Share

ท่าทางไร้เดียงสา

last update Last Updated: 2025-08-03 01:00:27

ณ ห้องตรวจสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มากนักในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ใบหน้าพริ้มเพราที่หวานเกินชายนั่งฟังคุณหมออธิบายถึงผลตรวจร่างกายของตัวเองเงียบ ๆ 

วันนี้เป็นวันนัดตรวจร่างกายหลังจากที่จันทร์จ้าวรับยาปรับฮอร์โมนมาครบสามเดือนพอดิบพอดี หัวคิ้วที่ขมวดกันเล็กน้อยของคุณหมอที่นั่งตรงหน้าเผยออกมาให้เห็นเพียงเสี้ยววินาที และนั่นทำให้ร่างบางอดรู้สึกเป็นวิตกตามไปด้วย

“ผลการตรวจเช็กระดับฮอร์โมนของคุณจันทร์จ้าวหลังจากที่ได้รับยาไปแล้วถือว่าดีขึ้นกว่าเดิมมากนะครับ ส่วนผนังมดลูกก็แข็งแรงขึ้น ไข่ที่ผลิตในแต่ละเดือนก็ถือได้ว่ามีสภาพที่สมบูรณ์กว่าแต่ก่อนมากนะครับ ตอนนี้อย่าเพิ่งไปกังวลหรือกดดันตัวเองนะครับ เรายังมีเวลาอีกเยอะ แค่ทานยาให้ครบให้ตรงตามเวลา และมาหาหมอตามนัดทุกครั้ง หมอเชื่อว่าอีกไม่นานน้องต้องมาแน่ ๆ ครับ” คุณหมอวัยกลางคน สวมแว่นท่าทางใจดีเอ่ยกับคนไข้ด้วยรอยยิ้ม

“ค่ะ” สีหน้าที่คลายความกังวล และลมหายใจที่ลอบผ่อนออกมาเบา ๆ จากจันทร์จ้าว ทำให้รู้ว่าเจ้าตัวรู้สึกโล่งใจมากแค่ไหนกับคำอธิบายของคุณหมอ เรื่องทายาทเป็นเรื่องที่ทั้งคู่คาดหวังเอาไว้เป็นอย่างมาก อีกทั้งพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายก็กดดันไม่น้อย

“ต่อไปหมอจะปรับโดสของยาเพิ่มขึ้นอีกระดับนะครับ ช่วงเวลาสามเดือน ต่อจากนี้อาจจะมีผลข้างเคียงเรื่องของอารมณ์แปรปรวนมากขึ้นกว่าเดิมอีกนิดหน่อย วันนัดครั้งหน้าหมออยากให้คุณจันทร์จ้าวพาสามีมาด้วยนะครับ เราจะมาฟังผล และสรุปภาพรวมการทานยาปรับฮอร์โมนกัน”

“ค่ะ คุณหมอ”

“ที่สำคัญเลยก็คือต้องใจเย็นๆ อย่าเครียด เพราะความเครียดของคนท้องส่งผลกระทบตั้งแต่ก่อนการปฏิสนธิยันคลอดเลยนะครับ วันนี้ไม่มีอะไรแล้ว อีกสามเดือนข้างหน้าเจอกันอีกทีครับ”

จันทร์จ้าวขับรถออกจากโรงพยาบาลมาในเวลาประมาณสิบเอ็ดโมง หญิงสาวรีบต่อสายถึงสุริเยนทร์ทันที เพราะว่าตั้งใจจะแวะไปทานข้าวกับสามีที่บริษัท ปกติแล้วเธอจะเป็นคนตื่นมาทำอาหารกลางวันให้สามีทุกวัน ยกเว้นวันนี้ที่มีนัดกับคุณหมอแต่เช้า ไม่รู้ว่าผู้เป็นสามีจะให้ม่านดาวจัดการให้หรือยัง ถ้าหากว่ายังเธอจะได้ซื้ออาหารเข้าไป

เสียงรอสายกินเวลาไปเกือบนาทีจนในที่สุดเสียงก็เงียบลง หัวคิ้วบางเลิกขึ้นอย่างนึกสงสัยว่าเหตุใดสามีถึงไม่ยอมรับสาย จันทร์จ้าวรู้ดีว่าสุริเยนทร์เป็นพวกบ้างานมากขนาดไหน เพราะอย่างนี้เธอถึงได้ย้ำนักย้ำหนาเรื่องทานข้าวกลางวัน เนื่องจากสามีของเธอเคยป่วยเป็นโรคกระเพาะจนถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลมาแล้ว

เมื่อติดต่อผู้เป็นสามีไม่ได้บุคคลที่จันทร์จ้าวจะโทรหาเป็นรายต่อไปก็คือหญิงสาวผู้ช่วยเลขาที่นั่งทำงานหน้าห้อง

“สวัสดีค่ะ คุณจันทร์” ปลายสายเอ่ยทักทายเสียงใส

“คุณจันทร์อีกแล้ว บอกให้เรียกพี่ ไม่เคยจะจำ” จันทร์จ้าวดุคนที่เธอรู้สึกเอ็นดูเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง เพราะตลอดระยะเวลาที่สอนงานอีกฝ่ายมาสามเดือนเต็มก่อนที่เธอจะวางมือ สิ่งที่จันทร์จ้าวสัมผัสได้มาตลอดคือม่านดาวเป็นคนน่ารัก นิสัยดี มีมารยาท และที่สำคัญทำงานเก่งถูกใจเธอเป็นที่สุด

“ขอโทษค่ะ ดาวไม่กล้า ขอเรียกคุณดีกว่าค่ะ”

“ตามใจเธอแล้วกัน ฉันแค่จะโทรมาถามว่าท่านประธานอยู่ที่บริษัทหรือเปล่า” จันทร์จ้าวเอ่ยถามถึงประเด็นที่อยากรู้ทันที

“อยู่ค่ะ บอสกำลังทานข้าวอยู่ค่ะ เมื่อวานบอสบ่นปวดท้อง วันนี้ดาวเลยให้บอสทานข้าวเร็วหน่อยค่ะ จะได้ทานยา”

“...”

จันทร์จ้าวขมวดคิ้วสงสัย สามีของเธอปวดท้องงั้นเหรอ ทำไมเธอถึงไม่รู้เรื่อง

“คุณจันทร์ไม่ต้องห่วงนะคะ ต่อไปนี้ดาวจะคอยเตือนบอสเรื่องทานข้าวให้ตรงเวลาเองค่ะ” เสียงของปลายสายทำให้จันทร์จ้าวหลุดออกจากภวังค์

“อืมขอบใจมาก บอกท่านประธานด้วยว่าตอนบ่ายฉันจะเข้าไปที่บริษัท”

“ค่ะคุณจันทร์”

ม่านดาว เดินถือแก้วนมเข้ามาภายในห้องทำงานของประธานหนุ่มแทนที่จะเป็นกาแฟดำเหมือนเช่นเคย ร่างบางจัดการวางแก้วเซรามิกไว้ด้านขวามือของผู้เป็นเจ้านาย ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้สุริเยนทร์ต้องเลิกคิ้วด้วยความสงสัย

“บ่ายนี้ทานนมไปก่อนนะคะ ท้องของบอสยังไม่ค่อยดี ทานกาแฟเยอะจะยิ่งแย่ อีกอย่างบอสเพิ่งทานยาไปด้วย ช่วงนี้ทานกาแฟแค่ตอนเช้าก็พอแล้วนะคะ” ผู้ช่วยเลขาร่างเล็กพูดพร้อมกับส่งยิ้มน่ารักมาให้ สุริเยนทร์เงยหน้าจากงานในมือ ทำให้สายตาคมสบตากับม่านดาวโดยบังเอิญ

“เดี๋ยวนี้เธอกล้าสั่งฉันแล้วเหรอ” สุริเยนทร์พูดน้ำเสียงตำหนิ แต่ทว่ามุมปากกลับยกยิ้มรู้สึกสนุกที่ได้แกล้งเด็กคนนี้

“ปะ เปล่านะคะ ดาวไม่มีเจตนาแบบนั้น ดาวขอโทษค่ะที่ตัดสินใจเอง ดาวแค่เป็นห่วงบอสค่ะ” ม่านดาวลนลานพูดจาตะกุกตะกักดวงตาคู่สวยสีเดียวกันกับของจันทร์จ้าวหลุบมองพื้น พร้อมกับส่ายหัวปฏิเสธจนผมหน้าม้าสะบัดไปมาอย่างน่าเอ็นดู

ประธานหนุ่มมองดูผู้ช่วยเลขาที่ทำงานกับเขาเดือนนี้เข้าเดือนที่หกแล้ว แต่ท่าทางที่เหมือนเด็กกลัวถูกผู้ใหญ่ดุของม่านดาวที่มีต่อเขากลับไม่ได้ลดลงไปตามกาลเวลาเลยสักนิด

บางทีสุริเยนทร์ยังนึกสงสัยว่าเขาดูน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงจะเป็นคนที่เข้มงวดกับการทำงานก็จริง แต่เขาไม่ได้เจ้าอารมณ์ดุลูกน้องโดยที่ไม่มีเหตุผล อีกอย่างเขาก็ไม่เคยดุผู้ช่วยเลขาคนนี้เลยสักครั้ง ทำไมม่านดาวถึงได้ชอบทำทีท่าเกรงกลัวแปลก ๆ

“เธอเป็นห่วงฉันด้วยเหรอ” สุริเยนทร์เอ่ยถามน้ำเสียงคล้ายกำลังหยอกเย้าคนอายุน้อยกว่า ทำงานกันมาตั้งครึ่งค่อนปีมันก็ไม่แปลกที่เขาจะรู้สึกเอ็นดูเด็กคนนี้เหมือนน้องสาวคนหนึ่ง นอกจากม่านดาวจะทำงานได้ดีแล้ว ด้วยความเป็นคนที่มีสัมมาคารวะ มีน้ำใจ และอายุน้อยที่สุด ทำให้เด็กคนนี้เป็นที่เอ็นดูของพนักงานแทบทุกคนในบริษัท

“...” ใบหน้าขาวเนียนเปลี่ยนเป็นสีซับเลือดโดยที่สุริเยนทร์ไม่ทันสังเกตเห็น

“แล้วมีอะไรอีกไหม” เมื่อเห็นว่าผู้ช่วยเลขาก้มหน้างุดไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ประธานหนุ่มจึงเปลี่ยนเรื่องคุย

สงสัยจะแกล้งแรงไปหน่อย อีกฝ่ายคงกำลังโกรธเป็นแน่สุริเยนทร์คิดในใจ

“เออ เมื่อกี้คุณจันทร์โทรมาบอกว่าจะเข้ามาที่นี่ค่ะ คุณจันทร์บอกว่าโทรหาบอสแล้วแต่บอสไม่รับสาย” ม่านดาวรายงาน

“อ้าวเหรอ สงสัยฉันคงเผลอไปปิดเสียง” สุริเยนทร์คว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดูพบว่ามีสายที่ไม่ได้รับจากภรรยาอยู่จริง ๆ

“ค่ะ”

“ขอบใจมากนะสำหรับอาหารกลางวัน อาหารไทย ๆ แบบนี้ฉันไม่ได้ทานมานานแล้ว” สุริเยนทร์พูดเพราะปกติแล้วจันทร์จ้าวทำอาหารไทยไม่เก่งเลย อาหารที่ภรรยาเขาถนัดจะเป็นพวกอาหารอิตาเลียนหรือไม่ก็ฝรั่งเศสเสียมากกว่า แต่ถ้าวันไหนอยากกินเป็นพิเศษเขาจะสั่งแม่บ้านเป็นคนทำให้ทาน แต่ก็นาน ๆ ครั้งได้ เพราะเขาอยากทานอาหารฝีมือภรรยามากกว่า

“ถ้าบอสไม่รังเกียจ พรุ่งนี้ดาวทำมาให้อีกก็ได้นะคะ” ม่านดาวเสนอตัว มือบางสองข้างประสานกันแน่น ท่าทางราวกับกำลังลุ้นคำตอบของผู้เป็นนาย

“ไม่เป็นไร จันทร์เขาทำให้ฉันทุกเช้าอยู่แล้ว”

ก๊อก ก๊อก

ก่อนที่ทั้งคู่จะทันได้พูดอะไรกันต่อ เสียงเคาะประตูพร้อมกับร่างสูงบอบบางอรชรในชุดเดรสเข้ารูปสีน้ำตาลอ่อนดูสวยน่ารักของจันทร์จ้าวก็ก้าวเข้ามาภายในห้องพร้อมกับรอยยิ้มหวานที่ส่งมาให้ผู้เป็นสามี

“สวัสดีค่ะ คุณจันทร์”

“สวัสดีจ้ะ ฉันซื้อขนมมาฝากด้วยนะ วางไว้บนโต๊ะหน้าห้องทำงาน ฉันฝากเอาไปแบ่งให้คนอื่น ๆ ด้วยล่ะ”

“ได้ค่ะ” ม่านดาวพูดก้มหัวเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไป ปล่อยให้สองสามีภรรยาอยู่กันตามลำพัง

“จันทร์ เฮียขอโทษนะครับที่ไม่ได้รับสาย เฮียไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์เลย”

“ไม่เป็นไรค่ะ จันทร์แค่จะโทรมาถามว่าเฮียทานข้าวหรือยัง จันทร์จะได้ซื้อเข้ามาให้ แล้วเที่ยงนี้ดาวสั่งอะไรมาให้เฮียทานเหรอคะ” จันทร์จ้าวถามสามี ก่อนจะวางกระเป๋าถือแบรนด์ดัง และถุงขนมคุกกี้ธัญพืชที่สุริเยนทร์ชอบทานพร้อมกับกาแฟในตอนเช้าไว้บนโต๊ะรับแขก

“ไม่ได้สั่ง พอดีดาวทำกับข้าวมาเผื่อน่ะ เฮียไม่อยากรอนานก็เลยกินของดาว”

“ทำไมดาวถึงทำมาเผื่อเฮียคะ” ดวงตาสีน้ำตาลฉายแววฉงน

“ไม่ใช่ ๆ ดาวบอกว่าทำมาเผื่อต้าร์ แต่วันนี้ต้าร์มันออกไปข้างนอกยังไม่กลับมา เฮียก็เลยได้รับอานิสงส์แทนก็แค่นั้น” เมื่อเห็นว่าผู้เป็นภรรยานิ่วหน้า และจ้องกันราวกับจะจับผิด สุริเยนทร์เลยรีบอธิบายให้คนรักหายข้องใจ

“จันทร์ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ แล้วอร่อยไหมคะ กับข้าวฝีมือม่านดาว” จันทร์จ้าวยิ้มหวานส่งให้ผู้เป็นสามี

“อืม ก็ใช้ได้เลยนะ ดาวทำแกงเขียวหวานไก่ เฮียไม่ได้กินมานานแล้ว”

“ไว้คราวหน้าจันทร์ทำให้เฮียนะ จันทร์จะให้ป้าน้อยช่วยสอน” จันทร์จ้าวเดินเข้าหาร่างสูงที่อ้าแขนรอรับเธออยู่ก่อนแล้ว พร้อมหย่อนสะโพกอวบลงบนตักแกร่งของสามี สองแขนเรียนเล็กยกขึ้นโอบรอบคอหนาไว้แน่น

“ลำบากหรือเปล่า ถ้าลำบากไม่ต้องทำนะ เฮียทานอะไรก็ได้แค่จันทร์เป็นคนทำ” สุริเยนทร์เอ่ยพร้อมกับยิ้มน้อย ๆ

“ปากหวานจังเลยนะคะ จันทร์ชักอยากชิมแล้วสิ” ดวงตาสีน้ำตาลไหม้เป็นประกายวาววับอย่างที่สุริเยนทร์ชอบมอง หันมาสบตาคู่คมของผู้เป็นสามีอย่างท้าทาย

“อยากชิมก็ไปล็อกห้องเลยครับเมีย”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กว่าจันทร์จะสิ้นแสง   บทส่งท้าย

    สองปีผ่านไปตะวันเด็กชายตัวอ้วนกลมแฝดผู้พี่ และเจ้าเอยเด็กหญิงตัวน้อยแฝดผู้น้องที่ลืมตาดูโลกหลังฝาแฝดคนพี่แค่หนึ่งนาที เนื่องจากตอนนั้นคุณหมอดึงตะวันออกมาก่อน เพราะเจ้าตัวอ้วนอยู่ด้านหน้าแถมยังเบียดน้องสาวจนมิด“มะ หม่ำ” เด็กอ้วนร้องประท้วงเมื่อข้าวบดที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ และผักของโปรดขาดช่วง เพราะผู้เป็นแม่มัวแต่หันไปป้อนน้องสาวของตัวเองอยู่“แป๊บหนึ่งค้าบบ คนเก่ง” จันทร์จ้าวหันไปเอ่ยกับลูกชายด้วยความเอ็นดู สองสามวันมานี้เธอต้องดูแลสองแฝดด้วยตัวเอง ปกติจะมีป้าน้อยมาช่วยอีกแรง แต่สองวันก่อนป้าน้อยขอลากลับไปเยี่ยมบ้านที่ต่างจังหวัด“แอ้” สาวน้อยเจ้าเอยหันไปส่งเสียงอ้อแอ้ใส่ผู้เป็นพี่ชายอย่างตะวัน ถ้าเจ้าตัวพูดได้คงจะพูดว่า ‘หัดรอซะบ้าง พี่ชาย’เสียงบีบแตรรถยนต์ดังขึ้นสองครั้ง จันทร์จ้าวที่ป้อนข้าวสองแฝดอยู่ตรงสวนหน้าบ้านพอดีจึงชะโงกหน้าไปดูว่าบุคคลที่มาหาเป็นใคร พอเห็นว่าเป็นรถของยี่หวาเพื่อนสนิท เจ้าตัวจึงรีบเดินไปเปิดประตูรั้วให้หลังจอดรถ

  • กว่าจันทร์จะสิ้นแสง   รับผลกรรม

    ชายตัวโตที่นั่งอยู่ภายในรถกระบะติดฟิล์มดำสนิท กดวางสายจากผู้เป็นเจ้านาย ก่อนจะหันมาออกคำสั่งให้ลูกน้องขับตามรถของเป้าหมายไปในทันที“ผมนึกว่ามันจะไม่ออกมาซะแล้ว ลูกพี่” ชายร่างผอมสูงที่นั่งเบาะด้านหลังพูดกับชายตัวโตที่เป็นหัวหน้า หลังพวกมันสามคนมานั่งเฝ้านอนเฝ้าอยู่หน้าคอนโดของม่านดาวได้สี่ห้าวันแล้ว“หึ ยังไงมันก็ต้องออก ใครมันจะไปทนอยู่แต่ในคอนโดได้ตลอดไปวะ”“งานนี้เจ๊ให้จัดการยังไงครับ” คนขับหน้าโหดที่มีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ที่ใบหน้าเอ่ยถามผู้เป็นลูกพี่“เอาให้พิการ” ชายตัวโตแสยะยิ้มชั่วร้ายที่ใครได้เห็นก็ต้องรู้สึกหวาดกลัวทางด้านม่านดาวตอนนี้เจ้าตัวกำลังขับรถออกจากกรุงเทพมุ่งหน้าไปยังจังหวัดกาญจนบุรีบ้านเกิดของผู้เป็นแม่ จำได้คร่าว ๆ ว่าแม่มีพี่สาวอยู่คนหนึ่ง เอาจริง ๆ เธอก็จำหน้าค่าตาไม่ได้ด้วยซ้ำ จำได้ว่าเมื่อครั้งยังเด็กแม่เคยพามาเยี่ยมยายครั้งหนึ่งก่อนที่ท่านจะเสีย และหลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยได้พบเจอญาติพี่น้องฝั่งแม่อีกเลยข้อมูลที่พอจะรู้ในตอนนี้ก็คือชื่ออำเภอ ชื่อหมู่บ้าน แล

  • กว่าจันทร์จะสิ้นแสง   แผนการสุดท้ายของม่านดาว

    เปลือกตาสีไข่ขยับเล็กน้อย ก่อนจะลืมขึ้นช้า ๆ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคล้ายใบเมเปิ้ลแห้งกะพริบขึ้นลงเพื่อปรับตัวในการรับแสง หลังจากสลบไปนานกว่าห้าชั่วโมงความรู้สึกต่อมาที่จันทร์จ้าวสัมผัสได้หลังจากลืมตาขึ้นนอกเหนือจากแสงสีขาวของหลอดไฟกลางห้องที่ส่องกระทบใบหน้าซีดเผือดแล้วคืออาการคอแห้งผาก ปวดเมื่อยตามลำตัว และความรู้สึกเจ็บจี้ดบริเวณศีรษะด้านซ้าย“อ๊ะ”ร่างที่นอนอยู่บนเตียงครางออกมาเบา ๆ เมื่อเจ้าตัวพยายามขยับแขน แต่กลับพบว่ามีอาการเจ็บร้าวจนไม่สามารถขยับได้“จันทร์ ลูกฟื้นแล้ว”เป็นเสียงของกุลจิราพูดขึ้นมาด้วยความดีใจ หญิงสูงวัยโผเข้าไปหาลูกสาวเพียงคนเดียวบนเตียงคนไข้ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี มือเหี่ยวย่นตามวัยเอื้อมไปกดปุ่มสีแดงบนหัวเตียงอย่างรวดเร็วเพื่อเรียกพยาบาลเข้ามาดูอาการ“ขวัญเอ๋ยขวัญมานะลูก เจ็บตรงไหนหรือเปล่า อย่าพึ่งขยับตัวนะ แม่ตามหมอแล้ว” กุลจิราร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ หลังนั่งเฝ้าดูอาการของลูกสาวมากว่าสามชั่วโมงตั้งแต่เดินทางมาถึง“แม่ จันทร์อยู่ไหนคะ&rdquo

  • กว่าจันทร์จะสิ้นแสง   กัดไม่ปล่อย

    “หึ รู้แล้วยังไงคะ มันเกี่ยวกับเรื่องที่ดาวท้องกับท่านประธานตรงไหน” ม่านดาวชะงักชั่วครู่ก่อนจะปรับน้ำเสียงไม่ให้สั่น แถมยังลอยหน้าลอยตาพูด สีหน้าแสดงออกว่าไม่แคร์เรื่องนี้เลยสักนิด“ป้าไม่รู้นะว่าหนูม่านดาวรู้สึกโกรธเกลียดครอบครัวของป้าทำไม แต่ว่าเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับพี่จันทร์เขานะลูก เพราะถ้าจะโกรธจะเกลียด หนูควรจะมาลงที่ป้ามากกว่าไม่ใช่เหรอ” กุลจิรามองใบหน้าของคนที่มีส่วนคล้ายกับลูกสาวของตัวเองหลายส่วน โดยเฉพาะดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ถอดแบบมาจากผู้เป็นสามีของเธอเอง“ทำแบบนั้นจะไปสนุกอะไรล่ะคะ สู้ให้คนเจ็บเป็นลูกคุณป้าไม่ดีกว่าเหรอคะ ลูกเจ็บมีหรือแม่จะไม่เจ็บ”“ยอมรับแล้วเหรอม่านดาว ว่าทุกอย่างที่ทำไปทั้งหมด ก็เพื่ออยากให้ฉันเจ็บ” จันทร์จ้าวเอ่ยเสียงสั่น“ใช่!” ม่านดาวตะคอก“ม่านดาว หยุดเถอะ อย่าทำแบบนี้อีกเลย จะให้ฉันทำอะไรเพื่อเป็นการชดเชยให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็บอกมาได้เลย”“คุณจันทร์จะทำให้ฉันจริง ๆ เหรอคะ” ม่านดาวยิ้มหยัน“ฉันทำให้ได้ เธอบ

  • กว่าจันทร์จะสิ้นแสง   เผชิญหน้า

    ตอนนี้ภายในคอนโดของม่านดาวที่มานพเป็นคนซื้อให้ มีร่างสูงของชายวัยกลางคนนั่งกุมขมับทำหน้าเครียดอยู่บนโซฟา และข้างกันมีหญิงร่างเล็กเจ้าของห้องนั่งอยู่ข้าง ๆแววตาที่แสดงออกถึงความไม่พอใจฉายออกมาจากดวงตาสีน้ำตาลเข้มของม่านดาวชัดเจนเพียงแต่มานพไม่มีโอกาสได้เห็น ภายใต้ใบหน้าน่ารักแสดงออกให้เห็นเพียงแค่ว่าเจ้าตัวรู้สึกทุกข์ใจอย่างมากกับเรื่องราวที่กำลังพบเจอตอนนี้ ต่างจากในใจที่รู้สึกรำคาญหนุ่มวัยกลางคนคนนี้เต็มแก่ตอนนี้ม่านดาวกำลังพูดโน้มน้าวใจให้มานพยอมทำตามแผนที่ตัวเองได้วางไว้ นั่นก็คือการปล่อยเธอให้เป็นอิสระสักทีเจ้าตัวถึงขั้นลงทุนส่งรูปภาพของตัวเองกับมานพไปให้คุณผกามาศเมียแก่ที่บ้านได้ดู เพื่อให้ผู้หญิงคนนั้นรู้ตัวว่ากำลังโดนสามีสวมเขาเพื่อหวังจะทำลายแผนการที่มานพจะขอหย่าเมียเพื่อมาหาตามที่ได้พูดไว้ก่อนหน้าและก็เป็นไปตามคาดคุณผกามาศเดือดดาลเป็นฟืนเป็นไฟไม่ยอมหย่าให้กับมานพ แถมยังประกาศกร้าวว่าจะตามล่าตัวกิ๊กคนนั้นมาตบสั่งสอนให้ได้ ม่านดาวเลยใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้าง ทำทีว่ากลัวโดนเมียหลวงตามฆ่า เลยมาอ้อนวอนขอร้องให้มานพปล่อยเธอไปแต่ดูเหมือนว่าผู้

  • กว่าจันทร์จะสิ้นแสง   ความจริงถูกเปิดเผย

    สามวันต่อมา(รูปภาพที่ตรวจครรภ์ ขึ้นสองขีด)‘คุณจันทร์ ดาวท้องค่ะ คุณจันทร์ช่วยพูดให้สามีของเรารับผิดชอบดาวกับลูกในท้องได้ไหมคะ ดาวขอร้อง ได้ไหมคะคุณจันทร์’‘ตอนนี้เฮียเยนไม่ยอมรับดาวกับลูกเพราะยังไม่ได้หย่ากับคุณจันทร์ แต่ดาวเชื่อว่าลึก ๆ แล้วเฮียเยนก็อยากรับผิดชอบลูกเหมือนกัน เพราะเฮียเองก็อยากมีลูกมาตั้งนานแล้ว’‘คุณจันทร์ได้โปรดเห็นแก่เด็กตาดำ ๆ ที่กำลังจะเกิดมาได้ไหมคะ’ความจริงที่ได้รับรู้วันนี้มันสร้างความเจ็บปวดให้จันทร์จ้าวเป็นอย่างมาก น้ำตาที่เดิมทีเหือดแห้งไปบ้างแล้วกลับมานองเต็มใบหน้าอีกครั้ง จากที่ตัดสินใจว่าเย็นนี้จะลองปรับความเข้าใจกับผู้เป็นสามี จะลองฟังคำอธิบายของอีกฝ่ายดูสักครั้ง จะหันหน้าคุยกันดี ๆ โดยใช้เหตุผลเพื่อแก้ไขปัญหาเหมือนที่ผู้เป็นแม่สอนแต่ตอนนี้ทุกอย่างมันสายไปแล้ว ม่านดาวท้องกับสามีของเธอ ในตอนนี้ทุกอย่างมันดูยุ่งเหยิงไปหมด เธอจะต้องทำยังไงดี จะเลิกกับสามีตามที่ม่านดาวบอกเพื่อให้ลูกของอีกฝ่ายมีพ่อ แล้วลูกทั้งสองของเธอล่ะ เจ้าแฝดในท้องก็ต้องการพ่อเหม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status