ครั้นธาวินออกไปแล้ว วเรณย์จึงนั่งเงียบ ๆ อยู่คนเดียว คิดในใจว่า ฉันคงเป็นไอ้บ้าจริง ๆ สินะ ทำไมต้องทำอะไรแบบนั้นด้วย ตึกตัก ตึกตัก โอ๊ย หัวใจเลิกหยุดเต้นแบบนี้สักทีได้ไหม ฉันต้องไปหาหมอไหมเนี่ย
คืนนั้น ภาพในความฝันของวเรณย์จึงวนเวียนกลับมาอีกครั้ง สิ่งที่เขาพูดไปเมื่อตอนกลางวันกำลังฉายชัดในความฝันเพียงแต่คนที่ธาวินจูบไม่ใช่ณดลแต่เป็นเขามาแทนที่
บรรยากาศเคลิบเคลิ้มชวนให้คนทั้งคู่ทำอะไรที่มากไปกว่านั้น ลึกล้ำดึงดูดราวกับหลงใหลจนไม่อาจถอนตัวออกมาได้ ทั้งยังทำให้เจ้าตัว
เพลิดเพลินไปกับการกระทำที่อ่อนโยนของคนตรงหน้าจนกระทั่ง อ๊ะ พรวด...
พรึ่บ!!! วเรณย์สะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วเปิดผ้าห่มดูกางเกงตัวเองก่อนจะกุมขมับแล้วกรีดร้องในใจ ไอ
เช้าวันต่อมาท้องฟ้าอากาศแจ่มใสจนทำให้ใครบางคนในบ้านอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก ทันทีที่เขาได้ยินเสียงประตูของห้องข้าง ๆ เปิดออกก็รีบพุ่งตัวออกมาทักทายอีกฝ่ายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม“หลับฝันดีไหม”ธาวินไม่ตอบว่าคืนที่ผ่านมาเขาฝันดีมากจนรู้สึกไม่อยากตื่นแต่จะให้บอกไปตามตรงก็ไม่ได้ว่าคนในฝันคือวเรณย์“เมื่อคืนนี้นายหลับไปก่อนเลยไม่เห็นดาวหางใช่ไหมล่ะ แต่ว่าฉันเห็นพอดีเลย สงสัยอีกสี่สิบปีข้างหน้าคงต้องปลุกนายมาดูด้วยกันแล้วล่ะ” คำพูดของวเรณย์ทำให้เขานึกสงสัยว่าเจ้าตัวไม่สบายหรือเปล่าถึงได้พูดอะไรที่แปลกไปจากนิสัยปกติแม้แต่แฮปปี้เองก็กระโดดโลดเต้นส่ายหางราวกับดีใจที่พี่ชายทั้งสองคืนดีกันอย่างไรอย่างนั้น&l
ครั้นธาวินออกไปแล้ววเรณย์จึงนั่งเงียบ ๆ อยู่คนเดียว คิดในใจว่าฉันคงเป็นไอ้บ้าจริง ๆ สินะ ทำไมต้องทำอะไรแบบนั้นด้วยตึกตัก ตึกตักโอ๊ย หัวใจเลิกหยุดเต้นแบบนี้สักทีได้ไหมฉันต้องไปหาหมอไหมเนี่ยคืนนั้น ภาพในความฝันของวเรณย์จึงวนเวียนกลับมาอีกครั้ง สิ่งที่เขาพูดไปเมื่อตอนกลางวันกำลังฉายชัดในความฝันเพียงแต่คนที่ธาวินจูบไม่ใช่ณดลแต่เป็นเขามาแทนที่บรรยากาศเคลิบเคลิ้มชวนให้คนทั้งคู่ทำอะไรที่มากไปกว่านั้น ลึกล้ำดึงดูดราวกับหลงใหลจนไม่อาจถอนตัวออกมาได้ ทั้งยังทำให้เจ้าตัวเพลิดเพลินไปกับการกระทำที่อ่อนโยนของคนตรงหน้าจนกระทั่งอ๊ะ พรวด...พรึ่บ!!!วเรณย์สะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วเปิดผ้าห่มดูกางเกงตัวเองก่อนจะกุมขมับแล้วกรีดร้องในใจไอ
แม้จะผ่านมาแล้วหนึ่งเดือนแต่ความสัมพันธ์ที่เหินห่างของวเรณย์กับธาวินยังคงเหมือนเดิมเจ้าตัวไม่ได้หวังอะไรมากมายอยู่แล้วเพราะรู้ว่าถึงอย่างไรความรักของเขาก็ไม่มีทางสมหวังจึงอยู่อย่างสงบเสงี่ยม ไม่เข้าไปยุ่งกับอีกฝ่ายอย่างที่เคยพูดเอาไว้คืนหนึ่งธาวินออกมานั่งรับลมอยู่ที่ระเบียงห้องเพราะได้ยินณดลบอกมาว่าคืนนี้จะมีดาวหางดวงใหญ่เคลื่อนที่ผ่านโลกและถ้าพลาดจะต้องรอไปอีกสี่สิบปีเขาจึงตั้งใจว่าจะไม่นอนจนกว่าจะได้เห็นกับตา หากแต่ระหว่างที่นั่งรอไปเรื่อย ๆ ความง่วงเริ่มคืบคลานเข้ามาอย่างช้า ๆ จนเผลอสัปหงกอยู่หลายครั้งในที่สุด ธาวินจึงต้านทานเอาไว้ไม่ไหวหลับไปโดยพิงขอบประตูไว้เหมือนอย่างเคยสายตาของคนข้างห้องมองดูคนตรงหน้า “ใจคอจะนอนให้ยุงกัดหรือไง”
เพื่อนสนิททั้งสองรีบพาธาวินไปที่ห้องพยาบาลเพื่อห้ามเลือดสันจมูกของเขาเป็นรอยแตกเล็กน้อยจึงได้ทำแผลแล้วติดพลาสเตอร์เอาไว้“ครูว่าไปให้หมอตรวจอีกทีดีกว่านะ” เธอพูดด้วยความเป็นห่วง “ไปทำท่าไหนถึงโดนแบบนี้”“ขอบคุณครับ” ธาวินไม่พูดอะไรมากมายแล้วรีบไปพบครูประจำชั้นทันทีวันนั้น ก้องเกียรติและจันทร์วิมลถูกเรียกเข้าห้องฝ่ายปกครองอีกเป็นครั้งที่สองในรอบไม่กี่วันหลังจากเกิดเรื่องของลูกชายคนเล็กผู้ปกครองของเด็กคนนั้นรู้สึกหวาดกลัวทันทีที่เห็นทนายของฝ่ายบ้านอิงสุนทรโผล่มาด้วยจึงไม่อยากให้การทะเลาะวิวาทของลูก ๆ ทำให้เรื่องบานปลายไปมากกว่านี้ แล้วอีกอย่างลูกของพวกเขาก็เป็นคนลงมือก่อนด้วย ทั้ง ๆ ที่ตัวพวกเขาเองก็ไม่ชอบเหมือนกันที่ต้องพูดประเด็นความรักเพศเดียวกัน
สุดท้ายแล้ววันแข่งบาสเกตบอลรอบชิงชนะเลิศก็มาถึง ทีมสีฟ้าของวเรณย์ได้พบกันทีมสีเขียวเป็นครั้งแรก ซึ่งปีที่แล้วทั้งสองฝ่ายได้เข้ามาจนถึงรอบชิงเหมือนกันแต่ทีมสีฟ้าได้เป็นฝ่ายชนะไปบรรยากาศคราวนี้จึงเต็มไปด้วยความดุเดือดจากทีมสีเขียวที่ต้องการแย่งชิงที่หนึ่งมาให้ได้ ผู้เล่นในนั้นที่อยู่ชั้นมอหกเหมือนกับวเรณย์เดินเข้าไปหาเขาราวกับท้าทายทว่า เขาไม่ได้ใส่ใจมากนักเพราะทุกปีมักจะได้ปะทะกันทุกครั้งจนเขาถูกหมายหัวเอาไว้แล้วธาวินยังคงมาดูการแข่งขันเหมือนอย่างทุกครั้ง รู้สึกชอบเวลาที่ได้เห็นวเรณย์เล่นบาสเกตบอล ทุกการเคลื่อนไหวของเขาเหมือนมีแสงจากสปอตไลต์ส่องลงมา ดูน่าจับตามองทุกฝีก้าวเมื่อแต้มจากทีมสีฟ้านำโด่งเพราะฝีมือของผู้เล่น อีกฝ่ายหนึ่งไม่พอใจที่ตามเท่าไหร่ก็ไม่ทันจึงปรับแผนใหม่เพื่อบุกทำแต้มมากข
หลังกลับมาจากเข้าค่ายครั้งนี้ธาวินได้แต่ครุ่นคิดไตร่ตรองอย่างที่กัสแนะนำ เขารู้ใจตัวเองมาสักพักแล้วว่ารู้สึกอย่างไรกับอีกฝ่าย แต่ไม่เคยนึกอยากจะสารภาพกับเขาเลยแม้แต่น้อยเพราะถึงอย่างไรเวลาที่เห็นหน้าของก้องเกียรติและจันทร์วิมลที่เลี้ยงดูเขามาเป็นอย่างดีก็ทำไม่ลงถ้าพวกเขารู้ว่าเด็กน้อยที่อุตส่าห์ดูแลเหมือนลูกคนหนึ่งคิดกับลูกชายแท้ ๆ ของตัวเองแบบนั้นคงรับไม่ได้อย่างแน่นอน เขาจึงเก็บทุกอย่างไว้ในใจมาโดยตลอด“เป็นไปไม่ได้หรอก เรย์นี่นะจะชอบฉัน ทุกวันนี้ก็แทบจะทะเลาะกันทุกวันอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง อืม หรือว่าฉันจะแสดงออกมากไปจนเขารู้ตัวนะ” ธาวินพึมพำกับตัวเอง “ไม่สิ ถ้ารู้ตัวคงไม่มาวอแวแบบนี้หรอก อาจจะแค่ใจอ่อนยอมรับฉันเป็นเพื่อนก็ได้ แต่ว่าสงสัยคงต้องเพลา ๆ ไม่ไปใกล้ชิดกว่านี้แล้วล่ะ ถ้าความลับแตกขึ้นมาคงไม่ดี”ธาวินหาเหตุและ
หลังจากทำกิจกรรมแต่ละฐานเสร็จรุ่นน้องทั้งหลายจึงถ่อสังขารมอมแมมของตัวเองกลับที่พักด้วยความเหนื่อยล้าหมดแรง ในขณะที่วเรณย์เดินอยู่ข้าง ๆ ธาวิน“ไม่หลงหรอกน่า” ธาวินเอ่ยปากบอกเขา“ใครจะไปรู้ โตขนาดนี้แล้วยังหลงทางอยู่ได้”อีกฝ่ายได้ยินดังนั้นก็เบ้ปากให้คนตรงหน้าไปหนึ่งทีแล้วรีบวิ่งไปหากัสโดยไม่สนใจวเรณย์ เขาเตรียมเสื้อผ้าไปอาบน้ำเพราะอากาศเริ่มมืดค่ำ หากชักช้ากว่านี้คงต้องอาบน้ำเย็นแน่ ๆช่วงเวลากินข้าวรุ่นพี่แต่ละคนยืนรอตักข้าวใส่ถาดหลุมให้น้อง ๆ และณดลรับหน้าที่นั้นพอดี เขาตักเอาเนื้อไก่ชิ้นใหญ่ ๆ ใส่ถาดของธาวินจนกัสมองหน้า “พี่ครับ ขอแบบนี้ให้ผมได้ไหม”พอธาวินนั่งลงที่โต๊ะ ณดลจึงถือถาดตามมาจะ
จนกระทั่งสองปีต่อมาธาวินที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมอสี่มาหมาด ๆ ต้องไปเข้าค่ายรับน้องที่ค่ายลูกเสือกับเพื่อนร่วมชั้นเรียน และวเรณย์ก็เป็นรุ่นพี่ที่ต้องมาดูแลรุ่นน้องอย่างเขาโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้เขาไม่อยากจะเข้าร่วมกิจกรรมเท่าไหร่เพราะรู้ว่าเป็นด่านลูกเสือที่ต้องคลุกดิน ฝุ่นโคลน ลุยน้ำเล่นไฟแล้วต้องถอดเครื่องช่วยฟังออกจะทำให้ไม่ค่อยได้ยินว่าใครพูดอะไรบ้างแต่มันเป็นภาคบังคับของนักเรียนชั้นมอสี่ เขาจึงจำใจต้องไปโดยปริยาย“เรย์ ฝากดูแลวินด้วยนะลูก” ก้องเกียรติบอกลูกชายก่อนจะออกเดินทาง“ครับ” เจ้าตัวพยักหน้ารับปาก แล้วสะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่ขึ้นรถไปกับธาวินเมื่อมาถึงค่ายลูกเสือ รุ่นน้องทุกคนโดนสั่งให้วิ่งไปที่รวมตัวกันที่ลานโล่งทันที หากแต่ยังธาวินยังคงยืนนิ่งอ
วันต่อมาธาวินไปพบณดลที่ห้องซ้อมดนตรีเพราะเมื่อวานทั้งคู่ไม่ได้เจอกัน ด้วยเห็นว่าอีกฝ่ายมีเรื่องจะปรึกษาจึงรีบมารออยู่ข้างในแต่ดันเจอวเรณย์ที่จองห้องนั้นก่อนแล้ว“นายจะซ้อมห้องนี้เหรอ” เขาเอ่ยปากถามวเรณย์ได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคย และเช้าวันนี้ธาวินก็ไม่หลบหน้าจึงรู้ว่าเขาหายโกรธตัวเองแล้วพลันรู้สึกโล่งใจแปลก ๆ “เปล่า แค่มานั่งแต่งเพลงเฉย ๆ”“อ่อ ถ้างั้นไม่กวนนายแล้ว เดี๋ยวฉันไปเจอณดลที่อื่นก็ได้” ธาวินยิ้มให้เขาแล้วเปิดประตูออกไปแทบจะทันที คนที่ถูกทิ้งนิ่วหน้าไม่สบอารมณ์แต่งเพลงไม่ได้จึงขีด ๆ กระดาษจนจะเป็นรูแล้วขยำทิ้งอีกทางฟากหนึ่งณดลหยิบใบประกาศรับสมัครสมาชิกวงดนตรีมาด้วย ท่าทางยังคงลังเลว่าควรสมัครดีหรือไม่จ