“สิ่งที่เห็นภายนอกครับ”
“เหรอ! แล้วพูดแบบนี้เนี่ย กูต้องยกเด็กนั่นขึ้นหิ้งเลยหรือไง มาให้ฉันเอาคืนนะ ไม่ใช่มาเป็นเจ้าหญิงของฉัน” ปราชญ์พูดด้วยน้ำเสียงดุเข้ม “คงต้องฝึกอีกเยอะ” “ใช่ ฝึกกันให้ตายไปข้างหนึ่ง กูอยากเห็น เวลาคนอยู่ที่สูงแล้วตกลงมากระแทกพื้นมันเจ็บหรือเปล่า” “พูดเหมือนนายจะไม่ไปหาเธอตอนนี้” “หึๆ ไป แต่ไม่ได้ไปในฐานะนาย กูอยากรู้ว่าเธอจะนึกถึงคืนนั้นไหม” “คืนนั้น” ชรันถามย้ำพลางเลิ่กคิ้ว “อืม” จบคำเจ้านายก็เดินกินองุ่นไปอย่างเพลินๆ ส่วนเรื่องคืนนั้น ปราชญ์ไม่เคยบอกใครให้รู้ยกเว้นชรัน และเป็นเรื่องของความรู้สึกที่เขาเก็บเอาไว้เพียงคนเดียว เมื่อถึงเวลาของขวัญจะได้รู้ความจริงตกค่ำในวันเดียวกัน ของขวัญทำความสะอาดบ้านจนเหนื่อย อ่อนล้าและหิว จึงหาอาหารกิน ตู้กับข้าวมีเพียงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้เธอต้มกินรองท้อง เพราะเวลานี้ไม่รู้จะไปหาอาหารมาจากไหน ไม่มีใครมาช่วยเหลือ เหมือนชรันมาทิ้งเธอไว้แล้วให้เดียวดา“ใช่ เขารู้กันทั้งไร่ แล้วอย่ามาทำสำออยด้วย” สิ้นคำเขาก็กัดฟันแน่นจนเส้นเลือดนูนเป็นสัน แล้วจึงเดินกลับไปยังถนนหน้าบ้าน เขาเดินฉับๆ ไปทางศูนย์อำนวยความสะดวกโน่น ครั้นเธอจะไม่ทำตามก็กระไรอยู่ เหนื่อยแค่ไหนก็เดินทำอย่างที่เขาสั่งส่วนคนสั่งเดินมาตากแอร์ที่ศูนย์อำนวยความสะดวก ทว่าเขากลับสะดุดตากับไอ้ลูกน้องตัวแสบที่มันไม่ลงไปทำงานช่วย ปล่อยให้ยัยตัวดีทำเป็นชั่วโมงแล้ว“ไงครับคุณรัน นี่มึงว่างมากเหรอเนี่ย” เขาว่า ขณะที่คนถูกเรียกถึงกับสะดุ้งแทบสำลักกาแฟ“นาย!” ชรันเอ่ยชื่อผู้เป็นนายด้วยความตกใจ“เออ! นี่อย่าบอกนะว่ามึงแดกกาแฟอยู่เป็นชั่วโมง” เขาต่อว่าเสียงดุกร้าวแข็งกระด้าง“ก็นายบอกให้ผมทำตามแผนก่อน” ชรันตอบกลับเบาๆ พลางมองลูกค้ารอบตัว“มึงไม่ต้องมาพูดเบา กูจะด่ามึงให้คนอื่นได้ยินด้วย”“นายบอกให้ผมรอก่อนนี่ครับ นี่โมโหมาใช่ไหม อย่ามาพาลนะ” ชรันว่า เจ้านายหนุ่มเลยถอดแว่นแล้วหันไปมองรอบๆ ตัวด้วยสายตาดุๆ เท่านั้นแหละทุกคนก็เมินหน้าหนี เผือกเงียบๆ&n
“โอ๊ย! อืม” เธอเซล้มลงพื้นพร้อมกับครางในลำคอเพราะเวียนหัวหน้ามืด“เป็นอะไรมากหรือเปล่าคุณ” คนงานผู้หญิงเข้ามาถาม“เวียนหัวนิดหน่อยค่ะ”“มา น้าช่วย” ฟังคำว่าน้าช่วยเสร็จ ของขวัญแทบจะมองหน้า มองการแต่งตัวที่สกปรกไปด้วยเหงื่อ ทำให้เธอแทบจะไม่อยากให้เข้าใกล้ ให้ตายเถอะ เธอยังปรับตัวไม่ได้“ไม่ต้องยุ่ง!” เสียงดุเข้มดังตวาดมาแต่ไกล ทำเอาคนงานถึงกับชะงัก ตัวสั่นลุกลี้ลุกลนก้มหน้า“ไปทำหน้าที่ของตัวเอง!” เขาสั่งอีกครั้งประหนึ่งเป็นเจ้านายเสียอีก ทั้งที่เป็นลูกจ้าง นายหนวดอีกแล้ว เธอคิดพลางมองหน้าตาเขียวปั๊ด“ไม่มีน้ำใจ!” ของขวัญว่าเสียงดังเช่นกัน“อยากได้น้ำใจด้วยเหรอ เห็นทำท่าขยะแขยงคนงานขนาดนั้น”“นี่! ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่เหงื่อ เสื้อผ้าเหม็นจะตาย”“ดูสภาพตัวเองซะก่อน เหมือนคุณหนูตกสวรรค์”“นี่นาย นายเป็นใครเนี่ย คุณรันให้มาสอนงานฉัน ทำไมถึงมาว่าฉอดๆ”“คนเห
ทันทีที่ถูกเรียกชายหนุ่มก็เดินออกมาจากแปลงองุ่น แล้วเดินตรงมายังชรันด้วยท่าทีกวนตีนจัด เขาตัวสูงใหญ่มาก สูงกว่าชรันอีก ว่าแล้วก็หยุดยืนคำเอวต่อหน้าชรันเหมือนไม่กลัว“มีอะไรครับ คุณรัน” ชายหนุ่มเรียกชรันเสียงเข้มๆ น้ำเสียงอย่างกับพระเอกเชียว เธอคิดพลางมองรูปร่างผิวพรรณของเขา แต่มองไม่ออกเขาอำพรางเอาไว้เกือบหมด“พาเด็กใหม่สอนงานที นายสั่งความว่าให้ตัดองุ่นไม่ได้เดี๋ยวเสียหาย แต่ให้หัดตัดแต่งเล็มเม็ดเล็กๆ ออกได้ มึงสอนหน่อยก็แล้วกัน ตรงไหนหญ้าขึ้นก็ให้เล็มๆ”“ก็แล้วทำไมคุณมึงไม่สอนเองละครับ” ชายหนุ่มขึ้นคุณมึงเสียจนของขวัญเหวอ ไม่คิดว่าคนงานจนกล้าพูดกับชรันที่คิดว่ามารับตำแหน่งหัวหน้าอีกที“จะให้สอนเองก็ได้” ชรันย้อนความพลางเหลือบตามองการแต่งตัวของแม่คุณ“ชื่ออะไรนะเด็กใหม่เนี่ย” เขาถามกลับ“ชื่อขวัญ” ชรันตอบ“ขออนุญาตเรียกขวัญเฉยๆ เพราะเป็นลูกน้องนาย ไม่ใช่เจ้านายเนอะ ใช่ไหมคุณรัน”“ถูกต้อง ไปได้แล้ว กูร้อน จะไปกินกาแฟที่ศูนย์สักหน่อ
“ไม่ต้องว่าให้ขวัญขนาดนั้นก็ได้ค่ะคุณรัน ขวัญน่ะมันเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อหรอกค่ะ” เธอบอกด้วยความน้อยใจ“ก็ดีแล้วครับที่รู้ตัว เอาล่ะรับงานกับพี่มลเสร็จ ออกไปหาผมข้างนอก”“ค่ะ เจ้านาย” เธอกระแทกเสียงใส่เขา เรียกว่ายังไม่ได้ชอบขี้หน้าเขาสักเท่าไหร่หรอก เขามันร้าย นิสัยชอบเลียแข้งเลียขาพ่อ นี่มาทำงานใหม่ที่นี่คงทำเหมือนกันนี่แหละ อีกอย่างเขาประชดเธอเก่งจริงๆ“คำนี้เอาไว้เรียกคุณปราชญ์นะครับ ผมไม่อยากปีนเกลียว แต่ก็จะว่าไปแล้วตำแหน่งที่ผมทำสูงว่าคุณหนู ก็น่าจะเป็นเจ้านายได้” พูดจบเขาก็ปลีกตัวออกไปจากห้องครัวทันที“คนอะไร นิสัยไม่เคยเปลี่ยน”“จะมาทำงานสวนจริงๆ เหรอคะ” กมลถามเพื่อความแน่ใจ“เขาบอกว่ามีหลายตำแหน่ง ค่อยมาดูกันว่าขวัญเหมาะกับตำแหน่งอะไร” พอของขวัญพูดจบ กมลถึงกับมองตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า ก็พบว่าไม่มีตำแหน่งไหนเหมาะกับเธอ เท่ากับตำแหน่งผู้หญิงของนายเหมือนที่ผ่านๆ หรอก เธอเหมาะกับแบบนั้น ขาว สวย น่ารัก สเปกนายเสียจริง“เอ่อ งั้นก็รอนายจ่ายงา
เช้าของวันใหม่ เป็นวันแรกที่ของขวัญต้องตื่นขึ้นในบ้านของคนอื่น ต้องตื่นอย่างโรยแรง อ่อนล้าไปทั้งตัว เธออยากจะหลับตาเหลือเกิน แต่พอได้สติว่าเธอมาทำงานจึงค่อยๆ เบิกตาให้กว้างขึ้น และกรอกตามองไปรอบๆ ห้อง พลันนึกขึ้นมาได้ว่าตลอดทั้งคืนเธอ... เธอตกเป็นเมียของโจร ชายปริศนาภายในเงามืดนั้น เป็นใครกันทำไมบำเรออย่างถึงพริกถึงขิงขนาดนี้เธอเกลียดตัวเองที่ทนไม่ไหว ใจแตกเตลิดไปกับสัมผัสอันเสียวซ่านไม่ต่อต้านแม้แต่น้อย เขาปลุกเร้าอารมณ์ด้านมืดของเธอให้ตื่นขึ้น กลายเป็นผู้หญิงร่านสวาทดีดีนี่เอง ยอมรับว่าเธอปรารถนาเหลือเกิน คิดแล้วก็ค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นนั่ง มือทั้งสองถูกปลดกุญแจออกไปแล้ว มานึกย้อนหลังก็ต้องมานั่งร้องไห้เสียใจในสิ่งที่ตัวเองร่วมทำลงไปน้ำตาแห่งความเสียใจเอ่อล้นอาบแก้ม เธอรั้งผ้าห่มขึ้นคลุมกายเปลือยเปล่าเอาไว้ ร้องไห้อยู่ไม่นานกำลังจะพยุงตัวลงจากเตียง ทว่าสิ่งที่เห็นคือทั้งเสื้อและบราขาดวิ่นไปหมด ให้ตายเถอะ เมื่อคืนเธอสิ้นสติขนาดนั้นเชียวหรือก๊อก! ก๊อก! ก๊อก เสียงเคาะประตูบ้านดังขึ้น ทำให้เธอตกใจรีบคว้าผ้าห่มขึ้นคลุมอกอีกครั้ง“ตื่นหรือยังครับ&r
“แก! ไอ้!”“อย่าเรียกผัวแบบนั้น” “แกคือโจรที่ขึ้นบ้านฉันเมื่อสี่ปีก่อน แกรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่”“ก็ตามกลิ่นสาปสาวมายังไงล่ะเมียจ๋า”“ไอ้ทุเรศ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้” ว่าแล้วเธอก็พยายามดึงมือออกจากกุญแจมือที่ล็อกเอาไว้แน่นหนา“หึหึ ไอ้ทุเรศคนนี้แหละที่ทำให้เธอเสียน้ำไปหลายยก” เขาหัวเราะเหี้ยมๆ ก่อนจะขยับตัวลงไปเบื้องล่างอีกครั้ง ขณะที่กายท่อนล่างของเธอยังเปลือยเปล่าอยู่ เขาเอากางเกงของเธอนั่นแหละเช็ดน้ำรักที่เปรอะเปื้อน คล้ายกับจะทำมันอีกรอบ“ไม่! อย่า! อย่าทรมานฉันอีกเลย” เธอไม่อยากให้เขาทรมานด้วยความเสียวอีกแล้ว เธอไม่อยากทรยศต่อร่างกายตัวเอง ทว่าเหมือนเขาจะไม่ได้ยินเสียง ยิ่งห้ามยิ่งยุ ด้วยการจับขาทั้งสองข้างของเธอแยกออกจากกัน แล้วดันหัวเข่าขึ้นไปขนานกับลำตัวกลีบสาวแบะออกจากกันจนเธอหุบเอาเข้าไม่ได้ จากนั้นเขาก็ประคองบั้นท้ายยกขึ้นลอยเหนือพื้นก่อนจะก้มหน้าชิดกลีบอวบอูม“อื้อ! ไม่นะ! โอ้ว” เธอหวานครางพะแผ่วเซ็กซี่ขยี้อารมณ