สาวผมทองเองก็นิ่งไปชั่วครู่ เมื่อได้สบตากับเจ้าของดวงตาสุกใสสีพีนัท
‘สวยจนใจเจ็บ’
เพราะมัวแต่ตกตะลึงในความสวยของอีกฝ่าย สะโพกของเธอจึงถูกสิ่งที่อยู่ต่ำสุดถีบเข้าให้ หญิงสาวถลาด้วยแรงไม่มากนัก ดีที่มีอ้อมแขนของสาวนัยน์ตาสวยประคองไว้
“ขอบคุณ”
“ไม่เป็นไร ระวัง!”
วีด้าผลักคนในอ้อมแขนออกเบา ๆ เมื่อฝ่ายตรงข้ามพุ่งเข้ามา ครั้งนี้เธอมีสติกว่าตอนแรกจึงได้สวนอีกฝ่ายกลับไปเต็มหน้าท้องจนคนตัวสูงล้มไม่เป็นท่า
จากนั้นสาวผมแดงยังไม่ทันได้ตวัดขาด้วยซ้ำก็ล้มกลิ้งไปกองที่พื้นเพราะลูกเตะของคนที่เข้ามาช่วยเธอ
ส่วนคนสุดท้ายพอเห็นว่าเพื่อนน่วมแม้แต่แรงจะลุกยังไม่มีก็ยืนตัวสั่น ก่อนจะหันไปพยุงเพื่อนทั้งสองแทน
“ฉันจะฟ้องอธิการว่าแกใช้ความรุนแรง แล้วก็ทำร้ายร่างกายพวกฉัน”
สาวผมแดงยังทรงตัวไม่ตรงเลยด้วยซ้ำก็หมายหัววีด้าเอาไว้แล้ว อีกทั้งชี้หน้าทั้งสองอย่างคาดโทษ ส่วนลูกกระจ๊อกอีกสองคนก็ดูเหมือนจะไม่มีหัวคิดเป็นของตัวเองเอาแต่เชิดคอพยักหน้าตาม
“ก็ลองดู ฉันมีหลักฐานว่าเธอคนนี้ถูกทำร้าย แล้วก็สามรุมหนึ่งด้วย ได้ข่าวที่มอนี้เคร่งครัดเรื่องนี้ด้วยสิ! จะแลกก็ได้นะ”
สาวผมทองชูมือถือในมือให้ทั้งสามคนได้เห็นว่าตนเองมีหลักฐานเอาผิดพวกหล่อนได้
“แกเอาไงดี ครั้งนี้เราโดนหนักแน่ถ้าเรื่องถึงหูอธิการ”
หญิงตัวสูงเหมือนจะเป็นกังวลมากกว่าใคร น้ำเสียงถึงได้สั่นก็เลยพลอยทำให้อีกสองคนหน้าเสียตามไปด้วย
“ฝากไว้ก่อนเถอะ ฉันไม่ได้กลัวหรอกนะ อย่าพึ่งได้ใจไป”
สาวผมแดงโพล่งออกมาหลังจากเห็นมือถือในมือสาวสวยผมทอง และร่องรอยบนท้องก็ยังเล่นงานจนทรงตัวได้ยาก หลังจากทิ้งท้ายคำนั้นพวกหล่อนก็หันหลังจ้ำเท้าก้าวออกไปอย่างรวดเร็ว
“นึกว่าจะแน่”
สาวผมทองบริภาษไล่หลังนักศึกษาทั้งสาม ลดมือถือลงแล้วสอดเข้าไปในกระเป๋าสะพายของตัวเอง
“พูดจริงเหรอเรื่องคลิปนั่น”
วีด้าหันมาถามเมื่อทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ
“ไม่มี เราโกหก ใครจะไปตั้งกล้องไว้กันเล่า อุ๊ย! ปากเธอเลือกออกด้วย” ว่าพลางแตะปลายนิ้วลงผิวปริแตก
“อ๊ะ! ซี้ด”
วีด้าถึงกับสะดุ้ง แต่ที่ตกใจไม่ใช่เพราะเจ็บอะไรมากนัก หากแต่เป็นเพราะว่าอีกฝ่ายประชิดตัวอย่างรวดเร็วด้วยท่าทีเป็นห่วงเป็นใยทั้งที่พึ่งเจอหน้า แล้วตนยังเป็นต้นเหตุทำให้หล่อนเจ็บตัวตามไปด้วย
“ขอโทษนะที่ทำให้พลอยโดนลูกหลง เจ็บตรงไหนมากหรือเปล่า”
วีด้าสำรวจเนื้อตัวของอีกฝ่ายด้วยสายตาเต็มไปด้วยความกังวล ซึ่งปฏิกิริยาของเธอทำให้สาวผมทองถึงกับยิ้มกว้าง
“ไม่เป็นไรแค่นี้เองสบายมากเราซันเดย์ มาจากแคนาดา ย้ายมาเรียนที่นี่วันแรก” ไม่นึกว่าพอมาเรียนที่ใหม่ก็จะเจอกับเรื่องสนุก ๆ เลย ยิ้มเท่ฉายทั่วดวงหน้าสาวลูกครึ่งแคนาดา
ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นสาวสวยคนนี้เดินมาด้วยท่าทางอึน ๆ รอยยิ้มแรกนับจากมาเหยียบเมืองไทยก็แต่งแต้มมุมปากอวบอิ่ม กระทั่งเห็นว่าเธอถูกทำร้ายก็ไม่นิ่งดูดายยื่นมือเข้ามาช่วยทั้งที่เป็นคนไม่ยอมยุ่งเรื่องชาวบ้านสักนิด!
“เราวีด้า ยินดีที่ได้รู้จักแล้วก็ขอบคุณสำหรับเรื่องเมื่อกี้ด้วย”
วีด้ายิ้มสวยเต็มไปด้วยความจริงใจ
“อ้อ...งั้นซันเดย์ก็ต้องไปห้องวิชาการใช่ไหม นี่เราทำเธอเสียเวลาหรือเปล่า” พอนึกขึ้นได้ว่าสาวนักศึกษาใหม่จากแคนาดามีน้ำใจมาช่วยจนพลาดไปรายงานตัวอาจจะโดนต่อว่าได้
หมับ!
ซันเดย์มองข้อมือตัวเองที่ถูกคว้าด้วยเจ้าของมือนุ่ม แล้วจึงยกระดับสายตามาอยู่บนกรอบหน้าสวย จากนั้นก็คว้าข้อมือของอีกฝ่ายมาไว้ในอุ้งมือตัวเองอีกที
“ไม่เลย ซันไปรายงานตัวมาเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้อยากรู้มากกว่าว่าตึกนิเทศฯ ไปทางไหน”
ซันเดย์ใช้ชื่อเล่นแทนการพูดถึงตัวเอง ต้องการสนิทกับคนตัวเล็กกว่านี้ ทั้งรอยยิ้มและแววตาดึงดูดให้เข้าหา อยากอยู่ใกล้ ๆ
“อะ...อ้าวเหรอ!”
เป็นวีด้าที่เริ่มทำตัวไม่ถูก
“ไปพร้อมเราก็ได้ กำลังจะไปพอดี” ยิ้มอ่อนมอบให้กับสาวแคนาดา
“ไม่เรียกแทนตัวเองแบบนั้นได้ไหม ซันยังใช้ชื่อตัวเองเลย หรือไม่ได้ก็ไม่เป็นไร” กดนัยน์ตาสีอ่อนลง
“วี ไปพร้อมวีก็ได้” เห็นสีหน้าผิดหวังของคนยื่นมือเข้าช่วยก็ไม่กล้าปฏิเสธจึงแทนตัวเองเหมือนใช้กับเพื่อนสนิท
“วีเหรอ เหมือนหน้าสวย ๆ นี้เลยวีสวยมากรู้ตัวไหม”
ไม่พูดเปล่ายังเกลี่ยผิวเนียนละเอียดข้างแก้มจนเจ้าตัวสะดุ้ง ซันเดย์ยิ้ม ยิ้มที่ลามไปถึงดวงตาจนพราวระยับ
‘ช่วงนี้เป็นอะไรถึงได้มีแต่คนเข้าถึงเนื้อถึงตัวเธอตลอดเลย’
เมื่อคืนก็พี่อชิวันนี้ก็สาวแคนาดา พอสมองหวนไปถึงเพื่อนพี่ชายจึงรีบปัดมันทิ้งไป
ห้องปฏิบัติการด้านสื่อ
“ยัยวี...แกมาสักที ว่าแต่...หน้าแกไปโดนอะไรมา?”
ไลลาถลามาหาเพื่อนเมื่อคนสวยประจำห้องก้าวเข้ามา และรอยช้ำตรงมุมปากนั้นก็ไม่พ้นไปจากสายตาอันเฉียบแหลมได้ ซ้ำมือยังซนไปจิ้มจนคนถูกถามถึงกับซี้ดปาก
“เจ็บนะจิ้มลงมาได้ ถามเฉย ๆ ก็ได้หรือเปล่าแกหนิ” เสียงอ่อยต่อว่าคนมือไว พอ ๆ กับคนยืนอยู่ห่างกัน รอบตัวเธอทำไมถึงมีแต่คนมือไวนะ!
“ขอโทษ ๆ ตกใจไปหน่อย ตกลงหน้าแกไปโดนอะไรมา”
“มีเรื่องนิดหน่อย”
“เฮ้ย! แล้วบอกพี่เจฟฟ์ยัง ปะ จะพาไปหาพี่เจฟฟ์ ใครมันกล้าทำแก”
“พอเลย”
วีด้ารั้งตัวเองไว้ไม่ก้าวไปตามแรงฉุดของไลลา
“ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะพี่เจฟฟ์นั่นแหละ อีกอย่างก็ไม่อยากให้เกิดเรื่อง วุ่นวาย รำคาญ”
ไลลาคิ้วผูกเป็นโบว์
“ไงเป็นงี้อะวี แกจะยอมให้คนอื่นมาทำแกแล้วจบไปง่าย ๆ แบบนี้เหรอ”
คนโมโหแทนเพื่อนพูดเสียงขุ่น ใบหน้าสวย ๆ เป็นรอยได้ไง ไม่ยอมหรอก
“ช่างเถอะ ฉันไม่อยากมีเรื่อง อีกอย่างพี่เจฟฟ์ใกล้จะจบแล้วฉันไม่อยากทำให้เขาวุ่นวายกับเรื่องแค่นี้”
วีด้าอธิบายไลลา น้ำเสียงที่ยังคงสงบไม่มีความทุกข์ร้อนเฉกเช่นอีกคนสักนิด
อีกอย่างถ้าแจ้นไปฟ้องพี่ชายเรื่องได้บานปลายใหญ่โตแน่ ๆ เธอไม่อยากให้เป็นแบบนั้นถึงได้ปล่อยทั้งสามคนนั้นไป
“แม่พระ” กระแทกเสียงด้วยความประชดถึงความดีของเพื่อน แล้วเดินกลับมาอิงสะโพกกับโต๊ะเรียนก่อนที่จะหันไปให้ความสนใจหญิงสาวเกาะติดเพื่อนแจ
‘ว่าแต่แม่สาวหน้าฝรั่งคนนี้ใคร?’
ครั้นเห็นสายตาของไลลา วีด้าจึงนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้เข้ามาภายในห้องเรียนเพียงลำพัง
“ฉันลืมแนะนำ ซันเดย์เป็นคนช่วยฉันไว้แล้วก็พึ่งย้ายมาเรียนมอเราวันแรกด้วย ดีกับเพื่อนหน่อย” แตะแขนเรียวให้หล่อนขยับออกมายืนด้านหน้าย้ำคำว่า ‘เพื่อน’ ให้ไลลาเข้าใจถึงสถานะของอีกฝ่าย
พอได้ยินอย่างนั้นดวงหน้าเรียบตึงก็ฉีกยิ้มฉับพลันจนดวงตาเป็นประกาย
“ยินดีที่ได้รู้จัก ไลลาเป็นเพื่อนวีด้า ซี้ปึกเหมือนแฝดกันมาตั้งแต่มัธยมเลยล่ะ” อธิบายยาวยืดและไม่ได้จงใจจะเอาความสัมพันธ์ของตัวเองที่มีกับวีด้าข่มผู้มาใหม่ แต่เพราะอยากให้สาวฝรั่งยอมลดความแข็งกระด้างภายในดวงตาคู่สวยนั้นลง
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน”
‘อ๊ะ! มือหนักเป็นบ้าเลย’
ไลลากัดฟันข่มความเจ็บนิด ๆ จากแรงบีบของเพื่อนใหม่ที่ไม่รู้ว่าทำไมจะต้องสานความสัมพันธ์กับเธอแนบแน่นขนาดนี้ด้วย และเมื่อกี้อีกไม่ได้ตาฝาดไป หล่อนยิ้มสะใจงั้นเหรอ?“ว่าแต่ซันเรียนสาขาไหนวีจะได้พาไป”
วีด้าเมื่อเห็นว่าทั้งสองปล่อยมือออกจากกันแล้วก็ก้าวขึ้นมาถาม
“ห้องนี้แหละ” ซันเดย์ชี้ไปที่ประตู
“ห้องนี้งั้นเหรอ แน่ใจนะ”
“อืม หมายเลขห้องกับอาคารตรงกับตารางที่อาจารย์ส่งมา ซันเรียนสื่อสาร” สาวนัยน์ตาสีอ่อนตอบวีด้าเสียงหวาน ซึ่งทำให้ไลลาถึงกับขมวดคิ้วเป็นปมยิ่งกว่าเลขแปดเสียอีก
“งั้นก็สาขาเดียวกัน วีก็สื่อสารส่วนไลลาเอกการแสดง ต่อไปถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกเราสองคน วีกับไลลายินดีช่วย จริงไหมไลลา?”
“ไลลา! ฉันพูดกับแกอยู่ เป็นอะไรยืนใจลอยไปถึงไหนน่ะ ฮื้ม?”
“อะ...อืม ๆ” ก็จะไม่ให้ใจลอยได้ไง ทั้งแววตาแล้วก็ยิ้มกริ่มของสาวฝรั่งคนนี้เวลามองเพื่อนเธอสิ!
‘ตายแล้ว...คงไม่ใช่หลงเสน่ห์เพื่อนเธอ
‘อีกคน’ หรอกนะ’“ขอบคุณ งั้นซันรบกวนวีด้วยนะ ส่วนไลลาน่าจะไม่เท่าไหร่เพราะคนละสาขากันใช่ไหม”
‘นี่มันนางเอกในคราบนางมารชัด ๆ’
ไลลากลอกตาไปทางหน้าต่างเมื่อเห็น ‘เพื่อนใหม่’ สาวฝรั่งคนนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน!
“ข้างหลังวีว่าง ซันนั่งตรงนี้แล้วกัน”
วีด้าเลื่อนเก้าอี้ให้สมาชิกใหม่
“โชคดีจังซันได้นั่งใกล้วีด้วย ต่อไปก็ฝากตัวด้วยนะ”
“ได้ ได้เลย วีดูงานก่อนนะ” เอี่ยวตัวมานั่งที่ประจำก่อนจะหันไปพยักพเยิดให้ไลลาไปนั่งที่ตัวเอง
เมื่อเป็นการจัดงานมาเพื่อฉลองให้กับความสำเร็จฉะนั้นค่ำคืนนี้ก็เต็มไปด้วยบรรยากาศของความรื่นเริงและสนุกสนาน เสียงพูดคุยหัวเราะเจื้อยแจ้วเคล้าคลอไปกับเสียงดนตรีทำนองเร้าใจ กลุ่มเพื่อนสนิทจับกลุ่มพูดคุยกันอย่างถูกคอ จิบเครื่องดื่มสีอำพัน ซึ่งแต่ละคนความเข้มข้นย่อมต่างกันท่ามกลางบรรยากาศอันแสนอบอวลไปด้วยความสุขใจสายตาของอชิระกลับจับจ้องอยู่แค่วีด้าเพียงคนเดียว เธออยู่ในชุดเดรสสีดำเกาะอกที่ขับเน้นรูปร่างงดงาม ผมยาวสลวยถูกดัดเป็นลอนเหมือนอย่างเคย แต่ครั้งนี้โดดเด่นเพราะมีกิ๊บรูปผีเสื้อติดเปิดใบหูขาว ยามที่เธอขยับตัวแสงไฟอ่อน ๆ ทำให้เปล่งประกายสู้แสงสวยงามเป็นที่สุดทุกการเคลื่อนไหวราวกับต้องมนต์สะกดเขาไม่อาจละสายตาไปได้ รอยยิ้มบาง ๆ ประดับบนริมฝีปากอวบอิ่มน่าจูบ ดวงตากลมโตเป็นประกายระยิบระยับ เขาอยากไปยืนอยู่ตรงนั้น อยู่ในสายตาของเธอแทนน้องสาวในแววตาของอชิระฉายชัดถึงความรักลึกซึ้ง มันไม่ใช่แค่ความชื่นชมในความงามภายนอก แต่เป็นความรู้สึกผูกพัน ความเสน่หา และความปรารถนาที่เอ่อล้นออกมาอย่างปิดไม่มิด เขาเฝ้ามองเธออย่างเงียบ ๆ ดื่มด่ำกับภาพตรงหน้า ราวกับกลัวว่าหากกะพริบตาไปเพียงเสี้ยววินาที
สนามหญ้าหน้าคณะวิศกรรมศาสตร์ ก่อนหน้านิสิตยืนถ่ายรูปกันอยู่บ้างตามจุดต่าง ๆ ทว่าบัดนี้มีกลุ่มใหญ่อย่างสมาชิกสิงห์และผู้ปกครองจำนวนหนึ่งยืนตีวงล้อมพวกเขา จุดใจกลางมีอชิระยืนข้างอชิตา ฝั่งตรงข้ามเจฟฟ์โอบไหล่น้องสาว ทั้งสองยืนประจันหน้ากันด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความสับสน โดยมีผู้ให้กำเนิดของทั้งสองฝั่งยืนขนาบข้างปิดท้ายที่ผู้สูงอายุกว่าใคร ๆ มองเหตุการณ์นั้นด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน“หมายความว่ายังไงคะคุณตา ที่ว่าคุณปู่พี่อชิเป็นหมอประจำตัวน่ะค่ะ” วีด้ามองผู้เป็นตาด้วยความมึนงง จริงที่ว่าระหว่างครอบครัวไปมาหาสู่กันตลอดยี่สิบปี แต่ไม่เคยล่วงรู้มาก่อนว่าท่านจะต้องมีแพทย์ประจำตัวติดกายไว้ตลอด แล้วทำไมเธอถึงไม่เคยเจอบ้าง? ก่อนจะหยุดสายตาอยู่ที่ป๊ากับม๊า ซึ่งมีพ่อและแม่ของพี่อชิยืนอยู่ด้วย ยิ่งทำให้เธอมึนไปหมด เท่าที่รู้ไม่เคยเห็นพวกท่านทำตัวสนิทสนมหรือรู้จักกันมาก่อน สรุปแล้วสิ่งที่เกิดอยู่ตอนนี้คือเรื่องอะไรกันแน่ แล้วที่ป๊าคัดค้านพี่อชิ ไม่ยอมรับความรักระหว่างเรามันหมายความว่ายังไง?“อย่าใช้เสียงแบบนั้นถามคุณตาวีด้า” รีน่าที่ไม่เคยดุลูกสาวปรามเสียงเข้ม “ไม่เป็นไรรีน่า เราเองที่ทำให้เด็ก ๆ ตกใจ
เป็นเดือนที่ทรมานสุด ๆ ป๊าไม่ถึงขั้นให้เราตัดขาดการติดต่อกัน เพียงแต่ว่าจะออกไปไหนตามลำพังไม่ได้ ตอนไปเรียนยังพอมีหวังว่าจะได้เจอพี่อชิบ้าง แต่เปล่าเลย! เวลาที่เธอว่างเขามักถูกอธิการเรียกให้ไปพบ กว่าจะปลีกตัวมาได้เธอก็ต้องไปเรียนแล้ว เป็นแบบนี้มาตลอด เธอโมโหจะตายอยู่แล้ววันนี้ต้องไม่พลาดแน่ เธอจะกอดพี่อชิให้หายคิดถึง และบอกว่าเราจะไม่ยอมแพ้ผู้ใหญ่เด็ดขาด แต่เอาเข้าจริงดูเหมือนฟ้าจะไม่ฟังคำอ้อนวอนที่แสนปวดใจสักเท่าไหร่ เมื่อมาถึงมหา’ลัย เนืองแน่นไปด้วยบรรยากาศคึกคักในวันรับปริญญาของพวกเขา พี่อชิกลับไม่ได้อยู่กับเพื่อน ๆอธิการและสามีของท่านยืนขนาบข้างคนละฝั่งของคนประสบความสำเร็จ อชิตาตรงหน้าของเธอมีชายสูงอายุ ทว่าภูมิฐานน่าเป็นญาติผู้ใหญ่พวกเขาดูกำลังมีความสุข แล้วเธอล่ะ? ”หยุดทำไม ไม่เข้าไปเหรอ” ซันเดย์เอ่ยเมื่อเพื่อนที่กระตือรือร้นตั้งแต่ออกจากบ้าน แต่กลับยืนนิ่งทั้งที่อชิระก็อยู่เบื้องหน้านี้แล้ว“จะเข้าไปยังไง เห็นนั่นไหม ตรงไหนละที่วีพอจะไปยืนได้ ซันว่าวีควรทบทวนเรื่องระหว่างเราใหม่ดีไหม” เป็นคำถามที่ดูเลื่อนลอยไร้น้ำหนัก ทว่าหัวใจนั้นกลับหนักอึ้ง ความสัมพันธ์ของเธอกับพี
เข้าวันที่สี่นับตั้งแต่เรื่องระหว่างเธอและพี่อชิเป็นหัวข้ออ่อนไหวของป๊ากับม๊า ซ้ำผู้ช่วยคนสำคัญก็ถูกคุมเข้มหมายหัวห้ามช่วยเหลือเพื่อนเด็ดขาด ถูกตัดความช่วยเหลือทุกช่องทาง ไม่ใช่ว่าไม่เคยใช้ลูกไม้กับพวกท่านทว่าถูกมองออก ก็เลยต้องนั่งเครียดจ้องหน้าพี่ชายอยู่แบบนี้!“มันก็ไม่ต่างจากเธอเท่าไหร่หรอก เห็นหลังคาแต่เจอหน้าไม่ได้”เห็นน้องสาวไม่มีชีวิตชีวาคนเป็นพี่อย่างเขาก็ปวดใจ แต่ไหนเลยจะกล้าขัดผู้ใหญ่ ต่อให้เก่งกาจแค่ไหนคนในบ้านสำคัญสุด ป๊า ม๊า ไม่เคยพูดอะไรซ้ำสอง เด็ดขาดคำไหนคำนั้น ”วีโตแล้วนะคะ ทำไมพวกท่านยังมองว่าเด็ก ตัดสินใจเองไม่ได้” หลุบตามองต่ำ ไม่เข้าใจว่าพวกท่านกำลังคิดอะไรอยู่ คราแรกเหมือนจะไม่คัดค้านแต่พอพี่อชิอยากจะมาไหว้กลับบอกว่าไม่ว่าง ซะงั้น! ไม่เท่ากับกีดกันพวกเธอแล้วหรือยังไง“ห้ามร้องนะ พวกท่านไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล เอาไว้ให้อะไรมันดีกว่านี้เราต้องมีทางออกแน่”“แล้วเมื่อไหร่ล่ะคะ? ขนาดตัวไม่อยู่ยังรู้ทุกการเคลื่อนไหวพวกเราเลย แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปเจอพี่อชิเล่า”“เอาน่า! ไอ้อชิมันไม่ใช่พวกไม่เอาไหน ถ้ามันรักเธอจริงก็ต้องมีวิธีทำให้ป๊าใจอ่อนจนได้แหละ”เหมือนจะดี! แต่สุดท้
อาทิตย์ต่อมา...นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา เมื่อคืนกว่าจะข่มตาหลับลงได้เวลาก็เลยผ่านข้ามมาอีกวัน ล่าสุดที่ได้คุยกันก็น่าจะเกือบ ๆ เดือนเลยนะพอรู้ว่าป๊ากับมาจะกลับมาเธอกับพี่เจฟฟ์ก็เตรียมตัวกันออกจากบ้านแต่เช้ามารอรับพวกท่านก่อนเวลา พี่เจฟฟ์ยกนาฬิกาข้อมือที่แพงแสนแพงของเขาขึ้นมาดู ก็คงไม่ต่างจากเธอเท่าไหร่ที่คิดถึงป๊ากับม๊ามาก ๆ “น่าจะมาถึงกันแล้ว พี่ว่าเราเดินไปรอข้างหน้ากันดีกว่า” พี่ชายลุกจากที่นั่งตัวยาวแล้วหันมาบอกคนข้าง ๆ คว้าข้อมือเล็กเดินไปพร้อมกัน “พี่ว่าพวกท่านจะมีน้องกลับมาฝากเราไหม” พูดไปก็หัวเราะไปพลาง ครั้งหนึ่งเคยบอกพวกท่านว่าอยากได้น้องสักคน แล้วครั้งนี้พวกท่านก็ไปกันนานมาก... น่าจะมีอะไรพิเศษกลับมาบ้างละนา!“คงอยู่กับไอ้อชิมากไปถึงได้มีแต่เรื่องไร้สาระนะเธอเนี่ย” “ทำไมว่าน้องอะ แล้วพี่อชิมาเกี่ยวอะไรด้วยอย่าโยงไปมั่วสิ ก็วีอยากมีน้องนี่น่า” เจฟฟ์เอียงหน้าลงมองน้องสาวด้วยสายตาปราม เดี๋ยวนี้แตะต้องไม่ได้แล้วเพื่อนเขาน่ะ “เพราะมันสอนแต่ละอย่างให้เธอดูสิ! รู้งี้ไม่ยอมตั้งแต่แรกก็จบ” “นี่น้องไงพี่เจฟฟ์ อย่าใจร้ายสิคะ เราตกลงกันแล้วไง” ว่าพี่ชายดุม
ริมฝีปากร้อนจัดหันมาจุมพิตกลีบปากอวบอิ่มแสนหวานอย่างดูดดื่ม หัวใจดวงนี้พื้นที่เต็มไปด้วยผู้หญิงที่ชื่อวีด้า คู่ชีวิต ลมหายใจเขาตั้งมั่นไว้แล้วว่าจะฝากมันไว้กับเธอ จะไม่มีสิ่งใดมาเป็นอุปสรรคของเส้นทางรักของเขาได้เป็นอันขาด“อื้อ” “อ๊า” วีด้าเผยอปากเปิดกว้างเป็นโอกาสให้เรียวลิ้นร้อนเข้าไปสำรวจภายในโพรงนุ่มอชิระเรียกร้องหาความหวานจากแฟนสาว ขบเม้มดูดดึงปากนิ่มอย่างโหยหา ลิ้นสากซอกซอนเกี่ยวพันละเลงทั่วทั้งลิ้นหวานอย่างช่ำชอง“อื้ม”เสียงครางต่ำอย่างพึงพอใจเปล่งออกมาจากลำคอแกร่ง ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ผละมันออก ”แต่เธอมีความผิดอยู่จำได้หรือเปล่า” ย้ำเสียงพร่าแต่สายตาจ้องริมฝีปากบวมเจ่ออย่างคาดโทษ“ผิดอะไรคะ วีจำไม่ได้ว่าไปทำอะไรตอนไหน” ค้านเสียงสั่น พลางสูดลมถี่ ๆ เพราะจูบดูดวิญญาณ หากเขาไม่หยุดเธอคงขาดใจตายไปแล้วแน่เลย“จำไม่ได้พี่ก็จะค่อย ๆ บอกทีละอย่าง จนกว่าเธอจะเข้าใจ” ปลายจมูกโด่งซุกไซ้ซอกคอขาว ฟันซี่คมขบกัดเนินเนื้อนูนระหว่างสองเต้าด้วยความกระสันใคร่ แลบลิ้นเลียผิวผุดผ่องทิ้งน้ำลายเปียกแฉะทั่วบริเวณ“อืม พี่อชิ” เสียงหวานครางเรียกชื่อคนรักเมื่อสติสัมปชัญญะเริ่มเลือนหาย ก้านนิ้วเรียวล