‘ชอบค่ะ’ เรียกรอยยิ้มมุมปากจากคนฟังได้ไม่ยาก คุณหมอหนุ่มตอกอัดแก่นกายเข้าใส่ร่องรักคับแคบอย่างหนักหน่วง จนเสียงเนื้อกระทบกันดังสนั่นไปทั่วคอนโดหรู มือหนานวดเฟ้นหน้าอกขนาดใหญ่พร้อมกับเขี่ยเม็ดทับทิมสีสวยตามไปด้วย ปึก ปึก ปึกเธอโยกคลอนตามแรงกระแทก ใบหน้าซบลงกระจกใสพลางเผยอริมฝีปากครางอย่างทรมาน เขาตอกอัดเน้นๆ จนเธอเสียวสะท้านไปทั่วท้องน้อยเขาเอาดุมาก…เซ็กซ์ของเขายังคงเสมอต้นเสมอปลายเหมือนคืนนั้นไม่มีผิด ภายนอกเขาดึงดูดเพศตรงข้าม หากสาวๆ เหล่านั้นได้ขึ้นเตียงกับเขา เชื่อเลยว่าคง ‘ติดใจ’ กันระนาว บทรักอันเร่าร้อนบรรเลงทั้งคืน เสร็จจากตรงนี้ก็ต่อที่เตียงนอน ร่างบางโยกไปมาบนร่างกายคุณหมอหนุ่ม อวดหุ่นผอมเพียวที่แอบมีน้ำมีนวลเล็กน้อยท่ามกลางสายตาของไรอันเซ็กซี่มาก… คุณหมอหนุ่มพูดในใจ มือหนาประคองเอวบางพลางช่วยขยับ หน้าอกขนาดใหญ่ทำให้คุณหมอหนุ่มอดไม่ได้ที่จะเลื่อนมือขึ้นไปนวดเฟ้น“อ๊า~”“เสียวเหรอ”“ค่ะ ทะ…ทำไมของคุณหมอใหญ่และยาวจัง” “มันค่อยเสียว” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงกระเส่า ก่อนจะรั้งร่างบางลงมาหาแล้วกระแทกสวนขึ้นอย่างหนักหน่วงจนได้ยินเสียงดังตับๆ“มะ…หมอรวิกร มีญ่าเสียวอื๊อ!”“ฉัน
และในที่สุดเธอก็ยอมควักเงินสดสองร้อยเป็นค่าติดรถมากับหมอรวิกร ไปที่เดียวกันแท้ๆ ยังคิดค่าติดรถมาด้วย หมออะไรแล้งน้ำใจจริงๆระหว่างทางไปโรงพยาบาลรถค่อนข้างติดเล็กน้อย หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นฆ่าเวลา และรถหรูของไรอันก็ขับต่อไป บรรยากาศภายในรถเงียบไปครู่หนึ่ง มีญ่านั่งไขว่ห้าง มือข้างหนึ่งไถหน้าจอโทรศัพท์ ส่วนอีกข้างถือแก้วกาแฟที่เพิ่งซื้อติดมือมาเอี๊ยด!“อ๊ะ!” เธออุทานร้องเสียงหลง จู่ๆ หมอรวิกรก็เบรกกะทันหันจนเธอแทบหัวทิ่ม เธอหันไปมองเขาอย่างไม่พอใจ“ขับอะไรของหมอเนี่ย!”“คนวิ่งตัดหน้า”เธอขมวดคิ้ว ก่อนจะหันไปมองนอกกระจก และก็พบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งเพิ่งวิ่งข้ามถนนตัดหน้ารถไปจริงๆ เธอชะงักไปเล็กน้อย สีหน้าที่แสดงความไม่พอใจเมื่อครู่ค่อยๆ อ่อนลง“มีญ่าไม่รู้นิคะว่ามีคนวิ่งตัดหน้า”“มัวแต่เล่นโทรศัพท์จะไปเห็นอะไร” เขาพูดเสียงเรียบ สายตายังคงจับจ้องถนนเบื้องหน้า ส่วนเด็กนั่นก็เงียบไม่พูดอะไรกลับมามีญ่ายังคงรู้สึกหงุดหงิดอยู่หน่อยๆ ที่เมื่อกี้เกือบทำกาแฟหกใส่เสื้อเพราะอีกฝ่ายเบรกกะทันหัน แต่พอรู้ว่าเป็นเพราะมีคนวิ่งตัดหน้าเธอก็เถียงอะไรมากไม่ได้•••โรงพยาบาลภูริธนากุล“นี่ค่ะ ค่าติดรถ
เขานั่งมองประตูที่เพิ่งปิดลง เด็กนั่นแสบใช่ย่อย คงกะเอาคืนเรื่องที่เขาเก็บค่าติดรถมาด้วย เขาถอนหายใจหนักๆ สายตามองขนมที่วางบนโต๊ะ นั่งคิดนานสองนานว่าจะเอาทิ้งดีไหมเพราะไม่ชอบกินขนม กำลังโยนลงถังขยะก็ต้องชะงัก เมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเสียก่อนครืด ครืดเบอร์ที่โชว์หลาบนหน้าจอทำให้รู้ว่าคนเป็นพ่อโทรมา เขาวางขนมลงแล้วคว้าโทรศัพท์มากดรับสาย“ครับพ่อ”(ตอนนี้ว่างไหมไรอัน ภรรยาของเซอร์เวย์ป่วย แกเข้าไปที่บ้านเขาหน่อยนะ)“ได้ครับพ่อ”(หนูมีญ่าก็ศึกษาดูงานที่โรงพยาบาลใช่ไหม ฝากบอกหนูมีญ่าหน่อยนะ พอดีเซอร์เวย์บอกว่าโทรหาลูกสาวไม่ติด)“ครับ” เขาวางสายจากคุณพ่อหยัดกายขึ้นเต็มความสูงเดินออกไปจากห้องทำงานเมื่อก่อนพ่อเป็นหมอประจำตระกูลคุณลุงเซอร์เวย์ แต่พอเขาเป็นหมอเต็มตัวจึงให้เข้ามารับหน้าที่ตรงนี้แทน ส่วนพ่อเกษียณอยู่บ้านคอยเป็นที่ปรึกษาให้เขาเขาเดินออกมาก็เห็นมีญ่ากำลังยืนช่วยงานนิดอยู่อย่างตั้งใจ จึงเดินเข้าไปหา“คุณลุงเซอร์เวย์โทรมาบอกว่าแม่เธอไม่สบาย”มีญ่าที่กำลังช่วยงานนิดอยู่หยุดชะงัก ก่อนจะหันไปมองไรอันด้วยความตกใจ“แม่เป็นอะไรเหรอคะ”“แค่ป่วย ฉันกำลังไปบ้านเธอ พ่อเธอฝากฉันมาบอกเพราะเ
“พ่อว่าไรอันก็ดูโอเคนะ”เธอหยุดชะงัก เท้าที่ยกขึ้นชะงักค้างกลางอากาศก่อนจะค่อยๆ หันไปมองคุณพ่อที่ยืนกอดอกอยู่มุมหนึ่งของบ้าน เซอร์เวย์เดินเข้ามาหาลูกสาวด้วยสีหน้านิ่งๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความอบอุ่นตามแบบฉบับของผู้ชายที่เป็นหัวหน้าครอบครัว“คุณพ่อหมายถึงอะไรคะ?”“พ่อกับแม่ชอบไรอันนะ ทำงานก็เก่ง แถมยังมีความรับผิดชอบ”เธอเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ปกติคุณพ่อไม่ใช่คนที่ชมใครง่ายๆ โดยเฉพาะเรื่องผู้ชายที่เข้าใกล้ลูกสาวตัวเอง แต่คราวนี้กลับเอ่ยปากชมหมอรวิกรอย่างออกนอกหน้า“ทำไมมีญ่าไม่ลองคุยๆ กับไรอันดูล่ะ”ว่าแล้วเชียว…เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ แทบอยากจะยกมือขึ้นกุมขมับ ทำไมเธอถึงเดาเรื่องนี้ได้แม่นนักก็ไม่รู้ ถ้าซื้อลอตเตอรี่ถูกแบบนี้ก็คงจะดีไม่น้อย ที่แท้คุณพ่อก็อยากให้เธอลงเอยกับหมอรวิกรนี่เองคนเก่งๆ แบบหมอรวิกร ใครบ้างไม่อยากได้เป็นลูกเขย แต่คุณพ่อถามเธอก่อนหรือยังว่าได้เป็นผัวไหม“ฝั่งพ่อกับฝั่งรามิลแอบเชียร์อยู่นะ”“เขาแก่ขนาดนั้น มีญ่าไม่ชอบหรอกค่ะ”“ไรอันเหรอแก่?”“ค่ะ อีกหน่อยก็สามสิบ สักพักหัวก็คงงอกแล้ว มีญ่าไม่ชอบหรอกคนแก่” เธอเชิดหน้าใส่ ทำเหมือนว่าไรอันเป็นชายวัยกลางคนไปเ
“ไปเหอะว่ะ” ซันเห็นท่าไม่ค่อยดีจึงหันไปบอกเพื่อน ที่ผ่านมาไม่เคยกลัวที่จะเผชิญหน้ากับใคร หากแต่ไรอันเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าของมาร์แอลคลับ ดีกรีเป็นถึงลูกชายมาเฟีย และไรอันคงไม่ธรรมดาเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นจะเป็นเพื่อนกันได้อย่างไรเพื่อนซันยอมถอย เพราะท่าทางไรอันดูเอาเรื่องไม่น้อย ยืนเฉยๆ ยังดูน่ากลัวแล้ว แม้อยากอัดซักหมัดสองหมัดแต่ก็ต้องห้ามใจเอาไว้“ทำไมมึงไม่ให้กูอัดหน้ามันก่อนเดินออกมา”“ถ้าเป็นคนอื่นกูคงไม่ห้าม มึงไม่รู้จักมันจริงๆ เหรอวะ?”“แล้วมันเป็นใคร”“มันชื่อไรอัน พ่อเป็นหมอแถมยังเป็นมาเฟีย”เพื่อนของซันนิ่งชะงัก แววตาค่อยๆ อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อรู้ว่าคนที่ตัวเองเพิ่งท้าทายไปแท้จริงเป็นพวกมาเฟีย“แล้วเรื่องน้องมีญ่าล่ะ มึงจะเอายังไงต่อ”ซันนิ่งไป ก่อนจะเหยียดยิ้มมุมปาก “กูไม่ถอดใจง่ายๆ หรอก”เพื่อนของเขาส่ายหน้ากับความบ้าระห่ำของซัน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อทางด้านไรอัน เขากลับมานั่งที่โต๊ะเดิม ปรายตามองแก้วเครื่องดื่มของตัวเอง ก่อนจะยกมันขึ้นจิบอย่างใจเย็น“หายไปนานนะมึง ไปไหนมา?” คิรันเอ่ยถาม“สูบบุหรี่” เขาตอบเสียงเรียบ พลางหย่อนตัวนั่งลงที่เดิมของตัวเอง“เมื่อกี้กูเห็น
คุณหมอหนุ่มคร่อมร่างบางที่อยู่ในชุดนอนสายเดี่ยวผ้าซาตินสุดเซ็กซี่ จมูกโด่งสันลากไล้ไปตามหัวไหล่ กลิ่นหอมคล้ายแป้งเด็กแสนคุ้นเคยจากตัวมีญ่า กระตุ้นอารมณ์กระสันในกายคนตัวโตได้ไม่ยาก“อึก…” รสสัมผัสจากหมอรวิกรทำหัวใจเต้นรัว เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันเป็นเส้นตรง พลางเบือนใบหน้าไปอีกทางในจังหวะที่ใบหน้าของเขาเคลื่อนเข้ามาใกล้ลำคอเธอเปิดทางให้เขาโดยไม่รู้ตัว…“ตัวเธอหอมมากมีญ่า”เธอแทบหยุดหายใจไปตามสัมผัสจากมือหยาบ เขาลูบไล้ต้นขาของเธอขึ้นมายังเนินสามเหลี่ยม ลูบตรงนั้นเบาๆ จนร่างกายเธอเกร็งกระตุกอย่างเห็นได้ชัด “มะ…หมอ…”“หืม?” เขาขานรับเบาๆ ในลำคอ พลางเลื่อนใบหน้ามามองมีญ่าที่กำลังใช้มือดันแผงอก สีหน้าเวลาทรมานของเธอดูเซ็กซี่มากไม่ใช่น้อย เขาใช้นิ้วหัวแม่มือปาดไล้ริมฝีปากสีระเรื่อไปมาอย่างหลงใหล“ทำไมเหรอหืม”“มีญ่าทรมาน…”“ทรมานมากไหม?”เธอพยักหน้าเป็นคำตอบเบาๆ ไรอันยกยิ้มอย่างร้ายกาจ สายตาคมกริบหลุบมองยอดปทุมถันที่ดันชุดนอนขึ้นมาอย่างชัดเจน ก่อนที่ริมฝีปากหยักได้รูปจะครอบลงแล้วดูดเบาๆ กระแสเสียวซ่านพลันวิ่งปราดไปทั่วคนใต้ร่างจนเผลอแอ่นอกรับสัมผัสนั้นจากคุณหมอหนุ่ม“อ๊า~” แรงดูดเลียจากอุ
มหาวิทยาลัยร่างบางในชุดนักศึกษาก้าวลงจาก Porsch คันหรู มีญ่าเดินขึ้นตึกคณะ ท่ามกลางสายตานักศึกษาคนอื่นๆ ที่มองอย่างให้ความสนใจ แม้ว่าคนถูกมองจะรู้สึกประหม่าแต่ก็พยายามทำตัวให้เป็นปกติ มองเห็นใครแล้วสบตากันพอดีก็ส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ใครๆ ต่างอยากเป็นมีญ่าทั้งนั้น เกิดมาบนกองเงินกองทอง ไม่ต้องลำบาก มีเงินเดือนจากที่บ้านเดือนละหกหลักให้ได้ ขับรถหรู ใช้บัตรเครดิตพ่อแม่จ่ายเวลาชอปปิง เที่ยวต่างประเทศได้ทุกเมื่อเท่าที่ต้องการ กระนั้นมีญ่าก็ไม่ชอบออกงานสังคมเพราะวางตัวเวลาอยู่ท่ามกลางนักธุรกิจหรือคนดังไม่ถูก แต่ถ้าเป็นปาร์ตี้ที่ผับขอแค่บอก ไม่มีคำว่าไม่อยากไป เธอเดินเข้ามายังห้องเรียน ตอนนี้คนอื่นๆ ทยอยมาถึงเกือบหมด เธอหย่อนตัวนั่งลงที่ประจำของตัวเอง ข้างๆ เป็นธารน้ำ“แล้วเฟย์ล่ะ” เธอเอ่ยถามธารน้ำ พลางวางกระเป๋าลงเก้าอี้ว่างข้างกาย“น่าจะยังไม่มามั้ง”“ทำไมวันนี้มาสาย ปกติไม่เคยมาสาย”“เมื่อคืนคงหนักมั้ง”“หนัก?”“อือ เมื่อคืนโทรมาชวนฉันไปผับ แต่ฉันไม่ว่าง”เธอพยักหน้ารับเบาๆ เมื่อคืนเฟย์ไม่ได้โทรมาชวนเธอ แต่ก็ไม่ได้เก็บมาคิดเล็กน้อยเพราะเพื่อนรู้อยู่แล้วว่าเธอกลับบ้าน เธอหยิบไอแพดขึ้
Empire Rich มีญ่าดับเครื่องยนต์แล้วก้าวลงจากรถหรู ร่างบางกำลังเดินเข้าไปในล็อบบี้ หากแต่ต้องชะงักลงไปเมื่อสายตาพลันเห็นรถหรูคุ้นเคยขับเข้ามาจอดข้างๆ รถตัวเอง เธอหยุดมองอย่างเปิดเผยจนเจ้าของรถลงมาคุณหมอหนุ่มเดินถือเสื้อกาวน์ตรงมาหามีญ่า เมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนมองจึงหยุดอยู่ต่อหน้า และมองกลับเช่นเดียวกัน“มีอะไรรึเปล่า” เขาเอ่ยถามมีญ่าที่ยืนมองราวกับมีเรื่องอยากคุยด้วย“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร” พูดจบเธอก็หันหลังเดินออกไป ตอนแรกเหมือนมีอะไรอยากพูด แต่พอเขามายืนใกล้ๆ กลับคิดไม่ออกว่าจะพูดอะไรไรอันเดินตามมีญ่าเข้าไปในลิฟต์ ตัวเลขลิฟต์เลื่อนขึ้นบอกชั้นท่ามกลางความเงียบที่ปกคลุม มีญ่ายืนเล่นโทรศัพท์ ส่วนไรอันยืนเอามือล้วงกระเป๋านิ่งๆติ่ง…เสียงลิฟต์เปิดออกเมื่อถึงชั้นที่มีญ่าอาศัยอยู่ หญิงสาวก้าวเดินออกมาทันทีโดยไม่มองหน้าไรอัน ทว่าเสียงฝีเท้าที่ดังตามมากลับทำให้คนตัวเล็กชะงัก ก่อนจะหันกลับไปมอง“หมอตามมีญ่าทำไมคะ”“ฉันลืมของไว้ที่ห้องเธอ”“อ๋อ…” เธอตอบแค่นั้นแล้วก้าวเท้าเดินต่อจนกระทั่งถึงห้องตัวเอง เธอจัดการกดรหัสผ่านประตูแล้วเปิดเข้าไป และยืนขวางประตูไม่ให้หมอรวิกรเข้ามา“หมอรอตรงนี้แหละค่ะ หม
ใครจะเชื่อว่าเธอถูกขอแต่งงานแล้ว…มีญ่านั่งอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ภายในห้อง ดวงตากลมโตคู่สวยจับจ้องไปยังแหวนเพชรบนนิ้วนางข้างซ้าย ราวกับว่ายังไม่อยากเชื่อว่าสิ่งนี้เป็นของเธอจริงๆ แสงไฟในห้องสะท้อนกับเพชรเม็ดงามจนเป็นประกายระยิบระยับ แต่มันกลับไม่สว่างไสวเท่าความรู้สึกในหัวใจของเธอเธอถูกขอแต่งงานแล้วจริงๆ หรือเนี่ยความคิดนี้ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวซ้ำไปซ้ำมา ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเสียจนเธอตั้งตัวไม่ทัน เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเธอยังยืนอยู่ท่ามกลางครอบครัวและเพื่อนฝูง กำลังฉลองความสำเร็จของตัวเองในวันรับปริญญา แต่จู่ๆ ไรอันก็โผล่มาคุกเข่าลงตรงหน้า พร้อมกับเอ่ยประโยคที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอไปตลอดกาล‘แต่งงานกับพี่นะ’เสียงทุ้มอบอุ่นยังคงก้องอยู่ในหัวใจ ราวกับว่าเหตุการณ์เมื่อครู่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน ทุกครั้งที่นึกถึง ประโยคนั้นก็ทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวเธอเผลอยกมือขึ้นแตะแก้มตัวเองเบาๆ ย้อนคิดถึงวินาทีที่เขามองลึกเข้ามาในดวงตาของเธอ ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความจริงจังและความมั่นคงเธอรู้ดีว่าเขาเป็นคนเด็ดขาด หากตัดสินใจอะไรแล้วก็หมายความว่าเขาได้ไตร่ตรองมาอย่างถี่ถ้วน เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันเป็น
ท้องฟ้าในวันนี้สดใสเป็นพิเศษ แสงแดดอบอุ่นแต่ไม่ร้อนจนเกินไป สายลมเอื่อยๆ พัดผ่าน สร้างบรรยากาศรื่นรมย์ให้กับพิธีพระราชทานปริญญาบัตรที่จัดขึ้นอย่างเป็นทางการมีญ่าอยู่ในชุดครุยเต็มยศ วันนี้เป็นวันที่เธอรอคอยมาโดยตลอด วันที่ความพยายามของเธอสัมฤทธิ์ผล รอยยิ้มสดใสแต่งแต้มบนใบหน้าขณะเธอเดินไปหาครอบครัวที่ยืนรออยู่ เซอร์เวย์และมิลินมองลูกสาวด้วยสายตาแห่งความภาคภูมิใจ โดยมีเซนเวียร์คนเป็นน้องชายยืนเก๊กอยู่ด้วย“คุณพ่อ คุณแม่!” เธอส่งเสียงเรียก ก่อนจะโผเข้ากอดทั้งสองคนแน่น“ยินดีด้วยนะลูก พ่อภูมิใจในตัวลูกมาก” เซอร์เวย์พูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น สายตามองลูกสาวอย่างภูมิใจ“แม่ก็เหมือนกันค่ะ ลูกแม่เก่งที่สุด” มิลินลูบศีรษะลูกสาวเบาๆ ดวงตาเอ่อคลอด้วยความปลื้มปิติ“ยินดีด้วยนะพี่มีญ่า” เซนเวียร์เดินล้วงกระเป๋าเข้ามาพูดเสียงเรียบๆ แต่รอยยิ้มที่ซ่อนอยู่ที่มุมปากก็ทำให้คนเป็นพี่สาวรู้ว่าน้องชายดีใจไม่แพ้กันในขณะที่มีญ่ากำลังยืนพูดคุยและกำลังถ่ายรูปกับครอบครัวอยู่นั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากข้างหลัง“ยินดีด้วยนะมีญ่า”เธอหันไปตามเสียงและเห็นคุณลุงรามิลและคุณป้าอันดา พ่อแม่ของไรอันกำลังเดินเข้ามาหาด้วยรอยย
บรรยากาศในคอนโดหรูวันนี้ของไรอันแตกต่างไปจากทุกวัน กลิ่นหอมอ่อนๆ ของวานิลลาลอยคลุ้งไปทั่วห้องครัว คุณหมอหนุ่มที่อยู่ในชุดลำลองสบายๆ ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ครัว มือหนากำลังจับตะกร้อมือคนส่วนผสมของแป้งเค้กในอ่างผสมอย่างตั้งใจ“ให้ตายสิ ทำไมมันเหลวแบบนี้วะ…” เขาพึมพำกับตัวเองพลางขมวดคิ้วมองแป้งที่ดูเหมือนจะผิดสูตรไปเล็กน้อยปกติแล้วเขาไม่ถนัดทำขนมเท่าไรนัก แต่วันนี้พิเศษกว่าวันไหนๆ เพราะเป็นวันเกิดของมีญ่า และเขาต้องการทำเค้กวันเกิดเซอร์ไพรส์เธอ ส่วนอาหารไม่ยุ่งยากเพราะเป็นงานถนัดหลังจากทดลองคนแป้งใหม่อีกรอบจนได้ความเนียนตามที่ต้องการ เขาก็เทลงในพิมพ์เค้กที่เตรียมไว้แล้วนำเข้าเตาอบ ขณะที่รอเค้กสุกก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูตรวจสอบออร์เดอร์ช่อดอกไม้ที่สั่งเอาไว้ล่วงหน้า กุหลาบสีชมพูช่อโตที่จะมาส่งในอีกไม่กี่ชั่วโมงมีญ่าชอบกุหลาบสีชมพู…เสียงเตาอบที่ดังขึ้นทำให้เขาเดินไปเปิดเตาอบอย่างระมัดระวัง เค้กเนื้อฟูส่งกลิ่นหอมหวานออกมา เขายิ้มบางๆ อย่างพอใจ จากนั้นก็เริ่มจัดการตกแต่งหน้าด้วยครีมสดและสตรอว์เบอร์รี“ไม่เลว…” เขาพึมพำกับตัวเองเมื่อมองผลงานตรงหน้า แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนเชฟม
โรงพยาบาลภูริธนากุล“คุณหมอคะ มีคนมีขอพบค่ะ”“ใคร?”“เขาบอกชื่อนทีค่ะ”“อืม ให้เข้ามาได้เลยครับ” เขาแปลกใจมากที่จู่ๆ นทีก็มาหาถึงโรงพยาบาล ที่ผ่านมาเขากับมันไม่ลงรอยกันมาโดยตลอด ตั้งแต่เขาคบกับมีญ่ามันเงียบไปสักพักนึงได้ เพิ่งเริ่มเคลื่อนไหวคงเป็นตอนนี้แอดดประตูห้องทำงานของถูกเปิดออก เขาเงยหน้าขึ้นมองนทีที่เปิดเข้ามาด้วยท่าทางปกติ มันเดินมานั่งลงเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงาน สายตามันมองเขาเช่นเดียวกัน ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบนานสองนานเพราะไม่มีใครปริปากพูด จนเขาเริ่มเป็นฝ่ายพูดเพื่อทำลายความเงียบนี้“มาหากูมีธุระอะไร” เขาเอ่ยถามเสียงเรียบ“กูแค่…มายินดี” นทีเงียบไปราวสองวิแล้วพูดต่อจนจบ ประโยคนั้นทำให้ไรอันนิ่งเงียบ สายตาที่มองนทีอยู่เสไปทางอื่นเมื่ออีกคนมองมาก่อนหน้านี้นทีพยายามขัดขวางเขากับมีญ่า เพราะมันเองก็ชอบมีญ่าเหมือนกัน แต่สุดท้ายดันเป็นเขาที่ได้มีญ่ามาครอบครอง จริงๆ เขาแอบสะใจที่เอาชนะมันได้ ช่วงหนึ่งที่มันเงียบหายเข้ากลีบเมฆยอมรับว่าเป็นห่วง ถึงยังไงครั้งหนึ่งเขากับมันก็เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน การมาของมันวันนี้เดาไม่ออกเลยว่ามีจุดประสงค์อะไร แต่ดูจากท่าทางแล้วคงไม่ได้มาร้ายแน่นอน
“มีเมียแล้วรู้สึกยังไงวะ” เสียงของแม็กซ์ควินเอ่ยถามไรอันที่กำลังสูบบุหรี่อยู่ วันนี้พวกเขาเลือกนั่งโซนเอ้าดอร์เพราะอากาศดีบวกกับเบื่อความวุ่นวายข้างในมาแอลคลับเพิ่มโซนเอ้าดอร์ มีดีเจเปิดเพลงจังหวะสบายๆ เบาหู สามหนุ่มนั่งดื่มข้างนอกท่ามกลางบรรยากาศดีๆ และเพลงเพราะหู“คงรู้สึกเหมือนมึง” เขาตอบเสียงเรียบแล้วยกน้ำสีเหลืองอำพันในแก้วขึ้นดื่มอย่างใจเย็น ก่อนจะเหลือบมองคิรันที่นั่งจ้องโทรศัพท์ด้วยท่าทางแปลกๆ“เป็นไรของมึงคิรัน?”“เปล่า” คิรันตอบกลับด้วยน้ำเสียงแข็งเล็กน้อยจนไรอันกับแม็กซ์ควินหันหน้ามองกันด้วยความประหลาดใจ ปกติคิรันไม่เคยเงียบขนาดนี้ หรือในโทรศัพท์เครื่องนั้นจะซ่อนใครเอาไว้“พวกกูเห็นมึงนั่งจ้องโทรศัพท์มาสักพักนึงล่ะ มึงรอใครตอบแชตอยู่เหรอวะ?” คราวนี้แม็กซ์ควินเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะหันไปมองไรอัน“น้องคนนั้นเหรอวะ”“ก็แค่เด็กแก่แดดคนนึง”“เด็กแก่แดด?” ไรอันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มุมปากยกยิ้มอย่างจับพิรุธ “แล้วไอ้คนที่เอาแต่นั่งจ้องจอรอข้อความตอบอยู่เนี่ย…นับว่าเป็นอะไร?”คิรันถอนหายใจ ยกแก้วขึ้นจิบพลางเบือนหน้าหนีสายตากวนประสาทของเพื่อนทั้งสอง แต่ก็ไม่อาจหลุดพ้นจาก
แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอนกระทบกับสองร่างที่นอนกอดกันกลมบนเตียงนอนขนาดใหญ่ไรอันตื่นขึ้นมาก่อน เขานอนตะแคงข้างมองคนตัวเล็กที่ยังคงหลับพริ้มอยู่ข้างกาย ดวงตาคมทอดมองใบหน้าสวยหวานที่ซุกอยู่กับหมอน ผมยาวกระจายไปทั่วหมอนอย่างเป็นธรรมชาติ แก้มเนียนมีสีระเรื่อดูสุขภาพดีรอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้าคมคาย เขาใช้ปลายนิ้วไล้ปัดปอยผมที่ตกลงมาปิดใบหน้าสวยหวานออกเบาๆ กลัวว่าจะทำให้เธอตื่น แต่ดูเหมือนสัมผัสแผ่วเบานั้นจะทำให้ร่างบางเริ่มขยับตัว มีญ่าลืมตาขึ้นมา ดวงตากลมโตยังคงฉายแววงัวเงีย มือเล็กยกมือขยี้ตาเบาๆ ก่อนจะกะพริบตาเพื่อปรับโฟกัส แล้วภาพแรกที่เห็นก็คือใบหน้าของแฟนหนุ่มที่กำลังมองตัวเองอยู่จุ๊บ…คุณหมอหนุ่มมองแฟนสาวด้วยแววตาเอ็นดู ก่อนจะกดริมฝีปากลงบนหน้าผาก ไล่ลงมาที่เปลือกตา แก้ม และจบท้ายที่ริมฝีปากบางสีระเรื่อ“มอนิ่งคิสครับ เด็กดีของพี่“มอนิ่งค่ะ”“ไม่มีคิส?” มีญ่าเม้มริมฝีปากแน่น แก้มเนียนขึ้นสีเรื่อทันทีเมื่อได้ยินคำถามแสนเจ้าเล่ห์จากแฟนหนุ่ม“งะ…ง่วงอยู่” เธออ้างเสียงเบา ซุกหน้าลงกับหมอนเพื่อซ่อนความขัดเขินไรอันหัวเราะเบา ๆ กับท่าทางนั้น เขาไม่เร่งเร้าอะไร เพียงแค่ใ
มีญ่าออกจากโรงพยาบาลมาได้หนึ่งอาทิตย์แล้ว วันนี้หลังจากเรียนเสร็จเธอรีบกลับมาทำอาหารเย็นไว้รอแฟนหนุ่มที่ใกล้เลิกงานในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ร่างบางในชุดนักศึกษายืนทำอาหารตามสูตรจากยูทูปพลางฮัมเพลงที่เปิดตามอย่างมีความสุขเธอไม่ถนัดอาหารพวกยุโรปจึงเลือกทำอาหารไทยง่ายๆ ต้มยำกุ้ง ผัดผัก และไข่เจียวหมูสับที่แอบไหม้เล็กน้อยเพราะไม่ทันระวัง เธออยากทำใหม่แต่คงไม่ทันเพราะตอนนี้เขาคงใกล้ถึงคอนโดแล้ว มือเล็กจัดการปิดเตาแก๊ส ยกอาหารไปวางเรียงที่โต๊ะที่เหลือก็แค่…รอเขากลับมาเสียงปลดล็อกประตูดังขึ้นทำให้คนตัวเล็กในชุดนักศึกษาหันไปมองทันที ดวงตากลมโตเป็นประกายเมื่อเห็นไรอันก้าวเข้ามาในห้อง“กลับมาแล้วเหรอคะ?” เธอยิ้มกว้าง รีบเดินเข้าไปหาไรอันมองแฟนสาวที่ยืนยิ้มต้อนรับอยู่ตรงหน้า เขาวางของลงก่อนจะก้มลงหอมแก้มเธอเบาๆ “กลับมาแล้ว กลิ่นอะไรเหรอหอมเชียว”“มีญ่าทำอาหารเย็นรอค่ะ” เธอจับมือเขาแล้วพาเดินไปที่โต๊ะอาหาร ไรอันมองอาหารบนโต๊ะอย่างพินิจ ต้มยำกุ้งสีสวยจัดจ้าน ผัดผักที่ดูน่ากิน และไข่เจียวหมูสับที่…เกรียมเล็กน้อย“ไข่เจียว…” เขาเลิกคิ้วขึ้นมีญ่าสะดุ้ง รีบยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองด้วยความอาย“มันแ
Rawikorn.ry กล่าวถึงคุณในสตอรี่ หัวใจดวงน้อยสั่นไหวหลังจากเห็นแจ้งเตือนจากไอจีที่ไรอันกล่าวถึงมาเมื่อครู่ ก่อนที่ใบหน้าสวยหวานจะเผยยิ้มอย่างเขินอาย นิ้วเรียวเล็กกดเข้าไปดูอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วิสตอรี่ที่เขาแท็กมาเป็นภาพถ่ายคู่กับเธอในชุดโรงพยาบาล เขาใช้กล้องหน้าถ่ายเธอชูสองนิ้วสองมือสุดแบ้ว ส่วนเขาเห็นแค่หัวไหล่ไม่เห็นหน้าตามประสาคนไม่ชอบถ่ายรูป พร้อมกับข้อความสั้นๆ แต่อ่านแล้วหุบยิ้มไม่ได้‘หายไวๆ ตัวเล็ก’เธอกดรักข้อความที่โชว์ในหน้าแชตของไอจี ไม่หมดแค่นั้นยังกดผ่านสตอรี่อีกรอบแล้วค่อยกดตอบกลับ เธอวนดูสตอรี่นี้นานมากหมดรอบยังกดดูใหม่ ให้นั่งดูทั้งวันยังได้เลย ไม่นานหมอรวิกรก็เข้ามากดรักสตอรี่ที่เธอตอบกลับ ซึ่งเขาทำแบบเดียวกับเธอเลยRawikorn.ry ตอบกลับสตอรี่ของคุณ : “รักครับ”ใบหน้าสวยหวานขึ้นเลือดฝาดเมื่อมีข้อความจาก ‘แฟนหนุ่ม’ เด้งขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์ ตอนนี้เธอและเขาคบกันแล้ว ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็รู้แถมยังบอกอีกว่าเชียร์คู่เธอกับหมอรวิกรมาสักพักแล้ว เมื่อเช้าคุณแม่มาเยี่ยมแอบกระซิบกับเธอว่าตอนนี้คุณพ่อกำลังคุยกับครอบครัวฝั่งหมอรวิกรเรื่อง ‘หมั้นหมาย’ ตอนเธอฟังคุณแม่พูดขอสารภาพ
พอทุกคนรู้ว่ามีญ่าฟื้นต่างดีใจกันยกใหญ่แถมยังแห่มาเยี่ยมกันพร้อมหน้าพร้อมตา แต่ละคนไม่มามือเปล่า หอบกระเข้าดอกไม้ กระเช้าผลไม้ รวมถึงของต่างๆ ที่คาดว่าคนป่วยอาจชอบมาให้“ทุกคนนัดกันมาเหรอคะ” นึกว่าวันตรุษจีนรวมญาติ เธอไล่สายตามองแต่ละคนที่ยืนล้อมเตียง พอหมอรวิกรแจ้งข่าวว่าเธอฟื้นแล้วไม่ถึงครึ่งชั่วโมงทุกคนก็แห่กันมาเยี่ยมทั้งคุณพ่อคุณแม่ และเซนเวียร์คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย และเพื่อนสนิทอย่างธารน้ำครอบครัวของหมอรวิกรก็มาด้วย ทุกคนน่ารักกันมาก ถึงจะดูวุ่นวายไปหน่อย แต่มันก็ทำให้เธอรู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาทุกคนเป็นห่วงเธอมาก คอยแวะเวียนมาเยี่ยม กระเช้าดอกไม้ต่างเป็นดอกไม้สีขาวและสีชมพูที่เธอชอบ“ขอบคุณที่ตื่นขึ้นมาเมาท์เป็นเพื่อนฉันนะ” ธารน้ำโผกอดเพื่อนสาวอย่างระวัง พอรู้ว่ามีญ่าฟื้นจากกำลังเข้าเรียนก็ตัดสินใจโดดเรียนมาหาเพื่อนสนิท“หลานย่าต้องหายเร็วๆ นะ” คนเป็นย่าพูด ดวงตาแดงก่ำจากการร้องไห้ด้วยความดีใจที่หลานสาวฟื้นขึ้นมาสักทีเธอยิ้มแล้วพยักหน้ารับเบาๆ ให้คุณย่า ทุกคนดูเป็นห่วงเธอมาก นับเป็นบุญของเธอที่รอดตายมาอย่างปาฏิหาริย์ หมอรวิกรบอกว่าเธอสลบไปนานเป็นเดือนเพราะสมองได้รับการกระ