Share

บทที่9 แกล้ง

Penulis: Davide
last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-07 21:45:49

บทที่9 แกล้ง

หลังจากที่ใช้เวลาสัมภาษณ์กันนานเกือบสองชั่วโมงก็ถึงเวลาพักเบรกทานของว่าง ผลไม้และขนมที่เจ้าของห้องจัดเตรียมไว้ถูกยกออกวางเต็มโต๊ะ

“ทานขนมแล้วค่อยมาดูอีกทีว่าได้ข้อมูลครบหรือยัง แล้วนี่เป็นหนังสือวารสารตีพิมพ์ที่ต่างประเทศลองเอาไปศึกษาดูเผื่อจะได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม” หนังสือบทสัมภาษณ์นักธุรกิจชื่อดังที่ตีพิมพ์ลงในวารสารต่างประเทศสามสี่เล่มถูกวางลงตรงหน้ารดา

“ขอบคุณค่ะ”

ระหว่างที่ทุกคนกำลังพักนั่งทานขนมกันอยู่นั้น รดารู้สึกปวดท้องจึงลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ เท้าเล็กเดินตรงไปยังห้องครัวที่ถัดจากห้องรับแขกไปอีกห้องเพราะคิดว่าห้องน้ำน่าจะอยู่แถวๆ นั้นแต่ก็ไม่เจอจึงเดินไปอีกห้องที่อยู่ถัดไปซึ่งเห็นประตูเปิดแง้มอยู่ไม่ได้ล็อก

“อ๊ะ! ขอโทษค่ะ” ศีรษะเล็กชนเข้ากับอกแกร่งขณะกำลังเปิดประตูเข้าไปด้านใน

“มาทำอะไร”

“คือหนูอยากเข้าห้องน้ำค่ะ แต่ไม่รู้ว่าห้องน้ำอยู่ตรงไหน”

“ไม่รู้ห้องน้ำอยู่ตรงไหน เลยเดินเข้าห้องผมงั้นเหรอ” กองทัพค่อยๆ ขยับเข้าหาเด็กสาวช้าๆ จนตอนนี้ทั้งสองยืนห่างกันไม่ถึง10 เซนติเมตร

“หนูไม่รู้ว่าห้องนี้ห้องคุณ หนูเห็นประตูมันเปิดอ้าอยู่หนูเลยเดินเข้ามาดูเฉยๆ ค่ะ” รดารีบปฏิเสธขึ้นทันควัน

“เข้ามาสิ”

“เข้าไปทำไมคะ”

“ก็จะเข้าห้องน้ำไม่ใช่เหรอ เข้ามาสิ” รดาเดินตามหลังกองทัพเข้ามาด้านในผ่านห้องนอนและห้องแต่งตัว

“รดา”   

“อ๊ะ!” ร่างบางสะดุ้งเฮือกตกใจเสียงเรียกที่ดังมาจากด้านหลัง รีบวางกรอบรูปที่อยู่ในมืออย่างเร็ว

“ดูเหมือนคุณจะชอบรูปนี้มากนะ ผมเห็นจ้องอยู่ตั้งนานที่โรงพยาบาลก็ด้วย มีอะไรหรือเปล่า”

“เปล่าค่ะ แค่วิวตึกด้านหลังสวยดี ขอโทษนะคะที่ถือวิสาสะหยิบจับของส่วนตัวของคุณหมอ” ปากสั่นระริกตอบกลับเสียงสั่นอย่างคนเสียอาการ ก่อนจะสาวเท้าเดินเลี่ยงออกจากห้องไป

บ่าย 3 โมงเย็น

“นั่งทำงานกันต่อที่นี่ก็ได้นะ ถ้าข้อมูลขาดตรงไหนก็ปรึกษาผมได้ผมนั่งทำงานอยู่ห้องถัดไปนี่เอง” ชายหนุ่มบอกออกไปเสียงเรียบ

รดาและกลุ่มเพื่อนนั่งทำงานกันต่อที่ห้องของพายัพจนถึง 5โมงเย็น ขนมและผลไม้รวมถึงอาหารทานเล่นช่วงบ่ายก็ได้รับการดูแลจากเจ้าของห้องเป็นอย่างดี ทุกคนขะมักเขม้นทำงานจนลืมดูนาฬิกาว่าตอนนี้เวลาเท่าไหร่

ติ๊ง..เสียงกริ่งหน้าประตูห้องดังขึ้น

{คุณนทีและคุณดินอยู่ที่หน้าประตู} เสียงเตือนระบบเอไอในห้องรับแขกดังขึ้น

[กองทัพเปิดประตูให้พวกกูด้วย] เสียงเครื่องสื่อสารดังขึ้นอีกครั้งแต่เป็นเสียงของคนปกติซึ่งเป็นเสียงของหนึ่งในผู้ที่มาใหม่

ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าเดินผ่านห้องรับแขกไปยังทิศทางประตูหน้าห้อง

“พวกมึงมาทำเชี่ยอะไร” ชายหนุ่มถามขึ้นเสียงเรียบบ่งบอกว่าไม่ค่อยต้อนรับแขกผู้มาใหม่

“หลบ พวกกูจะเข้าไปข้างใน” ไร้คำตอบจากนทีและดิน ทั้งสองเดินผ่านหน้ากองทัพเข้ามาด้านใน

“เชี่ย! เดี๋ยวนี้มึงกลับไปสอนพิเศษเหมือนตอนนั้นแล้วเหรอวะ” นทีหันหน้าไปถามกองทัพเมื่อเดินเข้ามาเจอรดาและเพื่อนๆ นั่งทำรายงานกันอย่างเคร่งเครียด

"เสือก นี่มันเรื่องของกู” ชายหนุ่มที่เดินตามหลังมาติดๆ ด่าเพื่อนกลับไปแทนคำตอบ กองทัพเดินมาหยุดยืนข้างๆ นทีท่าทางฉุนเฉียวไม่พอใจ

รดาและกลุ่มเพื่อนต่างละสายตาจากงานตรงหน้าเงยหน้าขึ้นมองบุคคลที่พึ่งมาใหม่ ซึ่งชายหนุ่มทั้งสองนั้นยืนจ้องมองพวกเธออยู่ก่อนแล้ว

“คนที่มึงพาไปกินข้าวด้วยเมื่อวาน นั่งอยู่ตรงนี้ด้วยหรือเปล่า..แล้วคนไหนวะ” ดินถามขึ้นทั้งที่สายตายังจับจ้องอยู่ที่กลุ่มของรดา เหตุผลที่ทั้งสองมาหากองทัพถึงคอนโดไม่ได้มีธุระอะไรสำคัญ นอกจากมาจับพิรุธเพื่อน

“มีธุระอะไรเข้าไปคุยในห้อง ตรงนี้รบกวนการทำงานของเด็กๆ”

“ไม่คิดจะแนะนำให้เพื่อนรู้จัก” ดินและนทียังไม่ยอมทำตามคำสั่งเจ้าของห้องทั้งสองยังยืนซุบซิบกันอยู่อีกสักพัก สีหน้ากองทัพเริ่มตึงเครียดขึ้นไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างเขาจะรู้สึกประหม่าต่อหน้าเด็กสาว

“พวกมึงเช็กความเรียบร้อยเสร็จหมดแล้วเหรอ ถึงเสนอหน้ามาที่นี่ได้” เจ้าของห้องยังหาวิธีไล่เพื่อนกลับเพราะทราบวัตถุประสงค์ที่เพื่อนทั้งสองโผล่มาที่นี่เวลานี้ดี

“ไม่คิดจะเชิญพวกกูนั่ง”

“ไม่ได้เชิญให้มา เสือกมากันเอง”

“เฮ้! คุณหมอพวกผมเพื่อนคุณนะครับ มาหาเพื่อนต้องรอให้เพื่อนเชิญถึงมาได้เหรอครับ” นทีเล่นละครบทใหญ่เพื่อเรียกร้องความสนใจจนทุกคนในห้องต่างหันมอง

“ถ้าเขาไม่ได้เชิญ แสดงว่าเขาไม่ได้อยากให้มาเป็นเรื่องปกติที่คนทั่วไปเขาทราบและปฏิบัติกัน”

“ด่าพวกกูได้ผู้ดีมาก แล้วมึงจะไปสนามกี่โมงธุระสำคัญที่บอกเมื่อวานทำเสร็จหรือยัง”

“ไปเมื่อไหร่ก็เจอเมื่อนั้น เสร็จธุระก็กลับได้แล้ว”

“ไหนๆ น้องๆ ก็มากันแล้ว คืนนี้ไปเที่ยวสนามแข่งกับพวกพี่ไหมครับ คืนนี้ไอ้หมอลงแข่งด้วยนะครับ” ดินหันไปถามกลุ่มของรดาที่นั่งเกร็งกันอยู่เพราะรู้ดีว่านี่คือจุดอ่อนของเพื่อนตนตอนนี้

“จะไปทำไม ยังเด็กอยู่ไม่ควรไปสถานที่แบบนั้น” เจ้าของห้องสวนขึ้นทันควันเพื่อตัดบท พร้อมกับส่งสายตาดุเชิงสั่งห้ามไปทางรดาที่นั่งมองมาทางกองทัพพอดี

“ดูแล้วน้องๆ น่าจะอายุเกิน20กันหมดแล้วใช่ไหมครับ” นทีเอ่ยเสริมขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้

สงครามครั้งนี้ฝีมือของสองฝ่ายเรียกว่าสูสีกันมากเพราะฝั่งหมอหนุ่มเองถึงจะได้เปรียบเรื่องความฉลาดสามารถแก้ปัญหาและเอาตัวรอดได้ทุกเรื่องแต่ก็มีจุดอ่อนคือเด็กสาวน่ารักที่ตอนนี้เปรียบเสมือนตัวประกันคนสำคัญ และทางฝั่งของดินและนทีมีความโดดเด่นเรื่องความเจ้าเล่ห์ซึ่งตอนนี้อัพเลเวลขึ้นไปเป็นระดับผู้เชี่ยวชาญแล้ว สงครามจึงยืดเยื้อกินเวลาออกไป

“พวกเราอายุ22ปีแล้วค่ะ ตอนนี้เรียนอยู่ปี4แล้วค่ะ”

“งั้นก็ไปได้สบาย โตกันหมดแล้ว สรุปน้องๆ จะไปไหมครับรับรองสนุกแน่นอน”

“ไปไหมแก ฉันอยากไป ฉันไม่เคยไปดูเขาแข่งกันที่สนามจริงๆ สักที” เชอรี่ส่งสายตาอ้อนวอนเรียกความเห็นใจจากรดาจนหญิงสาวเริ่มลำบากใจ

“มันจะดีเหรอคะ” รดามองหน้าเพื่อนสลับกับมองหน้าชายหนุ่มที่ยืนหน้าเครียดอยู่ ใจหนึ่งก็สงสารเพื่อนอีกใจก็กลัวชายหนุ่มจะไม่พอใจ

“ดีสิครับ ดีมากเลยล่ะ ถ้าน้องๆ ไปเพื่อนพี่จะได้มีกำลังใจเยอะๆ ไงครับ”

“เอ่อ..ถ้าไม่เป็นการรบกวน พวกเราไปก็ได้ค่ะ” สุดท้ายรดาก็อดสงสารเพื่อนไม่ได้เพราะนานๆ จะมีโอกาสได้ไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาแบบนี้ อีกอย่างไปกับพวกพี่เขาคงไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย และที่สำคัญรดาเองก็อยากไปดูคุณหมอหน้านิ่งแข่งรถเหมือนกัน

“งั้นเย็นนี้แวะทานข้าวเย็นกันก่อน แล้วค่อยไปสนามแข่ง คืนนี้มีแข่งตอน 4 ทุ่ม”

“อ้อ..พี่ลืมแนะนำตัวเลย พี่คนที่หล่อที่สุดชื่อพี่ดินนะครับ ส่วนคนนี้ที่หล่อน้อยกว่าพี่นิดหน่อยชื่อพี่นทีครับ’

“สวัสดีน้องๆ อย่างเป็นทางการครับ เรียกว่าพี่ทีเฉยๆ ก็ได้ครับ แล้วน้องๆ ชื่ออะไรกันบ้างครับ”

“สวัสดีค่ะ หนูชื่อเชอรี่ ส่วนนี่อิงเอย กิ่งแก้วและคนนั้นชื่อรดาค่ะ” สายตาของสองหนุ่มไปสะดุดตาเข้ากับรดาที่นั่งอยู่อีกฝั่งของโซฟาและมีกองทัพยืนพิงโซฟาอยู่ข้างๆ ในท่ากึ่งนั่งกึ่งยืน

“หึ! คนนี้สินะ”

“แล้วทำงานเสร็จกันหรือยังครับ ให้พวกพี่ช่วยอะไรไหม” ดินหนุ่มช่างพูดอัธยาศัยดีเอ่ยถามเสียงทุ้ม

“เสร็จหรือยัง” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเด็กสาวค้างอยู่หัวข้อนานพักหนึ่งแล้วไม่ยอมเลื่อนผ่านสักที

“ยังค่ะ เนื้อหาตรงนี้หนูอ่านดูแล้วมันยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่”

“ไหน ขอผมดูหน่อย” คุณหมอหนุ่มขยับลงมานั่งข้างๆ เด็กสาวแล็ปท็อปถูกเลื่อนไปตรงหน้ากองทัพ สายตาคมเข้มกวาดสายตาอ่านเนื้อหาและลงมือพิมพ์เนื้อหาเข้าไปเพิ่มเติม ผ่านไปประมาณ10 นาทีก็เลื่อนหน้าจอกลับไปตรงหน้ารดา

“ลองอ่านดูใหม่” ริมฝีปากคลี่ยิ้มออกมาด้วยความพอใจที่ได้เนื้อหาตามที่ตัวเองต้องการ

“ขอบคุณค่ะ เฮ้อ! เสร็จสักที” นิ้วเรียวคลิกเมาส์กดบันทึกเนื้อหาก่อนจะปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ลง ร่างบางนั่งเอนหลังพิงโซฟาเพื่อผ่อนคลายหลังจากที่นั่งทำงานมาทั้งวัน

“ขอบคุณพี่ๆ มากนะคะพี่ดินกับพี่นทีน่าจะมาตั้งนาน” เชอรี่เอ่ยขึ้นเสียงอ่อนเสียงหวานยิ้มร่าอย่างมีความสุข

“ปะน้องๆ พี่ดินสุดหล่อจองร้านอาหารไว้แล้ว เราออกไปแตะขอบฟ้ากัน” ดินพูดขึ้นและพากันเดินออกจากห้องไป เหมือนจ่าฝูงกำลังพาออกล่าเหยื่อ

กองทัพในชุดเสื้อยืดสีดำด้านนอกสวมทับด้วยแจ็กเกตยีนแบรนด์ดัง กางเกงยีนสีเดียวกันกับรองเท้าผ้าใบสีขาวเดินออกมาจากในห้อง รดาที่กำลังง่วนอยู่กับการเลือกหนังสือตรงหน้าเลยยังไม่ได้เดินตามเพื่อนออกไป

“เลือกได้หรือยัง ถ้าเลือกไม่ได้ก็เอาไปหมดนั่นแหละ” ฝ่ามือใหญ่เดินมาหยิบหนังสือที่กองอยู่บนโต๊ะยัดใส่กระเป๋าผ้าและถือติดมือขึ้นมาด้วย

ลานจอดรถ

“น้องๆ ไม่ได้เอารถมาใช่ไหมครับ” ดินถามขึ้นเมื่อทุกคนเดินมาถึงลานจอดรถยกเว้นรดาและกองทัพที่กำลังเดินตามมาทีหลัง

“เปล่าค่ะ เอ๊ะรดายังไม่ลงมาเลยค่ะ” อิงเอยทำหน้าตกใจเมื่อหันหลังกลับมาไม่เห็นรดาเดินตามหลังมา

“น่าจะลงมาพร้อมไอ้กองทัพ เราล่วงหน้าไปก่อนแล้วกัน” อิงเอยและกิ่งแก้วนั่งรถไปกับนทีส่วนเชอรี่นั่งไปกับดิน

“อ้าว..แล้วทุกคนไปไหนกันหมดคะ” เมื่อเดินมาถึงลานจอดรถก็ไม่เจอใครสักคนรดาจึงหันไปถามกองทัพที่ยืนขนาบอยู่ด้านข้าง

“น่าจะไปกันแล้ว ขึ้นรถ” เสียงทุ้มสั่งออกมาเสียงเรียบ สัญญาณรีโมตปลดล็อกประตูดังขึ้น

“ค่ะ”

ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด เสียงเตือนข้อความโทรศัพท์กองทัพดังขึ้น

มือหนาล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาเปิดอ่าน เป็นข้อความจากดินที่ส่งเข้ามา

{อย่ามัวแต่กินอย่างอื่นจนลืมว่าต้องกินข้าว} พร้อมกับส่งโลเคชั่นร้านอาหารแนบมาด้วย

“ไอ้ห่า” กองทัพสบทคำหยาบออกมาทันทีที่เห็นข้อความที่เพื่อนส่งมาอย่างลืมตัว พร้อมโยนโทรศัพท์ในมือลงอย่างไม่ใส่ใจ

รดาหันขวับไปมองด้วยความตกใจเพราะเกิดเสียงดัง จังหวะเดียวกับที่หน้าจอโทรศัพท์กองทัพสว่างจ้าขึ้นอีกรอบ

{น้องมันยังเด็ก} ใบหน้าเรียวเล็กรีบเบนหน้าหนีมองออกนอกหน้าต่าง

ซูเปอร์คาร์คันหรูเคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถด้วยความเร็ว การจราจรที่หนาแน่นในช่วงเย็นไม่สามารถชะลอความเร็วของรถคันนี้ลงได้เลย ลัมโบร์กินีสีดำคันใหญ่โลดแล่นอยู่บนถนนใจกลางกรุงเทพใช้เวลาไม่ถึง20นาทีก็เข้ามาจอดที่ร้านอาหารหรูที่กองทัพเคยพามาทานเมื่อวานเพราะร้านนี้เป็นร้านประจำของกองทัพและกลุ่มเพื่อน

กองทัพและรดาเดินเข้าไปภายในร้านตามหลังดินและนทีที่พึ่งมาถึงก่อนหน้าไม่ถึง5นาที

“ตีนผีจริงๆ” ดินพูดขึ้นลอยๆ โดยมีเป้าหมายชัดเจนคือคุณหมอหนุ่มที่พึ่งเดินมาถึง

“ถ้าจะขับช้าจะซื้อมาทำไมคันตั้งหลายล้าน ซื้อจักรยานคันละหมื่นสองหมื่นมาปั่นไม่ดีกว่าเหรอถ้าจะอนุรักษ์พลังงานขนาดนั้น” กองทัพพูดสวนขึ้นทันที เดินไปกระแทกนั่งลงเก้าอี้ตัวที่ยังว่างอยู่2ตัว

“รดา มานั่งนี่” เชอรี่กวักมือเรียกเมื่อรดาเอาแต่ยืนงงอยู่

“พวกพี่สั่งอาหารไปบ้างแล้ว น้องรดาอยากทานอะไรสั่งได้เลยครับ นี่ครับเมนู” ดินส่งเมนูอาหารให้รดาเลือก

“หนูขอเป็นต้มยำซีฟู้ดกับข้าวผัดต้มยำ ซีฟู้ดลวกจิ้มค่ะ”

“มันเผ็ดเดี๋ยวแสบท้อง เอากุ้งทอดกระเทียมกับปลากะพงทอดน้ำปลา แซลม่อนย่างเกลือ กุ้งแม่น้ำอบชีส ส่วนข้าวผัดเปลี่ยนเป็นข้าวผัดปู ต้มยำรสไม่จัดมาก” เชอรี่ อิงเอย กิ่งแก้ว มองหน้ากองทัพสีหน้างุนงง ยกเว้นดินและนทีที่เข้าใจสถานการณ์เมื่อสักครู่นี้ดี 

“ขอซีฟู้ดลวกจิ้มด้วยได้ไหมคะน้ำจิ้มเขาทำอร่อยมากเลย เมื่อวานหนูทานไปได้นิดเดียวเอง” ทุกคนหันขวับมองหน้ารดา ส่วนดินและนทีผุดยิ้มมุมปาก นั่งเอนหลังพิงเก้าอี้ด้วยท่าทีสบายใจ

“ชะนี เมื่อวานนี้แกมากับใคร อย่าบอกนะว่าแกมากับคุณหมอ” เชอรี่กระซิบถามข้างหู รดาหน้าซีดเผือดราวกับทำความผิดแล้วโดนจับได้

“ไอ้หมอ เมื่อวานมึงก็มาทานร้านนี้ไม่ใช่เหรอ อาหารยังอร่อยเหมือนเดิมไหมวะ”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • คุณหมอที่รัก   ตอนที่34 งานแต่งงาน (จบ)

    ตอนที่34 งานแต่งงาน 5 เดือนผ่านไปหลังจากที่ญาดาพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนานนับเดือนก็ได้กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้าน จนมาถึงวันนี้ร่างกายเริ่มดีขึ้นใกล้จะกลับมาเป็นปกติเกือบร้อยเปอร์เซ็นทางด้านผู้ใหญ่ของกองทัพก็รับรู้และยินดีที่ลูกชายคนเล็กของบ้านจะมีแฟน ที่สำคัญที่บ้านคุณหมอหนุ่มยังรู้ดีตั้งแต่ต้นว่าลูกชายตัวเองแอบหลงรักเด็กผู้หญิงที่อยู่เมืองไทย เพราะตลอดระยะเวลาที่ชายหนุ่มไปเรียนเมืองนอกกว่าสิบปีไม่เคยมีแฟนเลยสักคน ชีวิตมีแต่เรียนกับสนามแข่งรถ และยังแอบพกรูปเด็กผู้หญิงผมเปียติดตัวตลอดเวลาถึงขนาดใส่กรอบเล็กๆ วางไว้ในห้องนอนการคบหาระหว่างทั้งสองคนอยู่ในการรับรู้และยินดีจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย แต่มีอีกหนึ่งคนที่จะดีใจมากเป็นพิเศษคงหนีไม้พ้น..ทัพบก ผู้ที่ใฝ่ฝันอยากมีน้องสาวเป็นของตัวเอง และหลงรักเด็กสาวตั้งแต่เจอหน้ากันครั้งแรกเมื่อตอนสั่งอาหารแล้วไรเดอร์สาวขับรถมอเตอร์ไซค์ฝ่าสายฝนที่ตกหนักเพื่อนำอาหารมาส่ง เด็กสาวที่เปียกปอนไปทั่วตัวแต่ก็ยังยิ้มร่า เด็กสาวที่มีรอยยิ้มสดใสให้ทุกครั้งที่เจอกัน เด็กสาวที่อยากได้มาเป็นน้องสาวที่น่ารัก อ้อนเก่ง“รดา อาทิตย์หน้าตารางงานพี่ว่างเราพาคุณแม่ท่าน

  • คุณหมอที่รัก   ตอนที่33 คำตอบจากแม่ยาย

    ตอนที่33 คำตอบจากแม่ยาย ครืด ครืด ครืด เสียงโทรศัพท์รดาที่วางอยู่โต๊ะข้างหัวเตียงดังขึ้น“สวัสดีครับ” กองทัพหยิบมากดรับสายเมื่อเห็นว่าคนที่โทรเข้ามานั้นคือพี่ชายของเด็กสาว“คุณหมอเหรอครับ”“ครับ ตอนนี้รดาหลับอยู่ครับ คุณธนามีธุระด่วนจะคุยกับรดาไหมครับ ผมจะปลุกเธอให้”“ไม่มีครับ แค่ผมกลับมาที่ห้องพักแล้วไม่เจออยู่ที่นี่เลยโทรหานะครับ”“รดาหลับอยู่ที่ห้องทำงานผมครับ ช่วงเย็นคุณป้าน่าจะย้ายขึ้นมาพักฟื้นที่ห้องนี้นะครับ”“ขอบคุณคุณหมอมากนะครับ ผมไม่รบกวนแล้ว สวัสดีครับ”หลังจากที่วางสายเสร็จกองทัพก็ลุกเดินออกจากห้องไปและลงไปยังชั้นสามเป็นแผนกหัวใจและทรวงอก ห้อง ICU ที่อยู่ติดกับเคาน์เตอร์พยาบาลซึ่งมีคนไข้ชื่อญาดานอนรอดูอาการอยู่หลังการผ่าตัด“คนไข้เป็นอย่างไรบ้างครับ” กองทัพเดินเข้าไปในห้องพร้อมหยิบชาร์จที่เสียบอยู่ที่ปลายเตียงขึ้นมากวาดสายตาอ่าน“ความดันปกติ ชีพจรเต้นคงที่ คนไข้ฟื้นแล้วหลังจากออกจากห้องผ่าตัด ปฏิกิริยาทุกอย่างปกติและพึ่งหลับไปเมื่อสักครู่ค่ะ”“ร่างกายตอบสนองต่อการรักษาดี ช่วงเย็นรายงานอาการให้ผมทราบอีกที ถ้าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงผมจะย้ายคนไข้ขึ้นไปพักฟื้นด้านบน” เหมือนยกภ

  • คุณหมอที่รัก   ตอนที่32 รางวัลคนเก่ง

    ตอนที่32 รางวัลคนเก่ง “รางวัลพี่ล่ะครับ” เมื่อทั้งสองกลับขึ้นมาบนห้องพักส่วนตัวยังไม่ทันที่ประตูปิดสนิทดีคุณหมอหนุ่มก็ทวงถามหารางวัลทันที“รางวัลอะไรของคุณ รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วค่ะมีแต่กลิ่นแอลกอฮอล์” มือเล็กออกแรงผลักตรงหลังให้เดินไปยังห้องน้ำเพราะตอนนี้เธอแทบจะทนดมกลิ่นแอลกอฮอล์ในตัวชายหนุ่มไม่ไหว"นวดไหล่ให้พี่หน่อย ผ่าตัดตั้งหลายชั่วโมง..เมื่อยมาก" ยังไม่ทันที่รดาจะหันหลังออกจากห้องน้ำก็เจอเสียงอ้อนของคุณหมอหนุ่ม“อาบเสร็จแล้วเดี๋ยวหนูนวดให้นะคะ” รดาไม่ได้ปฏิเสธเลยทีเดียวแต่เลือกที่จะยื่นข้อเสนอต่อรองหรือเรียกอีกอย่างว่าการเอาตัวรอด“ต้องแช่น้ำอุ่นแล้วนวดไปด้วยกล้ามเนื้อถึงจะผ่อนคลาย” หลักการทางกายภาพถูกงัดขึ้นมาต้อนเด็กสาวให้จนมุม“เดี๋ยวเสื้อผ้าหนูเปียก ไม่มีชุดใหม่เปลี่ยน”“พี่สั่งให้เอกซื้อมาให้หนูใหม่แล้วสิบชุด อยู่ในตู้” เกมโอเวอร์สุดท้ายรดาก็เป็นฝ่ายแพ้ เดินไปเปิดน้ำอุ่นและผสมสบู่ลงในอ่างกุชชี่ขณะที่กองทัพจัดการถอดเสื้อผ้าออกจนหมดและตอนนี้มีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่พันรอบเอว“ว๊าย! คุณจะทำอะไรคะ” เชือกที่ผูกอยู่ที่เอวคอดถูกดึงออกโดยฝีมือของชายหนุ่มที่ตอนนี้ยืนซ้อน

  • คุณหมอที่รัก   ตอนที่31 หน้าห้องผ่าตัด

    ตอนที่31 หน้าห้องผ่าตัด“ขอโทษครับผมลืมเคาะประตู” ทั้งสองผละออกจากกันอัตโนมัติเหมือนเกิดแรงผลักของประจุไฟฟ้าขั้วบวกกับขั้วบวกหน้าห้องผ่าตัดเจ้าหน้าที่เข็นเตียงผู้ป่วยออกจากห้องพักหลังจากเตรียมความพร้อมก่อนทำการผ่าตัดมายังห้องผ่าตัดแผนกศัลยกรรม หญิงวัย 58 ปีนอนหน้าซีดปากซีดไร้เลือดฝาดอยู่บนเตียงสีหน้าเป็นกังวล“แม่คะ แม่ต้องสู้นะคะหนูกับพี่ธนาจะรอแม่อยู่ด้านนอก คุณหมอเก่งมากแม่ไม่ต้องกังวลนะคะ” มือเรียวเล็กทั้งสองข้างยื่นไปกุมมือผู้เป็นมารดาด้านที่มีสายน้ำเกลือเสียบคาอยู่และอีกข้างก็มีเครื่องวัดออกซิเจนติดอยู่“จ๊ะลูก” ญาดาตอบกลับบุตรสาวเสียงแผ่วใบหน้าฝืนยิ้ม ยกมืออีกข้างมากุมมือบุตรสาวและบุตรชายออกแรงบีบเล็กน้อย“ผมกับน้องรอแม่อยู่ด้านนอกนะครับ” เสียงทุ้มอ่อนนุ่มสั่นเครือเล็กน้อยของชายหนุ่มคนที่ดูแลแม่มาตั้งแต่ผู้เป็นบิดาเสียไป ถึงข้างนอกจะดูเข้มแข็งแต่ข้างในก็แอบกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะรู้ถึงสุขภาพร่างกายของผู้เป็นมารดาอย่างดีว่าตอนนี้เข้าขั้นวิกฤตแค่ไหน“ธนาอย่าลืมที่สัญญากับแม่นะลูก” ก่อนเข้าไปด้านในยังไม่ลืมย้ำเตือนบุตรชายคนโตอีกรอบ“ครับแม่ แม่ก็อย่าลืมที่สัญญากับผมไว้นะครับ ว่าแม่

  • คุณหมอที่รัก   ตอนที่30 สู่ขอไม่เป็นทางการ

    ตอนที่30 สู่ขอไม่เป็นทางการ“รดา พี่เอาหนังสือมาให้เผื่อหนูอยากอ่าน” กองทัพเปิดประตูเข้ามาได้จังหวะได้ยินตอนที่รดาคุยกับพี่ชายพอดี“ถามผมก็ได้ครับ ผมยินดีแสดงความบริสุทธิ์ใจทุกอย่าง” กองทัพเดินเข้าหยุดยืนขนาบข้างเด็กสาว ในมือยังถือหนังสือวารสารด้านธุรกิจของต่างประเทศที่รดาชอบอ่าน ซึ่งเล่มนี้เป็นเล่มใหม่ที่เขาฝากเพื่อนซื้อมาพึ่งส่งมาถึงเมื่อวันก่อน"ความจริงผมก็ไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของพวกคุณหรอกนะครับ แต่ฐานะการใช้ชีวิตของพวกเรากับคุณมันต่างกันมาก” ธนาชี้แจงเหตุผลให้คุณหมอหนุ่มฟังอย่างนอบน้อมและมีเหตุผล“ผมเข้าใจครับ และก็ไม่แปลกใจที่คุณจะเป็นห่วงรดา เราไม่เคยเจอกันหรือรู้จักกันมาก่อน พอเจอกันครั้งแรกผมก็มาแนะนำตัวในฐานะคนรักของน้องสาวคุณ เป็นใครก็ตกใจครับ แต่ผมอยากจะบอกคุณว่าผมกับรดารู้จักกันตั้งแต่ห้าปีก่อนตอนที่ผมยังเรียนแพทย์อยู่ที่โปแลนด์ แค่ขาดการติดต่อกันไปช่วงที่ผมไปต่อfellowที่อเมริกา มาเจอกันอีกครั้งตอนที่รดาเกิดอุบัติเหตุเมื่อสี่เดือนก่อนและได้เรียนรู้กันอย่างจริงจังช่วงที่รดาไปฝึกงานที่บริษัท คุณอาจจะมองว่าระยะเวลามันสั้นแต่เชื่อเถอะครับว่าผมรักเธอจริงๆ ผมรีบทำหน้าที่ของ

  • คุณหมอที่รัก   ตอนที่29 พบแม่ยายในฐานะแฟนของลูกสาว

    ตอนที่29 พบแม่ยายในฐานะแฟนของลูกสาวช่วงสายของอีกวัน“รดาตื่นได้แล้วครับ สายแล้วนะ” กองทัพเดินมาหย่อนสะโพกข้างขอบเตียง เสียงทุ้มนุ่มก้มลงกระซิบข้างหูคนตัวเล็กที่นอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มบนเตียง“อือ..หนูขออีกห้านาที” เสียงครางงึมงำในลำคอ ตาสองข้างยังปิดสนิท“หมดแรงขนาดลุกไม่ขึ้นเลยเหรอ หืม” หนวดเคราที่กำลังขึ้นเป็นตอสีดำเสียดสีกับลำคอใต้ซอกใบหูจนคนที่นอนหลับอยู่รู้สึกจักจี้จากการรบกวน“พี่หมอ หนูขออีกห้านาทีนะคะ” เสียงหวานเอ่ยอ้อนคว้ามือหนาที่วางพาดอยู่บนตัวเข้ามากอดแนบใบหน้า จนกองทัพทำตัวไม่ถูกจำต้องจำยอมตามคำขอและทำได้เพียงนั่งนิ่งๆ รอเวลา“หนูครับ วันนี้พี่จะพาหนูไปเยี่ยมคุณแม่ที่โรงพยาบาล ถ้าไม่ยอมตื่นคุณแม่ท่านจะรอนานเอานะครับ” สิ้นคำพูดรดาก็ดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอนทันที“คุณจะพาหนูไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาลจริงๆ เหรอคะ” ร่างบางโผเข้ากอดชายหนุ่มอย่างลืมตัว หน้าอกคัพB ใต้เสื้อนอนตัวเล็กเสียดสีกับอกแกร่งจนกองทัพสัมผัสถึงความนุ่มเด้งได้“ถ้ายังอยากไปเยี่ยมแม่ พี่แนะนำให้ปล่อยพี่ก่อนครับ ก่อนที่หนูจะต้องนอนหมดแรงอยู่บนเตียงจนออกไปไหนไม่ได้” เสียงกระท่อนกระแท่นเอ่ยบอกติดๆ ขัด ขณะที่จิตสำนึกกำล

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status