Share

ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง
ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง
Auteur: Lailafun / เฉิงเอ๋อร์ / มอ.อาร์.ยอ

บทนำ : เคราะห์หนัก :

last update Dernière mise à jour: 2025-01-23 13:27:41

"สายแล้ว ๆ"

เสียงร้อนรนดังขึ้นพร้อมมือเรียวสวยหยิบหวีขึ้นมาสางผมพอลวก ๆ หมุนซ้ายหมุนขวาอย่างขอไปทีเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผม

"เสี่ยวเยว่! นี่จะแปดโมงแล้วนะลูก ยังไม่เสร็จอีกเหรอ"

จินจวง ป้าแท้ ๆ ตะโกนขึ้นมาถามเมื่อเห็นว่าวันนี้เลยเวลาออกจากบ้านของหลานสาวสุดที่รักแล้ว

"มาแล้วค่า ๆ"

เจ้าของชื่อเรียกรีบวิ่งตึงตัง หอบหิ้วข้าวของพะรุงพะรังเต็มสองมือ ทั้งกระเป๋าเอย รองเท้าส้นสูงเอยเสื้อสูทเอย จนคนเป็นป้าหวั่นจะตกบันไดก่อนได้ถึงที่ทำงาน

"เมื่อคืนกลับดึกเหรอลูก"

จินจวงพยายามไถ่ถามเพื่อให้คนที่รีบร้อนค่อย ๆ ตั้งสติแล้วใจเย็นลง

"นิดหน่อยค่ะ"

นิดหน่อยที่ไหนละ เมื่อคืนเป็นวันเกิดครบรอบยี่สิบสามปีของเธอ เพื่อนสนิทจึงนัดกินดื่มกันหลังเลิกงาน กว่าจะรู้ตัวก็พากันกลับเกือบฟ้าสางได้นอนพักไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องตื่นมาในสภาพเช่นนี้แล้ว

"วันนี้ครบรอบยี่สิบสามปีพอดี หนูต้องตั้งสติ ก้าวขาข้างที่เป็นมงคลออกจากบ้านนะลูก"

ผู้ปกครองอย่างจินจวงที่ปีนี้อายุย่างห้าสิบเอ่ยบอกหลานสาวอย่างเป็นห่วง

"นี่มันยุคไหนแล้วคะป้า อาถรรพ์เลข 3 , 6 , 9 อะไรนั่นไม่มีแล้วละค่ะ"

สาวสมัยใหม่หลายคนมักจะไม่ค่อยเชื่อเรื่องเบญจเพสตามศาสนาเต๋านิกายเจิงอี้ สืบเนื่องมาจากยุคสมัยที่พัฒนาขึ้นทำให้ต่างก็ไม่ค่อยเชื่อเรื่องดวงร้ายดวงกุดกันแล้ว

"ไม่เชื่อป้าไม่ว่า ป้าแค่อยากเตือนให้เรามีสติอยู่ตลอดเวลา แค่นี้ทำให้ป้าได้ใช่ไหม"

จินจวงไม่อยากสูญเสียหลานสาวไปอีกคน แค่เมื่อเกือบยี่สิบปีก่อนเธอสูญเสียน้องสาวแท้ ๆ ไปก็ทำใจไม่ได้แล้ว

"ค่า ๆ หนูสัญญา"

หลันจินเยว่ชูนิ้วก้อยขึ้นมาขอเกี่ยวก้อยกับผู้เป็นป้า

เฮอ... แค่เห็นรอยยิ้มหวานของเธอ จินจวงก็ใจอ่อนยวบไม่อยากเซ้าซี้ต่อความยาวให้หลานสายไปมากกว่านี้แล้ว

"คืนนี้ป้าจะทำบะหมี่อายุยืนไว้ให้ เลิกงานแล้วมาฉลองที่บ้านกันอีกรอบนะลูก"

จินเยว่ส่งยิ้มหวานเป็นการสัญญา ก่อนจะวิ่งออกจากประตูบ้านพร้อมมือสวยที่ยกโบกสูง

"ทำไมรู้สึกใจคอไม่ดีแบบนี้นะ"

เพียงแค่แผ่นหลังจินเยว่หายไปจากสายตาผู้เป็นป้า เธอรู้สึกหายใจหายคอไม่ทั่วท้อง เหมือนมีลางบอกเหตุว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น

"เสี่ยวจู เสี่ยวฟง วันนี้จินเยว่อายุครบยี่สิบสามแล้วนะ ทั้งสองช่วยคุ้มครองแกให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวงด้วยเทอญ"

ธูปหอมถูกปักลงบนกระถางธูปต่อหน้าป้ายชื่อของผู้วายชนน์ที่เป็นน้องสาวและน้องเขย หรือก็คือพ่อกับแม่ของหลันจินเยว่นั่นเอง

ฟิ้ว~

สายลมจากทิศทางไหนพัดปลิวมาต้องผิวกายเธอไม่อาจบอกได้ นั่นยิ่งทำให้จินจวงรู้สึกไม่สบายใจยิ่งกว่าที่เป็นอยู่

"อย่าคิดมากไปเลยเรา"

แม้จะเป็นประโยคปลอบใจตนเอง แต่ไม่ได้ช่วยให้เธอสบายใจขึ้นมาเลยสักนิดเดียว

ซิ่งไปเลยลูกพี่!

 โชคดีที่วันนี้จินเยว่ขึ้นรถเมล์แล้วเจอสายตองหก โชว์เฟอร์ขับแหกนรกได้สะใจคนรีบอย่างเธอพอดี

"ขับแบบนี้ไปนั่งหลังเต่าแทนเถอะไป!"

เสียงโชว์เฟอร์ตีนผีขับทีขี้เยี่ยวราดด่ากราดให้รถมินิคันหนึ่งที่ขับอยู่ข้างหน้าด้วยความหงุดหงิด

"ใจเย็น ๆ ก็ได้ค่ะ"

เธอเปรียบเสมือนหน่วยกล้าตายที่เผลอปากเร็วสวนขึ้นทันควัน

แม้จะบอกว่าสะใจที่คนขับเหยียบไม่รู้จักเบรกแต่ก็เสียวไปทั้งหัวใจอยู่เหมือนกัน

"ใจเย็นไม่ได้หรอกหนู เมียพี่รออยู่ที่ห้อง รีบเอาเที่ยวให้ครบจะได้กลับไปหอมเมียที่บ้านให้ชื่นใจ"

เป็นคำตอบที่น่าอายเพราะสิ่งที่โชว์เฟอร์พูดมีคนได้ยินทั้งคันรถ

ไม่น่าปากไวเลยจินเยว่เอ๊ย!

คนถูกตอบกลับรีบยกกระเป๋าสะพายวางบนหน้าตักแล้วทำทีท่าเหมือนก้มหาของอะไรบางอย่างแก้อาการหน้าแหกที่ไปเผลอคุยกับคนขับจนได้คำตอบแบบนั้น

ใช้เวลาไม่นานเธอก็ถึงป้ายรถเมล์ที่อยู่ตรงข้ามกับที่ทำงาน ครั้นลงจากรถเรียบร้อยจึงยืนมองออฟฟิศที่อยู่ฝั่งตรงข้ามพร้อมมองทางม้าลายสลับกับสะพานลอยที่ต้องเดินย้อนไปอีกห้าสิบเมตร

สะพานลอยปลอดภัยกว่า...

แต่ตอนนี้เธอรีบมากเพราะถ้าสายเกินสิบนาทีมีหวังถูกศาสตราจารย์จิ้นซุยกินหัวเอาแน่ ๆ เพราะท่านเป็นคนตรงต่อเวลามาก ๆ

เมื่อตัดสินใจได้แบบนั้น ขายาว ๆ ภายใต้กระโปรงทรงเอรัดรูปเตรียมก้าวข้ามทางม้าลาย ติดตรงที่

มีเสียงติดแหบแห้งของชายชราคนหนึ่งเอ่ยขึ้นเสียก่อน เขานั่งอยู่บนทางเท้า ข้าง ๆ ตัวมีไม้เท้าเก่า ๆ วางอยู่ บนใบหน้าหย่อนคล้อยตามวัยมีแว่นตาสีดำสนิทสวมปิดบังดวงตาจนไม่อาจบอกได้ว่าเป็นคนตาดีหรือตาเสีย

"สองกายสลับจิต สับเปลี่ยนวุ่นวาย นำพามาซึ่งรักแท้"

หลันจินเยว่มองหน้าชายชราคนนั้นด้วยความสงสัย จำได้ว่าเมื่อกี้ที่เธอเดินมาไม่มีใครนั่งอยู่ตรงนี้นี่ หรือว่าที่เธอไม่เห็นเพราะไม่ได้สนใจรอบข้างมัวแต่โฟกัสไปที่ออฟฟิศเบื้องหน้า

"คุณตารอใครหรือเปล่าคะ หรือว่าจะข้ามไปฝั่งนู้นเหมือนกัน  ด้วยความเป็นคนดีมีน้ำใจจึงเอ่ยถาม

ทว่าชายชราคนนั้นกลับหยิบไม้เท้าขึ้นมาแล้วลุกขึ้นคลำทางเดินไปทางที่เธอเพิ่งลงจากรถเมล์มา

"สองจิตสื่อถึง ผูกพันกงกรรมกงเกวียน เปลี่ยนชะตานำพามาซึ่งการพานพบและการสูญเสีย"

ไม่ได้เดินไปแบบเงียบ ๆ แต่ชายชราคนนั้นกลับท่องเหมือนบทกลอนอะไรสักอย่างทว่าเธอไม่รู้จักเลยไม่ใส่ใจ หันหน้ากลับมาเตรียมข้ามทางม้าลายจนลืมดูสัญญาณเตือนว่าจะหมดเวลาสำหรับคนเดินข้ามแล้ว

ปี้น ๆ

"กรี๊ด!!"

เอี๊ยด...

โครม..!

ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากที่หลันจินเยว่ก้าวเท้าลงบนทางม้าลายได้เพียงสองก้าว รถยนต์คันหนึ่งพุ่งมาด้วยความเร็วสูงชนเข้ากับเธอจนกระเด็น

ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพากันตกใจและกลายเป็นมุงดูอย่างวุ่นวาย

ดวงตาสวยเหมือนกับแสงจันทร์นวลค่อย ๆ ปิดลงช้า ๆ แล้วมืดดับไป

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   บทส่งท้าย : 2 [จบ]

    "เหตุใดท่านถึง..."จำต้องกลืนคำพูดลงคอเมื่อถูกนิ้วของคนรักปิดไว้ที่ริมฝีปากไม่ให้ขยับเอ่ย"อย่าขยับ ห้ามพูดใด ๆ"ตงเปียนอ๋องรู้สึกว่าร่างกายตนเองแปลกไปข้างในมันร้อนรุ่ม ลำคอแห้งผากเหมือนคนกระหายน้ำหากแต่ความรู้สึกเขากลับบอกว่าน้ำเพียงอย่างเดียวช่วยให้เขาดับกระหายไม่ได้เขาเริ่มตั้งสติจนจมูกสัมผัสได้ถึงกลิ่น ๆ หนึ่ง"ผงเริงรมย์""มันคืออันใด"หลันจินเยว่เพิ่งเคยได้ยินครั้งแรกจึงใคร่สงสัย ทว่าสิ่งที่อยากรู้กลับไม่ได้ถูกเอ่ยออกมาจากปากตงเปียนอ๋องเมื่อด้านนอกมีบุคคลมาเยือน"ฉินกงกงเข้าเฝ้าองค์ชายสี่เฟยหลง"เสียงกงกงของเสด็จย่าเขาดังขึ้นอยู่ด้านนอก"ฉินกงกงมีเรื่องอันใด"เหตุใดคนสนิทของเสด็จย่าถึงได้มาเยือนเข้าถึงจวนแห่งนี้ แถมมาได้เวลาเหมาะเจาะกับอาการประหลาดที่เพิ่งเริ่มแสดงอาการอีก"ไทเฮามีรับสั่ง ผงเริงรมย์นั้นไซร้ จงใช้ให้เกิดประโยชน์ หลังจากนี้สามวันเป็นฤกษ์ดี สามารถจัดงานมงคลได้"เสียงแหลมบาดหูของฉินกงกงเอ่ยราชโองการขององค์ไทเฮาเสร็จจึงทูลลากลับเข้าวังหลวง ทิ้งให้ตงเปียนอ๋องอมยิ้มอยู่ในห้องเมื่อรู้สาเหตุแล้วว่าเหตุใดตนถึงมีอาการแปลกประหลาดเช่นนี้"อะไรคือผงเริงรมย์และอะไรคือสามวันม

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   บทส่งท้าย : 1

    บทส่งท้าย : เมื่อหมอกจางหาย บุปผางามผลิบาน"ข้าขับพิษออกจากร่างกายองค์ชายเรียบร้อยแล้ว พักฟื้นสักสองสามวันก็หายดี"หมอหลวงประจำจวนเหมยฮัวเอ่ยบอก"ส่วนยานี้ต้มทานสามมื้อจนกว่าแผลจะหายดี"เสี่ยวโหรวรีบเข้าไปรับยานั้นจากหมอหลวง"อ้อข้าลืมอีกเรื่อง"ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบกว่าเดิมเพราะนึกว่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงอันใดอีก"แผลนั้นต้องห้ามโดนน้ำเด็ดขาด คงต้องรบกวนพระชายาแล้ว"หมอหลวงหันมากำชับเรื่องสำคัญนี้กับหลันจินเยว่ ทำเอาใบหน้านางแดงระเรื่อเพราะไม่คิดว่าคนนอกจวนอย่างหมอหลวงท่านนี้จะรู้เรื่องสถานะของนางกับองค์ชายสี่อีกคน"ข้าไปส่งท่านหมอ"อู่ชิงหรงเดินนำหน้าเพื่อส่งหมอหลวงกลับโรงหมอ"บ่าวขอตัวไปต้มยาให้ท่านอ๋องนะเจ้าคะ"ทุกคนออกไปจากห้องหมดแล้วเหลือเพียงแค่หนึ่งคนหลับอยู่บนเตียงอย่างไร้วี่แววจะฟื้นและอีกคนที่นั่งลงข้างเขาด้วยความเป็นห่วง"ไหนท่านรับปากข้าว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัย"ตอนที่หลันจินเยว่ได้ยินว่าตงเปียนอ๋องถูกอาวุธลับอาบยาพิษเล่นงานถึงกับวิ่งถือห่อยาหลายขนานไปดักรอพวกเขาระยะทางกือบลี้ ทั้งล้มลุกคลุกคลานจนแข้งขาถลอก บ่าวใช้คนใดขวางนางไล่ตะเพิดจนหมดสิ้น หากไม่สลบเสียก่อนหลันจินเยว

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ศึกชี้ชะตา / 3

    ชายแดนทิศใต้"เจ้าเลิกดื้อรั้นเถิด ตอนนี้เผ่าซีเซียงยอมจำนนต่อกองทัพมังกรขาวหมดแล้ว"เสียงกร้าวของอู่ชิงหรงประกาศลั่นการปราบกบฎดำเนินมาได้สองชั่วยามแล้ว คนของเผ่าซีเซียงบาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วนจนหัวหน้าเผ่ายกธงขาวยอมแพ้ให้กับอำนาจของแม่ทัพแห่งกองทัพมังกรขาวเฟยหลงทว่าต่อให้เสียเลือดเนื้อเสียคนไปมากมายเพียงใด ผู้ที่หัวรั้นเกลียดการพ่ายแพ้อย่างซู่จิ่งอวิ๋นไม่มีทางวางกระบี่ในมือลงเป็นแน่"วันนี้ข้ากับเจ้า ถ้าปลาไม่ตาย ตาข่ายก็ต้องขาด"ซู่จิ่งอวิ๋นโต้ตอบด้วยสำบัดสำนวนเสียงหนักแน่น วันนี้ทั้งเขาและตงเปียนอ๋องผู้นี้ต้องสู้กันให้ถึงที่สุด ให้ตายกันไปข้างถึงจะจบศึกในครั้งนี้"ช่างเด็ดเดี่ยวเช่นบิดาเจ้าเสียจริง"ตงเปียนอ๋องกล่าวชมในความเด็ดเดี่ยวนี้ หากเอามาใช้ให้ถูกทางคงเป็นที่น่ายกย่อง"วันนี้ข้าจะแก้แค้นให้ท่านพ่อที่ถูกพวกเจ้าบังคับให้ดื่มยาพิษนั่น"[1]ยามโฉ่วของวันนี้ เสนาซู่จินเพ่ยได้กรอกยาพิษฆ่าตัวตายหลังได้รับราชโองการเป็นนักโทษประหารที่ต้องบั่นคอเสียบประจาน ข่าวนั้นดังเซ็งแซ่ไปทั่วแคว้นจนมาถึงหูซู่จิ่งอวิ๋นบุตรชายเพียงคนเดียวที่ตั้งใจจะบุกไปช่วยบิดาออกมาแต่มิทันกาลเสียงกระบี่ฟาดฟันอย่

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ศึกชี้ชะตา / 2

    "ทะ...ท่านอ๋อง"ใบหน้าสวยขึ้นสีแดงระเรื่อเมื่อถูกเอาอกเอาใจจากอีกคน"วันนี้สนุกไหม"เขาชวนนางคุยปกติ หากแต่ในแววตากลับมีความกลัดกลุ้มอยู่หลายส่วนจะเรื่องอะไรได้ ก็ตอนที่นางเดินซื้อของในตลาดมีนักฆ่าสะกดรอยตามถึงสามคน โชคดีที่ตงเปียนอ๋องอ่านเกมในครั้งนี้ออกคนรักของเขาถึงได้ปลอดภัยกลับมาหากเขาเล่าเรื่องนี้ให้นางฟัง หลันจินเยว่คงไม่สบายใจ เก็บเนื้อเก็บตัวอยู่แต่ในห้องอีกเป็นแน่ ตอนนี้เลยต้องเอาอกเอาใจนางเพื่อบอกกล่าวแก่เรื่องที่ตริตรองมาอย่างดีแก่นางในเวลาที่เหมาะสม"ตอนแรกก็สนุก"ตอบพร้อมยู่ปากอย่างหุดหงิดในเวลาต่อมา"ใครทำอันใดให้ว่าที่ชายาของข้าขุ่นเคืองใจ"ที่ใช้คำว่า 'ว่าที่' เพราะทั้งสองยังไม่เข้าพิธีสมรสกัน ตงเปียนอ๋องอยากให้เกียรตินางจึงจะรอปราบกบฎตระกูลซู่แล้วสิ้นถึงจะทำพิธีตามประเพณีแคว้น"ข้ากำลังดูผ้าเพื่อจะเอามาตัดชุดใหม่ให้ท่าน แต่เจอเข้ากับคนที่วางยาสลบข้าเพื่อส่งต่อให้คนพวกนั้นเข้า"ที่จริงเรื่องนี้องครักษ์เงาของเขารายงานมาหมดแล้ว"เจ้าพบเฟิงเยว่ซู?""จะเป็นใครอีกละ! พี่สาวตัวดีของเฟิงเยว่ซินนั่นแหละ"ตงเปียนอ๋องหลุดขำออกมาเบา ๆ เมื่อได้ฟังประโยคแปลก ๆ นั้นจบ"เจ้าพูดเหม

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ศึกชี้ชะตา / 1

    "เสี่ยวโหรวเร็ว ๆ เข้า"เสียงเจื้อยแจ้วของหลันจินเยว่ในอาภรณ์สีลูกท้อร้องเรียกสาวใช้ที่เดินหอบหิ้วข้าวของพะรุงพะรังอยู่ด้านหลัง"คุณหนูช้าหน่อยเจ้าค่ะ"วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส นางเลยขออนุญาตตงเปียนอ๋องออกมาเดินตลาด ฝั่งนั้นเห็นว่านางเพิ่งผ่านอันตรายมาเมื่อไม่กี่วันก่อนเลยให้ออกมาเที่ยวเล่นจะได้ลืมเรื่องร้าย ๆ พวกนั้น หากแต่ตงเปียนอ๋องก็มิได้นิ่งนอนใจ เขาส่งองครักษ์เงาคอยติดตามอยู่ห่าง ๆ เผื่อเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นจะได้ช่วยเหลือนางทัน"คุณหนูจะซื้อไปฝากท่านอ๋องหรือเพคะ"หลันจินเยว่ยืนดูผ้าไหมเนื้องามที่ร้านหนึ่งตรงตรอกเล็ก ๆ ของตลาด"เจ้าว่าหากท่านอ๋องเปลี่ยนมาใส่สีสว่างตาขึ้นจะดูภูมิฐานอยู่ไหม"ตั้งแต่ที่เห็นและรู้จักกันมา นางไม่เคยเห็นบุรุษที่ว่าสวมใส่เสื้อผ้าสีอื่นที่มิใช่สีดำสีเข้ม ๆ เลยสักครั้งเดียว"บ่าวว่าผ้าสีไหนหากอยู่บนตัวท่านอ๋องก็ดูสง่างามหมดเจ้าค่ะ"หลันจินเยว่เห็นด้วยอย่างยิ่ง วันนี้สาวใช้ของนางพูดได้ถูกใจต้องตบรางวัล"ผ้าพับนี้ข้าซื้อให้เจ้า"นางหยิบผ้าไหมสีกลีบดอกเหมยส่งให้เถ้าแก่ร้าน"คุณหนู นั่นคงแพงมากนะเจ้าคะ"มองแค่ตายังไม่ได้จับต้องเนื้อผ้าเสี่ยวโหรวก็รู้ว่านั่นคือไห

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   เพียงเจ้าผู้เดียวที่เป็นสตรีของข้า / 2

    ผ่านมาครึ่งชั่วยามแล้วหลังจากที่ตงเปียนอ๋องออกมาจากห้องนั้นเพื่อฟังรายงานจากเหล่าทหารว่าซู่จิ่งอวิ๋นหนีไปกบดานกับเผ่าซีเซียงบนเขาทางใต้ เขาเลยสั่งให้ทุกคนกลับมาวางแผนกันที่จวนเหมยฮัวก่อนการเดินทางกลับจำต้องใช้ม้าถึงจะถึงที่หมายโดยเร็ว ทว่าหลันจินเยว่กลับเลือกที่จะโดยสารม้ามากับอู่ชิงหรงแทนอีกคน"เหตุใดข้ารู้สึกว่าเจ้ากำลังหลบหน้าท่านอ๋อง"บุรุษผู้โผงผางคิดเห็นการใดก็พูดออกไปจนหมดสิ้นถามสหายวัยเยาว์"ข้ามิได้หลบหน้าผู้ใด"หลันจินเยว่ที่นั่งอยู่ด้านหลังเขาตอบเหมือนร้อนตัว"หากข้าเป็นคนอื่นคงเชื่อที่เจ้ากล่าวมา"จะมาเกิดฉลาดเอาอะไรตอนนี้ นางยิ่งอยากอยู่เงียบ ๆ ตบตีกับคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบจากตงเปียนอ๋องว่าตกลงแล้วที่เขาบอกชอบนางหมายถึงร่างกายเฟิงเยว่ซินหรือตัวตนที่นางแสดงออกกัน"หยุด!"ตงเปียนอ๋องที่ควบม้าตามหลังสองคนนี้สั่งเสียงลั่น ทหารทุกนายต่างหยุดควบม้าเพื่อรอฟังคำสั่งถัดไป"ท่านอ๋องพบสิ่งใดผิดปกติหรือขอรับ"หนึ่งในทหารที่ควบม้ารั้งท้ายลงจากม้ามาถามไถ่"ม้าตัวนี้อ่อนแรงแล้ว หยุดพักที่นี่สักพักก่อน"หากม้าที่ตงเปียนอ๋องทรงขี่อยู่คือทมิฬกาลคงหาข้ออ้างเช่นนี้ไม่ได้สายตาคมมองแผ่นหลังบ

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status