จ๊วบ จ๊วบ เสียงดูดเขื่องๆ ดังอีกครั้ง อ้นครางระงม เพียงไม่กี่นาที สะโพกสอบก็เกร็งเขม็งแข็งนิ่ง อ้นแหงนหน้ามองฟ้า ปากอ้ากว้างครางเสียงดัง และคุณแป้งก็เหลือบมองมาทางเธอ ข้างปากคุณแป้งมีคราบน้ำขุ่นครั่กเปรอเลอะ ปลายลิ้นของคุณแป้งโผล่ออกมาเลียอย่างท้าทาย
!! เบลหลบเข้าหลังต้นไม้และครั้งนี้เธอไม่อยู่แล้ว สวบ สวบ สวบ เบลวิ่งทันที ไปไหนก็ได้ แต่ต้องออกจากที่นี่
ควับ! อ้นหันหลังกลับมาเมื่อเบลไม่ได้ทำตนไร้ตัวตนกับอ้นอีกต่อไปแล้ว แต่อ้นก็แค่เห็นหลังไวไวเท่านั้น เขาไม่อาจแยกได้ว่าใครกันที่มาเห็น
“ใครเหรอครับ” อ้นหันไปถามคุณแป้ง
“อย่าสนใจเลย” คุณแป้งตอบกลับอย่างไม่ยี่หระ ลมหายใจที่ถี่หอบค่อยๆดีขึ้น เธอเซพิงกับร่างเปลือยของอ้น อ้นรับร่างเธอไว้และกำลังจะเริ่มต่อ แต่คุณแป้งก็ผลักแผ่นอกเขาไว้
“พอก่อน” อ้นกระพริบตามองคุณแป้ง
“ไหนว่าไม่สนใจไง แล้วจะหยุดทำไม” อ้นร้องถาม เขายังต้องการ นั่นก็เพราะไม่ใช่ร่างกายปกติของเขา เพราะเขาโด๊ปยามาเพื่อหล่อนคนนี้ นี่พึ่งจะจบไปแค่ครั้งเดียว ของเขามันยังโด่เด่แข็งกร้าวพร้อมรบอยู่เลย
“คุณใหญ่กลับก่อนกำหนดนะ ฉันต้องไปแล้วและอีกอย่างขอยาส่วนที่เหลือของเธอด้วย” อ้นมุ่นคิ้ว
“โถ่วววว คุณแป้งครับ ผม...ผม” อ้นพูดพร้อมกอบกุมดุ้นทั้งดุ้นของเขาให้คุณแป้งได้เห็น
คุณแป้งมองแต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนใจเธอได้ คุณแป้งสวมเสื้อผ้าของตัวเองและไปหยิบกางเกงของอ้นเธอล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก็เจอสิ่งที่เธอต้องการ
“ยานี้ใช้ได้เลย ครั้งหน้าเธอกินมันมาอีกนะ แต่ครั้งนี้ฉันผิดเอง” คุณแป้งหยิบกระเป๋าใบเล็กของตนและล้วงธนบัตรให้เขาปึกหนึ่ง อ้นแม้จะยังไม่สบายตัวแต่เมื่อเห็นค่าตอบแทนเขาก็ยิ้มออกมา รับเงินนั้นมาอย่างยินดี
“กลับไปช่วยตัวเองก่อนนะ” อ้นยิ้มรับคำ และเขาก็รีบแต่งตัว เดินแยกไปคนละทางกับคุณแป้ง เขาล้วงโทรศัพท์ของตัวเองออกมา
[ลูกโป่ง] เขาทักแชทไป
[มีไร] ลูกโป่งทักกลับ
[อยู่กับเต้ป๊ะ]
[เออ]
[กูค้างว๊ะ ช่วยหน่อยสิ เดี๋ยวให้สองพัน]
[เต้อยู่]
[ไล่มันไปที่อื่นสักพักสิ ไม่เอาเหรอสองพันได้ทั้งเงินได้ทั้งมันส์]
[ไอ้เต้ก็พึ่งเสร็จไป ยังเหนื่อยอยู่เลย]
[อีกครึ่งชั่วโมง ก็หายเหนื่อยแล้ว...ให้ไอ้เต้กลับหอมันไปเลย กูโด๊ปยามา ถูกปล่อยเคว้งกลางอากาศ] อ้นรู้จักลูกโป่งดี คนเคยขี่กันมาก่อน ลูกโป่งขยับโยกมาราธอนอย่างมันส์มากๆ แม่เนี่ยใช้ได้เลย แฟนเพื่อนก็แฟนเพื่อนเถอะ อ้นไม่แคร์เพราะแม่สาวก็ลับหลังแฟนกับเขาอยู่หลายครั้ง ถูกจังหวะถูกท่ากันดีจริงๆ
[เออ ได้ได้ แต่ขอเวลาสักชั่วโมงหน่อย เต้มันอยากให้โป่งใช้ปากกับมันก่อน รับปากมันไว้แล้ว แล้วจะให้แกซัดได้ทั้งคืนเลย]
แม้ลูกโป่งจะขอเวลาหนึ่งชั่วโมง แต่ระยะการเดินทางใช้เวลาเพียงยี่สิบนาที อ้นที่วันนี้ได้ค่าตอบแทนมาเกือบหมื่น ใยเขาต้องนั่งรถเมล์ เรียกแท็กซี่มายืนรอปลดปล่อยแถวๆหอของลูกโป่งดีกว่า
อ้นแวะเข้าร้านสะดวกซื้อ ซื้อเกราะป้องกันน้ำสเปิร์มสร้างปัญหา เพราะไหนๆคืนนี้เขากะจะให้ลูกโป่งแฟนเพื่อนรีดน้ำในตัวเขาทั้งคืน
อ้นเดิมเป็นเด็กต่างจังหวัดบ้านเกิดของเขาก็จังหวัดกาญจนบุรี แต่เมื่อเขาเรียนจบมัธยมปลาย จบแบบยากลำบาก และด้วยเขาเป็นลูกชายคนเดียวและหลานชายคนเดียวของป้าปุ๊ที่ทำงานอยู่บ้านเศรษฐีหลังนี้มาหลายปี เขาจึงขอมาอยู่กรุงเทพด้วยการส่งเสียจากทางบ้านที่ฐานะไม่ค่อยดีนักกับป้าปุ๊ที่เป็นหม้ายไม่มีลูก
อ้น เป็นเด็กหนุ่มสูงโปร่งหน้าตาดีใช้ได้ มีผิวสีทองแดงดูแข็งแกร่ง เมื่อสองปีก่อนที่เขามาหาป้าที่นี่ก็เจอกับคุณแป้ง เขาเองก็ไม่ใช่คนเคร่งศีลเคร่งธรรม แต่จะบอกเลยว่าเขาเองก็ถูกเปิดซิงกับผู้หญิงคนแรกก็คุณแป้งเนี่ยแหละ ตอนนั้นหล่อนซัดกับเขาในห้องนอนของป้าปุ๊กลางวันแสกๆ ห้องพักของคนงานที่ในตอนกลางวันไม่มีใครจะกลับที่พัก
คุณแป้งจัดเป็นหญิงสาวที่สวยมากๆ เธอยังสาวมากถ้าเทียบกับเศรษฐีเจ้าของบ้านหลังนี้ อายุห่างกันเกือบยี่สิบปีแต่นั่นไม่สำคัญ เศรษฐี เอาแต่ทำงานหาเงิน ทิ้งเมียสาวไว้ให้กินๆนอนๆ อยู่แต่บ้าน เฮ้ยยย เสร็จ ไอ้อ้น สบายทั้งตัวสบาย สบายทั้งกระเป๋า เรียกทีทีหนึ่งอย่างน้อยสุดก็สี่ห้าพัน ไม่เอาก็โง่แล้ว
[เต้ กำลังกลับแล้ว ประตูไม่ได้ล็อค ถ้ามาแล้วเห็นเต้ไปแล้วก็เข้ามาเลย จะอาบน้ำ...] ข้อความเข้ามาแจ้ง อ้นเดินออกจากร้านสะดวกซื้อแดดร่มลมตก ยามเย็นแล้ว เขาซื้อเครื่องดื่มสองสามกระป๋องติดมาด้วย สายตามองไปยังประตูทางออกหอ ร่างสูงของเต้ก็ก้าวลงมา
อ้นยกยิ้มมุมปากเมื่อสังเกตุว่าเพื่อนตนมีอาการเข่าอ่อน ไม่รู้ว่าลูกโป่งใช้วิธีไหนที่ทำให้เต้กลับไปได้ทั้งๆที่ถ้าเป็นเขาโดนลูกโป่งไปสองก๊อกคงอยากหลับสักตื่น แม่เนี่ยอึ๋บอวบร่านขั้นนางเทพเลย เขารู้ดีว่าเต้ก็ไม่ได้จริงใจอะไร ก็แค่สนองอารมณ์กันและกันเท่านั้น ส่วนลูกโป่งที่คบเต้ก็เพราะฐานะบ้านเต้พอมีแบ่งปันให้หล่อนใช้ขณะที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่
ที่ทำให้เขามั่นใจ เพราะไอ้เต้มันเคยชวนเขามาหาลูกโป่งพร้อมกันกับมันไง ตอนนั้นเขาปฎิเสธทำเป็นคนดีทั้งๆที่เขาเองก็อัดให้ลูกโป่งขย่มควบมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว
“เบล...เบล” โฟว์วิ่งเข้ามาในห้องทำงานพร้อมแท็บเล็ต เบลเงยหน้ามองหน้าพี่โฟว์ แล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น โฟว์ไม่ได้พูดอะไรยื่นแท็บเล็ตไปตรงหน้าและชี้ให้เบลดูโพส “ฟ้อง!” เบลครางออกมา เธอไม่รู้เรื่องเลย แต่จะว่าไปเธอแทบจะไม่เคยอ่านเรื่องราวว่าร้ายแรงไปถึงไหนแล้ว “สามีเบลใช่มั้ย ต้องใช่แน่ๆ ร้ายกาจมาก ตอนแรกพี่คิดว่าเขาจะไม่สนใจ ที่ไหนได้ร่อนหมายศาลไปหาทุกคนไม่มีตกหล่นเลย ใช่แล้วพวกนี้ต้องเจอแบบนี้” เบลรู้จักคุณกลางดี ที่เธอไม่สนใจตั้งแต่แรกก็เพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องถึงขั้นนี้ “เอาน่า...ที่เบลไม่รู้เรื่อง พี่ไม่แปลกใจเลย สามีเบลพี่ว่าเขาเจ๋งมาก ดั่งสุภาษิตที่ว่าอย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ เขาไม่ลดตัวลงมาพี่ว่าเขาทำถูกจริงๆ แต่ยังไงคนพวกนี้ต้องได้รับบทเรียน...ฟันธงพี่เห็นด้วย...อ๊ะอ๊ะ อย่าให้เขาไปถอนฟ้องโดยเด็ดขาด พี่รู้นะว่าเบลคิดอะไรอยู่ ปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของผู้นำครอบครัวถูกต้องแล้วน้องร
“ทำไมคุณกลางถึงอยากมีลูกอีกละคะ” “อีก?” แทนที่จะได้คำตอบ กลับมีคำถามที่เขาไม่เข้าใจ “ฉันยังไม่เคยแต่งงานแล้วฉันจะมีลูกได้ยังไง” เบลมองเขานิ่ง คนอย่างคุณกลางไม่เคยโกหก เขายอมรับการกระทำของตัวเองเสมอ “นี่เบลเข้าใจผิดอย่างงั้นเหรอ...ห้าปีที่ผ่านมาทำไมคุณกลางไม่แต่งงานกับคุณช่อคะ” “ก็ฉันไม่ได้รักเขานิ” “แต่คุณคบกับเขามาตั้งหลายปี” “ก็แค่ชอบและคิดว่าเมื่อคบกันรู้จักกันมากขึ้น ด้วยฐานะทางสังคมของเธอ ฉันจะรักเธอได้สักวันและวันนั้นก็จะเป็นวันที่ฉันจะขอเธอแต่งงาน” แม้เบลจะไ
ในเมื่อเขาขอเธอแต่งงานก่อนที่เธอจะท้อง เธอปฎิเสธ และเขาก็ไม่อยากบังคับเธอ แต่เมื่อไหร่ที่เขาทำเธอท้อง เบลจะปฎิเสธเขาไม่ได้อย่างแน่นอน “ยืนไหวมั้ย” เมื่อนิ่งพักหายใจกันไปสักพัก เขาก็เอ่ยขึ้น เบลพยักหน้ารับ และเขาก็ผละค่อยๆห่างเธอออกไป เบลมองเขาที่ว่ายน้ำตีกังเชียงไปยังอีกฝั่งของสระ ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าสระว่ายน้ำมีไว้เพื่ออะไร แต่เบลไม่มีเรี่ยวแรงเหมือนเขา เธอยังยืนอยู่ที่เดิม วางหนุนศีรษะไว้บนแขนที่พาดอยู่ที่ขอบสระ และหลับตา เรี่ยวแรงเธอไม่ได้กลับมาเร็วแบบเขา และเธอก็ยังรู้สึกที่ร่องระหว่างขา กัยอาการปวดระบมที่เนินอกอวบทั้งสอง เธอปล่อยให้น้ำบำบัดร่างกายเธออย่างสงบ เสียงน้ำที่แตกจากการแหวกว่ายยังคงดังอย่างเอื่อยๆต่อเนื่องกันไป และตลอดสามสี่วันทริปฮันนีมูนก่อนแต่งของเบลและคุณกลางก็รวนไปหมด เพราะในตอนกลางวันที่คุณกลางตามใจเบลออกไปท่องเที่ยวสถานที่สำคัญต่างๆของจังหวัด เขาจะพักในเวลาช่วงเย็นสองสามชั่วโมง พอค่ำนิดหน่อยก็เป็นเวลาท
“เชียงใหม่ยังมีอะไรมากมาย ให้เราไปหลายที่มากค่ะ” และกลางก็เริ่มสงสัยแล้วว่าตัวเองแก่แล้วเหรอ นี่แค่ครึ่งวันเท่านั้นที่เบลพาเขาตะลอนๆ ไปยังที่เธอต้องการ เขารู้สึกเหนื่อยจริงๆ แต่เธอไม่มีอาการเหล่านั้นเลยสักนิด “เบล ฉันอยากกลับไปพักแล้ว” เบลกระพริบมองเขาถี่ๆ ชิ! เบลไม่อยากขัดใจจึงยอมกลับที่พักอย่างที่เขาต้องการ พรึ่บ! กลางล้มตัวลงบนโซฟา และแหงนหน้าพิงพนัก เบลวางถุงขนมและอาหารที่เธอซื้อมาบนโต๊ะ และหยิบน้ำเปล่าไม่เย็นออกมาจากถุงในหลายๆถุงที่เธอหิ้วมาด้วย “น้ำค่ะ” เบลเปิดขวดให้เขาและทรุดนั่งลงข้างๆเขา กลางดื่มน้ำหมดไปครึ่งขวด และเขากลับไปแหงนหน้าพิงพนักเหมือนเดิม เขากับเบลอายุห่างกันสิบปี ช่องว่างระหว่างวัยที่เกิดขึ้นทำให้เขากับเธอชอบอะไรที่ไม่เหมือนกัน วันนี้เขาเห็นแล้วว่าเบลสนุกสดใส “พลังเหลือเฟือจริงๆ” กลางยิ้มขันออกมา
“เบลก็ไม่คิดว่าเขาจะเป็นจุดหมายปลายทางชีวิตของเบลหรอกค่ะ เราสองคนแตกต่างกันมาก พี่โฟว์เข้าใจความหมายของดอกกุหลาบสีน้ำเงินมั้ยคะว่ามันคือการรอคอยที่ไม่สิ้นสุด เบลเคยคิดว่าความรู้สึกของเบลที่มีให้กับเขาเปรียบเสมือนดอกกุหลาบสีน้ำเงินที่ไม่มีทางสมหวัง วันแรกที่เบลเห็นเขา...” เบลนึกถึงเมื่อหกปีก่อนได้ ตอนที่เห็นเขาจากที่ไกลๆในบ้านของคุณใหญ่ เขาไม่แม้แต่จะชายตามองเธอเลย “รักเขาใช่มั้ย” โฟว์ถามขึ้นเมื่อจู่ๆเบลก็เงียบไป “ค่ะ แต่เมื่อไหร่นั้น เบลก็ไม่แน่ใจค่ะ แต่วันที่เขาเนรเทศเบล วันนั้นเบลแย่มากๆ แย่จนไม่เข้าใจว่าตัวเองผ่านช่วงนั้นมาได้อย่างไร” ตอนนั้นเบลพยายามคิดถึงอนาคตของตัวเอง แต่มันไม่ง่ายเลย เธอทรมานเป็นที่สุด แต่เธอก็ภูมิใจในตัวเองที่เธอผ่านมันมาได้ โดยที่ไม่ทำร้ายชีวิตของตัวเองลงไป “งั้นพวกพี่พร้อมแล้วที่จะขอรู้จักกับเขา&r
“ฉันจะออกไปพบกับเขาเอง” เขาพูดพร้อมกับวางโทรศัพท์ของเบลไว้บนเตียงเมื่อเขาเดินไปส่องกระจกเช็คตัวเอง และเขาก็เดินไปเปิดลิ้นชัก หยิบแหวนของมอสออกมา “ฉันจะเอาไปคืนเขา และอาจกลับดึกหน่อยนะ” เบลยืนมองเขาตกตะลึงอ้าปากค้าง “ไม่ต้องห่วง ฉันจะดูแลเด็กนั่นเอง” ชิ! เบลหมั่นไส้เขาขึ้นมาทันที “เมื่อกี้คุณกลางพูดอะไรกับพี่มอส” เบลกลัวเหลือเกินว่าคุณกลางจอมร้ายกาจคนนี้จะพูดจาทำร้ายจิตใจพี่มอส “รายละเอียดหลักๆ ขี้เกียจเล่า เอาเป็นว่าอดีตแฟนของเบล เขารู้แล้วว่าฉันเป็นผู้ปกครองของเบล” “ผู้ปกครองเหรอคะ” กลางพยักหน้า “ผู้ปกครองที่เป็นเจ้าชีวิตของเบลไปตลอดชีวิตไงเล่า” จุ๊บ เขาเดินมาหอมแก้มเธอ “นอนเลยนะไม่ต้องรอ”