แชร์

บทที่ 6

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
ซูจิ่งสิงไม่รู้ว่าตนตื่นตั้งแต่เมื่อไร

“ดีเหลือเกิน พี่ใหญ่ ในที่สุดท่านก็ตื่นแล้ว”

ซูจื่อชิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

พี่ใหญ่ตื่นแล้ว ในที่สุดเรื่องพี่สะใภ้ใหญ่ก็มีกำลังหนุนแล้ว

“พยุงข้าหน่อย” ซูจิ่งสิงยื่นมือออกมาอย่างอ่อนแรง พอนั่งพิงหัวเตียงได้แล้ว เขาก็มองดูกู้หว่านเยว่ที่ยืนอยู่คนเดียวด้วยสายตารู้สึกผิด

“ขอโทษนะ”

ไม่เพียงแต่ทำให้นางเดือดร้อน แต่ยังทำให้นางถูกตระกูลซูหยามเหยียด

กู้หว่านเยว่สบตาเขา ตกตะลึงไปเล็กน้อยแล้วรีบร้อนพูดว่า “ไม่ต้องขอโทษข้าหรอก เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่าน”

ยิ่งไปกว่านั้น นางเองก็ไม่สนใจวาจาของพวกคนขยะ

แต่นางไม่คิดว่า ซูจิ่งสิงจะปกป้องนาง

ทว่ากลับเป็นคนอื่นๆ ในห้องที่อดกลั้นไว้ไม่ไหว และไม่สนว่าบาดแผลของซูจิ่งสิงเป็นอย่างไร กระโจนเข้ามาถามว่า

“จิ่งสิง เจ้าขอโทษนางมันหมายความว่าอย่างไร? เจ้าคิดว่าพวกเราเหล่าผู้เฒ่าทำผิดหรือ?”

หากไม่หย่าภรรยา หรืออยากเห็นนางทำลายตระกูลหรือ?!

“รีบหย่ากับนางเสีย ขอเพียงเจ้าหย่ากับนาง พวกเรายังคงเป็นครอบครัวเดียวกัน”

“...”

ครอบครัวเดียวกัน?

ฮะๆ... ช่างเป็นครอบครัวเดียวกันที่แสนประเสริฐ

ยามเขายังเป็นเจิ้นเป่ยอ๋อง ไม่เคยลืมที่จะช่วยเหลือท่านลุงและเหล่าพี่น้อง ให้พวกเขาได้อาศัยอยู่ในวังด้วยกัน รุ่งโรจน์รับพร

ตอนนี้เขาตกระกำลำบาก มารดาและพี่น้องอยากกินซาลาเปาสักลูกยังไม่ให้ ทั้งยังบังคับให้เขาหย่าภรรยา

นี่เรียกว่าครอบครัวเดียวกันหรือ?

ซูจิ่งสิงยิ้มหยัน กวาดมองใบหน้าของทุกคนทั้งบ้านใหญ่ บ้านรอง และบ้านสี่แห่งตระกูลซู

สายตาเย็นชาคู่นั้น ทำให้ทุกคนตัวสั่นด้วยความรู้สึกผิด หุบปากฉับลงโดยไม่รู้ตัว

แม้ว่าเขาจะตกต่ำ แต่รัศมีที่แผ่ออกมายังคงมีกลิ่นอายของเทพสงคราม

จากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็หลับตา เกียจคร้านเกินกว่าจะมองคนเหล่านี้อีกต่อไป และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกว่า

“ท่านลุงทุกท่านต้องบังคับให้ข้าหย่าภรรยาให้ได้ใช่หรือไม่?”

ทุกคนกลัวเกินกว่าจะพูดอะไรอีก รีบมองไปที่ฮูหยินผู้เฒ่าเป็นตาเดียว

ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวว่า “จิ่งสิง พวกเราหาได้บังคับเจ้า ปัญหาของตระกูลซูในปัจจุบันก็เกิดจากคุณเช่นกัน"

“หากข้ายืนกรานไม่หย่าภรรยาเล่าขอรับ?”

ฮูหยินผู้เฒ่ามองมาอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “เช่นนั้นก็อย่าได้โทษที่ข้าโหดเหี้ยม ไม่สนใจบ้านสามของเจ้าแล้วกัน!”

“เฮ้อ...”

ซูจิ่งสิงเศร้าระทมอยู่ในใจ ไม่พูดอะไรออกมาอยู่นาน และในตอนที่ทุกคนคิดว่าเขาถูกบังคับจนไร้ทางเลือก ต้องยอมหย่าภรรยาแน่แล้วนั้น เขาก็ลืมตาขึ้น พูดอย่างเฉยเมย

“หย่าภรรยา ข้าไม่มีทางยินยอม

ในเมื่อทุกท่านไม่อยากสนใจบ้านสามของข้า เช่นนั้นก็ตัดสัมพันธ์กันเถอะขอรับ”

ตัดสัมพันธ์แล้ว บ้านสามของข้าก็ไม่เกี่ยวข้องอันใดกับพวกท่านอีก ภรรยาของข้าแน่นอนว่าไม่มีทางเดือดร้อนไปถึงพวกท่าน”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา ทุกคนก็ตกตะลึง แม้แต่กู้หว่านเยว่เองก็นิ่งอึ้งไป

นางย่อมไม่คิดว่าชายผู้นี้ยอมตัดความสัมพันธ์เพื่อนางเพียงอย่างเดียว คงเป็นเพราะโดนตระกูลซูเหยียบย่ำหัวใจ

แต่เพียงความกล้าหาญนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้นางประทับใจไม่รู้ลืม

นางกู้หว่านเยว่ไม่ได้ช่วยผิดคน

เมื่อฟื้นคืนจากความตกใจ บ้านอื่นๆ ก็เริ่มตื่นตัวขึ้นมา

บ้านสามทั้งครัวมีห้าคน ไร้เงินเลี้ยงตัว กินอยู่ล้วนพึ่งพาพวกเขาบ้านอื่นทั้งสิ้น คิดดูแล้วย่อมไม่สมดุล

ตัดสัมพันธ์?... ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องเลวร้าย

แม้ว่าบรรพบุรุษของตระกูลซูจะเคยกำหนดกฎตายไม่อาจตัดสัมพันธ์ บอกว่าเคยมีผู้ทำนายทายชะตาว่าหากตัดสัมพันธ์ บางบ้านจะมีชีวิตที่น่าสังเวช

แต่ครั้งนี้เป็นซูจิ่งสิงเสนอตัดสัมพันธ์ หาใช่พวกเขาไม่ พวกเขาไม่ได้ละเลยกฎของบรรพบุรุษแต่อย่างใด

อีกทั้งซูจิ่งสิงบาดเจ็บสาหัส ใครใดจะน่าสังเวชไปกว่าเขาอีก?

ซูหัวหลินผู้ขึ้นมาเป็นคนแรก “ข้าอยากตัดสัมพันธ์มานานแล้ว ในเมื่อครั้งนี้เจ้าพูดออกมาเอง เช่นนั้นก็อย่าโทษข้าลุงรองโหดเหี้ยม ข้ายินยอมตัดสัมพันธ์”

นางเฉียนเองก็กล่าวสมทบ “ข้าก็ยินยอมตัดสัมพันธ์!”

“ไม่ได้!” ฮูหยินผู้เฒ่ายังคงยึดยื้อ

ซูหัวหลินรีบโน้มน้าว “ท่านแม่ เก็บบ้านสามไว้มีแต่จะเดือดร้อนพวกเรา ทั้งซูจิ่งสิงเองบาดเจ็บสาหัส ดีไม่ดีว่าวันสองวันนี้ก็...”

ซูจื่อชิงเบิกตากว้าง “ก็อะไร? เจ้าพูดมาให้กระจ่างนะ!”

“เหอะ พูดก็พูด อาการบาดเจ็บของเขาสาหัสสากรรจ์ อากาศเองก็ร้อนเสียปานนี้ ข้างทางไร้หมอยาคอยตระเวนดูแล ไม่แน่ว่าพรุ่งนี้บาดแผลก็อาจเป็นหนองตายได้! ถึงตอนนั้น ก็ต้องให้พวกเราเสียเงินจัดงานอาลัยอีก”

“ข้าจะฆ่าเจ้า!” ซูจื่อชิงโกรธมากจนตัวสั่น โมโหกับคำพูดชั่วร้ายของเขา รุดพุ่งไปข้างพร้อมง้างหมัด

“พอแล้ว! ซูจื่อชิง ไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ เจ้าจะทำร้ายผู้อาวุโสของตนเองหรือไร?”

ฮูหยินผู้เฒ่ากระแทกไม้เท้า ดวงตาชราขึ้นฝ้าทอแววประกาย คำพูดของเจ้าสองกระทบใจนาง

นางยังไม่ตัดสัมพันธ์ เพราะกังวลว่าซูจิ่งสิงจะยังมีทางออก

แต่เมื่อมองดูสภาพของซูจิ่งสิงในตอนนี้ ก็เห็นชัดแล้วว่ามีเคราะห์มากกว่าโชค เช่นนั้นไม่สู้...

“จิ่งสิง เจ้าแน่ใจหรือว่าจะตัดสัมพันธ์?”

“ไม่ผิด” สายตาของซูจิ่งสิงเฉยเมย ถือเสียว่าไม่มีครอบครัวเช่นนี้อีกต่อไป

ฮูหยินผู้เฒ่าก็ไม่คิดเสแสร้งอีกต่อไป เจ้าสาวแต่เล็กก็ห่างออกจากอกนาง โตขึ้นมาก็ไม่ได้ใกล้ชิดสนิทสนม ต่อมาก็แต่งงานกับนางหยางที่สติไม่สมประกอบ สำหรับบ้านสาม แต่เดิมนางก็หาได้ผูกพัน

นางพูดด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ว่า

“ก็ได้ เช่นนั้นก็ตัดสัมพันธ์กัน แต่ก็ขอพูดน่ารังเกียจให้ฟังเสียก่อน วังหลวงถูกรื้อค้น เงินทั้งหมดของพวกเราต่างก็ได้มาจากบ้านมารดารับบริจาคมาให้ พวกเจ้าบ้านสาม ไม่อาจเอาไปได้แม้แต่แดงเดียว”

สิ้นเนื้อประดาตัว

ช่างเป็นหญิงชราที่โหดเหี้ยมนัก!

ซูจื่อชิงพูดอย่างวิตกว่า “ไม่มีเงิน จากนี้พวกเราจะอยู่กันอย่างไรเล่า?”

นางหลิวยิ้มและพูดว่า “ขุนนางของศาลาว่าการจะแจกโมโม[footnoteRef:1]ทุกวัน มีโมโมกิน ย่อมไม่หิวตาย” [1: เป็นเกี๊ยวหรือขนมจีบที่มีต้นกำเนิดในทิเบต เดิมกินกับเนื้อจามรี ต่อมาได้กลายเป็นอาหารพื้นเมืองของทิเบต ภูฏาน สิกขิม เนปาล และลาดัก ตัวเกี๊ยวเป็นชิ้นกลมแบนขนาดเล็ก ห่อเป็นรูปกระเป๋าหรือดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยว ทำให้สุกด้วยการนึ่ง การทอดในกระทะ หรือการทอดอีกครั้งหลังจากนึ่งแล้ว กินกับซอสหรือน้ำจิ้มหลายแบบ โดยปกติจะมีพริก มะเขือเทศ และกระเทียม]

“ท่านป้าสี่ ท่าน!”

“จื่อชิง” ซูจิ่งสิงหยุดเขาไว้ก่อน “ไปหาเจ้าหน้าที่ ยืมกระดาษปากกามาเขียนหนังสือตัดสัมพันธ์เถอะ”

ซุนอู่พาเจ้าหน้าที่ออกมากินข้าวเย็นกันอยู่ไม่ไกล ได้ยินเสียงทะเลาะนี้ดังอยู่นานแล้ว

บนเส้นทางที่ถูกเนรเทศ ครอบครัวกลายเป็นปรปักษ์กันหาใช่เรื่องแปลก

พวกเขาดูเรื่องน่าสนใจอยู่พักหนึ่ง แต่ก็คร้านจะเข้ามาห้ามปราม

กระดาษปากกาไม่มีค่า ไม่พูดอะไรสักคำ พวกเขาก็มอบมันออกมาให้

“หึ ตัดสัมพันธ์แล้ว จากนี้บ้านสามของพวกเจ้าคงได้ทุกข์ทรมานน่าดู!”

หลังจากเขียนจดหมายตัดสัมพันธ์แล้ว ทั้งคู่ก็ประทับลายนิ้วมือ ไม่สนใจชีวิตความเป็นอยู่ของบ้านสามอีกต่อไป พากันกลับไปกินซาลาเปาเนื้ออย่างชื่นบาน

ทิ้งไว้เพียงซูจิ่นเอ๋อที่ยังสับสน

นางก็แค่อยากกินซาลาเปาเนื้อเท่านั้นเอง เหตุใดถึงได้ตัดสัมพันธ์กันได้?

ไม่กล้าเข้าทางพี่ใหญ่และพี่รอง จึงทำได้เพียงดังแขนเสื้อของนางหยางแล้วเรียกนางเบาๆ

“ท่านแม่ ข้าไม่อยากตัดสัมพันธ์ ทั้งๆ ที่หย่ากับกู้หว่านเยว่ก็สิ้นเรื่อง เหตุใดต้องตัดสัมพันธ์กันด้วย?”

แต่ไม่คิดว่านางหยางจะหันมาดุด่านางแทน

“เจ้า ไม่รู้จักรักดี โตมาผิดเพี้ยนแล้ว...”

แม้แต่แม่แท้ๆ ที่สติไม่ดีก็ยังด่านาง ตอนนี้ซูจิ่นเอ๋อทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว น้ำตาไหลอาบหน้า แล้ววิ่งหนีไปด้วยความโกรธ

แต่หาได้ไปทางตระกูลซูไม่ แม้ว่านางจะยโสแต่ไม่ได้โง่ เมื่อครู่ลุงใหญ่ด่าพี่ใหญ่อย่างไร นางได้ยินอยู่เต็มหู

นางก็แค่รับไม่ได้ ครอบครัวใหญ่ครัวหนึ่ง อยู่ดีๆ เหตุใดถึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้กัน?

ทางด้านตระกูลซู หลี่ซือซือเองก็มีสีหน้าจริงจังเช่นกัน “ท่านแม่ เหตุใดเมื่อกี้นี้ท่านต้องห้ามข้าด้วย?”

ซูหวู่อวิ๋นขมวดคิ้ว “ข้ารู้ว่าเจ้าคิดอะไรอยู่ แต่ซูจิ่งสิงไม่ใช่เจิ้นเป่ยอ๋องอีกต่อไปแล้ว เจ้าดูที่สองขาของเขาสิ มันไร้ประโยชน์แล้ว!

พวกเราตอนนี้ยากจะปกป้องตนเอง เจ้าไม่สู้ใส่ใจผู้อื่นให้มาก อย่างญาติผู้พี่ซูเช่อของบ้านลุงใหญ่ของเจ้าก็ดีไม่น้อย

หลี่ซือซือเหลือบมองไปยังซูเช่อที่ก้มหน้าก้มตาอยู่ตรงหน้าซูหัวหยางอยู่ไม่ไกล พลันเม้มริมฝีปาก ไม่พูดอะไรสักคำ

“ท่านแม่ ข้าจะไปดูญาติผู้น้องจิ่นเอ๋อเจ้าค่ะ”

นางคิดในครู่นั้น แล้วเดินไปหาซูจิ่นเอ๋อทันที...
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (5)
goodnovel comment avatar
Jaruayporn Kliengkhaw
สนุกคะหน้าติดตาม
goodnovel comment avatar
อนงนารถ บุญทวี
เริ่มมาก็ตัดกันแล้ว
goodnovel comment avatar
จีรพันธ์
อ่าน ๆๆๆๆๆๆๆๆๆต่อ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2056

    เมื่อตัดสินใจแล้ว ทั้งครอบครัวจึงกลับวังก่อนแต่ปรากฏว่าเพิ่งถึงหน้าประตูวัง ก็ได้พบกับไฉ่จวี๋ สาวใช้ที่กู้หว่านเยว่ส่งไปปรนนิบัติซูจิ่นเอ๋อร์“ถวายบังคมฝ่าบาท ถวายบังคมฮองเฮาเพคะ”กู้หว่านเยว่เปิดม่าน “เหตุใดเจ้าอยู่ที่นี่?”ไฉ่จวี๋กล่าวด้วยสีหน้ายินดี “ฝ่าบาท ฮองเฮา พวกท่านกลับมาสักที องค์หญิงใหญ่ทรงตั้งครรภ์ได้หนึ่งเดือนกว่าแล้วเพคะ”“จริงหรือ?” กู้หว่านเยว่รู้สึกความประหลาดใจนางว่าแล้ว เหตุใดตอนออกมาวันนี้จึงเห็นนกร้องเจื้อยแจ้วบนกิ่งไม้ ที่แท้ก็มีเรื่องที่น่ายินดีเช่นนี้นี่เอง“ท่านพี่ พวกเราอย่าเพิ่งกลับวังเลย ข้าอยากลองไปดูจิ่นเอ๋อร์หน่อย” นางมองไปทางซูจิ่งสิงนี่เป็นการตั้งครรภ์ครั้งแรกของจิ่นเอ๋อร์ อีกทั้งกว่าจะตั้งครรภ์ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย นางจึงค่อนข้างกังวล อยากไปดูให้แน่ใจก่อนซูจิ่งสิงครุ่นคิดครู่หนึ่ง จากนั้นก็ลูบศีรษะจ้านจ้านพลางกล่าว “ให้ชิงเหลียนพาเจ้ากลับวังก่อน ข้ากับเสด็จแม่ของเจ้าจะไปเยี่ยมอาหญิงของเจ้า”จ้านจ้านเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ท่านอาหญิงมีลูกน้อยแล้วใช่หรือไม่?”ซูจิ่งสิงพยักหน้า“เสด็จพ่อ เสด็จแม่ เช่นนั้นพวกท่านรีบกลับวังนะ ข้าจะรอพว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2055

    ซูจิ่งสิงพยักหน้า “ตอนที่พวกเรากำลังจะออกเดินทาง พี่ใหญ่ของเจ้าก็เอ่ยถึงจ้านจ้านหลายครั้ง ท่านพ่อท่านแม่ก็เช่นกัน ควรพาเขากลับไปพบพวกท่านได้แล้ว”หลังจากทั้งสองปรึกษาหารือกันเสร็จแล้ว กู้หว่านเยว่จึงไปพูดคุยกับจ้านจ้านจ้านจ้านขยี้ตาที่ยังไม่ตื่นดี “ท่านแม่จะพาลูกไปยังที่ราบแห่งความโกลาหลหรือ”กู้หว่านเยว่พยักหน้า “ครั้งที่แล้วจ้านจ้านถามแม่เรื่องท่านตากับท่านยายมิใช่หรือ ครั้งนี้แม่จะพาจ้านจ้านไปหาพวกเขาดีหรือไม่?”จ้านจ้านความจำดี “ยังมีท่านลุงใหญ่ด้วย!”กู้หว่านเยว่เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน จากนั้นก็ช่วยเขาแต่งตัว“เจ้าพูดถูกแล้ว ยังมีท่านลุงใหญ่ด้วย เขาก็คิดถึงเจ้ามากเช่นกัน ตอนที่เจ้ายังอยู่ในท้องแม่ เขายังเตรียมของขวัญให้เจ้าด้วยนะ หยกที่อยู่บนอกของเจ้าชิ้นนี้ก็เป็นของที่ท่านลุงใหญ่มอบให้”จ้านจ้านก้มหน้าลง มองหยกสีนิลบนหน้าอก“ที่แท้หยกชิ้นนี้ท่านลุงใหญ่เป็นคนมอบให้หรือ เช่นนั้นข้าก็ต้องเตรียมของขวัญให้ท่านลุงด้วย”จ้านจ้านเป็นเด็กที่ถูกสอนให้มีมารยาทดีมาตั้งแต่เล็กกู้หว่านเยว่รู้สึกปลาบปลื้มในใจ นางอุ้มเขาขึ้นแล้วเดินออกไปข้างนอก “ตอนนี้พวกเราต้องออกจากด่านเซียวก่อน แล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2054

    โจวลิ่งเหยาก้มหน้าลง รู้สึกซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง“ขอโทษด้วย ท่านแม่ของข้านาง...” อย่างไรเสียนางก็ทำให้ท่านพี่ต้องน้อยเนื้อต่ำใจกู้หว่านเยว่เองก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง เดิมทีนางตั้งใจจะเลื่อนตำแหน่งให้ลู่เต๋อฟา ไม่คาดคิดว่าลู่เต๋อฟาจะไม่ฉวยโอกาสนี้ไต่เต้าขึ้นไป กลับมอบรางวัลให้แก่ฮูหยินลู่แทนช่างรักภรรยาดั่งชีวิตเสียจริง!“ใต้เท้าลู่ ท่านตัดสินใจดีแล้วจริง ๆ หรือ?”“ตัดสินใจดีแล้วพ่ะย่ะค่ะ”กู้หว่านเยว่คาดเดาว่าเขาคงจะคิดมาดีแล้วอย่างแน่นอน หลังจากยืนยันอีกครั้งหนึ่ง ก็ไม่ได้ซักถามอะไรต่อ แต่พยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ดี เช่นนั้นก็ให้เป็นไปตามที่เจ้าปรารถนา พระราชทานตำแหน่งฮูหยินตราตั้งขั้นห้าให้แก่ฮูหยินลู่”ใต้เท้าลู่เองเป็นเพียงผู้ว่าการอำเภอขั้นเจ็ด กู้หว่านเยว่จึงไม่ได้พระราชทานยศตราตั้งให้สูงเกินไปนัก“ชิงเหลียน นำราชโองการนี้ส่งกลับไปยังเมืองหลวง”“เพคะ” ชิงเหลียนพยักหน้ารับคำ แล้วรีบออกไปลู่เต๋อฟารีบดึงโจวลิ่งเหยาให้คุกเข่าลง “ข้าน้อยพร้อมด้วยภรรยา ขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณพ่ะย่ะค่ะ”“ลุกขึ้นเถิด”กู้หว่านเยว่โบกมือ พลางคิดในใจว่าในอนาคตค่อยหาเหตุผลอื่นเพื่อเลื่อนตำแหน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2053

    อย่างไรเสียนี่ก็อยู่ในเขตปกครองของเขา เรื่องที่ควรจะขออภัยก็ยังต้องขออภัยกู้หว่านเยว่เหลือบมองบาดแผลของลู่เต๋อฟา โชคดีที่ไม่มีพิษ และไม่จำเป็นต้องให้นางลงมือ “อย่าเพิ่งรีบร้อนกล่าวโทษเลย เกาเจี้ยน เจ้าไปเชิญท่านหมอมา”“ข้าจะรีบไปเดี๋ยวนี้”เรื่องการสอบสวนมีฉู่เฟิงรับผิดชอบอยู่แล้ว เกาเจี้ยนจึงกล่าวกับซูจิ่งสิง “ข้าถือโอกาสนำคนไปตรวจสอบบริเวณรอบ ๆ ว่ายังมีสถานการณ์อื่นใดอีกหรือไม่”“ไปเถิด” ซูจิ่งสิงพยักหน้าในลานบ้านถูกทำลายจนเละเทะ จึงเหลือคนส่วนหนึ่งไว้ทำความสะอาด ส่วนลู่เต๋อฟาที่ได้รับบาดเจ็บก็ถูกประคองขึ้นมา“พาข้าไปที่ห้องหนังสือ อย่าเพิ่งไปที่เรือนหลัง”ลู่เต๋อฟารีบเอ่ยขึ้น เพราะเกรงว่าจะทำให้ฮูหยินตกใจ จึงให้คนรับใช้พาตนไปทำแผลที่ห้องหนังสือก่อนทว่าเกิดเรื่องใหญ่โตถึงเพียงนี้ มีหรือที่ทางฝั่งโจวลิ่งเหยาจะไม่ได้ยินข่าวคราว?เมื่อทราบว่าลู่เต๋อฟาได้รับบาดเจ็บ นางก็รีบร้อนวิ่งมาทันที“ท่านพี่!” โจวลิ่งเหยาขอบตาแดงก่ำ พอเข้ามาถึงก็โผเข้าหาร่างของลู่เต๋อฟา “ท่านพี่ ท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่ ได้ยินสาวใช้บอกว่าท่านถูกลอบสังหาร บาดเจ็บสาหัสหรือไม่?”ลู่เต๋อฟากล่าวอย่างกระอักก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2052

    ลูกธนูดอกนั้นพุ่งตรงไปยังซูจิ่งสิงโชคดีที่ฉู่เฟิงปรากฏตัวออกมาจากเงามืด แล้วดึงตัวลู่เต๋อฟาอย่างรวดเร็วลูกธนูเบี่ยงทิศทางออกไป และปักเข้ากับลำต้นของต้นไม้อย่างแรงลูกธนูดอกนั้นเพียงแค่เฉียดแขนของเขาไป ทิ้งไว้เพียงรอยเลือด มิเช่นนั้นคงได้ทะลุร่างของลู่เต๋อฟาไปแล้วแน่ ๆ “มีนักฆ่า มีนักฆ่า!”ร่างของลู่เต๋อฟาอ่อนยวบไปทั้งตัว เขากุมแขนที่เลือดไหลของตนไว้ ไม่ทันได้รู้สึกเจ็บก็รีบตะโกนเสียงดังเวลานี้ คนชุดดำพวกนั้นได้พุ่งตัวข้ามกำแพงเรือนเข้ามา และล้อมพวกเขาไว้อย่างแน่นหนาลู่เต๋อฟาตกใจจนแทบสิ้นสติ“พวกเจ้าเป็นใครกัน? กล้าดีอย่างไรถึงได้บุกรุกเข้ามาในจวนผู้ว่าการอำเภอ กำเริบเสิบสานนัก!”คนชุดดำหลายคนนั้นเข้าล้อมกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงไว้“ฮ่องเต้ชั่ว วันนี้พวกเราจะมาเด็ดหัวเจ้าเพื่อล้างแค้นให้แก่อดีตฮ่องเต้!” หนึ่งในคนชุดดำชักดาบออกมาเมื่อลู่เต๋อฟาเห็นฉากนี้ ในที่สุดก็เข้าใจได้ทันที เกรงว่าคนเหล่านี้ล้วนเป็นพวกกบฏ เพียงแต่เขาได้สั่งให้มีการป้องกันจวนผู้ว่าการอำเภออย่างแน่นหนาแล้ว พวกกบฏเหล่านี้เข้ามาได้อย่างไร?เขาคว้าตัวพ่อบ้านไว้ “เร็วเข้า รีบไปเรียกคนมา ต้องปกป้องฝ่าบาทแล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2051

    หลังจากที่เกาเจี้ยนจับกุมคนได้แล้ว ก็รีบร้อนกลับมารายงานซูจิ่งสิง“ฝ่าบาท ข้าน้อยไร้ความสามารถพ่ะย่ะค่ะ คนอื่น ๆ ถูกจับกุมทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงฟางเชาที่ถูกองครักษ์ส่วนตัวคุ้มกันจนหนีรอดไปได้”คนเจ้าเล่ห์ย่อมรู้จักหาทางหนีทีไล่ ฟางเชาเจ้าเล่ห์กว่าที่เกาเจี้ยนคิดไว้มากนัก ซูจิ่งสิงกลับสงบนิ่ง หมากสีขาวในมือถูกวางลงบนกระดานอย่างเยือกเย็น“มิต้องตื่นตระหนกไป เขาหนีไปได้ไม่ไกลหรอก”เขาได้วางกับดักไว้ที่นี่แล้ว ต่อให้ฟางเชาอยากจะหนี ก็ไม่สามารถหลบหนีไปได้เกาเจี้ยนถอนหายใจอย่างโล่งอก “ยังคงเป็นฝ่าบาทที่ทรงพระปรีชา ทราบว่าต้องเตรียมการไว้ล่วงหน้า”เขายิ้มจนเห็นฟันขาว “คราวนี้ก็ดีแล้ว ข้าจะได้รีบจัดการธุระให้เสร็จสิ้น แล้วกลับเมืองหลวงได้เร็วขึ้น”ซูจิ่งสิงเลิกคิ้วขึ้น “เจ้ารีบร้อนกลับเมืองหลวงไปทำอะไร?”แม้ด่านเซียวจะห่างไกล แต่ก็มีทิวทัศน์งดงามแปลกตาไปอีกแบบซูจิ่งสิงตั้งใจจะพากู้หว่านเยว่พักอยู่ที่นี่ต่ออีกสองสามวันเกาเจี้ยนแสดงสีหน้าเปี่ยมสุขและภาคภูมิใจอย่างยิ่ง “ยางเอ๋อร์ตั้งครรภ์แล้ว ข้าต้องรีบกลับไปดูแลนาง นี่เป็นลูกคนแรกของเรา จะเกิดเรื่องผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด ข้าในฐานะสา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status