Home / รักโบราณ / แม่ทัพร้ายโหยหารัก / ฝาแฝดจากยุคอดีต 1.6

Share

ฝาแฝดจากยุคอดีต 1.6

last update Last Updated: 2025-01-03 01:40:59

  ยุคอดีต 

  ฮั่นจง เมืองชายแดนแคว้นฉิน

  จวนแม่ทัพ

  พระวรกายสูงใหญ่ขององค์ชายปีศาจอิ๋งหยาง ในฉลองพระองค์สีดำทะมึนทรงนั่งประทับภายในห้องพระบรรทม โดยมีหมอในเมืองฮั่นจง มาถวายการรักษาบาดแผลแปลกประหลาดที่อยู่บริเวณพระอุระ ผ้าพันแผลผืนใหม่ถูกนำมาพันรอบพระวรกายใหญ่ด้วยมืออันสั่นเทาของคนเป็นหมอ เมื่อต้องถวายการรับใช้องค์ชายปีศาจซึ่งเป็นที่เลื่องลือไปทั่วทุกแคว้น

  “เจ้ากลัวข้ามากอย่างนั้นรึ มือจึงสั่นเทาอยู่ตลอดเวลา ข้าคงเป็นปีศาจมากกระนั้นสิ” รับสั่งถามสุรเสียงเย็นยะเยียบ สายพระเนตรจับจ้องใบหน้าหมอที่มาทำการรักษาพระองค์อยู่ในขณะนี้เขม็ง

  ในขณะที่คนเป็นหมอรีบทรุดกายลงพื้นก้มคำนับไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองแต่อย่างใดด้วยความกลัวเกรง แม้ว่าในขณะนี้องค์ชายอิ๋งหยางจะสวมหน้ากากสีเงินปิดบังพระพักตร์เอาไว้ก็ตามที แต่มิอาจลดทอนความน่ากลัวและน่าเกรงขามของพระองค์ลดน้อยถอยลงไปได้เลย

  “กะ… กระหม่อมสมควรตายพ่ะย่ะค่ะที่แสดงอาการออกมาเช่นนั้น ตะ... แต่… แต่กระหม่อมก็กลัวพระองค์จริงๆ มิขอปิดบังแต่ประการใด บรรดาหมอทั่วเมืองฮั่นจงต่างมีความรู้สึกไม่แตกต่างจากกระหม่อมแม้แต่น้อย”

  “เช่นนั้นรึ!”รับสั่งออกมาสั้นๆ พลางลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

  “กลัวตายเพราะเข้ามารักษาข้ากระนั้นสิ!” รับสั่งถามกลับไป

  “พะ... พ่ะย่ะค่ะ!” หมอหลวงคนดังกล่าวทูลกลับไปตามตรง

  คำตอบของหมอหลวงท้องถิ่นสร้างความพึงพอพระทัยให้แก่องค์ชายหนุ่มครั้นทรงได้ยินคำตอบแบบตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลาจนพระองค์รู้สึกรำคาญ

  “ตอบได้ดี! ข้าชอบคนที่พูดตรงไปตรงมา ไม่ยืดยาดเพราะข้าเป็นคนขี้รำคาญ!” สุรเสียงรับสั่งพร้อมกระชับฉลองพระองค์ที่สวมอยู่ให้เข้าที่เข้าทาง

  “กลับไปได้แล้ว... และไปรับรางวัลที่ห้องโถงด้านนอก” รับสั่งพร้อมพระดำเนินตรงไปยังห้องหนังสือซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับห้องพระบรรทม

  ทันทีที่เสด็จมาถึงพระหัตถ์ตรงไปหยิบหีบขนาดย่อม พลางพระดำเนินไปยังโต๊ะทรงพระอักษรพร้อมทรุดพระวรกายลงนั่งบนตั่งที่ประทับ เปิดหีบที่มีสิ่งของมากมายอยู่ภายในนั้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือแพทย์ผ่าตัดชุดเล็ก ปรอทวัดไข้ ตัวยามากมายทั้งแบบฉีดและแบบกิน ถุงน้ำเกลือและอุปกรณ์ทำแผลทุกอย่าง ล้วนอยู่ในหีบนั้นทั้งหมด

  พระหัตถ์หยิบขวดยาแก้อักเสบสำหรับให้ทางเส้นเลือดออกมาพิจารณา

  “ข้าอยากรู้จริงๆ เลย ว่าของพวกนี้จะสามารถนำมาใช้ได้อย่างไร ผู้คนในแคว้นฉินไม่ล่วงรู้วิธีการใช้สักคน แต่สิ่งเหล่านี้ทำให้ข้ารอดชีวิตมาได้อย่างเหลือเชื่อ ทั้งๆ ที่ข้าควรสิ้นชีพไปนานแล้ว” รับสั่งสุรเสียงพึมพำ

  ฉับพลันเสียงฝีเท้าของคนกำลังเดินเข้ามาใกล้ห้องทรงพระอักษรขององค์ชายใหญ่แห่งแคว้นฉิน เมื่อบรรดาสายข่าวที่แฝงตัวอยู่ในราชสำนัก ส่งคนมารายงานความเคลื่อนไหวทุกอย่างที่เกิดขึ้นในขณะนี้ 

  ร่างของรองแม่ทัพเดินนำหน้าสายข่าวที่ส่งไปทั่วทุกแคว้นก้าวเข้ามาภายในห้อง พร้อมรีบรายงานข่าวที่สายสืบส่งมาให้อย่างรวดเร็ว

  “กราบทูลองค์ชายตอนนี้ภายในราชสำนัก เกิดความโกลาหลขึ้นแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

  พระพักตร์ที่ปิดบังด้วยหน้ากากสีเงินมิได้มีปฏิกิริยาใดๆ ครั้นทรงได้ยินเช่นนั้น

  “ความโกลาหลที่เกิดขึ้นคงไม่แคล้วบรรดาอนุชาของข้า กำลังเล่นเกมแย่งชิงตำแหน่งเจ้าผู้ครองแคว้นระหว่างอิ๋งเหว่ยกับอิ๋งเฟิ่งอีกล่ะสิ” รับสั่งกลับไปพลางวางของที่อยู่ในพระหัตถ์ลงไปในหีบพร้อมปิดไว้สนิทตามเดิม

  “เรื่องนั้นยังเป็นคลื่นใต้น้ำอยู่ตลอดเวลาพ่ะย่ะค่ะ แต่เรื่องที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้นั้นก็คือ ว่าที่ฮองเฮาพระองค์ใหม่ ซึ่งเป็นธิดาของอัครเสนาบดีจางฟงหายสาบสูญไปขณะกำลังเดินทางเข้าวังหลวงเพื่อเตรียมแต่งตั้งเข้ารับตำแหน่งฮองเฮา บัดนี้ยังไม่รู้ชะตากรรมเลยว่าจะเป็นตายร้ายดีเยี่ยงไรพ่ะย่ะค่ะ”

  “อย่างนั้นรึ!” องค์ชายหนุ่มรับสั่งพร้อมยกพระหัตถ์ท้าวคางลงบนโต๊ะทรงพระอักษร ด้วยกำลังใช้ความคิดกับสิ่งที่เพิ่งได้รับรายงาน

  “ในเมื่อเหตุการณ์แปรเปลี่ยนเช่นนี้ เห็นทีอิ๋งเหว่ยจะลำบากเสียแล้วเพราะจางฟงผู้นี้ มีฐานอำนาจในราชสำนักอย่างล้นเหลือและยังไม่มีทีท่าว่าจะสนับสนุนผู้ใดระหว่างอิ๋งเหว่ยและอิ๋งเฟิ่ง แต่เลือกใช้แผนด้วยวิธีการแต่งงานกับธิดาสกุลจางก็ถือว่าเป็นทางลัดไปสู่อำนาจ ก็นับว่าใช้ได้!... รู้จักคิดแต่เสียตรงที่อำนาจไม่ได้มาจากฐานกำลังของตัวเองมันจะอยู่ได้นานเสียเมื่อไรกันเชียว” รับสั่งคาดการณ์ตามความรู้สึกของพระองค์ ก่อนจะมีรับสั่งในสิ่งที่ทรงต้องการล่วงรู้

  “ว่าแต่กระจายข่าวของข้าไปทั่วแคว้นแล้วใช่หรือไม่รองแม่ทัพ” รับสั่งถามย้ำกลับไป

  “กระหม่อมจัดการตามพระบัญชาเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ ทั่วแคว้นในยามนี้ต่างล่วงรู้ว่าพระองค์ทรงได้รับบาดเจ็บสาหัสมีอาการเป็นตาย ยังมิหวนฟื้นคืนสติกลับมารอว่าวันใดจะสิ้นพระชนม์”

  พระพักตร์สีเงินพยักขึ้นลงอย่างพึงพอพระทัยครั้นทรงได้ยินเช่นนั้น ก่อนจะได้ยินรองแม่ทัพกราบทูลถามอีกครา

  “กระหม่อมไม่เข้าใจพระองค์จริงๆ เหตุไฉนจึงต้องปล่อยข่าวเช่นนี้ออกไป ทรงทำเช่นนี้จะทำให้ขวัญและกำลังใจของเหล่าทหารภายในกองทัพต้องสั่นคลอนเอาได้นะพ่ะย่ะค่ะ”

  “ก็เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น ใช่ว่าจะเป็นจริงเสียที่ไหนกันเล่า เจ้าเองก็เห็นว่าในยามนี้ข้าเป็นเช่นไรมิใช่รึ เหตุที่ต้องทำเช่นนี้เพราะจะอาศัยข่าวลือดังกล่าวเดินทางไปฝังพระศพเสด็จพ่อเป็นครั้งสุดท้าย” รับสั่งได้เพียงแค่นั้นก็หยุดลงเมื่อทรงรู้สึกมีบางอย่างวิ่งเข้ามาจุกที่คอ

   “ข้าอยากเห็นพระพักตร์เสด็จพ่อว่าทรงเป็นอย่างไร ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยพานพบพระบิดาแม้แต่ครั้งเดียว ครั้นสวรรคตลงเช่นนี้ข้าก็อยากไปหาสักครั้ง และอยากรู้ว่าเสียงเล่าลือที่บอกว่าเสด็จพ่อสวรรคตทันที 

เมื่อล่วงรู้ว่าข้าบาดเจ็บสาหัส และคงไม่รอดจนทำให้พระทัยวาย ข้ายังเป็นพระโอรสที่ทรงรักและอยู่ในความทรงจำอย่างนั้นรึจึงทรงเป็นเช่นนั้น” รบสั่งตัดพ้อออกมาจากความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในส่วนลึกของพระทัย

  ภายใต้ความเงียบงันที่มิมีเสียงถ้อยเจรจาใดๆ ออกมาอีก องค์ชายอิ๋งหยางยกพระหัตถ์สะบัดไปมาเป็นสัญญาณว่าพระองค์ต้องการความเป็นส่วนตัว พร้อมมีรับสั่ง

  “ข้าอยากพักผ่อนแล้ว เดี๋ยวเจ้าส่งสายไปสืบที่จวนสกุลจาง ข้าอยากรู้ความเป็นไปอย่างละเอียดและอยากรู้ว่าคนผู้นี้มีความคิดที่จะสนับสนุนผู้ใดกันแน่ และจัดกองกำลังส่วนหนึ่งติดตามข้าไปที่สุสานหลวง อีกสามวันข้างหน้าข้าจะไปร่วมงานพระราชพิธีฝังพระศพเสด็จพ่อเป็นครั้งสุดท้าย วันนั้นคงได้ครึกครื้นน่าดูเมื่ออนุชาทั้งหลายเห็นข้า!”

  รับสั่งพร้อมยกพระหัตถ์ขึ้นเท้ากับโต๊ะทรงพระอักษร พลางสัมผัสขมับของพระองค์ เป็นพระอาการที่ทรงใช้เป็นประจำในขณะที่กำลังทรงวางแผนหรือครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ภายในพระทัย พระเนตรสีนิลกาฬฉายแววเจ้าเล่ห์พร้อมรอยแสยะยิ้มเย็นยะเยียบปรากฏขึ้นบนใบหน้าหลังหน้ากากสีเงิน

  

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ดวงพิฆาต รักนิรันดร์ (ตอนอวสาน)

    ยุคอดีตตำหนักจินไท่ทั่วบริเวณในเวลานี้เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกเหมยฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ แจกันดินเผาขนาดใหญ่วาดลวดลายเป็นลายเมฆและนกยูงสลับไปมา เพิ่มความสวยงามได้อย่างลงตัวและแจกันดังกล่าวเต็มไปด้วยกิ่งดอกเหมยปักลงบนแจกันวางตั้งไว้บนโต๊ะข้างแท่นพระบรรทมเพื่อให้คนงามได้สูดกลิ่นหอมดังกล่าวร่างอรชรของจางเพ่ยอันบัดนี้นอนสงบนิ่งอยู่บนแท่นพระบรรทม และเธอหลับใหลอยู่เช่นนี้มานานนับเดือนแล้ว โดยมีสายตาของพระสวามีผู้หล่อเหลาจับจ้องอยู่กับดวงหน้างามของพระชายาอยู่ตลอดเวลา พระองค์จะเพียรเข้าคอยมาดูแลพระชายาเพียงหนึ่งเดียวทันทีที่เสร็จภารกิจจากการออกว่าราชการในท้องพระโรงเหตุการณ์ในวันที่รัชทายาทหลี่จิ้งบุกโจมตีพระราชวังหลวงของต้าฉินอย่างอุกอาจ และจบลงคือเซ่นสังเวยพระชนม์ชีพของพระองค์ให้กับแม่ทัพปีศาจพร้อมชีวิตทหารต้าหลู่ไปอีกนับไม่ถ้วน ต่างพากันสิ้นชีพวิบัติโรยรากลายเป็นหินไปชั่วพริบตาเหตุการณ์ในวันนั้นเล่าลือไปอย่างกว้างขวางจนล่วงรู้ไปทั่วทุกแคว้นแดนดิน และต่างพากันขยาดแม่ทัพปีศาจกันอย่างถ้วนหน้า จนมีคำกล่าวติดปากออกมา

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   โหยหามิคลาดครา 1.1

    ในขณะเดียวกันบริเวณลานกว้างหน้าท้องพระโรงกองทหารของแคว้นต้าหลู่และกองทหารจากต้าฉิน ต่างวิ่งเข้าโจมตีปะทะกันอย่างดุเดือด ทั่วทั้งพระราชวังหลวงเต็มไปด้วยเปลวเพลิงและกลุ่มควันขาวพร้อมเสียงกรีดร้องของเหล่านางกำนัลและเชื้อพระวงศ์ บรรดาขุนนางที่อยู่ในท้องพระโรงต่างแตกฮือแยกย้ายกันหนีตายจนจ้าละหวั่น เมื่อทหารต้าหลู่บุกเข้ามาถึงในท้องพระโรงและปะทะกับจางฟงอัครเสนาบดีที่เคยเป็นขุนศึกในวัยหนุ่มแม้จะมีอายุมากถึงหกสิบปีแล้วก็ตาม แต่จางฟงมีวิทยายุทธ์ในระดับสูงจึงเป็นฝ่ายใช้อาวุธออกปกป้องเหล่าขุนนางเอาไว้ ก่อนจะวิ่งตามไปสมทบกับกองทหารของตนและกองทหารขององค์ชายปีศาจที่ยกตามมาช่วยอย่างทันท่วงที ทั่ววังหลวงเต็มไปด้วยซากศพมากมายมิรู้ใครเป็นใครท่ามกลางความวุ่นวายองค์ชายปีศาจอิ๋งหยางและองค์ชายหลี่จิ้ง รัชทายาทจากต้าหลู่กำลังปะทะฝีมือกันอย่างดุเดือด ทั้งสองยืนจ้องหน้ากันในขณะที่องค์ชายหลี่จิ้งถือทวนยาวและองค์ชายอิ๋งหยางใช้ดาบง้าวอาวุธประจำพระวรกายไล่ฟาดฟันองค์ชายผู้นี้อย่างบ้าคลั่ง“เจ้าเอาอันอันของข้าไปไว้ไหน! เอาคนของข้าคืนมา!!

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   โหยหามิคลาดครา 1.2

    ทันทีที่พระพักตร์หล่อเหลาขององค์ชายปีศาจเงยขึ้นทอดพระเนตร ทหารของต้าหลู่ที่กำลังมองมาที่พระองค์เป็นจุดเดียวค่อยๆ แปรเปลี่ยนไปทันที เมื่อร่างค่อยๆ กลายเป็นหินลามเลียตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าและแผ่ขยายออกเป็นวงกว้างเพียงชั่วเวลาไม่กี่อึดใจ ติดตามด้วยเสียงของเหล่าทหารดังแทรกขึ้นมา“แม่ทัพปีศาจ!!!” เสียงเรียกขานดังออกมาได้เพียงแค่นั้นก็ต้องเงียบงันลงไปโดยพลันเมื่อทุกอย่างกลับหยุดการเคลื่อนไหวทั้งสิ้น ลมหายใจของเหล่าทหารต้าหลู่หลุดลอยไปทันใดนับหนึ่งพันนายที่แออัดอยู่ภายในท้องพระโรงท่ามกลางสายพระเนตรขององค์ชายหลี่จิ้ง ครั้นได้ทอดพระเนตรเหตุการณ์ที่มีผู้คนกล่าวขานเลื่องลือมานานแสนนาน และตอนนี้กำลังเกิดขึ้นอยู่ตรงพระพักตร์ในขณะนี้“เป็นความจริงหรือนี่! คนผู้นี้คือแม่ทัพปีศาจอิ๋งหยางอย่างนั้นหรอกรึ!” องค์ชายหลี่จิ้งรับสั่งได้เพียงเท่านั้นองค์ชายปีศาจหันกลับไปทอดพระเนตรรัชทายาทผู้นั้นทันที โดยที่อีกฝ่ายมิทันได้ตั้งตัวเพียงแค่เห็นใบหน้าก็สิ้นชีพไปโดยมิรู้ตัว พระเศียรค่อยๆ กลายเป็นหินลามเลียไปทั่วพระวรกายก่อนจะกลืนกินจนกระทั่งยืนแข็ง

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   พระสนมชายของข้า! 1.2

    ทันทีที่พระหัตถ์ของรัชทายาทรูปงามสัมผัสกับแก้มนวลเนียนของหญิงสาว ภาพเหตุการณ์ในอนาคตบังเกิดขึ้นมาให้เธอได้เห็นทันทีท่ามกลางกองทหารของทั้งสองฝ่ายกำลังสู้รบกันอย่างดุเดือด ร่างของจางฟงท่านพ่อและจางฮั่นพี่ชายคนโตกำลังใช้ดาบสู้รบกับทหารของต้าหลู่ ในขณะที่พระสวามีปีศาจของเธอกำลังบุกเข้าโจมตีไล่ฟาดฟันองค์ชายหลี่จิ้งจนถอยไม่เป็นท่า“อันอันของข้าอยู่ไหน! ไอ้คนถ่อย! ลักพาตัวชายาของข้าไปไว้ที่ใด!!!” รับสั่งพร้อมบุกไล่ฆ่ากองทหารมากมายที่เข้ามาปกป้ององค์ชายของตน จนล้มตายกองสุมมิรู้กี่ร้อยชีวิตองค์ชายหลี่จิ้งวิ่งหนีการไล่ล่าอย่างบ้าคลั่งของแม่ทัพปีศาจจนวิ่งเข้าไปอยู่ในท้องพระโรง “คนผู้นี้มันบ้าไปแล้ว! ช่างบ้าคลั่งราวปีศาจร้ายยิ่งนัก” รับสั่งพร้อมพยายามหาอาวุธที่สามารถทุ่นแรงของพระองค์ได้ดีกว่าดาบ ก่อนจะไปสะดุดกับคันธนูและลูกธนูรวมไปถึงอาวุธอื่นๆ ที่มีเกลื่อนกลาดท่ามกลางร่างไร้วิญญาณของทหารทั้งสองฝ่ายและขุนนางบางคนที่หนีตายไม่ทันคันธนูถูกหยิบขึ้นจากพื้นพร้อมลูกธนูสามดอก พระหัตถ์ล้วงเข้าไปในอกเสื้อฉลองพระองค์ก่อนจะดึงขวดยาใบน้อยออกมาพร้อมรีบดึงจุกออกเทผงสีขาวลงบนลูกธนูทั้งสามดอกพรึบ! ภาพเหตุการ

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   พระสนมชายของข้า! 1.1

    บริเวณคุกใต้ดิน ดวงเนตรสีนิลดำใหญ่ทอดสายตามองร่างไร้วิญญาณขององค์ชายอิ๋งเฟิ่ง เจ้าของพระตำหนักหรดีในสภาพศพลิ้นจุกปาก ดวงตาถลนแทบจะทะลักออกมานอกเบ้า รอบลำคอถูกรัดอย่างรุนแรงจนเห็นเป็นรอยโซ่ และสิ่งที่ใช้สังหารองค์ชายโฉดผู้นี้ก็ตกอยู่ใกล้ๆ พระศพนั่นเอง พระพักตร์หล่อเหลาขององค์ชายหลี่จิ้ง ค่อยๆ เงยขึ้นจากพระศพขององค์ชายโฉดพร้อมสำรวจไปทั่วบริเวณคุกใต้ดินไปโดยรอบก่อนจะพบว่า กองทหารของพระองค์ที่คอยรักษาเวรยามตั้งแต่ปากทางเข้าแม่น้ำทางชายป่ารกร้าง จนถึงคุกใต้ดิน มีเพียงทหารยามที่คอยดูแลบริเวณคุกเท่านั้นจบชีวิตทั้งหมด สภาพศพร่างแหลกเหลวและมีรอยโซ่ทิ้งร่องรอยเอาไว้บนศพเหล่านั้น “พวกเจ้าที่เหลือรอดชีวิตล่วงรู้หรือไม่ว่าผู้ใดเข้ามาสังหารผู้คนภายในนี้รวมไปถึงเจ้าของตำหนักนี้ด้วย!” รับสั่งถามกองทหารที่รอดชีวิต “กระหม่อมได้ยินว่าคนผู้นั้นเป็นพี่ชายของเด็กหนุ่มหน้าหวาน ซึ่งถูกจับตัวมาจากตำหนักบูรพาพร้อมกันพ่ะย่ะค่ะ แต่องค์ชายอิ๋งเฟิ่งทรงแยกขังเจ้าคนพี่ไว้ที่คุกใต้ดิน ส่วนคนน้องนำไปขังในตำหนักหรดีเพื่อนำไปมอบให้พระองค์ที่จวนสกุลไป๋ต่อไปพ่ะย่ะค่ะ” ทหารที่รอดชีวิตกราบทูลรายงานอย่างละเอียดเท่าที่ล่ว

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   เป็นหรือตาย 1.3

    พระตำหนักหรดีภายในคุกใต้ดินพระตำหนักหรดีขององค์ชายอิ๋งเฟิ่ง ตั้งอยู่ห่างไกลจากพระตำหนักอื่นๆ อยู่ช่วงท้ายๆ ของพระราชวังมีพื้นที่ติดกับชายป่ารกร้างซึ่งองค์ชายโฉดใช้เป็นเส้นทางลำเลียงอาวุธและกองทหาร ทางเข้าออกต้องดำน้ำลงไป แม่น้ำซึ่งอยู่ติดกับชายป่าและมีทางเข้าเชื่อมต่อขุดไปถึงกับสระบัวในอุทยานส่วนพระองค์ ใช้เป็นเส้นทางเพื่อสะสมฐานกำลังเตรียมพร้อมช่วงชิงบัลลังก์เพื่อขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองแคว้นภายในพระตำหนักลึกลงไปใต้ดิน ถูกสร้างเป็นห้องพักมากมายเพื่อใช้สะสมเงินทองและอาวุธรวมไปถึงเสบียงและคุกใต้ดิน เพื่อใช้ลักพาตัวผู้คนที่บังเอิญมาระแคะระคายการกระทำคิดคดทรยศขององค์ชายผู้นี้ และนี่คือสาเหตุว่าทำไมองค์ชายสามจึงไม่อนุญาตให้บุรุษเข้ามาในพระตำหนัก สืบเนื่องมาจากสาเหตุดังกล่าวด้วยส่วนหนึ่งและอีกเหตุผลนั่นก็คือ เกรงกลัวการถูกลอบปลงพระชนม์จากการจ้างวานฆ่าของผู้อื่นนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องร่วมสายโลหิตหรือพันธมิตรที่เคยร่วมมือและรีบหันหลังให้แก่กันทันใดที่หมดประโยชน์ร่วมกันพระวรกายสูงใหญ่ขององค์ชายปีศาจ ถูกล่ามไว้ที่ข้อพระหัตถ์และข้อพระบาทก่อนจะนำไปโยงกับคานที่แขวนไว้ เตรียมเครื่องทรมานเพื่อเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status