Beranda / โรแมนติก / ใต้เงาบุษบา / 2.นางรำขวัญใจประชาชน (2)

Share

2.นางรำขวัญใจประชาชน (2)

Penulis: rasita_suin
last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-19 18:53:20

แม้จะแปลกใจแต่กิตติกรก็เอ่ยทักหญิงสาวอย่างเป็นธรรมชาติ อีกฝ่ายยิ้มกว้างเดินมายืนตรงหน้าเขาทันที

“ค่ะ พอดีว่าคุณแม่ฝากของมาให้สองน่ะค่ะ ก็เลยแวะเอามาให้ก่อนกลับบ้าน”

กิตติกรมองใบหน้าสวยราวกับสนใจในขณะที่สมองพยายามนึกว่าเขาไม่เห็นรถคนอื่นหน้าโรงเรียนนอกจากรถของผู้ปกครองที่ยืนคุยกับพิมพ์ปรางจึงไม่คิดว่ามีคนอื่นอยู่ที่นี่ด้วย

“เราไปกันเลยไหมคะ หนึ่งหิวแล้ว”

สาวสวยเอ่ยชวนอย่างร่าเริงไม่ได้ขัดเขินที่จะแสดงออกว่าตนเองพอใจชายหนุ่มตรงหน้ามากแค่ไหน จนแม้แต่คนเป็นน้องสาวเองยังแอบส่ายหน้าเบาๆ

“อ้อ ครับ”

ชายหนุ่มยิ้มรับก่อนจะเหลือบมองไปด้านหลังมาลินี

“เชิญเลยครับสาวๆ”

“ค่ะ”

มาธาวีตอบรับแล้วหันไปพยักหน้าให้เพื่อนหลังเคานเตอร์

“ไปเร็วปราง นานๆ ทีจะมีคนเลี้ยงข้าวเราสักที”

คนถูกชวนเดินออกมาจากเคานเตอร์โดยไม่มีท่าทางอิดออดแต่ก็ไม่ได้แสดงอาการดีใจใดๆ

“คุณกลางไปกับพี่หนึ่งนะคะ เดี๋ยวสองกับปรางจะไปรถอีกคัน”

“ไปด้วยกันก็ได้นี่ครับ”

กิตติกรบอกพร้อมมองหน้ามาธาวีคล้ายตั้งคำถามอีกฝ่ายจึงยิ้มกว้าง แต่น้องสาวยังไม่ทันพูดพี่สาวก็เอ่ยขึ้นมาแทน

“พอดีว่ารถหนึ่งรวนอีกแล้วน่ะค่ะ ที่มานี่ก็ให้เพื่อนมาส่ง กำลังจะโทรให้รถที่บ้านมารับอยู่ คุณกลางมาพอดีแบบนี้ ยังไงหนึ่งรบกวนคุณกลางไปส่งที่บ้านได้ไหมคะ”

ชายหนุ่มคนเดียวมองคนเป็นพี่สาวแล้วเหลือบไปยังคนเป็นน้องสาวซึ่งเธอก็ยิ้มพร้อมกับยักคิ้วให้ จนเป็นเขาที่ขมวดคิ้วไม่เข้าใจแทน แต่สุดท้าย ตอบตกลง

“ได้สิครับ”

“อุ๊ย หนึ่งยังไม่ได้หยิบกระเป๋าเลย เดี๋ยวมานะคะ”

เมื่อมาลินีผลุนผลันกลับเข้าไปด้านในมาธาวีก็กระซิบเบาๆ

“สองรู้ว่าเดี๋ยวพี่หนึ่งก็ต้องขอให้คุณกลางไปส่งอยู่แล้วค่ะ”

หญิงสาวขยิบตาให้เขาเพราะเข้าใจว่าสองคนนี้กิ๊กกั๊กกันอยู่ ก่อนจะหันไปปิดปากหัวเราะกับพิมพ์ปรางที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ทว่าอีกฝ่ายไม่มีท่าทีใดนอกจากเหลือบมองเขาด้วยแววตาว่างเปล่า และนั่นก็ทำให้ชายหนุ่มจ้องกลับอย่างหงุดหงิดด้วยสายตาดุดัน

บรรดาช่างฟ้อนแต่งชุดไม่ต่างกันหลายร้อยคนกำลังฟ้อนเทียนบูชาเมืองด้วยท่าทางเดียวกันอาจดูไม่แตกต่างหรือมีใครโดดเด่นไปกว่าใครในสายตาคนทั่วไป ทว่าหากเป็นคนที่รู้จักแล้วผู้คนที่รอชมการแสดงบริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์[1]ยาวไปจนถึงสี่แยกกลางก็สามารถระบุได้ว่าคนที่ตัวเองมาดูเป็นใครอยู่ตรงไหน เช่นเดียวกับกิตติกรและเปรมินทร์แม้สองหนุ่มจะยืนมองอยู่จากมุมไกลและไม่ได้ใกล้ชิดติดขอบก็ตาม เปรมินทร์ยกกล้องขึ้นถ่ายภาพภรรยาสาวของตนอย่างภาคภูมิใจพร้อมสลับกับอัดวิดีโอไปด้วย แต่ก็ถ่ายสองสาวเอาไว้ด้วยเช่นกัน ในขณะที่กิตติกรยืนกอดอกมองนิ่งโดยมีมาลินียืนอยู่ข้างๆ ด้วย

“คนเยอะจัง ทั้งที่อากาศเย็นก็ยังอึดอัดเลยนะคะ”

“คุณหนึ่งไปรอที่คาเฟ่แถวๆ นี้ก็ได้นะครับ”

กิตติกรบอกสั้นๆ ไม่หันมองเธอด้วยซ้ำทำเอาหญิงสาวแทบพูดต่อไม่ถูก

“ไม่เป็นไรค่ะ รอไปพร้อมทุกคนดีกว่า คนเยอะขนาดนี้ แยกกันไปกว่าจะหากันเจอคงลำบาก”

มาลินีบอกปัดแล้วโบกมือพัดลมใส่หน้าตัวเองพร้อมกับมองการแสดงอย่างไม่ใส่ใจนัก ไม่ใช่ว่าไม่ชอบวัฒนธรรมประเพณีของบ้านเกิดแต่หญิงสาวไม่เห็นด้วยกับการเรียนและงานของน้องสาวมาตั้งแต่แรก ที่มายืนเกาะติดเบียดเสียดปะปนผู้คนขนาดนี้ก็เพราะกิตติกร

ไม่นานการแสดงฟ้อนเทียนก็จบลง เปรมินทร์รีบเข้าไปหากัญญานันทันทีเพราะกลัวว่าภรรยาจะมองไม่เห็นตนทำให้กิตติกรกับมาลินีต้องเดินตามไปด้วย

“เหนื่อยไหมครับก้อย”

เขายื่นผ้าเช็ดหน้าไปซับเหงื่อที่หน้าผากสวยอย่างเบามือพร้อมถามขณะที่กัญญานันเขินคนรอบข้างที่ต่างก็มองมาแล้วอมยิ้มจึงจับผ้ามาซับเอง

“ไม่ค่ะ”

“ตอนนี้คนกำลังเดินออกพร้อมๆ กัน เรารออีกสักหน่อยค่อยออกไปจากตรงนี้แล้วกันนะ”

กิตติกรเป็นคนออกความเห็น ซึ่งทั้งหมดต่างก็เห็นด้วย

“พี่หนึ่งสองขอกระเป๋าหน่อยค่ะ”

มาธาวีก้าวไปหาพี่สาว กิตติกรจึงหลบให้แล้วก็เป็นจังหวะเดียวกับที่มีคนเดินเบียดเข้ามาทางด้านหลังของพิมพ์ปรางอย่างแรงทำให้ร่างบางถลาเข้ามาหาชายหนุ่มและกิตติกรก็ไวพอที่จะอ้าแขนรับอีกฝ่ายได้พอดี

“อุ๊ย”

“สุมาเต๊อะ”

คนชนหันกลับมาขอโทษแล้วรีบเดินจากไป

พิมพ์ปรางเงยหน้าขึ้นมองคนที่รับตัวเองเอาไว้แล้วก็รีบสะดุ้งถอยออกมา ซึ่งอีกฝ่ายก็ปล่อยมือจากเธอโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ แล้วต่างฝ่ายต่างก็หันไปคนละทางราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“คุณครูครับ คุณครู”

เสียงเรียกดังมาจากด้านหนึ่งแต่ไม่มีใครสนใจกระทั่งได้ยินชื่อ

“คุณครูปราง”

คนทั้งกลุ่มหันไปมองคนที่เรียกแล้วก็เห็นว่าเป็นหนุ่มใหญ่ชื่อพัลลภกำลังเร่งรีบพาลูกสาวฝ่าผู้คนเข้ามาหาพวกเขา

กิตติกรคิ้วกระตุก หมอนี่มันคนที่ยืนคุยกับพิมพ์ปรางหน้าโรงเรียนอยู่ตั้งนานคนนั้นนี่

 [1] พระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ หรือที่มักเรียกกันว่า อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์ไทย 3 พระองค์ ผู้สร้างเวียงเชียงใหม่ คือ พญามังราย พญางำเมือง และพ่อขุนรามคำแหงมหาราช พระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ตั้งอยู่กลางเวียงเชียงใหม่ บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ (อดีตศาลารัฐบาลมณฑลพายัพ) ด้านหน้าติดกับถนนพระปกเกล้า ซึ่งบริเวณนี้เอง ถือเป็นศูนย์กลางของตัวเมืองเชียงใหม่ หน้าอนุสาวรีย์มีลานกว้างขนาดใหญ่ เรียกว่า "ข่วงสามกษัตริย์" หรือ "ข่วงอนุสาวรีย์สามกษัตริย์" ด้านตรงข้ามของอนุสาวรีย์ ยังเป็นที่ตั้งของอาคารศาลแขวงเชียงใหม่เดิม ซึ่งมีสถาปัตยกรรมตะวันตกที่งดงาม

=====

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ใต้เงาบุษบา    ตอนพิเศษ ‘ใต้เงาบุษบา’ (2)

    คนที่ยืนรถน้ำต้นไม้อยู่หน้าเรือนยายจันทร์ในช่วงเช้าทำให้คุณรุจีรัตน์กะพริบตา แล้วตั้งใจยืนกอดอกดู อยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรอีก ไม่คิดว่าหญิงสาวจะรีบตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าขนาดนี้เหมือนตอนที่ยังเป็นเด็กในบ้านที่นี่คิ้วเรียวที่ถูกเขียนไว้อย่างสวยงามขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นคนร่างบางเดินไปยกบัวรดน้ำขนาดย่อมค่อยๆ เดินกลับมาเพื่อจะรดดอกไม้ คุณรุจีรัตน์รีบเดินเข้าไปตรงหน้าเรือนยายจันทร์ทันที“ทำอะไรของเธอน่ะ”พิมพ์ปรางสะดุ้งเพราะอยู่ๆ ก็มีเสียงของคุณรุจีรัตน์ดังขึ้นมา และขยับขาอย่างรวดเร็วเพื่อหันไปกล่าวทักทายเจ้าของบ้าน เนื่องจากกลัวจะโดนดุที่เข้ามาวุ่นวายที่นี่ ด้วยความที่พื้นตรงนั้นค่อนข้างเปียกและมีกรวดทำให้พิมพ์ปรางลื่นขึ้นมา“อุ๊ย...”คุณรุจีรัตน์ตกใจรีบเข้าไปให้ถึงตัวหญิงสาวอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำให้ลื่นไปด้วยแต่ก็รับร่างบางของพิมพ์ปรางไว้ได้ทัน ส่วนตัวเองล้มก้นกระแทกโดยมีหญิงสาวนั่งทับลงมาอีกที“โอ๊ย! โอ๊ย...”คนอยู่ข้างล่างร้องขึ้นสองครั้ง พิมพ์ปรางรีบลุกขึ้น ไม่สนใจถังบัวรดน้ำที่หล่น รีบเข้าไปพยุงคนที่ล้มทันที“คุณรุจี เป็นยังไงบ้างคะ ปรางขอโทษค่ะ”“ย่ะ โอ๊ย...เดี๋ยวก่อนๆ”ค

  • ใต้เงาบุษบา    ตอนพิเศษ ‘ใต้เงาบุษบา’ (1)

    คุณชายพงศกรมองหญิงสาวที่ลูกชายคนรองพาเข้าบ้านด้วยความคาดไม่ถึง ส่วนคุณรุจีรัตน์เองก็ถึงกับอ้าปากค้าง ลูกชายบอกว่าจะกลับบ้านและอยากพาใครคนหนึ่งมากราบพ่อกับแม่ คุณรุจีรัตน์ก็แอบหวังว่าจะเป็นสาวลูกสาวผู้หลักผู้ใหญ่ทางเหนือแต่เมื่อเห็นหน้าก็ได้แต่อึ้งร่างสูงใหญ่ของกิตติกรนั่งเคียงคู่กับพิมพ์ปรางที่พื้นและพาหญิงสาวกราบพ่อกับแม่ของเขา“เดี๋ยวนะตากลาง นี่มันอะไรกัน ทำไมถึง...”คุณรุจีรัตน์เงียบลงเพราะมือใหญ่ของคุณชายพงศกรวางลงบนมือเบรกเอาไว้แล้วท่านก็พูดขึ้นแทน“ไปรักไปชอบกันตอนไหนล่ะ”“ก็นานแล้วครับ”ลูกชายตอบเสียงเบา ไม่อยากสาธยายและพยายามบอกให้กว้างเข้าไว้จะได้ไม่ดูน่าสงสัย“นี่อย่าบอกนะว่าที่ตามไปอยู่เชียงใหม่เพราะแม่ปรางนี่”คนเป็นแม่ถามอย่างไม่อยากเชื่อ ทำเอาพิมพ์ปรางหน้าเสีย“พูดอะไรแบบนั้นคุณรุจี”คุณชายปรามอีกครั้งทำให้คุณรุจีรัตน์ถึงกับหน้างอ“แล้วนี่ที่พามาหาพ่อกับแม่กลางตัดสินใจได้แล้วใช่ไหมเรื่องหมั้นเรื่องแต่ง”เมื่อบิดาถามขึ้นชายหนุ่มก็จับมือบางของพิมพ์ปรางมากุมเอาไว้ ก่อนจะบอกในสิ่งที่เขาต้องรีบพาเธอมาที่บ้าน“ผมพาปรางมาเพราะอยากเรียนให้คุณพ่อคุณแม่ทราบว่า...ปรางท้อง”“หา!!”

  • ใต้เงาบุษบา    33.สองใจผูกพัน (2)

    พิมพ์ปรางมีสีหน้าลำบากใจเมื่อกิตติกรคุยเรื่องอนาคตของพวกเขาแล้วบอกว่าจะพาเธอไปกราบคุณชายพงศกรกับคุณรุจีรัตน์หลังจากฝากท้องเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มลูบผมยาวสลวยของคนในอ้อมกอดเบาๆ ปลอบใจ เพราะสายตาของคนที่เงยหน้ามองเขาดูหวาดหวั่นไม่มั่นใจอย่างเห็นได้ชัดหลังจากอาบน้ำเสร็จเขาก็พาหญิงสาวมานั่งคุยกันบนเตียง เพราะเขาไม่มีเสื้อผ้ามีเพียงผ้าขนหนูพันเอวแล้วอากาศตอนเช้าก็ค่อนข้างหนาว เขาต้องการจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยโดยเร็ว“ถ้าพวกท่านรู้ช้ากว่านี้จะยิ่งไม่พอใจ ปรางท้องตั้งสองเดือนแล้ว”เขาถามเธอแล้วว่าท้องกี่เดือน และถ้านับตามเวลาจะเป็นช่วงปีใหม่ที่ได้อยู่ด้วย เพราะทั้งคู่ใช้เวลาด้วยกันไม่มากนัก มีแค่ตอนงานยี่เป็งกับปีใหม่เท่านั้น“แต่ปรางกลัวท่านจะโกรธ ปรางไม่ควรตีเสมอลูกท่าน”“นี่มันสมัยไหนแล้วปราง เจ้าชายยังแต่งงานกับสามัญชนเลย ฉันไม่ได้มียศฐาบรรดาศักดิ์อะไรติดตัวมาสักหน่อย”“ปรางเป็นเด็กในบ้าน”กิตติกรถอนหายใจ ก้มลงจูบหน้าผากสวย ก่อนจะกระซิบ“จะเด็กในบ้านหรือนอกบ้าน ปรางก็เป็นเมียฉัน”พิมพ์ปรางอดยิ้มบางกับคำพูดของชายหนุ่มไม่ได้“อย่าคิดมาก เธอเป็นเหมือนคนในครอบครัว ทุกคนในบ้านรักและเอ็นดูเ

  • ใต้เงาบุษบา    33.สองใจผูกพัน (1)

    เนินอกขาวละออตาเผยมาต่อหน้า กิตติกรวางมือไล้เบาๆ แล้วก้มลงพรมจูบเบาๆ อย่างถ้วนทั่วแม้แต่บนเนื้อผ้าลูกไม้ทำเอาพิมพ์ปรางใจสั่น ปากได้รูปเม้มยอดอกสวยผ่านเนื้อผ้าอย่างหยอกล้อ ตาคมเหลือบมองหน้าสวยที่กำลังสุกปลั่งพร้อมยิ้มมุมปากแล้วขยับขึ้นไปกระซิบข้างหูหญิงสาว“ปรางหอม น่ากินทั้งตัวเลย”“เว่อร์ไปแล้วค่ะ”“ไม่เชื่อเดี๋ยวกินให้ดู”พูดแล้วก็แนบปากประกบกับปากสีสวยกัดเม้มเบาที่กลีบปากอิ่ม ให้หญิงสาวเผยอเปิดรับเขาอีกครั้ง คราวนี้กิตติกรดูดดึงลิ้นเล็กร้อนแรงจนอีกฝ่ายอึกอักประท้วง มือหนาปลดตะขอเสื้อชั้นในไปพร้อมกัน ก่อนจะผละออกและเล็มระเรื่อยๆ ลงไปหาอกอวบคู่สวยที่อวดโฉมอย่างเต็มตาเมื่อจัดการกับเสื้อผ้าส่วนบนของคนใต้ร่างจนหมดร่างสูงใหญ่ก็ก้มลงไปดูดดื่มทรวงงาม มืออีกข้างเกาะกุมเคล้นคลึงราวกับกำลังสนุกมือ กระตุ้นเลือดลมสาวทั้งสองข้างพร้อมกันสลับไปมาอย่างไม่ให้น้อยหน้าพิมพ์ปรางรู้สึกราวกับกำลังมีกระแสไฟแปลบปลาบวิ่งไปทั่วร่าง มือบางขยับลูบแขนกำยำกับบ่าแกร่งอย่างไม่รู้ตัว รู้เพียงว่าอยากระบายบางสิ่งที่อัดแน่นขึ้นในกายออกไปบ้าง“คุณกลาง...อย่า...แกล้งปราง”หญิงสาวพึมพำคนที่ได้ยินจึงเงยหน้าขึ้นมามองเห็น

  • ใต้เงาบุษบา    32.รักนำทาง

    ภายในห้องพอชายหนุ่มเข้ามาร่างบางก็เบี่ยงขยับจะรีบสวนออกไป แต่แขนกำยำคว้าเอวเล็กเอาไว้แล้วปิดประตูลงเสียก่อน เขารวบคนตัวเล็กเข้ามากอดหมับ ใบหน้าคมก้มลงแนบคำคอ ทำเอาพิมพ์ปรางตกใจจนเกือบจะร้องออกมา ทว่าก็ต้องหยุดลงเพราะเสียงเข้มที่กระซิบข้างหู“ฉันรักปรางนะ”ทุกอย่างรอบตัวหญิงสาวราวกับหยุดนิ่งในฉับพลัน ไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้จากชายหนุ่มมาก่อน แถมเขายังพูดขึ้นมาอย่างกะทันหันจนพิมพ์ปรางรู้สึกเหมือนถูกไฟชอร์ตวูบหนึ่ง“ฉันรู้ว่าทำให้เธอเจ็บปวดเสียใจ แต่ไม่เคยเห็นเธอเป็นของเล่นอย่างที่เธอพูดเลย ฉันจริงจังกับเธอ ตั้งใจจะดูแลเธอจริงๆ”กิตติกรอธิบายต่อเมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนนิ่งไม่ได้ขยับตัวหรือดิ้นรนเพื่อหนี เป็นโอกาสให้เขาได้พูดสิ่งที่อยู่ในใจ“ก่อนหน้านั้นฉันยอมรับว่าไม่ได้คิดว่ารักเธอ แต่ไม่ได้คิดจะทิ้งเธอตั้งแต่คืนวันงานยี่เป็งแล้ว”ชายหนุ่มจับให้คนร่างเล็กหันกลับมาเพื่อสบตาคู่สวยตรงๆ อยากให้มองเห็นว่าเขาจริงใจกับเธอ ที่พูดไปไม่ได้เสแสร้งเลยสักนิด“ฉันเคยทำผิด ทำให้เธอต้องออกจากบ้าน ปล่อยให้เธอจมอยู่กับความทุกข์คนเดียวทั้งที่เธอก็เป็นแค่เด็กสาวคนหนึ่ง ฉันจะไม่มีวันทำผิดซ้ำสอง”พิมพ์ปรางซึมซับทุ

  • ใต้เงาบุษบา    31.ตัวช่วยพิเศษ (2)

    สองสาวที่ไปขี่มอเตอร์ออกไปเที่ยวดูธรรมชาติรอบๆ โฮมสเตย์กลับมายังที่พักเพราะอากาศเริ่มเย็นลง ท้องฟ้าใกล้มืด“เดี๋ยวสองเอามอไซค์ไปคืนเอง ปรางกลับห้องก่อนได้เลย”พิมพ์ปรางพยักหน้ารับ มาธาวีขี่มอเตอร์ไซค์ที่เช่าต่อไปอีกหน่อยตรงที่จอด แต่รถสองคันที่เห็นทำให้หญิงสาวต้องหยุดหันมอง ทะเบียนรถคันหนึ่งเป็นรถของที่บ้านเธอ ส่วนยี่ห้อกับสีของรถอีกคันเป็นรถที่เธอเห็นบ่อยในช่วงนี้“นั่นมันรถคุณกลางใช่ไหมหว่า”เธอยังจำทะเบียนรถของกิตติกรไม่ได้ แต่รถของชายหนุ่มก็ไม่ใช่แบบคนแถวนี้จะซื้อมาขับ หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกทั้งที่ตัวเองไม่ใช่พิมพ์ปราง เพื่อความชัวร์จึงเอามือถือกดหามารดาของตน“คุณแม่ให้คนขับรถอยู่ที่นี่เหรอคะ ไม่ใช้รถเหรอ”มาธาวีเลียบเคียงถามไป ทั้งที่จำได้ว่าเมื่อวานตอนมาส่งพวกเธอคนขับรถขับออกไปแล้ว ตอนแรกเธอตั้งใจจะขับรถมาเองแต่เพราะไม่ชินทางและไม่เคยมา มารดาจึงให้คนของท่านมาส่งซึ่งยังไงก็ปลอดภัยมากกว่า“อ๋อ หนึ่งน่ะลูก เห็นมาถามหาสอง ว่ามีเรื่องจะคุยด้วยตั้งแต่เมื่อวานไปหาที่โรงเรียนไม่เจอ พอแม่บอกว่าไปเที่ยวเขาก็บ่นว่าไม่ชวน ถามว่าอยู่ที่ไหนแล้วเรียกคนขับรถให้พาไปส่ง แม่คิดว่าพี่เ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status