เย่จิ่งหานไม่อาจรักษาความนิ่งเฉย ไม่สะทกสะท้านได้อีกต่อไป น้ำเสียงมีความร้อนรน “ใช้วันที่สิบห้าของทุกเดือนหรือไม่” กู้ชูหน่วนตกตะลึง เผ่าอวี้ซ่อนตัวจากโลกภายนอกมาพันกว่าปี คนทั่วไปไม่รู้ว่าเผ่าอวี้คือองค์กรแบบใด ยิ่งไม่รู้จักคำสาปเลือด เย่จิ่งหานรู้จักคำสาปเลือดได้อย่างไร เขารู้จักคำสาปเลือด เช่นนั้นเขาจะรู้วิธีแก้คำสาปเลือดหรือไม่ คิดถึงตรงนี้ กู้ชูหน่วนเองก็ตื่นเต้นขึ้นมาด้วย สีหน้าเต็มไปด้วยความร้อนรน “ใช่ ออกฤทธิ์ทุกวันที่สิบห้า นอกจากกระดูกในร่างจะแตกหักแล้ว ทั่วทั้งร่างจะยังถูกกัดกร่อนอย่างต่อเนื่องจากภายในสู่ภายนอก กระทั่งตายไปในที่สุด ท่านรู้วิธีการแก้คำสาปเลือดหรือไม่” ใบหน้าของเย่จิ่งหานพลันขาวซีดขึ้นมาทันตา มือทั้งสองข้างกำแน่นจนเกิดเสียงดัง ก่อนหน้านี้ เขาคิดมาตลอดว่าสิ่งที่กู้ชูหน่วนพูดคือเรื่องโกหก เขาเองก็หวังว่ากู้ชูหน่วนจะพูดโกหก แต่สายตาที่กระสับกระส่ายของนาง ไม่เหมือนกำลังพูดโกหกแต่อย่างใด สายตาของคนคนหนึ่งหลอกกันไม่ได้ นางร้อนรน เป็นความกระวนกระวายมาจากภายในที่อยากจะได้วิธีการแก้คำสาปเลือดเร็วๆ กู้ชูหน่วนกุมมือของเขา ก่อนจะเอ่ยถามอย่
พูดจบ เย่จิ่งหานก็ออกแรงโอบเอวนาง ก่อนจะโยนนางลงไปแล้วกระโจนทับนาง กู้ชูหน่วนดิ้นอยู่หลายที แต่ก็ดิ้นไม่หลุด ทว่ากลับทำให้ชุดคลุมอาบน้ำของเขาหลุด ชุดคลุมอาบน้ำที่หลุดรุ่ย เผยให้เห็นเรือนร่างที่แข็งแรงบึกบึนของเขา ผิวสองสีของเขามีหยดน้ำไหลหยดหลงมา ชวนหลงใหลเกินจะบรรยาย บนตัวเขาไม่มีเนื้อส่วนเกินแต่อย่างใด สมบูรณ์แบบจนทำให้ใครก็อิจฉา กู้ชูหน่วนกลืนน้ำลาย พูดด้วยความตกตะลึง “มีใครเคยบอกท่านหรือไม่ ว่าท่านรูปร่างดีมาก” ทั้งคู่อยู่ในท่วงท่าที่ชวนคิดไกล ระยะห่างที่ใกล้จนจมูกแทบจะติดจมูก ลมหายใจของกู้ชูหน่วนรดอยู่บนตัวเขา เย่จิ่งหานหายใจเร็วขึ้น ภายในดวงตาสะท้อนแค่รอยยิ้มหยุดโลกของกู้ชูหน่วน รวมไปถึงทุกสีหน้า ทุกอิริยาบถของนาง ทุกครั้ง นางทำให้เขาฉุนเฉียวจนเกือบถึงขีดความอดทนเสมอ แต่ทุกครั้ง เขาก็ทำใจจัดการนางให้ถึงชีวิตไม่ได้ ได้ยินคำพูดของกู้ชูหน่วน ภาพโป๊ที่เพิ่งเห็นเมื่อครู่ผุดขึ้นมาในหัวอย่างน่าประหลาด โดยเฉพาะที่กู้ชูหน่วนกลับกำลังวาดนิ้วเป็นวงกลมบนแผงอกของเขา “เจ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังเล่นกับไฟ” เย่จิ่งหานเอ่ยเตือนด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ท่านอ๋อง ท่านชอ
ตู้ม...... ทั้งคู่ตะลึงงัน มองดูภาพโป๊ที่พวกเขายื้อแย่งกันอย่างอึ้งๆ ผ่านไปสักพัก กู้ชูหน่วนกลืนน้ำลาย ก่อนจะพูดด้วยความตกใจ "ท่านอ่านวิถีหยินหยางอย่างคู่สามีภรรยายังพอว่า นี่ยังดูรูปโป๊ ให้ตายสิ...ท่านอ๋อง ดูไม่ออกเลย ท่านก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะนี่" เย่จิ่งหานอยากจะตายเสียให้ได้ เขาสาบาน ภาพโป๊เหล่านี้ เขาไม่เคยดูเลยสักหน้า ที่กู้ชูหน่วนชิงไปแล้วพลิกเปิดไปหน้านั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ เป็นหน้าแรกที่เขาได้เห็น เป็นเพราะเจ้าบ้าซูมู่คนเดียว ซูมู่บอกว่า เขากลัวว่าหลังจากที่เย่จิ่งหานถูกกู้ชูหน่วนขืนใจแล้ว จะหมดความสนใจในตัวสตรี และกลัวว่าจะเบี่ยงเบนไปโดยสิ้นเชิง ไม่เข้าใจว่าสิ่งใดเรียกว่าบุรุษบนสตรีล่าง จึงให้ภาพโป๊เล่มนี้กับเขามา ตอนที่เห็น เขาอยากจะทิ้งมันไปเสียเดี๋ยวนั้น แต่บังเอิญได้ข่าวคราวของกู้ชูหน่วน เขาจึงยุ่งวุ่นอยู่กับการตามหานาง ภาพโป๊ก็ถูกเขายัดไว้ใต้หมอนโดยไม่ได้ใส่ใจ แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงเลยว่า กู้ชูหน่วนจะมาพลิกหมอนของเขา ทั้งยังเจอภาพโป๊นี้ เหตุใดถึงได้มีเรื่องน่ากระอักกระอ่วนเช่นนี้เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ เย่จิ่งหานหน้าแดง พูดด้วยน
แสงจันทร์สุกสกาว ภายในห้องหรูและถูกตกแต่งอย่างประณีตในเรือนบรรทมจวนหานอ๋อง กู้ชูหน่วนและเย่จิ่งหานเอาแต่มองตากันปริบๆ ไม่มีใครกล้านอนก่อนใคร แสงจันทร์ส่องผ่านหน้าต่างระแนงช่องสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน สว่างไปทั่วทั้งห้อง ขณะเดียวกันก็ส่งให้ใบหน้าของพวกเขาดูอ่อนโยนขึ้นกว่าเดิม เย่จิ่งหานหัวใจเต้นตึกตัก ความนิ่งสงบ ความเผด็จการ ความเย็นชาของเขา ยามนี้หายไปโดยสิ้นเชิง มีเพียงความตื่นเต้น ตื่นเต้นจนไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี กู้ชูหน่วนอยากจะไล่เขาออกไปแทบใจจะขาด แต่กลับไม่มีเหตุผลในการไล่เขา ผ่านไปครึ่งชั่วยาม เขาเอาแต่นิ่งเงียบ ไม่พูดอะไรสักคำ เพียงแต่นั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงนั้น กู้ชูหน่วนเป่าลูกผมตรงหน้าผากด้วยความกลัดกลุ้ม ทนต่อไปอีกไหวจึงเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อน “ท่านอ๋อง ท่านไม่นอนหรือ” “ใกล้แล้ว” “เช่นนั้นก่อนนอน ท่านไม่ต้องอาบน้ำหน่อยหรือ เช่นล้างกลิ่นบนตัวท่าน” เย่จิ่งหานชะงักงัน เขามัวแต่ตื่นเต้นจนลืมเรื่องอาบน้ำไปเลย ดมกลิ่นบนตัวดู ยังได้กลิ่นคาวปลาบนตัวอยู่รางๆ เย่จิ่งหานเอ่ยเสียงเรียบ “ใครก็ได้เข้ามาอาบน้ำผลัดผ้าให้ข้าที” เรือนบรรทมกว้างใหญ่ แบ่งออกเ
เย่จิ่งหานตอบนิ่งๆ "อืม" ทำอาหารเป็นครั้งแรก ทำใหม่ไปหลายรอบ เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะถูกปากนางหรือไม่ "ด้วยฝีมือทำอาหารของท่าน มีคุณสมบัติจะเป็นผัวได้สบายๆ เลย" "ผัว ?" "ก็คือสามีนั่นแหละ" ประโยคเดียว ทำให้หัวใจของเย่จิ่งหานเบิกบานขึ้นมาอีกครั้ง เขากำลังคิดอะไรอยู่ แม้กู้ชูหน่วนจะมีจุดมุ่งหมายอื่น แต่อย่างน้อยนางก็รู้สึกต่อเขา "หากเจ้าชอบกินข้าวต้มปลา ต่อไปข้าจะทำให้กินทุกวัน" "แค่กๆ ๆ" กู้ชูหน่วนเกือบจะพ่นออกมา ท่าทางลึกซึ้งจริงจังของเขาเช่นนี้ กำลังแสร้งแสดงให้ใครดูกันแน่ จะทำให้นางกินทุกวันรึ นางไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม หรือว่าเย่จิ่งหานจะเกิดสนใจนางขึ้นมาจริงๆ อย่าเด็ดขาด นางยังอยากมีชีวิตอยู่ต่ออีกหลายปี "ท่านเป็นถึงท่านอ๋อง จะมาทำข้าวต้มปลาให้ข้ากินทุกวัน มีหรือที่ข้าจะกล้ารับไว้ ท่านควรต้มให้คนอื่นกิน" กู้ชูหน่วนตั้งใจจะบอกเป็นนัยๆ ว่าให้เขาไปต้มให้หญิงอื่นกิน เย่จิ่งหานกลับเข้าใจผิด เขามองท้องที่แบนเรียบของนางด้วยความตกตะลึง พูดท่าทางจริงจัง "จริงด้วย จะฝนตกไม่ทั่วฟ้าไม่ได้" "แค่กๆ ๆ" กู้ชูหน่วนก้มลงมองท้องของตัวเองปราดหนึ่ง ก่อนจ
ภายในห้องครัว เย่จิ่งหานสองมือไขว้หลัง ฟังชิงเฟิงรายงานอยู่เงียบๆ "นายท่าน หลังจากนายท่านไป พระชายาก็รื้อห้องหนังสือจนทั่ว ดูเหมือนกำลังหาของบางอย่าง ก่อนหน้านี้ พระชายาก็ไปที่หอสมบัติมาแล้ว และรื้อหอสมบัติจนยุ่งเหยิงไปหมด แต่นางก็ออกมามือเปล่า น่าจะหาสิ่งที่นางต้องการไม่เจอ" "ข้าน้อยยังสืบหาไม่ได้ว่าพระชายาต้องการสิ่งใด และสืบหาไม่เจอว่าผู้ใดบังคับนางหรือไม่" "นายท่าน จะให้เรียกนางมา แล้วซักถามนางหรือไม่" เจี้ยงเสวี่ยมองบนใส่ชิงเฟิงไปทีหนึ่ง มาถึงขนาดนี้แล้ว เจ้าโง่ชิงเฟิงยังไม่ยอมรับความจริงอีก ท่านอ๋องใส่ใจความรู้สึกพระชายากว่าผู้ใด จะซักถามนางต่อหน้าผู้คนให้นางเสียหน้าในจวนได้อย่างไร ไม่แปลกใจเลยที่พระชายามักจะบอกว่าชิงเฟิงโง่ เย่จิ่งหานตอบนิ่งๆ "ไม่ว่านางจะไปที่ใด ต้องการหาสิ่งใด ตามนางไปทุกที่ สังเกตทุกความเคลื่อนไหวของนาง อย่าให้นางรู้ตัว" "ขอรับ" เมื่อเห็นเย่จิ่งหานเดินไปริมบ่อปลา ชิงเฟิงจึงพูดด้วยความลังเล "นายท่าน คงไม่ได้จะจับปลามาฆ่าและจัดการกับมันจริงๆ หรอกกระมัง" "เจ้ามีปัญหา ?" "ข้าน้อยมิบังอาจ งานยิบย่อยเช่นนี้ ข้าน้อยทำก็ได้" ช
นี่ใช่ประเด็นเสียที่ไหนกัน ประเด็นสำคัญคือ หากเขาไม่ออกไปจากห้องหนังสือ เช่นนั้นนางจะหาม้วนหนังแกะโบราณได้อย่างไร เย่จิ่งหานเก็บห้องหนังสือท่าทางคล่องแคล่วอยู่ตรงหน้า กู้ชูหน่วนได้แต่กลัดกลุ้ม สองมือท้าวคาง ดวงตาใสเป็นประกายคู่นั้นกลอกไปมา "ท่านอ๋อง ข้านอนไม่หลับ อยากจะชมจันทร์ที่นี่ ท่านกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ" "เช่นนั้นข้าจะอยู่ชมจันทร์กับเจ้า" "……" เย่จิ่งหานถอดผ้าคลุมตัวนอกออก แล้วคลุมบนตัวนางด้วยความใส่ใจ กู้ชูหน่วนกัดฟันทน "ท่านอ๋อง พรุ่งนี้ไม่ต้องไปเข้าเฝ้าหรือ" "ไม่ไปแล้ว อยู่กับเจ้าแทน" "จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร ยามนี้แคว้นเย่และแคว้นหวามีศึกใหญ่ ท่านเป็นถึงเทพสงคราม ควรจะให้ความสำคัญกับเรื่องบ้านเมือง แม้ฮ่องเต้จะทำผิดต่อท่าน ท่านก็ต้องคำนึงถึงประชาชนไม่ใช่หรือ ข้าแนะนำให้ท่านรีบกลับไปพักผ่อน พรุ่งนี้จะได้ไปท้องพระโรงด้วยความกระปรี้กระเปร่าและแจ่มใส" "วางใจเถอะ แคว้นหวาฮุบแคว้นเย่ไม่ได้หรอก" เย่จิ่งหานสายตาเฉยชาขึ้นมาแวบหนึ่ง ก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็ว "เช่นนั้นท่านจงใจให้ฮ่องเต้ปวดหัวหมดหนทาง ถึงเวลาจำต้องมาขอร้องท่านใช่หรือไม่" "อาหน่วน เรื่องบ้
น้ำเสียงของเย่จิ่งหานมีความอ่อนโยนอย่างที่เห็นได้ไม่ง่ายนัก "ข้าหวังว่านางจะอ่อนโยน เชื่อฟังสักหน่อย ไม่เอาแต่หว่านเสน่ห์ไปทั่ว ดึงดูดผึ้งแมลงมาดอมดม" กู้ชูหน่วนพยักหน้าราวกับเป็นเรื่องใหญ่ "สิ่งนี้จำเป็นยิ่งนัก ไม่ว่าชายใด ล้วนแต่ไม่ชอบสตรีหลายใจรักคนง่ายทั้งนั้น" เย่จิ่งหานคิดว่า กู้ชูหน่วนต้องการจะบอกเขาว่า นางกำลังเตรียมตัวจะกลับเนื้อกลับตัว ต่อไปจะอยู่ในจวนอ๋องด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่เที่ยวทำตัวคลุมเครือกับเซียวอวี่เชียน ซือม่อเฟยและคนอื่นๆ อีก ความคับแค้นขุ่นเคืองที่ผ่านมาหลายวันพลันหายเป็นปลิดทิ้ง "ท่านอ๋อง รอวันพรุ่ง ข้าจะมอบของขวัญให้ท่าน" "อ่อ...ของขวัญใด" เย่จิ่งหานเกิดความสนใจ ทั้งยังรู้สึกยินดีขึ้นมาเล็กน้อย ไม่เสียแรงที่เขาสูญเสียกำลังภายในไปมากมายเพื่อนาง บนเขาโลหิตน้ำเต้า ที่กู้ชูหน่วนช่วยเขาถอนพิษไปได้ครึ่งเดียวแล้วชวดหนีไป เดิมเขาตั้งใจจะสะสางกับนาง แต่เห็นจากการกระทำของนางตอนนี้ เรื่องก่อนหน้าก็ถือว่าหายกันไปแล้วกัน "อิอิ ความลับ ถึงเวลาท่านก็จะรู้เอง" สายตาของนางกู้ชูหน่วน ขึ้นชื่อว่าแหลมคมยิ่งนัก หญิงสาวที่ผ่านการคัดเลือกจากนาง ทุกคนจะ
หรือคุณหนูจะเปลี่ยนไปแล้ว พระเจ้าช่วย นิสัยของคุณหนูเหตุใดถึงได้เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา นางเพิ่งจะรับได้ คุณหนูก็เปลี่ยนไปอีกแล้ว เมื่อใกล้ถึงห้องหนังสือ ผู้ดูแลเอ่ยเตือนอย่างระแวดระวัง "พระชายา ท่านอ๋องยังไม่เข้าบรรทม เวลานี้ยังดูหนังสืออยู่ด้านใน จะแจ้งท่านอ๋องสักหน่อยไหม" เดิมกู้ชูหน่วนตั้งใจจะรอหลังเย่จิ่งหานเข้านอนแล้ว ค่อยมาหาดูให้ละเอียด แต่เมื่อนึกถึงชาวเผ่าอวี้ขึ้นมา นางก็กัดฟันทน มุ่งหน้าไปที่ห้องหนังสือ ทิ้งท้ายไว้เพียงประโยคเดียว "ไม่ต้องบอกหรอก พวกเจ้าออกไปให้หมด ข้าจะเข้าไปเอง" ชิวเอ๋อร์เหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ ที่แท้คุณหนูก็ใส่ใจท่านอ๋องอยู่เหมือนกัน ในที่สุดคุณหนูก็คิดได้ รู้เสียทีว่าต้องเอาใจท่านอ๋อง ผู้ดูแลโบกมือ บ่าวรับใช้ทุกคนพากันกลับไปจนหมด ชิวเอ๋อร์เองก็ถอยออกมาอย่างรู้งาน คอยกู้ชูหน่วนอยู่ไกลๆ "แอ๊ด..." ประตูห้องหนังสือถูกเปิดออก กู้ชูหน่วนพูดด้วยรอยยิ้ม "ท่านอ๋อง ยังไม่นอนอีกหรือ" เย่จิ่งหานนั่งอยู่ริมหน้าต่าง จุดตะเกียงอ่านหนังสือ เมื่อได้ยินเสียงกู้ชูหน่วน ก็เงยหน้าขึ้นมา "ดึกขนาดนี้แล้ว มาหาข้ามีเรื่องใดรึ" กู้ชูหน่วน