แชร์

กลิ่นหอมจางๆ

ผู้เขียน: จันทร์ส่องแสง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-06 08:43:39

ณ ตำหนักบูรพา แดดยามบ่ายเริ่มทอดเงาทาบปลายชายม่าน เมื่อซางหลางนั่งทอดอารมณ์อยู่บนศาลาริมระเบียง ลมเช้าพัดเอื่อย กลิ่นดอกไม้เจือจางในอากาศ เขายกน้ำชาขึ้นจิบช้า ๆ สายตาหรี่ลงเล็กน้อยอย่างครุ่นคิดถึงเรื่องเมื่อคืนรอยยิ้มของไป๋ฮวายังตรึงใจเขา

เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นก่อนที่เว่ยจินจะก้าวเข้ามาอย่างสง่างาม ริมฝีปากเผยรอยยิ้มน้อยๆ มือหนึ่งถือดอก จื่อหลาน เขาหมุนดอกไม้ในมือเล่นก่อนจะเอ่ยขึ้นช้า ๆ

“แปลกดีนะ ซางหลาง ท่านว่าหญิงสาวที่ตื่นเช้า รดน้ำต้นไม้ สูดกลิ่นดอกไม้ จะเป็นคนแบบไหนกัน”

ซางหลางปรายตามองอย่างสงสัย

“เจ้าพูดอะไรคลุมเครืออีกแล้วเว่ยจิน ดอกไม้ในมือเจ้าคืออะไรกันแน่ตั้งใจจะบอกอะไรข้า”

“ดอกจื่อหรานอย่างไรเล่าเจ้าไม่รู้จักมันหรือ” เว่ยจินยิ้มหวานแต่ดวงตาเป็นประกายขำขัน

“ดอกไม้จากสวนทางทิศเหนือของจวนอ๋องไร้พ่าย ข้าเด็ดมาตอนเช้ามืดยามเหมา…พร้อมกับได้พบหญิงงามนางหนึ่งถือว่ากำไร ดีนะที่ท่านลุงอนุญาตไห้ข้าค้างที่จวนอ๋องไร้พ่ายได้”

ซางหลางชะงัก ดวงตาเงียบขรึมพลันเปลี่ยนสี

“หญิงงาม เจ้าหมายถึงไป๋ฮวาอย่างนั้นหรือ”

“ก็นะ” เว่ยจินยิ้มเย้าอย่างจงใจ

“ท่านว่า ดอกไม้หรือรอยยิ้มของนางที่ข้าได้มาใ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ใครกล้าสบตาท่านกันพี่สาว

    แสงแดดยามสายอ่อนสาดลอดม่านโปร่งเบา ร่วงโรยบนเรือนผมดำขลับของอี้หลินที่นั่งอยู่หน้ากระจกทองเหลืองในเรือนรับรองที่ห่างออกจากจวนอ๋องไร้พ่ายอย่างเป็นส่วนตัว เสียงหวีไม้ไผ่ลากผ่านเส้นผมเนิบนาบดั่งบทเพลงกล่อมใจอี้เหยาสางเส้นผมของอี้หลินอย่างแผ่วเบา ใบหน้าของนางเปี่ยมด้วยความตั้งอกตั้งใจ ท่าทีทะเล้นสดใสในยามปกติมลายหายไป เหลือเพียงความอ่อนโยนอบอุ่นในแววตา"พี่สาวคนงามของข้า... วันนั้นห้ามแผดเสียงตำหนิใครเชียวนะเจ้าคะ งานเลี้ยงน้ำชาที่จวนอ๋องไร้พ่าย ผู้คนมากหน้าหลายตา พี่จะต้องเป็นดอกไม้สง่างามที่สุด" อี้เหยากระซิบหยอกเบาๆ แล้วยิ้มสดใสอี้หลินปรายตายิ้มๆ ยอมให้น้องสาวจัดแต่งทุกอย่างตามใจ ครั้นผมถูกรวบขึ้นหลวมๆ ประดับปิ่นหยกขาวสลักลายกลีบบัว ก็เผยความสง่างามในแบบสงบเย็นอย่างที่หาได้ยาก“ข้า... ไม่อยากไปงานเลี้ยงน้ำชานั่นหรอก” อี้เหยายิ้มบางๆ"ข้าชอบอยู่เงียบๆ ในงานคงวุ่นวายนัก... มีแต่เสียงจ้อกแจ้ก ผู้คนมากมาย น่าปวดหัว" อี้หลินพึมพำ "แต่นี่ไม่ใช่พระราชพิธีไม่ได้มีอะไรเป็นทางการเสียหน่อย... แต่เพื่อมิตรภาพ...เพื่อให้พี่ได้พบใครสักคนที่อาจทำให้พี่ไม่อยากอยู่เงียบๆ คนเดียวอีกต่อไปก็ได้นะเจ้าคะ

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   กลิ่นหอมจางๆ

    ณ ตำหนักบูรพา แดดยามบ่ายเริ่มทอดเงาทาบปลายชายม่าน เมื่อซางหลางนั่งทอดอารมณ์อยู่บนศาลาริมระเบียง ลมเช้าพัดเอื่อย กลิ่นดอกไม้เจือจางในอากาศ เขายกน้ำชาขึ้นจิบช้า ๆ สายตาหรี่ลงเล็กน้อยอย่างครุ่นคิดถึงเรื่องเมื่อคืนรอยยิ้มของไป๋ฮวายังตรึงใจเขาเสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นก่อนที่เว่ยจินจะก้าวเข้ามาอย่างสง่างาม ริมฝีปากเผยรอยยิ้มน้อยๆ มือหนึ่งถือดอก จื่อหลาน เขาหมุนดอกไม้ในมือเล่นก่อนจะเอ่ยขึ้นช้า ๆ“แปลกดีนะ ซางหลาง ท่านว่าหญิงสาวที่ตื่นเช้า รดน้ำต้นไม้ สูดกลิ่นดอกไม้ จะเป็นคนแบบไหนกัน”ซางหลางปรายตามองอย่างสงสัย “เจ้าพูดอะไรคลุมเครืออีกแล้วเว่ยจิน ดอกไม้ในมือเจ้าคืออะไรกันแน่ตั้งใจจะบอกอะไรข้า”“ดอกจื่อหรานอย่างไรเล่าเจ้าไม่รู้จักมันหรือ” เว่ยจินยิ้มหวานแต่ดวงตาเป็นประกายขำขัน “ดอกไม้จากสวนทางทิศเหนือของจวนอ๋องไร้พ่าย ข้าเด็ดมาตอนเช้ามืดยามเหมา…พร้อมกับได้พบหญิงงามนางหนึ่งถือว่ากำไร ดีนะที่ท่านลุงอนุญาตไห้ข้าค้างที่จวนอ๋องไร้พ่ายได้”ซางหลางชะงัก ดวงตาเงียบขรึมพลันเปลี่ยนสี “หญิงงาม เจ้าหมายถึงไป๋ฮวาอย่างนั้นหรือ”“ก็นะ” เว่ยจินยิ้มเย้าอย่างจงใจ “ท่านว่า ดอกไม้หรือรอยยิ้มของนางที่ข้าได้มาใ

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   สองรัก

    ไป๋ฮวากำลังยืนอยู่ริมระเบียงห้องของตน มือบางยื่นไปรับเกล็ดหิมะที่ตกลงมาทีละน้อย ดวงตากลมโตจ้องมันราวกับเด็กน้อยไม่เคยเห็นมาก่อนเสียงฝีเท้าแผ่วเบาเดินเข้ามาใกล้จากด้านหลังก่อนที่เสื้อคลุมตัวหนาและอุ่นจะถูกวางลงบนไหล่ของนางอย่างแผ่วเบา“วันนี้ข้าทำใจแข็ง ไม่คิดถึงเจ้าเสียทั้งวัน แต่พอหัวถึงหมอน ก็เห็นแต่หน้านี้…ดวงตาคู่นี้…เสียงเจ้านินทาข้าอยู่ในหัวไม่หยุดเลย”ไป๋ฮวาหลุดหัวเราะคิก “ข้าไป๋ฮวากล้านินทาท่านด้วยหรือ”ซางหลางถอนหายใจ “เจ้าพูดกับเจ้ากบนั่นว่า…ไท่จือซางหลางไม่มีหัวใจ ไม่รู้จักเอาใจเจ้า ไม่เคยพูดคำหวาน…” ไป๋ฮวาก้มหน้าเขินอาย“แล้วตอนนี้ล่ะ”เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้จนปลายจมูกเกือบแตะกัน“ข้าพอจะผ่านเงื่อนไขของคุณหนูไป๋หรือยัง?”ไป๋ฮวาหน้าแดงจัดเหมือนถูกไฟลวก กำลังจะเบือนหน้าหนี แต่กลับถูกมือแกร่งจับปลายคางให้สบตานิ่ง“คืนนี้…ให้ข้าอยู่กับเจ้าเงียบ ๆ ได้หรือไม่ ข้าแค่อยากฟังเสียงหายใจของเจ้า…ใกล้ ๆ”ไป๋ฮวาพยักหน้าเบา ๆซางหลางยิ้มมุมปาก…ยิ้มที่น้อยคนนักจะได้เห็นกลีบดอกเหมยแห้งปลิวตามลม สะท้อนแสงจันทร์จาง ๆ ราวกับฝันไป๋ฮวายืนส่งซางหลางหน้าห้องซางหลางหันกลับมามองนางอีกครั้ง ร่า

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ใจตรงกัน

    ค่ำคืนนี้...จวนอ๋องไร้พ่ายเงียบสงัด ใต้แสงจันทร์สาดต้องพื้นหิน ท้องฟ้าฉาบสีเงินหม่น ไร้แม้เสียงจิ้งหรีดรบกวนเงาหนึ่งไหวผ่านชายหลังคา...รวดเร็วดุจสายลม กลิ่นบุรุษผู้สูงศักดิ์แฝงมากับอาภรณ์ดำสนิท เสื้อคลุมพาดไหล่ปลิวไสวตามแรงลม เส้นผมยาวถูกรวบไว้หลวม ๆ ใบหน้าขรึมคมทว่าหล่อเหลาอย่างที่สุด จนแสงจันทร์ยังต้องเกรงใจ ซางหลาง แห่งแคว้นเป่ยเหลียง ลอบเข้าจวนอ๋องไร้พ่ายในยามวิกาลมาสืบเข่าวหรือก็เปล่าแต่เพื่อหัวใจเขาที่หลุดลอยไปหาใครบางคน“เจ้าขันทีเสี่ยวหลันตัวดีบอกว่าไป๋ฮวาพักตำหนักตะวันออก...แต่เจ้าแมวเหมียวตัวนั้นก็นอนอยู่ตรงชานหน้าห้องนี่ไม่ใช่หรือ...” ซางหลางพึมพำในลำคอ ขณะย่องเปิดประตูเข้าไป“แค่จะดูว่านางหลับดีหรือไม่...จะได้กลับออกไปเงียบ ๆ ไม่ให้ใครรู้ตัว”เสียงเปิดประตูทำให้คนที่นอนบนแท่นนอนขยับตัว “หืม ใครน่ะ”ซางหลางชะงัก ใจหายวาบ เมื่อเห็นคนที่นอนขดอยู่บนเตียงไม่ใช่ใครอื่นแต่คือ ไป๋อวี้ น้องชายฝาแฝดของไป๋ฮวานั่นเอง“ท่าน...ท่านไท่จือ ท่านพี่ไท่จือซางหลางท่านเข้ามาทำไมในห้องข้า” ไป๋อวี้ลุกพรวดขึ้นมา ผมเผ้ายุ่งเหยิง หน้าตางัวเงียจนซางหลางต้องเม้มปากกลั้นหัวเราะ“เงียบ” ซางหลางปิดป

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ปั่นป่วนหัวใจ

    ในยามสายของวันหนึ่งที่ลมพัดอ่อนละมุนไปทั่วลานหินหน้าจวนอ๋องไร้พ่าย แสงแดดสีทองโปรยปรายลงมาผ่านต้นซินฮวาเก่าแก่ กลีบใบสะบัดเบาเมื่อสายลมลูบไล้ราวมือของสตรีบอบบางผู้หนึ่งไป๋อวี้นั่งอยู่ลำพังใต้ร่มไม้ ดวงตาสีเข้มทอดมองหยกสองชิ้นในมือซ้ายขวา เขายกมันขึ้นประคองอย่างแผ่วเบา ยามนำมาประกบกัน ลายดอกเหมยที่งดงามจะสมบูรณ์ในครานั้น… จู่ ๆ หัวใจของเขาก็เต้นแรงอย่างไม่ทราบสาเหตุเขาเพ่งมองหยกด้วยแววตาลึกซึ้ง หยกชิ้นหนึ่ง เป็นของเขาเองที่ติดตัวมาตั้งแต่วัยเยาว์ อีกชิ้น…เป็นของสตรีนางนั้นหญิงอัปลักษณ์ที่ทำให้เขาสนใจนางอยู่ตลอดหญิงผู้มีใบหน้าอัปลักษณ์…แต่ในแววตานั้น มีแสงสว่างบางอย่างที่ตรึงเขาไว้ขณะที่กำลังจมดิ่งอยู่ในภวังค์ เสียงฝีเท้าฉับไวของขันทีหนุ่มก็ดังขึ้นข้างหลัง“ท่านอ๋อง! ข้าน้อยหยุนเจ๋อมาแล้วขอรับ”“ไมาไม่ให้สุ้มให้เสียง”“เอ่ขอประทานอภัยขอรับแต่ว่าเอ่อ นี่คือขนมเปี๊ยะฮวา ที่คุณหนูอี้เหยาเพียรทำด้วยตัวเอง บอกว่าอยากให้ท่านลิ้มลอง…ให้คนใส่เกี้ยวส่งมาถึงนี่”ขันทีหนุ่มหอบหายใจยื่นกล่องขนมไม้อย่างดีให้ ข้างในบรรจุขนมเปี๊ยะฮวารูปดอกเหมยประณีต กลิ่นหอมของแป้งขาวบางผสมน้ำตาลผึ้งอ่อน ๆ ฟุ้งขึ้

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   อี้หลิน

    ที่กลางโต๊ะวางถ้วยชาจีนเนื้อโปร่ง ประดับลายเถาดอกเหมยล้อแสงเงาไหวระริก กลิ่นชาดอกหมื่นปีลอยกรุ่นละมุนทั่วห้องเจียวหยูในอาภรณ์เรียบง่ายนั่งกุมถ้วยชาในมือ ดวงหน้าอ่อนกว่าวัยแต้มรอยยิ้มจาง ยกถ้วยชาขึ้นจิบเบาๆฝั่งตรงข้ามคือสามีของตงเกา ที่ยังแฝงไว้ด้วยความสงบ เยือกเย็นแม้เคยผ่านสมรภูมิหลายแห่งเขาวางเทียบเชิญงานเลี้ยงน้ำชาด้วยลายมืองดงามของอ้ายเฉิงลงบนโต๊ะด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม“นายหญิงอ้ายฉิงยังลงมือเขียนเทียบเชิญด้วยตัวเองสินะ” เจียวหยูยิ้ม“นายหญิงผู้ใส่ใจในทุกเรื่องราวหมดจดงดงามยิ่งกว่าใคร” เจียวหยูสำทับเบาๆ"ฮูหยินเจ้าที่ไม่คิดอะไร แต่ข้ากลับคิดไม่ตก… เทียบเชิญจากท่านอ๋องเฉิงอู๋มาถึงแล้ว แต่นี่ยังไม่เห็นเงา อี้หลิน เลย นางตั้งใจจะไม่มางานจริงหรือครั้งนั้นที่เราเข้าไปคารวะท่านอ๋องกับพระชายาอ้ายฉิงนางก็ไม่มา ข้าหนักใจกับลูกคนนี้เสียจริง"เจียวหยูทอดถอนใจเบา ๆ"ข้าก็จนปัญญา นางไม่แม้แต่ส่งนกพิราบสื่อสารกลับมา ข้าคิดว่านางคงแอบซ่อนตัวอยู่ในป่าไผ่ใกล้หุบเขาชิงอวิ๋นขี่ม้าล่าสัตว์เล่นสนุกกับพวกชนเผ่า ตามนิสัยเดิม…"พลางวางถ้วยชาลงอย่างแผ่วเบา"อี้หลิน… ลูกสาวของเราแม้จะบอกว่าเหมือนข้าแต่กลับไ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status