Share

ตอนที่ 8 ภูเขาพืชวิญญาณ

last update Last Updated: 2025-08-16 16:34:08

“พี่หลัว พี่เฟิงต้องเดินขึ้นเขาไปอีกไกลหรือไม่ถึงจะพบจุดสำหรับหาพืชวิญญาณ” เดินขึ้นเขามาสองเค่อแล้วทว่าแม้แต่พืชวิญญาณสักตนยังไม่พบ

นางเหนื่อยหอบได้แต่หายใจออกมาเสียงดัง อ้าปากพังพาบ ยกมือขึ้นเช็ดหน้าผาก

ทั้งสองคนมองมายังคนไม่เคยขึ้นเขา ทั้งที่เหนื่อยมากแต่กลับไม่บ่นออกมาสักคำเอาแต่ถามเป็นระยะว่าถึงจุดเก็บพืชวิญญาณหรือยัง

ความกระตือรือร้นเช่นนี้ทำคนใจอ่อนได้ไม่ยาก

“อีกไม่ไกล” หลัวหรูตอบ

“พี่หลัวข้าเชื่อพี่” เยว่ฉีสูดหายใจเข้าลึก ๆ อีกครั้ง ตั้งหน้าตั้งตาเดินตามหลังคนทั้งสองไปเรื่อย ๆ ผ่านมาอีกครึ่งเค่อในที่สุดทางลาดชัน ต้นไม้รกชัฏ และพุ่มไม้เขียวขจี ก็เปลี่ยนเป็นทางราบเรียบ พื้นทุกส่วนเสมอกัน ถึงจะยังมีต้นไม้สูงใหญ่ ต้นหญ้า พุ่มไม้เหมือนเดิม แต่ก็ไม่ลาดชันจนเข่าสั่นเหมือนเมื่อสักครู่

“พี่หลัวถึงแล้วใช่หรือไม่?”

“ใช่ เจ้ารู้จักพืชวิญญาณหรือไม่” หลัวหรูถามกลับ เด็กสาวผู้นี้ยังมิเคยขึ้นเขานางจึงไม่ทราบแน่ชัดว่ารู้จักพืชวิญญาณมากน้อยแค่ไหน หากไม่รู้นางจะได้บอกกล่าวได้ถูกต้อง

“พี่หลัววางใจเมื่อคืนข้าได้ศึกษาชนิดพืชวิญญาณมาบ้างแล้ว พอมีความรู้อยู่บ้าง”

“เจ้ามีหนังสือ!?” ความประหลาดใจในดวงตาของคนทั้งสอง ทำเยว่ฉีสับสน

คงมิใช่ว่าหนังสือเป็นสิ่งสูงส่งใช่ไหม? เพราะในความทรงจำของร่างเดิมไม่มีเรื่องนี้อยู่เลย เยว่ฉีจึงไม่ทราบมาก่อน ปฏิกิริยาตอบกลับของทั้งคู่ทำให้เยว่ฉีกังวลใจ ก้าวถอยหลังสองสามก้าวมองครอบครัวเฟิงอย่างเป็นกังวล

เห็นท่าทางระแวดระวังของเด็กสาว ทั้งสองคนจึงพรูลมหายใจออกมา

หลัวหรูเป็นคนแรกที่ก้าวเดินขึ้นมาพร้อมเอ่ยเสียงอ่อน

“เยว่ฉี หนังสือไม่ได้เป็นสิ่งสูงส่งหายาก ผู้คนทั่วไปสามารถครอบครองได้ ทว่ามีหนังสืออยู่ประเภทหนึ่งที่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะซื้อได้”

“...” เยว่ฉีกลืนน้ำลายลงคอ มองหลัวหรูเขม็ง นางเกร็งจนจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว

“หนังสือซึ่งบันทึกข้อมูลของพืชวิญญาณล้วนมีค่า ทั้งยังพบเจอได้ยาก การที่เจ้าบอกว่ามีหนังสือประเภทนี้อยู่ในมือนั้นเป็นเรื่องอันตรายมาก ต่อไปอย่าได้บอกกล่าวเรื่องนี้กับผู้ใด”

เยว่ฉีฟังน้ำเสียงจริงจังของนางก็ได้แต่พยักหน้าตอบรับพัลวัน ปากก็เอ่ยคำว่า เข้าใจแล้ว ซ้ำ ๆ หลายครั้ง

“ยังดีที่บริเวณนี้ไม่มีผู้ใด ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดเรื่องไม่ดีต่อเจ้าและครอบครัวของเจ้า” เยว่ฉีหวาดกลัวขึ้นมาแล้วจริง ๆ

ก็แค่หนังสือเล่มหนึ่งที่ผู้อาวุโสหมิงโยนส่ง ๆ มาให้นาง กับมีค่ามากถึงขั้นจะเอาชีวิตกันเลย โลกนี้ชั่งอยู่ยากเสียจริง คราวหลังนางต้องระวังให้มากกว่านี้เสียแล้ว และต้องถามสิ่งที่ควรพึงระวังกับหานลั่วอี้เอาไว้ด้วย

ความรู้เกี่ยวกับโลกนี้ของนางยังน้อยเกินไป เกิดทำอะไรไม่ระวังขึ้นมามีหวัง....

แค่คิดก็ขนลุกแล้ว !!!

มิน่าเล่าผู้อาวุโสท่านนั้นถึงได้บอกนางว่าห้ามมิให้ใครรู้เรื่องมิติ ขนาดหนังสือเล่มเดียวยังอันตรายถึงเพียงนี้ หากมีใครรู้เรื่องมิติ...

เยว่ฉีส่ายหัวสลัดความคิดน่ากลัวทิ้ง เอ่ยขอบคุณคนทั้งสอง พร้อมเอ่ยถามในสิ่งที่สงสัย

“พี่หลัวในเมื่อหนังสือเกี่ยวกับพืชวิญญาณนั่นมีค่า แล้วเหตุใดท่านถึงรู้จักชนิดของพืชวิญญาณได้”

“พืชวิญญาณธรรมดาทุกคนล้วนรู้จัก เรียกได้ว่าเป็นความรู้ซึ่งตกทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ แต่หนังสือที่รวบรวมชนิดพืชวิญญาณเอาไว้นั้นแตกต่าง เพราะจะบันทึกพืชวิญญาณชนิดต่าง ๆ ตั้งแต่ระดับต่ำไปจนถึงระดับสูง รวมไปถึงพืชวิญญาณหายากซึ่งคนทั่วไปไม่รู้...”

จากนั้นหลัวหรูก็อธิบายถึงความสำคัญของพืชวิญญาณให้นางฟัง พืชวิญญาณแบ่งออกเป็นสิบสามระดับ คือพืชวิญญาณระดับหนึ่งถึงระดับเก้า สูงกว่าระดับเก้าขึ้นไปเรียกระดับเทวะ ระดับเซียน ระดับเทพ และสุดท้ายคือพืชวิญญาณระดับตำนาน ยิ่งพบเจอพืชวิญญาณระดับสูงมาเท่าใด ค่าตอบแทนจะยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น

ประชาชนคนธรรมดาส่วนมากจะรู้จักเพียงพืชวิญญาณระดับต่ำ มีเพียงส่วนน้อยถึงจะรู้จักพืชวิญญาณระดับสูง ส่วนตระกูลมีฐานะน้อยตระกูลนักที่จะไม่รู้จักชนิดของพืชวิญญาณ

พืชวิญญาณมีความสำคัญมากต่อการหลอมโอสถ โอสถเหล่านี้เกิดขึ้นจากนักหลอมโอสถซึ่งมีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับผู้ฝึกปราณ

โอสถที่นักหลอมโอสถหลอมขึ้นมามักจะมีคุณสมบัติพิเศษแตกต่างกันไปตามระดับและชนิดของพืชวิญญาณหลักที่ใช้ในการหลอม ตัวอย่างเช่น โอสถฟื้นฟูลมปราณ โอสถรักษา โอสถคืนชีวิต ซึ่งช่วยให้ผู้ฝึกปราณต่อชีวิตตนเองต่อไปได้ยามตกอยู่ในวิกฤตยากจะแก้ไข นอกจากที่กล่าวมาโอสถยังมีคุณสมบัติพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย

พูดมาถึงตรงนี้ เยว่ฉีพลันเข้าใจความสำคัญของพืชวิญญาณมากขึ้น พอนึกไปว่าในมิติมีสวนพืชวิญญาณมากมายขนาดนั้นเยว่ฉีก็อดจะกลืนน้ำลายลงคอไม่ได้

หากเอาออกมาขายไม่รู้ว่าจะได้เงินมากน้อยเท่าใด

“ขอบคุณพี่หลัวที่บอกกล่าว ต่อไปข้าจะระวังให้มาก”

“ดีแล้ว เช่นนั้นก็แยกย้ายกันหาเถิด อย่าไปไกลนักละ”

“ข้าเข้าใจแล้ว” แล้วทั้งสามคนก็แยกย้ายกันค้นหาพืชวิญญาณ แต่ละคนยืนอยู่ไม่ห่างไกลกันมากพอให้เรียกชื่อแล้วสามารถได้ยิน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 20 สัตว์อสูรบุกรุก

    ทันทีที่ก้าวเข้ามาในบ้าน เยว่ฉีก็เห็นเฟิงซิ่วกำลังนั่งแกะสลักอยู่ไม่ไกลจากประตูเรือน อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นผงกหัวทักทายนางเล็กน้อย หลัวหรูจึงใช้โอกาสนี้เรียกสามีให้มานั่งด้วยกันทั้งสามคนนั่งล้อมโต๊ะอาหารบนลานเล็ก ๆ หน้าบ้าน เยว่ฉีมองหลัวหรูทีมองเฟิงซิ่วทีพร้อมยิ้มกรุ้มกริ่ม จากนั้นจึงหยิบอาหารออกมาวางบนโต๊ะ กลิ่นหอมนำมาก่อนใครเพื่อน ก่อนจะตามมาด้วยหน้าตาอาหารดูน่ารับประทาน สีสันสวยงามตัดกันได้อย่างลงตัวเรียกความต้องการอยากของกระเพาะได้เป็นอย่างดีกลิ่นหอมนี้ส่งผลให้ทั้งสองคนถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ“พี่หลัว พี่เฟิงพวกท่านลองชิมดู” ทั้งสองคนพยักหน้าขึ้นลง ก่อนจะใช้ตะเกียบที่เยว่ฉีนำมาด้วยคีบอาหารเข้าปากสิ่งแรกที่สัมผัสได้คือความอร่อยล้ำไม่ต่างจากอาหารในร้านชื่อดังในเมือง พอเคี้ยวไปเรื่อย ๆ ความอร่อยล้ำก็เปลี่ยนเป็นความประหลาดใจ และเมื่ออาหารถูกกลืนลงท้องสิ่งที่ตามมายิ่งทำให้ทั้งสองคนต้องตกตะลึงเบิกตากว้างมองเด็กสาวซึ่งกำลังยิ้มกว้างมาให้“พี่หลัว พี่เฟิงเป็นเช่นไรบ้าง”“เจ้าทำได้เช่นไร !!!” สองเสียงประสานกันเสียงดังทำเยว่ฉีตกใจสะดุ้งโหยงก่อนจะหัวเราะออกมา นางเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ“พี่ทั้งสอง

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 19 นำมาให้ลองชิม

    ผ่านมาครึ่งเดือนนับจากวันที่แยกออกมาจากจวนตระกูลหาน ทุก ๆ วันของพวกเขาเรียกได้ว่าราบรื่น นอกจากการปะทะกันเล็ก ๆ น้อย ๆ กับหานลั่วเหมยวันนั้นทางตระกูลหานก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดอีกเลยครึ่งเดือนมานี้เยว่ฉียังไม่ได้เริ่มกิจการหาเงินอย่างจริงจัง ด้วยตัวนางต้องการบำรุงร่างกายซูบผอมนี้ให้กลับมามีน้ำมีนวลและแข็งแรงมากกว่านี้ ทุกวันเยว่ฉีจะตื่นแต่เช้าตรู่ หุงหาอาหาร ต้มยำสำหรับหานลั่วซานและผสมน้ำแห่งชีวิตให้สามีดื่มร่างกายที่บำรุงอย่างดีตลอดครึ่งเดือนเรียกได้ว่าสมความตั้งใจ ร่างกายผอมแห้ง ใบหน้าซูบผอมมีน้ำมีนวลขึ้นไม่น้อย รอยคล้ำแดดเองก็ลดลงไปมาก ทำให้สามารถเห็นโครงหน้าและเรือนกายขาวเนียนกระจ่างดุจหยกเนื้อดีของร่างนี้ได้ชัดเจนขึ้นเยว่ฉีกระพริบตาปริบ ๆ มองเครื่องหน้างดงามซึ่งสะท้อนอยู่บนผืนน้ำ สตรีผู้นี้ช่างงดงามจนนางเองยังอดใจสั่นไม่ได้ถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่ใช่ใบหน้างดงามหมดจด ทว่ากลับเผยความงดงามมีเสน่ห์ดึงดูดน่าทะนุถนอมเยว่ฉียกมือจับแก้มนวลที่เมื่อก่อนไร้ซึ่งไขมัน มาตอนนี้กลับให้สัมผัสนุ่มมือไม่ต่างจากผิวเด็กทารก“งามนัก” เสียงพึมพำแผ่วเบาพร้อมรอยยิ้มกว้างสะท้อนบนผืนน้ำ ไม่คิดว่าหลังบำรุงต

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 18 แผนการหาเงิน

    “นั่งกลุ้มอันใดกัน” เยว่ฉีเงยหน้าขึ้นมองผู้มาใหม่ นางกำลังนั่งคิดอะไรคนเดียวข้างบ้านจุดเดิมกับที่ทำปังตอปักเอาไว้ หานลั่วอี้ที่ออกมาทีหลังเข็นรถมาจอดข้าง ๆพอเยว่ฉีกลับมาถึงบ้านก็ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองให้หานลั่วอี้ฟัง อีกฝ่ายจึงเล่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหานลั่วเหมย เด็กสาวท่าทางอวดดีผู้นั้นปีนี้อายุสิบสี่ เป็นผู้ฝึกปราณขั้นสอง ลูกสาวคนเล็กของหานฉิงอี้กับภรรยาเอก ส่วนหานลั่วอี้คือบุตรชายคนโตซึ่งเกิดจากภรรยารองหานลั่วเหมยมีนิสัยเอาแต่ใจมาตั้งแต่เด็กด้วยบิดามารดาตามใจและเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของทั้งสองคน รวมไปถึงเกิดในตระกูลใหญ่ ด้วยการเลี้ยงดูเช่นนี้ทำให้นางไม่สนหัวใครหานลั่วเหมยไม่ชอบหานลั่วอี้ด้วยเพราะเก่งกาจมากกว่าพี่ชายของนาง ทุกครั้งที่เจอกันก็มักจะแสดงสีหน้าไม่ยินดีที่ได้พบกัน เขาเองก็ใช่ว่าจะไม่รู้ บุรุษหนุ่มจึงไม่คิดจะเอาตนเข้าไปยุ่งเกี่ยวเช่นเดียวกันความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเป็นเช่นนั้นเสมอมา ไม่แปลกที่เด็กสาวจะเข้ามาหาเรื่องเยว่ฉีเพราะมีความเกี่ยวข้องกับเขานางไม่ชอบใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับหานลั่วอี้“ข้ากำลังคิดว่าจะหาเงินได้จากทางใดบ้าง วันนี้ก่อนจะกลับข้าได้ไ

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 17 พบคนคุ้นเคย ?

    “เจ้า!!เจ้า !!” เด็กสาวกล่าวพร้อมยกมือชี้หน้าด่า กระทืบเท้าลงพื้นอย่างขัดใจ ไม่คิดว่าสตรีผู้นี้จะบังอาจไม่รู้จักนาง “ข้าหานลั่วเหมย คงมิได้จะพูดว่าไม่รู้จักตระกูลหานใช่ไหม”อ๋อ คนตระกูลหาน มิน่าถึงได้มีกิริยาน่ารังเกียจ คนตระกูลนี้นิสัยเสียกันหมดตระกูลหรือไง? ไม่สิยกเว้นสามีนางไว้คนหนึ่งเยว่ฉีตอบรับออกมาอย่างไม่ใส่ใจ “อ๋อ ตระกูลหาน” ก่อนจะก้าวแยกตัวออกไป คนตระกูลนี้อยู่ให้ห่างหน่อยเป็นดี เดี๋ยวจะถูกเชื้อนิสัยเสียลามมาเปื้อนตัว“เจ้าจะไปไหน ข้ายังไม่อนุญาตให้เจ้าไป” หานลั่วเหมยเดินตามยื่นมือมากระชากแขนเยว่ฉีเต็มแรง เด็กเล็กมักมีแรงมาก นับประสาอะไรกับหานลั่วเหมยที่เป็นผู้ฝึกปราณขั้นสอง ส่วนเยว่ฉีเป็นเพียงคนธรรมดาที่ร่างกายยังบำรุงได้ไม่เต็มที่เด็กสาวเพียงกระตุกมือเยว่ฉีก็แทบหงายหลังต้องรีบก้าวถอยหลังเร็ว ๆ กลับไปความฉุนเฉียวพลันผุดขึ้นในใจ เยว่ฉีใช้แรงที่มีกระชากมือกลับคืนมา“เสียมารยาท!!ข้าไม่ใช่ขี้ข้าของเจ้าที่คิดจะกระชากลากถูหรือขึ้นเสียงอย่างไรก็ได้ ในจวนตระกูลหานเจ้าอาจจะทำกิริยาหยิ่งยโส ยกตนใหญ่โตเพราะผู้อื่นเขาหวาดกลัว แต่ไม่ใช่กับข้า ข้าไม่ใช่คนของตระกูลเจ้าที่คิดอยากจะขึ้นเส

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 16 ข้ากับเจ้ารู้จักกันหรือ ?

    เยว่ฉีออกมาจากร้านค้าหยกก็เดินหามุมลับสายตาคนถอดผ้าคลุมออกจากตัว ก่อนจะทำทีว่าไม่มีเรื่องอันใด แล้วเดินปะปนเข้าไปในฝูงคน ในมือมีเงินเยว่ฉีก็หายใจได้สะดวกขึ้น ใบหน้าติดกังวลก็คลายลงมีเงินก็ต้องใช้เงิน แม้ว่านางมีความคิดจะสร้างบ้านให้ดีขึ้นแต่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญกว่าคือ สิ่งของอำนวยความสะดวกภายในบ้านชุดครัวมีน้อยเกินไป นอกจากกระทะใบใหญ่บนเตาอาหารกับหม้อใบเล็กแล้ว สิ่งของอื่น ๆ ล้วนใกล้จะพังจนใช้งานไม่ได้ ขนาดตะเกียบที่ใช้อยู่ตอนนี้ยังเป็นนางที่เหลาจากไม้ไผ่มาใช้ชั่วคราวส่วนถ้วยชามก็มีอย่างจำกัดและสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ข้าว!!ข้าวในบ้านเหลือไม่มากแล้วเยว่ฉีจึงต้องการซื้อตุนเอาไว้มากหน่อยหญิงสาวเดินไปตามถนนที่ผู้คนพลุกพล่านไม่นานก็เจอร้านขายข้าว นอกจากข้าวแล้วยังมีของใช้ในครัวอื่น ๆ เช่น ถ้วย ชาม ตะเกียบ ไปจนถึงพวกแป้งเยว่ฉีคำนวณในใจ ของที่ต้องการซื้อมีมากมายเหลือเกิน ไม่สามารถขนไปด้วยตัวคนเดียวไหว จึงเอ่ยถามกับลูกจ้างร้านว่าสามารถขนของไปส่งยังจุดจอดรถเทียมลาได้ไหม ลูกจ้างร้านมองหน้ากันไปมาก่อนเอ่ยว่า หากของที่ซื้อมีราคาถึงหนึ่งตำลึงพวกเขาจะนำไปส่งให้เยว่ฉีพยักหน้าเข้าใจจากนั้นเอ่ยถา

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 15 เสนอขายหยกวิญญาณ

    “เถ้าแก่ ปกติแล้วดอกแต้มสีชาดคู่มักให้ราคาสูงที่สี่ตำลึงมิใช่หรือ เหตุใดถึงมากกว่าราคาตลอดถึงสองตำลึง” เถ้าแก่ร้านไม่ปิดบังเอ่ยสีหน้าเบิกบาน“คุณภาพพืชวิญญาณต้นนี้สูงมาก ทั้งยังบริสุทธิ์มาก พวกเจ้าไม่ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่แพร่กระจายออกมาจากพืชตรงหน้าหรือ” ทั้งสามคนก้มหน้ามองพอลองสูดดมดี ๆ ก็ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ โชยออกมาอย่างที่เถ้าแก่ว่า“ในเมื่อคุณภาพสูง ข้าเองก็ชอบทำการค้าขายแบบยุติธรรมจึงให้ราคาสูงกับพวกเจ้าสองคน” พูดไปก็เอาแต่จ้องพืชวิญญาณในมือไปด้วยคล้ายกลัวว่าหากละสายตา ดอกไม้สีขาวสองดอกนี้จะหายไป“ไปนำกล่องมาใส่พืชวิญญาณสองต้นนี้”“ขอรับ” ลูกจ้างรับคำไม่นานก็กลับมาพร้อมกล่องสำหรับเก็บพืชวิญญาณโดยเฉพาะสองกล่อง ทั้งสองแลกเปลี่ยนสินค้าเป็นเงิน เถ้าแก่ร้านกอดกล่องใส่พืชวิญญาณเอาไว้แน่น มองทั้งสามคนยิ้ม ๆแค่คิดว่าหลังหลอมเป็นโอสถแล้วจะทำเงินได้มากกว่าที่จ่ายไปก็เบิกบานแล้ว ในเมืองโม่ฉีมีไม่กี่ร้านที่สามารถขายโอสถทะลวงขึ้นระดับสาม และตอนนี้ร้านของเขาก็กำลังจะเป็นหนึ่งนั้น“หากพวกเจ้าพบพืชวิญญาณก็นำมาขายให้ร้านได้ ข้าย่อมให้ราคาเป็นธรรม” เถ้าแก่เอ่ยย้ำเป็นมั่นเป็นเหมาะกอดกล่องแล้วเดินกลั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status