Home / รักโบราณ / ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี / บทที่ 4 ให้ข้าอุ้มน่ะดีแล้ว

Share

บทที่ 4 ให้ข้าอุ้มน่ะดีแล้ว

last update Last Updated: 2025-09-26 20:30:46

บทที่ 4

ให้ข้าอุ้มน่ะดีแล้ว

ทันทีที่หนิงอวี้เฟยถึงจวน นางแทบไม่เสียเวลามองไปรอบตัว นางเดินตรงไปยังเตียงแล้วล้มตัวลงนอนคว่ำบนเตียง ดวงตาหลับลงด้วยความเหนื่อยล้า

“เดินทางมาหลายวัน ข้าอยากพักจะแย่ ปวดเนื้อปวดตัวไปหมด” นางบ่นเสียงเบาด้วยพร้อมกับห้วงนิทราที่เริ่มคืบคลานเข้ามา “...ข้าจะไม่ขยับอีกแล้ว...”

ทว่าในทันทีทันใดนั้นเอง เพ่ยเพ่ยและเหล่าสาวใช้ก็กรูกันเข้ามาลากตัวนางขึ้นมาจากเตียง

“คุณหนูเจ้าคะ ได้เวลาต้องเตรียมตัวเข้าเฝ้าเจ้าค่ะ” 

ก่อนจะช่วยกันผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ให้นางคนละไม้คนละมือ

“เดี๋ยว! ข้ายังไม่ได้พักเลยนะ!” นางบ่นเสียงอิดออดอย่างไร้เรี่ยวแรง แต่ไม่มีผู้ใดสนใจเพราะสิ่งสำคัญที่สุดในยามนี้คือการเตรียมตัวเข้าเฝ้าฮ่องเต้!

อาภรณ์สีขาวราวหิมะถูกสวมลงบนเรือนร่างของนาง เนื้อผ้าเนียนละเอียดลื่นไหลราวกับสายน้ำไหลต้องผิว ลวดลายปักบนเนื้อผ้าเป็นรูปเมฆหมอกและดอกเหมย ละเอียดอ่อนราวกับสลักโดยมือของเทพสมกับเป็นอาภรณ์ของเทพธิดาเช่นนาง

มือของสาวใช้ขยับฉับไว ปักปิ่นหยกลงบนเรือนผมของนาง หยกแกะสลักลวดลายวิจิตรประกายแสงเย็นตา เสริมให้นางดูสูงส่งยิ่งขึ้น

เมื่อนางแต่งตัวเสร็จก็ถูกพาไปยังรถม้าที่จอดรออยู่ก่อนแล้ว นางถูกจับยัดเข้าไปด้านในอย่างรีบร้อนก่อนจะเริ่มออกเดินทางไปยังพระราชวัง

“เมื่อไหร่ข้าจะได้พัก ข้าเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว กระดูกของข้าใกล้จะพังแล้ว ที่นี่มีร้านหมอนวดหรือไม่ ข้าอยากนวดสักหน่อย...”

ระหว่างทางหนิงอวี้เฟยก็พร่ำบ่นตลอดทาง เพ่ยเพ่ยได้แต่ให้กำลังใจนาง พลางครุ่นคิดในใจว่าเทพธิดาคงจะไม่เคยเจอความยากลำบาก เช่นนี้แล้วนางจะปรนนิบัติเทพธิดาสุดความสามารถ!

การปรากฏตัวของหนิงอวี้เฟยนำพาสายฝนทำให้ใต้หล้าฟื้นฟูจากความแห้งแล้ง ครอบครัวของนางก็ได้พ้นวิกฤตไปด้วย จึงไม่แปลกเลยที่ทุกคนจะยกย่องนางเป็นเทพธิดาและเคารพนาง

ไม่นานก็มาถึงพระราชวัง ประตูรถม้าถูกเปิดออก เผยให้เห็นหยวนซีซวนที่ยืนรออยู่ด้านนอก สตรีตัวน้อยมองเขาพลางทำหน้าบึ้งตึง ราวกับการที่นางไม่ได้พักผ่อนเป็นความผิดของเขา

“ถึงแล้ว ลงมาเถิด” บุรุษเอ่ยเสียงเรียบ แล้วยื่นมือรอรับ

หนิงอวี้เฟยถอนหายใจก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้น ก้าวลงจากรถม้าด้วยความเหนื่อยล้า แต่ยังไม่ทันได้ยืนมั่นคงดีอาภรณ์ยาวที่ลากพื้นทำให้เธอก้าวพลาด ร่างของเธอเอนไปข้างหน้า

“อ๊ะ!” นางร้องด้วยความตกใจ ทว่าก่อนที่ร่างของนางจะล้มหน้าคว่ำ แขนแข็งแกร่งของหยวนซีซวนก็ยื่นออกมารับตัวนางไว้ได้้

หัวใจดวงน้อยแทบหลุดออกมาจากอกด้วยความตกใจ สองมือของนางวางทาบลงบนแผงอกกว้าง ดวงหน้าของนางเองก็แนบไปกับอกกว้างเช่นกัน สตรีตัวน้อยค่อยๆ ผลักตนเองออกจากอ้อมอกนั้น เงยหน้าขึ้นสบตากับบุรุษ

“ระวังหน่อย” หยวนซีซวนเอ่ยดุนางเสียงเข้ม คิ้วของบุรุษขมวดเข้าหากันราวกับสิ่งที่นางทำมันร้ายแรง

เขาประคองร่างของนางลงมาจากบันไดรถม้า ทว่าขณะช่วยจับนางให้ยืนทรงตัวด้วยตนเอง ร่างบอบบางกลับล้มพับกลับสู่อ้อมอกของบุรุษอีกครั้ง โดยครั้งนี้หยวนซีซวนก็โอบกอดนางเอาไว้แน่นด้วยกลัวว่านางจะบาดเจ็บเช่นเดิม

“โอ้ย!... เจ็บ...!” นางพึมพำเบาๆ ก่อนจะขมวดคิ้ว

หยวนซีซวนเห็นเช่นนั้นจึงพานางไปนั่งตรงม้านั่งยาวที่ตั้งอยู่ไม่ไกล ก่อนจะคุกเข่าลงข้างตัวเธอแล้วเอื้อมมือไปจับข้อเท้านาง 

“ขอเสียมารยาท…” น้ำเสียงของเขาสุภาพและแฝงไปด้วยความห่วงใย 

หนิงอวี้เฟยลังเลเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ขัดขืน นางปล่อยให้เขาประคองข้อเท้าของตนเองเบาๆ

“เจ็บมากหรือไม่?” เขาถามขณะใช้ปลายนิ้วตรวจดูรอยบวม แต่ก่อนที่นางจะตอบ เสียงของกงกงผู้เป็นตัวแทนฮ่องเต้มาต้อนรับพวกเขาในวันนี้ก็ดังขึ้นขัดจังหวะ 

“ท่านอ๋อง ฝ่าบาทรออยู่ที่ห้องโถงเข้าเฝ้า ต้องรีบแล้วขอรับ”

บุรุษเหลือบสายตามองกงกงแวบหนึ่ง ก่อนจะก้มกลับไปมองรอยช้ำบนข้อเท้าเล็กๆ ที่ราวกับจะหักได้ง่ายๆ ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจ

“เช่นนั้นก็รีบไป…”

หมับ!

“ว้าย!”

ทันทีที่หยวนซีซวนตัดสินใจ ร่างสูงก็โน้มตัวลงเล็กน้อย มือหนึ่งสอดเข้าที่ใต้ข้อพับขา อีกมือโอบประคองแผ่นหลังของหนิงอวี้เฟย 

ด้วยเรี่ยวแรงอันแข็งแกร่งของเขา ร่างอรชรของนางลอยขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว อาภรณ์สีขาวพลิ้วไหวตามแรงเคลื่อนที่ ศีรษะของนางเอนไปเล็กน้อยจากแรงอุ้ม ดวงตากระพริบตาอย่างตกตะลึงจนเผลอหลุดคำคุ้นเคยออกมา

“นะ นาย!?”

นัยน์ตาคมกดสายตามองนางเป็นการตักเตือน หนิงอวี้เฟยจึงรู้ทันทีว่าได้หลุดการพูดแบบยุคปัจจุบันออกไป

“ปะ ปล่อยข้านะ”

“เจ้าเจ็บเท้าไม่ใช่หรือ ให้ข้าอุ้มน่ะดีแล้ว”

“ขะ ข้าเดินเองได้” นางพยายามดิ้นลงจากอ้อมแขนของเขา แต่ก็ถูกบุรุษกระชับแนบแน่นยิ่งขึ้นอย่างไม่สนใจ

“อย่าดื้อ!” บุรุษเอ่ยบอกนางตาดุ แม้นางจะหวาดหวั่นแต่มั่นน่าอายมากกว่า เพราะยามนี้ทุกสายตามองมาที่นางเป็นตาเดียว!

ทว่าดิ้นไปไม่นานก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ หยวนซีซวนจึงเอ่ยกระซิบเตือนนาง

“หากยังดิ้นอีก ก็ไม่รู้คราวนี้ผู้คนจะมองว่าเจ้าเป็นเทพธิดาเช่นไร”

จบถ้อยคำนั้นหยวนซีซวนก็ก้าวเท้าเข้ามาในห้องโถง เป็นจุดรวมสายตาของทุกคน แต่ดูเหมือนผู้ที่เป็นจุดสนใจที่สุดจะเป็นสตรีตัวน้อยในอ้อมกอดของบุรุษ

ร่างของนางขาวสะอาดราวหิมะ เรือนผมดำขลับรับกับหยกที่ประดับประดา ทุกสายตาภายในห้องจับจ้องมายังนาง บางคนอ้าปากค้าง บางคนสูดลมหายใจลึกด้วยความประหลาดใจ นางงดงามราวกับนางฟ้านางสวรรค์จริงๆ

“ถวายบังคมฝ่าบาท” หยวนซีซวนโค้งกายลงเล็กน้อย แม้ในอ้อมแขนของเขาจะยังมีร่างบางของสตรี “โปรดอภัยให้กับการเสียมารยาทในครั้งนี้ด้วย ท่านเทพธิดาได้รับบาดเจ็บ กระหม่อมจึงต้องเสียมารยาทแตะต้องร้างกายอันล้ำค่าของนาง เพื่อพานางมาเข้าเฝ้าฝาบาท”

“ช่างเถิด ไม่ต้องถือสา” ฮ่องเต้ทอดสายตามองภาพตรงหน้า ก่อนจะโบกมือทว่าสายตายังคงจับจ้องไปยังสตรีที่อยู่ในอ้อมแขนของหยวนซีซวนไม่วางตา พลางเอ่ยถามเสียงเรียบ “เจ้าคือเทพธิดาที่ประทานฝนแก่ชาวแคว้นต้าจวิน ที่เขาล่ำลือกันใช่หรือไม่?”

หนิงอวี้เฟยรู้สึกถึงน้ำเสียงทรงอำนาจของผู้ที่อยู่เบื้องหน้า นางเงยหน้ามองฮ่องเต้ รับรู้ถึงแรงกดดันที่ทำให้นางแทบหายใจไม่ทั่วท้อง 

บรรยากาศภายในห้องโถงคล้ายเย็นลงอย่างฉับพลัน นางนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะพยักหน้ารับว่านางคือคนในข่าวลือนั่น หากแต่เอ่ยปฏิเสธบางสิ่ง

“…แต่ข้าไม่ใช่เทพธิดา”

“เช่นนั้นเจ้าคือผู้ใด?” ฮ่องเต้เลิกคิ้วเพียงเล็กน้อย ไม่ได้แสดงความแปลกใจออกมาอย่างชัดเจน “แล้วเหตุใดจึงร่วงหล่นลงมาจากฟ้า?”

นางนิ่งเงียบไร้คำตอบ หยวนซีซวนขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะเป็นฝ่ายตอบแทนนาง 

“เทพธิดายังคงสับสน อาจเป็นเพราะถูกส่งมายังโลกมนุษย์กะทันหัน ขอฝ่าบาทโปรดอภัย” น้ำเสียงของเขาสุขุมเยือกเย็น 

“ช่างเถิด ข้าไม่ถือสา ว่าแต่...” ฮ่องเต้หัวเราะเบาๆ พลางโบกมือราวกับไม่ถือสา แต่แล้วเสียงหัวเราะก็เงียบลงทันใด พร้อมกับเอ่ยบางสิ่งขึ้นมาแทนที่ราวกับกำลังจ้องจับผิดนาง “ตอนนี้เจ้าทำให้ฝนตกได้หรือไม่?”

สตรีตัวน้อยนิ่งงันไปทันที นางไม่รู้ว่าต้องตอบอะไร เพราะนางไม่ใช่เทพธิดาเรียกฝน ทว่าหากปฏิเสธก็คล้ายกับหัวนางจะหลุดออกจากบ่า!

“พลังควบคุมฟ้าดินต้องใช้พลังมหาศาล นางเพิ่งทำให้ฝนตก คงมิอาจเรียกฝนมาได้เร็วๆ นี้ ขอให้ฝ่าบาทโปรดอภัย ให้นางได้พักสักหน่อย…”

ยังไม่ทันที่หยวนซีซวนจะเอ่ยจบ ทันใดนั้นเองเสียงแรกของหยดน้ำดังขึ้นจากด้านนอก เสียงหยาดฝนกระทบกระเบื้องหลังคาก้องไปทั่ว ทุกคนภายในห้องโถงชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะเร่งเดินไปยังบานหน้าต่างใหญ่ 

ฟ้ากลางเมืองหลวงที่แดดจ้าเมื่อครู่ ถูกเมฆครึ้มปกคลุมทั่วทุกที่ เม็ดฝนโปรยปรายลงมาช้าๆ ท่ามกลางเสียงอุทานของเหล่าขุนนาง 

“นางทำได้จริงๆ”

“นางคือเทพธิดาจริงๆ”

“ฝ่าบาทโปรดทอดพระเนตร นี่เป็นปาฏิหาริย์แท้จริง” 

“สวรรค์ทรงเมตตา เทพธิดาโปรดประทานฝนให้แคว้นเราแล้ว”

เสียงสรรเสริญดังระงม ขุนนางบางคนรีบคุกเข่าลงถวายคำนับ ใบหน้าประดับด้วยความศรัทธา บรรยากาศภายในห้องโถงแปรเปลี่ยนเป็นความตื่นตะลึง 

หนิงอวี้เฟยเองก็อึ้งไม่แพ้กัน นางมองผ่านม่านฝนที่ตกลงมา สัมผัสความเย็นที่กระจายไปทั่วอากาศ 

…กะ เกิดอะไรขึ้น ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ!...

หยวนซีซวนกดสายตามองนาง เฝ้ามองหาคำตอบในดวงตาของนาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาเป็นเพียงสายตาสับสน กระวนกระวาย และตกลตะลึงของนาง 

เสียงหัวเราะของฮ่องเต้ดังขึ้นแผ่วเบา ทว่าก้องกังวานไปทั่วห้องโถงอันโอ่อ่า ร่างของฮ่องเต้หยัดกายขึ้นจากบัลลังก์ อาภรณ์สีทองสะท้อนแสงเทียนภายในห้อง เสริมให้เขาดูทรงอำนาจยิ่งกว่าเดิม

“เป็นเทพธิดาจริงๆ” ฮ่องเต้เอ่ยพร้อมกับประสานมือคำนับแด่นาง

หนิงอวี้เฟยไม่ได้ตอบรับ นางยังคงตกตะลึง สายตาของนางจ้องไปข้างหน้าอย่างเลื่อนลอย ราวกับไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี   บทที่ 30 ความรู้สึกที่พรั่งพรู

    บทที่ 30ความรู้สึกที่พรั่งพรูบุรุษไม่ได้ขอให้นางรับรัก เพียงขอให้เขารักนางต่อไป“ข้าไม่ขอให้เจ้ารับรัก ข้าไม่ขอให้เจ้าอยู่เคียงข้างข้าไปตลอด” หยวนซีซวนเอ่ยเสียงแผ่วเบา แต่ด้วยความใกล้ชิดในยามนี้ ทำให้หนิงอวี้เฟยได้ยินมันชัดเจนเหลือเกิน “หากถึงเวลา หากเจ้ามีทางกลับไป… ข้าจะไม่รั้งเจ้า”หูของนางที่แนบไปกับอกกว้างทำให้ได้ยินเสียงหัวใจของบุรุษชัดเจนยิ่งขึ้น ราวกับพร่ำเอ่ยถ้อยคำหวานซึ้ง“แต่ตราบใดที่เจ้ายังอยู่ที่นี่ อยู่ ณ ที่แห่งนี้...ให้ข้าได้รักเจ้าด้วยเถิด… เฟยเอ๋อร์”หัวใจของหนิงอวี้เฟยเต้นระรัว ราวกับจะหลุดออกจากอกอ้อมกอดอบอุ่นนี้…ความอ่อนโยนที่แผ่ซ่าน…ถ้อยคำหวานซึ้งที่ตราตรึงใจ…เช่นนี้นางจะไม่หวั่นไหวได้อย่างไร!?“ขะ… ข้า... ข้าเองก็รักท่าน ฮือ…”นางร้องไห้ออกมาอย่างไม่รู้จ

  • ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี   บทที่ 29 ข้าต้องกลับไป

    บทที่ 29ข้าต้องกลับไปโม่โฉ่วเดินเข้ามา สายตาคมกริบของเขาตวัดมองชายชราอย่างไม่เป็นไม่มิตร“โม่โฉว?”แต่เมื่อได้ยินเสียงหวานๆ เรียกเขา บุรุษก็เก็บสายตานั่น ก่อนจะสบตากับหนิงอวี้เฟยอย่างอ่อนโยน“คำนับพระชายา ซวนอ๋องจะออกไปข้างนอก จึงให้ข้ามาถามพระชายาว่าอยากไปด้วยกันหรือไม่ขอรับ”“ไปสิ! ไปตอนนี้เลย!”เมื่อได้ยินว่าจะได้ออกไปข้างนอกนางก็ตาลุกวาว ก่อนจะรีบลุกขึ้นทันที แล้ววิ่งออกไปราวกับเด็กน้อยไร้เดียงสาโม่โฉวมองตามนางอย่างเอ็นดู นางอยู่แต่ในจวนคงรู้สึกอึดอัดไม่น้อย แม้จวนอ๋องแห่งนี้จะกว้างขวางโอ่อ่ามากเพียงใด แต่ก็มีแต่สิ่งเดิมๆด้วยเหตุนั้นเมื่อหยวนซีซวนรับรู้ว่าหนิงอวี้เฟยแอบใช้ทางลับออกไปเที่ยวเล่นอยู่บ่อยครั้ง เพียงแต่ส่งคนไปอารักขานางอย่างรัดกุมเท่านั้น เพราะหากปล่อยปละละเลยจนเกินไปหากเกิดสิ่งใดขึ้นเขาต้องคลั่งตายแน่ๆนึกถึงเมื่อครั้งนางมาอยู่ที่นี่แรกๆ นางดูหวาดระแวงแล้วหวาดกลัวทุก

  • ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี   บทที่ 28 ตามใจนาง

    บทที่ 28ตามใจนางปากหนางับยอดอกของนางดูดเข้าปาก ส่วนนิ้วแกร่งก็ปรนเปรอช่วงล่างให้นาง จนร่างบอบบางอ่อนระทวย“ทะ ท่านพี่ อื้อ!”สตรีตัวน้อยโอบกอดบุรุษแนบแน่น ร่างของนางสั่นระริกพร้อมทั้งหอบหายใจยังยากลำบาก ทั้งเด้งสะโพกรับนิ้วแกร่งและถอนออกเมื่อพบกับความเสียวซ่านยากเกินรับมือไหว เป็นเช่นนั้นอยู่ไม่นาน หยวนซีซวนก็ดังรั้งเอวของนางแล้วสอดใส่แก่นกายเข้าไปทันที“อื้อ!!”ใบหน้าคมคายโน้มหน้าลงมากระซิบที่ข้างหูของนางเสียงแผ่วเบา“ข้าเปลี่ยนโต๊ะทำงานแล้ว ให้ข้าได้ลองเสียหน่อยว่าโต๊ะตัวนี้แข็งแรงมากเพียงใด”ถ้อยคำแฝงความนัย ทำเอาดวงหน้าหวานแดงระเรื่อ นางเม้มริมฝีปากแน่นด้วยความเขินอาย กระนั้นก็ไม่ได้เอ่ยปฏิเสธไป จากนั้นบุรุษก็เริ่มขับเคลื่อนแก่นกายอย่างหนักหน่วง“อื้อ!” เสียงหวานครางกระเส่า นางเม้มริมฝีปากกลั้นเสียงน่าอาย ก่อนจะกดริมฝีปากลงบนลำคอแกร่งแล้วออกแรงกัดเบาๆร่างกายที่ถาโถมเข้ามาหานาง มัน

  • ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี   บทที่ 27 น้ำมันหอมระเหย

    บทที่ 27น้ำมันหอมระเหย“ข้ารู้สึกถูกชะตากับท่าน… ท่านเป็นคนใจดี ข้าอยากรับใช้ท่าน ข้าไม่ต้องการอะไร เพียงข้าวครบสามมื้อ หรือแค่วันละมื้อก็ยังดี…”เขาเอ่ยรวดเดียวราวกับกำลังนำเสนอตนเอวว่ามีประโยชน์ต่อนางมากเพียงใด หนิงอวี้เฟยมองด้วยความลังเล อันที่จริงนางสามารถช่วยชายชราผู้นี้ได้ แต่ถ้านางพากลับไป หยวนซีซวนจะต้องรู้ว่านางแอบหนีมาเที่ยว อีกทั้งนางยังหนีมาเที่ยวไม่ใช่ครั้งแรกเสียด้วย ไม่ต่างจากคนมีความผิดตั้งใจปิดบังเช่นนั้นก็มีเพียงวิธีเดียว..."พรุ่งนี้ไปขอทำงานที่จวนอ๋อง ข้าจะช่วยเจ้าเอง!" เสียงของนางหนักแน่น ดวงตาฉายแววจริงใจเมื่อชายชราที่ได้ยินคำพูดนั้น กลับตกใจเสียยิ่งกว่าที่คาดคิด ดวงตาของเขาเบิกกว้างเล็กน้อย ก่อนเอ่ยเสียงสั่นๆ"ทะ ท่าน ท่านคือ… เทพธิดาหรือ!?"สตรีตัวน้อยชะงัก ก่อนยกนิ้วขึ้นจรดริมฝีปากส่งสัญญาณให้เงียบเสียงทันที“ชู่ว!” หนิงอวี้เฟยกระซิบเสียงเบา ดวงตาวาววับด้วยความร

  • ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี   บทที่ 26 ยอมจำนน

    บทที่ 26ยอมจำนนกลับกันหากมีวิธีกลับไปยังโลกของนาง กลับไปหาอาม่าและอากงที่นางรักยิ่ง…ถึงตอนนั้นการตัดสินใจของนางคงลำบากแล้ว เพราะตัวนางเองก็รู้ตัวว่าหัวใจดวงน้อยไม่ใช่ของตนเองแล้วทั้งหมด“ข้า...”ใบหน้าคมคายโน้มลงมาแล้วประกบปากจูบกับนางอย่างดูดดื่ม ดูดกลืนถ้อยคำใดก็ตามที่นางจะเอื้อนเอ่ยออกมา ราวกับว่าหวาดกลัวถ้อยคำนั้นๆ ของนาง หวาดกลัวว่านาง... จะเอ่ยถ้อยคำที่กรีดลึกลงกลางใจสุดท้ายนางก็ยอมจำนนอยู่ภายใต้อ้อมแขนของเขาจูบนี้ดูดดื่มและหอมหวานเหลือเกิน ราวกับต้องการใช้จูบนี้เพื่อเปลี่ยนความตั้งใจแรกของนาง เลือดลมสูบฉีดไปทั่วร่าง พร้อมกับความปรารถนาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆหนิงอวี้เฟยถูกกอดจนแทบจมอยู่อ้อมอของเขา เรียวลิ้นสากกวาดวนทั่วโพรงปาก เมื่อถอนริมฝีปากออกเพื่อให้นางหายใจ เขาก็บดเคล้าริมฝีปากลงมาอีกครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกลีบปากอวบอิ่มแดงก่ำ“ท่านพี่ ข้าเจ็บปากแล้ว อ๊ะ!” นางเอ่ยเสียงเบา ก่อนที่ใบหน้าคมคายจะกดเข้าที่ลำค

  • ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี   บทที่ 25 อย่ากลับไปเลย

    บทที่ 25อย่ากลับไปเลยแสงแดดยามเที่ยงวันส่องผ่านหน้าต่างเรือน ขับให้บรรยากาศภายในอบอุ่น หนิงอวี้เฟยจัดบุปผาที่เก็บมาใส่แจกันวางไว้ที่หน้าต่าง แต่บุปผาดอกหนึ่งก็ตกลงพื้นนางจึงก้มลงเก็บมันขึ้นมาแต่แล้ว… นางสังเกตเห็นบางสิ่งที่ผิดปกติพื้นไม่สม่ำเสมอเมื่อมองผ่านๆ ย่อมไม่สังเกตเห็น สตรีตัวน้อยตัดสินใจลากตู้ออกมาดูด้วยกลัวว่าพื้นตรงนี้อาจจะกำลังสึกกร่อน ทว่าเมื่อเลื่อนโต๊ะตัวนี้ออกกลับพบสิ่งที่ไม่คาดคิด นางค่อยๆ ใช้แรงตนเองงัดพื้นขึ้นมาแล้วก็พบว่ามันคือประตูลับที่ถูกซ่อนไว้บานประตูเปิดออกเผยให้เห็นทางเดินลับทอดยาวเข้าสู่เงามืดนางมองซ้ายมองขวา ก่อนตัดสินใจก้าวเข้าไปอย่างซุกซน เดินตามเส้นทางลับเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัวว่าตนเองมาไกลแค่ไหน กระทั่งบานประตูสุดทางปรากฏตรงหน้า เมื่อผลักออกไปนางกลับพบว่าตนเองมาโผล่ที่ตีนเขาเสียแล้ว นางมองซ้ายมองขวาก่อนจะเดินออกมา ใต้เส้นทางลับมีต้นไม้ใหญ่ ลำต้นมากกว่าสิบคนโอบ เบื้องล่างคือหมู่บ้านที่มีผู้คนเดินกันอย่างคึกคัก นางเบิกตาก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status