“อะแฮ่ม ท่านแม่ทัพเจ้าขา ท่านไม่คิดจะพูดคำว่า ขอบคุณ แด่ นายหญิง ของข้าบ้างเลยหรือเจ้าคะ ฮือออ เจ็บแทนอ่า” เสียงเจ้าแมวระบบพูดก้องห้องประหนึ่งวิญญาณที่ตามหลอกหลอนไป๋เหวินหลงนิ่งเหมือนเพิ่งจะคิดได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าได้ยินเจ้าแมวระบบพูดหรอกนะ...ไป๋เหวินหลงหันไปมองหว่านชิงที่กำลังหยิบสมุนไพรลงถ้วยอย่างนิ่งเฉย จู่ๆ ใบหน้าคมเข้มก็แข็งค้างนิดๆ“…เจ้าดูแลข้าหรือ” เขาถามเสียงเบาเหลือบตามองรอยโลหิตที่เปื้อนมือบางพร้อมกับสีหน้าเคร่งเครียดรอยเหงื่อซุมที่หน้าผากเนียน หว่านชิงไม่ตอบเอาแต่คลุกสมุนไพรในชามให้จมลงไปกับน้ำเหมือนความรู้สึกตนเองไป๋เหวินหลงเงียบไปนาน ก่อนจะพูดออกมาเสียงอ้อมแอ้ม“...ขอบใจ”【 ติ๊ง! ระบบ: +5 แต้ม 】【เหตุผล: ท่านแม่ทัพพูดคำว่าขอบใจ ถึงจะช้าไปนิด แต่ก็ยังดี...โถ่วว】“หึ! แค่เนี้ยะเหรอ แค่เนี้ยะเหรอออ!” เจ้าแมวระบบพ่นลมหายใจแรงๆโม่ชิงเหยียนที่ยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่เงียบๆ แทบจะหันหน้าซ่อนรอยยิ้มมุมปาก“เฮ้อ กว่าจะพูดขอบใจออกมาได้ องค์หญิงใหญ่ดูแลอาการบาดเจ็บของท่านด้วยตัวเองเพียงนี้ ข้าล่ะอิจฉาเสียจริงจัง”หว่านชิงยืดหลังตรงขณะเก็บของลงตะกร้าสาน กล่องสมุนไพรขนาดเล็กแ
สายลมยามเย็นพัดแผ่ว กลิ่นดอกสนลอยแตะปลายจมูก ขณะที่เยี่ยนอิงเดินทอดน่องอย่างเหม่อลอยริมแนวพุ่มไม้เสียงฝีเท้าหลายคู่ดังก้องจากลานหน้าวัด ดึงความสนใจของเยี่ยนอิงกลับไปทันที“ท่านราชครูโม่ชิงเหยียน...”ร่างสูงในชุดคลุมยาวสีดำหมึก พู่ขนนกประจำตำแหน่งขยับเบาๆ ตามแรงลม เยียบเย็นดังสายตาเฉียบคมของเขา โม่ชิงเหยียนยืนหลังตรงขณะเงยหน้ามองอาคารวิหารที่หว่านชิงพักรักษาตัวอยู่เยี่ยนอิงชะงัก...ดวงตากลมสั่นไหวในทันที หัวใจที่เคยหวังว่าใครสักคนจะมาตามหาตน กลายเป็นความเงียบชัดเจนที่บอกว่าเยี่ยนอิงไม่ใช่คนที่ราชสำนักกำลังห่วง“ท่านราชครู...” เยี่ยนอิงเอ่ยเสียงเบา เดินเข้าไปใกล้พลางยิ้มจางๆ แม้ในอกเหมือนกำลังถูกบีบ“ท่านมา...เพราะเรื่องของข้าใช่หรือไม่” โม่ชิงเหยียนเหลือบมองนางครู่หนึ่ง แววตาเรียบนิ่ง...คล้ายว่างเปล่า“ข้ามา...ตามรับบัญชาฝ่าบาทให้คุ้มกันองค์หญิงใหญ่”เยี่ยนอิงนิ่งไปทันที รอยยิ้มบนริมฝีปากค่อยๆ จางหาย องค์หญิงใหญ่...อีกแล้วหรือ เยี่ยนอิงพยักหน้ารับอย่างฝืนๆ ก่อนจะเอ่ยออกมาเบาๆ“ข้าคิดว่า...ข้าควรกลับวังหลวง”ราชครูยังคงยืนสงบ“ท่านแม่ทัพ...ได้รับบาดเจ็บเพราะข้า หากข้าอยู่ในวัง อาจมีโอก
เมื่อรถม้าชะลอลงถึงลานหน้าวัดต้าเล่อ หว่านชิงก็แทบจะกระโดดลงจากที่นั่งทันที ปลายรองเท้าแทบไม่แตะพื้นก็วิ่งเปิดประตูหลังรถเข้าไปหา“เยี่ยนอิง ประคองเขาไว้ ข้าจะช่วย”ร่างสูงของแม่ทัพไป๋เหวินหลงยังคงเอนพิงอย่างอ่อนแรง หว่านชิงก้าวขึ้นไปคว้าแขนเขาและค่อยๆ พยุงลงจากรถม้าด้วยความระวัง ดวงตาคู่นั้นปิดสนิท ร่างกายร้อนผ่าวจากพิษบาดแผลแล้วในจังหวะที่หว่านชิงประคองเขามาก้าวพ้นขอบรถได้เพียงก้าวเดียว..."...เยี่ยนอิง...หนีไป...เยี่ยนอิงเจ้า...ปลอดภัยไหม..."เสียงละเมอของไป๋เหวินหลงเปล่งออกมาแผ่วเบา แต่กรีดหัวใจหว่านชิงดังฉึก หว่านชิงชะงักค้างไปในจังหวะนั้น ร่างสูงที่นางอุตส่าห์ประคองไว้แทบจะปล่อยให้ล้มกลิ้งลงพื้นทันทีดวงตาเรียวยาวหรี่ลงอย่างหมดอารมณ์ ริมฝีปากกระตุกยิ้มแห้งข้างเดียว"เฮ้อ…ให้ตายสิ...ข้าควรปล่อยท่านกลิ้งลงไปหรือไม่กันนะ...""ติ๊ง!" เสียงคุ้นเคยดังขึ้นอย่างร่าเริงจนหว่านชิงอยากเขวี้ยงแมวเข้าวัด"ระบบแจ้งเตือน ท่านแม่ทัพละเมอถึงเยี่ยนอิง ขณะอยู่ในอ้อมแขนของนายหญิงหว่านชิง แต้มลดทันที 20 แต้ม"เจ้าแมวลอยขึ้นกลางอากาศ หมุนตัวไปมาพร้อมเสียงหัวเราะ คิกคิก ราวกับแกล้งกันเล่น“จะขำอะไรนัก
หว่านชิงหันไปหาเยี่ยนอิงที่ยังนั่งอยู่ข้างท่านแม่ทัพ“ขึ้นไป” น้ำเสียงเด็ดขาด“หา...ใคร ข้าเหรอ” เยี่ยนอิงทำหน้าตกใจปนเกรงๆ“ใช่สิ...เจ้าอยากจะวิ่งกลับหรือ” หว่านชิงพูดพลางปีนขึ้นหน้ารถม้า มือคว้าบังเหียนอย่างเชี่ยวชาญราวกับทำเป็นมาตลอดชีวิตเยี่ยนอิงรีบปีนขึ้นเบาะในรถม้าด้านในใหม่อีกรอบ ประคองท่านแม่ทัพอย่างลนๆ แล้วตะโกนออกมาอย่างไม่มั่นใจ“เอ่อ...ข้าพร้อมแล้วมั้ง…”หว่านชิงหันกลับมา เส้นผมสะบัดลมแรงในคืนเดือนมืด ดวงตาคมกริบเป็นประกายราวกับแม่ทัพในตำนาน เท่ซะไม่มี“จับให้แน่นๆ นะ ข้าจะซิ่งแล้ว”“ห๊าาา พี่หว่านชิง…” เยี่ยนอิงอ้าปากค้าง ยังไม่ทันได้ค้าน รถม้าก็พุ่งปรู๊ดออกไปด้วยเสียงกระทบพื้นหิน ม้าสองตัวถูกบังคับอย่างคล่องแคล่ว รถม้าแล่นฉิวพุ่งทะยานเข้าสู่ป่ารัตติกาล เยี่ยนอิงสะดุ้งเฮือก มือคว้าราวข้างๆ แน่น ดวงตาเบิกโพลงจนจะหลุดจากเบ้า“พะ…พี่หว่านชิง ขะ…ข้าไม่รู้เลยว่าท่านทำอะไรแบบนี้ได้”หว่านชิงตะโกนสวนกลับมาลอยๆ ท่ามกลางลมแรง“เจ้ารู้ไม่หมดหรอก ว่าข้าน่ะ ทำได้มากกว่าที่คิด!!” ปากพูดตาจ้องที่ผีเสื้อระบบนำทางรถม้าสีเข้มยังคงแล่นฝ่าทางดินชื้น ละอองหมอกบางเบาคลี่คลุมภูเขาราวกับเส้น
หว่านชิงว่าแล้วคว้าเสื้อคลุมหันกลับมาอย่างเด็ดขาด น้ำเสียงหว่านชิงเข้มขึ้น “แล้วน้ององค์หญิงรองเยี่ยนอิงที่ทั้งซื่อทั้งอ่อนแอนั่นจะทำอะไรได้เล่า ป้อนหญ้าให้เขารอดหรือไร”แมวระบบตบอากาศอย่างร้อนรน “ท่านแม่ทัพแย่มาก ระดับพลังชีวิตต่ำกว่า48%แล้ว มีความเสี่ยงหมดสติเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วยาม และหากปล่อยให้องค์หญิงรองเยี่ยนอิงดูแลคนเดียว...อาจมีการ กุมมือโดยไม่ตั้งใจ หรือ ซบไหล่จากแรงพิง เกิดขึ้น”“ไม่สิ เตรียมรถม้า เตรียมเส้นทาง เตรียมแผนออกวัด ข้าจะไปลากคอแม่ทัพขี้เก๊กนั่นกลับมาเอง!” หว่านชิงตะโกนลั่นแล้วหันขวับ “นายหญิงพูดจริงใช่ไหมเจ้าคะ?! ถ้าไปตอนนี้…”“ไม่ต้องพูดมากแล้ว ข้าจะไปเพราะเขากำลังจะตายแล้ว”ติ๊ง!“ปลดล็อกภารกิจพิเศษ: เส้นทางหัวใจของท่านแม่ทัพ - บันทึกเริ่มต้นแล้ว สถานะ: หว่านชิงกำลังออกเดินทาง +20 แต้ม ความสัมพันธ์แม่ทัพ +5 แต้มสายตาระบบแมว ปวดหัวระดับสูงสุด”กลางค่ำคืนรถม้าสีเข้มแล่นตัดทางป่าอย่างเร่งร้อน หว่านชิงนั่งตัวตรงในรถม้า ดวงตาทอดมองออกไปยังความมืดข้างนอก มือเรียวกำขวดยาสมานแผลแน่นจนข้อขาว หว่านชิงไม่ได้พูดอะไรเลยตั้งแต่ขึ้นรถมา นอกจากเพียงคำเดียว...“เร่งความ
ทั้งสองคนพุ่งเข้าไปในความมืด ไร้แสงจันทร์ มีเพียงเสียงหายใจถี่และเสียงฝีเท้าที่เบียดเสียดกับใบไม้และกิ่งไม้หัก"ขอแค่พ้นระยะตา ขอแค่หลบให้พ้นก่อน..เจ้าทนหน่อย" ไป๋เหวินหลงพึมพำขณะมือขวากำดาบและบังเหียนม้าแน่น มือซ้ายจับเยี่ยนอิงไว้ เลือดจากแขนซ้ายไหลเปื้อนแขนเสื้อจนชุ่มไปถึงเยี่ยนอิงท่ามกลางความมืดของป่า...เสียงฝีเท้าม้าไล่ตามเริ่มเลือนหายไป ไป๋เหวินหลงสอดส่องสายตาไปรอบๆ ตลอดเวลา เสียงฝีเท้าม้าหนักหน่วงค่อยๆ เบาลงจนกลายเป็นเสียงหอบหายใจของทั้งคนและม้า เส้นทางกลางป่ารกเรื้อทอดยาวไม่มีที่สิ้นสุด“...พวกมันไม่ตามมาแล้ว” ไป๋เหวินหลงพูดเสียงแผ่วในที่สุด ไป๋เหวินหลงเหลือบตามองข้างหลัง แต่แสงตะเกียงไล่ล่าก็ไม่มีแม้แต่วูบเดียว เยี่ยนอิงที่นั่งอยู่เบื้องหน้าเขาบนหลังม้าหันมามอง สีหน้าโล่งใจแต่ดวงตายังเต็มไปด้วยความกังวล ทว่าร่างสูงที่พยุงเธอไว้กลับโอนเอนไปช้าๆ“ท่านแม่ทัพ?!”ไป๋เหวินหลงไม่ตอบ เพียงยกมือขึ้นกุมบาดแผลที่แขนซ้ายแน่น เลือดซึมเปรอะเสื้อจนสีเข้มเปียกโชก“...แถบนี้ข้าจำได้...เคยมีถ้ำ...ต้องหาทางเข้าไปพักก่อน” เสียงของไป๋เหวินหลงเริ่มพร่าราวกับฝืนอยู่ด้วยแรงใจล้วนๆ ชี้ไปยังแนวโขดหิน