Home / โรแมนติก / กว่าจันทร์จะสิ้นแสง / ผู้ช่วยเลขาคนใหม่

Share

ผู้ช่วยเลขาคนใหม่

last update Last Updated: 2025-08-01 12:59:13

เวลาล่วงเลยไปจนเกือบเที่ยงวันแล้ว แต่สุริเยนทร์ก็ยังคงนั่งหน้าเคร่งเครียดอยู่ในห้องทำงานบนตึกสูงสิบห้าชั้น บนโต๊ะมีทั้งแฟ้มทั้งเอกสารแผ่นสีขาวกองอยู่อย่างสะเปะสะปะ

ร่างสูงใหญ่ยกมือขวาขึ้นนวดคลึงขมับไปมาหวังว่ามันจะช่วยให้ความตึงเครียด และความเมื่อยล้าจากหายไปได้บ้าง ตั้งแต่ที่สุริเยนทร์จ้างโรงงานผลิตใหม่เพิ่มพร้อมกันสามแห่งในสามจังหวัด ทำให้งานที่แต่ก่อนก็เยอะอยู่แล้วยิ่งเพิ่มพูนขึ้นอีกหลายเท่าตัว

ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่ใบหน้างดงามของภรรยาที่ตอนนี้รับตำแหน่งเป็นเลขาส่วนตัวของสุริเยนทร์จะเยื้องย่างเข้ามาภายในห้อง

“เฮีย พักกินข้าวก่อนนะครับ เดี๋ยวจะปวดท้อง” มือบางหอบหิ้วปิ่นโตที่เจ้าตัวตื่นมาทำตั้งแต่ตีห้าวางลงบนโต๊ะรับแขกข้างโต๊ะทำงานตัวใหญ่ของผู้เป็นสามี

ดวงตากลมโตทอดมองใบหน้าเหนื่อยล้าของสุริเยนทร์ด้วยความเป็นห่วง ตั้งแต่ที่สามีขึ้นมาบริหารงานแทนผู้เป็นบิดาอย่างเต็มตัวเมื่อสามปีที่แล้ว ชายหนุ่มก็ทำงานหนักมาโดยตลอด ต้องเดินทางไปมาหลายจังหวัดเพื่อดูโรงงานผลิต

ส่วนจันทร์จ้าวที่ทำหน้าที่เป็นเลขาก็ต้องคอยติดสอยห้อยตามผู้เป็นสามีไปด้วยทุกที่ มีแค่ช่วงหลัง ๆ มานี้เท่านั้นที่เธอลดการทำงานหนักลงมาบ้างแล้วโดยมอบหมายงานให้ผู้ช่วยที่ชื่อ ธนวัฒน์ หรือ ต้าร์ ทำงานแทน

“ครับ” สุริเยนทร์ตอบรับ พร้อมกับส่งยิ้มให้ผู้เป็นภรรยา

“วันนี้ท่าทางเครียดจังเลยนะคะ ต้าร์ แอบมากระซิบบอกจันทร์ว่าวันนี้เฮียดุมาก”

“ไอ้ขี้ฟ้อง สงสัยยังไม่เข็ด” สุริเยนทร์บ่นพึมพำไม่จริงจังนัก ความจริงวันนี้เขาก็บ่นผู้ช่วยของภรรยาไปจริง ๆ นั่นแหละ ทำงานมาตั้งนานเรื่องเอกสารเล็กน้อยก็ยังพิมพ์ผิดพลาด แล้วแบบนี้จะไว้ใจให้ทำงานแทนจันทร์จ้าวได้ยังไง แล้วเมื่อไหร่เมียเขาจะได้พักตามคำแนะนำของหมอ

“ต้าร์ มันเป็นผู้ชายห่าม ๆ เรื่องเอกสารน้องมันไม่ค่อยถนัด” จันทร์จ้าวออกหน้าแทนผู้ช่วย อายุ 24 ปี ที่เป็นรุ่นน้องคนสนิทจบจากมหาลัยเดียวกัน

“จันทร์ให้ท้ายมันแบบนี้ไง มันเลยไม่กระตือรือร้นที่จะพัฒนาตัวเอง” สุริเยนทร์พูดก่อนจะตักหมูทอดน้ำปลาเมนูโปรดที่ภรรยาเป็นคนทำให้เข้าปาก

“เฮียอะ”

“ก็เฮียอยากให้จันทร์ได้พักตามคำสั่งคุณหมอ ความเครียดมีผลต่อฮอร์โมนของจันทร์มาก จันทร์ก็รู้” สุริเยนทร์มีสีหน้าจริงจัง เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มซีเรียสกับเรื่องนี้มาก

“งั้น เราจ้างคนเพิ่มดีไหมคะ ในเมื่อต้าร์ไม่เก่งเรื่องเอกสาร เราก็แค่จ้างคนมาทำในส่วนนี้ ส่วนต้าร์ก็ให้เน้นเรื่องติดต่อประสานงาน และเดินทางไปดูโรงงานผลิตที่ต่างจังหวัดกับเฮียเป็นหลักเหมือนเดิม” จันทร์จ้าวเสนอทางเลือกให้กับผู้เป็นสามี

“อืม เฮียว่าก็ดีนะ ความจริงเฮียก็คิดเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน” สุริเยนทร์พยักหน้าเห็นด้วย

“แต่ช่วงสามเดือนแรกต้องให้จันทร์สอนงานให้ก่อนนะคะ ถ้าผ่านจันทร์ถึงจะปล่อย” จันทร์จ้าวต่อรอง เพราะงานเลขาเป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบสูง หากว่าเกิดการผิดพลาดเพียงน้อยนิดอาจส่งผลกระทบต่อเป็นวงกว้างได้ โดยเฉพาะเรื่องการทำสัญญากับคู่ค้า

“ตามใจเมียเลยครับ” สุริเยนทร์ยิ้ม อารมณ์ดีขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด การมีคนรู้ใจมีเพื่อนคู่คิดคู่ชีวิตที่ดีมันมีความสุขอย่างนี้นี่เอง จันทร์จ้าวเป็นคนค่อนข้างมีเหตุผล ตั้งแต่คบกันมาจนถึงขั้นแต่งงานมีแค่ครั้งเดียวเท่านั้นที่เราทะเลาะกันใหญ่โต สาเหตุก็เพราะว่ามีลูกค้าผู้หญิงคนหนึ่งพยายามจะเข้าหาเขา ซึ่งอีกฝ่ายไม่รู้ว่าเขาแต่งงานมีครอบครัวแล้ว

ตอนนั้นเขาเองก็มีส่วนผิดด้วยที่ดูไม่ออกว่าลูกค้าคนนั้นพยายามเข้าหา การที่เขาไม่พูด ไม่ปฏิเสธ และมองโลกในแง่ดีเกินไป มันทำให้อีกฝ่ายคิดเองเออเอง จนกระทั่งมันเลยเถิดมีการเข้าหาแบบถึงเนื้อถึงตัว จึงกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตเมื่อภรรยาของเขามาเห็นเข้า

แต่เรื่องราวทั้งหมดก็จบลงด้วยดี เมื่อฝ่ายนั้นเข้ามาขอโทษขอโพยภรรยาถึงที่บริษัท แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนานหลายปีแล้วตั้งแต่ทั้งคู่เพิ่งแต่งงานกันใหม่ ๆ แต่สุริเยนทร์ก็ยังจำได้ไม่ลืมว่าเวลาที่จันทร์จ้าวโกรธมันเป็นยังไง

“พอดีเลยค่ะ วันก่อนจันทร์เจอคุณมานพ เขาบอกว่าอยากฝากให้หลานสาวมาทำงานกับเรา เฮียมีความเห็นว่ายังไงคะ” จันทร์จ้าวพูดถึงชายวัยกลางคน ที่มีตำแหน่งเป็นผู้จัดการฝ่ายผลิต

“เรื่องนี้เฮียให้เมียจัดการได้เลยครับ”

จันทร์จ้าวนั่งอ่านประวัติของบุคคลที่จะมาเป็นผู้ช่วยเลขาคนใหม่อย่างละเอียดอีกครั้ง ม่านดาว คือชื่อของหญิงสาวอายุ 23 ปี ผิวขาวรูปร่างผอมบาง แต่งตัวเฉิ่มใส่แว่นหนา แต่ทว่าหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม ส่วนสูงประมาณ 168 เซนติเมตร จบการศึกษาด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ถึงแม้จะไม่ใช่มหาวิทยาลัยชั้นนำ แต่ก็ถือว่าเป็นคนที่เก่งมาก ๆ คนหนึ่ง อีกทั้งยังจบสายงานเลขาโดยตรงอีกต่างหาก

“ชื่อ ม่านดาวเหรอ ชื่อน่ารักจัง”

“ขอบคุณค่ะ เรียกว่าดาวเฉย ๆ ก็ได้ค่ะ” ใบหน้าเรียวเล็กที่สะอาดหมดจดไร้เครื่องสำอางใด ๆ บนผิว ส่งยิ้มน่ารักให้กับจันทร์จ้าว

“โอเค ฉันชื่อจันทร์จ้าวนะ เป็นเลขาของท่านประธาน ภายในสามเดือนนี้ฉันจะเป็นคนสอนงานเธอเอง ถ้าผ่านถึงจะได้บรรจุเป็นพนักงานประจำ เข้าใจใช่ไหม” จันทร์จ้าวพูดเพราะอยากให้เด็กคนนี้ตั้งใจ และขยันทำงาน ไม่ใช่ว่าเป็นเด็กเส้นแล้วจะทำงานยังไงก็ได้ ถ้าไม่มีประสิทธิภาพในการทำงานเธอก็ไม่เอา

“ค่ะ ดาวจะตั้งใจทำงานให้สมกับที่อามานพ และคุณจันทร์จ้าวให้โอกาสดาวค่ะ” เด็กสาวตรงหน้าพยักหน้าเข้าใจ สีหน้ามีความมุ่งมั่นชัดเจน ทำให้จันทร์จ้าวนึกย้อนไปถึงตัวเองในอดีต ตอนนั้นเธอที่เพิ่งเรียนจบใหม่ ๆ ก็ได้เข้ามาทำงานที่บริษัทของสามีเลย เพราะสามีได้ล็อกมงไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

เธอมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะพิสูจน์ให้เฮียสุริเยนทร์ และคุณพ่อคุณแม่ของสามีได้รู้ว่า ถึงแม้จะเป็นเด็กเส้นแต่เธอก็มีความสามารถไม่น้อยหน้าใคร และกว่าจะเป็นที่ยอมรับของคนที่มีอคติกับเรื่องนี้ได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

“เรียกว่าพี่จันทร์เฉย ๆ ก็ได้นะ ฉันอายุห่างกับเธอสามปี”

“ค่ะ พี่จันทร์”

“ที่นี่อยู่กันแบบพี่น้อง ทำตัวตามสบาย ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็พอ ส่วนเรื่องค่าตอบแทนเดี๋ยวดาวลงไปหาบุคลากรชื่อพี่น้ำมนต์นะ เขาจะชี้แจงรายละเอียดทุกอย่างให้ มีอะไรสงสัยก็ถามพี่เขาได้เลย”

“ค่ะ พี่จันทร์” ความมุ่งมั่นฉาบบนใบหน้าน่ารักที่ถูกบดบังด้วยแว่นหนาเตอะ ทำให้จันทร์จ้าวรู้สึกเอ็นดูเด็กคนนี้ไม่น้อย เพราะเธอเองก็เป็นคนที่มีความมุ่งมั่น ความพยายาม และค่อนข้างเนี้ยบในเรื่องของการทำงาน หวังว่าเด็กคนนี้จะไม่ทำให้เธอผิดหวัง แต่จะว่าไปแล้วเด็กคนนี้ก็มีรูปร่าง หน้าตาที่คล้าย ๆ กับเธอเหมือนกันนะเนี่ย จันทร์จ้าวยิ้มอ่อนก่อนจะส่ายหัวให้กับความคิดตลกของตัวเอง

ก๊อก ก๊อก

สิ้นเสียงเคาะบานประตูใหญ่ก็ถูกดันเข้ามาโดยมีร่างบอบบางสมส่วนของผู้เป็นภรรยาเดินเข้ามาข้างใน พร้อมกับผู้หญิงรูปร่างผอมบางที่สุริเยนทร์ไม่เคยเห็นหน้าเดินตามหลังมาติด ๆ

“ดาว นี่ คุณสุริเยนทร์ ท่านประธานบริษัท และเป็นสามีของฉันเอง”

“สวัสดีค่ะ ท่านประธาน” ผู้มาใหม่พนมมือไหว้ผู้เป็นนายจ้างด้วยท่าทีนอบน้อม

“นี่ ม่านดาวค่ะ ผู้ช่วยเลขาคนใหม่”

“อืม สวัสดี” สุริเยนทร์รับไหว้ผู้ช่วยเลขาคนใหม่ที่จะมาช่วยเลขาอย่างต้าร์ในเรื่องของงานเอกสาร

“ยังมีอีกคนหนึ่งนะที่ต้องรู้จัก ก่อนหน้านี้เขาเป็นผู้ช่วย ชื่อว่าต้าร์ น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับดาวนั่นแหละ แต่ตอนนี้ออกไปทำธุระข้างนอก เที่ยง ๆ น่าจะเข้าบริษัท”

“ค่ะ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กว่าจันทร์จะสิ้นแสง   บทส่งท้าย

    สองปีผ่านไปตะวันเด็กชายตัวอ้วนกลมแฝดผู้พี่ และเจ้าเอยเด็กหญิงตัวน้อยแฝดผู้น้องที่ลืมตาดูโลกหลังฝาแฝดคนพี่แค่หนึ่งนาที เนื่องจากตอนนั้นคุณหมอดึงตะวันออกมาก่อน เพราะเจ้าตัวอ้วนอยู่ด้านหน้าแถมยังเบียดน้องสาวจนมิด“มะ หม่ำ” เด็กอ้วนร้องประท้วงเมื่อข้าวบดที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ และผักของโปรดขาดช่วง เพราะผู้เป็นแม่มัวแต่หันไปป้อนน้องสาวของตัวเองอยู่“แป๊บหนึ่งค้าบบ คนเก่ง” จันทร์จ้าวหันไปเอ่ยกับลูกชายด้วยความเอ็นดู สองสามวันมานี้เธอต้องดูแลสองแฝดด้วยตัวเอง ปกติจะมีป้าน้อยมาช่วยอีกแรง แต่สองวันก่อนป้าน้อยขอลากลับไปเยี่ยมบ้านที่ต่างจังหวัด“แอ้” สาวน้อยเจ้าเอยหันไปส่งเสียงอ้อแอ้ใส่ผู้เป็นพี่ชายอย่างตะวัน ถ้าเจ้าตัวพูดได้คงจะพูดว่า ‘หัดรอซะบ้าง พี่ชาย’เสียงบีบแตรรถยนต์ดังขึ้นสองครั้ง จันทร์จ้าวที่ป้อนข้าวสองแฝดอยู่ตรงสวนหน้าบ้านพอดีจึงชะโงกหน้าไปดูว่าบุคคลที่มาหาเป็นใคร พอเห็นว่าเป็นรถของยี่หวาเพื่อนสนิท เจ้าตัวจึงรีบเดินไปเปิดประตูรั้วให้หลังจอดรถ

  • กว่าจันทร์จะสิ้นแสง   รับผลกรรม

    ชายตัวโตที่นั่งอยู่ภายในรถกระบะติดฟิล์มดำสนิท กดวางสายจากผู้เป็นเจ้านาย ก่อนจะหันมาออกคำสั่งให้ลูกน้องขับตามรถของเป้าหมายไปในทันที“ผมนึกว่ามันจะไม่ออกมาซะแล้ว ลูกพี่” ชายร่างผอมสูงที่นั่งเบาะด้านหลังพูดกับชายตัวโตที่เป็นหัวหน้า หลังพวกมันสามคนมานั่งเฝ้านอนเฝ้าอยู่หน้าคอนโดของม่านดาวได้สี่ห้าวันแล้ว“หึ ยังไงมันก็ต้องออก ใครมันจะไปทนอยู่แต่ในคอนโดได้ตลอดไปวะ”“งานนี้เจ๊ให้จัดการยังไงครับ” คนขับหน้าโหดที่มีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ที่ใบหน้าเอ่ยถามผู้เป็นลูกพี่“เอาให้พิการ” ชายตัวโตแสยะยิ้มชั่วร้ายที่ใครได้เห็นก็ต้องรู้สึกหวาดกลัวทางด้านม่านดาวตอนนี้เจ้าตัวกำลังขับรถออกจากกรุงเทพมุ่งหน้าไปยังจังหวัดกาญจนบุรีบ้านเกิดของผู้เป็นแม่ จำได้คร่าว ๆ ว่าแม่มีพี่สาวอยู่คนหนึ่ง เอาจริง ๆ เธอก็จำหน้าค่าตาไม่ได้ด้วยซ้ำ จำได้ว่าเมื่อครั้งยังเด็กแม่เคยพามาเยี่ยมยายครั้งหนึ่งก่อนที่ท่านจะเสีย และหลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยได้พบเจอญาติพี่น้องฝั่งแม่อีกเลยข้อมูลที่พอจะรู้ในตอนนี้ก็คือชื่ออำเภอ ชื่อหมู่บ้าน แล

  • กว่าจันทร์จะสิ้นแสง   แผนการสุดท้ายของม่านดาว

    เปลือกตาสีไข่ขยับเล็กน้อย ก่อนจะลืมขึ้นช้า ๆ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคล้ายใบเมเปิ้ลแห้งกะพริบขึ้นลงเพื่อปรับตัวในการรับแสง หลังจากสลบไปนานกว่าห้าชั่วโมงความรู้สึกต่อมาที่จันทร์จ้าวสัมผัสได้หลังจากลืมตาขึ้นนอกเหนือจากแสงสีขาวของหลอดไฟกลางห้องที่ส่องกระทบใบหน้าซีดเผือดแล้วคืออาการคอแห้งผาก ปวดเมื่อยตามลำตัว และความรู้สึกเจ็บจี้ดบริเวณศีรษะด้านซ้าย“อ๊ะ”ร่างที่นอนอยู่บนเตียงครางออกมาเบา ๆ เมื่อเจ้าตัวพยายามขยับแขน แต่กลับพบว่ามีอาการเจ็บร้าวจนไม่สามารถขยับได้“จันทร์ ลูกฟื้นแล้ว”เป็นเสียงของกุลจิราพูดขึ้นมาด้วยความดีใจ หญิงสูงวัยโผเข้าไปหาลูกสาวเพียงคนเดียวบนเตียงคนไข้ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี มือเหี่ยวย่นตามวัยเอื้อมไปกดปุ่มสีแดงบนหัวเตียงอย่างรวดเร็วเพื่อเรียกพยาบาลเข้ามาดูอาการ“ขวัญเอ๋ยขวัญมานะลูก เจ็บตรงไหนหรือเปล่า อย่าพึ่งขยับตัวนะ แม่ตามหมอแล้ว” กุลจิราร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ หลังนั่งเฝ้าดูอาการของลูกสาวมากว่าสามชั่วโมงตั้งแต่เดินทางมาถึง“แม่ จันทร์อยู่ไหนคะ&rdquo

  • กว่าจันทร์จะสิ้นแสง   กัดไม่ปล่อย

    “หึ รู้แล้วยังไงคะ มันเกี่ยวกับเรื่องที่ดาวท้องกับท่านประธานตรงไหน” ม่านดาวชะงักชั่วครู่ก่อนจะปรับน้ำเสียงไม่ให้สั่น แถมยังลอยหน้าลอยตาพูด สีหน้าแสดงออกว่าไม่แคร์เรื่องนี้เลยสักนิด“ป้าไม่รู้นะว่าหนูม่านดาวรู้สึกโกรธเกลียดครอบครัวของป้าทำไม แต่ว่าเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับพี่จันทร์เขานะลูก เพราะถ้าจะโกรธจะเกลียด หนูควรจะมาลงที่ป้ามากกว่าไม่ใช่เหรอ” กุลจิรามองใบหน้าของคนที่มีส่วนคล้ายกับลูกสาวของตัวเองหลายส่วน โดยเฉพาะดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ถอดแบบมาจากผู้เป็นสามีของเธอเอง“ทำแบบนั้นจะไปสนุกอะไรล่ะคะ สู้ให้คนเจ็บเป็นลูกคุณป้าไม่ดีกว่าเหรอคะ ลูกเจ็บมีหรือแม่จะไม่เจ็บ”“ยอมรับแล้วเหรอม่านดาว ว่าทุกอย่างที่ทำไปทั้งหมด ก็เพื่ออยากให้ฉันเจ็บ” จันทร์จ้าวเอ่ยเสียงสั่น“ใช่!” ม่านดาวตะคอก“ม่านดาว หยุดเถอะ อย่าทำแบบนี้อีกเลย จะให้ฉันทำอะไรเพื่อเป็นการชดเชยให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็บอกมาได้เลย”“คุณจันทร์จะทำให้ฉันจริง ๆ เหรอคะ” ม่านดาวยิ้มหยัน“ฉันทำให้ได้ เธอบ

  • กว่าจันทร์จะสิ้นแสง   เผชิญหน้า

    ตอนนี้ภายในคอนโดของม่านดาวที่มานพเป็นคนซื้อให้ มีร่างสูงของชายวัยกลางคนนั่งกุมขมับทำหน้าเครียดอยู่บนโซฟา และข้างกันมีหญิงร่างเล็กเจ้าของห้องนั่งอยู่ข้าง ๆแววตาที่แสดงออกถึงความไม่พอใจฉายออกมาจากดวงตาสีน้ำตาลเข้มของม่านดาวชัดเจนเพียงแต่มานพไม่มีโอกาสได้เห็น ภายใต้ใบหน้าน่ารักแสดงออกให้เห็นเพียงแค่ว่าเจ้าตัวรู้สึกทุกข์ใจอย่างมากกับเรื่องราวที่กำลังพบเจอตอนนี้ ต่างจากในใจที่รู้สึกรำคาญหนุ่มวัยกลางคนคนนี้เต็มแก่ตอนนี้ม่านดาวกำลังพูดโน้มน้าวใจให้มานพยอมทำตามแผนที่ตัวเองได้วางไว้ นั่นก็คือการปล่อยเธอให้เป็นอิสระสักทีเจ้าตัวถึงขั้นลงทุนส่งรูปภาพของตัวเองกับมานพไปให้คุณผกามาศเมียแก่ที่บ้านได้ดู เพื่อให้ผู้หญิงคนนั้นรู้ตัวว่ากำลังโดนสามีสวมเขาเพื่อหวังจะทำลายแผนการที่มานพจะขอหย่าเมียเพื่อมาหาตามที่ได้พูดไว้ก่อนหน้าและก็เป็นไปตามคาดคุณผกามาศเดือดดาลเป็นฟืนเป็นไฟไม่ยอมหย่าให้กับมานพ แถมยังประกาศกร้าวว่าจะตามล่าตัวกิ๊กคนนั้นมาตบสั่งสอนให้ได้ ม่านดาวเลยใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้าง ทำทีว่ากลัวโดนเมียหลวงตามฆ่า เลยมาอ้อนวอนขอร้องให้มานพปล่อยเธอไปแต่ดูเหมือนว่าผู้

  • กว่าจันทร์จะสิ้นแสง   ความจริงถูกเปิดเผย

    สามวันต่อมา(รูปภาพที่ตรวจครรภ์ ขึ้นสองขีด)‘คุณจันทร์ ดาวท้องค่ะ คุณจันทร์ช่วยพูดให้สามีของเรารับผิดชอบดาวกับลูกในท้องได้ไหมคะ ดาวขอร้อง ได้ไหมคะคุณจันทร์’‘ตอนนี้เฮียเยนไม่ยอมรับดาวกับลูกเพราะยังไม่ได้หย่ากับคุณจันทร์ แต่ดาวเชื่อว่าลึก ๆ แล้วเฮียเยนก็อยากรับผิดชอบลูกเหมือนกัน เพราะเฮียเองก็อยากมีลูกมาตั้งนานแล้ว’‘คุณจันทร์ได้โปรดเห็นแก่เด็กตาดำ ๆ ที่กำลังจะเกิดมาได้ไหมคะ’ความจริงที่ได้รับรู้วันนี้มันสร้างความเจ็บปวดให้จันทร์จ้าวเป็นอย่างมาก น้ำตาที่เดิมทีเหือดแห้งไปบ้างแล้วกลับมานองเต็มใบหน้าอีกครั้ง จากที่ตัดสินใจว่าเย็นนี้จะลองปรับความเข้าใจกับผู้เป็นสามี จะลองฟังคำอธิบายของอีกฝ่ายดูสักครั้ง จะหันหน้าคุยกันดี ๆ โดยใช้เหตุผลเพื่อแก้ไขปัญหาเหมือนที่ผู้เป็นแม่สอนแต่ตอนนี้ทุกอย่างมันสายไปแล้ว ม่านดาวท้องกับสามีของเธอ ในตอนนี้ทุกอย่างมันดูยุ่งเหยิงไปหมด เธอจะต้องทำยังไงดี จะเลิกกับสามีตามที่ม่านดาวบอกเพื่อให้ลูกของอีกฝ่ายมีพ่อ แล้วลูกทั้งสองของเธอล่ะ เจ้าแฝดในท้องก็ต้องการพ่อเหม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status