สังคมลงทัณฑ์เธอด้วยการประณามในความผิดที่เกิด เยาวชนผู้ที่ทุกคนลงความเห็นว่าไร้ซึ่งวุฒิภาวะไม่มีสิทธิ์อ้าปากโต้แย้งหรืออธิบายว่าเหตุการณ์ที่เกิดไม่ใช่ความผิดของตนแต่เพียงผู้เดียว แม้เธอจะยืนยันว่านั่นคืออุบัติเหตุก็ตาม ทว่าเสียงเล็ก ๆ ของเธอก็ไม่สามารถขจัดความเป็นเดือดเป็นแค้นแทนคู่กรณีที่เสียชีวิตของคนในสังคมไปได้ เธอจึงได้แต่ก้มหน้ายอมรับคำพิพากษาของสังคมอย่างกล้ำกลืน...
ไม่มีใครเชื่อว่ามันคืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากความประมาทร่วมระหว่างเธอซึ่งเป็นจำเลยและคู่กรณีเมื่อคนตายไม่สามารถลุกขึ้นมาโต้แย้งหรือให้ปากคำใด ๆ ได้ ความยุติธรรมถูกทวงถามให้กับหนึ่งชีวิตที่สูญเสียด้วยการมอบความผิดให้กับอีกหนึ่งชีวิตที่ยังมีลมหายใจโดยไม่มีใครใส่ใจเลยว่าคนที่ยังมีลมหายใจอย่างเธอทรมานและเจ็บปวดเสียยิ่งกว่าต้องไร้ซึ่งลมหายใจมากสักเพียงใด
สาวน้อยค่อย ๆ รวบรวมสติที่กระเจิดกระเจิงไปเพราะความฝันแสนร้ายกาจจากจิตใต้สำนึกซึ่งเน้นย้ำให้เธอซาบซึ้งความหมายของคำว่า “นรกในใจ” ได้อย่างลึกซึ้ง บาปที่เธอไม่ได้ตั้งใจก่อส่งผลกระทบต่ออีกหลายชีวิตที่เกี่ยวข้องกับผู้ตายซึ่งล้วนแล้วแต่รักและผูกพันกับผู้หญิงคนนั้น เธอฆ่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ซ้ำยังทำร้ายจิตใจญาติพี่น้องตลอดจนครอบครัวของหล่อนชนิดไม่น่าให้อภัย
ความรู้สึกที่เจ็บปวดถูกฝังลึกไว้ตรงก้นบึ้งแห่งความทรงจำนานถึงเจ็ดปีจนเธอน่าจะลบลืมมันไปจากใจนานแล้ว หากไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นกับเธอตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาจะสะกิดเตือนให้เธอหวนจำภาพเหตุการณ์ในวันวานขึ้นอีกครั้ง
“ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะผลกรรมที่ฉันทำไว้กับคุณกำลังตามสนองฉันแล้วใช่ไหมคะ คุณแพรไหม” สาวน้อยคร่ำครวญเสียงรันทดท้อเพียงลำพังกับความมืดกับจิตสำนึกของตน
แพรไหมคือหญิงสาวรูปร่างหน้าตาสวยผุดผาดที่ต้องจบชีวิตก่อนถึงวัยอันควรเพราะความประมาทของเด็กสาววัยสิบเจ็ดเช่นเธอ อุบัติเหตุในครั้งนั้นพรากชีวิตบุตรสาวคนโตของบ้านไชยวิกรมไปด้วยวัยเพียงยี่สิบเอ็ดปี เกวลียังจำเสียงร่ำไห้ปริ่มจะขาดใจตามบุตรของบุพการีทั้งสองได้อย่างไม่รู้ลืม จนบางครั้งเธอยังอดคิดไม่ได้ว่าความทุกข์ใจที่เธอได้รับยังไม่สาสมกับความทุกข์ของผู้สูงวัยทั้งสอง หากแลกชีวิตกับแพรไหมได้ เธอไม่ลังเลใจเลยที่จะทำในทันที
ทว่าอดีตไม่สามารถหวนกลับไปแก้ไขได้ ชีวิตของเธอยังคงต้องดำเนินต่อไปแม้คดีจะถูกสรุปและเธอพ้นผิด วันคืนช่วยเยียวยาหัวใจญาติผู้สูญเสีย เด็กสาวเริ่มเติบโตขึ้นท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ฐานะจำเลยสังคมไม่เคยถูกลบลืมเมื่อเธอก้าวเข้าสู่ถนนสายดนตรีโดยได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวทำให้เกวลีกลายเป็นหนึ่งในศิลปินกลุ่มดาวรุ่งของวงการ
ใคร ๆ ต่างรู้จักเธอในชื่อ กรีน เกวลีหนึ่งในสมาชิกวงชูการ์บีท เกลิร์กรุ๊ปขวัญใจวัยรุ่นกลุ่มใหม่ด้วยวัยเพียง 19 ปี
ก้าวแรกบนเส้นทางสายดนตรีที่พาให้เธอได้มาพบกับเพื่อนใหม่วัยเดียวกันถึงสามสาว นริศรา หรือ หนูนิ่มของอาณกุลเจ้าของค่ายเพลงดังเป็นเพื่อนร่วมวงคนแรกที่เธอได้รู้จัก เด็กสาววัย 18 กับบุคลิกเรียบร้อยน่ารักแตกต่างจากเธอราวนางฟ้ากับมัจจุรี ยิ่งนริศราทำท่าทางไร้เดียงสาแสดงกิริยาออดอ้อนอาณกุลมากแค่ไหนเธอก็ยิ่งรู้สึกหมั่นไส้ทุกครั้งที่ได้เห็น ความรู้สึกติดลบเป็นสาเหตุให้เธอสร้างกำแพงความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับนริศราไว้แค่เพียงฐานะเพื่อนร่วมงานไม่เปิดใจต้อนรับแม่ตัวนิ่มมากไปกว่าที่เป็นอยู่
กีย่าเด็กสาวชาวสุพรรณที่เข้ามาร่วมวงพร้อมกับสำเนียงเหน่อ ๆ เรียกรอยยิ้มของเธอทว่ากับกลายเป็นการสร้างความไม่พอใจให้เด็กสาวที่เข้าใจไปเองว่ารอยยิ้มกระชับมิตรที่เธอมอบให้กลายเป็นยิ้มเยาะสำเนียงเสียงสุพรรณของหล่อน กันยาจึงไม่พอใจในตัวเธอเท่าไรนัก ยิ่งมีเรื่องของคุณากร ศิลปินรุ่นพี่ที่เข้ามาสนิทกับเธอด้วยเรื่องเสียงเพลงยิ่งทำให้กันยาที่แอบหลงใหลความน่ารักของคุณากรหรือ “พี่คุณ” ยิ่งมองเธอในแง่ลบมากขึ้น
แคสซี่ อังสุมาลินสาวลูกครึ่งที่ก้าวเข้าสู่วงการด้วยการเป็นดาราวัยรุ่นดวงใหม่ที่กำลังเป็นที่กล่าวขวัญถึงทำให้ถูกณกุลทาบทามมาเล่นมิวสิควีดีโอให้กับคุณากรศิลปินดังของค่าย จากนั้นจึงชักชวนให้มาร่วมทดสอบร้องเพลงเพื่อร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิกของวงชูการ์บีท และหล่อนก็สอบผ่านกลายเป็นสมาชิกคนสุดท้ายของวงแต่ใช่ว่าการเข้ามาร่วมทีมของแคสซี่จะทำให้ทุกอย่างในทีมดีขึ้นเพราะพวกนิสัยหลาย ๆ อย่างของพวกเธอทั้งสี่เข้ากันแทบไม่ได้เลย
โชคดีที่ชูการ์บีทมีผู้จัดการวงคนเก่งอย่างพี่เบ็ตตี้ที่ช่วยเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์ต่าง ๆ ทำให้ทุกคนค่อย ๆ ปรับตัวเข้าหากันและแม้จะยังมีท่าทีมึนตึงต่อกันบ้างแต่พวกเธอก็สามารถปกปิดความหมางใจไว้ภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสต่อหน้าสื่อได้อย่างมิดชิดเรื่อยมากระทั่งผ่านวันคืนเหล่านั้นมาถึงห้าปีเต็ม ๆ