หลังจากที่ฉัน ‘เผลอพูดอะไรไปโดยไม่คิดให้ดี’ …
ฉันก็ได้ลากอัยย์ เพื่อนรักของฉันเข้าสู่โลกมาเฟียไปด้วยแบบเต็มตัว—และไม่มีปุ่มย้อนกลับ! 😵💥
“โอ๊ยยย! ฉันไม่น่าไปเสนอหน้าเลยจริงๆ!!!”
เสียงบ่นโอดครวญของอัยย์ดังขึ้นขณะที่เธอลากฉันเดินออกจากมหาวิทยาลัยด้วยใบหน้ามู่ทู่ราวกับคนเพิ่งสูญเสียอิสรภาพในชีวิตไป
“นี่ฉันต้องไปงานเลี้ยงของมาเฟียจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย!!??”
“แกก็เล่นไปท้าทายคินเองอ่ะ!” ฉันแอบขำ
“แล้วแกดันไปเป็น 'คู่ควง' ของเขาอีก ฮ่าๆๆ”
“ไม่ต้องขำเลยนะยะ!!” อัยย์แยกเขี้ยวใส่ฉัน ดวงตาลุกเป็นไฟ
“ฉันไม่เต็มใจซะหน่อย!!”
“แต่ฉันเต็มใจนะ”
เสียงทุ้มๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง…
และมันทำให้อัยย์กับฉัน สะดุ้งเฮือก!!! 😱💥
“เฮ้ย! นายนี่ย่องเงียบเป็นแมวรึไง!?” อัยย์หันไปแว้ดใส่ทันที สีหน้าตกใจปนหงุดหงิดสุดขีด
ฉันเองก็แทบพ่นวิญญาณออกจากร่าง! เห้ยๆๆๆ! นี่หมอนี่เดินตามเรามาตลอดทางเลยเรอะ!? 😨💀
คินยืนอยู่ตรงนั้น ยิ้มบางๆ อย่างใจเย็น
“หืม? เธอเป็นคนไม่ระวังตัวเองมากกว่านะ”
คินยักไหล่อย่างสบายๆ สองมือซุกกระเป๋ากางเกง สูทสีดำเนี้ยบของเขาดูเข้ากันอย่างประหลาดกับบรรยากาศ แต่สิ่งที่น่าขนลุกที่สุดคือ… หมอนี่ไม่มีเสียงฝีเท้าเลย!!!
นี่นายเป็นนินจาเรอะฟะ!? 😱
“เป็นแฟนมาเฟีย แต่เผลอปากไวไปท้าทายมือขวาของเขาแบบนี้… มันอันตรายนะ”
“ไม่คิดว่าหมอนั่นจะโยนฉันไปให้ 'มือขวา' นี่หว่า!!” อัยย์ทำหน้าหงุดหงิดสุดๆ
“ถือเป็นเกียรติสิ” คินพูดเรียบๆ แต่ฉันสัมผัสได้ถึงออร่าความเจ้าเล่ห์บางอย่างในน้ำเสียงของเขา
“เกียรติบ้านนายสิ!! ฉันไม่อยากได้!!”
ฉันยืนมองสองคนนี้เถียงกันไปมาก็เริ่มขำออกมา โอ๊ยยย! ทำไมพวกมันกัดกันเหมือนเด็กประถมฟะ!? 😂
แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะหัวเราะเสร็จ—
หมับ!!
อัยย์คว้ามือฉันแล้วลากฉันไปอีกทางทันที! 😱💥
“แก!! ตามฉันมาเดี๋ยวนี้!!”
“ห้ะ!? ไปไหนฟะ!?”
“ก็ถ้าแกจะไปงานเลี้ยงมาเฟีย แกต้องเป๊ะให้สุด!!”
ฉันชะงัก ก่อนจะเบิกตากว้างอย่างหวาดระแวง
“เดี๋ยวๆๆๆ! นี่แกหมายความว่าไง!?”
อัยย์ยิ้มร้าย ดวงตาเป็นประกายเหมือนนักล่าที่เจอเหยื่อแสนสนุก
“เราจะไปแปลงโฉมกัน!!”
“หาาา!!??” 😱💥
“ฉันต้องทำให้แกเป็น ‘มาเฟียควีน’ ให้ได้!”
“ไม่เอาโว้ยยย!!” 😱🔥
ฉันพยายามดิ้นหนีแต่แรงอัยย์เยอะเกินไป!!
เฮ้ยยย! ฉันไม่ได้อยากเป็นมาเฟียควีน!!
ฉันเป็นแค่เด็กเนิร์ดที่อยากเล่นเกมเฉยๆ นะเว้ยยยย!!! 😭
📍 ศูนย์การค้าไฮเอนด์ – จุดเริ่มต้นของความวุ่นวาย
1 ชั่วโมงต่อมา…
ฉันยืนหอบอยู่กลางห้างหรู หลังจากที่อัยย์ลากฉันเข้าร้านโน้นออกร้านนี้แบบไม่ให้พัก
“โอ๊ยย! ฉันขาลากแล้วนะเว้ย!!” ฉันคร่ำครวญสุดชีวิต พร้อมกับกอดเสื้อผ้ากองโตในมือที่เธอโยนมาให้ลองไม่หยุด!
“เงียบไปเลยยัยเด็กเนิร์ด!” อัยย์ตวัดสายตาใส่ฉัน
“แกต้องดูแพงเข้าไว้!! นี่ไม่ใช่ไปเดตธรรมดานะ นี่คืองานเลี้ยงของมาเฟีย!!!”
เธอพูดพลางคว้าเดรสสีแดงแซ่บออกจากราวแขวนเสื้อ ก่อนจะหันมามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า สายตาประเมินราวกับกำลังรีโนเวทชีวิตฉันใหม่ตั้งแต่ศูนย์
“แล้วฉันจะต้องใส่อะไรขนาดนั้นวะ!!?” ฉันชี้ไปที่ชุดหรูอลังการที่เธอถืออยู่
แม่เจ้า! นี่มันเดรสหางปลาระยิบระยับราวกับชุดนางพญาในหนังฮอลลีวูดเลยนะเว้ย!!
“ชุดนี้คือ ชุดแฟนมาเฟียระดับท็อป!!!” อัยย์ตาวาวเป็นประกายระยิบระยับ
“แกต้องเป็นตัวท็อปของงาน!!”
“ตัวท็อปพ่องงง!!!”
ฉันกุมขมับ ขณะที่เหล่าพนักงานร้านกำลัง ตื่นเต้นสุดๆ กับการจับฉันแต่งตัว (เฮ้ยย! พวกคุณสนุกอะไรกันนักกันหนาเนี่ย!?)
และที่สำคัญ…
“เห้ยพวกนาย!! จะเดินตามฉันเข้าร้านเสื้อผ้าผู้หญิงทำไมฟะ!!?” ฉันหันไปโวยวายใส่เหล่าบอดี้การ์ดของเรย์จิที่ยังคงเดินตามฉันไม่ห่างราวกับเป็นเงาติดตัว
พวกเขาไม่ตอบอะไร แค่ยืนกอดอกเงียบๆ หน้านิ่งเหมือนหุ่นยนต์
โอ๊ยย!! ฉันจะซื้อชุดในยังไงฟะะะะะ!!! 😱🔥
ฉันหันไปหาคินที่ยืนอยู่ข้างๆ อัยย์ อย่างโคตรชิล มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง สูทสีดำเนี้ยบยังเป๊ะเหมือนเดิม หมอนี่ยังไม่แสดงสีหน้าเหนื่อยแม้แต่นิดเดียว!?
“นี่!! นายก็เหมือนกัน!! ไปทำอย่างอื่นไม่ได้รึไง!!?” ฉันชี้นิ้วใส่เขาทันที
คินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งสุดๆ
“ฉันมีหน้าที่ดูแล 'คู่ควง' ของฉัน”
“ใครคู่ควงนายฟะ!!” อัยย์หันไปแยกเขี้ยวใส่
“เธอไง” คินยักไหล่
“นายท่านเรย์จิสั่งแล้ว”
“ฉันไม่รับคำสั่งเว้ย!!”
“งั้นลองไปขัดคำสั่งเขาเองสิ”
คินยิ้มเจ้าเล่ห์ น้ำเสียงฟังดูโคตรกวนประสาทแบบสุดๆ
“..........”
โอ๊ยยย! ฉันรู้สึกว่าอัยย์กำลังหัวร้อนสุดๆ แล้ว!!! 😂🔥
อัยย์สูดลมหายใจลึก ก่อนจะสะบัดหน้าไปทางอื่นราวกับพยายามข่มอารมณ์ (เฮ้ยๆๆ! พวกนี้กำลังจะเริ่มศึกกันอีกแล้วใช่ไหมฟะ!?)
“เหอะ!”
เธอแค่นหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันมามองคิน สายตาเต็มไปด้วยแรงท้าทายแบบสุดๆ
“ถ้านายจะเป็น 'คู่ควง' ของฉันจริงๆ นายก็ต้องแต่งตัวให้สมกับเป็นแฟนฉันด้วย!”
ฉันสะดุ้ง หันขวับไปมองอัยย์ทันที
เฮ้ยๆๆ! นี่แกจะทำอะไรฟะ!? 😱💥
คินหรี่ตาลงนิดๆ รอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าราวกับถูกใจคำพูดนี้เข้าเต็มๆ
“หืม… เธออยากให้ฉันแต่งตัวยังไง?”
“เดี๋ยวก็รู้…”
ฉันขนลุกซู่ทันทีที่เห็นรอยยิ้มมุมปากของอัยย์
โอ๊ยย! นี่มันรอยยิ้มของคนกำลังวางแผนร้ายชัดๆ!!! 😱💀
จากนั้นเธอก็…
“พนักงานคะ! เอาชุดที่ดู ‘คู่รักสายแฟชั่น’ ที่สุดมาให้เขาทีค่ะ!!”
“ห๊าาาา!?”
คราวนี้คินเป็นฝ่ายอึ้งไปแว้บนึง!!! ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ
“หืม… แบบนี้น่าสนุกดีแฮะ”
“เห้ยยย!! นี่พวกแกเล่นอะไรกันเนี่ย!!!” 😱💥
ฉันยืนช็อกขณะที่อัยย์ลากคินเข้าไปลองชุดเหมือนลากตุ๊กตาตัวหนึ่งไปแต่งตัว (?)
โอ๊ยย! ฉันไม่น่าเอาอัยย์มาด้วยเลย!! 😭💀🔥
1 ชั่วโมงต่อมา…
ฉันยืนอยู่หน้ากระจก มองเงาสะท้อนของตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา…
ร่างที่ฉันเห็นตรงหน้าไม่ใช่ ‘มินาเอะ ซาโตะ’ คนเดิมที่เคยเดินลุยๆ ในฮู้ดโคร่งๆ และกางเกงวอร์มทุกวัน—
แต่คือ ‘แฟน (?) มาเฟียระดับไฮโซ’ ที่ถูกจับแต่งองค์ทรงเครื่องจนแทบจำตัวเองไม่ได้!!! 😱💥
ฉันอยู่ในเดรสยาวสีดำสุดหรู เปิดไหล่ ที่เข้ารูปเน้นสัดส่วนพอดีเป๊ะ
ผ้าซาตินสีดำเนื้อดีแนบไปกับร่างกายพอดี ผ่าข้างสูงโชว์เรียวขาขาวนิดๆ แต่ไม่ถึงกับโป๊เกินไป ชายกระโปรงยาวพลิ้วไหวทุกครั้งที่ฉันขยับตัว ให้ความรู้สึกเหมือนนางพญาในหนังฮอลลีวูดที่กำลังจะก้าวเข้าสู่งานกาล่าสุดหรู
เส้นผมสีน้ำตาลเข้มที่เคยชี้ฟูตอนเล่นเกมทั้งคืน ตอนนี้ถูกเกล้าครึ่งศีรษะให้ดูหวานแต่แอบแฝงความหรูหรา ปอยผมเล็ก ๆ ข้างใบหูช่วยทำให้ใบหน้าดูหวานขึ้น ส่วนเครื่องประดับที่อัยย์บังคับให้ฉันใส่…
โคตรแพง!!! 😱🔥
สร้อยเพชรเส้นเล็กๆ แต่ดูแพง มันรับกับกระดูกไหปลาร้าของฉันพอดี ต่างหูเพชรเม็ดเล็กสะท้อนแสงไฟระยิบระยับ บวกกับรองเท้าส้นสูงหรูที่เสริมให้ฉันดูสง่างามขึ้น (แต่ขอโทษ… เดินไม่คล่อง!!!)
ฉันอ้าปากค้าง… นี่ฉันจริง ๆ เรอะ!? 😱
“แฟน (?) มาเฟียเต็มตัวไปแล้ว!!??” 😱💀🔥
ฉันหันไปมองอัยย์ที่กำลังพยักหน้าอย่างพอใจสุด ๆ
“เพอร์เฟ็กต์! แกพร้อมไปเป็น ‘มาเฟียควีน’ แล้ว!”
“ไม่เอาโว้ยยย!!!” ฉันแหกปากแทบจะพุ่งไปเปลี่ยนชุด 😭
และที่สำคัญ…
สายตาของคิน ที่กำลังจ้องฉันอยู่ในตอนนี้
“…หืม”
ฉันรู้สึกได้ถึงแรงสายตาที่กำลังจับจ้อง
ฉันค่อยๆ หันไป และก็เห็นว่า…
คินกำลังมองฉัน… อย่างตะลึงเล็กๆ
ปกติแล้วหมอนี่เป็นพวกสุขุม นิ่ง ไม่ค่อยแสดงอารมณ์อะไรให้เห็น แต่ตอนนี้… ฉันเห็นชัดเจนเลยว่า เขากำลัง ‘อึ้ง’ อยู่
“…ดูไม่เหมือนเธอเลยแฮะ” คินเอียงคอมองฉันเหมือนกำลังสำรวจอะไรบางอย่าง
“ก็แน่สิฟะ!! ฉันไม่ได้แต่งตัวแบบนี้ทุกวันนะเว้ย!!” ฉันโวยเบาๆ หน้าเริ่มร้อนขึ้นมานิดๆ 😳
แต่เขาไม่ได้ตอบอะไร แค่ยิ้มมุมปากเล็กๆ ก่อนจะดันแว่นขึ้นเบาๆ
“แต่ก็ดูดีเหมือนกัน”
แต่เอาเหอะ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ฉันคนเดียวที่ถูกจับแปลงโฉม เมื่อคินที่เปลี่ยนชุดเรียบร้อย แล้วเดินออกมา...
ฉันต้องยอมรับว่า ฉันแทบจำหมอนี่ไม่ได้เหมือนกัน!!! 😱
คินทัต ศักดารณรงค์ มือขวาของเรย์จิ ที่ปกติแต่งตัวเรียบๆ ในสูทดำสุดเนี๊ยบ มาดนิ่งเหมือนนักธุรกิจมาเฟีย…
ตอนนี้กลับกลายเป็น “คู่ควงสายแฟชั่น” อย่างเต็มตัว
สูทสีดำกำมะหยี่ที่ตัดพอดีตัว โชว์ช่วงไหล่กว้างกับรูปร่างสูงโปร่ง แขนเสื้อมีลวดลายปักสีเงินบางๆ เพิ่มลูกเล่นหรูหรา กางเกงเข้ารูปเสริมให้ดูขายาวขึ้น ส่วนเนกไทถูกรั้งให้คลายเล็กน้อย ให้ลุคกึ่งเป็นทางการแต่ดูโคตรเซ็กซี่ เผยให้เห็นแผงอกนิดๆ แบบกรุบๆ
บอกตามตรง… หมอนี่แม่ง… โคตรหล่อเลยว่ะ!!!
ฉันยังไม่ทันจะพูดอะไร ก็เห็นอัยย์ที่ยืนอยู่ข้างๆ แข็งค้างไปแล้ว!!! 😱💘
“เห้ยๆๆๆ … หมอนี่แม่งหล่อขึ้นเยอะไปไหมวะ!?”
ฉันได้ยินเสียงพึมพำของอัยย์ชัดเจนสุดๆ ก่อนที่เธอจะรีบกระแอมแล้วปรับสีหน้าทันที
“หืม…” คินหมุนตัวไปมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจก ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ อย่างพอใจ
“ดูดีเหมือนกันแฮะ”
อัยย์ที่ยังค้างอยู่ถึงกับต้องกะพริบตาถี่ๆ ก่อนจะรีบเรียกสติกลับมา แล้วตีหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“แน่นอน!”
เธอแสร้งพูดราวกับภูมิใจในฝีมือการเลือกชุดของตัวเองสุดๆ แต่ฉันเห็นนะ… ว่าเมื่อกี้แกอึ้งแค่ไหน!?!? 🤣💥
คินปรายตามองอัยย์นิดๆ ก่อนจะฉีกยิ้มกวนๆ
“เธอจะรับผิดชอบฉันมั้ยล่ะ ถ้าใครเห็นแล้วตกหลุมรักฉัน?”
“รับผิดชอบพ่อง!!!” 😡
เสียงอัยย์แผดลั่น ฉันแทบจะกลั้นขำไม่อยู่เมื่อเห็นหน้าแดงๆ ของเธอ เฮ้ยๆๆ! นี่มันอะไรฟะ!?!?!?
พวกแกเล่นอะไรกันเนี่ย!!! 😱🔥💀
ฉันกุมขมับขณะมองสองคนนี้กัดกันไปมา แต่ในใจฉันกลับเริ่มคิดว่า…
งานเลี้ยงมาเฟียครั้งนี้… ต้องวุ่นวายสุดๆ แน่!!! 😱🔥
💘 คฤหาสน์คุโรซาวะ — หนึ่งปีหลังวันหมั้น☀️ เช้าที่แสนสงบเรย์จิ & มินาเอะ...ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่คือ “ผู้สร้างสมดุลใหม่” ให้โลกใต้ดิน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ เริ่มต้นจากเกมบังคับ กลายเป็นสงครามหัวใจ และจบด้วยคำสัญญา...ที่ไม่ต้องเปล่งเสียงอีกต่อไปทุกเช้า—เรย์จิจะชงกาแฟให้เธอก่อนที่เธอจะตื่น มินาเอะจะวางแท็บเล็ตไว้ข้างแก้วเขา พร้อมแผนที่ปรับให้เรียบร้อยพวกเขา...พูดน้อยลง แต่เข้าใจกันได้ด้วยการเหลือบตาเพียงครั้งเดียว มือที่เคยประสานเพื่อจับปืน วันนี้ประสานเพื่อ “จับหัวใจของกันและกัน”👑 มินาเอะ — ราชินีของโลกใต้ดิน“มาเฟียควีน” ไม่ใช่คำล้ออีกต่อไป เธอคือหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์หลักขององค์กร นั่งประจำเก้าอี้หัวโต๊ะขององค์กรคุโรซาวะที่เคยสงวนไว้ให้คนเดียวเท่านั้น...เรย์จิเธอสวมสูทเรียบหรู ส้นสูงเฉียบ แววตาคมแต่ยังเปล่งประกายแบบ ‘เนิร์ดตัวจริง’ ที่ใครก็ประมาทไม่ได้แต่วันนี้...เธอมีอำนาจต่อรองเหนือกว่ากระสุน เพราะมินาเอะรู้ว่า ศัตรูไม่ได้แพ้ด้วยปืน ...แต่มักแพ้ให้กับคำพูดที่เขาคิดว่าเราจะไม่กล้าพูด“เราไม่จำเป็นต้องรบกับทุกคนค่ะ ถ้าทำให้เขาอยากอยู่กับเรามากกว่ากลัวเรา”เสียงในห้องประชุมเงียบไป
📍 คฤหาสน์คุโรซาวะ – 6 เดือนหลังสงครามพระอาทิตย์ยามเย็นกำลังจะลับขอบฟ้า แสงสีทองอุ่น ๆ รินลงผ่านกระจกห้องโถงใหญ่ ทอดเงายาวลงบนพื้นไม้ขัดมันอย่างเงียบงาม ด้านหลังคฤหาสน์...สวนถูกเนรมิตขึ้นใหม่เพื่องานสำคัญที่สุด“พิธีหมั้นกลางแจ้ง”ที่ทุกคนร่วมกันเตรียม...เพื่อเธอคนเดียว ลานหญ้าถูกปูด้วยพรมทางเดินสีครีมอ่อน รายล้อมด้วยดอกกุหลาบขาวที่ปลูกลงดินจริงเรียงแถวละเมียดเส้นสายไม้โค้งเป็นซุ้มประดับผ้าโปร่ง และไฟ fairy light ที่เตรียมไว้ส่องเมื่อตะวันตกดิน ทุกอย่างถูกจัดวางด้วยความรัก...ไม่ใช่เพราะพิธี แต่เพราะคนที่ยืนอยู่ในพิธีนี้🎼 เครื่องดนตรีคลอเพลงคลาสสิกบรรเลงเบา ๆโน้ตแต่ละตัว...เรย์จิเคยเลือกมันเองจากร้านแผ่นเสียงเก่า ๆ กลางเมืองและที่ปลายเวที —ไทกะ เจ้าหมาชิบะอินุตัวแสบ ใส่โบว์สีงาช้าง-ทอง ยืนสง่าด้วยแท่นแหวนในปาก (หลังจากถูกมินาเอะ อัยย์ และทีมแม่บ้าน “ต่อรองด้วยขนม 7 แบบ” เกือบครึ่งวัน ถึงจะยอมถือ)...👰🏻♀️ มินาเอะ — ว่าที่เจ้าสาวอยู่ในชุดเดรสลูกไม้สีงาช้างที่แสนเรียบหรู แต่งดงามราวกับภาพฝัน ผมมัดครึ่งคลายลงมาเป็นลอนนุ่ม ประดับด้วยปิ่นเงินรูปผีเสื้อ ใบหน้ามีรอยยิ้มสั่นไหว — ไม่ใ
📍ด้านของซันหลังจากเหตุการณ์ล้อมศูนย์บัญชาการและการเผชิญหน้ากับเรย์จิที่โกดังร้าง ซันถูกปล่อยตัวกลับไป—ไม่ใช่เพราะเรย์จิอ่อนแอ แต่เพราะเขาตัดสินใจ ‘ให้ชีวิตกับความพ่ายแพ้’ มากกว่าความตายไม่กี่วันหลังจากนั้น...มีบางข่าวลือเล่าว่าเขาขึ้นเครื่องไปอิตาลีภายใต้ชื่อปลอม และกลับเข้าสู่วงการมาเฟียระดับนานาชาติ ในเงามืดไม่ได้ใช้ชื่อเดิมไม่ได้ประกาศตัวแต่ทุกเครือข่ายของมาเฟียในยุโรปเริ่มขยับอย่างเงียบ ๆ เหมือนเงาของใครบางคน...กลับมายืนอยู่หลังม่านอีกครั้งจนวันหนึ่ง...เงาก็หายไปไม่มีข่าวไม่มีสัญญาณไม่มีใครรู้ว่า ซันมีชีวิตอยู่ หรือหมดสิ้นจากโลกใบนี้ไปแล้ว“เรย์จิไม่ได้พูดถึงเขาอีกเลย…”แต่บางคืนที่ลมแรง...เขาจะยืนนิ่งอยู่ที่ระเบียงคฤหาสน์ สายตาจ้องไปที่เมืองไกล ๆ เหมือนรอคนที่ไม่มีวันกลับมาอีก🐕🐕🐕🐕🐕🐕ด้านมินาเอะเมื่อสงครามจบลง และคฤหาสน์กลับสู่ความสงบ มินาเอะเริ่มต้นเส้นทางใหม่ในฐานะคนของตระกูลคุโรซาวะอย่างแท้จริงเธอเข้าคอร์สฝึกฝนกับ แม่ของเรย์จิ — หญิงผู้เป็นดั่งเงาหลังอาณาจักร ระเบียบเข้ม สายตาคม บทเรียนโหดแบบ ‘หากเจอศัตรู เธอจะรอดในหนึ่งวินาทีหรือไม่?’แต่แน่นอน...มินาเอะไม่
เงาไฟสีส้มกะพริบจากโคมไฟสนามลมแรงพัดเส้นสายไฟโยกไปมา เสียง ครืด...ครืด... เหมือนเสียงถอนหายใจของสถานที่ที่เต็มไปด้วยซากสงครามกลิ่นสนิม โลหิต และควันดินปืน ตลบอบอวลในอากาศ ขมคอ...เหมือนความทรงจำที่ไม่สามารถกลืนลงหรือคายทิ้งได้เรย์จิ คุโรซาวะ ยืนอยู่ท่ามกลางเศษกำแพงที่พรุนจากกระสุน แสงกะพริบของไฟสะท้อนลงบนใบหน้าเปื้อนเลือดและเหงื่อมือขวาถือปืน กระบอกยังอุ่นจากการยิงก่อนหน้า เสื้อเชิ้ตสีดำมีรอยเลือดกระจายเป็นวง — ไม่รู้ว่าเป็นของใคร และอาจไม่สำคัญอีกแล้วแววตาเขา...เยือกเย็น ไม่ใช่เพราะไร้อารมณ์แต่เพราะ ต้องทำในสิ่งที่ไม่ควรต้องทำมากที่สุดในชีวิตไม่ไกล ซันยืนพิงเสาเหล็กที่หักโค้ง ใบหน้าซีด แต่ยังยิ้ม ผ้าพันแผลแน่นรอบแขนขวา รอยแตกที่ริมฝีปากยังมีเลือดไหลซึม แต่ดวงตา...ยังเต็มไปด้วยประกายกร้าวที่ไม่ยอมตาย“มาถึงตรงนี้ได้เร็วกว่าที่คิดนะ...เรย์จิ”“คิดจะมาส่งเพื่อนเก่าไปนรกด้วยตัวเองเลยหรือไง?”น้ำเสียงแหบพร่า แต่เจือด้วยรอยล้อเลียนที่แหลมคมจนแทงทะลุทุกเกราะเรย์จิไม่ตอบเขาก้าวเข้ามาทีละก้าว ทีละก้าว ที่เหมือนพาอดีตทุกเสี้ยววินาทีเดินกลับเข้ามาภาพเพื่อนร่วมสนามฝึกภาพคนที่เคยหันหลัง
📍เวลา 06:02 น. — บริเวณโกดังหมายเลข 14, เขตท่าเรือร้างลมทะเลพัดกรูเข้ามาทางหน้าต่างเก่าเสียงคลื่นกระทบท่าเรือดังต่ำ ๆ คล้ายเสียงลมหายใจสุดท้ายของเมืองร้าง บนชั้นสองของโกดัง — ไม่มีใครอยู่ ยกเว้นเขาซันยืนพิงราวเหล็ก ฝ่ามือแตะหน้าต่างที่แตกเป็นรอย มองลงไปเบื้องล่าง — ลูกน้องกว่า 40 คนของเขา กำลังแทรกตัวเข้าตำแหน่งรอบเมืองอย่างเงียบเชียบ ราวกับ "ล้อมศูนย์บัญชาการไว้ในความเงียบ"เป้าหมายของเขา:ไม่ใช่ฆ่า ไม่ใช่เผา แต่คือ “ถล่มศูนย์กลาง” ให้ระบบคุโรซาวะล่มทั้งองค์กร — เหมือนการผลักโดมิโนตัวแรกให้พังตามเป็นเส้น“เริ่มเคลื่อนกำลังได้”เสียงของซันดังขึ้นผ่านวิทยุสื่อสาร น้ำเสียงสั้น หนัก และเด็ดขาด ทันใดนั้น...เงาเคลื่อนไหวของทีมซัน ก็ขยับพรึ่บพร้อมกันทั่วแผนแต่ในขณะเดียวกัน...📍ภายในห้องบัญชาการ – คฤหาสน์คุโรซาวะมินาเอะ ยืนอยู่หน้าหน้าจอหลัก ภาพแผนผังแสดงรูปแบบล้อมรอบของซันแบบชัดเจน —เส้นสีแดงกะพริบรายล้อมศูนย์กลางหลายคนอาจมองว่าเธอกำลังตกอยู่ในวงล้อม แต่แววตาของเธอ...กลับเยือกเย็น และคมเหมือนใบมีด“กับดักล้อมนอก...”“แต่ลืมว่าข้างใน...กำลังรออยู่”เธอแตะปลายนิ้วลงบนแท็บเล็ตเบา ๆ เส
📍ภายในห้องบัญชาการ – เวลา 05:16 น.แสงไฟบนเพดานสลัวลงอัตโนมัติเพื่อไม่รบกวนการทำงานของหน้าจอหลักจอมอนิเตอร์เรียงรายเต็มฝาผนังแสดงข้อมูลแบบ real-time ทั้งจากเส้นทางการขนส่ง โกดัง สัญญาณไวรัส และโค้ดที่เพิ่งถูกเจาะเสียงไซเรนเบา ๆ ยังดังเป็นคลื่นพื้นหลัง กดอารมณ์ในห้องให้ตึงเครียดทันใดนั้น—เสียงมือถือของเรย์จิดังขึ้น หน้าจอแสดง ‘สายตรงจากคิน’พร้อมรหัสภายในพิเศษ เขารับทันทีโดยไม่ต้องพูดคำทัก และเสียงจากปลายสายก็ดังขึ้นทันทีตามสไตล์เจ้าตัว“ได้ตัวแล้ว”“และหมอนั่นพูดทุกอย่างที่เราต้องรู้”เสียงห้าวต่ำของคินฟังนิ่ง แต่จริงจัง“ซันรู้ว่าเราวางกับดัก...แต่มันกำลังจะใช้กับดักนั่น ‘ล้อมพวกเราทั้งหมด’ แทน”ปลายนิ้วของเรย์จิเกร็งแน่นกับขอบโต๊ะไม้ เสียงเขาลดต่ำลงโดยอัตโนมัติ ราวกับแรงดึงดูดของคำที่ได้ยินกำลังหนักขึ้นเรื่อย ๆ“หมอนั่นมันคิดจะล่อเราหลงทิศ…”“แล้วปิดเกมในครั้งเดียว?”...แต่ก่อนที่เขาจะเอ่ยความคิดใด ๆ ต่อไปเสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นจากด้านหลัง — ชัดเจน มั่นใจ แต่ทุ้มนุ่มแบบคนที่คิดเสร็จนานแล้ว แค่รอให้คนอื่นทันมินาเอะยืนพิงโต๊ะ มือหนึ่งถือแท็บเล็ต อีกมือไขว้หลัง ใบหน้าเรียบเฉย
ห้องเก็บของหลังคฤหาสน์ – 04:36 น.ไฟเพดานดวงเล็ก ๆ ห้อยจากสายไฟเก่าๆ แสงสีเหลืองส้มอ่อนส่องลงตรงจุดเดียวกลางห้อง — บนร่างของชายคนหนึ่งที่ถูกมัดแน่นกับเก้าอี้เหล็กเสียงหยดน้ำจากท่อแตก “แหมะ…แหมะ…”หยดลงบนพื้นซีเมนต์ทุกสิบวินาที กลายเป็นนาฬิกานับถอยหลังในห้องที่เงียบจนน่ากลัวมิซากิ — หัวหน้าทีม IT ของคุโรซาวะที่เคยได้รับความไว้วางใจสูงสุด กำลังนั่งนิ่งกลางแสงเหงื่อไหลลงข้างแก้มแม้ในห้องที่เย็นจัด มือทั้งสองข้างถูกมัดแน่นที่ด้านหลังของเก้าอี้ บนร่างกายมีรอยฟกช้ำ ที่เริ่มปรากฎขึ้นบนต้นแขนและข้างลำคอจากการดิ้นรนก่อนหน้านี้เสียงฝีเท้า...ใกล้เข้ามา ไม่รีบร้อน ไม่หนัก แต่ทุกก้าวดังชัดเหมือนฝังลงในกระดูกคินเดินเข้าสู่แสงไฟ ชุดยังคงเป็นเสื้อผ้าชุดเดิมที่เขาใส่ประชุม แต่แขนเสื้อถูกพับขึ้น เผยท่อนแขนเต็มแน่นของนักล่าสายตาเขานิ่ง เงียบ และไม่มีแม้แต่วี่แววของความโกรธ“สวัสดี...มิซากิ”เสียงของคินราบเรียบ แต่ชัดเจนเกินกว่าจะเป็นคำทักทายเขาหย่อนตัวนั่งลงช้า ๆ บนเก้าอี้ตรงข้าม“คิน…ฉัน...ฟะ...ฟังฉันอธิบาย—”ผัวะ!!กำปั้นชกเข้าที่แก้มขวา ไม่แรง แต่เร็ว และ ‘แม่นยำ’ จนใบหน้าของมิซากิสะบัดไปเองตา
ภายในรถหุ้มเกราะสีดำสนิทไฟในรถเปิดเพียงแสงสลัว แผงหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ฉายแผนผังคฤหาสน์คุโรซาวะแบบ 3 มิติบนจอโปร่งใส — แสดงระบบห้องต่าง ๆ เสมือนของจริง ทั้งสายไฟหลัก กล้องวงจรปิด เซิร์ฟเวอร์ ระบบจ่ายพลังงาน และจุดเชื่อมต่อทั้งหมดเสียงฝนกระทบหลังคาโลหะเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ราวกับเสียงนาฬิกาที่นับถอยหลังสู่หายนะ ในอากาศ มีกลิ่นของน้ำมัน ดินปืน และเหงื่อเย็น ๆ ของคนที่อยู่ในสนามรบกลิ่นทั้งหมดผสมกันจนกลายเป็น ‘กลิ่นเฉพาะของสงคราม’ซันนั่งสงบนิ่งอยู่เบาะหลังเสื้อโค้ทสีดำยาวดูหนักอึ้งไปด้วยไอเย็น เขาไม่พูดอะไรในตอนแรก แต่แววตา...เฉียบคม เยือกเย็น และเต็มไปด้วยบางอย่างที่น่ากลัวกว่าอารมณ์โกรธ—คือ ความตั้งใจเบื้องหน้าของเขาแผนผังคฤหาสน์ฉายอยู่บนโต๊ะกลางรถ จุดสีแดง 7 จุดกะพริบอยู่ชัดเจนแต่ละจุด คือ ‘เส้นเลือด’ ที่หล่อเลี้ยงระบบหลักของคุโรซาวะเซิร์ฟเวอร์หลัก ฐานสื่อสาร ระบบพลังงาน ช่องทางข้อมูลลับ โกดังสินค้า บัญชีดำพันธมิตร และ...ห้องบัญชาการ“วันนี้ เราจะไม่ลอบฆ่า”ซันพูดเสียงต่ำ แต่ทุกคำหนักแน่นเหมือนค้อนทุบพื้นหิน“แต่จะเจาะเลือด...ให้มันไหลทั้งระบบ”เขาหยิบเข็มกลัดสีทองขนาดเล็กจากกล่อง
กลางดึก...แสงไฟสลัวสีอำพันจากโคมไฟเพดานกระจายตัวลงบนโต๊ะไม้ยาวกลางห้องผนังห้องทำงานชั้นบนสุดของคฤหาสน์คุโรซาวะถูกปกคลุมด้วยแผนที่ขนาดใหญ่ ข้อมูลจุดต่าง ๆ ถูกไฮไลต์ด้วยสีแดงที่กะพริบเป็นจังหวะเหมือนจังหวะหัวใจของสงครามที่กำลังใกล้เข้ามามินาเอะลากเก้าอี้มานั่งลงตรงโต๊ะด้านข้างเธอสวมเสื้อฮู้ดโอเวอร์ไซซ์สีเทาเข้ม แขนเสื้อยาวเกินข้อมือ เธอพับมันขึ้นครั้งเดียวแล้วไม่สนใจอีก ไทกะ หมาชิบะอินุตัวแสบของเธอ นอนเงียบ ๆ อยู่ข้างตัว ดวงตาสีอำพันของมันจ้องจอแผนที่ด้วยความสงบแต่ตื่นตัวเสียงเรย์จิดังขึ้นเบา ๆ คล้ายจะห้าม“เธอไม่ได้ต้องเข้ามาในห้องวางแผนนี้ก็ได้”แต่มินาเอะเพียงยิ้มบาง ๆ พลางเปิดโน้ตบุ๊กของตัวเองขึ้นมาวางข้างแผนที่หลักแสงจากหน้าจอฉายขึ้นใบหน้าเธอ ทำให้ดวงตากลมที่เคยขี้เล่นบัดนี้ฉายแววเยือกเย็นของคนที่อยู่ใน ‘โหมดคำนวณเต็มรูปแบบ’“ไม่ได้สิ…นายลืมเหรอว่า ฉันน่ะ ‘เล่นเกมอ่านนิสัยบอส’ เป็นงานอดิเรกเลยนะ”เธอตอบขณะพิมพ์รัวบนคีย์บอร์ด ข้อมูลจำนวนมหาศาลไหลผ่านหน้าจอ: เส้นทางรถขนของกลางเมือง กล้องวงจรปิด แหล่งข่าวท้องถิ่น แม้แต่กระแสในโซเชียลแบบที่ไม่มีใครมองว่าสำคัญ — แต่เธอกลับมองเห็น