บัตรเชิญสีดำพาพวกเขาเข้าสู่อควาเรียมที่ไม่มีในแผนที่ 13 กฎห้ามละเมิด…แต่เมื่อทำตาม พวกเขากลับเริ่มหายไปทีละคน
View Moreซ่าาา~!!
ค่ำคืนนั้น สายฝนโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย ท้องฟ้ามืดมิดไร้ดวงดาว ถูกบดบังด้วยม่านเมฆหนาทึบ เสมือนกำลังโอบอุ้มความลับดำมืดบางอย่างไว้ ณ ใจกลางเมืองที่เคยเต็มไปด้วยแสงสีและชีวิตชีวา บัดนี้กลับมีเพียงแสงไฟสลัวจากป้ายไฟนีออนเก่าๆ ของอาคารร้างขนาดมหึมาที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมถนน
อควาเรียมไตรตัน
เสียงกระซิบอื้ออึงของลมที่พัดโหมกระหน่ำดูคล้ายกับเสียงร่ำไห้ของวิญญาณที่ถูกจองจำอยู่ภายใน ขณะที่ความเงียบงันปกคลุมพื้นที่โดยรอบ มีเพียงหยดน้ำฝนที่สาดซัดกระทบกระจกตู้ปลาขนาดยักษ์ที่แตกร้าว เผยให้เห็นเงามืดทะมึนของบางสิ่งบางอย่างที่เคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าอยู่เบื้องหลัง กลิ่นอับชื้นของน้ำเค็มและสนิมเหล็กปะปนกับกลิ่นสาบของความตาย คล้ายจะเตือนให้ผู้ที่บังเอิญเดินผ่านได้รู้ว่า ที่แห่งนี้ไม่ใช่เพียงแค่ซากอดีตที่ถูกทิ้งร้าง หากแต่เป็นสุสานที่เต็มไปด้วยเรื่องราวอันน่าสะพรึงกลัว
ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ไม่มีใครกล้าเอ่ยถึง อควาเรียมแห่งนี้เป็นเหมือน ‘กล่องดำ’ ที่เก็บงำความจริงอันน่าขนลุกไว้เบื้องหลังข่าวลือเรื่องการทดลองผิดจรรยาบรรณ และการหายตัวไปอย่างลึกลับของผู้คนในอดีต เสียงกระซิบเหล่านั้นไม่ใช่เพียงแค่เรื่องเล่าปรัมปรา แต่คือคำเตือนจากสิ่งที่ไม่มีใครมองเห็น และกำลังรอคอย ‘ผู้ถูกเลือก’ ให้ก้าวเข้าสู่กับดักที่ไม่มีวันหนีรอด
ท่ามกลางความมืดมิดและเสียงคำรามของพายุ บัตรเชิญสีดำสนิทใบหนึ่งถูกวางอยู่บนโต๊ะไม้เก่าๆ ภายในห้องที่ถูกทิ้งร้างของอควาเรียม ตัวอักษรสีเงินที่ส่องประกายเรืองรองเขียนไว้ว่า ‘งานพิเศษสำหรับบุคคลที่ถูกเลือก’ พร้อมคำมั่นสัญญาถึง ‘ของรางวัลล้ำค่า’ มันเป็นบัตรเชิญปริศนาที่กำลังจะเปลี่ยนชีวิตของใครบางคนไปตลอดกาล
ลมพัดหวีดหวิวเข้ามาจากหน้าต่างที่แตกหัก ทำให้บัตรเชิญใบนั้นปลิวพลิกไปมา เผยให้เห็นด้านหลังที่สลักคำเตือนเอาไว้
‘จงระวัง... ทุกย่างก้าวคือกฎเกณฑ์’
--------------------------------------------
#วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก13กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม
การที่ทุกคนถูกหลอกว่าสามารถหนีออกจากอควาเรียมได้แล้ว ทั้งที่ในความเป็นจริงเป็นเพียงภาพหลอนที่ถูกสร้างขึ้นมาให้ตายใจ นับว่าเป็นเรื่องที่บั่นทอนความรู้สึกและความหวังของทุกคนได้เป็นอย่างดี พวกเขาพลาดที่ไว้ใจสถานการณ์ตรงหน้าเกินไป ไม่คิดว่าคนที่อยู่เบื้องหลังจะใจร้ายใจดำได้มากถึงขนาดนี้ความจริงอันน่าสะพรึงกลัวของการที่พวกเขาทั้งหมดไม่ได้หนีรอดออกจากอควาเรียมไตรตันไปไหน แต่ยังคงติดอยู่ภายในภาพหลอนที่สร้างขึ้นเพื่อกักขังพวกเขา ตอกย้ำความสิ้นหวังให้ลึกซึ้งขึ้นมากกว่าเดิม“นี่เรายังอยู่ที่นี่จริงๆ เหรอ” พลอยถามด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง“ใช่ มันเก่งมาก ที่เล่นกับจิตใจเราได้ถึงขนาดนี้” อิฐกล่าวเสริม แม้จะดูท้อบ้างแต่เขาก็ยังมีประกายตาของความมุ่งมั่นซ่อนอยู่“แล้วเราจะทำยังไงดี ถึงจะออกจากที่นี่ได้” กวินถามขึ้นสายตาของอิฐจับจ้องไปที่สมุดบันทึกที่กวินถืออยู่ในมือก่อนจะยื่นมือไปขอเอามาเปิดดู เขาใช้เวลาเพ่งพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจเริ่มพูดคุยกับคนอื่นที่เหลือ เพื่อปรึกษาหารือกันอย่างจริงจังเกี่ยวกับวิธีการที่จะทำลายแกนพลังงานของที่นี่“ตามสมุดบันทึกนี้” อิฐกล่าวพลางชี้ไปที่แผนผังที่ซับซ้อนในส
ความตายอันยิ่งใหญ่และการเสียสละของฟ้า เพื่อเปิดทางให้กลุ่มที่เหลือรอดหนีจากสิ่งมีชีวิตทดลองและดร.วินัยยังคงสร้างความสะเทือนใจอย่างแสนสาหัส บัดนี้แสงสลัวจากอุปกรณ์ทดลองเก่าๆ ในห้องปฏิบัติการส่องกระทบใบหน้าของพวกเขา เผยให้เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้เพื่ออิสรภาพของตัวเอง“การเสียสละของฟ้าจะต้องไม่สูญเปล่า” อิฐย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“แล้วเราจะเอายังไงต่อดี” พลอยถาม“เราต้องไปต่อ...เพื่อทำลายแกนพลังงาน และหาทางออกไปจากที่นี่ให้ได้”อิฐพูดจบก็หันไปมองทางลับที่ถูกเปิดออกจากการใช้พลังต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตทดลองของฟ้าเมื่อครู่ นี่คือผลลัพธ์จากการเสียสละของฟ้า ทางลับนั้นเป็นอุโมงค์แคบๆ ที่ดูมืดมิดและน่าขนลุก แต่ก็มีแสงสว่างจางๆ ส่องออกมาจากปลายอุโมงค์ ราวกับเป็นแสงแห่งความหวัง“นั่นแหละทางออก” พลอยกรีดร้องด้วยความดีใจปนหวาดกลัว เธอชี้ไปที่ทางลับนั้น “เราไปกันเลยไหม”อิฐพยักหน้า “ไปกันเถอะ! แต่ก็ยังต้องระวังตัวไว้ให้ดีนะ” เขานึกถึงสิ่งที่เจ้าหน้าที่เคยบอกว่าไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ออกจากที่นี่พวกเขาพากันเดินเข้าไปในทางลับนั้นอย่างรวดเร็ว กลิ่นอับชื้นของน้ำเค็มและสนิมเหล็กปะปนกับ
ความจริงที่ดร.วินัยเปิดเผยว่าอควาเรียมไตรตันคือศูนย์วิจัยลับที่สร้างสิ่งมีชีวิตไฮบริด และเขาเสนอให้พวกเขาเข้าร่วมการทดลองยิ่งตอกย้ำความหวาดกลัวและสิ้นหวังให้คนที่เหลือรอดอยู่ไม่น้อย บัดนี้แสงสลัวจากอุปกรณ์ทดลองเก่าๆ ในห้องปฏิบัติการส่องกระทบใบหน้าของกลุ่มคนที่เหลือรอด เผยให้เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้เพื่ออิสรภาพ แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตามอิฐยังคงยืนนิ่ง ใบหน้าของเขาเรียบเฉย “ข้อเสนอของคุณมันไร้สาระ”ดร.วินัยยิ้ม “พวกเจ้าคิดว่าจะต่อต้านข้าได้งั้นรึ” ดร.วินัยกล่าว น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “พวกเจ้าเป็นแค่หนูทดลองของข้าเท่านั้น” เขาชี้ไปที่ตู้ปลาขนาดใหญ่ที่อยู่กลางห้องปฏิบัติการ “แกนพลังงานแห่งไตรตันมันจะดูดกลืนพวกเจ้าทุกคนให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของข้า!!”ทันใดนั้น เสียงคำรามดังสนั่นหวั่นไหวมาจากตู้ปลาขนาดใหญ่ที่อยู่กลางห้องปฏิบัติการ สิ่งมีชีวิตทดลองขนาดมหึมาปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขาอีกครั้งพร้อมกระโจนใส่พวกเขาในทันที“กรี๊ดดดดดดด!” พลอยกรีดร้องสุดเสียงก่อนจะเริ่มวิ่งหนีฟ้าก้าวออกมาจากกลุ่มอย่างช้าๆ แล้วยืนขวางหน้าสิ่งมีชีวิตประหลาดนั่น เธอมองไปที่สิ่งมีชีวิตทด
แผนที่ลับที่แพรวาค้นพบในตู้ปลาที่ใหญ่ที่สุด จุดประกายความหวังครั้งใหม่ในกลุ่มคนที่เหลือรอด แม้ทางออกจะถูกเฝ้าโดยสิ่งมีชีวิตทดลองขนาดมหึมา แต่ความหวังที่จะรอดชีวิตก็กลับมาอีกครั้ง“เราเจอทางออกแล้วใช่ไหมคะ” พลอยพึมพำ ใบหน้าของเธอฉายแววความหวังเล็กน้อย “เราจะรอดแล้วใช่ไหม”“เราต้องไปตามทางนี้ เพื่อทำลายแกนพลังงาน และหาทางออกไปจากที่นี่ให้ได้” อิฐเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แววตาเต็มไปด้วยความมั่นคง“แต่เราเข้าไปเอาแผนที่นั้นไม่ได้ ไอ้ตัวประหลาดในตู้นั่นมันต้องทำอะไรสักอย่างกับพวกเราแน่ๆ” แพรวาย้ำ“งั้นพวกเราก็ต้องช่วยกันจำ” อิฐกล่าวเสริมสิ้นคำของอิฐพวกเขาทุกคนก็แบ่งสัดส่วนช่วยกันจำเส้นทางที่ปรากฏบนแผนที่ เมื่อมั่นใจว่าจำส่วนของตัวเองได้พวกเขาก็ตัดสินใจเดินหน้าต่อไปตามแผนที่ลับที่แพรวาค้นพบ มันเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างแคบและมืดสลัวกว่าโซนอื่น มีเพียงแสงจางๆ จากตู้ปลาบางตู้ที่ส่องนำทาง บรรยากาศเงียบสงัดจนได้ยินเพียงเสียงฝีเท้าของพวกเขาที่ก้องกังวานไปทั่วทางเดิน และเสียงหัวใจที่เต้นระรัวด้วยความหวาดกลัวขณะที่พวกเขาเดินทางไปตามทางเดินนั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างที่ดูเหมือนจะเป็นเสียงของม
ความหวาดผวาและความสิ้นหวังยังคงทำลายจิตใจของพวกเขาที่ยังเหลือรอดอยู่อย่างหนักหน่วงยิ่งกว่าที่เคย หลังจากฟ้าเริ่มแสดงอาการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายคล้ายกับที่เกิดกับเจมส์ เธอต่อสู้กับพลังที่พยายามกลืนกินเธอไปอย่างช้าๆ แต่เสียงกระซิบที่ชัดเจนขึ้นที่บอกให้เธอกลับไปที่น้ำ ยิ่งทำให้การต่อสู้ยากลำบากขึ้น“ฟ้าจะรอดไหม” พลอยถามอย่างเป็นกังวล เธออยากไม่เสียใครไปมากกว่านี้อีกแล้ว แต่เธอก็ไม่กล้าพอที่จะพุ่งเข้าไปช่วย เพราะไม่อาจคาดเดาถึงผลกระทบที่จะตามมาได้เลยตุบ!แพรวาหมดสติล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น ทุกคนตกใจรีบกรูกันเข้ามามุงเพื่อช่วยเหลือ เพียงครู่เดียวเธอก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า ดวงตาของเธอยังคงเต็มไปด้วยความเย็นชา แต่ก็มีประกายบางอย่างที่บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นที่เด็ดเดี่ยว เธอพยายามจะลุกขึ้นนั่งอย่างทุลักทุเลพลอยรีบประคองเธอไว้ “แพรวา! เธอฟื้นแล้ว!”แพรวามองไปรอบๆ อย่างสับสน สายตาของเธอไปหยุดอยู่ที่กวินที่ยังคงกุมสมุดบันทึกของนักวิทยาศาสตร์ไว้แน่นในมือ“ความจริงอยู่ในตู้ปลาที่ใหญ่ที่สุด” แพรวาย้ำ ความต้องการเดียวในความนึกคิดของเธอคือแรงจูงใจที่จะค้นหาความจริงเกี่ยวกับพ่อของเธอที่หายตัวไป แล
ความตายอันยิ่งใหญ่ของการเสียสละของลุงแดง เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของสิ่งมีชีวิตทดลองและเปิดทางให้กลุ่มที่เหลือรอดหนีไปได้ ยังคงสร้างความสะเทือนใจอย่างแสนสาหัส คำพูดสุดท้ายของเขาที่ว่า ความจริงอยู่ในตู้ปลาที่ใหญ่ที่สุด ก้องกังวานอยู่ในโสตประสาทของทุกคน ภาพอนาคตอันน่าสะพรึงกลัวที่ฉายขึ้นในตู้ปลาเหล่านั้น ราวกับจะบอกว่ามันเป็นชะตากรรมของพวกเขาแต่ละคนที่จะถูกอควาเรียมกลืนกิน ยิ่งตอกย้ำความสิ้นหวังให้ลึกซึ้งขึ้นกว่าเดิมพรึ่บ!! ไฟดับลงและสว่างขึ้นอีกครั้ง แพรวาและอิฐกลับมาแล้วด้วยสีหน้างุนงงและหวาดกลัว พลอยรีบถลาเข้าไปหาทันที“เป็นไงบ้าง มันพาไปที่ไหน”“ห้องๆ นึง” อิฐบอก แววตาเลื่อนลอย “มันให้พวกเราเห็นอดีตที่ผิดพลาดของตัวเอง”“มันกำลังพยายามทำให้พวกเราอ่อนแอ” แพรวาเสริม“ไม่เป็ฯไรนะ อย่างน้อยก็ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่านี้ ฉันเป็นห่วงแทบแย่” พลอยรีบโอบทั้งสองคนเข้ามากอดเอาไว้ เธอไม่รู้ว่าควรทำอะไรมากไปกว่านี้ สิ่งเดียวที่คิดออกคือพยายามดึงให้ทั้งอิฐและแพรวากลับมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงให้ได้“แล้วลุงแดงล่ะ” อิฐเอ่ยถามขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่ายังไม่เห็นหน้าคนที่ตนถามถึงพลอยผละออกพลางมองหน้าคนถา
Comments