ในวันครบรอบ5ปีของการแต่งงาน จันทร์จ้าวได้รับรู้ความจริงว่าสามีที่นอนกอดกันทุกคืน"กำลังคบชู้"กับคนใกล้ตัวที่เธอไว้ใจ
view moreเวลาย่างเข้าสู่หกโมงเช้าของวันใหม่แล้วแต่ จันทร์จ้าว ก็ยังคงอยู่ที่เดิมตั้งแต่เมื่อคืน หญิงสาวรูปร่างบอบบางนั่งคุดคู้อยู่บนเตียงกว้าง แขนสองข้างกอดตัวเองไว้แน่นราวกับกำลังปลอบโยนตัวเอง ดวงตาสีน้ำตาลไหม้คล้ายสีคาราเมลเหม่อมองภาพบรรยากาศงานแต่งที่แสนชื่นมื่นของตัวเองที่ถูกฉายซ้ำไปซ้ำมาบนหน้าจอโทรทัศน์ขนาดหกสิบนิ้วภายในห้องนอนของเรือนหอ
เปลือกตาสีไข่ตอนนี้แดงช้ำ และบวมตุ่ยจากการร้องไห้มาตลอดทั้งคืน รู้สึกปวดจนเจ้าของร่างต้องปิดเปลือกตาลง จันทร์จ้าวทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างอ่อนล้า ปลายนิ้วเรียวยาวนวดคลึงบริเวณเบ้าตาไปมา น้ำสีใสที่เพิ่งเหือดแห้งพลันไหลออกมาจากหางตาอีกครั้ง
ภาพในคลิปวิดีโอที่เธอได้เห็นตั้งแต่เมื่อคืน ไหลเข้ามาเป็นในห้วงความคิดเป็นฉาก ๆ ไม่ว่าจะพยายามสลัดยังไงก็ไม่สามารถเอาภาพนั้นออกจากหัวไปได้เลย จนเธอต้องเอาคลิปวิดีโองานแต่งของตัวเองออกมาดูซ้ำ ๆ เพื่อหวังว่ามันจะช่วยลบภาพที่ทำร้ายจิตใจนั้นออกไปได้บ้าง
แต่จันทร์จ้าวคิดผิด เพราะยิ่งมองดูความสุขที่ครั้งหนึ่งมันเคยเกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว มันก็ยิ่งตอกย้ำให้เธอเจ็บมากกว่าเดิมจนแทบกระอักเลือด
ภาพชายหญิงที่ตระกองกอดกันบนเวทีด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม คำสัญญาที่เคยให้ไว้แก่กันต่อหน้าสักขีพยานนับครึ่งพัน และคำว่ารักที่เคยพร่ำบอกกันทุกคืนก่อนนอน ตอนนี้มันหลงเหลือแค่เพียงซากปรักหักพัง และน้ำตาของเธอเพียงเท่านั้น
นึกย้อนไปในเมื่อวานขณะที่เธอกำลังตื่นเต้นที่จะได้ดินเนอร์ใต้แสงเทียน และได้บอก ‘ข่าวดี’ ที่พวกเราต่างเฝ้ารอกันมานานเกือบสองปีให้แก่ สุริเยนทร์ ผู้เป็นสามีได้รับรู้
อาหารคาวหวานที่ตั้งใจทำอย่างสุดฝีมือตลอดทั้งบ่ายถูกทิ้งให้เย็นชืดบนโต๊ะ ไม่ต่างจากเทียนหอมที่ถูกจุดขึ้นเล่มแล้วเล่มเล่าก็ยังไร้วี่แววของชายอันเป็นที่รัก จนกระทั่งเสียงแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันสีเขียวจาก ‘ผู้หวังดี’ดังขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่หายไปนานนับเดือน
จันทร์จ้าวลังเลชั่วครู่ก่อนจะกดเข้าไปดูข้อความด้วยมืออันสั่นเทา ครั้งนี้มันเจ็บกว่าทุกครั้งที่ได้รับรู้เรื่องราวดังกล่าว เพราะครั้งนี้มันมาในรูปแบบของภาพเคลื่อนไหว
“ขอร้อง ขออย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย เฮีย...จันทร์ขอร้อง ขอให้ทุกอย่างที่จันทร์รับรู้มันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดได้ไหม เฮียไม่มีวันทำแบบนั้นกับจันทร์ใช่ไหม” จันทร์จ้าวร่ำร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดราวกับคนบ้า แต่ทว่าคำภาวนาของเธอก็ไร้ผล
ภาพเคลื่อนไหวของผู้ชายผู้หญิงที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างถึงพริกถึงขิงบนเตียงนอนภายในห้องพักที่ไหนสักที่ที่เธอเองก็ไม่อาจรู้ได้ ทำเอาคนดูรู้สึกเหมือนใจกำลังจะแตกสลาย
ความรู้สึกเจ็บปวดก่อนหน้านี้เทียบไม่ติดสักนิดกับความรู้สึกในตอนนี้ ภาพตรงหน้าพร่ามัวทันทีเพราะน้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลทะลักออกมาราวกับทำนบแตกอย่างอดกลั้นไม่ไหว ก้อนเนื้ออ่อนนุ่มตรงหน้าอกข้างซ้ายเจ็บเหมือนถูกมือที่มองไม่เห็นควักออกมาแล้วบีบขย้ำจนไม่เหลือชิ้นดี
ในใจร่ำร้องเฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาว่าทำผิดอะไร เธอพลาดที่ตรงไหน ทำไมคนเป็นสามีถึงได้ตอบแทนความรักของเธอด้วย ‘การนอกใจ’ ในวันครบรอบวันแต่งงานห้าปีของเรา
ความเชื่อใจอันน้อยนิดที่เหลืออยู่เพียงเพราะเธอต้องการหลอกตัวเองว่าคนเป็นสามีไม่มีทางที่จะหักหลังคู่ชีวิตด้วยกันได้หายไปในพริบตา และโอกาสสุดท้ายที่เธอหยิบยื่นให้อีกฝ่ายเพราะอยากให้เจ้าก้อนทั้งสองในท้องมีครอบครัวที่พร้อมหน้ามันจบสิ้นแล้วในวันนี้
ถึงแม้ว่าคลิปนั้นจะมีความยาวไม่ถึงนาที แต่จันทร์จ้าวก็ไม่ได้โง่ขนาดที่จะคิดไม่ได้ว่า หลังจากนั้นคนทั้งคู่จะทำอะไรกันต่อ เพียงแค่คิดมาถึงตรงนี้ก็รู้สึกเหมือนมีเข็มนับร้อยมาทิ่มแทงหัวใจ จนต้องใช้กำปั้นทุบตรงหน้าอกข้างซ้ายซ้ำ ๆ เพื่อหวังว่าความเจ็บที่เกิดขึ้นภายนอกมันจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บที่อยู่ข้างในให้ทุเลาลงไปได้บ้าง
จันทร์จ้าวร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวโยน ไหล่บางสั่นไหวไม่เป็นจังหวะ น้ำตาแห่งความเสียใจไหลอาบแก้มขาวเป็นทางยาว ความเจ็บปวดจากการถูกหักหลังจากคนที่ไว้ใจถึงสองคนมันทำให้เธอแทบเป็นบ้า
ในตอนแรกจันทร์จ้าวเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ว่าผู้หญิงร่างเล็กที่นอนกอดก่ายอยู่บนตัวของสามีเธอนั้นเป็นใคร เพียงแค่รู้สึกคลับคล้ายคลับคลาก็เท่านั้น จนเสี้ยววินาทีที่คนคนนั้นผินใบหน้ามาทางกล้อง จันทร์จ้าวก็ตัวชา เป็นคนคนนั้นจริง ๆ สินะ
ม่านดาว ผู้ช่วยเลขาหน้าห้องของสุริเยนทร์ คนที่เธอไว้ใจ คนที่เธอฝากฝังให้ดูแลสามี แถมอีกฝ่ายยังคอยช่วยเป็นหูเป็นตาให้เอมาตลอด ที่สำคัญจันทร์จ้าวยังรู้สึกถูกชะตา รักและเอ็นดูอีกฝ่ายเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง บุคคลปริศนาที่แทนตัวเองว่าผู้หวังดีคนนั้น ที่แท้แล้วก็คือคนใกล้ตัวที่เธอคิดไม่ถึงนี่เอง
จันทร์จ้าวยิ้มหยันให้กับความโง่เขลาของตัวเอง แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าที่ผ่านมาเธอโดนหญิงชู้ และสามีหลอกปั่นหัวมาโดยตลอดเหรอเนี่ย
น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลรินไม่หยุด รู้สึกราวมีมีดคมกรีดลงบนหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันเจ็บจนต้องยกมือบางกุมหน้าอกเอาไว้เพื่อหวังว่ามันจะสามารถบรรเทาความเจ็บได้สักนิดก็ยังดี
ความหวาดระแวง และความสงสัยที่กัดกินใจเธอมาตลอดหลายเดือน
วันนี้จันทร์จ้าวได้คำตอบแล้วว่าสามีของเธอกำลัง ‘คบชู้’
สองปีผ่านไปตะวันเด็กชายตัวอ้วนกลมแฝดผู้พี่ และเจ้าเอยเด็กหญิงตัวน้อยแฝดผู้น้องที่ลืมตาดูโลกหลังฝาแฝดคนพี่แค่หนึ่งนาที เนื่องจากตอนนั้นคุณหมอดึงตะวันออกมาก่อน เพราะเจ้าตัวอ้วนอยู่ด้านหน้าแถมยังเบียดน้องสาวจนมิด“มะ หม่ำ” เด็กอ้วนร้องประท้วงเมื่อข้าวบดที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ และผักของโปรดขาดช่วง เพราะผู้เป็นแม่มัวแต่หันไปป้อนน้องสาวของตัวเองอยู่“แป๊บหนึ่งค้าบบ คนเก่ง” จันทร์จ้าวหันไปเอ่ยกับลูกชายด้วยความเอ็นดู สองสามวันมานี้เธอต้องดูแลสองแฝดด้วยตัวเอง ปกติจะมีป้าน้อยมาช่วยอีกแรง แต่สองวันก่อนป้าน้อยขอลากลับไปเยี่ยมบ้านที่ต่างจังหวัด“แอ้” สาวน้อยเจ้าเอยหันไปส่งเสียงอ้อแอ้ใส่ผู้เป็นพี่ชายอย่างตะวัน ถ้าเจ้าตัวพูดได้คงจะพูดว่า ‘หัดรอซะบ้าง พี่ชาย’เสียงบีบแตรรถยนต์ดังขึ้นสองครั้ง จันทร์จ้าวที่ป้อนข้าวสองแฝดอยู่ตรงสวนหน้าบ้านพอดีจึงชะโงกหน้าไปดูว่าบุคคลที่มาหาเป็นใคร พอเห็นว่าเป็นรถของยี่หวาเพื่อนสนิท เจ้าตัวจึงรีบเดินไปเปิดประตูรั้วให้หลังจอดรถ
ชายตัวโตที่นั่งอยู่ภายในรถกระบะติดฟิล์มดำสนิท กดวางสายจากผู้เป็นเจ้านาย ก่อนจะหันมาออกคำสั่งให้ลูกน้องขับตามรถของเป้าหมายไปในทันที“ผมนึกว่ามันจะไม่ออกมาซะแล้ว ลูกพี่” ชายร่างผอมสูงที่นั่งเบาะด้านหลังพูดกับชายตัวโตที่เป็นหัวหน้า หลังพวกมันสามคนมานั่งเฝ้านอนเฝ้าอยู่หน้าคอนโดของม่านดาวได้สี่ห้าวันแล้ว“หึ ยังไงมันก็ต้องออก ใครมันจะไปทนอยู่แต่ในคอนโดได้ตลอดไปวะ”“งานนี้เจ๊ให้จัดการยังไงครับ” คนขับหน้าโหดที่มีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ที่ใบหน้าเอ่ยถามผู้เป็นลูกพี่“เอาให้พิการ” ชายตัวโตแสยะยิ้มชั่วร้ายที่ใครได้เห็นก็ต้องรู้สึกหวาดกลัวทางด้านม่านดาวตอนนี้เจ้าตัวกำลังขับรถออกจากกรุงเทพมุ่งหน้าไปยังจังหวัดกาญจนบุรีบ้านเกิดของผู้เป็นแม่ จำได้คร่าว ๆ ว่าแม่มีพี่สาวอยู่คนหนึ่ง เอาจริง ๆ เธอก็จำหน้าค่าตาไม่ได้ด้วยซ้ำ จำได้ว่าเมื่อครั้งยังเด็กแม่เคยพามาเยี่ยมยายครั้งหนึ่งก่อนที่ท่านจะเสีย และหลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยได้พบเจอญาติพี่น้องฝั่งแม่อีกเลยข้อมูลที่พอจะรู้ในตอนนี้ก็คือชื่ออำเภอ ชื่อหมู่บ้าน แล
เปลือกตาสีไข่ขยับเล็กน้อย ก่อนจะลืมขึ้นช้า ๆ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคล้ายใบเมเปิ้ลแห้งกะพริบขึ้นลงเพื่อปรับตัวในการรับแสง หลังจากสลบไปนานกว่าห้าชั่วโมงความรู้สึกต่อมาที่จันทร์จ้าวสัมผัสได้หลังจากลืมตาขึ้นนอกเหนือจากแสงสีขาวของหลอดไฟกลางห้องที่ส่องกระทบใบหน้าซีดเผือดแล้วคืออาการคอแห้งผาก ปวดเมื่อยตามลำตัว และความรู้สึกเจ็บจี้ดบริเวณศีรษะด้านซ้าย“อ๊ะ”ร่างที่นอนอยู่บนเตียงครางออกมาเบา ๆ เมื่อเจ้าตัวพยายามขยับแขน แต่กลับพบว่ามีอาการเจ็บร้าวจนไม่สามารถขยับได้“จันทร์ ลูกฟื้นแล้ว”เป็นเสียงของกุลจิราพูดขึ้นมาด้วยความดีใจ หญิงสูงวัยโผเข้าไปหาลูกสาวเพียงคนเดียวบนเตียงคนไข้ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี มือเหี่ยวย่นตามวัยเอื้อมไปกดปุ่มสีแดงบนหัวเตียงอย่างรวดเร็วเพื่อเรียกพยาบาลเข้ามาดูอาการ“ขวัญเอ๋ยขวัญมานะลูก เจ็บตรงไหนหรือเปล่า อย่าพึ่งขยับตัวนะ แม่ตามหมอแล้ว” กุลจิราร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ หลังนั่งเฝ้าดูอาการของลูกสาวมากว่าสามชั่วโมงตั้งแต่เดินทางมาถึง“แม่ จันทร์อยู่ไหนคะ&rdquo
“หึ รู้แล้วยังไงคะ มันเกี่ยวกับเรื่องที่ดาวท้องกับท่านประธานตรงไหน” ม่านดาวชะงักชั่วครู่ก่อนจะปรับน้ำเสียงไม่ให้สั่น แถมยังลอยหน้าลอยตาพูด สีหน้าแสดงออกว่าไม่แคร์เรื่องนี้เลยสักนิด“ป้าไม่รู้นะว่าหนูม่านดาวรู้สึกโกรธเกลียดครอบครัวของป้าทำไม แต่ว่าเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับพี่จันทร์เขานะลูก เพราะถ้าจะโกรธจะเกลียด หนูควรจะมาลงที่ป้ามากกว่าไม่ใช่เหรอ” กุลจิรามองใบหน้าของคนที่มีส่วนคล้ายกับลูกสาวของตัวเองหลายส่วน โดยเฉพาะดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ถอดแบบมาจากผู้เป็นสามีของเธอเอง“ทำแบบนั้นจะไปสนุกอะไรล่ะคะ สู้ให้คนเจ็บเป็นลูกคุณป้าไม่ดีกว่าเหรอคะ ลูกเจ็บมีหรือแม่จะไม่เจ็บ”“ยอมรับแล้วเหรอม่านดาว ว่าทุกอย่างที่ทำไปทั้งหมด ก็เพื่ออยากให้ฉันเจ็บ” จันทร์จ้าวเอ่ยเสียงสั่น“ใช่!” ม่านดาวตะคอก“ม่านดาว หยุดเถอะ อย่าทำแบบนี้อีกเลย จะให้ฉันทำอะไรเพื่อเป็นการชดเชยให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็บอกมาได้เลย”“คุณจันทร์จะทำให้ฉันจริง ๆ เหรอคะ” ม่านดาวยิ้มหยัน“ฉันทำให้ได้ เธอบ
ตอนนี้ภายในคอนโดของม่านดาวที่มานพเป็นคนซื้อให้ มีร่างสูงของชายวัยกลางคนนั่งกุมขมับทำหน้าเครียดอยู่บนโซฟา และข้างกันมีหญิงร่างเล็กเจ้าของห้องนั่งอยู่ข้าง ๆแววตาที่แสดงออกถึงความไม่พอใจฉายออกมาจากดวงตาสีน้ำตาลเข้มของม่านดาวชัดเจนเพียงแต่มานพไม่มีโอกาสได้เห็น ภายใต้ใบหน้าน่ารักแสดงออกให้เห็นเพียงแค่ว่าเจ้าตัวรู้สึกทุกข์ใจอย่างมากกับเรื่องราวที่กำลังพบเจอตอนนี้ ต่างจากในใจที่รู้สึกรำคาญหนุ่มวัยกลางคนคนนี้เต็มแก่ตอนนี้ม่านดาวกำลังพูดโน้มน้าวใจให้มานพยอมทำตามแผนที่ตัวเองได้วางไว้ นั่นก็คือการปล่อยเธอให้เป็นอิสระสักทีเจ้าตัวถึงขั้นลงทุนส่งรูปภาพของตัวเองกับมานพไปให้คุณผกามาศเมียแก่ที่บ้านได้ดู เพื่อให้ผู้หญิงคนนั้นรู้ตัวว่ากำลังโดนสามีสวมเขาเพื่อหวังจะทำลายแผนการที่มานพจะขอหย่าเมียเพื่อมาหาตามที่ได้พูดไว้ก่อนหน้าและก็เป็นไปตามคาดคุณผกามาศเดือดดาลเป็นฟืนเป็นไฟไม่ยอมหย่าให้กับมานพ แถมยังประกาศกร้าวว่าจะตามล่าตัวกิ๊กคนนั้นมาตบสั่งสอนให้ได้ ม่านดาวเลยใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้าง ทำทีว่ากลัวโดนเมียหลวงตามฆ่า เลยมาอ้อนวอนขอร้องให้มานพปล่อยเธอไปแต่ดูเหมือนว่าผู้
สามวันต่อมา(รูปภาพที่ตรวจครรภ์ ขึ้นสองขีด)‘คุณจันทร์ ดาวท้องค่ะ คุณจันทร์ช่วยพูดให้สามีของเรารับผิดชอบดาวกับลูกในท้องได้ไหมคะ ดาวขอร้อง ได้ไหมคะคุณจันทร์’‘ตอนนี้เฮียเยนไม่ยอมรับดาวกับลูกเพราะยังไม่ได้หย่ากับคุณจันทร์ แต่ดาวเชื่อว่าลึก ๆ แล้วเฮียเยนก็อยากรับผิดชอบลูกเหมือนกัน เพราะเฮียเองก็อยากมีลูกมาตั้งนานแล้ว’‘คุณจันทร์ได้โปรดเห็นแก่เด็กตาดำ ๆ ที่กำลังจะเกิดมาได้ไหมคะ’ความจริงที่ได้รับรู้วันนี้มันสร้างความเจ็บปวดให้จันทร์จ้าวเป็นอย่างมาก น้ำตาที่เดิมทีเหือดแห้งไปบ้างแล้วกลับมานองเต็มใบหน้าอีกครั้ง จากที่ตัดสินใจว่าเย็นนี้จะลองปรับความเข้าใจกับผู้เป็นสามี จะลองฟังคำอธิบายของอีกฝ่ายดูสักครั้ง จะหันหน้าคุยกันดี ๆ โดยใช้เหตุผลเพื่อแก้ไขปัญหาเหมือนที่ผู้เป็นแม่สอนแต่ตอนนี้ทุกอย่างมันสายไปแล้ว ม่านดาวท้องกับสามีของเธอ ในตอนนี้ทุกอย่างมันดูยุ่งเหยิงไปหมด เธอจะต้องทำยังไงดี จะเลิกกับสามีตามที่ม่านดาวบอกเพื่อให้ลูกของอีกฝ่ายมีพ่อ แล้วลูกทั้งสองของเธอล่ะ เจ้าแฝดในท้องก็ต้องการพ่อเหม
Mga Comments