เข้าสู่ระบบแชร์
บทที่ 1446
บทล่าสุด
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1449
หากเฉินจิงจื่อหานล้มเหลวในการต่อสู้ในอนาคต เพื่อตำแหน่งชิงเจ้าสำนักดาวสวรรค์อีกฝ่ายจะต่อสู้จนตายเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาโต้กลับ และจะไม่มีวันให้พวกเขามีโอกาสพลิกสถานการณ์มหาอำนาจจำนวนมากก็ล้วนเป็นแบบนี้หากจะต่อสู้ก็ต้องชนะให้ได้ เพราะถ้าแพ้คือการเผชิญหน้ากับนรกทางเลือกอื่นเพียงทางเดียวคือไม่แข่งขันเลย ใช้ชีวิตเป็นคนเงียบๆ ธรรมดาๆ อย่างน้อยก็ปลอดภัยไป๋หลี่เหยียนหงพูดต่อ "และเท่าที่ฉันรู้ มีคนในทายาทสายตรงของสำนักดาวสวรรค์ที่กำลังวางแผนแย่งตำแหน่งเจ้าสำนักน้อยของนายอย่างลับๆ และกองกำลังที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาไม่ได้อ่อนแอ แม่ของนายไม่ต้องการให้นายอยู่ในอาณาจักรดวงดาวในฐานะดอกไม้ในเรือนกระจก ดังนั้นเธอจึงใช้เงินจำนวนมาก เพื่อให้นายได้รับสถานะของของผู้บังคับใช้กฎหมายจักรวาล แล้วออกมากับฉัน หวังว่านายจะเติบโตได้"“ใครกัน??” สีหน้าของเฉินจิงจื่อหานมืดลง ดวงตาของเขาหรี่ลงด้วยความเข้มข้นที่เฉียบคมเขารู้ว่าป้าหงจะไม่ล้อเล่นเกี่ยวกับเรื่องเช่นนี้ถ้าเธอพูดแบบนั้นก็แสดงว่ามันเป็นเรื่องจริงมีทายาทสายตรงนับไม่ถ้วนในสำนักดาวสวรรค์ แม้แต่พ่อของเขาก็ยังให้กำเนิดลูกชายหลายร้อยคนในช่วงหลา
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1448
"น้องหลินเข้าใจก็ดีแล้ว! ทำไมเราไม่แข่งขันกันล่ะ! น้องหลินสามารถไต้เต่าขึ้นมาได้ถึงระดับนี้ ทั้งที่อยู่ในอารยธรรมระดับต่ำอย่างกาแล็กซีทางช้างเผือก พอไปถึงอาณาจักรดวงดาว ฉันเชื่อว่าพรสวรรค์ของคุณจะระเบิดออกมาอย่างแน่นอน มาเปรียบเทียบกันว่าใครไปถึงระดับราชันย์อมตะก่อนกัน ส่วนใครที่แพ้จะต้องเรียกอีกฝ่ายว่าพี่ใหญ่ ว่าไงล่ะ? "จู่ๆ เฉินจิงจื่อหานก็เสนอขึ้นมาเขาต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับหลินตงด้วยอย่างน้อยพวกเขาก็เคยมีประสบการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายร่วมกันมาและหลินตงก็มีบุคลิกที่ยอดเยี่ยม ซึ่งสะท้อนถึงตัวเขาพรสวรรค์ก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน เขาไม่สามารถมองทะลุอีกฝ่ายด้วยวิชาดวงตาจักรวาลด้วยซ้ำเกิดมาบนดาวเคราะห์ที่มีชีวิตขนาดเล็กเท่ากระสุนปืน แต่สามารถเติบโตเป็นบุคคลอันดับหนึ่งในกาแล็กซีทางช้างเผือกได้นี่ไม่ใช่สิ่งที่ใครๆ ก็ทำได้ความสำเร็จของหลินตงในอนาคตอาจไม่ต่ำกว่าของเขาตราบใดที่หลินตงเห็นด้วยไม่ว่าใครจะชนะหรือแพ้การแข่งขันก็ตามมันก็จะเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาในฐานะพี่น้องร่วมสาบานถ้าหลินตงสามารถเอาชนะเขาได้จริงๆเฉินจิงจื่อหานคงไม่รังเกียจที่จะเรียกเขาว่า พี่ให
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1447
แต่เมื่อเวลาผ่านไป หลินตงและคนอื่นๆ ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่วันกี่คืนแล้วพวกเขาเพียงแค่หลับเมื่อเหนื่อย และเมื่อตื่นขึ้น พวกเขาจะรวมตัวกันและพูดคุยกันในบรรดาพวกเขาทั้งหมด หลินตงเป็นคนที่เบื่อที่สุดคนอื่นๆ ทุกคนจำเป็นต้องฝึกฝน แต่เขาไมจำเป็นต้องทำสิ่งเดียวที่เขาต้องคิดจริงๆ ก็คือจะใช้เหรียญดวงดาวที่สะสมไว้ได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้น หลินตงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องฝึกฝนอย่างไรในขณะนี้ ทุกคนกำลังนั่งคุยกันเกี่ยวกับหัวข้อต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักรดวงดาวและนิกายแก้วเจ็ดแสงไม่เพียงแต่ไป๋หลี่เหยียนหงเท่านั้นที่อยู่ที่นั่น แต่แม้แต่เฉินจิงจื่อหานซึ่งไม่ค่อยปรากฏตัว ก็ยังออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์หลังจากเหตุการณ์ในอสูรกาแล็กซี เฉินจิงจื่อหานก็พบว่า ตัวเองยังขาดความแข็งแกร่งเขาได้เก็บตัวฝึกฝนอย่างสันโดษเมื่อเร็วๆ นี้ในอาณาจักรดวงดาว แม้ว่าเขาจะยังคงมีพละกำลังอยู่บ้าง และยังมีอีกนับไม่ถ้วนที่แข็งแกร่งกว่าเขาในอาณาจักรดวงดาวแต่ที่นั่นไม่มีใครกล้าโจมตีเขาจริงๆอย่างไรก็ตาม ในอสูรกาแล็กซี เมื่อถูกล้อมรอบไปด้วยปรมาจรย์ระดับเซียนเดินดินกว่าหลายสิบคน เฉินจิงจื่อหานรู้สึกถึงภัยคุกคามถึงตายได้
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1446
ระยะห่างระหว่างกาแล็กซีทางช้างเผือก และอาณาจักรดวงดาวนั้นไกลมากระยะห่างนี้เกินกว่าที่มนุษย์บนโลกจะเข้าใจได้ และไม่สามารถวัดได้ด้วยตัวเลขที่ระบุชัดเจนที่รู้จักกันบนโลกหากอาศัยการบิน แม้จะด้วยความเร็วแสง คาดว่าจะใช้เวลาหลายพันล้านปี ในการมาถึงอาณาจักรดวงดาวจากกาแล็กซีทางช้างเผือกนี่เป็นเพียงความเป็นไปได้เท่านั้นมีเพียงมหาอำนาจในอาณาจักรนิรันดรเท่านั้น ที่สามารถฉีกมิติและเดินทางในมิติอื่นได้ ถึงจะสามารถข้ามระยะทางที่ไม่มีที่สิ้นสุดและมาถึงในเวลาอันสั้นได้แน่นอนว่าช่วงเวลาสั้นๆ ที่เรียกว่านี้ไม่ได้มีแค่หนึ่งหรือสองวันหรือสิบวันครึ่งเดือนเมื่อเทียบกับการเดินทางด้วยความเร็วแสงที่ต้องใช้เวลานับพันล้านปี ช่วงเวลานี้ก็สั้นมากจริงๆด้วยความเร็วของหลินตงและคนอื่นๆ ที่ขี่เต่ายักษ์อาณาจักรนิรันดร หากไม่เจออุปสรรคระหว่างทาง จะใช้เวลาประมาณหนึ่งปีในเวลาต่อมา ด้วยความช่วยเหลือของหลินตง ไป๋หลี่เหยียนหงได้แก้ไขปัญหาทางกายภาพของเธอชั่วคราวไม่เพียงแต่จะระงับความปรารถนาที่เกิดจากร่างเสน่ห์เท่านั้น แต่ยังขับไล่เมล็ดพันธุ์แห่งจิตวิญญาณที่ทิ้งไว้ โดยคนลึกลับในร่างกายออกไปอีกด้วยไป๋หลี่เหยีย
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1445
"ได้สิ! คราวนี้ฉันมาหานายเพราะเรื่องอื่น""พี่หงพูดมาเลย! ตราบใดที่ฉันทำได้ ฉันจะทำให้ดีที่สุดอย่างแน่นอน""เมื่อกี้ฉันกำลังตรวจสอบร่างกายของฉันอยู่ พบว่าไม่รู้ว่ามีคนฝังเมล็ดพันธุ์ทางจิตวิญญาณในร่างกายของฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ ด้วยความแข็งแกร่งทางจิตวิญญาณในปัจจุบัน ฉันไม่มีความสามารถที่จะกำจัดมันออกไป ดังนั้นฉันหวังว่านายจะใช้พลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งของนาย เพื่อช่วยฉันกำจัดมันออกไป""เมล็ดพันธุ์ทางจิตวิญญาณถูกฝังโดยเผ่าพันธุ์อื่นหรือเปล่า? เป็นใคร? จุดประสงค์ของคืออะไร?" หลินตงถามด้วยความสับสนแม้ว่าตอนนี้เขาจะมีพลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง แต่ความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับพลังจิตวิญญาณยังอยู่ในขั้นพื้นฐานที่สุดในอดีต เขาใช้พลังจิตวิญญาณ เพื่อรุกรานจิตใจของผู้อื่นและควบคุมความเป็นและความตาย"ฉันไม่รู้ว่าใครทำ แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายมีเจตนาดี โดยมีจุดประสงค์คือเพื่อติดตามฉัน" ไป๋หลี่เหยียนหงตอบ"แล้วฉันควรทำยังไงดี?""นายเพียงแค่ต้องปลดปล่อยพลังจิตวิญญาณอันทรงพลังออกมา ทำตามคำแนะนำของพลังจิตวิญญาณของฉัน ไปถึงตำแหน่งของเมล็ดพันธุ์จิตวิญญาณในร่างกายของฉัน แล้วห่อหุ้มมันไว้ จากนั้นนำมันออกจาก
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1444
นอกจากความแข็งแกร่งทางจิตวิญญาณที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าแล้วไป๋หลี่เหยียนหงยังค้นพบเมล็ดพันธุ์ทางจิตวิญญาณที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ภายในร่างของเธอเองอีกด้วยหากไม่มีพลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งขึ้นมาก เธอก็คงจะไม่สังเกตเห็นมันเลยเพราะเธอไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อนในตอนแรก ไป๋หลี่เหยียนหงคิดว่าเป็นของอาจารย์ที่ทิ้งเอาไว้เมื่อสัมผัสเมล็ดพันธุ์ทางจิตวิญญาณนี้ เธอรู้สึกถึงกลิ่นอายบนนั้น ซึ่งไม่ใช่ของอาจารย์ของเธอเลยไป๋หลี่เหยียนหงรู้สึกสับสนมากเนื่องจากไม่ใช่อาจารย์ ใครจะทิ้งเมล็ดพันธุ์ทางจิตวิญญาณไว้ในร่างกายของตัวเธอกันชัดเจนว่ามีจุดประสงค์ เพื่อเฝ้าติดตามเธอและจากเมล็ดพันธุ์ทางจิตวิญญาณนี้ ไป๋หลี่เหยียนหงก็สัมผัสได้ถึงพลังทางจิตวิญญาณอันแข็งแกร่งของเจ้าของ ซึ่งหมายความว่าความแข็งแกร่งของบุคคลนี้ควรจะแข็งแกร่งมากเช่นกันมีตัวตนประหลาดในจักรวาล อย่างหลินตงซึ่งมีพลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งแต่มีพละกำลังที่อ่อนแอ นั้นหาได้ยากมากในช่วงเวลากว่าพันปีที่ผ่านมา ไป๋หลี่เหยียนหงได้เจอหลินตงเพียงคนเดียว และไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนด้วยซ้ำแม้แต่ในบันทึกประวัติศาสตร์ของนิกายแก้วเจ็ดแสง ก็ไม่มีการกล
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1443
ยังมีซีเหมินฟู่กุ้ย ปรมาจารย์ที่มีพลังเหนืออาณาจักรนิรันดร ที่ต้องการคำตอบที่ชัดเจนจากเธออาจกล่าวได้ว่าหลินตงทำให้เธอได้รับอันตรายอย่างใหญ่หลวงแม้ว่านี่จะไม่ใช่ความผิดของไป๋หลี่เหยียนหง และไม่อยู่ในการควบคุมของเธอแต่เธอก็มีปัญหาที่ไม่อาจอธิบายได้สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือกลืนยาเม็ดขมอย่างเงียบๆและถ้าซีเหมินฟู่กุ้ยได้รู้ว่า หลินตงคือหัวขโมยที่ฉกผู้หญิงของเขาหลินตงต้องเผชิญคือความโกรธของปรมาจารย์ที่มีพลังเหนืออาณาจักรนิรันดรด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของหลินตง ซึ่งอยู่ในอาณาจักรนิรันดรระดับเซียนเดินดินนั้น ต่ำต้อยเกินกว่าจะอยู่ใกล้ๆแม้ว่าเขาจะมีระบบ ก็ไม่สามารถรับมืออีกฝ่ายได้เว้นแต่ว่าหลินตงจะได้รับเวลาในการเติบโต เขาก็จะมีโอกาสแต่อีกฝ่ายจะให้โอกาสเขาเติบโตเหรอ?ไม่น่าจะเป็นไปได้............ไป๋หลี่เหยียนหงขมวดคิ้วเล็กน้อย หลังจากตรวจสอบสภาพร่างกายของตัวเองในห้องตั้งแต่ช่วงเวลาที่เธอผสานจิตวิญญาณครั้งแรกกับหลินตง เมื่อร่างเสน่ห์ถูกปลุกขึ้นมาเธอทำทุกวิถีทาง เพื่อระงับความปรารถนาอันล้นหลามที่เกิดจากการตื่นขึ้นของร่างเสน่ห์ดังนั้น เธอจึงไม่มีพลังงานเพียงพอที่จะใส
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1442
ซีเหมินฟู่กุ้ยกำลังเตรียมตัวออกจากดินแดนทิศซีเหมิน และมุ่งหน้าสู่ดินแดนแก้วเจ็ดแสง เขาต้องการคำอธิบายจากนิกายแก้วเจ็ดแสงอย่างไรก็ตาม ซีเหมินฟู่กุ้ยก็เป็นตัวตนที่มีพลังเหนืออาณาจักรนิรันดร แม้แต่ในอาณาจักรนิรันดร เขาก็เป็นของบุคคลที่มีอำนาจและอิทธิพลเขาแสดงความรักต่อไป๋หลี่เหยียนหงต่อหน้าสาธารณชนมากกว่าหนึ่งครั้ง ถึงกับระบุว่าเขาต้องการให้เธอเป็นภรรยาหลวง แต่ทุกครั้ง เขาก็ถูกทั้งไป๋หลี่เหยียนหงและนิกายแก้วเจ็ดแสงปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยตอนนี้ ถ้าไป๋หลี่เหยียนหงกลับมาและมีข่าวลือแพร่สะพัดว่า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป ชื่อเสียงของซีเหมินฟู่กุ้ยจะเป็นอย่างไร? แล้วหน้าตาของตระกูลซีเหมินล่ะ?ไป๋หลี่เหยียนหงปฏิเสธเขา แต่กลับถูกคนอื่นพรากความบริสุทธิ์ไปหลังจากออกจากอาณาจักรได้ไม่นาน นั่นไม่ใช่การลากทั้งเขาและตระกูลซีเหมินมาตบหน้าท่ามกลางสาธารณชนเหรอ?ในฐานะผู้มีอำนาจสูงสุดในอาณาจักรดวงดาว หากคำพูดยังไม่น่าเชื่อถือ แล้วจะให้เชื่อถืออะไรได้อีก?ซีเหมินฟู่กุ้ยคิดว่านิกายแก้วเจ็ดแสงคงยังไม่รู้เรื่องนั้นแต่ก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งที่สำคัญคือนิกายแก้วเจ็ดแสงและไป๋หลี่เหยียนหงไม่รักษาคำพูด
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1441
พริบตาเดียว เวลาก็ผ่านไปกว่าพันปีแล้วแต่ซีเหมินฟู่กุ้ยยังคงเหมือนเดิมทุกประการถ้าไป๋หลี่เหยียนหงไม่ได้มาจากนิกายแก้วเจ็ดแสงเขาคงใช้กำลังบังคับไปตั้งนานแล้วน่าเสียดายที่นิกายแก้วเจ็ดแสง ไม่ใช่สิ่งที่ตระกูลซีเหมินจะยั่วยุได้ในเมื่อซีเหมินฟู่กุ้ยยังครอบครองไป๋หลี่เหยียนหง เขาก็ไม่ยอมให้ชายหน้าไหนแตะต้องผู้หญิงที่ตัวเองรักแม้แต่ปลายผมดังนั้นตอนที่เจอกับไป๋หลี่เหยียนหง เขาจึงแอบทำบางอย่างร่างกายของเธอเมื่อไป๋หลี่เหยียนหงกับหลินตงผสานจิตวิญญาณโลกจิตวิญญาณมายาครั้งแรก ซีเหมินฟู่กุ้ยจึงรู้แล้วและนี่เป็นครั้งที่สองซีเหมินฟู่กุ้ยจะทนกับสิ่งนี้ได้อย่างไร?ผู้หญิงที่ปกป้องตัวเองมาเป็นเวลาพันกว่าปี กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งงดงามและให้ใจเต้นไหว ทำให้ผู้คนหลงจนถอนตัวไม่ขึ้นสุดท้ายก็ถูกชายคนอื่นพรากไปในฐานะผู้ชาย แถมยังเป็นชายที่มีพลังเหนืออาณาจักรนิรันดรด้วยแล้วซีเหมินฟู่กุ้จะกล้ำกลืนความขื่นขมนี้ไปได้อย่างไรเขาไม่สามารถยั่วยุนิกายแก้วเจ็ดแสงได้เพราะฉะนั้นจึงทำได้แค่ระบายความโกรธไปที่ผู้ชายคนนี้เท่านั้น"ไอ้สารเลว! ไม่ว่าแกจะเป็นใครก็ตาม! ฉันจะต้องจับแกให้ได้อย่างแน่นอ
