วีด้าคล้ายคนถูกกระชากวิญญาณออกจากร่างอย่างรวดเร็วให้มาอยู่อีกโลกที่ไม่รู้จัก เรียวปากหยักขยับขบเม้มจากนุ่มนวลค่อย ๆ ร้อนแรงเพิ่มระดับตามอารมณ์ เสียงหายใจกระเส่ารุนแรง
ลิ้นเปียกแฉะแตะขอบปากนุ่มของเธอไล้เลียจากอีกมุมไปอีกมุมเรียกร้องต้องการรุกล้ำเข้ามาด้านใน ทั้งที่รู้อย่างนั้นควรจะต่อต้านแต่กลับโอนอ่อนคล้อยตาม เปิดปากให้ความอุ่นซ่านแทรกสอดล่วงล้ำเข้ามาหยอกเย้าปลายลิ้นของตัวเองได้อย่างง่ายดาย
อชิระรั้งท้ายทอยเล็กขยับเข้ามาใกล้ เบี่ยงใบหน้าในองศาที่สามารถตักตวงเอาความหวานจากกลีบปากอุ่นอย่างเต็มที่ ทุกอณูภายในความอุ่นชื้นมีทั้งตื่นกลัวและอยากค้นหา เป็นจูบไม่ประสาแต่กลับทำให้เขาไม่อยากหยุด
ท่อนแขนใหญ่คว้าเอวคอดเข้าแนบชิดกายแกร่ง จงใจบดเบียดตัวเองเข้าหาความนุ่มจากเรือนร่างเล็ก แรงเสียดสีของร่างกายทำให้เขาอยากทำมากกว่าแค่จูบ มันอยากมากกว่าแค่ได้สอดลิ้นตวัดพันกัน มือที่อยู่เหนือเอวลูบไล้ผ่านผิวนุ่มลงมาสะโพกสวย
“อื้อ...”
วีด้าประท้วง ทั้งจูบดูดดื่มทั้งสัมผัสเร่าร้อนจนร่างกายของเธอไร้เรี่ยวแรง ลมหายใจค่อย ๆ แผ่วลง
อึก⁓
อชิระผละริมฝีปากร้อนจัดออกจากคนที่กำลังทรงตัวได้ยาก ระยะห่างของใบหน้ายังใกล้กันรับรู้ได้ถึงลมหายใจหอบรุนแรง นิ้วก้านยาวยกขึ้นเกลี่ยแก้มนุ่มเนียนละเอียดยิ่งกว่าผิวเด็ก
สายตาแพรวพราวกวาดมองความงดงามประดับอยู่บนดวงหน้าเล็ก ราวกับเจอศิลปะชั้นเอกสมบูรณ์แบบที่สุด วีด้าเปรียบดังดอกไม้เบ่งบานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ยามเคลื่อนไหวก็โอนอ่อนพลิ้วไหวได้อย่างสง่างาม ปลายลิ้นอ่อนนุ่มโต้ตอบเขาเมื่อครู่ยังตราตรึงอยู่ในทุกอณูของการสัมผัส
กระทั่งนัยน์ตาสีซินนาม่อนหยุดตรงกลีบปากแดงก่ำซ้ำยังบวมเปล่ง!
วีด้าถึงได้รู้สึกตัวว่าได้ปล่อยให้สติเลือนหาย ปล่อยให้เพื่อนพี่ชายล่วงล้ำเข้ามาพื้นที่หวงห้าม ยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเมื่อลมหายใจร้อนกระทบแก้ม
ผลัก!
อชิระก้าวถอยด้วยแรงผลักอันน้อยนิด ยังไม่ทันได้เอ่ยคำใดกายเล็กก็วิ่งพรวดออกไปจากวงแขน
“หึ” เขาหัวเราะในลำคอ มองตามแผ่นหลังเจ้าของเรือนร่างสมส่วนสับเท้าขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว ถึงได้หมุนตัวหันมายังทางออก
ทว่ากลับเจอกับคนยืนพิงขอบประตูกอดอกมองเขาด้วยสายตาเย็นเยียบ
“ไอ้ก้า! มึงมาทำอะไร” สาวเท้ามาหาเพื่อน บางอย่างบอกเขาว่าการมาของมันไม่ใช่แค่บังเอิญ
“กูต้องถามมึงมากกว่า ไหนบอกว่ามาเข้าห้องน้ำแล้วเมื่อกี้คืออะไร? วีทำไมถึงรีบวิ่งขึ้นไปแบบนั้น?”
เสียงเล็ดลอดออกมาจากไลก้านั้นเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก คล้ายกับมีแรงกดดันชวนให้คนฟังตึงเครียด
ทว่าไม่ใช่กับอชิระ!
“แล้วถ้าบอกว่ากูไม่ได้ทำอะไร มึงจะเชื่อหรือเปล่าล่ะ”
อชิระหยุดอยู่ตรงหน้าไลก้า เสียงที่ตอบออกมานั้นไร้แววของความตื่นกลัวหรือมีพิรุธใด ๆ ทั้งสิ้น ยิ่งเมื่อได้จ้องเข้าไปในดวงตาแข็งกระด้างของอีกคนแล้ว ยิ่งทำให้เขาอยากกระตุ้นให้ไลก้าเผยสิ่งที่อยู่ในหัวมันออกมา
แต่ก็นั่นแหละนะ...
ไอ้ก้าไม่ใช่พวกพี่เผยอะไรออกมาง่าย ๆ เสียด้วย ดังนั้นนอกจากจะไม่ได้อะไรอาจจะทำให้เกิดแรงปะทะกลับมามากกว่า
อชิระจึงย้ายมายืนอีกฝั่ง ทิ้งตัวพิงขอบประตูเพื่อรอคำตอบอย่างใจเย็น
นัยน์ตาสีเทานิ่งอยู่บนใบหน้ายิ้มยียวน ก่อนที่เขาจะทิ้งท่อนแขนเต็มไปด้วยเส้นเลือดไหลวนโดยรอบน่าเกรงขามขนาบลำตัว แล้วก้าวเข้าไปหาเพื่อน ‘รัก’ อย่างสุขุม
“กูขอเตือนในฐานะที่เราเป็นเพื่อนกันอชิ! อย่าเล่น ๆ กับวี” เขากดเสียงนิ่งอยู่แล้วให้เย็นลงฟังชวนหนาวเหน็บในหัวใจเป็นที่สุด
แต่แทนที่อชิระจะรู้สึกอย่างนั้นเขากลับกดเสียงทุ้มให้ต่ำลงแล้วหัวเราะในลำคออย่างท้าทาย จากนั้นก็ดันตัวออกจากความแข็งด้านหลัง ก้าวเข้ามาใกล้ไลก้า
จากสีหน้าประดับรอยยิ้มแปลเปลี่ยนเป็นกระด้างขึ้น เขาจ้องเข้าไปในดวงตาสีเทาของเพื่อน ‘รัก’ ตลอดเวลาที่คบหากันมามากกว่าสี่ปี ต่อให้เขาทำตัวแย่แค่ไหน ทำร้ายผู้หญิงให้เสียใจเท่าไหร่ไอ้คนทำหน้ากวนอวัยวะเบื้องล่างคนนี้ก็ไม่เคยยื่นมือเข้ามาสอด
‘แล้วทำไมครั้งนี้มันถึงไม่ทำอย่างที่ผ่านมา!’
“มึงชอบเธอ?” ลมร้อนพ่นออกอย่างแรง จงใจให้ไลก้ารับรู้ว่าตนไม่ได้เล่น ไม่คิดจะเล่นเลยสักนิด
“กูไม่จำเป็นต้องตอบคำถามนี้ของมึง ที่พูดก็เพราะเห็นว่ามึงคือเพื่อน วีคือหัวใจของไอ้เจฟฟ์ ถ้ายังอยากเป็นเพื่อนกันต่อก็หยุดความคิดทั้งหมดซะ”
ไลก้าทิ้งคำพูดเต็มไปด้วยความหนักแน่นจริงจังไว้บนใบหน้าอชิระ แล้วหมุนตัวหันหลังเดินออกไปจากตรงนั้นทันที
ทิ้งไว้เพียงร่างสูงต้องแบกรับความรู้สึกค้างคา หงุดหงิดไว้ สองกรามแกร่งขบกันแน่น จนกลัวเหลือเกินว่าเจ้าตัวจะทำให้สิ่งที่กระทบกันอยู่ร้าวระบม จากการกระทำของตนหรือเปล่า
นัยน์ตาคมดุยิ่งดูน่ากลัวมากขึ้นเมื่ออชิระทอดมองแผ่นหลังกว้างของไล้ก้าเดินห่างออกไปเชื่องช้า
“กูรู้ตัวดีว่ากำลังทำอะไร ไอ้ก้า!”
เช้าวันต่อมา...
Mittap University
ทางเดินตรงไปยังตึกคณะนิเทศศาสตร์ ปกติจะมีนิสิตนักศึกษาเดินสวนทางกันบ้าง ทว่าเวลานี้เป็นชั่วโมงเรียนจึงมีเพียงวีด้าย่างเท้ามาเพียงลำพังด้วยสภาพอิดโรย เธอยกมือนวดขมับที่รู้สึกปวดตุบ ๆ ตั้งแต่ก้าวออกมาจากรถ
“เพราะพี่คนเดียวเลย” นวดคลึงขมับไปพลางบ่นพึมพำให้กับคนที่สร้างเรื่องให้ เธอนอนไม่หลับทั้งคืน คิดไม่ตกว่าทำไมเพื่อนพี่ชายอย่างพี่อชิระถึงต้องมาจูบเธอแบบนั้น เป็นเพราะเมาเหรอ หรือเสียใจจากเรื่องพี่ซอล?
กึก!
ปลายเท้ากำลังก้าวตรงไปด้านหน้าหยุดชะงักเมื่อจู่ ๆ ก็ถูกขวางด้วยบุคคลที่ไม่คุ้นเคย!
“ดูสิว่าเราเจอใคร?”
เสียงกระแหนะกระแหนจีบปากจีบคอพูดจากคนผมแดงเอ่ยกับเพื่อนอีกสองคนดังขึ้น กลอกตามองวีด้าตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าแล้วหันมาทางเพื่อนพลางยิ้มมุมปาก
วีด้าประมวลผลในหัวสมองที่มีประสิทธิภาพไม่เต็มร้อย สำรวจใบหน้าคนทั้งสามอย่างใช้ความคิด นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าพวกหล่อนเป็นใครและเคยพบเห็นที่ไหน แล้วยังมั่นใจว่าตั้งแต่มาเรียนมหา’ลัยนี้ตนไม่เคยไปมีเรื่องหรือหาเรื่องใครก่อนแน่ จนทำคนพวกนี้ต้องใช้สายตามองอย่างขุ่นเคืองติดจะไปทางโกรธมากกว่ามองกันอย่างนี้
“ดูสายตาหล่อนมองเราสิ! คิดว่าตัวเองเป็นดาวเด่นถูกคัดเลือกให้เป็นดาวมหาลัยแล้วก็เป็นน้องสาวของพี่เจฟฟ์จะทำหน้า ทำตา ทำตัวหยิ่งยโสแบบนี้ได้เหรอ ห๊ะ”
อีกคนซึ่งสูงกว่าคนทั้งสามตาลุกวาว ชี้หน้าวีด้าด้วยท่าทีไม่ชอบใจจัด
“ใช่ คิดว่าตัวเองสวยมากนักหรือไง? ชิ ที่ได้เป็นดาวก็เพราะเขาเห็นว่าเธอเป็นน้องพี่เจฟฟ์หรอกยะ อย่าคิดว่าตัวเองได้เพราะความสวยเลย”
คนสุดท้ายติดออกจะดูถูก หล่อนแบะปากคว่ำลง มองวีด้าราวกับว่าเคยไปเหยียบท้าวหล่อนมาอย่างนั้น
“ฉันไม่เคยคิดแบบนั้น เอาเป็นว่าถ้าทำอะไรให้พวกเธอไม่พอใจก็ขอโทษแล้วกัน วันนี้ไม่พร้อมมีเรื่องจริง ๆ”
วีด้าบอกปัดอย่างเหนื่อยหน่าย ตำแหน่งดาวอะไรนั่นก็ไม่ได้ตั้งใจตั้งแต่แรก แค่ทำเพราะทนคำรบเร้ายัยไลลาไม่ได้แค่นั้น ใช่ว่าอยากเป็นที่ไหน วุ่นวายจะตาย
น่าเบื่อ!
ปึก⁓
วีด้าหลับตาข่มกลั้นอารมณ์สุดขีดเมื่อถูกคนตัวสูงผลักไหล่
“ทำไม พอไม่มีเพื่อนก็หง๋อยเลยสิ”
“ฉันมีเรียน แล้วก็ไม่ได้อยากมีเรื่องด้วย”
“ไหนใครที่ว่าเธอเก่งนักหนา แค่นี้ก็กลัวแล้วเหรอ” อีกคนสาวเท้าตามคนตัวสูงมา
“จับมันไว้ ฉันจะทำให้นังนี่มันรู้ว่าการทำตัวเด่นเป็นยังไง” คนผมแดงสั่งเสียงกร้าว
วีด้าที่ร่างกายอ่อนแรงอยู่แล้วเมื่อถูกรวบจากคนที่มีขนาดตัวใหญ่กว่ามากก็ดิ้นไม่หลุด ในหัวปวดตุบ ๆ มองคนย่างก้าวมาอย่างลำพองแข็งกระด้าง ยังไม่ทันได้คำนวณองศาก็ถูกฝ่ามือฟาดลงมาที่แก้มข้างซ้ายอย่างแรง จนเธอหันไปตามความเร็วของการสะบัดมือ
“เก่งนักใช่ไหม” ด้วยความย่ามใจหญิงผมแดงหมายจะฟาดฝ่ามือลงแก้มเนียนอีกครั้ง
แต่แล้ว...
ตุบ ๆ ๆ ๆ
โอ๊ย , โอ๊ย , โอ๊ย
ความเร็วของพวกหล่อนยังช้ากว่าใครบางคน!
“ใครมันกล้าถีบฉัน” เมื่อทรงตัวขึ้นมาได้สาวผมแดงก็หันไปทางผู้มาใหม่
ส่วนเพื่อนสองคนที่ล้มไม่เป็นท่าเพราะถูกลูกถีบก็ลนลานรีบพยุงตัวขึ้นจากพื้นแล้ววิ่งมาสมทบกันเผชิญหน้ากับวีด้าและสาวปริศนาคนนั้นด้วยสีหน้าแดงก่ำ
“เล่นหมาหมู่กันแบบนี้จะไม่เอาเปรียบกันไปหน่อยเหรอ”
สาวผมทองใบหน้าสะสวย ดวงตาสีอำพันจ้องคนทั้งสามเขม็งพลางประคองวีด้าให้ทรงตัวกลับมายืนตัวตรงได้อย่างเดิม
“แกเป็นใคร” หญิงตัวสูงตะเบ็งเสียงถาม
“ฉันเป็นใครไม่สำคัญ แต่เล่นหมาหมู่อย่างพวกเธอฉันไม่ชอบ”
สาวผมทองบอกด้วยโทนเสียงราบเรียบไร้แววเกรงกลัวคนที่ตัวใหญ่กว่า มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าถ้าตัวต่อตัวพวกหล่อน ‘ไม่เอาไหน’ อาศัยแค่พวกเยอะเท่านั้น ก่อนจะหันมาสำรวจคนถูกทำร้าย เจ้าของดวงตาสีอำพันก็เม้มปากแนบสนิทจนเป็นเส้นตรง
‘เธอคนนี้ไม่สบาย?’
“โอเคไหม”
“เจ็บนิดหน่อย” วีด้าตอบคนพยุงตัวเองไว้และยิ่งได้เห็นผู้ที่มาช่วยใกล้ ๆ ถึงได้เห็นว่า
‘สวยมาก’
2 ปีให้หลัง....วันเสาร์เป็นวันที่วีด้าโหยหาที่สุดนับตั้งแต่ร่วมกันเปิดบริษัทกับไลลาและซันเดย์เธอก็วิ่งวุ่นจนไม่มีเวลาได้พักผ่อน โดนสามีบ่นหลายครั้งว่าไม่สนใจเขา เอาแต่ทำงาน... ทำอย่างกับว่าตัวเองงานไม่เยอะงั้นแหละYOLO เดี๋ยวนี้มีดารา นายแบบ คนมีชื่อเสียงเข้าไปฝึกที่สนามพวกเขากันเยอะเลย โด่งดังใหญ่แล้ว!พรึ่บ⁓ร่างกายที่กำลังดื่มด่ำกับความอุ่นสบาย ภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่คิ้วขมวดเมื่อความเย็นกระทบผิว“อื้อ~”“ตื่นได้แล้วยัยขี้เซา จะสิบโมงละนะ ข้าวเช้าก็ไม่ยอมกิน ถ้าป๊ากับพี่ชายเธอรู้สามีคนนี้จะรับมือไหวเหรอ หื้ม?” ก้มลงกระซิบข้างใบหูขาว เห็นว่าเธอครางพึมพำก็กดจูบซอกคอระหงจนเธอหันขวับมาค้อนวงใหญ่“แค่วันเดียวเอง พี่ไม่บอกพวกเขาจะรู้เหรอคะ” ดันตัวขึ้นบอกสามีเสียงงัวเงีย ก็ไม่ใช่เพราะเขาหรือไงเธอถึงได้เพลียแบบนี้“ร้ายขึ้นทุกวัน” บีบจมูกรั้นเบา ๆ“อื้อ... ไหน ๆ ก็สายแล้วนอนต่อได้ไหม”“หยุดเลย” ประคองท้ายทอยเล็กเอาไว้ก่อนที่เธอจะเอนตัวราบลงไปเสียก่อน“ถึงจะสายก็ต้องกิน ถ้าปวดท้องขึ้นมาพี่จะตีเธอจริง ๆ นะวีด้า” ขยับตัวขึ้นกลางเตียงเพื่อให้ศีรษะเล็กหนุนขาได้ถนัด“พี่จะตีเมียลงเหรอคะ จะทนเห็นน้ำ
หนึ่งปีต่อมา…โรงแรม The Lush Nestวันที่ 02 / 10 /25xxบรรยากาศภายในห้องโถงขนาดใหญ่ของโรงแรมถูกเนรมิตอย่างงดงาม แซนเดอเลียร์ระยิบระยับทิ้งตัวระย้าจากด้านบน แสงสีนวลส่องสว่างขับให้ทั่วทุกพื้นที่อบอวลไปด้วยความตระการตาภาพถ่ายขนาดเท่าตัวคนจริง ๆ เป็นรูปของชายหนุ่มสวมชุดทักซิโดสีเข้มทั้งชุด คุกเข่าต่อหน้าหญิงสาวสวมชุดราตรีสีมุกผ้าลูกไม้ ใบหน้าทั้งสองเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขแม้จะมองผ่านรูปยังซึมซับความรู้สึกนั้นได้ จึงเป็นจุดเด่นให้อยากเก็บภาพความทรงจำอันแสนตราตรึงในงาน...แต่งงานระหว่าง อชิระ ธาดากุล & วีด้า เมย์แกนคู่บ่าวสาวคนแรกของแก๊งสิงห์ ทั้งสองเข้าประตูวิวาห์ในวัยที่เหมาะสมและพร้อมทุกอย่าง ต่างได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบดังนั้นตั้งแต่ต้นจนจบนอกจากทำหน้าที่เป็นเจ้าบ่าวและเจ้าสาวแล้ว ทั้งอชิระและวีด้าก็แทบไม่ได้จัดการเกี่ยวกับงานครั้งนี้ พ่องานแม่งานอย่างแจ็คกี้ เลย์ เคที่และรีน่าล้วนดำเนินการให้กับลูกทั้งสองจนหมดแขกเหรื่อที่มาร่วมงานล้วนเป็นแวดวงสังคมที่อยู่ในระดับผู้มีชื่อเสียง และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเพื่อนสนิทของทั้งสองฝ่าย เจฟฟ์ ไลก้า อาเชอร์ วิกเตอร์และ
อชิระหายใจเข้ารุนแรงเมื่อภาพที่เห็นอยู่เบื้องล่างทำขนกายลุกซู่ เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลอมส้มเคลื่อนไหวใบหน้าอยู่กึ่งกลางความเป็นชาย เพียงแค่ลมอุ่น ๆ กระทบยังไม่ทันที่เธอจะสัมผัสส่วนใดส่วนหนึ่งของอาวุธประจำกาย เขาก็เกร็งท้องน้อยจนเหน็บจะกินเอา!นิ้วเรียวยาวเสยกลุ่มผมสลวยแล้วทัดเข้ายังใบหูขาว...“ถ้าเธอไม่ใช่เจ้าของหัวใจของพี่ ต่อให้มีคนมาห้อมล้อมนับร้อยนับพันพี่ก็ไม่สนใจ แต่นี่เป็นเธอ จะให้ไม่หึง ไม่หวงก็เอามีดมาทิ่มพี่เลยเถอะวีด้า”“ทำแบบนั้นวีจะเอาอะไรมาไว้ทิ่มตัวเองล่ะ”“เชี้ย! โคตรยั่วเลยว่ะ มานั่งบดกันเลยมาถ้าจะขนาดนี้ เสียวหัวไปหมดแล้วเนี่ย”“งั้น...เอาอย่างอื่นบดให้นะคะ”“ซะ ซี้ด...”กายใหญ่สะท้านทันทีเมื่อปลายลิ้นสีชมพูเลียรอยหยักหัวแดงก่ำ พร้อมกับน้ำลายยืดออกเป็นสายยามที่กลีบปากอวบขยับอ้าอม ดูดดุนลิ้นรอบ ๆ ปลายหัวบานหยัก เขาถูกเธอกระตุ้นด้วยไฟเร่าร้อน เหมือนถูกเกลียวคลื่นซัดสาดให้วนอยู่กับอารมณ์วาบหวามซ้ำ ๆ‘เก่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?’เธอช้อนมองเจ้าของเสียงครางต่ำกระหึ่มในลำคอ นัยน์ตาคมดุเต็มไปด้วยแรงปรารถนาอันเร่าร้อนที่พร้อมจะแผดเผาทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า กับลิ้นเปียกชื้นท
Mittap Universityวีด้านั่งอยู่ภายในห้องที่เคยเป็นศูนย์รวมของแก๊งสิงห์ แม้ว่าพวกเขาจะเรียนจบไปแล้วได้ปีกว่า ๆ ทว่าก็ยังแวะเวียนมายังสถานศึกษาแห่งนี้เป็นนิจ จะด้วยเหตุอะไรนั้นก็ยากที่จะพูดแต่ที่มาบ่อยสุดก็เห็นจะเป็นคนที่ยืนอิงขอบตู้ตัวยาวข้างห้อง ร่างสูงกอดอกด้วยท่าทีไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่นัก นัยน์ตาสีซินนาม่อนก็เรียบนิ่งยิ่งกว่าสายลม ริมฝีปากที่เคยยกยิ้มอย่างคนเจ้าเล่ห์ก็ไม่หลงเหลือ ที่เด่นชัดนั่นก็คือลมหายใจกระชากรุนแรงเป็นระยะ ชวนหัวใจเต้นตุบ ๆ ต่อม ๆ“วีก็บอกแล้วว่าไม่มีอะไร น้องมันก็แค่ตามซันมา พี่อย่าอารมณ์เสียได้ไหมคะ กว่าจะว่างมาเจอกันได้ไม่ง่ายเลยนะ”คงต้องเอาน้ำเย็นเข้าลูบ ไม่งั้นห้องนี้อาจจะพังก็ได้ เธอไม่อยากถูกพี่ชาย หรือคนอื่น ๆ ล้อเวลาเข้ามาแล้วเห็นว่ามีโซฟา หรือไม่ก็โต๊ะตรงหน้านี้เปลี่ยนใหม่อีกแล้ว“แล้วมันต้องตามติดเธอแบบนั้นไหม พี่สาวตัวเองก็อยู่ด้วย มันจงใจเข้าหาเธอชัด ๆ แม่ง! ไล่ออกเลยดีไหม เกลียดขี้หน้ามันว่ะ”มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นว่าไอ้เด็กนั่นมาวอแวแฟนเขา มาทีไรก็เดินตามเธอต้อย ๆ เหมือนพี่สาวไม่มีผิด ถ้าไม่เห็นแก่ที่ว่า ซันเดย์เป็นเพื่อนที่วีด้ารักมาก คงได้ตะบ
แสงแดดยามเย็นส่องลอดผ่านใบไม้ที่พลิ้วไหวตามสายลมอ่อน ๆ เสียงหัวเราะของผู้ใหญ่ภายในบ้านดังขึ้น ขณะกำลังช่วยกันจัดเตรียมอาหารมื้อเย็น แจ็คกี้และเลย์ช่วยกันเรียงไก่ทอดน่องใหญ่ที่พึ่งพักให้สะเด็ดน้ำมันลงบนจาน กลิ่นหอมของอาหารกระจายไปทั่วบริเวณ รีน่าและเคที่จัดโต๊ะอาหารใต้ต้นไม้ใหญ่ พร้อมกับมองภาพที่ลูก ๆ กำลังช่วยกันตกแต่งไฟดวงเล็ก ๆ เพิ่มบรรยากาศมือเย็นให้สวยงามยิ่งขึ้นวีด้า อชิตาช่วยกันปอกผลไม้เอาไว้สำหรับตบท้ายมื้อค่ำ รอยยิ้มแสนหวานของทั้งสองสาวยิ่งเพิ่มความสดใสให้กับบรรยากาศโดยรอบ อชิระและเจฟฟ์ต่างก็ยิ้มตามพวกเธอ ก่อนที่จะหันมาจัดงานในมือให้เสร็จก่อนค่ำ“มึงก็แขวนให้มันดี ๆ หน่อยได้ไหมวะ” เจฟฟ์ชี้นิ้วให้คนยืนอยู่ขั้นบันไดเอาสายไฟพันกับกิ่งไม้ให้เรียบร้อย“มาทำเองไหมเจฟฟ์ กูก็ถามแล้วว่าพอยัง มึงบอกเองว่าได้แล้ว!” คนถูกใช้ให้เปลี่ยนตำแหน่งอีกชักเริ่มหัวเสีย ลิ้นร้อนดันกระพุ้งแก้ม พยายามไม่ยกเท้ายันไอ้คนเรื่องมาก หากไม่อยู่ต่อหน้าบุพการีของทั้งสองฝ่ายคงจัดหนักมันไปแล้ว!“อะไรกันตาอชิ ไม่ดีก็แค่ทำใหม่ ไม่เห็นต้องใช้เสียงแบบนั้นกับตาเจฟฟ์เลยนี่” เคที่เอี้ยวตัวมาทางลูกชายเมื่อได้ยินเสีย
วีด้ากลับมาจากบ้านไรอันก็พอดีกับเวลาอาหารเย็น ดวงตาคู่สวยหรี่เล็กลงเมื่อเห็นรถยนต์ที่คุ้นเคยจอดอยู่นอกรั้วบ้าน มองหาเจ้าของก็ไม่เจอ นึกว่าเจ้าตัวน่าจะอยู่แถวนี้ก็ไม่เห็นถึงขับรถตัวเองเข้ามาจอดด้านใน ควานหามือถือระหว่างออกมาจากตัวรถ เพื่อโทรหาคนที่เงียบหายไปตลอดทั้งวัน กระทั่งเดินเข้ามาภายในตัวบ้านจึงได้เห็นว่าคนที่ตามหากำลังเดินออกมาจากห้องครัว“ทำไมพี่ถึงมาอยู่ในบ้านคะ?” แทบไม่อยากเชื่อสายตาว่าพี่อชิจะเข้ามาได้ ซ้ำยังใส่ชุดพี่ชายของเธอด้วย ก่อนจะมองผ่านไหล่กว้างไปก็เห็นว่าป๊าก็อยู่ในนั้นเช่นกัน ‘นี่มันเกิดอะไรขึ้น!’ยังไม่ทันที่อชิระจะเปิดปากตอบแฟนสาว ผู้ที่อยู่ด้านหลังก็เอ่ยแทรกขึ้นมาก่อน“อ้าวยัยหนูกลับมาแล้วเหรอ” คนพึ่งเดินออกมาจากห้องครัวพอเห็นลูกสาวก็เดินผ่านอชิระมาหาเธอก่อน โอบไหล่เล็กไว้ในอ้อมแขนแล้วพาไปยังโซฟาหน้าทีวี วีด้าเดินผ่านแฟนหนุ่มไปแต่ส่งสายตาเต็มไปด้วยคำถาม แต่ก็ติดที่ผู้เป็นบิดาไม่เปิดโอกาสให้เธอได้เอ่ยคำใด จึงขยับปากถามแบบไร้เสียง‘ทำไมอยู่ที่นี่’ แต่คำตอบที่ได้กลับเป็นแค่ยิ้มบาง ๆ อชิระที่เริ่มจับทางพ่อที่หวงลูกสาวได้แล้ว เดินตามทั้งสองไปรีน่านั่งอยู่ก่อน