Share

บทที่ 132

Author: สั่งไม่หยุด
หรงจือจือคิดไม่ถึงว่าฉีจื่อฟู่จะมีความคิดที่จะทรมานนางเช่นกัน

สายตานางจ้องมองไปที่ฉีจื่อฟู่พลางถามด้วยเสียงราบเรียบ “หมายความว่า ซื่อจื่อสำนึกและเสียใจกับสิ่งที่พูดกับข้าก่อนหน้านี้หรือ?”

สีหน้าของฉีจื่อฟู่เปลี่ยนไป หากเขายอมรับว่าสำนึกและเสียใจกับคำพูดพวกนั้น ก็เท่ากับยอมรับว่าตัวเองเป็นสุภาพบุรุษจอมปลอมไม่ใช่หรือไร?

แม้ปากจะบอกว่าไม่จำเป็นต้องให้หรงจือจือรักษา ทว่าแท้จริงแล้วภายในใจกลับให้ความสำคัญมาก

นี่ทำให้เขาหงุดหงิดหรงจือจือเล็กน้อย ในเมื่อรักเขาก็ไปคุกเข่าแทนเขาสิ จะถามเช่นนี้ให้มากความทำไม? นี่มันต่างอะไรกับการทำให้เขาผู้เป็นสามีต้องอับอาย?

เขาพูดด้วยสีหน้าบูดบึ้ง “สิ่งใดที่ข้าพูดไปแล้ว ย่อมไม่มีเหตุผลที่จะต้องเสียใจ”

“ข้าเพียงแต่คิดว่า เจ้าเห็นข้าตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ไม่ว่าจะในฐานะฮูหยินซื่อจื่อ หรือในฐานะว่าที่โหวฮูหยินในอนาคต เจ้าก็คงไม่รู้สึกสบายใจนัก ด้วยเหตุนี้จึงได้ให้โอกาสเจ้าไปสวดภาวนาเพื่อข้าก็เท่านั้น”

“เจ้าแต่งงานเข้ามาในครอบครัวนี้ คนในสกุลฉีล้วยแต่ดีกับเจ้าไม่น้อย เท่านี้ก็ถือเป็นวาสนาของเจ้าแล้ว”

“หากข้าไม่เป็นห่วงอนาคตของเจ้า จะผิดคำพูดต่อหน้าสิ่งศักดิ์
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
WLFJ
อีพระเอกโคตรเห็นแก่ตัว ไม่มีความเป็นสถภาพบุรุษเลย
goodnovel comment avatar
WLFJ
สงสารนางเอก มาแต่งงานกับตระกูลโคตรเห็นแก่ตัวเลย
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 462

    นางเซี่ยได้ยินไทเฮาตรัสเช่นนี้ก็ผงะ นางหวังเพียงให้น้องหญิงช่วยให้การแต่งงานนี้ลุล่วง หวังเพียงขู่ให้หรงจือจือกลัว ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นลงไม้ลงมือกระมัง?หากราดน้ำเย็นใส่หรงจือจือจริงๆ และถูกลูกชายรู้เข้า เกรงว่าเขาคงไม่ยกโทษให้นางนางพูดอ้อนวอนว่า “ไทเฮา ไม่ต้องถึงขั้นนั้นหรอกเพคะ จือจือเพียงแต่คิดไม่ถี่ถ้วนไปชั่วขณะ…”นึกไม่ถึงว่าไทเฮาจะตัดบทนาง “ข้าว่านางคิดถี่ถ้วนแล้วต่างหาก ทั้งยังแน่วแน่มาก! ลากตัวออกไป!”“ราดเสร็จแล้วคุกเข่ากลางหิมะสองชั่วยาม! ข้าจะสั่งสอนให้นางรู้ว่า ผู้ใดคือประมุขของวังหลวง!”นางเซี่ยบิดผ้าเช็ดหน้า สีหน้าเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงนางรู้สึกเรื่องนี้หลุดการควบคุมของนางไปแล้ว ความพิโรธของไทเฮาเหมือนจะไม่ใช่เพื่อบุตรชายนางอย่างเดียว!นางรู้จักน้องหญิงของนางดี หรงจือจือเพียงแค่ปฏิเสธเรื่องของบุตรชายนาง อีกฝ่ายไม่น่าจะถึงขั้นโมโหขนาดนี้เมื่อเห็นนางกำนัลจะเข้ามาลากตัวหรงจือจือก็เอ่ยเสียงเรียบ “หยุด ไม่ต้องให้พวกเจ้าลาก ข้าเดินออกไปเองได้”นางเซี่ยร้อนรนกระวนกระวาย สงสัยว่าหรงจือจือเคยไปก้าวล่วงไทเฮาเรื่องอื่นด้วยหรือไม่ รีบพูดว่า “จือจือ เจ้ารีบตอบตกลงไปเถอะ!”

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 461

    “ที่เรียกเจ้ามาวันนี้ ก็เพราะต้องการให้ไทเฮาทรงช่วยพูดไกล่เกลี่ยให้เรื่องมงคลระหว่างสองครอบครัวลงเอยด้วยดี”ไทเฮายิ้มเยาะ “แต่ดูจากตอนนี้ คล้ายว่าบุตรสาวสายตรงคนโตของมหาราชครูหรงนางนี้จะไม่เห็นข้าในสายตา เช่นนี้ข้าพูดไกล่เกลี่ยไปจะมีประโยชน์อันใด?”หรงจือจือ “หม่อมฉันมิกล้าเพคะ! หม่อนฉันไม่เคยขุ่นเคืองพระชายาซื่อจื่อ ย่อมไม่มีอันใดต้องไกล่เกลี่ย”“เหอะ…” ไทเฮาแค่นเสียงเย็น ยกถ้วยชาขึ้นพร้อมกับมองหรงจือจือ “ข้าไม่อยากต้องอ้อมค้อมเสแสร้งกับเจ้า พูดมา เจ้าจะแต่งงานกับหลานชายข้าหรือไม่!”หรงจือจือ “ขอไทเฮาโปรดประทานอภัย”ถ้วยชาในมือไทเฮาเกือบจะขว้างถูกหรงจือจือเมื่อฟังถึงตรงนี้ ถ้วยชาแตกกระจาย น้ำร้อนกระเซ็นซ่าน หากไม่ใช่เพราะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหน้าชั้นสำหรับฤดูหนาว เกรงว่าหรงจือจือคงถูกลวกไปแล้ว!ไทเฮาตรัสอย่างเดือดดาลด้วยสีหน้าดำทะมึน “หรงจือจือ เจ้ามันไม่เห็นคุณค่าความหวังดี จะไม่ไว้หน้าข้าสักนิดใช่หรือไม่?”นางเซี่ยลุกไปประคองหรงจือจือขึ้นมา ปากพูดเกลี้ยกล่อมว่า “จือจือ อย่าทำให้ไทเฮาทรงกริ้ว รีบลุกขึ้นก่อน”“เจ้ากับราชเลขาธิการเพิ่งจะหมั้นหมายกันแค่หนึ่งวัน ข่าวยังไม่แพร่กระจา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 460

    หากท้ายที่สุดแล้วผู้ที่ท่านพี่เลือกให้หรงเจียวเจียว เป็นคนเช่นจีอู๋เหิง นางหวังก็คงไม่เกิดความคิดนี้ขึ้นมาเพราะนางคิดว่า คุณชายที่ดีพร้อมทุกด้านอย่างจีอู๋เหิง ก็คู่ควรกับบุตรสาวของตนทว่าบุตรชายของหยางซื่อหลาง นับเป็นอะไรกัน จะคู่ควรกับเจียวเจียวแก้วตาดวงใจของตนได้อย่างไร?ครั้นหรงเจียวเจียวได้ยินถึงตรงนี้ ดวงตาก็เปล่งประกาย “เช่นนั้น...เช่นนั้นก็ขอบคุณท่านแม่ยิ่งนัก”...ยามพลบค่ำหลังมหาราชครูหรงพูดคำเหล่านั้นกับพวกนางหวังสองแม่ลูกเสร็จ ก็ไปรออยู่ที่ห้องหนังสือ ผู้ที่อยู่ใต้บัญชาสืบเจอว่าหรงเจียวเจียวเอง ก็ส่งคนออกไปตามหาที่อยู่ของสาวใช้จ้าวเป็นการส่วนตัวเช่นกันเขานั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยความหดหู่ใจหากบุตรสาวไม่มีอะไรไม่ชอบมาพากล ไหนเลยจะเชื่อฟังคำพูดของตน กลับอยู่ไม่นิ่ง และรีบเคลื่อนไหวเช่นนี้?เดรัจฉานผู้นี้ หรือว่าจะมีเอี่ยวในการทำร้ายท่านย่าของนางจริง ๆ หรือ?...เช้าวันรุ่งขึ้นคนของตำหนักไทเฮามาเชิญให้หรงจือจือเข้าวัง หัวใจของหรงจือจือเต้นตึกตัก ที่จริงนางยังไม่ลืมที่นางเซี่ยพูดกับตนเอาไว้ก่อนหน้านี้ เรื่องที่หากไม่รู้จักอยู่ให้เป็น ก็จะให้ไทเฮาให้ตนเป็นภรรยาของจีอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 459

    อย่างไรสกุลหยางก็ต้องพึ่งพาตนสองสามส่วน ไม่กล้าไม่ให้เกียรติบุตรสาวของตนอย่างแน่นอนแต่คิดไม่ถึงเลยว่า เมื่อหรงเจียวเจียวได้ยินดังนั้น ก็เอ่ยขึ้นมาทั้งตื่นตระหนก “ท่านพ่อ ท่านพ่อจะลำเอียงเกินไปแล้วนะเจ้าคะ! พี่หญิงแต่งงานครั้งที่สองดีขนาดนั้น เหตุใดข้าได้แต่งงานแค่กับบุตรชายของซื่อหลางล่ะ?”มหาราชครูหรงขมวดคิ้ว “ที่พี่สาวเจ้าได้แต่งงานดี ๆ เป็นเพราะตัวนางโดดเด่นมากพอ ท่านเสนาบดีชอบนาง ส่วนเจ้า เจ้ายังดูถูกบุตรชายคนโตสายตรงของซื่อหลาง?”“สภาพผีเข้าผีออกอย่างเจ้า หากเจ้าไม่ใช่ลูกสาวของข้า ลูกนอกสมรสของซื่อหลาง ก็ไม่มีวันแต่งงานกับเจ้าหรอก!”หรงเจียวเจียวได้รับความอับอาย ในแววตาคลอเต็มไปด้วยน้ำตา “ท่านพ่อ ในสายตาของท่านพ่อข้าต่ำตมเช่นนี้เลยหรือ?”มหาราชครูหรง “คนเราต้องทำตัวเองต่ำต้อยก่อน คนอื่นถึงได้มาดูถูกได้! หากตัวเจ้าไม่ทำเรื่องโง่ ๆ ออกมามากมายเช่นนี้ วันนี้ข้าก็คงไม่พูดกับเจ้าเช่นนี้หรอก”“เรื่องนี้ก็ตกลงตามนี้ ไม่ต้องพูดถึงอีกแล้ว!”“แล้วก็ เหวินหมัวมัวกับฝานซิงจนปัญญาจริง ๆ แต่จือจือบอกข้าว่า นางกุมหลักฐานอยู่ในมือแล้ว ฆาตกรนั้นไม่เป็นเจ้าก็แม่เจ้า!”“ขอเพียงหาตัวสาวใช้จ้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 458

    จวนสกุลหรงหลังมหาราชครูหรงตรวจนับคลังทั้งจิตใจห่อเหี่ยว ก็รู้สึกว่าเกรงว่าตนต้องขายขี้หน้าอย่างแน่แท้ หรือว่าจะออกจากบ้านไปยืมเงินมาเพิ่มเป็นสินเจ้าสาวสักหน่อย เพื่อประคับประคองหน้าตาของจวนสกุลหรง?แต่การยืมเงิน ก็จะทำให้ตนขายขี้หน้าเช่นกันเฮ้อ ตนเป็นขุนนางมานานกว่าเสนาบดีเฉินตั้งหลายปี เหตุใดจึงไม่มั่งคั่งอย่างอีกฝ่ายนะ?หรงม่อชิงที่ก่อนหน้านี้มักจะอิจฉาเฉินเยี่ยนซู ในวันนี้จะไม่ยอมรับก็ไม่ได้ ระยะเวลาการเป็นขุนนางของอีกฝ่ายน้อยกว่าตน ทว่าความดีความชอบมากกว่าตนจริง ๆ เวลาที่ฝ่าบาทตกรางวัลให้ก็มากกว่าตนมหาราชครูหรงหอบเรื่องในใจแสนหนักหนามุ่งหน้าไปยังเรือนเฮ่าเย่ว์ระหว่างทางกลับบังเอิญเจอกับหรงจือจือหรงจือจือเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ท่านพ่อ ข้าอยากคุยกับท่านพ่อเรื่องท่านย่า ไม่อย่างนั้นขอเวลาสักครู่ได้หรือไม่?”มหาราชครูหรงมิได้ปฏิเสธ เขากลับอยากรู้ว่า หรงจือจือมีแผนการอะไรอยู่กันแน่...เรือนเฮ่าเย่ว์ในวินาทีนี้ หรงเจียวเจียวเพิ่งใส่ยาเสร็จ เปลี่ยนชุดเสร็จ ร้องไห้จนเหมือนคนขี้แยก็มิปานนางหวังพูดปลอบ “เอาละ เลิกร้องไห้ได้แล้ว! วันนี้เจ้าก็จริง ๆ เลย อย่างไรมีแขกมากม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 457

    ทว่าคิด ๆ ดูแล้วอยู่ที่จวนเสนาบดี ของของเขาก็ไม่เท่ากับของของนางหรือ?จึงฝืนปลอบให้ตนยอมตอบตกลงไป “ขอรับ!”เดิมทีมหาราชครูหรงคิดจะรอให้เฉินเยี่ยนซูไปก่อน แล้วค่อยไปสั่งสอนหรงเจียวเจียว แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาจึงตัดสินใจว่าอย่างไรอีกเดี๋ยวค่อยไปตรวจนับจำนวนในคลังเสียหน่อย เรื่องอื่นเดี๋ยวค่อยว่ากันหลังตนตรวจนับจำนวนเสร็จ...หลังคนสกุลเฉินออกไปจากจวนมหาราชครู เฉินเยี่ยนซูก็เข้าวังไปอ่านฎีกาเป็นเพื่อนฮ่องเต้น้อยหนึ่งชั่วยาม แล้วไปจัดการงานที่กรมขุนนางทุกคนต่างเห็นว่าในฤดูหนาว เขากลับถือพัดเล่มหนึ่งไว้ในมือ พร้อมยังคลี่ออกมาพัดทีสองทีอยู่เป็นระยะ ไม่แยแสความรู้สึกของคนที่ยืนอยู่ข้างเขาแต่อย่างใดท่านเสนาบดีไม่หนาว แต่พัดสองสามทีเช่นนี้ พวกเขาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หนาวนะกระทั่งฮ่องเต้น้อยยังคำราม “ท่านเสนาบดี ตอนที่ท่านพัดช่วยอยู่ให้ห่างจากเราหน่อย หนาวจนฮ่องเต้อย่างเราอยากฟ้องกรมขุนนางแล้ว!”“วันนี้ท่านเป็นอะไรกันแน่? ท่านร่างกายอ่อนแอ ร่างกายมีความเย็นมากเกินไปไม่ใช่หรือ?”ฤดูหนาวแสนหนาวเหน็บขนาดนี้ กลับเอาเจ้าสิ่งนี้มาเล่นเนี่ยนะ?เซิ่งเฟิงเห็นท่าทางไม่ควรค่าของเจ้านายบ้านตน ก็อด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status