หวี้ว่อ หวี้ว่อ หวี้ว่อ หวี้ว่อ หวี้ว่อ
เมื่อทั้ง 4 คนได้ยินเสียงรถพยาบาลดังขึ้นหน้าร้านชาลีก็เดินออกไปยืนรอด้วยความกลัวว่าจะขับรถเลยตำแหน่งที่พุดแจ้งไป"ทางนี้เลยครับพี่รีบเลยนะครับ" ชาลีตอบกลับและมองหญิงสาวที่กำลังนอนลมหายใจแผ่วปลาย อยู่บนพื้นพร้อมกับเลือดที่ไหล่ลงตรงหว่างขามากมายทั้งยังท้องโตเหมือนว่าเธอกำลังจะท้องได้สักประมาณ 7 เดือนกว่า"โทรแจ้งอาจารย์หรือยัง" สกาวเมื่อได้สติรีบถาม เพื่อนชายเพื่อให้เตรียมห้องคลอดไว้"แจ้งไปแล้วตอนนี้อาจารย์รับเรื่องแล้ว คงมีแพทย์ทำงานประจำอยู่ที่นั่น ส่วนพวกเราก็หมดเรื่องหมดราวแล้วไปกันเถอะไปหาร้านอื่นก็ได้" พุดตอบกลับเพื่อนโดยไม่มีความร้อนรนหรือตื่นตนกกับสิ่งที่เจอเลยสักนิด"ทำไมนายดูชิวจังเลย" สกาวถามเพื่อนชายที่เขาดูไม่ออกอาการ ทั้งยังมีสติกว่าเพื่อนคนอื่น ๆ"แล้วทำไมต้องตกใจ ในเมื่อมันเป็นเรื่องปกติที่แพทย์ควรจะรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ต้องเจอให้ได้ไม่ใช่เหรอ" พุดตอบกลับตามสิ่งที่คิด เพราะเขามีสติและแก้สถานการณ์ทั้งยังปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับ คนไข้สาวที่พึ่งตกเลือดไป"เคสคนไข้คนนี้คงต้องคลอดก่อนกำหนด"ผ่านมาหลายเดือน จนสกาวได้รับใบผ่านการเป็นแพทย์ประจำบ้านของวอร์ดกุมารเวชศาสตร์ ทันทีที่เธอได้รับใบประกาศอาจารย์แพทย์ที่คุมสอนและให้ความรู้กับเธอก็ส่งตัวเธอมาเป็นแพทย์ประจำบ้านของวอร์ดสูติต่อและยังให้เวลาเธอพักเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น 2 สัปดาห์ต่อมา "มาแล้วเหรอเธอเอาเอกสารอันนี้ไปอ่านดูก่อนนะไม่เข้าใจตรงไหนก็เข้ามาถาม" สกาวที่เดินก้าวเข้ามาในห้องยังไม่ทันได้เอ่ยปากสวัสดีอาจารย์ประจำวอร์ดสูติใครด้วยซ้ำเธอก็ต้องรับเอกสารจากอาจารย์ประจำวอร์ดมาเรียนรู้ "ได้ค่ะ" เธอเดินเข้าไปหยิบแฟ้มเอกสารจากมืออาจารย์ประจำวอร์ดของโรงพยาบาลโดยไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก "อ๊ะ" ฉันตกใจเล็กน้อยที่อยู่ดี ๆ มือแกร่งของบุคคลตรงหน้าที่ยื่นแฟ้มเอกสารให้ฉันกับจับมือฉันไว้แน่น "เดี๋ยวก่อนครับอย่าพึ่งไป" เขาบอกกับหญิงสาวก่อนจะยื่นกล่องขนมที่ซื้อมาเพื่อต้อนรับแพทย์ประจำบ้านในวอร์ดของตัวเอง "เอ่อไม่ทราบว่ามีอะไรหรือเปล่าคะ" สกาวที่มองและตั้งคำถามกับคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจในการกระทำของเขา "นี่ขนมครับ ต้อนรับแพทย์ประจำบ้านคนใหม่รับไปสิครับ" อาจารย์แพทย์ประจำวอร์ดสูติบอกกับคนตรงหน้าให้หยิบของที่เข
หวี้ว่อ หวี้ว่อ หวี้ว่อ หวี้ว่อ หวี้ว่อ เมื่อทั้ง 4 คนได้ยินเสียงรถพยาบาลดังขึ้นหน้าร้านชาลีก็เดินออกไปยืนรอด้วยความกลัวว่าจะขับรถเลยตำแหน่งที่พุดแจ้งไป "ทางนี้เลยครับพี่รีบเลยนะครับ" ชาลีตอบกลับและมองหญิงสาวที่กำลังนอนลมหายใจแผ่วปลาย อยู่บนพื้นพร้อมกับเลือดที่ไหล่ลงตรงหว่างขามากมายทั้งยังท้องโตเหมือนว่าเธอกำลังจะท้องได้สักประมาณ 7 เดือนกว่า "โทรแจ้งอาจารย์หรือยัง" สกาวเมื่อได้สติรีบถาม เพื่อนชายเพื่อให้เตรียมห้องคลอดไว้ "แจ้งไปแล้วตอนนี้อาจารย์รับเรื่องแล้ว คงมีแพทย์ทำงานประจำอยู่ที่นั่น ส่วนพวกเราก็หมดเรื่องหมดราวแล้วไปกันเถอะไปหาร้านอื่นก็ได้" พุดตอบกลับเพื่อนโดยไม่มีความร้อนรนหรือตื่นตนกกับสิ่งที่เจอเลยสักนิด "ทำไมนายดูชิวจังเลย" สกาวถามเพื่อนชายที่เขาดูไม่ออกอาการ ทั้งยังมีสติกว่าเพื่อนคนอื่น ๆ "แล้วทำไมต้องตกใจ ในเมื่อมันเป็นเรื่องปกติที่แพทย์ควรจะรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ต้องเจอให้ได้ไม่ใช่เหรอ" พุดตอบกลับตามสิ่งที่คิด เพราะเขามีสติและแก้สถานการณ์ทั้งยังปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับ คนไข้สาวที่พึ่งตกเลือดไป "เคสคนไข้คนนี้คงต้องคลอดก่อนกำหนด"
สองเดือนต่อมาสกาวมองตึกที่เธอจะต้องเข้ามาเรียนรู้เพื่อเอาบัตรเปิดทางและต้องเรียนจบเฉพาะทางให้ประสบความสำเร็จภายในสองปี "สวัสดีค่ะห้องอาจารย์แพทย์อยู่ตรงไหนเหรอคะ" สกาวเดินเข้ามาถามอย่างนอบน้อมด้วยความเกรงใจและไม่มีคนรู้จักเลย "ตรงไปเลี้ยวซ้ายอยู่หลังห้องผ่าคลอดเลยค่ะ" ผู้ช่วยพยาบาลตอบคนถามอย่างไม่ได้ใส่ใจนักเพราะเธอกำลังสนใจสื่อในโทรศัพท์ "ขอบคุณค่ะ" สกาวรีบขอบคุณและตรงไปยังห้องพักอาจารย์แพทย์ที่เธอจะต้องเรียนรู้งานและฝึกประสบการณ์เพื่อใบเกียรติบัตรด้วย ความสามารถของเธอก็อก ๆ ก็อก เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นทำให้คนมที่นั่งอยู่ภายในห้องพึงพอใจไม่หน่อยหลังจากมองภาพผ่านกล้องวงจร "เชิญครับ" เสียงทุ้มน่าฟังพูดขึ้นมาหลังจากที่มีเวลาว่างมาเล่นสนุกกับหลานชายและว่าที่หลานสะใภ้ "สวัสดีค่ะอาจารย์" สกาวเปิดประตูเข้ามาก็ทักทายอาจารย์ใหญ่ของโรงพยาบาลเอกชนอย่างมีมารยาท "ตามสบายนะครับ วันนี้เราเน้นไปศึกษาดูงานให้วอร์ดกุมารเวชศาสตร์กันก่อน" ทิวเขามองหลานสะใภ้อย่างพอใจในอิริยาบถต่างๆ แสดงออกมา "ได้ค่ะอาจารย์" สกาวตอบรับอย่างไม่ลังเล และเหมือนว่าทั้งวอ
มหาวิทยาลัยสกาวที่ได้รับคำตอบจากทางมหาวิทยาลัย เธอก็ต้องยอมรับโชคชะตาอย่างด้วยดีแม้ในใจอยากจะทำงานต่อที่เดิมแต่ก็ต้องทำตามความต้องการของทางมหาวิทยาลัยเพื่อเป็นหน้าเป็นตาด้วยส่วนหนึ่ง ฉันนางสาวสกาวฟ้าจึงได้ไปเป็น Resident ในโรงพยาบาลเอกชนของกรุงเทพมหานครที่ทางมหาวิทยาลัย ส่งตัวเข้าไปศึกษาต่อเฉพาะทางที่นั่น "เป็นหนึ่งสัปดาห์ที่ไวมาก" หนูนาทำหน้าเศร้าเมื่อต้องมาส่งเพื่อนสาวกลับเมืองกรุง ส่วนข้าวปุ้นอยู่โรงพยาบาลเพราะเสี่ยงแท้งคุกคามเนื่องจากว่าแฟนเก่าของแฟนยัยข้าวปุ้นกลับมาก็สร้างเรื่อง ล่าสุดเพื่อนสาวของฉันแจ้งความข้อหาพยายามฆ่าโดยเจตนาพร้อมด้วยหลักฐานและคลิปเสียง ซึ่งคนที่หาหลักฐานก็คือแฟนยัยข้าวปุ้นเองนั้นและ เหมือนว่าจะเอาเรื่องแฟนเก่าให้ถึงที่สุดด้วย "สงสารยัยปุ้นอ่ะ ฉันหน้าจะส่งคนไปกระทืบแฟนเก่าพี่เขาอีกสักรอบ" หนูนาก็ทำตัวเป็นแม่สาวขาโหดปกป้องเพื่อนแบบไม่ลืมหูลืมตา แต่ก็จริงเป็นฉัน ฉันคงแค้นและเกลียดไปอีกนาน "ช่างเถอะ แฟนยัยปุ้นก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดแล้วนิ" ฉันลูบมือเพื่อนสาวเบา ๆ "เหอะให้จริงเถอะ อาลัยอาวรณ์กันดีนักทำให้ยัยปุ้นเกือบแท้ง ค่อยดูนะ
6 เดือนต่อมา สกาวที่ต้องบินไปเชียงใหม่เพื่อมหาวิทยาลัย และยื่นเอกสารให้กับทางมหาวิทยาลัยของเธอ "เดินทางปลอดภัย" พี่สกายเป็นคนมาส่งให้ฉันขึ้นเครื่องบินกลับไปยังมหาวิทยาลัยเพื่อยื่นเอกสารการผ่านงานของทางโรงพยาบาลที่เซ็นอนุมัติให้เรียบร้อยแล้ว "ขอบคุณค่ะ เจอกันอาทิตย์หน้านะคะกาวจะอยู่เที่ยวกับเพื่อนสักพักเพราะแค่อีกไม่กี่เดือนพวกเราก็คงจะไม่ได้เจอกันอีกนาน" หลังจากที่สกาวโบกมือบอกลาพี่ชายที่มาส่งเธอก็เข้าไปเช็คอินและนั่งรอบนเครื่องทันที เพราะเลียเวลาอีกเพียง 15 นาทีเครื่องก็จะออกบินลัดฟ้า ไปเหนือสุดแดนสยาม "เที่ยวให้สนุก แล้วกลับมาเป็นคุณหมอคนสวยของพี่ต่อ" สกายเอ่ยแซวว่าที่แพทย์ก่อนจะโบกมือลาเพราะเครื่องใกล้ออกแล้ว ..เชียงใหม่ "หนูนาเหนื่อยมาก เจอแต่หมอประสาท" หนูนาเอ่ยบอกเพื่อนสาวที่เธอลาฝึกงานมารับเพื่อนสาว "มันขนาดนั้นเลยเหรอหนูนา" สกาวมองเพื่อนที่ยังฝึกงานหรือเป็นแพทย์ Extern ไม่จบหรือจบช้ากว่าเพื่อนเพราะฝึกในจังหวัด "ก็ใช่นะสิ เป็นท้อฝึกงานหรือออกไปรบก็ไม่รู้" หนูนายังคงบ่นให้เพื่อนสาวฟังด้วยสิหน้าท่าทางไม่ค่อยโอเคกับการได้ไปฝึกในท
สกาวได้เรียนรู้จากหมอ นนน ในหลาย ๆ เรื่องตั้งแต่วันที่เรียมเป็นนักศึกษาแพทย์ฝึกหัดจนตอนนี้ เวลาล้วงเลยมาเกือบปี เธอจึงเริ่มที่จะสนิทกับคุณหมอ นนน และ พี่พยาบาลมะนาว ที่ค่อยสอนงานเธอด้วยเช่นกัน "อีกสี่เดือนก็จะจบแล้วนี่เรา ไวเหมือนกันเนาะแล้วจะลงเป็นแพทย์กับลงพยาบาลเราเลยหรือเปล่า" พี่พยาบาลมะนาวถามเธอในขณะที่กำลังนั่งทานข้าวอยู่ "ลงเลยค่ะ ไปรับใบจบและชุดกาวน์ก็อยากจะเริ่มทำงานเลยพี่ ๆ ที่นี้น่ารักที่สุด" สกาวยิ้มส่งให้คนถามก่อนจะสนใจคนที่เดินเข้ามาใหม่ "คุณหมอ นนน สวัสดีค่ะ มาท่านข้าวด้วยกันสิคะวันนี้ญาติคนไข้ทำกับข้าวและเอาขนมมาฝาก" พี่มะนาวทักทายหมอ นนน ก่อนจะมองขนมและอาหารที่กองอยู่บนโต๊ะในห้องพักแพทย์และพยาบาล "ตามสบายเลยครับทุกคน" หมอ นนน มองทุกคนก่อนจะไปสบตากับหญิงสาวที่จ้องเขาอยู่ก่อนแล้ว "คุณหมอมีอะไรเรียกใช้กาวหรือเปล่าคะ" สกาวถามออกมาทันทีเพราะปกติเขามักจะเรียกใช้และสอนงานเธอเสมอ "ตามสบายครับ ผมจะลงเวรแล้วเดี๋ยวมีหมอคนใหม่เข้ามารับช่วงต่อจากผมให้เขาสอนงานคุณนะครับวันนี้" หมอ นนน บอกกับนักศึกษาแพทย์อย่างเธอ "ได้ค่ะคุณหมอ" สกาวรับคำก่อนจะสน