เหลียนฮวาหลานสาวของแม่นมของท่านอ๋องหรู่หยาง ผู้ที่มาอาศัยอยู่ในจวนท่านอ๋องหรู่หยางผู้แสนจะเย่อหยิ่ง เกิดถูกเข้าใจว่าวางยาปลุกกำหนัดเขา จนตกเป็นของอ๋องหนุ่ม ทั้งที่เขาไม่ได้สนใจใยดีนางมาก่อน และก็มิอาจจะรับผิดชอบใดๆนางได้เพราะฐานะของนางไม่่คู่ควรกับเขา เหลียนฮวาจึงแบกร่างอันบอบช้ำจากไป โดยสัญญาว่าจะไม่มารบกวนใจของเขาอีก แต่กลับกลายเป็นว่าท่านอ๋องหรู่หยางกลับเป็นฝ่ายไปวอแวนางเอง จนกระทั่งกลับกลายมาเป็นชายาที่เขาเองแสนจะเต็มใจยกย่องนาง เรื่องราวความรักที่สถานะแตกต่างกันมากเช่นนี้จะลงเอยได้อย่างไร เอาใจช่วยเหลียนฮวานางเอกของเราไปด้วยกันนะคะ
View Moreเหลียนฮวา เป็นหลานสาวแม่นมเหลียนที่เลี้ยงดูท่านอ๋องหรู่หยางมาตั้งแต่เล็ก เพราะพระสนมหยูพระมารดาของท่านอ๋องหรู่หยางสุขภาพไม่แข็งแรงนักหลังจากคลอดเขาออกมาแล้ว นางก็เจ็บป่วยกระเสาะกระแสะเรื่อยมา ท่านอ๋องหรู่หยางจึงได้ที่แม่นมเหลียนเลี้ยงดูเขามาจนเติบใหญ่
บัดนี้เขาแยกตำหนักมาเป็นของตนเองแล้ว ไม่ได้พำนักอยู่ในวังหลวงดังเช่นตอนเป็นเด็กอีกต่อไป เพราะเขาเข้ารับราชการช่วยเหลือราชกิจของเสด็จพ่อของเขา และได้ทำความดีความชอบหลายครั้งๆทั้งเรื่องไขคดีทุจริตที่ซับซ้อน
และสืบหาคนที่ฉ้อราษฎร์บังหลวงในคดีสำคัญๆหลายคดีมารับโทษ ทำให้เขาเป็นที่ไว้วางพระทัยจากฮ่องเต้เป็นอย่างมาก จนได้รับพระราชทานรางวัลเป็นจวนหลังใหญ่และทรัพย์สินเงินทองอีกมากมาย
เขาจึงได้ย้ายออกมาพำนักที่ตำหนักของตนเองนอกวังหลวงมาหลายปีแล้ว โดยมีแม่นมเหลียนตามออกมาพำนักในตำหนักของเขาด้วย โดยเขาสร้างเรือนหลังเล็กให้อยู่เป็นสัดส่วนของตนเอง เพราะแม่นมก็ชราขึ้นมากแล้ว
แม่นมเหลียนมีหลานสาวคนหนึ่ง นางเป็นสตรีที่งดงามมาก ยิ่งเติบใหญ่ยิ่งงดงาม แต่นางนั้นกลับไม่ยอมรับการหมั้นหมายกับชายหลายๆคนที่ส่งแม่สื่อมาทาบทามนาง มีทั้งที่เป็นขุนนางและบุรุษที่มีฐานะร่ำรวยในเมืองนี้
ที่เมื่อได้พบนางก็เกิดพึงใจและส่งคนมาสู่ขอ แต่เหลียงหรูอี้ปฏิเสธบุรุษเหล่านั้นไปจนหมดเพราะในใจของนางนั้นมีเพียงท่านอ๋องหรู่หยาง
แม้นางจะรู้ว่าสิ่งที่นางใฝ่ฝันมันเกินตัวไปมาก นางเป็นเพียงหลานสาวของแม่นมของเขา ที่ไม่มีอะไรที่คู่ควรกับเขาเลยสักนิด นางเป็นเพียงสตรีกำพร้าอาศัยอยู่กับป้าก็คือแม่นมเหลียน
เพราะบิดาของนางที่เป็นน้องชายของป้าเหลียนเสียชีวิตไปแล้ว นางจึงไร้ที่พึ่งพิงได้แต่ขึ้นรถม้าที่ท่านป้าเหลียนแม่นมของท่านอ๋องหรู่หยางส่งไปรับนางมาจากบ้านนอกเพราะนางไม่มีญาติมิตรที่ไหนที่จะดูแลนางได้อีก นอกจากแม่นมเหลียนที่เป็นป้าของนางเพียงเท่านั้น
แม้นางจะพยายามซ่อนความในใจของตนเองเอาไว้เพราะเกรงว่าจะไม่สมควร แต่อ๋องหนุ่่มก็รับรู้ได้ว่านางมีใจให้กับตน แต่เขาก็มิได้ตอบสนองใดๆ เพราะมิได้คิดอันใดกับนาง ปกติอ๋องหนุ่มก็มิใคร่ได้สนใจสาวใช้หรือผู้คนที่อยู่ในจวนของเขานัก
วันนี้มีคุณหนูซ่งม่านอี้สตรีอีกนางที่หลงรักท่านอ๋อง และเทียวไปเทียวมาที่ตำหนักของเขาอยู่บ่อยครั้ง วันนี้นางมาพบท่านอ๋องหรู่หยางที่จวนของเขาเช่นเคย
เมื่อพ่อบ้านของจวนที่ก็เริ่มจะเคยชินแล้วที่คุณหนูซ่งม่านอี้มักจะเทียวมาพบท่านอ๋องที่จวนแห่งนี้ จึงได้บอกว่าท่านอ๋องทำงานอยู่ในห้องหนังสือที่สร้างเป็นเรือนหลังเล็กแยกต่างหากจากหมู่เรือนของเขาที่สร้างเรียงรายกันเป็นหมู่ใกล้กับเรือนหลักที่เป็นที่พำนักของเขา
เรือนที่เป็นห้องหนังสือที่ท่านอ๋องมักจะใช้นั่งทำงานสร้างอยู่กลางบึงบังขนาดไม่ใหญ่นัก มีสะพานไม้ยาวทอดจากตัวเรือนไปจนถึงท่ี่ทางเดินระหว่างตัวเรือนต่่างที่มีหลังคาคลุมเอาไว้ตลอดแนว หรือไม่ก็อาจจะเดินจากบันไดทางขึ้นที่ในสวนได้อีกทางหนึ่ง
คุณหนูซ่งตัดสินใจว่าวันนี้นางจะต้องเผด็จศึกท่านอ๋องให้ได้ เพื่อที่นางจะได้แต่งเป็นชายาของเขาสมใจเสียที เพราะนางเทียวมาที่จวนของเขาจนเริ่มเป็นที่ครหาแล้ว แต่เขาก็ไม่มีทีท่าใดๆตอบเลยแม้แต่น้อย
นางจึงผสมยาปลุกกำหนัดเอาไว้ในน้ำแกงบำรุงที่นางยกมาให้กับท่านอ๋องหรู่หยาง โดยสาวใช้ของนางถือตระกร้าสานที่ใส่โถน้ำแกงนั้นเข้าไปให้เขาถึงในห้องหนังสือ
เมื่อเขาอนุญาตแล้ว นางจึงได้เปิดประตูเข้าไปในห้องพร้อมกับสาวใช้ที่ถือตระกร้าสานตามนางเข้าไป “ ท่านอ๋องเพคะ ม่านอี้นำน้ำแกงบำรุงกำลังมาถวายเพคะ หม่อมฉันเคี่ยวมันกับมือรสชาติดีมากนะเพคะ ดื่มแล้วรับรองว่าร่างกายจะแข็งแรงและสดชื่นขึ้นมากเลยเพคะ
เมื่อวันก่อนหม่อมฉันได้ตัวยาอย่างชั้นดีมาจากสหายที่ไปต่างเมืองมา จึงได้แบ่งมาต้มเป็นน้ำแกงให้ท่านอ๋องได้ดื่มด้วยเพคะ หม่อมฉันได้ลองดื่มมันแล้วรสชาติดีและสรรพคุณดีจริงๆเพคะ ” นางบอกเล่ากับเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
ท่านอ๋องหนุ่มยิ้มให้นางอย่างอารมณ์ดี “ ขอบใจนะ เอาวางไว้ก่อน เปิ่นหวางอ่านหนังสือฉบับนี้จบแล้ว จะดื่มมันเอง วันนี้เจ้ามีธุระอันใดกับเปิ่นหวางหรือไม่
หากเจ้าไม่มีอะไรคงต้องรบกวนเจ้ากลับไปก่อน เพราะวันนี้เปิ่นหวางมีนัดหมายกับท่านแม่ทัพกังด้วยเรื่องสำคัญมากที่จะต้องปรึกษากัน อีกครู่เขาก็คงจะมาถึงแล้ว
” ท่านอ๋องหนุ่มเอ่ยปากให้นางกลับไปก่อน โดยใช้ข้ออ้างว่าเขาติดมีนัดหมายแล้ว แม้เขามิได้รังเกียจนางแต่ก็มิได้พึงใจนาง แต่จะตัดรอนไปตรงๆเขาก็เกรงใจบิดาของนางที่เป็นพระอาจารย์ของเขาอีกด้วย เขาไม่อยากให้ความหวังนาง เพราะตอนนี้เขาเองก็ยังไม่อยากจะรับสตรีใดเข้าจวนเพราะมีราชกิจยุ่งวุ่นวายมาก
เมื่อซ่งม่านอี้ได้ยินดังนั้น นางจึงจำต้องขอตัวกลับไปก่อน แต่นางก็วิตกกังวลอย่างมากเพราะในน้ำแกงมียาปลุกกำหนัด นางจึงยังอ้ำอึ้งไม่ยอมกลับ เพราะต้องพบพานอุปสรรคที่มิได้คาดคิดมาก่อน แต่ดวงตาคู่คมของท่านอ๋องจ้องมองนางนิ่ง เหมือนบอกเป็นนัยๆ ว่าเขาชักจะไม่พอใจที่นางมัวแต่ชักช้าไม่ยอมทำตามสิ่งที่เขาเพิ่งบอกกับนาง
ม่านอี้พะวักพะวง แต่ก็ทำอะไรมิได้แล้ว จะขอนำมันกลับไปด้วยก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะหากทำเช่นนั้นเขาจะยิ่งสงสัย ประกอบกับขณะนี้ท่านอ๋องกำลังยกมันเทลงในถ้วยตรงหน้าเขา “ ท่านอ๋องเพคะ…”
อ๋องหนุ่มหยุดมือที่กำลังยกโถน้ำแกงเทลงในถ้วยตรงหน้า น้ำแกงอุ่นกำลังดีมันมีควันลอยกรุ่นดูน่าดื่มนัก “ มีอะไรหรือคุณหนูซ่ง ” ซ่งม่านอี้ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงจำต้องปล่อยให้เป็นไปตามชะตากรรม “ ไม่มีอะไรเพคะ หม่อมฉันขอทูลลาก่อน ” แล้วนางก็ยอมออกไปจากห้องหนังสือพร้อมกับสาวใช้ที่ต่างก็เหงื่อตกพอๆกัน
ระหว่างทางก็สวนกับแม่ทัพกังเข้าพอดี ท่านอ่องหรู่หยางมิได้โกหกหรือหาข้ออ้างไล่นาง แต่เขามีธุระกับแม่ทัพกังจริงๆ คุณหนูสาวจึงได้ยอมขึ้นรถม้ากลับไป เพราะไม่มีประโยชน์ใดอีกแล้ว เรื่องฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัดนั่น นางจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เสียก็แล้วกัน
ยืนกระต่ายขาเดียวไปเลยว่าไม่รู้ และท่านพ่อก็คงพอจะเป็นเกราะกำบังให้นางได้ คุณหนูสาวคิดอย่างปลงตก เพราะตอนนี้นางก็นึกหาทางแก้ไขใดๆ ไม่ออกจริงๆ นางคิดแผนการณ์เอาไว้เพียงแค่นั้น แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะล้มเหลวผิดแผนไปหมดเช่นนี้
ส่วนแม่ทัพกังก็เคาะประตูก้าวเข้าไปในห้องหนังสือของท่านอ๋องหนุ่ม ทำให้ท่านอ๋องยังมิทันได้ยกถ้วยน้ำแกงขึ้นดื่ม เขาวางมันลงไปตามเดิมแล้วปิดฝาถ้วยเอาไว้ “ ท่านแม่ทัพมาพอดี หนังสือที่เปิ่นหวางจัดการให้ท่าน ตามที่ท่านต้องการอยู่นี่แล้ว ” เขาหยิบหนังสือฉบับหนึ่งในหลายๆฉบับตรงหน้าส่งให้กับแม่ทัพกัง ที่รับมันมาแล้วเปิดอ่านทันที เขานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“ ถ้าเช่นนั้นกระหม่อมขอตัวก่อน เพราะจะต้องรีบไปเตรียมตัวไปค่ายทหารที่ชายแดนในวันนี้เลย ” เขาคำนับท่านอ๋องพร้อมกับขอตัวลากลับไปจวนแม่ทัพก่อน เพราะจะต้องรีบไปทำภารกิจที่ได้รับมอบหมาย จากองค์ฮ่องเต้ที่รับสั่งมากับท่านอ๋องหรู่หยางในเรื่องสำคัญเกี่ยวกับกองทัพบางอย่าง
เมื่อลับกายท่านแม่ทัพกังแล้ว ท่านอ๋องจึงได้เปิดถ้วยน้ำแกงแล้วยกมันขึ้นมาดื่ม เขารู้สึกว่ารสชาติน้ำแกงนี้ดีไม่น้อย สมคำอวดอ้างของคุณหนูซ่งบุตรีของท่านราชครูอาจารย์ของเขา อ๋องหนุ่มดื่มเทน้ำแกงในโถดื่มไปถึงสามถ้วย แล้วจึงได้วางมันลง แล้วก้มหน้าลงนามในหนังสือตรงหน้าต่อ
อีกหนึ่งเดือนต่อมา การแต่งงานของท่านเจ้ากรมยุติธรรมกับเมิ่งลี่หลินอดีตน้องสาวก็เกิดขึ้น ทั้งสองแต่งงานกันโดยจัดพิธีการที่เรียบง่ายมาก เพราะอยากจะจัดพิธีเป็นการภายในที่มีแต่เพียงญาติและมิตรสหายเพียงเท่านั้น เมิ่งลี่หลินนั้นรู้สึกมีความสุขมากที่นางตัดสินใจเลือกบุรุษที่รักนางมากเช่นอดีตพี่ชายของนาง เขารักนางเพียงผู้เดียว ไม่เคยมีสายตาไว้มองสตรีใดทั้งสิ้น หลังจากแต่งงานได้เพียงไม่กี่เดือนเมิ่งลี่หลินก็ตั้งครรภ์และหลังจากนั้นก็ให้กำเนิดบุตรชายแก่ท่านเจ้ากรมยุติธรรมพี่ชายของนาง และนางไม่เสียใจเลยสักนิดที่ตัดสินใจเลือกเขา เพราะเขารักนางจริงๆ ทั้งสองครองรักกันอย่างมีความสุขส่วนตำหนักท่านอ๋องนั้นก็ไม่แพ้กัน หลังจากแต่งงานได้ไม่นานเหลียนฮวาก็ตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรแฝดชายหญิงคู่หนึ่งให้กับท่านอ๋อง พระสนมหยูนั้นดีใจมาก หลงรักหลานทั้งสองจนคอยแวะเวียนมาที่ตำหนักของบุตรชายเพื่อช่วยเลี้ยงดูหลานทั้งสองอยู่บ่อยๆครั้ง ในบางครั้งถึงกับนอนค้างที่ตำหนักอ๋องของบุตรชาย เพราะเล่นกับหลานจนเย็นย่ำ ไม่อยากจะเดินทางกลับเข้าวังหลวง เหลียนฮวานั้นเป็นมารดาที่โชคดีมาก นอกจากลูกทั้งสองไม่ร้องกวนโยเยแล
ร่างสูงใหญ่ของพี่ชายที่เฝ้าแอบหลงรักน้องสาวของตนเองมาหลายปีแล้ว บัดนี้เขาตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ปล่อยนางไปหาบุรุษใดอีกแล้ว ท่านเจ้ากรมหนุ่มตัดสินใจเดินเข้ามาทางด้านหลังของนาง เอามือปิดปากนางจนสลบไป แล้วอุ้มนางขึ้นพาเดินดุ่มไปที่ห้องนอนใหญ่ของเขา แล้ววางนางลงบนเตียงนอน มือหนาลงมือถอดอาภรณ์ของนางออก จนร่างอ้อนแอ้นที่เมื่อเปิดเปลือยอาภรณ์หมดสิ้นแล้ว กลับอวบอิ่มเต็มไม้เต็มมือดีนัก ร่างหนาแข็งเกร็งขึ้นทันทีเมื่อเห็นเรือนร่างขาวผ่องของน้องสาวนอกไส้เต็มตา ส่วนสัดของนางอวบอัดมากกว่ายามที่นางสวมใส่อาภรณ์เสียอีก ผิวพรรณของนางเนียนผ่องไปหมด เช่นนี้แล้วเขาจะอดใจไม่หลงไหลนางได้อย่างไร เขาเพียงแค่ต้องเก็บงำความรู้สึกนั้นเอาไว้ แต่บัดนี้เมื่อนางถูกบุรุษอื่นปฏิเสธนาง เขาจึงคิดว่าเขาจะแต่งงานกับนางเสีย เพราะอย่างน้อยเขาก็รัักนางมาก ไม่คิดจะทำให้นางเสียใจโดยการมีสตรีอื่นใดนอกจากนาง เขาวางร่างงามลงบนเตียงแล้วถอยออกมายืนมองนางด้วยแววตาครึ้มไปด้วยความเสน่หา ค่อยๆถอดเครื่องแต่งกายของเขาออกจนเรือนร่างสูงใหญ่เปลือยเปล่าแล้วขึ้นคร่อมร่างอวบอัดของน้องสาวนอกไส้ที่เขาเองดูแลนางมานับจากบิดามาร
เหลียนฮวาพูดไม่ออก นางเข้าใจที่เขาพูด เพราะนางเองที่ยอมจะแต่งงานไปกับคุณชายเสิ่นอี้หนานทั้งที่ไม่ได้รักเขาก็เพราะนางเสียใจและเจ็บปวดที่เขากำลังคิดจะหมั้นหมายกับคุณหนูเมิ่ง และที่เขาทอดทิ้งนางถึงสองครั้งติดๆกัน ทำให้นางแน่ใจว่าในใจของเขานั้นคงไม่มีนางอยู่ในนั้นอย่างแน่แล้ว จึงตัดสินใจจะแต่งงานกับบุรุษที่ดีเช่นคุณชายเสิ่น แม้จะไม่ได้รักเขา แต่นางคิดว่าหากอยู่ร่วมกันไป นางคงจะรักเขาได้ในสักวันหนึ่ง แต่เมื่อมาคิดดูแล้วมันก็เป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวมาก นางสงสารคุณชายเสิ่นเหลือเกินในตอนนี้ แต่ความเป็นจริงแล้ว แม่นมเหลียนนั้นได้ไปพบคุณชายเสิ่นอีหนานแล้วเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง และเขายอมตกลงที่จะช่วยให้แผนการณ์บีบบุรุษที่ไม่รู้ใจตัวเองให้ตัดสินใจ ส่วนเหลียนฮวานั้นเป็นผู้เดียวที่ไม่รู้ว่าการแต่งงานครั้งนี้คือการจัดฉาก ที่จวนเสิ่นไม่ได้มีการจัดเตรียมงานแต่งใดๆ ทั้งนั้น เพียงเป็นความร่วมมือเพื่อช่วยให้เหลียนฮวากับท่านอ๋องได้ลงเอยกันได้เพียงเท่านั้ เพราะโอกาสนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่แม่นมเหลียนจะให้กับท่านอ๋องหรู่หยาง หากเขาไม่คิดจะทำอะไร แต่กลับยอมปล่อยให้เหลียนฮวาแต่งงานออกไปจริงๆ แ
“ อ๊าา อื้อ.. อู๊ยยย อื้อ… อ๊าายย อ๊าา ” นางร้องครางออกมาทั้งที่ถูกเขาจูบอย่างดูดดื่ม นางรู้สึกยิ่งเสียวซ่านยิ่งขึ้นเมื่อเขาเลียไล้วนเวียนลงมาที่อกอวบใหญ่ของนางอีกครั้ง ใช้ปลายลิ้นดุนดันตวัดเน้นย้ำๆที่ปลายถันที่ชูชันแข็งเป็นไต ก่อนจะอ้าปากครอบครองเต้าอวบของนางจนเต็มปาก ดูดอย่างแรงและตวัดลิ้นเลียไล้ไปพร้อมๆกัน จนเหลียนฮวาแอ่นอกอวบขึ้นหาใบหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างบ้าคลั่ง ปากก็ร้องครวญครางแทบจะขาดใจ เพราะนางเสียวเสียวเหลือเกิน มือบางนั้นทั้งกดศีรษะที่มีผมดกหนาและมีกว้านสีเงินครอบเอาไว้นั้นอย่างแรง กดจนศีรษะของเขาแนบชิดกับอกอวบของนาง กดให้แนบชิดไปกับสองเต้าของนางที่แอ่นเข้าหาเขาอย่างบ้าคลั่งเหลียนฮวาเสียวจนร่องอวบของนางเปียกแฉะไปหมด เผลอโยกสะโพกอวบร่อนขึ้นสูงอย่างหลงลืมตนไปหมดแล้ว เวลานี้นางต้องเขา ต้องการให้เขาสัมผัสร่องอวบของนางแทบจะบ้าอยู่แล้ว แต่ท่านอ๋องหนุ่มยังคงอยากจะปลุกปั่นนางให้ถึงที่สุด เขาคายอกอวบของนางออกจากปากหนาของเขา แล้วเลื่อนตัวลงต่ำไปอีก ต่ำลงไป จนกระทั่งลมหายใจร้อนผ่าวของเขารดที่เนินอวบของนาง มือหนาแหวกร่องอวบของนางออก แล้วใช้ริมฝีปากค่อยๆดึงเชือกที่ผูกบริเวณส
ในห้องหอที่มีการจัดกำยานชนิดพิเศษสำหรับค่ำคืนในการเข้าหอและมีการเตรียมสุราและอาหารมงคลเอาไว้เรียบร้อยแล้ว รอเพียงเจ้าบ่าวที่กำลังรับการดื่มอวยพรจากเหล่าคนสนิท และสหายสามสี่คนที่มาร่วมงานเลี้ยงฉลองสมรสที่รีบด่วนนี้ แม่นมเหลียนที่ยินดีนักที่ในที่สุดท่านอ๋องก็ยอมแต่งงานรับเหลียนฮวาเป็นพระชายาเอกของเขาเสียที เพราะทั้งสองมีหนังสือสมรสด้วยกันแล้ว แถมท่านอ๋องยังเป็นผู้ที่บังคับให้เหลียนฮวาลงนามด้วยตนเอง เป็นอันว่าเป็นนี้หลานสาวของนางกลายเป็นพระชายาอย่างถูกต้องของท่านอ๋องหรู่หยางที่กว่าจะรู้หัวใจตนเองก็เกือบจะสาย เมียรักเกือบจะหนีไปแต่งงานกับชายอื่นที่เห็นคุณค่าของนางกว่าเขา ( ตามแผนของพระสนมหยูนั่นเอง แต่ที่จริงไม่มีเจ้าบ่าวที่ไหนทั้งนั้น ) เมื่อเจ้าบ่าวเดินย่างกรายเข้ามาในห้องหอ เหลียนฮวาก็เบือนหน้าหนีเขาไปทางอื่นอย่างแสนงอน แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่านางคงจะหนีเขาไปไม่พ้นแล้ว “ ฮวาเอ๋อ ในที่สุดเจ้าก็หนีเปิ่นหวางไม่พ้น เจ้าเป็นเมียของเปิ่นหวาง คิดจะหนีไปแต่งงานกับชายอื่น มันไม่มีทางเป็นไปได้ เปิ่นหวางไม่มีทางปล่อยเจ้าไป ต่อให้ต้องลากเจ้ากลับมา เปิ่นหวางก็จะทำ ”เขาเอ่ยด้วยน้ำเสีย
ท่านอ๋องหรู่หยางกำลังคิดหาทางจะทำเช่นไร ที่จะไม่ให้กระทบกระเทือนกับทุกฝ่าย และเขาเองก็จะไม่ต้องเสียเหลียนฮวาไป เขาตัดสินใจยอมให้เหลียนฮวาได้พักผ่อนอยู่ที่ตำหนักของพระมารดาไปก่อน ส่วนเขายอมกลับไปที่จวนเพื่อแก้ปัญหาเสียก่อนถึงจะไปรับนางกลับมาด้านพระสนมหยูเรียกแม่นมเหลียนเข้ามาปรึกษากันเรื่องบุตรชายที่ปากแข็งนัก ทำให้แม่นมเหลียยจำต้องเล่าความจริงทุกอย่างให้พระสนมฟัง พระสนมหยูถอนหายใจออกมา แต่แล้วก็ตัดสินใจเอ่ยว่า “ เจ้าลูกคนนี้ปากก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ก็ขัดขวางเขาเสียทุกทีที่เขาจะออกเรือนไป มันยังไงกันแน่ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เรามาวางแผนให้เจ้าคนปากแข็งยอมตัดสินใจเสียที ว่าตกลงจะเลือกใคร บอกว่าเลือกคุณหนูเมิ่ง แต่ก็มาวอแวเหลียนฮวาไม่หยุดหย่อน ถึงกับตามนางเข้ามานอนในตำหนักของข้าทั้งที่ร้อยวันพันปี ตั้งแต่โตเป็นหนุ่มก็ไม่คิดจะกลับเข้ามานอนในตำหนักแม่ ที่จริงตามสตรีมานี่เอง เอาละข้านึกออกแล้ว ให้เจ้าไปทำตามนี้ก็แล้วกัน ” แล้วพระสนมหยูก็ค่อยๆแจกแจงแฝนการพิสูจน์ใจของบุตรชายว่าเป็นเช่นใดกันแน่ ให้แม่นมเหลียนฟัง “ ดูสิว่าเจ้าลูกปากแข็งมันจะทำอย่างไร ส่วนข้าไม่รั
Comments