LOGIN“ในเมื่อเทพธิดาบาดเจ็บ อีกทั้งยังใช้พลังเรียนฝนฟ้ามาพิสูจน์ให้พวกเราได้เป็นที่ประจักษ์ คงจะเหนื่อยมากแล้ว เช่นนั้นจงไปพักก่อนเถิด ข้าจะให้คนจัดเตรียมห้องไว้ให้”
ฮ่องเต้เอ่ยเช่นนั้น ลึกไปในแววตาของเขากลับดูไม่น่าไว้วางใจ ราวกับตั้งใจวางแผนวางสิ่ง และหยวนซีซวนก็พอจะรู้ว่ายามนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะออกตัว
“ขอบพระทัยฝ่าบาท” บุรุษเอ่ยพลางโค้งศีรษะ ก่อนจะขยับตัวพาหนิงอวี้เฟยออกจากห้องโถง เดินตามนางกำนัลนางหนึ่งมายังห้องว่างไม่ไกลกันนัก
เขาวางร่างของนางลงบนเก้าอี้ยาว ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ
“รอข้าอยู่ที่นี่”
บุรุษเอ่ยก่อนจะเดินจากไปทว่ากลับต้องหยุดกึก ดวงตาคมกริบเหลือบลงมองมือของนางที่กำชายอาภรณ์ของเขาไว้ ก่อนจะเลื่อนสายตามองใบหน้าของนาง
“เจ้าจะไปไหน?” นางถามเสียงเบา ดวงตาจับจ้องเขาอย่างไม่สบายใจ
หยวนซีซวนปรายตามองนางครู่หนึ่ง ก่อนตอบเสียงเรียบนิ่ง
“ข้าต้องไปร่วมประชุม นอกจากพาเจ้ามาแนะนำต่อฝ่าบาทแล้ว ยังมีเรื่องบ้านเมืองที่ต้องรายงาน”
หนิงอวี้เฟยเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ตลอดทางมีหยวนซีซวนคอยดูแลนางตลอด แม้เขาจะดูแข็งกระด้าง เย็นชา แต่สายตาและการกระทำกลับไม่ใช่ ดูเอาใจใส่นางไม่น้อย ตัวนางเองก็พึ่งพาหยวนซีซวนอย่างไม่รู้ตัว จึงรู้สึกไม่ปลอดภัยหากไม่มีเขา
“รีบกลับมานะ…” นางเอ่ยเสียงเบาก่อนจะคลายมือที่กำชายอาภรณ์เอาไว้ ในตอนนั้นเองหมอหลวงก็มาเพื่อตรวจอาการของนาง เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกทีบุรุษก็เดินออกไปเสียแล้ว
ภายในห้องโถงหลวง ขุนนางในชุดเต็มยศเรียงรายอยู่ฝั่งซ้ายและขวาของทางเดินทอดยาว ม่านผ้าไหมที่ประดับมังกรสวรรค์ต้องแสงเทียนสลัว เมื่อหยวนซีซวนมาถึงก็เริ่มรายงานทันที
“กระหม่อมขอถวายรายงานเกี่ยวกับแคว้นต้าจวิน…”
เขาอธิบายถึงการพัฒนาที่เกิดขึ้นในช่วงหลายเดือน ทั้งความพยายามฟื้นฟูแผ่นดินให้สามารถทำเกษตรกรรมได้ การปรับปรุงระบบชลประทาน รวมถึงการส่งเสบียงไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
“ผลลัพธ์ยังมีขึ้นลงตามสภาพอากาศ บ้างก็ดีขึ้น บ้างก็ยังต้องแก้ไข แต่บัดนี้ฝนตกแล้ว คาดว่าการฟื้นฟูน่าจะดีขึ้นในเร็ววัน”
ขุนนางพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เสียงพึมพำดังขึ้นเบาๆ
กระทั่งหนึ่งในขุนนางก้าวออกมาถวายบังคมต่อฝ่าบาท ก่อนจะเอ่ย
“ฝ่าบาท ขณะนี้กลุ่มโจรป่าที่สร้างความวุ่นวายให้ตั้งแต่เมื่อหลายเดือนก่อนยังไม่คลี่คลาย ตามจับไม่ได้ ประชาชนร้องเรียนมาเป็นจำนวนมาก นับเป็นเรื่องที่สมควรจัดการให้เร็วที่สุด” เขาเหลือบสายตามองหยวนซีซวนก่อนเอ่ยต่อ “บัดนี้ซวนอ๋องอยู่ที่นี่พอดี ข้าน้อยคิดว่าหากให้เขาจัดการเรื่องนี้ ย่อมเป็นการดี”
เสียงขุนนางคนอื่นพยักหน้ารับ ต่างเห็นด้วยกับข้อเสนอ ฮ่องเต้มองหยวนซีซวนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้า
“เช่นนั้น ข้าจะมอบหมายงานนี้ให้แก่เจ้า”
“น้อบรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”
ฝนหยุดตกแล้ว บรรยากาศในเมืองหลวงยังคงเต็มไปด้วยเสียงสรรเสริญ 'เทพธิดา' ของชาวเมือง แต่สำหรับหนิงอวี้เฟยนางไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านั้น
ภายในจวนมีของขวัญมากมายถูกส่งมาถึง นับตั้งแต่ผ้าไหมชั้นดี น้ำหอมชั้นสูง ยันสมุนไพรหายากจากดินแดนไกล ทุกอย่างถูกจัดเรียงเป็นระเบียบ โดยมีสาวใช้คอยตรวจสอบ
แต่เจ้าของของขวัญเหล่านั้นกลับไม่แม้แต่จะเหลียวมอง หนิงอวี้เฟยเดินตรงไปที่เตียง ก่อนจะล้มตัวลงอย่างไร้เรี่ยวแรง
“เฮ้อ ได้พักสักที…” นางพึมพำเพียงเท่านั้น ก่อนที่ลมหายใจจะสม่ำเสมอ ร่างบางจมหายไปในผ้าห่มสีขาวด้วยความเหนื่อยล้า
ช่วงดึกสงัดของวันนั้น หยวนซีซันนั่งอยู่ภายในห้องทำงาน เมื่อได้รับรายงานว่าหนิงอวี้เฟยนอนหลับยังไม่ตื่น ก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดต่อ อ่านเอกสารเกี่ยวกับคดี ‘โจรป่า’ อย่างตั้งอกตั้งใจร่วมกับหวังจางเหว่ย ทั้งสองเคยผ่านสนามรบร่วมกัน เลือดสาดกระจายใต้คมดาบ พวกเขาเคยยืนอยู่เคียงข้างกันในวันที่เป็นเพียงทหารยศต่ำสุด เมื่อหยวนซีซวนได้รับตำแหน่งอ๋อง เขาก็ดึงเพื่อนผู้นี้มาเป็นองครักษ์คนสนิท
“พวกมันไม่โจมตีคนแก่ แต่เลือกโจมตีคนหนุ่มสาว”
“แล้วหลังจากนั้น พวกเขาหายตัวไป ไม่มีร่องรอยให้ติดตาม” หยวนซีซวนขมวดคิ้ว ดวงตาคมมองเอกสารรายงานที่วางอยู่บนโต๊ะไม้โบราณ
“ใช่ ไม่มีศพ ไม่มีหลักฐาน พวกเขาถูกพาตัวไป ไม่ใช่ฆ่าทิ้ง”
บุรุษเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะสั่งเสียงเย็น
“ให้พวกเหยียนอู่กระจายกำลังอย่างเงียบๆ ส่วนพวกเจ้าเตรียมตัวให้พร้อมรับมือทุกเมื่อ จะต้องตามจับให้ได้โดยเร็ว!”
“ขอรับ!”
หลังจากจัดการเรื่องนี้แล้ว หยวนซีซวนก็วกคิดไปถึงเรื่องของหนิงอวี้เฟย สายตาของฮ่องเต้เห็นได้ชัดว่าสนใจนาง
“ไม่มีทางที่ฝ่าบาทจะปล่อยนางไปง่ายๆ ยิ่งนางแสดงปรากฏการณ์เช่นนี้ ฝ่าบาทต้องมีแผนบางอย่างแน่นอน”
“เป็นไปได้ว่า พระองค์จะหาทางรั้งตัวนางเอาไว้… หรือไม่ก็จับนางเป็นสนม”
นั่นเป็นสิ่งที่หยวนซีซวนกังวลที่สุด สำหรับบุรุษแล้วนางไม่ใช่เพียงเทพธิดา แต่เป็นสตรีในคำทำนายว่าจะเป็นคู่ครองของตน เขาไม่มีทางปล่อยนางไปแน่ อันที่จริงบุรุษก็มีแผนแล้วเพียงแต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา
หวังจางเหว่ยมองใบหน้าของหยวนซีซวน เขาเองก็ร้อนใจไม่น้อยเพราะเชื่อว่าหนิงอวี้เฟยคือเทพธิดาจริงๆ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นมิอาจอธิบายได้ นางคือสัญลักษณ์แห่งโชคของพวกเขา!
หลายวันต่อมาเรื่องราวเป็นอย่างที่คาดการณ์เอาไว้ ฮ่องเต้เรียกหยวนซีซวนและหนิงอวี้เฟยไปเข้าเฝ้า แล้วเอ่ยถึงการเตรียมการแต่งตั้งหนิงอวี้เฟยเป็นกุ้ยเฟย[1] นี่ไม่ใช่เรื่องที่คาดการณ์ไม่ได้ หยวนซีซวนคิดเอาไว้แล้ว แต่ไม่ได้ปฏิเสธได้แต่น้อมรับทำเอาหนิงอวี้เฟยเดือดดาล
…ไหนนายบอกว่าจะแต่งงานกับฉัน ให้เวลาฉันคิดจนกว่าจะกลับบ้านไง ไอ้คนโกหก!!...
“ไม่! ข้าไม่แต่ง ข้าไม่เป็นกุ้ยฟง กุ้ยเฟยอะไรทั้งนั้น!” นางตะโกนออกมาอย่างเหลืออด
ไม่ว่าจะที่ต้าจวินหรือที่นี่นางล้วนแล้วแต่ถูกบังคับ ถูกบังให้ให้เป็นเทพธิดาบ้างแหละ แต่งงานบ้างแหละ ทำราวกับนางเป็นเพียงสิ่งของ ยามนี้นางจะไม่ยอมแล้ว
“เทพธิดาโปรดฟังก่อน...”
“ข้าไม่ฟัง!” นางเอ่ยเสียงดัง ก่อนจะหันไปหาหยวนซีซวนที่ประหลาดใจไม่น้อยกับท่าทีไร้มารยาทของนาง ไม่คิดว่านางจะตะโกนออกมาเช่นนี้ อีกทั้งในยามนี้ยังน้ำตาคลอมองเขาอย่างโกรธเคือง “เจ้า! หยวนซีซวน คนโกหก!”
ครืน!!
ยามนั้นเอง ท้องฟ้าด้านนอกที่เคยสว่างสดใส กลับถูกเมฆดำลอยปกคลุมเหนือพระราชวัง ราวกับบดบังแสงแห่งสุริยัน ลมพายุกรูเกรียว กระแทกม่านผ้าแพรที่ห้อยอยู่ตามเสาหลักของตำหนัก ขุนนางที่ยืนอยู่สองฟากทางพากันหันมองไปรอบตัวด้วยความตกตะลึง จากนั้นสายฟ้าก็ฟาดลงมาราวกับเป็นความโกรธจากเบื้องบน
เปรี้ยง!
“กรี๊ด!”
เสียงสายฟ้าฟาดลงมาอย่างเกรี้ยวกราด บางคนสะดุ้งเฮือก บางคนก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว
สตรีตัวน้อยตกใจเสียงฟ้าร้อง นางยกมือขึ้นกุมศีรษะตนเองแล้วนั่งลงกับพื้น หยวนซีซวนรีบเข้าไปโอบนางเข้าสู่อ้อมกอด ฝ่ามือหนาลูบหลังปลอบประโลมนางเบาๆ
ในขณะเดียวกันนั้น บริวารต่างพากันเอ่ยว่าเป็นเพราะไปบังคับให้เทพธิดาทำสิ่งที่นางไม่อยากทำ สวรรค์จึงพิโรธ
“อา…! นี่มัน!”
ขุนนางคนหนึ่งเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเขาสั่นไหว ราวกับเพิ่งตระหนักถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
“นี่เป็นโทษทัณฑ์จากสวรรค์!”
“เราบีบบังคับเทพธิดาเกินไป สวรรค์พิโรธแล้ว!”
เสียงกระซิบดังระงม หลายคนพากันจับชายแขนเสื้อแน่น บางคนถึงกับโค้งคำนับลงพลางพึมพำวิงวอน
“เทพธิดาโปรดเมตตา ขอพระองค์โปรดระงับโทษทัณฑ์นี้!”
ลมแรงกระแทกเข้ามาจากหน้าต่าง วังหลวงที่เคยสง่างามราวกับถูกพายุแห่งสวรรค์ถาโถม ในขณะเดียวกันนั้นหยวนซีซวนยังคงโอบกอดเพื่อปลอบประโลมสตรีตัวน้อยให้หายตกใจ
“ชู่ว! ไม่เป็นไรแล้ว แค่เสียงฟ้าร้อง”
นางเงยหน้าขึ้นมองหยวนซีซวนก่อนจะเอ่ยเสียงสั่น
“คนโกหก”
“ข้าหรือ?”
“คุณบอกว่าจะแต่งงานกับฉัน ให้เวลาฉันคิดจนกว่าจะกลับบ้านนี่”
“อ่า นั่น...”
...ข้าไม่ได้จะปล่อยให้เจ้าแต่งไปเป็นกุ้ยเฟยจริงๆ เสียเมื่อใด นี่ก็แค่... ส่วนหนึ่งของแผน ทว่าเป็นเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน...
“ในเมื่อเป็นรับสั่งจากฝ่าบาท ผู้ใดจะขัดได้ นอกเสียจากเทพธิดา...” บุรุษเงยหน้าขึ้น มองออกไปนอกหน้าต่าง สายฝนที่เทกระหน่ำมาพร้อมกับลมพายุทำเอาปบริวารด้านนอกต่างร้อนรนใจ “...เช่นนั้นหากเทพธิดาให้คำตอบกับข้า... สวรรค์อาจจะไม่พิโรธก็เป็นได้ ถึงจะพิโรธหากเจ้าตอบตกลง ข้าก็จะพาตัวเจ้ากลับต้าจวินพร้อมกับข้า”
สำหรับหนิงอวี้เฟยแล้ว หยวนซีซวนคือคนแรกที่นางเปิดใจ เป็นคนแรกที่พูดคุยด้วย และยังเป็นคนที่ดูแลนางอย่างดีมาตลอด แม้จะเพิ่งเจอกันแค่เกือบหนึ่งเดือนนั้น แต่ถ้าหากต้องเลือกแต่งงานแล้วล่ะก็ นางขอแต่งกับเขายังดีกว่า!
“ฉันจะแต่งกับคุณ!”
“เป็นเกียรติยิ่งนัก” หยวนซีซวนเอ่ยพลางเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก ทำเอาหนิงอวี้เฟยรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ราวกับพลาดสิ่งใดไป ทว่าจะกลับใจตอนนี้ก็ไม่ทันเสียแล้ว “ต่อจากนี้เจ้าแค่อยู่นิ่งๆ ก็พอ”
หยวนซีซวนขยับกายออกห่างจากนาง ก่อนจะคำนับจนศีรษะจรดพื้น
“เป็นข้าที่ผิดเอง เทพธิดาโปรดระงับโทสะด้วย”
[1] กุ้ยเฟย = กุ้ยเฟย (贵妃, Guìfēi) เป็นตำแหน่งพระสนมที่มีอำนาจมากที่สุดรองจากจักรพรรดิ
ตอนพิเศษ 4ทุกอย่างก็เพื่อเจ้าตัวน้อยหลังจากวันนั้นนางก็เริ่มตระหนักได้ถึงความรับผิดชอบ นางจะทำตัวเป็นเด็กเช่นนี้ต่อไปไม่ได้“ท่านพี่ ข้าคิดว่าไม่จำเป็นต้องอยู่กับข้าตลอดทุกวันแล้วเจ้าค่ะ” หนิงอวี้เฟยเอ่ยเสียงอ่อนโยน ทว่าหนักแน่น “บ้านเมืองต้องสงบสุข ชาวบ้านต้องมีรอยยิ้ม เมืองต้องน่าอยู่เพื่อให้ลูกของเราเติบโตในโลกที่ดีที่สุด หากท่านพี่มัวแต่กังวลเรื่องข้า แล้วสิ่งเหล่านั้นเล่า… ใครจะดูแล?”หนิงอวี้เฟยมองเขาด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความห่วงใยและเลื่อมใส ทว่าใบหน้าของหยวนซีซวนกลับขมวดคิ้ว มองนางด้วยความลังเล ราวกับไม่อยากปล่อยมือจากนางได้ก่อนหน้านี้นางติดตนแจ ทว่าคราวนี้กลับผลักไส เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ อารมณ์คนตั้งครรภ์ช่างแปรปรวนเหลือเกิน“ข้าเคยสัญญาว่าจะดูแลเจ้า แล้วจะให้ข้าละทิ้งเจ้าไปทำงานหรือ?”“ไม่ใช่ละทิ้ง ข้ายังอยู่ตรงนี้เสมอ เพียงแค่เจ้าต้องดูแลทั้งเมือง ไม่ใช่เพียงข้า… ลูกของเราต้องการอนาคตที่ดี ท่านพี่&r
ตอนพิเศษ 3เมื่อหนิงอวี้เฟยไร้เหตุผลไม่กี่วันต่อมา...บรรยากาศในเรือนหลักอบอวลไปด้วยความอบอุ่น เมื่อราชวงศ์หนิงส่งของขวัญมาให้ทันทีที่รู้ข่าวตั้งครรภ์ หนิงเสี่ยวอวี้ตื่นเต้นเสียจนติดหนิงอวี้เฟยแจ ไม่ยอมไปที่ใดไกล ก่อนจะประกาศเสียงดังให้ทุกคนได้ยิน“โตไป ข้าจะดูแลน้อง แล้วก็จะปกป้องท่านพี่เฟยด้วย!”ทุกคนหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้กับความไร้เดียงสาของเด็กน้อย หนิงเหยาเฉิน หนิงเหยาเหวิน และหนิงเหยาหลินต่างมาอยู่เป็นเพื่อน คอยดูแลและพูดคุยเล่นให้นางคลายเครียด ท่ามกลางบรรยากาศที่ผ่อนคลาย“ท่านพี่เฉิน ท่านพี่เหวิน ท่านพี่หลิน น้องข้าไม่ได้ดื้อไปหรือ?” หนิงอวี้เฟยเอ่ย พลางมองหนิงเสี่ยวอวี้ที่กำลังปีนขึ้นมานั่งข้างนาง“เสี่ยวอวี้แค่รักเจ้า…” หนิงเหยาเฉินหัวเราะเบาๆ “ดูเถิด จ้องเจ้าเขม็งเช่นนี้ เสี่ยวอวี้จะยอมไปที่ไหนเล่า!”“แน่นอนขอรับ!” หนิงเสี่ยวอวี้ยืนยันเสียงดัง ก่อนยกกำปั
ตอนพิเศษ 2เรามีลูกแล้วนะ“พระชายาตั้งครรภ์ขอรับ”ราวกับห้วงเวลาหยุดหมุนไปชั่วขณะ ดวงตาของหยวนซีซวนเบิกกว้าง จ้องมองหมอหลวงราวกับต้องการให้ทวนคำอีกครั้ง ความตกใจแล่นวาบผ่านร่าง ทว่าทันทีที่คำพูดนั้นแปรเปลี่ยนเป็นความจริง ความรู้สึกสุขใจมหาศาลก็ไหลทะลักเข้ามาแทนที่รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาค่อยๆ ปรากฏขึ้น แม้เขาจะเป็นผู้สงบนิ่งเสมอ ทว่าในเวลานี้…มิอาจห้ามความปลื้มปิติที่ซัดเข้ามาได้อีกต่อไป!ทว่าคนที่ยินดีรองจากหยวนซีซวนและตั้งสติได้ก่อนเห็นจะเป็นเหล่าบริวารที่เฝ้ารอทายาทของคนทั้งคู่“หมอหลวง! พระชายาต้องดูแลเช่นไรบ้างในช่วงตั้งครรภ์? ต้องหลีกเลี่ยงสิ่งใดเป็นพิเศษหรือไม่เจ้าคะ?”“เรื่องอาหารล่ะเจ้าคะ? มีสิ่งใดที่ต้องเน้นเป็นพิเศษเพื่อบำรุงทั้งพระชายาและเด็กน้อย?”“อาการแพ้ท้องจะเป็นหนักหรือไม่? พระชายาจะรู้สึกไม่สบายไปอีกนานเท่าใดขอรับ?”“พระชายาออกเดินเที่ยวงานเทศกาลทุกปี ปีนี้ยังสามารถทำเ
ตอนพิเศษ 1เมื่อหนิงอวี้เฟย กลายเป็นเด็กน้อยไปเสียแล้วงานเทศกาลคึกคักไปด้วยเสียงหัวเราะและกลิ่นหอมของอาหาร หนิงอวี้เฟยใช้เวลาสนุกสนานกับสาวใช้และองครักษ์บางส่วนที่หยวนซีซวนส่งมาคุ้มกันนาง นอกจากเขาไม่ว่างมาเป็นเพื่อน นางเดินเล่นไปตามแผงขายของ ลิ้มรสขนมถั่วหวานและถังหูลู่ด้วยท่าทีร่าเริง ทว่าในจังหวะที่มัวแต่หัวเราะเพลิดเพลิน นางกลับสะดุดอะไรบางอย่างจนล้มลง!ขนมในมือกระเด็นหลุดออกจากมือ บางส่วนตกพื้น บางส่วนเปื้อนดิน เพ่ยเพ่ยรีบเข้ามาพยุงนางขึ้น ทว่าแทนที่นางจะเอ่ยคำใดออกมา นางกลับนิ่งไป ดวงตาจับจ้องขนมในมืออย่างไม่วางตา มุมปากของนางเริ่มขยับคว่ำลง ก่อนเสียงร้องไห้จะดังขึ้นทันที“ฮือ!!!”น้ำตาไหลรินลงมาจนทุกคนรอบข้างชะงัก บริวารทั้งบุรุษและสตรีต่างตกใจ รีบเข้ามาดูอาการของนางคิดว่านางต้องบาดเจ็บหนัก ทว่าหลังตรวจดูพบว่ามีเพียงแผลถลอกที่หลังมือเท่านั้น…“พระชายา! ท่านเจ็บตรงไหนหรือเจ้าคะ!?”“เหตุใดท่านร้องไห้เช่นนี้เจ้าคะ!?&rdq
บทที่ 45คืนนี้อีกรอบหนิงอวี้เฟยยังคงอาบน้ำเงียบๆ ในสายน้ำเย็นชื่น ทว่าอยู่ดีๆ ร่างของหยวนซีซวนก้าวเข้ามาใกล้ นางยังไม่ทันรู้ตัวมือแข็งแกร่งของเขาก็โอบรอบเอวนางจากด้านหลัง“ท่านพี่!!” สตรีตัวน้อยร้องออกมาด้วยความตกใจ ดวงตาเบิกกว้างเมื่อสัมผัสถึงอ้อมแขนที่แนบชิด ร่างของเขาไม่ได้เคลื่อนไหวใดต่อไป เพียงกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น“เจ้าคิดหรือยัง?” บุรุษเอ่ยพลางกดใบหน้าเข้าที่ลำคอของนาง แล้วใช้จมูกไล้ที่ผิวกายเบาๆ กลิ่นหอมหวานทำให้หยวนซีซวนแอบกัดฟันกรอด“คิดอะไรเจ้าคะ?” นางขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางเอ่ยถามด้วยความสงสัย“เรื่องลูกของเรา” เขากระซิบเบาๆ พลางจูบลงบนเรือนผมนางอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความออดอ้อน “เจ้าอยากมีกี่คน สามคน ห้าคน หรือสักเจ็ดคนดี?”“ขะ ข้ายังไม่ได้คิด...”“เช่นนั้นก็คิดเสีย”“ให้เวลาข้าอีกนิดเถิดเจ้าค่ะ”“ยังใ
บทที่ 43ไม่ตายไม่แยกจาก“เฮ้อ เจ้าระแวงเกินไปแล้ว เมื่อคืนก็ทั้งคืน ข้าจะไปกล้ารังแกเจ้าต่อได้อย่างไร มาๆ ข้าพาเจ้าไปอาบน้ำดีกว่า”“กรี๊ด! ปล่อยข้านะ ปล่อยข้า! ท่านพี่!”หยวนซีซวนโอบอุ้มสตรีตัวน้อยขึ้นสู่อ้อมแขน แล้วพาเดินไปที่ห้องน้ำที่สาวใช้เตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้วระหว่างที่นางหลับ เมื่อมาถึงก็ค่อยๆ วางนางลงในอ่างอาบน้ำ จากนั้นก็ช่วยนางอาบน้ำอย่างจริงจัง ทำเอาหนิงอวี้เฟยรู้สึกประหลาดใจยิ่งนักเขาไม่เพียงแต่ไม่รังแกนางในน้ำ ยังช่วยอาบน้ำชำระกายอย่างดี บีบนวดตัวนางเพื่อคลายความเมื่อยล้าให้อีกต่างหาก จนนางวางใจอาจจะเพราะบุรุษรู้สึกผิดที่เมื่อคืนนี้เคี่ยวกรำนางหนักเกินไปก็เป็นได้หลังจากอาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เสร็จ ทั้งสองก็นั่งกินข้าวอยู่ในห้อง อาหารมากหน้าหลายตาถูกวางเรียงเต็มโต๊ะ ผลัดกันตักให้ ผลัดกันป้อนอย่างหวานชื่น เมื่อกินอิ่มสาวใช้ก็เข้ามาเก็บสำรับหมับ!หยวนซีซวนโอบกอดนางทันทีที่สาวใช้ออกไป ร่างของบุรุษแนบชิดเข้า







