“พี่สาว ท่านจะต้องดูแลตัวเองให้ดี ๆ นะขอรับ” หมิงหมิงพูดออกมาอย่างลำบากใจ “ขอบใจเจ้ามาก” หนิงอันดึงตัวของน้องชายมากอดโดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว “พี่สาว ข้าโตแล้วนะขอรับ” ผู้เป็นน้องโต้ขึ้นอย่างไม่เต็มเสียงนัก “สำหรับพี่ ไม่ว่าเจ้าจะเติบโตสักแค่ไหนเจ้าก็ยังคงเป็นน้องชายของข้าเส
จู่ ๆ ก็มีร่างของหญิงสาวสามนางปรากฏกายออกมาตรงหน้าของเธอ หนิงอันผงะถอยหลังไปเพียงเล็กน้อย “คารวะคุณหนูหยู พวกข้าน้อยเป็นองครักษ์เงาของท่านที่นายน้อยได้ส่งมาเจ้าค่ะ แต่ในวันนี้ที่พวกข้าถือวิสาสะปรากฏตัวออกมานั้นเป็นเพราะข้าได้ยินสิ่งที่คนหนูพูด” คนทั้งสามนั่งคุกเข่าลงกับพื้นในขณะพูดทำให้ห
หลังจากเสร็จพิธีการไว้อาลัยรวมถึงฝังร่างของอาจารย์ชราทั้งสองคนไปได้นานหลายวันแล้ว ความโศกเศร้าของหนิงอันก็หาได้จางหายลงไปไม่ เด็กสาวยังคงเก็บตัวอยู่ตามลำพัง จนในที่สุดหมิงหมิงก็ทนไม่ไหว ดังนั้นเด็กชายจึงได้มาเคาะประตูห้องตำราของผู้เป็นพี่ ที่เจ้าตัวมักจะมาขลุกอยู่แต่ในห้องนี้
ภายในงานพิธี เมื่อมีฮองเฮาแห่งแผ่นดินมาร่วมอวยพรด้วย หลังจากหยวนฟานซึ่งเป็นมารดาหวีผมให้กับบุตรสาวของตนเรียบร้อย จื่อเย่จึงขอรับหน้าที่เป็นผู้ปักปิ่นให้กับอันอันด้วยตัวเอง บนถาดทองเหลืองที่มู่ตานถือ มีปิ่นปักผมวางเรียงรายอยู่สี่แบบ หนิงอันมองไปทางมารดาของตน สีหน้าของเด็กสาวเต็มไปด้วยความ
“แม่ทัพถง ท่านรีบนำกำลังไปช่วยทางแดนเหนือให้เร็วที่สุด” ถ้อยคำของเทียนชุนเยว่หลงลิ่วทำให้แม่ทัพวัยกลางคนกังวลไม่น้อย “เรียนฝ่าบาท หากว่ากระหม่อมแบ่งกำลังไปช่วยทางนั้นแล้วทางเมืองหลวงล่ะพ่ะย่ะค่ะ” หลางจิ้นถงแย้ง ไม่ใช่ว่าเขารักตัวกลัวตายแต่สถานการณ์ในตอนนี้ไม่อาจไว้วางใจได้ คว
‘อันอัน! เจ้าเป็นอะไร ฝันร้ายอย่างนั้นหรือ’ กุ้ยเฮยถามสหายออกมาอย่างเป็นห่วงเมื่อเจ้าตัวได้ยินเสียงกรีดร้องของเด็กสาว ‘เฮยเฮย ข้าฝันว่าพี่ชายมู่ตงถูกฟัน เลือดสีแดงฉานสาดกระเซ็นลงบนพื้นหิมะ ภาพยังติดตาข้าอยู่เลย เขาจะไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่’ หนิงอันยกมือลูบใบหน้าของตนกล่าวเสียงสั่นด้วยความก