้ทุกช่องทางจะได้ไม่กล้าปฏิเสธ "ข้อแลกเปลี่ยนคืออะไร?" ว่าล่ะมันต้องมาคำนี้ "เดี๋ยวฉันทำความสะอาดห้องคนเดียวหนึ่งอาทิตย์เลย" "ซักผ้าให้กูด้วย" "มากไป!" ส่งสติกเกอร์หมีท้าวเอวโมโหหน้าแดง "แล้วแต่นะ" "เออๆ ตกลง เดี๋ยวฉันจะทำความสะอาดห้องแล้วก็ซักผ้าให้แกด้วย!" "งั้นดีล! อีกสิบนาทีถึง อาบน้ำแต่งตัวรอเลย" "แต่งเรียบร้อยแล้วค่า" ลืมบอกไป ว่าฉันกับไอ้ภามเราสองคนเป็นรูมเมทกัน อยู่คอนโดเดียวกันแต่นอนคนละห้อง แชร์กันแค่ห้องนั่งเล่นเท่านั้น แกร๊ก~ สิบนาทีประตูก็ถูกเปิดเข้ามา เรื่องตรงเวลาขอให้บอกเถอะ "กลับมาแล้วหรอ" วาโยวิ่งออกมารับคนที่เปิดประตูเข้ามาใหม่ด้วยความตื่นเต้น แต่เขากลับหยุดยืนมองเธออย่างพิจารณา "จะใส่ชุดนี้ไปจริงๆ?" "ใช่ สวยป่ะ^^ ชุดนี้เพิ่งCFมาใหม่เลยนะ" วาโยหมุนตัวไปมาให้ภามได้ดูชุดเต็มๆตา "เอาอะไรมาสวย ใส่อย่างงี้แก้ผ้าไปเถอะ นมจะทะลักออกมาหมดเต้าอยู่แล้ว แล้วตรงเอวนี่คืออะไร? แหว่งเหมือนโดนหนูแทะ กระโปรงก็สั้น!" "หือ! นั่นปากหรอที่พูดอ่ะ" "ไปหาเสื้อมาคลุมสักตัวไป อายเค้า ไม่มีอะไรน่ามองเลย ผอมแห้งอย่างกับไม้เสียบผี" "ไอ้ภาม! เดี๋ยวแม่ตบคว่ำ" วาโยง้างมือเตรียมตบป้องหู คำพูดย้อนแย้งนะ เมื่อกี้บอกนมจะทะลัก พอตอนนี้มาบอกไม่มีอะไรน่ามอง "อย่านะ" ภามชี้นิ้วไปที่มือวาโย ก่อนจะพูดต่อ "ถ้าตบกู กูไม่พาไปนะ" "เออๆ" วาโยลดมือลง แล้วหันไปหยิบกระเป๋า "เอ้า! ถอยไปดิ มายืนขวางทางทำไม" "เดี๋ยว! ถ้ามึงไม่เปลี่ยนหรือไม่หาเสื้อมาคลุมก็ไม่ต้องไป" ภามยกแขนกั้นประตูไม่ให้ออก "เป็นห่วงฉันหรอ? กลัวคนอื่นมองอ่ะดิ" "กูห่วงคนอื่น มองมึงแล้วเสียลูกตา!" วาโยหมุนตัวหันหลังเดินกระฟัดกระเฟียดกลับเข้าไปในห้องนอน เพื่อหยิบเสื้อแขนยาวมาสวมทับไว้ "พอใจรึยัง?" "เออ ดีขึ้นมาหน่อย" ภามเอามือที่กั้นประตูลงแล้วยกยิ้มอย่างผู้ชนะ "หึ๊ย!" วาโยพ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด อุตส่าห์เลือกชุดตั้งนาน ยืนหมุนหน้ากระจกเป็นสิบๆรอบ แต่กลับไม่ได้ใส่ออกไปโชว์เนี่ยนะ "บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเดินกระทืบเท้า เดี๋ยวส้นหัก" "ยุ่ง!" วาโยรีบสับเท้าเดินแบบไม่รอภาม จนเดินมาถึงหน้าลิฟท์ "ถ้ารองเท้าคู่นี้ส้นหักอีก อย่ามาขอร้องอ้อนวอนให้กูพาไปซื้อนะ" "เออ! ฉันไม่ง้อแกหรอก" วาโยกอดอกพร้อมสะบัดหน้าหนี แฟนยังไม่จุ้นจ้านขนาดนี่เลย มีแต่ไอ้บ้านี้แหละวุ่นวายไม่เลิกหลายปีต่อมา... ตอนนี้ลูกสาวตัวน้อยอดนมแม่อย่างเป็นทางการแล้ว ก็เหลือแต่ตัวพ่อเนี่ยแหละที่ร้องขอกินนมก่อนนอนเกือบทุกคืน ไหนใครบอกว่าแต่งงานอยู่ด้วยกันนานๆแล้วผัวจะเบื่อ แต่นี่ไม่เลย... รู้สึกว่าภามรักและหลงเธอมากกว่าเดิมเสียอีก ถึงบางวันทั้งคู่จะไม่ได้ทำรัก เขาก็ขอแค่ได้กอดได้หอมเมียให้ชื่นใจก่อนไปทำงานแค่นี้เขาก็มีความสุขมากแล้ววันนี้เป็นวันที่หมอนัดสาวน้อยอย่างวรินทร์มารับวัคซีนครบสี่ขวบที่โรงพยาบาล แล้วก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่วาโยเจอรุ่นพี่อย่างแทนที่เคยเรียนร่วมคณะเดียวกันสมัยมหาลัย"น้องวาโยนี่เองพี่ก็คิดว่าใคร^_^" "พี่แทน มาหาหมอหรอคะ""ครับ พี่พา เอ่อ... พาน้องสาวมาฝากครรภ์ ว่าแต่เรามาทำอะไรที่แผนกเด็กเล็กหรอครับ?""โยพาลูกสาวมาฉีดวัคซีนค่ะ""อ้าว นี่เรามีลูกแล้วหรอ แล้วไหนล่ะสามี? ทำไมถึงไม่มาด้วย ปล่อยให้ผู้หญิงตัวเล็กๆมากับลูกสาวตามลำพังแบบนี้ได้ยังไงกัน ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย" "เขามาด้วยนะคะพี่แทน..." แทนแกล้งชะเง้อคอมองข้ามผ่านคนตัวเล็กไปทางด้านหลังก็ไม่เจอใคร วาโยเลยหันมองข้างๆที่มีภามยืนอยู่ แล้วทำหน้างงๆว่าพี่แทนไม่เห็นภามจริงๆหรอ หรือเขาแค่แกล้งเล่น? วรินทร
@หนึ่งปีต่อมา...ตอนนี้วาโยคลอดลูกสาวได้สี่เดือนแล้ว และเดือนนี้ก็เป็นเดือนสุดท้ายในการสอบปลายภาคสำหรับนักศึกษาปีสี่ ทั้งภามและวาโยเลยต้องเรียนหนักเป็นพิเศษ แต่หน้าที่เลี้ยงลูกส่วนใหญ่จะเป็นคุณพ่อลูกอ่อนอย่างภาม เขาอยากให้วาโยโฟกัสกับเรื่องเรียนให้เต็มที่ ไม่ต้องห่วงวรินทร์เดี๋ยวเขาจะดูแลให้เองอย่างเช่นวันนี้คนที่เลี้ยงลูกอยู่ในห้องก็เป็นภาม ส่วนวาโยเธอออกมานั่งเรียนอยู่โซนด้านนอกกับอาจารย์ที่แม่สามีจ้างมาสอนพิเศษให้ถึงเพนท์เฮาส์ แต่ทว่า! นั่งเรียนยังไม่ถึงชั่วโมงภามก็เดินออกมาตามด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ เพราะเขาเห็นอาจารย์ที่มาสอนวาโยวันนี้ไม่ใช่คนเดิม"โย ลูกร้องหิวนม เข้าไปดูลูกในห้องหน่อย" "ตอนนี้เลยหรอ แต่ฉันยังเรียนไม่จบครอสเลยนะ" ปกติภามไม่เคยปล่อยให้ลูกร้องนี่นา นมก็ปั๊มไว้ให้ตั้งเยอะมาบอกว่าลูกร้องหิวนมได้ยังไง ไม่ใช่ว่าวาโยไม่เป็นห่วงลูกนะ แต่ปัญหาแค่นี้เธอเชื่อว่าภามจัดการได้สบายอยู่แล้ว"นมที่ปั๊มแช่ไว้ในตู้เย็นละลายไม่ทัน""อ๋อ โอเค..." ที่แท้ก็นมละลายไม่ทันนี่เอง วาโยเลยละสายตาจากภามหันกลับมามองอาจารย์ก่อนจะพูดต่อ "งั้นเดี๋ยวโยขอเข้าไป
หลังจากที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันเรื่องสินสอดเรียบร้อยแล้วก็พากันกลับบ้านไปดูฤกษ์ วาโยเลยขอกลับมาอยู่คอนโดก่อน รอจนกว่าจะแต่งงานแล้วค่อยย้ายไปอยู่เพนท์เฮาส์ที่ภามซื้อให้ และเธอมองว่ามันไม่ใช่ของเธอแต่เพียงผู้เดียว แต่เป็นเรือนหอของเราสองคนต่างหาก'โยจำคำแม่ไว้นะลูก... ผู้ชายร้อยทั้งร้อยแพ้ผู้หญิงขี้อ้อน หมั่นเอาใจลูกเขยแม่ให้มากๆ อย่าปล่อยให้ผู้ชายดีๆแบบภามหลุดมือไปเด็ดขาด'วาโยหวนนึกถึงคำพูดของแม่แล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ฮึบ!เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน อ้อนแฟนตัวเองไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสักหน่อย พอคิดได้ดังนั้นวาโยก็เดินมาหาภามที่นั่งอยู่บนโซฟา ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งบนตักของแฟนหนุ่มจนเขาต้องวางไอแพดในมือลงข้างตัวแล้วยกมือมาโอบเอวเธอไว้แทน"แกดูอะไรอยู่หรอ" "ดูแพ็คเกจคลอดลูก กินข้าวอิ่มแล้วหรือไง" ความจริงทั้งคู่กินข้าวด้วยกันไปแล้วรอบนึง แต่ผ่านมายังไม่ถึงชั่วโมงวาโยก็ร้องหิวอีก ภามเลยทำให้กินอีกรอบ ส่วนตัวเขาก็มานั่งดูโปรแกรมคลอดลูกรอเธอไปพลางๆ"อิ่มแล้ว..." "แล้วทำไมยังไม่ไปอาบน้ำอีก""รอแฟนไปอาบให้""ฮึ?""ก็ช่วงนี้ฉันหน้ามืดบ่อยๆ กลัวตัวเองจะเป็นลมในห้องน้ำ แกอาบให้ฉันหน่อ
"อย่าเพิ่งเป็นลม เพราะยังไม่หมดแค่นั้น""ยังมีอีกหรอ!?" แค่นี้เธอก็จะเป็นลมอยู่แล้ว ถ้ามีอะไรที่เซอร์ไพรส์มากกว่านี้อีกมีหวังได้วูบไปจริงๆแน่"...." ภามที่ยืนช้อนหลังวาโยอยู่ในตอนนี้สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีออกมาใช้ ก่อนจะสอดมือล้วงกระเป๋าหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงขึ้นมายื่นไปด้านหน้าของวาโยแล้วเปิดกล่องดังป๊อก! โชว์แหวนเพชรน้ำดีด้านในให้คนตัวเล็กที่ตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ได้เห็น"อะ อะไรของแกเนี่ยO_O" "แต่งงานกันนะโย..." วาโยมองแหวนเพชรเม็ดโตในกล่องที่มีความเปล่งประกายวิบวับสวยงามเล่นกับแสงไฟภายในห้องอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ถึงจะแอบหวังให้เขาขอแต่งงานแต่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆทำให้เธอตั้งตัวรับไม่ทัน เธอมองแหวนในกล่องอีกครั้งก่อนที่ภาพจะตัดไปราวกับมีคนมาสับสวิตซ์ พรึ่บ! "เห้ย! โย ทุกคน! เมียผมเป็นลม" ภามรีบย่อตัวลงอุ้มคนตัวเล็กที่หมดสติขึ้นทันที แล้วภาพก็ตัดมาทางฝั่งของอาโป... "จะปล่อยฉันไปได้รึยัง" นี่เป็นคำถามที่ร้อยของวันนี้ที่นิเนยเอ่ยถามอาโป เขาเล่นขังเธอไว้ในห้องกับเขาตั้งแต่จับตัวเธอมาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ยอมปล่อยตัวเธอไป"จะให้ผมปล่อยป
อึก! อ้วก~"โย!" ภามลืมตาตื่นจากฝันดียังไม่ทันถึงเสี้ยววิ ก็รีบดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงวิ่งตรงไปหาเสียงโอ้กอ้ากในห้องน้ำทันที พอเข้ามาถึงเขาก็เร่งฝีเท้าเดินเข้าไปช่วยลูบหลังให้วาโยที่นั่งกอดโถส้วมอ้วกอยู่อย่างหมดสภาพด้วยความเป็นห่วง "ไหวมั้ย""ฉันไหว อ้วก~" วาโยชูนิ้วโอเคตอบกลับมาทั้งที่ยังก้มหน้าอ้วกไม่หยุด"ตัวแสบทำไมแกล้งแม่แต่เช้าเลย ถ้าคลอดออกมาเมื่อไหร่พ่อจะตีให้" มาโหมดดุลูกซะแล้วเมื่อเห็นเมียอ้วกจนเหนื่อย"ดุแค่ฉันก็พอ เว้นลูกไว้คนนึง" วาโยอ้วกเสร็จก็หันมายิ้มหวานให้ภาม เชิงบอกเป็นนัยๆว่าแค่นี้เองสบายมาก "หึ ลูกคงดื้อเหมือนแม่สินะ" พูดจบภามก็ช้อนตัวอุ้มวาโยมานั่งที่ขอบอ่างอาบน้ำ เปิดน้ำจากฝักบัวใส่มือแล้วเอามาลูบหน้าให้วาโย แต่ทว่า! สายตาเขาดันเกเรไม่ได้มองแค่หน้าสวยๆของเธอ แต่ดันมองต่ำลงไปกว่านั้นอีก...เนินหน้าอกขาวๆที่ล้นออกมาจากชุดนอนสุดวาบหวิวที่เธอแอบลุกขึ้นไปใส่มาเมื่อคืน มันชวนมองซะจนภามลอบกลืนน้ำลายลงคอดัง อึก!ยิ่งเปียกน้ำยิ่งเห็นไปถึงไหนต่อไหน... "จะมองอีกนานไหม" เสียงหวานเอ่ยขึ้นทำให้ภามเลื่อนสายตากลับมามองหน้าเธอก่อนจะเอื้อมมือไปปิดน้ำแล้วเก็บฝักบัวเข้าที่ "
พอมาถึงโรงพยาบาลภามก็ขอรถเข็นมาให้ฉันนั่งแล้วเข็นฉันเข้าห้องตรวจ แต่พอเจอหมอผู้ชายก็บอกว่าไม่สะดวกใจเลยต้องเปลี่ยนมาเป็นหมอผู้หญิงแทน และคิดว่าเรื่องจะจบ แต่ไม่เลย ภามไม่ยอมให้อัลตร้าซาวด์ผ่านช่องคลอดบอกว่ากลัวโดนหัวลูก ให้ตายเถอะ! หมอเลยต้องอธิบายหลักการทั้งหมดที่มีให้คุณพ่อมือใหม่ได้ฟังกว่าจะยอมได้หมอถึงกับยกมือกุมขมับ... ผลตรวจเลือดออกมาว่าฉันท้องจริงๆ และอัลตร้าซาวด์เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ลูกในท้องยังเล็กมากขนาดเท่ากับเมล็ดถั่ว อายุครรภ์แค่ 6 สัปดาห์ถือว่าโตตามเกณฑ์ พอหมอบอกว่าแข็งแรงทั้งแม่และลูก เท่านั้นแหละ! ผู้เป็นพ่อก็ยิ้มออกมาไม่หุบ ดีใจยิ่งกว่าฉันที่เป็นแม่เสียอีกหาหมอเสร็จภามก็พาฉันไปช็อปปิ้งต่อ ขนาดท้องฉันแบนราบจนแทบจะมองไม่ออกด้วยซ้ำแต่เขาก็ยังซื้อชุดคลุมท้องให้ บอกว่าในอนาคตก็ต้องใช้ ตอนแรกจะซื้อของลูกมาด้วยนะ ฉันเลยห้ามไว้ก่อนบอกเขาว่ารอรู้เพศก่อนค่อยซื้อก็ได้ พอกลับมาถึงคอนโดก็ยังไม่วายนั่งดูรูปอัลตร้าซาวด์แล้วยิ้มอยู่คนเดียวไม่ค่อยจะเห่อเท่าไหร่เลย...อ๋อ! ยังมีอีกเรื่องที่หมอย้ำ คือช่วงนี้ให้งดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนจนกว่าอายุครรภ์จะครบ 3 เดือนขึ