ห้องน้ำ
“ฉันไม่ไว้ใจแม่สาวผมทองนั้นเลย ชอบมองแกแล้วก็ทำตัวแปลก ๆ ฉันว่าแกอย่าเข้าไปยุ่งมากกว่านี้จะดีกว่านะ”
เมื่อแยกตัวออกมาอยู่กันเพียงลำพัง โดยไร้ซันเดย์ที่คอยตามติดวีด้าแทบจะเหมือนเงา ไลลาก็ร่ายสิ่งที่อึดอัดตลอดทั้งวันออกมาจนหมด
“คิดมาก ซันก็แค่แปลกที่แปลกทางก็เลยตามติดฉันแค่นั้น อย่ามองคนอื่นในแง่ลบสิ”
“ยัยบ้านี่ เปื้อนหมดเลย”
ไลลาหลบละอองน้ำจากปลายนิ้ววีด้าที่แกล้งดีดใส่หน้าท้องของตน เสื้อสีขาวพอถูกน้ำก็เห็นผิวนวลเนียน เธอยู่ปากพลางมองค้อนเพื่อนวงใหญ่
“คิ ๆ รู้ว่าเป็นห่วง ซันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่แกว่า เลิกอคติแล้วจะเห็นอะไรดี ๆ เชื่อฉัน”
“เอาเถอะจะลองดูแล้วกัน แล้วเมื่อวานเป็นไงพี่เจฟฟ์จับได้หรือเปล่า อยากไปดูด้วยกันอีกไหม? ว้าย...อะไรของแกเนี่ยวี เปียกหมดแล้ว”
“ก็อยู่ ๆ เปลี่ยนเรื่องทำไมเล่า ฉันก็ตกใจไง”
“แค่เรื่องพี่เจฟฟ์อะวี แกตกใจอะไร”
วีด้าเม้มปากเพราะนึกถึงคนที่ทำให้มันช้ำเมื่อคืน ดีที่คณะของเธอและเขาไม่ได้อยู่ใกล้กัน ไม่อย่างนั้นละก็...
“วี ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับแกใช่ไหม?”
“ไม่มี! พี่เจฟฟ์ไม่รู้แต่พี่ก้าน่ะไม่รอด เขาเห็นเราที่นั่นถ้าไม่ได้พี่ก้าฉันตายแน่”
“หมายความว่าพี่ก้าปิดเรื่องนี้เพื่อช่วยแกใช่ไหม”
ไลลายื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างมีเลศนัยระหว่างเพื่อนสนิทกับพี่ชายบ้านใกล้เคียง
“เพราะแกนั่นแหละชวนฉัน”
ปลายนิ้วเรียวแตะหน้าผากขาวเบา ๆ พลางก้าวมายังประตูห้องน้ำ
“ฉันจะไปรถเปลี่ยนเสื้อผ้า แกมีชุดหรือเปล่า?”
“แหนะ มีพิรุธนะแกเนี่ย ไม่คิดอะไรกับพี่ก้าสักนิดเลยเหรอ”
ไลลายังไม่เลิกเย้าเพื่อนเรื่องรุ่นพี่สุดหล่อคณะวิศวะอีกคน ที่ทั้งฮอตและมีชื่อเสียงโด่งดังในมหา’ลัย
“อย่าไปพูดให้บรรดาสาว ๆ ที่คลั่งไคล้พี่ก้าได้ยินเชียว ฉันรับมือกับพวกหล่อนไม่ไหวหรอกนะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า...กลัวทำไมพี่เจฟฟ์ก็อยู่ที่นี่ ฉันมีชุดที่รถแล้วจะกลับบ้านเลย”
สาวเท้าเดินมาอยู่ข้างกัน เสียงหัวเราะสดใสของไลลาทำวีด้าหมั่นไส้เพื่อนสนิทคนนี้นัก ชอบหาเรื่องปวดหัวมาให้ตลอด
ลานจอดรถ
ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยจริง ๆ เรียนก็ไม่เข้าหัว แย่ขนาดนี้เลยนะวีด้า เพราะเขาคนเดียวเลยที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้
ติ๊ด⁓
ประตูออดี้ยังไม่ทันจะเปิดออกผู้เป็นเจ้าของก็รู้สึกความเคลื่อนไหวด้านหลัง ทว่าความเร็วของเธอก็ช้ากว่าร่างสูงของใครบางคน!
“ไปทำอะไรมาถึงได้เปียกขนาดนี้!”
ขนอ่อนบริเวณต้นคอของวีด้าตั้งชูชัน ทั้งจากเสียงทุ้มและลมหายใจอุ่นที่เป่ารด แล้วยังสองแขนกักกันตัวเองไว้ทั้งสองจนด้านหน้าของเธอแนบสนิทกับตัวรถ
ลำคอระหงตีบตันคล้ายกับคนหายใจไม่ออก และยังประหม่ามากขึ้นเมื่อสะโพกสัมผัสแนบชิดกับความแข็งแกร่งของคนด้านหลัง
“พี่อชิ! ถอยออกไปหน่อยค่ะ แบบนี้ถ้ามีใครมาเห็น วีเสียหายนะ” เธอจำกลิ่นนี้ได้ยิ่งเสียงไม่มีวันลืม มันฝังอยู่ในหัวหลอกหลอนมาตลอดทั้งวัน หลับตาผ่อนลมหายใจให้อยู่ในระดับปกติไม่อยากให้ถูกจับได้ว่ากำลังใจสั่นเพราะเขา
“งั้นถ้าไม่มีใครเห็นพี่จะทำอะไรก็ได้ใช่ไหม”
“ไม่ได้ อุ๊ย!” ตกใจกับคำพูดสองแง่สองง่ามคิดเข้าข้างตัวเองของกายสูงก็เลยรีบหันไปด้านหลัง ไม่คิดว่าจะเป็นการเอาแก้มไปแตะกับเรียวปากอุ่น
“หอม” ยิ้มร้ายปรากฏเด่นชัด ชัดชนิดคิดไปว่าเป็นความตั้งใจให้คนกึ่งอยู่ในอ้อมกอดหันมา
วีด้าเริ่มทำตัวไม่ถูก ส่ายสายตามองไปโดยรอบก็เหมือนจะเป็นใจให้คนมือไวได้เอาเปรียบกัน หรือเพราะเวลานี้นักศึกษาเกรดA ต่างก็เรียนกันหมด ยกเว้นชั้นของเธอที่ยกคลาสพร้อมกันถึงสองวิชา!
‘เฮ้อ จะบังเอิญอะไรขนาดนั้น’
“ปล่อยเถอะนะคะพี่อชิ ทำแบบนี้เกิดคนของพี่มาเห็นวีซวยแน่ ๆ” เปลี่ยนความสนใจเขาเสียใหม่ หวังว่าข้อนี้จะเบี่ยงเบนความสนใจเขาได้
หนึ่งใน 5 สิงห์แห่ง MTU (Mittap Univetsity)
เขาคือตัวท็อปตัวพ่อเรื่องเสือผู้หญิง สาว ๆ ทั่วทั้งมหา’ลัยต่างก็อยากถวายตัวให้ แต่ยกเว้นเธอคนหนึ่ง เพราะแค่ได้ยินชื่อเสียง (เสีย) ด้านนี้ของเพื่อนพี่ชายก็ชวนปวดหัวแล้ว
“หึ กลัวเหรอ? แล้วถ้าพี่เลิกยุ่งกับผู้หญิงพวกนั้น วีจะยอมให้พี่เข้าใกล้ จะยอมคบกับพี่ไหม”
เสียงกระซิบเข้าไปใกล้กกหูขาว แถมชิดซอกคอ กลิ่นหอมเย้ายวนฟุ้งเหนือจมูกจนต้องสูดลมหายใจยาวเหยียดก่อนจะจงใจปัดปลายจมูกผ่านใบหนูคนตัวเล็ก
“อะ! พี่อย่าล้อวีเล่น” จะดิ้นก็ไม่ได้หากทำแบบนั้นส่วนที่เสียดสีกันก็ยิ่งร้อนผ่าว
“พี่พูดจริง พวกหล่อนถ้าเทียบกับวีแล้ว...สู้วีไม่ได้เลยสักนิด”
พรึ่บ⁓
“อื้อ เจ็บค่ะ” แรงฉุดตรงหัวไหล่รวดเร็ว แรงพอให้เธอหันหน้ามาทางพี่อชิได้อย่างง่ายดาย เราเผชิญหน้ากัน ได้เห็นนัยน์ตาคมดุพราวระยับจับจ้องหัวใจของเธอก็เต้นไม่เป็นส่ำ เกินควบคุมทุกครั้งพอได้อยู่ใกล้เขา ร่างกายไม่ยอมทำตามอย่างที่ใจสั่งเลยสักนิด
พี่อชิยังไม่ยอมให้เธอได้พ้นไปจากวงแขนเต็มไปด้วยเส้นเลือดรายล้อม ชุดช็อปสีแดงคนอื่นใส่แล้วดูปกติ แต่พอเป็นเขาทำไมถึงได้ดูฮอตขนาดนี้!
“ขอโทษค่ะ ไม่ตั้งใจทำให้วีเจ็บ ตอบได้หรือยังเราคบกันได้หรือเปล่า”
“ทำไมง่ายจังล่ะคะ?”
“ไม่มีอะไรยากนี่ แค่วีบอกว่าตกลงพวกหล่อนจะไม่เข้ามาใกล้หรือวุ่นวายกับพี่อีก”
“ถ้าพี่ทำให้พวกหล่อนไม่มายุ่งวุ่นวายได้ วีจะลองคิดดู อื้อ...”
เพียงสิ้นคำจูบหนัก ๆ ก็กดลงมา ทั้งร้อนแรง ดุดัน ทำหัวหมุนไปหมด เขาร้ายกาจขนาดนี้แทนที่เธอจะผลักไสกลับยึดไหล่กว้างไว้แน่น เผยอปากให้ลิ้นร้อนเข้ามาตวัดเล่นอยู่ข้างใน สติเลอะเลือนขึ้นทุกวันแล้ววีด้า
“อื้อ...” กายสูงบดเบียดลำตัวเข้าหาเรือนร่างนุ่มนิ่ม เลื่อนฝ่ามือใหญ่แนบชิดสะโพก ฟอนเฟ้นคลึงเบา ๆ เสียงหวานก็ครางในลำคอ
อึก!
“อย่าลืมคำพูดวันนี้ แล้วพี่จะไปทวงสัญญาจำไว้นะเด็กดี” หน้าผากอิงแอบกัน เสียงแหบห้าวย้ำเตือนคำพูดของน้องสาวเพื่อน ก่อนจะผละใบหน้าออกยังหอมแก้มเนียนฟอดหนึ่ง
วีด้ากระทืบเท้าเบา ๆ ที่เผลอใจปล่อยตัวให้เพื่อนพี่ชายใกล้ชิดอีกแล้ว
“พี่จะไม่มีวันได้เข้าใกล้วีอีก และเราก็ไม่มีทางคบกันได้”
หลายวันต่อมา...
“วี ซันหิวแล้วเราไปกินข้าวกันเลยได้ไหม” ซันเดย์ลุกมาจากที่นั่ง
เดินมาหาคนอยู่ด้านหน้า ทิ้งสะโพกกับขอบโต๊ะเรียนของเพื่อนพลางหมุนผมสีน้ำตาลอมส้มเล่น
“เธอพึ่งกินแซนด์วิชอบกรอบไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงซันเดย์ ถามจริงระบบย่อยดีเกินไปหรือเปล่า”
เป็นไลลาย้ายก้นอันสวยงามจากเก้าอี้ของตัวเองมาหยุดข้างสาวฝรั่งผมทอง กดสายตาหยุดที่หน้าท้องแบนราบก่อนจะย้ายมาอยู่บนกรอบหน้าสวย
“ตอนนั้นก็ส่วนตอนนั้นไงไลลา ได้เวลามื้อเที่ยงแล้วก็ต้องกินไหมล่ะ อีกอย่างช่วงนี้ใช้พลังงานเยอะมากกก... ก็ต้องอัดพลังงานเข้าไปทดแทนส่วนที่หายไปให้สมดุลกันสิ”
เหลือบมองเพื่อนทั้งสองเล่นจ้องตากันเขม็ง เดาไม่ผิด ไลลากับซันเดย์เข้ากันได้เป็นอย่างดี แค่ชอบต่อปากต่อคำกันเป็นพิเศษก็แค่นั้น แต่นี่ก็เป็นความสัมพันธ์ที่ดีไม่ใช่เหรอ ถ้าปากหวานแต่ก้นเปรี้ยวแบบนั้นก็คงไม่ไหว
“วีเก็บเลกเชอร์แป๊บ”
ว่าพลางรวบสมุดเล่มเล็กลงกระเป๋า เลิกคิ้วมองไลลาว่ายังยืนอยู่ตรงนี้อีก เจ้าตัวพอเห็นอย่างนั้นก็ย่นจมูกให้ซันเดย์แล้วกลับไปจัดเก็บอุปกรณ์การเรียนของตัวเอง ตามด้วยซันเดย์หยุดเล่นผมวีด้า ยิ้มสวยฉีกกว้างทั่วมุมปากเมื่อวีด้าตามใจตนเองทุกอย่าง
กึก!
“มีอะไรหรือเปล่า?” รวบทุกอย่างไว้ในอ้อมแขนเตรียมจะออกไปจากห้องก็มีเพื่อนนักศึกษาในห้องมายืนตรงหน้า
“ห้องA สาขาออกแบบรอวีอยู่ข้างนอก” เพื่อนร่วมห้องบอกวีด้ายิ้มหวานอย่างเป็นมิตร
“ขอบคุณเดี๋ยววีไปหาเธอเอง ไปกินข้าวด้วยกันไหม” ไม่ลืมจะชวนเพื่อนร่วมห้องที่มีน้ำใจมาบอก แต่หล่อนก็ปฏิเสธ คงเพราะมีเพื่อนกลุ่มเดียวกันรออยู่
“แกรู้จักใครสาขานั้น” ไลลาเดินตีคู่เพื่อนออกมา
“ถ้าสนิทก็ไม่มี แต่ก็มีเคยช่วยงานกันบ้าง อาจจะมาให้ช่วยอะไรละมั้ง” เดาไปทางนั้น ก็คิดไม่ออกว่าจะมีใครที่เคยให้ความสนใจมาก่อน นอกจากไลลาก็คงซันเดย์ที่ตอนนี้เธอเรียกได้อย่างเต็มปากว่าเพื่อนจริง ๆ
หน้าห้อง
วีด้าขยับริมฝีปากรูปหัวใจคล้ายจะเม้มก็ไม่เชิงเมื่อเห็นนักศึกษาสาวสวยยืนยิ้มให้ตรงหน้า เรือนร่างสูงสมส่วน ผิวขาวจนออกไปทางออร่าเด่นชัด ผมสีน้ำตาลแดงดัดเป็นลอนสวย
“สวัสดีวีด้าใช่ไหมเรา ‘อชิตา’ เห็นในบอสว่าสวยแล้วตัวจริงสวยกว่ามาก ยินดีที่ได้รู้จัก เราขอเป็นเพื่อนกับเธอได้ไหม”
สาวสวยนามว่าอชิตายื่นมือออกมาเพื่อต้องการสานสัมพันธ์กับเพื่อนใหม่ ซึ่งทั้งสามพอเห็นอย่างนั้นก็มองหน้ากันด้วยความแปลกใจ
“ทำไมเหรอ! เรามาดีนะ อยากเป็นเพื่อนกับวีด้าจริง ๆ เรียนที่นี่มาสองปีไม่มีใครที่รู้สึกว่าถูกชะตาเหมือนวีด้ามาก่อน แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่เราคงเสียใจมาก ๆ ที่ไม่ได้เป็นเพื่อนกัน”
สาวสวยก้มหน้าด้วยความผิดหวัง อุตส่าห์ตั้งใจเดินข้ามสาขาเพื่อมาหาแต่กลับถูกดาวคณะนิ่งเฉยใส่!
ห้องน้ำ “ฉันไม่ไว้ใจแม่สาวผมทองนั้นเลย ชอบมองแกแล้วก็ทำตัวแปลก ๆ ฉันว่าแกอย่าเข้าไปยุ่งมากกว่านี้จะดีกว่านะ” เมื่อแยกตัวออกมาอยู่กันเพียงลำพัง โดยไร้ซันเดย์ที่คอยตามติดวีด้าแทบจะเหมือนเงา ไลลาก็ร่ายสิ่งที่อึดอัดตลอดทั้งวันออกมาจนหมด“คิดมาก ซันก็แค่แปลกที่แปลกทางก็เลยตามติดฉันแค่นั้น อย่ามองคนอื่นในแง่ลบสิ”“ยัยบ้านี่ เปื้อนหมดเลย” ไลลาหลบละอองน้ำจากปลายนิ้ววีด้าที่แกล้งดีดใส่หน้าท้องของตน เสื้อสีขาวพอถูกน้ำก็เห็นผิวนวลเนียน เธอยู่ปากพลางมองค้อนเพื่อนวงใหญ่“คิ ๆ รู้ว่าเป็นห่วง ซันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่แกว่า เลิกอคติแล้วจะเห็นอะไรดี ๆ เชื่อฉัน”“เอาเถอะจะลองดูแล้วกัน แล้วเมื่อวานเป็นไงพี่เจฟฟ์จับได้หรือเปล่า อยากไปดูด้วยกันอีกไหม? ว้าย...อะไรของแกเนี่ยวี เปียกหมดแล้ว”“ก็อยู่ ๆ เปลี่ยนเรื่องทำไมเล่า ฉันก็ตกใจไง”“แค่เรื่องพี่เจฟฟ์อะวี แกตกใจอะไร”วีด้าเม้มปากเพราะนึกถึงคนที่ทำให้มันช้ำเมื่อคืน ดีที่คณะของเธอและเขาไม่ได้อยู่ใกล้กัน ไม่อย่างนั้นละก็...“วี ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับแกใช่ไหม?”“ไม่มี! พี่เจฟฟ์ไม่รู้แต่พี่ก้าน่ะไม่รอด เขาเห็นเราที่นั่นถ้าไม่ได้พี่ก้าฉันตายแน่”“หมายความว่าพี่
สาวผมทองเองก็นิ่งไปชั่วครู่ เมื่อได้สบตากับเจ้าของดวงตาสุกใสสีพีนัท ‘สวยจนใจเจ็บ’ เพราะมัวแต่ตกตะลึงในความสวยของอีกฝ่าย สะโพกของเธอจึงถูกสิ่งที่อยู่ต่ำสุดถีบเข้าให้ หญิงสาวถลาด้วยแรงไม่มากนัก ดีที่มีอ้อมแขนของสาวนัยน์ตาสวยประคองไว้ “ขอบคุณ” “ไม่เป็นไร ระวัง!” วีด้าผลักคนในอ้อมแขนออกเบา ๆ เมื่อฝ่ายตรงข้ามพุ่งเข้ามา ครั้งนี้เธอมีสติกว่าตอนแรกจึงได้สวนอีกฝ่ายกลับไปเต็มหน้าท้องจนคนตัวสูงล้มไม่เป็นท่า จากนั้นสาวผมแดงยังไม่ทันได้ตวัดขาด้วยซ้ำก็ล้มกลิ้งไปกองที่พื้นเพราะลูกเตะของคนที่เข้ามาช่วยเธอ ส่วนคนสุดท้ายพอเห็นว่าเพื่อนน่วมแม้แต่แรงจะลุกยังไม่มีก็ยืนตัวสั่น ก่อนจะหันไปพยุงเพื่อนทั้งสองแทน “ฉันจะฟ้องอธิการว่าแกใช้ความรุนแรง แล้วก็ทำร้ายร่างกายพวกฉัน”สาวผมแดงยังทรงตัวไม่ตรงเลยด้วยซ้ำก็หมายหัววีด้าเอาไว้แล้ว อีกทั้งชี้หน้าทั้งสองอย่างคาดโทษ ส่วนลูกกระจ๊อกอีกสองคนก็ดูเหมือนจะไม่มีหัวคิดเป็นของตัวเองเอาแต่เชิดคอพยักหน้าตาม“ก็ลองดู ฉันมีหลักฐานว่าเธอคนนี้ถูกทำร้าย แล้วก็สามรุมหนึ่งด้วย ได้ข่าวที่มอนี้เคร่งครัดเรื่องนี้ด้วยสิ! จะแลกก็ได้นะ”สาวผมทองชูมือถือในมือให้ทั้งสามคนได้เห็นว่า
วีด้าคล้ายคนถูกกระชากวิญญาณออกจากร่างอย่างรวดเร็วให้มาอยู่อีกโลกที่ไม่รู้จัก เรียวปากหยักขยับขบเม้มจากนุ่มนวลค่อย ๆ ร้อนแรงเพิ่มระดับตามอารมณ์ เสียงหายใจกระเส่ารุนแรง ลิ้นเปียกแฉะแตะขอบปากนุ่มของเธอไล้เลียจากอีกมุมไปอีกมุมเรียกร้องต้องการรุกล้ำเข้ามาด้านใน ทั้งที่รู้อย่างนั้นควรจะต่อต้านแต่กลับโอนอ่อนคล้อยตาม เปิดปากให้ความอุ่นซ่านแทรกสอดล่วงล้ำเข้ามาหยอกเย้าปลายลิ้นของตัวเองได้อย่างง่ายดายอชิระรั้งท้ายทอยเล็กขยับเข้ามาใกล้ เบี่ยงใบหน้าในองศาที่สามารถตักตวงเอาความหวานจากกลีบปากอุ่นอย่างเต็มที่ ทุกอณูภายในความอุ่นชื้นมีทั้งตื่นกลัวและอยากค้นหา เป็นจูบไม่ประสาแต่กลับทำให้เขาไม่อยากหยุด ท่อนแขนใหญ่คว้าเอวคอดเข้าแนบชิดกายแกร่ง จงใจบดเบียดตัวเองเข้าหาความนุ่มจากเรือนร่างเล็ก แรงเสียดสีของร่างกายทำให้เขาอยากทำมากกว่าแค่จูบ มันอยากมากกว่าแค่ได้สอดลิ้นตวัดพันกัน มือที่อยู่เหนือเอวลูบไล้ผ่านผิวนุ่มลงมาสะโพกสวย“อื้อ...”วีด้าประท้วง ทั้งจูบดูดดื่มทั้งสัมผัสเร่าร้อนจนร่างกายของเธอไร้เรี่ยวแรง ลมหายใจค่อย ๆ แผ่วลงอึก⁓ อชิระผละริมฝีปากร้อนจัดออกจากคนที่กำลังทรงตัวได้ยาก ระยะห่างของใบหน้ายัง
วีด้าออกมาพร้อมกับเหยือกน้ำใบใหญ่และแก้วครบจำนวนของเพื่อนพี่ชาย เธอวางมันลงบนโต๊ะก่อนจะหันมาทางเจฟฟ์“วีเตรียมของไว้นิดหน่อย เดี๋ยวเอาออกมาให้นะคะ” “ไม่ได้ทำครัวเละใช่ไหม พี่ไม่อยากลุกขึ้นมาเก็บตอนเช้านะ” เจฟฟ์เอี่ยวหน้ามาล้อน้องสาว และเสียงหัวเราะเบา ๆ ก็หลุดออกมาเมื่อเธอย่นจมูกรั้น ๆ ตอบกลับคำพูดของตน “งั้นเดี๋ยวกูไปดูวี” ไลก้าผุดลุกจากที่นั่งก่อนที่วีด้าจะเดินฝ่าความมืดกลับเข้าไปในตัวบ้านอีกครั้ง “ให้ฉันไปดีกว่าไหม นายนั่งดื่มกับพวกนี้ดีกว่า” ซอลเมื่อเห็นว่าควรเป็นตัวเองมากกว่าที่ต้องไปช่วยน้องสาวเจฟฟ์ ทว่ากลับถูกรั้งเอาไว้ด้วยเจ้าของบ้าน“ไม่ต้องหรอกให้ไอ้ก้านั่นแหละไป มันรู้จักที่นี่ดีหลับตาเดินยังได้เลย” “ทีกับไอ้ก้ามึงไม่หวงน้องบ้างวะ” สิ้นคำวิกเตอร์ก็แทบหลบเท้าของเจฟฟ์ไม่ทัน “ไอ้ที่อยู่ในมือน่ะยัดเข้าไป เดี๋ยวจะไม่ได้กินดีอะมึง กวนประสาท”“โหดแต่กับกูนี่แหละ อย่าให้ต้องไปเรียนบ้างแล้วกัน รับรองว่าความไวเหนือชั้นกว่ามึงแน่” “อย่าดีแต่พูด สี่ปีแล้วไม่เห็นจะมีอะไรคืบหน้านอกจากตีนเอาไว้เหยียบเกียร์มึงน่ะ” วิกเตอร์หมดคำจะแก้ตัว เพราะนอกจากความเร็วของฝีเท้าในการเหยียบคันเร่งแ
“ก็บ้านมึงใกล้สุดไหมล่ะ” อาเชอร์หันมาตอบ“ไม่ได้” ค้านหัวชนฝา ไม่จำเป็นไม่อยากให้พวกมันไปที่บ้าน น้องสาวเขาอยู่ที่นั่นด้วย เกิดพวกนี้ไปรบกวนเธอทำไง อุตส่าห์หลีกเลี่ยงมาได้ตั้งสี่ปี“มึงก็น่าจะรู้นะอาร์ นอกจากไอ้ก้าแล้วมีใครได้เข้าไปเหยียบบ้านมันบ้าง ขนาดอยู่มหา’ลัยเดียวกันยังไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าน้องมันชัด ๆ สักที!”วิกเตอร์เหลือบตามองคนหวงน้องสาวอย่างเจฟฟ์ตาเขม็ง รู้แค่ชื่อกับคณะที่เรียนนี่ก็นับว่าบุญพวกเขาแล้วมั้ง “ก็ใครใช้ให้พวกมึงแต่ละคนทำตัวดี ๆ กันทั้งนั้น ในฐานะเพื่อนกูยอมรับว่าพวกมึงพึ่งพาได้ แต่สำหรับน้องกูพวกมึงก็ผู้ชายเลวคนหนึ่ง โอเคนะ” คิ้วหนายกขึ้นแสดงถึงการแบ่งเขตระหว่างความสัมพันธ์ของกลุ่มตัวเองอย่างเด่นชัด แน่นอนว่าในฐานะเพื่อนนั้นทุกคนดีชิบหาย แต่หากเป็นเรื่องผู้หญิงละก็...ขอกันน้องสาวออกห่าง ๆ เป็นดีที่สุด“แต่กูเพื่อนมึงนะ พูดซะเสียเลย” วิกเตอร์ไม่ยอมรับคำใส่ร้าย ในกลุ่มถ้าจะมีใครสักคนได้บทบาทนั้นก็มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ“มองหน้ากูทำไม หล่อจนละสายตาไม่ได้เลยใช่ไหม?” อชิระเข้าใจความหมายของสายตาวิกเตอร์ แต่แล้วยังไง เขาไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อนสักครั้งผู้หญิงพวกนั้นเข
@สนามแข่ง YOLOดวงตาหวานกลมโตสีพีนัททอดมองรถแลมโบกินี่สีควันบุหรี่ สัญลักษณ์รูปสิงห์ผงาดด้านข้างสุดเท่ ทะยานมาด้วยความเร็วเหนือคู่แข่งคนอื่น ๆ 5...4...3...2...1 เยส!“กรี๊ด...ชนะแล้ว ชนะแล้ว เย้ ๆ” ร่างอรชรภายใต้ชุดทะมัดทะแมงกระโดดจนตัวลอยอยู่ข้างสนามโซน vip ก่อนจะหันมาหาอีกคนที่มีท่าทีไม่ต่างกันเลยสักนิดYOLO คือหัวใจของหนุ่มวิศวะทั้งห้า เป็นมิตรภาพอันเหนียวแน่นจนก่อเกิดสนามแข่งแห่งนี้ และสัญญาลักษณ์ของพวกเขาก็คือสิงห์สีทอง แก๊ก⁓ร่างสูงก้าวออกมาจากรถสีควันบุหรี่ ในอ้อมแขนกอดหมวกนิรภัยอันโปรดไว้แน่น ย่างเท้าด้วยความมั่นคงมายังกลุ่มเพื่อนสนิทระบายยิ้มมุมปากอันทรงเสน่ห์ในสายตาสาว ๆ ทว่าแท้จริงแล้ว เขาโคตรร้าย!“ไอ้อชิมันหายหัวไปไหน? ถ้ากูไม่ได้เอาลูกรักมาวันนี้จะเกิดอะไรขึ้น เชี้ยเอ๊ย” วิกเตอร์ กล่าวอย่างหัวเสียพลางส่งหมวกให้กับคนดูแลเอาไปเก็บ จากนั้นเจ้าตัวถึงได้ทิ้งตัวลงนั่งเบาะนุ่มอย่างแรงเจฟฟ์ พ่นเสียงหัวเราะในลำคอ ร่างกำยำอิงเคาน์เตอร์บาร์ เบี่ยงหน้ามาหาคนเอ่ยกระแทกเสียงแข็งถามหาเพื่อนอีกคน “ก็ชนะไปแล้ว มึงยังจะหัวเสียทำไมวะ” ยกวิสกี้ในมือขึ้นดื่มพลางปรายตาไปทางคนประสานงานภาย