Share

บทที่ 5

Author: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
มีนางเป็นตัวอย่าง ทุกคนล้มเลิกความคิดแล้ว แต่ละคนกัดฟันเดินไปข้างหน้า

เดินออกมาอีกราวห้าลี้ กู้หว่านเยว่เห็นนางหยางเหนื่อยจนคล้ายลาแก่ ต้องการขยับขึ้นไปช่วย แต่กลับถูกนางปฏิเสธ “หว่านเยว่ เจ้า เจ้าเหนื่อย ข้าเข็น...”

“ใช่แล้วพี่สะใภ้ใหญ่ ท่านเพิ่งแต่งเข้ามาก็ต้องถูกเนรเทศไปกับพวกเรา จะยังให้ท่านลำบากอีกได้เยี่ยงไร” ซูจื่อชิงรู้ความ เรียกซูจิ่นเอ๋อร์น้องสาวมาช่วยเข็นด้วยกัน

ใครรู้ซูจิ่นเอ๋อร์ตัวเล็กแต่อารมณ์ร้าย ใบหน้าเปี่ยมอารมณ์ไม่พอใจ “ข้าเหนื่อยจะตายแล้ว เข็นไม่ไหว ก็ควรให้กู้หว่านเยว่เข็น ใครให้นางเป็นดาวหายนะทำให้พวกเราต้องถูกเนรเทศกันเล่า”

“น้องหญิง เจ้าพูดส่งเดชอันใด เรื่องนี้ตำหนิพี่สะใภ้ใหญ่ไม่ได้”

ซูจื่อชิงโมโหขึ้นมาบ้างแล้ว เหตุใดน้องหญิงคิดเห็นเฉกเดียวกันกับบ้านเหล่านั้นได้เล่า?

สีหน้าซูจิ่นเอ๋อร์กลับเปลี่ยนไปแล้ว รู้สึกเกลียดกู้หว่านเยว่เพิ่มมากขึ้นอีกหนึ่งส่วนอยู่ภายในใจ

กู้หว่านเยว่คร้านจะตามใจอารมณ์ของคุณหนูใหญ่ “เจ้าเองก็รู้ว่าพี่ใหญ่ของเจ้าเอ็นดูเจ้าที่สุด บัดนี้เขาหมดสติยังไม่ฟื้น ปรากฏว่าแม้แต่เข็นเกวียนของเขาสักเล็กน้อยเจ้าก็ไม่ยินดี ช่างเอ็นดูอย่างเสียเปล่าโดยแท้”

“ข้ามิได้หมายความเช่นนี้”

นางเพียงเหนื่อยแล้ว มิหนำซ้ำกู้หว่านเยว่มีแรงมากเพียงนั้น ก็สมควรเป็นนางที่เข็นสิ!

“เจ้ามิได้หมายความเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็เข็นสิ”

“...เข็นก็เข็น!”

ซูจิ่นเอ๋อร์โมโหหน้าแดงขณะเข็นเกวียน ลอบบ่นพวกท่านลุงท่านอาหลายบ้านนั้นอยู่ภายในใจ เห็นนางตกระกำลำบากไฉนไม่ยื่นมือเข้าช่วย?

ปกติดีต่อนางมากมิใช่หรือ?

เพียรเดินต่ออีกห้าลี้ ซุนอู่หัวหน้านักการแห่งศาลาว่าการก็ตะโกนเสียงดังอีกครั้ง

“หยุดพักได้ เตรียมกินมื้อเย็น!”

เพียงได้ยินถ้อยคำนี้ ทุกคนก็ล้มลงกับพื้น ใบหน้าศีรษะของทุกคนล้วนเปื้อนฝุ่น รองเท้าที่สวมใส่ก็เสียดสีจนขาดแล้ว มองดูหนึ่งปราด คล้ายกับขอทานหนึ่งกลุ่มก็มิปาน

ไม่มีใครใส่ใจสภาพของตน สายตาล้วนจับจ้องอาหารที่นักการแห่งศาลาว่าการเหล่านั้นแจกจ่าย

เดินมาหนึ่งวันแล้ว พวกเขาทั้งเหนื่อยทั้งกระหายทั้งหิวตั้งแต่แรกแล้ว อยากเติมท้องให้อิ่ม

ครั้นอาหารส่งถึงมือ ทุกคนล้วนตกตะลึงเหม่อลอย

เกี๊ยวแข็งๆ คล้ายหินหนึ่งลูก ก็ไม่รู้ว่าเก็บไว้นานมากเพียงใดแล้ว กำลังส่งกลิ่นเปรี้ยวออกมา

“เกี๊ยวทั้งเหม็นทั้งแข็ง กินเข้าไปแล้วจะท้องเสียหรือไม่?”

นักการแห่งศาลาว่าการยิ้มเย็นทีหนึ่ง “ไม่อยากกินเกี๊ยวก็จ่ายเงินซื้อ บะหมี่หมั่นโถวห้าร้อยอีแปะ ซาลาเปาเนื้อลูกละหนึ่งตำลึง”

ปกติแล้วหมั่นโถวก็แค่หนึ่งอีแปะ

กู้หว่านเยว่ : เห็นชัดว่าเขาสามารถแย่งเงินโดยตรงได้เลย กลับยังมอบหมั่นโถวให้เจ้าหนึ่งลูก

เพราะเหตุนี้งานของนักการแห่งศาลาว่าการลำบากเพียงนั้น แต่กลับมีคนแย่งกันสมัคร

ความสุขของนักการแห่งศาลาว่าการ เจ้าจินตนาการไม่ถึงหรอกนะ!

ทุกคนไม่กล้าตอบโต้ เพื่อเติมท้องให้อิ่ม รีบหยิบตั๋วเงินออกมาแลกหมั่นโถว

หลี่ซือซือเพื่อเอาใจทุกคน ตั้งใจออกเงินไปซื้อซาลาเปาเนื้อกลับมาเล็กน้อย เพียงแต่ รอถึงยามแจกจ่ายซาลาเปา ทุกคนล้วนไม่แบ่งให้บ้านสามอย่างรู้ใจกัน

ซูจื่อชิงและซูจิ่นเอ๋อร์เป็นคุณชายคุณหนูสูงศักดิ์ เพียงกัดเกี๊ยวหนึ่งคำ สีหน้าก็เปลี่ยนแล้ว

มองเห็นซูจิ่นเอ๋อร์ร้องไห้อ้าปากกว้าง ฟันหนึ่งซี่เปื้อนเลือดหลุดลงบนฝ่ามือนาง

“ท่านแม่ ฟันข้าหลุดแล้ว...”

นางหยางสมองไม่ดี แต่ก็ไม่ใช่คนโง่ นางหยิบเกี๊ยวสีดำของเด็กทั้งสองไป จูงพวกเขาไปหาบ้านสกุลซู

กู้หว่านเยว่ไม่ห้าม ทั้งยังมิได้ตามไป นางอยากดูว่าบ้านสามจะทำอันใดกันแน่

หากพวกเขายังกล้ำกลืนฝืนทน ถ้าอย่างนั้นรีบชิ่งหนีจะดีกว่า นางกู้หว่านเยว่ไม่สามารถเข้ากับคนเช่นนี้ได้

ทางฝั่งนี้หลังนางหยางจูงลูกทั้งสองไปแล้ว ก็พูดติดขัดถึงเป้าหมายในการมาจนกระจ่าง ทั้งยังไม่ลืมกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิง พูดว่าต้องการซาลาเปาเนื้อห้าลูก

“ซาลาเปาเนื้อลูกละหนึ่งตำลึง เจ้าพูดว่าต้องการห้าลูก เจ้าเสียสติไปแล้วกระมัง? ฟันหลุดก็หลุดไปเถอะ งอกขึ้นใหม่ก็ใช้ได้แล้ว”

นายท่านรองซูหัวหลินไม่ยอมปล่อยโอกาสโยนหินลงบ่อซ้ำเติมเป็นอันขาด

นางเฉียนและชายของนางล้วนคิดเห็นเฉกเดียวกัน ช่วยพูด “พวกเจ้าบ้านสามตบแต่งดาวหายนะเข้ามา ซูจิ่งสิงยังทำให้ทั้งตระกูลต้องถูกเนรเทศ มีเกี๊ยวดำกินก็ไม่เลวแล้ว”

“พี่หญิงซือซือพูดแล้วมิใช่หรือ เหล่านี้ล้วนเป็นฝีมือกู้หว่านเยว่ ไม่เกี่ยวอันใดกับพี่ใหญ่ ไม่ให้ซาลาเปานางก็พอแล้วนี่”

ซูจิ่นเอ๋อร์รีบพูด นางอยากกินซาลาเปาเนื้อจริงๆ

“น้องหญิงเจ้าหุบปาก เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอันใดกับพี่สะใภ้ใหญ่ ภายภาคหน้าหากข้าได้ยินเจ้าพูดถึงพี่สะใภ้ใหญ่ไม่ดีอีก ข้าจะสั่งสอนเจ้าแทนพี่ใหญ่

ท่านย่า ก่อนนี้ยามพี่ใหญ่มีอำนาจบารมี ทุกคนล้วนรุ่งเรืองรุ่งโรจน์ เหตุใดบัดนี้ตกลำบากแล้ว แม้แต่ซาลาเปาก็ไม่ยอมแบ่งให้บ้านสามของพวกเรา?”

ในต้นฉบับ เว้นเสียแต่ซูจิ่งสิงแล้ว ซูจื่อชิงก็คือคนมีความสามารถที่สุด

หลังซูจิ่งสิงพิษกำเริบตาย เขารวบรวมผู้อยู่ใต้อาณัติต้องการล้างแค้นให้พี่ชาย หากมิใช่เพราะร่างกายถูกทรมานจนย่ำแย่ระหว่างเดินทางเนรเทศ ท้ายที่สุดก็อาจทำสำเร็จจริงๆ

ซูจื่อชิงเผยความสามารถออกมาเป็นคำรบแรกยามเอ่ยถ้อยคำนี้ รัศมีทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าชะงักงัน หลังดึงสติกลับมาได้ ฮูหยินผู้เฒ่าขมวดคิ้วแน่น

“ไม่รู้กาลเทศะ นี่เจ้ากำลังเค้นถามข้ากระนั้นหรือ?”

ดวงตาซูจื่อชิงทอประกายวูบหนึ่ง “หลานไม่กล้า เพียงแต่หลานไม่เข้าใจ เหตุใดล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน มีเพียงบ้านสามไม่มีซาลาเปากินขอรับ”

ฮูหยินผู้เฒ่าถอนหายใจหนึ่งเฮือก สายตาทอดมองทางซูจิ่งสิงที่อยู่ไม่ไกล ลอบตัดสินใจอย่างเด็ดขาดภายในใจ ครู่ต่อมานางพูดเสียงหนัก

“ให้ซาลาเปาบ้านสามของพวกเจ้าก็ได้ เว้นเสียแต่ว่าพวกเจ้าจะต้องหย่ากู้หว่านเยว่”

บางทีซูจิ่งสิงอาจยังมีหนทางอื่น ไม่สามารถล่วงเกินบ้านสามได้

แต่กู้หว่านเยว่ไม่เหมือนกัน นางเป็นดาวหายะคนหนึ่ง ทั้งยังตัดขาดความสัมพันธ์กับจวนโหวแล้ว รีบทิ้งจะได้สะอาดหมดจดโดยไว

“ข้าเห็นด้วย!”

ซูจิ่นเอ๋อร์รีบแย่งตอบ ขอเพียงหย่าขาดกู้หว่านเยว่แล้ว ก็สามารถกินซาลาเปาเนื้อได้ เรื่องดีเช่นนี้ไฉนเลยจะไม่ทำ?

ซูจื่อชิงกัดฟัน “น้องหญิง อย่าไร้สาระ!”

หญิงออกเรือนแล้วถูกหย่าร้างระหว่างถูกเนรเทศ จุดจบเอน็จอนาถอย่างมาก

พี่สะใภ้ใหญ่เพิ่งแต่งเข้ามา สกุลกู้เป็นผู้บริสุทธิ์ก็พลอยเดือดร้อนไปด้วย น่าสงสารมากพอแล้ว เช่นนั้นจะหย่านางเพียงเพื่อซาลาเปาไม่กี่ลูกได้อย่างไร?

“ข้ามิได้ไร้สาระ”

เห็นว่าซูจื่อชิงตำหนินางอยู่หลายครั้งเพราะกู้หว่านเยว่ ซูจิ่นเอ๋อร์เองก็มีอารมณ์ขึ้นมาแล้ว ขอบตาแดงเค้นถามออกไป

“ไม่หย่ากับนาง พวกเราจะกินอะไร เหตุใดพี่รองท่านมักปกป้องนาง ข้าต่างหากคือน้องหญิงของท่าน นางเป็นเพียงคนนอกคนหนึ่ง!”

หลี่ซือซือพูดผสมโรง “จิ่นเอ๋อร์พูดไม่ผิด หรือว่าเจ้าจะให้ครอบครัวทนหิวเพราะกู้หว่านเยว่? ยิ่งไปกว่านั้น นางเป็นดาวหายนะคนหนึ่ง อยู่กับนางก็มีแต่อับโชคไปด้วยกัน หรือเจ้าไม่กลัวทั้งครอบครัวล้วนต้องอับโชคเพราะนางกระนั้น?”

ซูจิ่นเอ๋อร์ได้รับการสนับสนุนแล้ว รีบยืนข้างกายหลี่ซือซือ

ทุกคนของสกุลซูต่างพากันเปิดปาก

“ใช่ หย่ากู้หว่านเยว่!”

“นางเป็นดาวหายนะ ไม่หย่านาง พวกเจ้าบ้านสามก็อย่าคิดจะได้กินซาลาเปา”

“รีบหย่านาง หย่านาง...”

นางหยางถูกทุกคนถ่มน้ำลายตกใจกลัวจนกอดศีรษะแน่น ซูจื่อชิงขมวดคิ้วแน่นอย่างสับสน หันมองกู้หว่านเยว่ที่อยู่ไม่ไกล

ขอร้องล่ะ มองพี่หญิงทำไม? อยากหย่าก็หย่า พี่หญิงไม่ใส่ใจ

กู้หว่านเยว่กอดอก ท่าทีคล้ายกำลังดูละครสนุก พยายามมองข้ามไอเย็นน้อยๆ ภายในหัวใจ

ตอนนี้เอง เสียงแหบพร่าแผ่วเบาแต่หนักแน่นดังขึ้นจากเกวียน

“ข้าไม่มีวันหย่าภรรยา”
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (5)
goodnovel comment avatar
เจนนา ผู้หญิง คลั่งรักหนุ่มตี๋
สนุกดีค่ะ คสโบราณ​ไร้สาระดี
goodnovel comment avatar
จีรพันธ์
ยิ่งอ่านยิ่งสนุก
goodnovel comment avatar
Chayapa Sompaiboon
สนุกสุดๆสนุกมากกกก
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1984

    แต่จี้เยว่ไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของสกุลซุน ไม่ได้รับความสำคัญมากเพียงพอ อีกทั้งยังไม่สามารถตำหนิพวกเขาอย่างรุนแรงได้นางหยางกวาดตามอง “ดูเด็กคนนี้น่ารักมากเพียงใด ข้าอายุปูนนี้แล้ว ว่างงานยิ่งนัก ชอบให้เด็กรายล้อมรอบกาย หากไม่สะดวกเลี้ยงดูในวัง ก็สามารถส่งมาที่จวนข้าได้”“เด็กคนนี้งดงามดุจหยก ขาวๆ นุ่มๆ มองดูแล้วเป็นคนมีวาสนาคนหนึ่ง กินอิ่มแล้วก็นอน นิสัยเองก็ดี ภายภาคหน้าจ้านจ้านโตแล้ว ก็ช่วยคลายเหงาให้จ้านจ้านได้”ซูจิ่งสิงไม่รับสนม วังหลังคล้ายไม่มีอยู่จริง กู้หว่านเยว่เองก็ไม่มีลูกในตอนนี้ภายในวังมีเพียงจ้านจ้านเป็นเด็กคนเดียว เหงาอยู่บ้างจริงๆมีเด็กคนอื่นอยู่เป็นเพื่อน ก็เป็นเรื่องดีสองสามคนปรึกษากันและตัดสิน ให้จี้เยว่อยู่ภายในวังก่อนอย่างน้อยทางฝั่งสกุลซุนนั้น ซูจิ่งสิงย่อมส่งคนไปแจ้งข่าว คาดว่าสกุลซุนเองก็ไม่มีวันคัดค้านขณะเดียวกันดรุณีน้อยนอนหลับฝันหวานภายในอ้อมกอดของชิงเหลียนยังไม่รู้เลยว่าบัดนี้ชะตาชีวิตของตนกำลังจะเปลี่ยนไปแล้วนับตั้งแต่นี้ไป จะผูกติดกับองค์ชายน้อยที่มอบขนมให้ตนเองกินสองสามคนพูดคุยกันขณะรอ กู้หว่านเยว่เล่าเรื่องที่ได้พบเห็นในที่ราบแห่งความโกลาหล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1983

    ห้องเครื่องของวังหลวงทำอาหารเสร็จเรียบร้อยอย่างรวดเร็ว เหล่าญาติฝ่ายหญิงที่มาเข้าร่วมงานเลี้ยงภายในวังหลวงล้วนถูกกระจายออกไปแล้วชิงเหลียนมองกู้หว่านเยว่ที่ไม่ได้พบหน้านานมาก ตื่นเต้นจนน้ำตาไหล“ฮูหยิน นับว่ารอจนท่านกลับมาแล้ว”นางปาดน้ำตา พูดยิ้มๆ อย่างเก้อกระดาก “หงซิ่งเด็กคนนั้นแต่งงานแล้ว ตอนนี้จึงไม่ได้อยู่ภายในวัง วันหน้าบ่าวจะพานางเข้ามาโขกศีรษะให้ท่านให้ได้เจ้าค่ะ”กู้หว่านเยว่แปลกใจอยู่บ้าง“เวลาผ่านไปเร็วยิ่งนัก หงซิ่งเด็กคนนั้นแต่งงานแล้วหรือนี่”นางนึกถึงก่อนหน้านี้เตรียมสินเดิมให้เหล่าสาวใช้ รอได้พบหงซิ่ง จะต้องมอบสินเดิมให้นางชิงเหลียนพยักหน้ายิ้มๆ “พวกเขาสองสามีภรรยาเปิดร้านขายผ้าแห่งหนึ่งในเมืองหลวง การค้านับว่าไม่เลว ไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวัง”กู้หว่านเยว่นึกดีใจแทนพวกเขาภายในก้นบึ้งของหัวใจ“ใช่แล้ว นี่เป็นลูกของใคร เหตุใดไปอยู่ในตำหนักบรรทมของจ้านจ้านได้?”จู่ๆ กู้หว่านเยว่ก็นึกถึงเด็กหญิงตัวน้อยที่หลบใต้โต๊ะของจ้านจ้านขึ้นมาได้ ดวงตากลมโตดุจหยก กลับเป็นเด็กน่ารักคนหนึ่งชิงเหลียนรีบเล่าฐานะของเด็กหญิงให้กู้หว่านเยว่ฟัง กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงชะงักไป เงียบ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1982

    “ร้องไห้ทำไม? โตเพียงนี้แล้วยังเสียน้ำตาอีก”ซูจิ่งสิงขมวดคิ้ว สั่งสอนอย่างเข้มงวดภายในสายตานางหยางเจือประกายน้ำตา สบมองกู้หว่านเยว่ ทั้งยังหันมองซูจิ่งสิง“ตอนเจ้าไม่อยู่ จื่อชิงเด็กคนนี้สุขุมมากนัก”“มีเพียงได้เห็นพวกเจ้า เขาถึงตื่นเต้นมากถึงเพียงนี้”ซูจื่อชิงไม่ตื่นเต้นได้หรือ เขาทำงานหนักเพื่อพี่ใหญ่พี่สะใภ้ทุกวัน ดูแลบ้านเมืองงานยิ่งใหญ่นี้ เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด นอนดึกยิ่งกว่าสุนัข ตื่นเช้ายิ่งกว่าไก่ เหนื่อยแทบตาย“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่ ในที่สุดพวกท่านก็กลับมาแล้ว ฮือฮือๆ...” ซูจื่อชิงกอดขาทั้งคู่ ร้องไห้โฮ“รีบปล่อยเร็วเข้า อย่าทำให้ข้าขายหน้า”ซูจิ่งสิงสบถด่าเสียงเยียบเย็นทั้งคู่ทำความเคารพนางหยางพร้อมกัน “ท่านแม่ พวกเรากลับมาแล้ว ช่วงนี้ทำให้พวกท่านกังวลแล้ว”จ้านจ้านขาวขาวเนียนเนียน สุขภาพแข็งแรงร่าเริง นางหยางย่าคนนี้ใส่ใจไม่น้อย กู้หว่านเยว่รู้สึกซาบซึ้งอยู่ภายในก้นบึ้งของหัวใจ“ล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน พูดจาห่างเหินเพียงนี้ทำอันใด”นางหยางปาดน้ำตาที่หางตา มองกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงอย่างชื่นชม“ขอเพียงพวกเจ้าสองคนกลับมาได้อย่างปลอดภัย แม่ก็วางใจแล้ว”“ใ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1981

    ในสายตาเจ้าเด็กบ้ามีเพียงมารดา ไม่มีบิดา!ซูจิ่งสิงอยากตีก้นเจ้าเด็กคนนี้สักที แต่เห็นใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาของเขา ยังตัดสินใจปล่อยไปก่อนจ้านจ้านเงยหน้า เหลือบมองบิดาของเขาแวบหนึ่ง พูดขึ้นมาอย่างไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด “เสด็จพ่อ ท่านไม่ใช่พูดว่าจะพาเสด็จแม่กลับมาในสองเดือนหรือ?”เขากำหมัดแน่นถูกบิดาหลอกแล้ว!ตอนบิดาจากไปยังพูดว่าสองเดือนก็กลับมา เขาถึงดีใจพูดว่าอยากได้น้องสาวสักคน ขอให้พาน้องสาวกลับมาพร้อมกันใครรู้เล่าว่าบิดาไปครั้งนี้นานถึงหนึ่งปี!“เกิดความเปลี่ยนแปลง กลับมาช้าไปแล้ว”ซูจิ่งสิงลูบศีรษะเต็มไปด้วยเส้นผมของลูกชาย “แต่ครั้งนี้ข้าและแม่เจ้าได้รับมาไม่น้อย รอภายภาคหน้าค่อยๆ เล่าให้เจ้าฟังดีหรือไม่?”กู้หว่านเยว่ฟังออก ซูจิ่งสิงนี่คือต้องการเบี่ยงเบนความสนใจของจ้านจ้านนางพยักหน้าให้ความร่วมมือ “ใช่แล้วจ้านจ้าน พวกเราผ่านป่าซิงโตวมาด้วย นั่นคือสถานที่กว้างใหญ่เท่าต้าฉีสองแห่งเลยทีเดียว”จ้านจ้านกระพริบตา เขาอ่านหนังสือมาไม่น้อย นึกถึงระยะห่างภายในสมองภายในหนังสือพูดว่าอาณาเขตเหนือใต้ของต้าฉีมีระยะห่างราวหนึ่งพันห้าร้อยลี้ ต้าฉีสองแห่ง นั่นไกลมากเหลือเกิน“ภายใ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1980

    “เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”เขารู้จักจี้เยว่ สายตามองไปที่หน้าอกของนาง ก็เห็นคราบน้ำลายเต็มไปหมดจริง ๆ นางยังหลบอยู่ใต้โต๊ะทำงานของเขา ที่มุมปากก็ยังมีเศษขนมติดอยู่พอมองขึ้นไปบนโต๊ะ ขนมที่วางไว้เมื่อเช้าก็หายไปแล้วจริง ๆ เจ้าเด็กโง่คนนี้หลบอยู่ใต้โต๊ะทำงานของเขาเพื่อแอบกินขนม! มุมปากของจ้านจ้านกระตุกจี้เยว่ดูสีหน้าคนไม่ออก ยังไม่รู้ตัวว่าทำให้องค์ชายน้อยโกรธแล้ว ยังคงจ้องมองดวงตาแดง ๆ ของเขาอย่างสงสัย“ท่านพี่ ท่านร้องไห้ทำไมหรือ? กินขนมสักคำก็จะไม่ร้องไห้แล้วนะ ขนมที่นี่อร่อยมาก เยว่เอ๋อร์ไม่เคยกินขนมที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย”เจ้าแมวน้อยตะกละกินจนท้องกลม ก็พูดเยอะขึ้นแล้ว “ข้าไม่ได้ร้องไห้”จ้านจ้านกล่าวอย่างดุดัน“ถ้ากล้าพูดว่าข้าร้องไห้อีก ข้าจะต่อยเจ้า!”จี้เยว่ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง มองไปที่กำปั้นของจ้านจ้าน แล้วก็เบะปาก ดวงตาที่ดูโตเป็นพิเศษคู่นั้นก็เอ่อคลอไปด้วยน้ำตาในทันที“ฮือ ๆ ๆ ...” นางถูกขู่จนร้องไห้จ้านจ้านตกตะลึง เขากลัวผู้หญิงร้องไห้ที่สุด จึงรีบเอามือปิดปากของจี้เยว่ แก้มของเด็กหญิงทั้งกลมทั้งนุ่ม แถมยังเด้งอีกด้วยเขาก็เผลอใช้แรงหยิกไปทีหนึ่งโดยไม่รู้ตั

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1979

    ก็ไม่แปลกที่กู้หว่านเยว่จะลังเลตอนที่นางจากไปครั้งแรก ได้ให้สัญญากับซูจิ่งสิงไว้ว่าจะกลับมาภายในหนึ่งปีแต่ตอนนี้ ผ่านมาสองปีเต็มแล้วตอนนั้นจ้านจ้านยังเดินเตาะแตะ พูดได้แค่คำสองคำง่าย ๆ แต่ตอนนี้กลับขยับขาสั้น ๆ ของตนวิ่งได้อย่างคล่องแคล่วรวดเร็วหากไม่เอ่ยปากก็แล้วไป แต่หากเอ่ยปากพูดเมื่อใดก็สามารถทำให้คนโกรธจนแทบกระอักเลือดได้ดังนั้น ตอนแรกที่กู้หว่านเยว่เห็นเด็กน้อยคนหนึ่งวิ่งมา นางก็เพียงแค่รู้สึกตามสัญชาตญาณว่านั่นคือจ้านจ้านจนกระทั่งเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิด นางถึงกล้าตัดสินจากท่าทางของเด็กคนนั้นได้ว่า นั่นคือจ้านจ้านลูกชายสุดที่รักของนาง!“เป็นลูกชายจริง ๆ ด้วย!” กู้หว่านเยว่แสดงสีหน้าตื่นเต้นนางเร่งฝีเท้า เดินตรงไปยังทิศทางของจ้านจ้านซูจิ่งสิงเองก็จ้องมองเด็กคนนั้นไม่วางตา เขาจากไปช้ากว่ากู้หว่านเยว่เล็กน้อย ตอนนั้นจ้านจ้านก็สามารถพูดคุยกับเขาได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว“จ้านจ้าน!”ทั้งสองคนร้องเรียกออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ตั้งใจจะเข้าไปกอดลูกชายจ้านจ้านที่วิ่งมาได้ครึ่งทางพลันหยุดนิ่ง เขามองทั้งสองคน ก่อนจะเช็ดที่หางตาของตนเองอย่างแรงจากนั้น ก็หันหลังกลับแล้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status