Share

บทที่ 66

Author: สั่งไม่หยุด
เจาซีโมโหจนหน้าเขียวคล้ำอีกครั้ง นางรู้สึกว่าอวี้หมัวมัวพูดไม่ถูกต้อง บางครั้งไม่ใช่ว่าตนวู่วามชอบโมโห ทั้งยังต้องให้คุณหนูมาปลอบใจตนเองตอนที่อารมณ์ไม่ดี แต่คนสกุลฉีต่างหากที่ทำให้รู้สึกน่าสะอิดสะเอียนจริง ๆ

ผู้ที่เรียนหนังสือย่อมแตกต่างออกไป ฉีจื่อเสียนผู้นี้ถึงขนาดอ้างอิงคำพูดในคัมภีร์มาพูดจาไร้ยางอาย ให้ฟังดูมีเหตุผลได้

หรงจือจือยิ้มบาง ๆ “ในเมื่อน้องสามีอยากจะอภิปราย เช่นนั้นข้าก็ขออภิปรายกับเจ้า”

ฉีจื่อเสียนตกตะลึง แม้ปากเขาจะอ้างว่าเป็นการอภิปราย แต่ความจริงที่คิดอยู่ภายในใจก็คือผู้หญิงอย่างหรงจือจือ จะไปเข้าใจเหตุผลอะไร?

จากการที่ถูกตนยั่วยุเพียงเล็กน้อย นางจะต้องรู้สึกตระหนักและเข้าใจ จะต้องกลับตัวกลับใจ ปฏิบัติตามที่ตนเองกล่าว แต่ตอนนี้...

หรงจือจือ “น้องสามีกล่าวว่า ผู้ชายจะต้องปกป้องคนในครอบครัวอย่างสุดความสามารถ แต่ท่านพี่ของเจ้าได้ปกป้องข้าสักนิดหรือไม่? เขาไร้จิตสำนึก เจ้ากลับอยากให้ข้าเสียสละเพื่อคนแบบนี้ เหตุผลคืออะไร?”

“หนังสือแห่งปราชญ์สอนเจ้าว่าผู้หญิงควรทำอะไร แต่ไม่ได้สอนเจ้าหรือว่า การมีที่จิตใจโหดเหี้ยมเป็นสิ่งที่สามีไม่พึงกระทำ?”

“หากไม่ใช่เพราะข้า เจ้าคง
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 466

    ฮ่องเต้หย่งอันเข้าใจแล้วว่า เหตุใดท่านราชเลขาธิการได้ยินว่าเสด็จแม่เรียกตัวหรงจือจือมาพบแล้วจึง…เขามองไทเฮาพร้อมกับตรัสด้วยความเสียใจ “โอ้? มันสายไปแล้ว! ลูกพระราชทานสมรสไปแล้ว ราชโองการก็เขียนเสร็จแล้ว ประทับตราพระราชลัญจกรแล้วเช่นกัน!”“เหตุใดเสด็จแม่จึงไม่หารือกับลูกตั้งแต่เมื่อวาน หากเป็นเมื่อวาน เรื่องนี้คงพอมีหนทางให้ตกลงกันได้”ไทเฮาตรัสอย่างไม่เชื่อ “เป็นความจริงหรือ?”ฮ่องเต้หย่งอัน “ย่อมเป็นความจริง ราชโองการยังอยู่ในมือเซิ่งเฟิงอยู่เลย!”ตอนแรกเขาจะให้ขันทีอาวุโสหยางเป็นคนถือ ประเดี๋ยวหรงจือจือกลับสกุลหรงไปแล้วค่อยประกาศราชโองการ แต่ท่านราชเลขาธิการไม่วางใจยืนกรานที่จะขอรับไป ให้เซิ่งเฟิงเป็นคนเก็บรักษาไทเฮาพิโรธมากนางเซี่ยร้อนใจเช่นกัน รีบคุกเข่าว่า “ฝ่าบาท ได้โปรดถอนราชโองการด้วยเถิด อู๋เหิงต้องการแต่งงานกับท่านหญิงเช่นกัน!”ฮ่องเต้หย่งอันยิ้มเยาะ “พระชายาซื่อจื่อกล่าวเช่นนี้ ฟังดูเหมือนท่านราชเลขาธิการไม่ได้ตั้งใจจะแต่งงานกับหรงจือจืออย่างไรอย่างนั้น สินสอดแปดร้อยหาบ เกรงว่านี่คงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งแคว้นต้าฉีมา!”นางเซี่ยรีบพูด “ฝ่าบาท จวนอ๋องเฉียนของพ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 465

    ฮ่องเต้น้อยเห็นนางเซี่ยยอมรับผิดรวดเร็วแบบนี้ก็ไม่ได้ทำให้นางลำบากใจอีก อย่างไรเมื่อครู่นี้เขาก็เห็นว่า อีกฝ่ายก็พยายามช่วยขอความเมตตาให้หรงจือจืออย่างสุดความสามารถ แต่เมื่อฮ่องเต้น้อยมองไปที่นางกำนัลนางนั้น เขายิ่งคิดก็ยิ่งโมโหเดินเข้าไปถีบอีกฝ่าย “ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง แม้แต่ท่านราชเลขาธิการก็ยังกล้าสาด! เจ้าจงสวดภาวนาให้ท่านราชเลขาธิการปลอดภัย มิเช่นนั้น ครอบครัวเจ้าทั้งเก้าชั่วโคตรก็ยังชดใช้ไม่ได้!”นางกำนัลถูกถีบกลิ้งกับพื้นรู้สึกได้รับความอยุติธรรม นางจะรู้ได้อย่างไรว่าท่านราชเลขาธิการจะมาและช่วยบังน้ำเย็นให้กับท่านหญิง หากรู้มาก่อน ต่อให้นางจะใจกล้าเพียงใดก็ไม่กล้าทำแบบนี้แต่ฮ่องเต้กำลังพิโรธ นางไม่กล้าร้องว่าอยุติธรรม กลัวว่าฮ่องเต้จะพิโรธหนักกว่าเดิมได้แต่คำนับศีรษะด้วยความเคารพ “บ่าวสมควรตาย ฝ่าบาทโปรดประทานอภัย!”เจาซีมองด้วยความสะใจ เมื่อครู่นี้นางกำนัลคนนี้ใช้อำนาจข่มขู่ บอกว่าเป็นคำสั่งของไทเฮา ห้ามขัดขืนเด็ดขาดตอนนี้ ฮ่องเต้จะทุบตีนางอย่างไร สั่งสอนนางอย่างไร นางก็ได้แต่ทนรับไว้เสียงความเคลื่อนไหวด้านนอกย่อมดังเข้าไปในตำหนักเมื่อฮ่องเต้หย่งอันเข้าไป พระ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 464

    หรงจือจืออยากอธิบายว่าตัวเองไม่ได้กลัว แต่เมื่อสบเข้ากับสายตาห่วงใยของเขา จู่ๆ นางก็พบว่าตัวเองพูดอะไรไม่ออก ภายในใจอ่อนระทวยไปหมดทั้งๆ ที่เขาถูกราดน้ำเย็น ทั้งๆ ที่เขากำลังหนาวทว่าเขากลับไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย มีเพียงความรู้สึกที่เป็นห่วงนางนางรีบนำผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดน้ำเย็นบนใบหน้าเขาโดยไม่ได้มาสนใจว่าชายหญิงไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวกัน อย่างไรก็จะแต่งงานกับเขาอยู่แล้วเฉินเยี่ยนซูผงะ ดวงตาหงส์เร่าร้อนขึ้นมาหลายส่วนฮ่องเต้น้อยตรัส “มัวทำอันใดกันอยู่? ยังไม่รีบไปเตรียมเสื้อผ้าสะอาดกับน้ำร้อนให้ท่านราชเลขาธิการอีก!”“หากท่านราชเลขาธิการป่วยไข้ขึ้นมา! เราจะตัดหัวพวกเจ้าให้หมด”“น้ำขิงด้วย! เตรียมน้ำขิงให้ท่านหญิงกับท่านราชเลขาธิการทันที!”หรงจือจือจะบอกตัวเองไม่ต้องการน้ำขิง แต่เมื่อเห็นท่าทีของฮ่องเต้หย่งอัน นางก็ไม่ได้ปฏิเสธนางกำนัลที่ราดน้ำเย็นใส่เฉินเยี่ยนซูตกใจกลัวจนน้ำตาแทบเล็ด คุกเข่าตัวสั่นเทิ้มร่วมกับนางกำนัลคนอื่นๆผู้ที่ถูกราดน้ำเย็นคือท่านราชเลขาธิการ นั่นคือท่านราชเลขาธิการของฮ่องเต้เชียวนะ ก่อนที่ฮ่องเต้จะทรงว่าราชกิจ พระองค์จะต้องถวายการคำนับแด่ท่านราชเลขาธิการตาม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 463

    ไทเฮาโกรธจนหน้าเขียว ชี้นิ้วไปที่นาง “ดี ดี ดี เจ้าดีมาก!”แม้ภายในใจนางจะไม่พอใจถึงขีดสุด กระนั้นก็มีความนับถือบางส่วนเจืออยู่ด้วยอดนึกถึงถ้อยคำที่อดีตฮ่องเต้เคยพูดกับตัวเองไม่ได้ มหาราชครูหรงเป็นเสาหลักของบ้านเมือง อุทิศความสามารถและความทุ่มเททั้งหมดเพื่อชาติบ้านเมือง เขาถึงกล้ากราบทูลฎีกาที่ภัยถึงชีวิต เสียก็แต่เถรตรงเกินไปมองหรงจือจือตอนนี้แล้วเหมือนบิดาของนางมาก!ทว่า ความชื่นชมนี้ไม่อาจระงับเพลิงโทสะภายในใจนางแต่อย่างใด “ไปเตรียมน้ำเย็นเดี๋ยวนี้ ข้าอยากเห็นนักว่าเจ้าจะมีชีวิตรอดไปเห็นผู้บันทึกประวัติศาสตร์กล่าวโทษข้าหนือไม่!”นางเซี่ย “ไทเฮา!”ไทเฮามองนางปราดหนึ่ง พูดด้วยหน้าบึ้งตึง “พอแล้ว พี่หญิงนั่งลงเถอะ ข้าเองก็ทำเพื่อสั่งสอนลูกสะใภ้ในอนาคตให้ท่าน!”นางเซี่ยเห็นหรงจือจือเดินออกไปภายในใจปั่นป่วนว้าวุ่น จากนั้นลุกขึ้นเพื่อเข้าไปห้ามปรามด้วยตัวเองพระพักตร์ของไทเฮาย่ำแย่กว่าเดิมเมื่อเห็นพี่หญิงของตนเป็นเช่นนี้สั่งว่า “ห้ามพระชายาซื่อจื่อเอาไว้ อย่าให้นางก่อกวน!”บรรดานางกำนัล “เพคะ!”หรงจือจือคุกเข่าท่ามกลางหิมะ มองนางกำนัลยกถังน้ำเย็นเข้ามา ส่วนนางเซี่ยที่จะเข้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 462

    นางเซี่ยได้ยินไทเฮาตรัสเช่นนี้ก็ผงะ นางหวังเพียงให้น้องหญิงช่วยให้การแต่งงานนี้ลุล่วง หวังเพียงขู่ให้หรงจือจือกลัว ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นลงไม้ลงมือกระมัง?หากราดน้ำเย็นใส่หรงจือจือจริงๆ และถูกลูกชายรู้เข้า เกรงว่าเขาคงไม่ยกโทษให้นางนางพูดอ้อนวอนว่า “ไทเฮา ไม่ต้องถึงขั้นนั้นหรอกเพคะ จือจือเพียงแต่คิดไม่ถี่ถ้วนไปชั่วขณะ…”นึกไม่ถึงว่าไทเฮาจะตัดบทนาง “ข้าว่านางคิดถี่ถ้วนแล้วต่างหาก ทั้งยังแน่วแน่มาก! ลากตัวออกไป!”“ราดเสร็จแล้วคุกเข่ากลางหิมะสองชั่วยาม! ข้าจะสั่งสอนให้นางรู้ว่า ผู้ใดคือประมุขของวังหลวง!”นางเซี่ยบิดผ้าเช็ดหน้า สีหน้าเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงนางรู้สึกเรื่องนี้หลุดการควบคุมของนางไปแล้ว ความพิโรธของไทเฮาเหมือนจะไม่ใช่เพื่อบุตรชายนางอย่างเดียว!นางรู้จักน้องหญิงของนางดี หรงจือจือเพียงแค่ปฏิเสธเรื่องของบุตรชายนาง อีกฝ่ายไม่น่าจะถึงขั้นโมโหขนาดนี้เมื่อเห็นนางกำนัลจะเข้ามาลากตัวหรงจือจือก็เอ่ยเสียงเรียบ “หยุด ไม่ต้องให้พวกเจ้าลาก ข้าเดินออกไปเองได้”นางเซี่ยร้อนรนกระวนกระวาย สงสัยว่าหรงจือจือเคยไปก้าวล่วงไทเฮาเรื่องอื่นด้วยหรือไม่ รีบพูดว่า “จือจือ เจ้ารีบตอบตกลงไปเถอะ!”

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 461

    “ที่เรียกเจ้ามาวันนี้ ก็เพราะต้องการให้ไทเฮาทรงช่วยพูดไกล่เกลี่ยให้เรื่องมงคลระหว่างสองครอบครัวลงเอยด้วยดี”ไทเฮายิ้มเยาะ “แต่ดูจากตอนนี้ คล้ายว่าบุตรสาวสายตรงคนโตของมหาราชครูหรงนางนี้จะไม่เห็นข้าในสายตา เช่นนี้ข้าพูดไกล่เกลี่ยไปจะมีประโยชน์อันใด?”หรงจือจือ “หม่อมฉันมิกล้าเพคะ! หม่อนฉันไม่เคยขุ่นเคืองพระชายาซื่อจื่อ ย่อมไม่มีอันใดต้องไกล่เกลี่ย”“เหอะ…” ไทเฮาแค่นเสียงเย็น ยกถ้วยชาขึ้นพร้อมกับมองหรงจือจือ “ข้าไม่อยากต้องอ้อมค้อมเสแสร้งกับเจ้า พูดมา เจ้าจะแต่งงานกับหลานชายข้าหรือไม่!”หรงจือจือ “ขอไทเฮาโปรดประทานอภัย”ถ้วยชาในมือไทเฮาเกือบจะขว้างถูกหรงจือจือเมื่อฟังถึงตรงนี้ ถ้วยชาแตกกระจาย น้ำร้อนกระเซ็นซ่าน หากไม่ใช่เพราะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหน้าชั้นสำหรับฤดูหนาว เกรงว่าหรงจือจือคงถูกลวกไปแล้ว!ไทเฮาตรัสอย่างเดือดดาลด้วยสีหน้าดำทะมึน “หรงจือจือ เจ้ามันไม่เห็นคุณค่าความหวังดี จะไม่ไว้หน้าข้าสักนิดใช่หรือไม่?”นางเซี่ยลุกไปประคองหรงจือจือขึ้นมา ปากพูดเกลี้ยกล่อมว่า “จือจือ อย่าทำให้ไทเฮาทรงกริ้ว รีบลุกขึ้นก่อน”“เจ้ากับราชเลขาธิการเพิ่งจะหมั้นหมายกันแค่หนึ่งวัน ข่าวยังไม่แพร่กระจา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status