Accueil / รักโบราณ / ข้าเหนื่อยจะรักใครอีกแล้ว / บทที่ 5 หัวใจท่านไม่เคยมีข้า

Share

บทที่ 5 หัวใจท่านไม่เคยมีข้า

Auteur: Luffy.g
last update Dernière mise à jour: 2024-11-23 16:45:46

เมื่อเผิงฟู่หลินก้าวออกจากจวนไป ราชครูเผิงถึงกับถอนหายใจอย่างหนัก เขาหันมามองบุตรสาวคนโต ที่ตอนนี้จงหลีรีบปรี่เข้าไปประคองให้ลุกขึ้นมานั่งที่โต๊ะอีกครั้ง ด้วยสายตายากจะคาดเดา

“เจ้าดูแลว่านเอ๋อร์ให้ดี พ่อบ้านจัดเตรียมยามาให้นางให้เรียบร้อย ว่านเอ๋อร์เจ้าก็ดูแลตัวเองด้วยแล้วกัน” ราชครูเผิงหันไปสั่งจงหลีและพ่อบ้าน ก่อนจะบอกบุตรสาว

จากนั้นราชครูเผิงก็สะบัดชายเสื้อแล้วเดินออกจากห้องไปในทันที ฮูหยินเซียงหันมองหน้าเผิงเสี่ยวว่านด้วยความไม่พอใจ แต่ไหนแต่ไรนางก็เก็บตัวเงียบเรียบร้อยอยู่ในเรือน ไม่คิดว่าหนนี้นางจะกล้าทำเรื่องเลยเถิดจนบัดนี้ หากไม่ติดบุตรสาวของตนเพิ่งได้รับโทษไปหมาด ๆ นางคงได้เข้าไปสั่งสอนลูกเลี้ยงคนนี้อีกสักหนเป็นแน่

ฮูหยินเซียงได้แต่คิดแค้นในใจก่อนจะรีบเดินตามสามีออกไป เพื่ออ้อนวอนให้เขาลุแก่โทษแก่เผิงฟู่หลินอีกครั้ง

เผิงเสี่ยวว่านมองภาพดังกล่าวด้วยสายตานิ่งเฉย มือน้อยกำหมัดไว้แน่นด้วยความเจ็บปวด จงหลีรีบนั่งลงตรงหน้าพร้อมกุมมือนายหญิงไว้แน่น

“เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ข้าไม่เป็นอะไรหรอก ท่านพ่อไม่เคยมีข้าในหัวใจจนข้าชาชินเสียแล้ว” เผิงเสี่ยวว่านพูดพร้อมสะกดกลั้นน้ำตาเอาไว้

เผิงเสี่ยวว่านไหววูบไปชั่วครู่ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นพร้อมสีหน้าราบเรียบอีกครั้ง นางได้แต่นึกรันทดในใจ นางเจ็บตัวหนักขนาดนี้ ท่านพ่อของนางยังไม่คิดจะดูดำดูดี ผิดกับเผิงฟู่หลินที่แม้ท่านพ่อจะสั่งลงโทษ แต่ในใจนางเองก็รู้ดีว่าท่านพ่อทำไปอย่างเสียมิได้ ในเมื่อท่านพ่อไม่รักไม่ไยดีนาง นางก็ไม่อยากจะใส่ใจอีกแล้ว

“แต่บ่าวแค้นใจยิ่งนัก นายท่านช่างลำเอียงเหลือเกิน คุณหนูรองโหดร้ายถึงเพียงนี้ แต่กลับโดนเพียงกักบริเวณเท่านั้น คุณหนูของบ่าวช่างน่าสงสารจริง ๆ” จงหลียังคงกุมมือเผิงเสี่ยวว่านไว้แน่น พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

เผิงเสี่ยวว่านมองหน้าจงหลีด้วยความรู้สึกตื้นตัน นางยิ้มบาง ๆ ออกมา “ในจวนแห่งนี้คงมีแต่เจ้ากระมังที่เป็นห่วงข้าอย่างแท้จริง”

“คุณหนู...” จงหลีถึงกับสะอื้นเมื่อได้ยินคำพูดของเผิงเสี่ยวว่าน นางรู้สึกเจ็บปวดใจแทนนายหญิงของตนยิ่งนัก

“เช่นนั้นข้าจะไปเอายามาทาให้นะเจ้าคะ” จงหลีรีบกระวีกระวาดเตรียมลุกไปเตรียมยามาให้

แต่ทันทีที่จงหลีตั้งท่าจะลุกขึ้น เผิงเสี่ยวว่านกลับดึงมือของนางเอาไว้ “ไม่ต้อง ปล่อยไว้เช่นนี้แหละดีแล้ว”

จงหลีมองเผิงเสี่ยวว่านอย่างไม่เข้าใจ “แต่ว่าหากปล่อยไว้เช่นนี้ ใบหน้าของคุณหนู...”

“ความเจ็บปวดที่ข้าได้รับ เหตุใดข้าต้องรีบกำจัดมันทิ้งด้วยเล่า เจ้าคงลืมไปแล้วสินะ ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่ตัวคนเดียวอีกแล้ว ความโหดร้ายของหลินเอ๋อร์ไม่ควรมีแค่คนในจวนที่ได้รับรู้เท่านั้น” น้ำเสียงเย็นเยือกทำเอาจงหลีถึงกับร้อน ๆ หนาว ๆ นางรับรู้ความหมายของเผิงเสี่ยวว่านได้แล้ว

 “คุณหนูอย่าได้กังวล ข้าจะจัดการให้เรียบร้อย” จงหลีรีบลุกขึ้นพร้อมโค้งคำนับ พร้อมก้าวออกจากเรือนไปอย่างรวดเร็ว

เผิงเสี่ยวว่านจ้องมองออกไปภายนอกหน้าต่างด้วยสายตาเลื่อนลอย ดวงตาหม่นแสงลงเมื่อนางได้อยู่เพียงลำพัง “ท่านแม่ข้าคิดถึงท่านเหลือเกิน” เผิงเสี่ยวว่านพึมพำออกอย่างอย่างรู้สึกปวดร้าวใจ

ไม่นานข่าวลือก็แพร่สะพัดออกไปทั่วเมืองหลวง คุณหนูรองแห่งจวนราชครูกระทำการโหดร้ายกับคุณหนูใหญ่เพียงเพราะความริษยาที่เห็นพี่สาวได้ดีกว่าตัวเอง บ้างก็บอกว่าคุณหนูรองนิสัยโหดร้ายป่าเถื่อนทำให้รัชทายาทเปลี่ยนใจเลือกคุณหนูใหญ่แทน เสียงเล่าลือกล่าวอ้างไปถึงว่าคุณหนูใหญ่เป็นถึงบุตรสาวฮูหยินที่ถูกต้อง แต่คุณหนูรองเป็นเพียงลูกอนุที่ถูกยกขึ้นมาเท่านั้น

หนี่ซูเว่ยเมื่อได้รู้ข่าวเรื่องเผิงเสี่ยวว่านถูกทำร้าย เขาก็รู้สึกร้อนใจยิ่งนัก ยิ่งได้นึกถึงเผิงฟู่หลินเขาก็ยิ่งรู้สึกเดือดดาลขึ้นไปอีก นางอารมณ์ร้อนและเอาแต่ใจเรื่องนั้นเขาย่อมรู้ดีแก่ใจ แต่เรื่องโหดร้ายที่นางกล้าลงมือกับพี่สาวตัวเองทำเอาเขานึกรังเกียจมากขึ้นอีกมากโข หนี่ซูเว่ยได้แต่นึกเป็นห่วงเผิงเสี่ยวว่าน ในขณะเดียวกันก็ยิ่งตอกย้ำให้เขารู้สึกว่าเขาคิดถูกแล้วที่ไม่ยอมแต่งงานกับหญิงใจโหดเหี้ยมเช่นนี้มาเป็นภรรยาของเขา

“พ่อบ้าน เตรียมรถม้า” หนี่ซูเว่ยสั่งการกับพ่อบ้านอย่างรวดเร็ว เขารีบเร่งเดินทางมาหาเผิงเสี่ยว่านที่จวนราชครูเผิงในทันที

ราชครูเผิงและฮูหยินเซียงที่กำลังเคร่งเครียดกับข่าวลือที่แพร่ออกไปทั่ว พลันสาวใช้ก็เข้ามารายงานว่าหนี่ซูเว่ยมาขอพบเผิงเสี่ยวว่าน พวกเขาต่างมองหน้ากันอย่างรู้สึกหนักใจ

ราชครูเผิงรีบพาฮูหยินเซียงออกไปต้อนรับหนี่ซูเว่ยอย่างรีบร้อน

“คารวะไท่จื่อ” ทั้งสองโค้งตัวคารวะอย่างนอบน้อม

“ข้าต้องการพบว่านเอ๋อร์” หนี่ซูเว่ยไม่รอช้า เขารีบบอกจุดประสงค์ทันที สายตาคมกริบมองราชครูเผิงด้วยความขุ่นเคือง

“เอ่อ...ว่านเอ๋อร์ไม่ค่อยสบาย คงไม่สะดวกพบไท่จื่อเวลานี้ เอาไว้นางหายดีข้าจะให้นางไปพบท่านที่จวนรัชทายาทดีหรือไม่” ราชครูเผิงรีบทัดทานเนื่องจากไม่ต้องการให้เรื่องราวลุกลามใหญ่โตไปมากกว่านี้

“ว่านเอ๋อร์เป็นว่าที่พระชายาของข้า ข้าได้ยินมาว่านางถูกคนชั่วทำร้าย ข้าจึงต้องการมาดูให้เห็นกับตา” หนี่ซูเว่ยสาดคำพูดเผ็ดร้อนใส่หน้าราชครูเผิงอย่างไม่ยำเกรง วันนี้เขาตั้งใจแสดงอำนาจให้คนในจวนเหล่านี้ได้เห็นว่าต่อไปใครกล้าบังอาจมารังแกคนรักของเขาได้อีก

“ไท่จื่อคิดมากไปแล้ว เพียงแค่เรื่องพี่น้องทะเลาะกันเล็กน้อย ชาวบ้านต่างเอาไปเล่าลือไปเสียจนเลยเถิด” ราชครูเผิงเริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นมาบนหน้าผาก เขารีบแก้ตัวเป็นพัลวัน

“ในเมื่อข้ามาแล้ว ข้าก็ขอพบสักหน่อย หวังว่าท่านคงไม่ขัดหรอกนะ” หนี่ซูเว่ยรีบตัดบททันที

“เช่นนั้นเชิญไท่จื่อ” ราชครูเผิงอับจนคำพูด เขาเรียกให้สาวใช้นำทางให้หนี่ซูเว่ยไปยังเรือนของเผิงเสี่ยวว่าน

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ข้าเหนื่อยจะรักใครอีกแล้ว   บทที่ 64 งานมงคล

    บทที่ 64 งานมงคลพิธีสมรสพระราชทานระหว่างหนี่เส้าจวินและเผิงฟู่หลินถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และสมเกียรติ เหล่าบรรดาแขกเหรื่อมากมายต่างเดินทางมาเพื่อร่วมแสดงความยินดีกับคนทั้งคู่ โต๊ะจัดเลี้ยงถูกจัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ พรมแดงยาวทอดจากประตูหน้าจวนเข้าสู่ห้องโถงใหญ่เผิงฟู่หลินสวมชุดเจ้าสาวสีแดงเข้มผืนยาวพลิ้วไหวจากผ้าไหมชั้นดี นางแต่งกายงดงามสมกับชื่อเสียงเรื่องความโฉมสะคราญ เผิงฟู่หลินก้าวเดินเข้ามาด้วยท่วงท่าที่สง่างามยิ่งนักหนี่ซูเว่ยที่ยืนอยู่ด้านข้างพร้อมกับพระชายาของเขา หนี่ซูเว่ยเฝ้ามองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังก้าวเดินเข้ามาใกล้ด้วยความรู้สึกที่ปนเประหว่างความเศร้าและความยินดี หัวใจของเขาหนักหน่วงขึ้นมาจากความรู้สึกที่ฝังลึกลงไปในใจ เผิงซูเว่ยทอดถอนหายใจออกมา ก่อนจะปรับสีหน้าและยิ้มกว้างออกมาให้นางด้วยความยินดี “หลินเอ๋อร์...เจ้าคู่ควรกับความสุขนี้” เขากระซิบกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาด้วยความจริงใจในขณะที่บรรยากาศภายในงานดำเนินไปอย่างราบรื่น ทางด้านนอกห้องโถงอันเงียบสงัด เสี่ยวเหวินโหลยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในสวน เขามองภาพของเผิงฟู่หลินที่เดินเข้ามาในงานด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

  • ข้าเหนื่อยจะรักใครอีกแล้ว    บทที่ 63 ท่านเป็นท่านพ่อข้าหรอกหรือ

    บทที่ 63 ท่านเป็นท่านพ่อข้าหรอกหรือยามสายของวันใหม่อากาศปลอดโปร่งยิ่งนัก หนี่เส้าจวินพิงกายขึ้นนั่ง ดวงตาคู่คมเข้มของเขาจับจ้องใบหน้าของเผิงฟู่หลินที่กำลังหลับใหลด้วยความอ่อนเพลียจากการถูกเขารังแกไม่หยุดในค่ำคืนที่ผ่านมา แววตาของเขาฉายแววลึกซึ้ง ทั้งหวงแหน ทั้งรักใคร่ เขายังคงอ้อยอิ่งอยู่เช่นนั้นโดยไม่ยอมลุกขึ้นหรือปลุกหญิงสาวจากการหลับใหล รอยยิ้มกรุ้มกริ่มฉายความเจ้าเล่ห์ออกมา หนี่เส้าจวินยังคงจ้องมองหน้านางอย่างไม่รู้สึกเบื่อหน่ายเสียงเคาะประตูเบาๆ ทำให้หนี่เส้าจวินหันหน้าไปมองด้วยสายตาขัดใจที่ถูกรบกวน เผิงฟู่หลินปรือตาขึ้นมาเมื่อเห็นเจ้าจูยืนอยู่ข้างหน้าประตู เจ้าจูได้แต่ก้มหน้านิ่งพร้อมใบหน้าแดงก่ำด้วยความกระดากอาย“ท่านอ๋องและคุณหนู ได้เวลาอาหารแล้วเจ้าค่ะ” เจ้าจูพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาโดยไม่แม้แต่จะมองสภาพภายในห้องที่ราวกับผ่านศึกสงครามครั้งใหญ่“เจ้ามาช่วยข้าที” เผิงฟู่หลินบอกกล่าวออกไป“พวกเรามิต้องเร่งรีบนักหรอก ทุกคนคงเข้าใจได้ดี” หนี่เส้าจวินพูดขึ้นมาหน้าตาเฉยท่าทางราวกับไม่รู้ร้อนรู้หนาวอันใด เผิงฟู่หลินได้แต่นึกหมั่นไส้คนตรงหน้าพร้อมค้อนขวับใส่เขาไปหนึ่งที“ท่านอ๋องลืมแ

  • ข้าเหนื่อยจะรักใครอีกแล้ว   บทที่ 62 บุตรของข้า

    บทที่ 62 บุตรของข้าท้องฟ้าภายนอกยังคงมืดมิด เสียงลมพัดผ่านเบาๆ ทำให้ผ้าม่านสีขาวบางบนหน้าต่างสะบัดเล็กน้อย เผิงฟู่หลินขยับกายช้าๆ ไล่ความเมื่อยขบที่ได้รับจากการเคี่ยวกรำของหนี่เส้าจวินอย่างต่อเนื่อง แม้นางจะยังคงอ่อนเพลียอยู่บ้าง แต่ทว่าร่างหนาของหนี่เส้าจวินที่เกยก่ายนางเอาไว้ทำให้นางรู้สึกไม่สบายตัวขึ้นมาหนี่เส้าจวินนอนอยู่ข้างกาย เสียงลมหายใจเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ ยามหลับตาใบหน้าของเขาดูผ่อนคลาย ไม่ดุดันและเคร่งขรึมเฉกเช่นยามปกติเผิงฟู่หลินพลิกตัวขึ้นจ้องมองดูใบหน้าของหนี่เส้าจวินอย่างเต็มสองตา บุรุษที่มักมารบกวนนางในยามหลับฝัน บัดนี้อยู่ใกล้เพียงลมหายใจเข้าออก เผิงฟู่หลินเหม่อมองอย่างใจลอย ความลืมตัวทำให้นางขยับมือขึ้นมาลูบไล้ไปตามใบหน้าของหนี่เส้าจวินอย่างแผ่วเบา นิ้วเรียวสัมผัสไปตามหน้าผากไล้ไปตามแผงคิ้วสีดำเข้มไล่ลงมาที่สันจมูกที่คมเข้ม ริมฝีปากที่หนาเชิดรับกับใบหน้า ทำให้เขาดูหล่อเหลาและมีเสน่ห์อย่างน่าเหลือเชื่อเผิงฟู่หลินอดที่จะยกยิ้มออกมาอย่างเสียมิได้ แต่ทันใดนั้นร่างของเธอก็ปลิวขึ้นมาทาบอยู่บนตัวของหนี่เส้าจวิน เขาปรือตาขึ้นพร้อมดึงตัวนางขึ้นมาก่ายเกยแนบชิดที่หน้าอก ร

  • ข้าเหนื่อยจะรักใครอีกแล้ว   บทที่ 61 สะสาง

    บทที่ 61 สะสางหนี่เส้าจวินสาวเท้าก้าวเข้ามาภายในเรือนนอนของเผิงฟู่หลิน ทุกย่างก้าวของเขาหนักแน่นและดุดัน แววตาของเขาเย็นยะเยือกจนน่าหวาดหวั่นใจเผิงฟู่หลินพยายามดิ้นรนขัดขืน แต่หนี่เส้าจวินกลับใช้พละกำลังที่มีรัดนางจนแทบขยับไม่ได้ สองมือปัดป่ายทุบตีไปตามแผ่นหลัง แต่เรี่ยวแรงอันน้อยนิดก็มิได้ส่งผลอันใดกลับมาหนี่เส้าจวินเดินตรงไปยังที่เตียงนอน ก่อนจะโยนร่างของเผิงฟู่หลินลงบนเตียงในทันที จากนั้นเขาจึงหันหลังเดินกลับไปแล้วปิดประตูลงอย่างเต็มแรงเสียงประตูที่ปิดกระแทกลงเสียงดังสนั่นทำเอาเผิงฟู่หลินถึงกับสะดุ้งสุดตัว นางถูกโยนลงบนเตียงอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้สะโพกของนางกระแทกลงบนฟูกอย่างแรงเผิงฟู่หลินรีบหยัดกายลุกขึ้นยืนด้วยความขุ่นเคืองใจ ลมหายใจหอบเหนื่อยจากการดิ้นรนเมื่อครู่ นางยืนประจันหน้ากับหนี่เส้าจวินอีกครั้งหนี่เส้าจวินหันมาเผชิญหน้ากับเผิงฟู่หลินด้วยสายตาที่ดุดันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ความโกรธเคืองที่มีร้อนระอุไปทั่วร่างกายของเขา นางหายตัวไปเกือบหกปีทั้งยังกลับมาพร้อมเด็กชายอีกคนหนึ่งซึ่งเรียกนางว่า “แม่” เสียอีก แค่เพียงคิดว่านางคลอเคลียกับบุรุษคนอื่นก็ทำเอาหนี้เส้าจวินแทบค

  • ข้าเหนื่อยจะรักใครอีกแล้ว   บทที่ 60 พบกันอีกครา

    บทที่ 60 พบกันอีกคราเผิงฟู่หลินเดินทางกลับมายังจวนสกุลเผิง นางเงยหน้าขึ้นมองประตูที่หน้าจวนด้วยความรู้สึกตื่นเต้นยินดียิ่งนัก หกปีแล้วที่นางจากไปแต่ทว่าจวนสกุลเผิงยังคงสงบไม่แตกต่างจากในวันวานเผิงฟู่หลินก้าวเท้าเข้าไปภายในจวน พ่อบ้านรีบเข้ามาต้อนรับพร้อมรายงานว่านายท่านทั้งสามอยู่ที่ห้องโถงใหญ่ เผิงฟู่หลินจึงเดินตรงไปที่ห้องโถงใหญ่เพื่อพบกับครอบครัวในทันทีราชครูเผิง ฮูหยินเซียงและเผิงอันอวี้กำลังนั่งพูดคุยกันอยู่ ทันทีที่ทั้งสามเห็นเผิงฟู่หลินก็แสดงสีหน้าดีใจอย่างยิ่ง ฮูหยินเซียงรีบก้าวเท้าเข้ามากอดเผิงฟู่หลินเอาไว้แน่น “หลินเอ๋อร์ เจ้ากลับมาแล้ว”“หลินเอ๋อร์...เจ้ากลับมาครั้งนี้คงมิคิดจะออกเดินทางอีกใช่หรือไม่” เผิงอันอวี้ที่ก้าวเท้ามาตรงหน้าเผิงฟู่หลิน พร้อมกล่าวดักคอน้องสาวของตนในทันที“พี่ใหญ่ ข้าได้เดินทางท่องเที่ยวไปทั่ว สถานที่ใดที่ข้าเคยใฝ่ฝันข้าล้วนได้เห็นกับตาตนเองทั้งสิ้น บัดนี้ข้าจะกลับมาอยู่บ้าน ข้าจะกลับมาอยู่กับครอบครัวของข้า” เผิงฟู่หลินกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงสดใส หกปีที่ผ่านมานางได้เดินทางไปทั่ว ทั้งดินแดนตอนเหนือจนถึงดินแดนตอนใต้ สถานที่ที่นางเคยได้แต่จินตนาการจากการ

  • ข้าเหนื่อยจะรักใครอีกแล้ว   บทที่ 59 เจ้าหนีข้าไปแล้ว

    บทที่ 59 เจ้าหนีข้าไปแล้วหนี่เส้าจวินแทบคลุ้มคลั่งเมื่อได้รับข่าวว่าเผิงฟู่หลินได้ออกจากเมืองหลวงไปแล้ว เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่านางจะกล้าทำเช่นนี้กับเขา เผิงฟู่หลิน...นางหนีจากเขาไปโดยไม่บอกกล่าวสักคำ“พวกเจ้าออกตามหาพระชายาทุกเส้นทาง ต้องตามหานางให้เจอ” คำสั่งที่ดุดันแฝงความโกรธเคือง ทำให้เหล่าองครักษ์รีบรับคำสั่งพร้อมกระจายตัวออกตามหาในทันที“ว่าไงนะ” เสียงตะคอกดังลั่นไปทั่วจวน เมื่อองครักษ์กลับมารายงานว่าไม่พบร่องรอยของเผิงฟู่หลินเลยแม้แต่น้อยหนี้เส้าจวินที่หัวเสียอย่างมาก เขาทุบโต๊ะเสียงดังสนั่นไปทั่วห้องอักษร ทำเอาเหล่าองครักษ์ได้แต่ยืนแข็งเกร็ง เหงื่อไหลซึมออกมาด้วยกลัวโทสะของหนี่เส้าจวิน“ตามหาต่อไป แม่ทัพเผิงแจ้งข่าวว่านางเดินทางไปดินแดนใต้ ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะหานางไม่พบ”ทั้งที่หนี่เส้าจวินคิดว่าเผิงฟู่หลินไม่มีทางหนีไปไหนได้ไกล ทว่าเวลาผ่านไปเกือบเดือนก็ยังคงไม่มีวี่แววใดๆ ของนาง เขาสั่งการให้ทหารออกตามหาเผิงฟู่หลินในทุกเส้นทางและทุกทิศที่นางอาจจะเดินทางได้ แต่หนี้เส้าจวินกลับไม่รู้ว่าเผิงฟู่หลินได้เปลี่ยนเส้นทางขึ้นไปยังดินแดนทางเหนือแล้ว ดังนั้นการตามหาของเขาก็ไม่ต่างจากการง

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status