พระราชนัดดาองค์อื่นที่ได้รับเกียรติเช่นนี้ มีอยู่ไม่กี่คนเท่านั้นครั้นหันมองครอบครัวตนเอง ก่อนหน้านี้ไม่นานองค์ชายสามเพิ่งถูกฮ่องเต้จิ่งผิงติเตียนไป ทั้งยังกักตัวเขาไว้ในจวนอ๋องพระชายาองค์ชายสามรู้สึกหวาดหวั่นอยู่ในใจมากเป็นพิเศษในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ หากมิใช่เพราะต้องการเลี่ยงมิให้ผู้อื่นจับผิด แล้วกุมจุดอ่อนของจวนองค์ชายสามไว้ได้อีก วันนี้พระชายาองค์ชายสามคงไม่เหยียบย่างมาถึงที่นี่แน่ก็แค่งานเลี้ยงวันเกิดของเด็กคนหนึ่งเท่านั้นอีกทั้งมิใช่งานเลี้ยงใหญ่โตที่มีความหมายพิเศษอันใด ควรค่าแก่การที่นางซึ่งเป็นถึงผู้อาวุโสมากกว่าต้องมาร่วมงานถึงที่นี่เชียว?จนใจที่ยามนี้สถานการณ์ของจวนองค์ชายสามมิสู้ดี กอปรกับเจ้าเด็กน่าชังอย่างเซียวจิงมั่วได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้จิ่งผิง หลายครั้งหลายคราวก่อนหน้านี้ถึงขั้นพาเขาไปท้องพระโรงด้วย หลังจากพระชายาองค์ชายสามหารือกับองค์ชายสามแล้ว จึงตัดสินใจพาบุตรชายมาเยี่ยมเยือนถึงที่นี่สักครั้งเป็นการดีที่จะได้แสดงให้ฮ่องเต้จิ่งผิงเห็นถึงความรักความเมตตาที่พวกเขามีต่อหลานชายงานเลี้ยงวันเกิดครั้งนี้ เซียวจิงมั่วเฉลิมฉลองอย่างสุขใจเป็นพิเศษ
ผู้คนส่งเสียงจอแจ พูดคุยกันสนุกสนานครื้นเครงเซียวคังถูกเบียดไปยังอีกฝั่งฟาก ครั้นเห็นเซียวจิงมั่วจูงเสือตัวหนึ่งออกมาจริง ใบหน้าก็ประเดี๋ยวดำประเดี๋ยวแดงด้วยความอับอายแม้เสือขาวตัวนี้จะเป็นเพียงเสืออ่อนวัย ทว่าก็เป็นเสือจริงๆ!เซียวลี่เห็นเซียวคังสีหน้าดูไม่ได้ พลันก็เหมือนจะรู้สึกยินดีปรีดาขึ้นมาก็ไม่ปาน เขาเท้าเอวพลางกล่าวว่า“ใครกันนะที่บอกว่าจิงมั่วของพวกเราพูดโกหกหลอกลวงผู้อื่น?”ว่าจบ เขาก็แค่นเสียงร้องเฮอะแรง ๆ ไปทางเซียวคัง จากนั้นจึงทำหน้าทะเล้นเซียวคังโมโหจนใบหน้าแดงเถือกเขาลอบกัดฟันกรอด ในใจทั้งเดือดดาลทั้งเกลียดชังเลื่อนสายตาไปอยู่ที่เสือขาวน้อยตัวนั้น ในดวงตาพลันประกายแววอาฆาตเคียดแค้นทำไมเซียวจิงมั่วถึงเลี้ยงเสือขาวให้เชื่องได้?ทำไมกัน ไม่เพียงแค่บิดาของเซียวจิงมั่วเท่านั้นที่เหนือกว่าท่านพ่อของตน กระทั่งวันนี้มันก็ยังเหนือกว่าตนด้วย?เขาไม่ยอม!ทุกคนล้วนเข้าไปมุงดูเจ้าเสือขาวตัวน้อยด้วยความประหลาดใจ ไม่มีใครเลยที่สนใจความรู้สึกของเซียวคังหลังจากเหล่าพระราชนัดดาไม่กี่คนที่มีความสัมพันธ์ดี ๆ กับเซียวจิงมั่วได้รับคำอนุญาตจากเขา ก็ยังได้รับเกียรติให้ได้ล
เซียวคังที่รู้สึกไม่สบอารมณ์ จู่ ๆ ก็ได้ยินคนพูดขึ้นมาว่า “จิงมั่ว ได้ยินว่าเจ้าเลี้ยงเสือขาวตัวหนึ่งไว้ ให้พวกเราดูได้หรือไม่?”เซียวคังได้ยินคำว่า ‘เสือขาว’ สองพยางค์นี้ ก็หยุดเล่นเครื่องเล่นลื่นไถลที่ชอบที่สุดทันที และรีบเบียดเข้าไปโดยพลันเนื่องจากการเข้าออกวังหลวงต้องถูกตรวจสอบ เสือขาวที่ดุร้ายเช่นนี้ ย่อมไม่ได้รับอนุญาตให้พาเข้าไปในวังหลวงดังนั้นก่อนหน้านี้ยามที่อยู่ในห้องทรงพระอักษร ก็มีคนพูดเรื่องที่เซียวจิงมั่วเลี้ยงเสือขาวขึ้นมา แต่ก็ล้วนถูกเขาปฏิเสธโดยอ้างว่าไม่สามารถพาเข้ามาในวังหลวงได้วันนี้มาถึงจวนอี้อ๋อง จึงมีคนที่ทนความสงสัยในใจไม่ได้ อยากเห็นเสือขาวตัวนั้นที่เซียวจิงมั่วเลี้ยงไว้นั่นคือเสือสีขาวเชียวนะ!พวกเขาต่างเคยเห็นเสือแค่ในภาพวาด ไม่เคยเห็นตัวจริงมาก่อน!เซียวคังเห็นเซียวจิงมั่วไม่ได้พูดอันใด ก็กล่าวเสียดสีทันที “เซียวจิงมั่ว เจ้าคงมิได้โกหกใช่หรือไม่?”“ที่แท้เจ้าก็ไม่มีเสือขาว!”เซียวลี่รู้ว่าเซียวคังไม่ชอบเซียวจิงมั่วมาโดยตลอด ยามอยู่ที่ห้องทรงพระอักษรก็หาเรื่องเซียวจิงมั่วอยู่บ่อยครั้งยามนี้เมื่อเห็นเขากำลังจะก่อเรื่องอีกครา ก็กล่าวขึ้นมาโดยพลัน
เซียวจิ่งอี้มิใช่คนไร้ความอดทนขอเพียงองค์ชายสามไม่สร้างปัญหาโดยตรง ไม่ล้ำเส้นของเขา การจะกลายเป็นผู้มั่งคั่งที่นั่งกินนอนกินได้ในอนาคตก็มิใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ไม่รู้ว่าองค์ชายสามจะเข้าใจเจตนาอันดีของฮ่องเต้จิ่งผิงหรือไม่ความคิดเหล่านี้ผ่านไปจากความคิดของเซียวจิ่งอี้ หลังจากนั้นก็ถูกเขาโยนทิ้งไป เพราะยุ่งอยู่กับการต้อนรับแขกที่มาเยือนวันนี้วันนี้แขกผู้ชายรับประทานอาหารที่หน้าจวน ส่วนแขกผู้หญิงอยู่ในห้องอุ่น ๆ ข้างเรือนชิงเฟิงพวกเด็ก ๆ ต่างอยู่ในเรือนชิงเฟิงเมื่อเข้ามาในเรือนชิงเฟิง เครื่องเล่นเหล่านั้นที่อวิ๋นฝูหลิงทำ ก็ครองใจเหล่าเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดีในบรรดาเด็กเหล่านี้ บุตรชายคนโตขององค์ชายใหญ่ที่อายุมากที่สุด ปีนี้อายุสิบสามปีแต่ไม่ว่าจะเป็นเด็กโตหรือเด็กเล็ก ก็ล้วนไม่อาจหนีจากความมหัศจรรย์ของสวนสนุกในร่มได้เสียงหัวเราะสนุกสนานดังออกมาจากในเรือนชิงเฟิงไม่หยุดแม้แต่เหล่าพระราชนัดดาที่ก่อนหน้านี้ไม่ชอบเซียวจิงมั่ว ยามนี้ก็หลงใหลในพวกเครื่องเล่นลื่นไถล ทำให้ความเป็นศัตรูที่มีต่อเซียวจิงมั่วน้อยลงหลายส่วนและมีคนอิจฉาเซียวจิงมั่วมากขึ้นแม้จะเกิดที่ภายนอก และก่อนหน้า
รูปแบบงานเลี้ยงเช่นนี้ นางไม่เคยเห็นหรือเคยได้ยินมาก่อนอวิ๋นฝูหลิงยิ้มพลางอธิบาย “งานเลี้ยงวันนี้เป็นแบบบริการตัวเอง”“สิ่งที่เรียกว่างานเลี้ยงบริการตัวเอง คือสามารถเลือกอาหารและเครื่องดื่มได้ตามใจ อยากกินสิ่งใดก็หยิบสิ่งนั้น”“หลังจากหยิบอาหารแล้ว สามารถนั่งหรือยืนได้ตามใจ ไปกินอาหารกับผู้อื่นได้ตามสะดวก”“หากอยากนั่งพักผ่อน ในเรือนปีกตะวันออกก็มีโต๊ะเก้าอี้...”หลังจากพระชายาองค์ชายห้าได้ยินคำอธิบายของอวิ๋นฝูหลิง จึงเพิ่งเผยสีหน้าเข้าใจออกมา“รูปแบบการกินอาหารเช่นนี้เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก”“แต่ฟังดูน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง”พี่สะใภ้น้องสะใภ้ทั้งสองพูดคุยกันครู่หนึ่ง ก็ได้ยินคนใช้รายงานว่ามีแขกมาถึงแล้วอวิ๋นฝูหลิงปล่อยให้พระชายาขององค์ชายห้าอยู่ตามสบาย และไปที่ประตูรองเพื่อต้อนรับแขกเซียวจิงมั่วในฐานะนายน้อยของจวนอี้อ๋อง เป็นเจ้าของงานเลี้ยงวันเกิดในวันนี้ ย่อมต้องไปต้อนรับแขกเซียวลี่ซึ่งเดิมทีอยากจะเล่นสนุกต่อเห็นเช่นนั้น หลังจากลังเลครู่หนึ่ง ก็ไปที่โถงด้านหน้ากับเซียวจิงมั่ว เพื่อช่วยต้อนรับแขกนี่เป็นการแสดงว่าเขาคือเพื่อนสนิทของเซียวจิงมั่ว!ผู้อื่นอย่าได้คิดจะผ่
ณ เรือนชิงเฟิงบนโต๊ะยาวที่ต่อกันเป็นแถวยาวเหยียด วางขนมอบและผลไม้หลายชนิดไว้ขนมอบเหล่านั้นไม่ใช่ขนมอบพุทราน้ำผึ้งหรือขนมอบถั่วเขียวที่เห็นได้ทั่วไป แต่ทำให้กลายเป็นรูปสัตว์นานาชนิดมีหมีน้อย กระต่าย หมูน้อยและอื่น ๆมีความน่ารักน่าเอ็นดูของเด็กน้อยไร้เดียงสาแผ่ออกมาในเรือนใช้ถ่านไฟสร้างความอบอุ่น วางเครื่องเล่นมากมายไว้ ทั้งเคลื่อนเล่นลื่นไถลของเด็ก ไม้กระดก ชิงช้า สะพานไม้ ตาข่ายปีนป่ายและอื่น ๆ บนโต๊ะที่มุมยังมีกองของเล่นเล็ก ๆ อย่างพวกแผ่นตัวต่อปริศนาเจ็ดแผ่น ลูกบิด และเก้าห่วงปริศนาด้วยเซียวจิงมั่วจูงมือเซียวลี่ แนะนำทุกอย่างให้เขา“ของพวกนี้ท่านแม่ของข้าทำให้ข้าหมดเลย”“ท่านแม่ของข้าเก่งที่สุด!”เซียวจิงมั่วเชิดคาง ทั้งร่างเต็มไปด้วยความสุขมีแต่สวรรค์ที่รู้ว่าเมื่อเช้านี้เมื่อได้เห็นของพวกนี้ เขาตกใจมากเพียงใดเซียวลี่ร้องอุทานออกมาเสียงหนึ่ง รู้สึกแค่ว่าดวงตาของเขายังมองไม่พอ“จิงมั่ว อาสะใภ้เจ็ดเก่งมากเลย ทำของได้หลายสิ่งจริงๆ”“ถ้าอาสะใภ้เจ็ดเป็นแม่ข้าก็คงดี!”เซียวจิงมั่วกอดอก “นั่นเป็นไปไม่ได้หรอก นางเป็นแม่ข้า!”เซียวลี่ก็แค่พูดเท่านั้น แม้ว่าแม่ของเขาจะไ
เซียวจิ่งอี้นึกถึงหลายปีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเขาไม่ได้อยู่เคียงข้างเซียวจิงมั่วทั้งยังไม่เคยฉลองวันเกิดเป็นเพื่อนเขาเลยสักคราความรู้สึกผิดและนึกเสียใจผุดขึ้นในใจของเขา“แม่เจ้าพูดถูก พ่อจะชดเชยวันเกิดหลายปีนั้นที่ติดค้างเจ้าทั้งหมด”เซียวจิงมั่วหัวเราะออกมาโดยพลัน แบ่งจูบบนใบหน้าของอวิ๋นฝูหลิงกับเซียวจิ่งอี้“ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านดีที่สุดเลย!”ส่งเซียวจิงมั่วกลับเรือน หลังกล่อมเขาเข้านอน อวิ๋นฝูหลิงกับเซียวจิ่งอี้ก็หารือกันเรื่องงานเลี้ยงวันเกิดของเซียวจิงมั่วเดิมทีอวิ๋นฝูหลิงอยากให้ครอบครัวพวกเขาสามคน ฉลองวันเกิดที่อบอุ่นทั้งยังยากจะลืมเลือนด้วยกันในเมื่อตอนนี้ต้องเชิญสหายร่วมชั้นเรียนเหล่านั้นของเซียวจิงมั่วจากห้องทรงพระอักษรด้วย อวิ๋นฝูหลิงจึงคิดจะจัดงานสังสรรค์ในวันเกิดสักงานเซียวจิ่งอี้มีใจอยากชดเชยให้เซียวจิงมั่ว ย่อมต้องการจัดงานฉลองวันเกิดครั้งนี้ให้ยิ่งใหญ่ขอเพียงเป็นคำขอของเซียวจิงมั่ว เขาย่อมรับปากเพียงพริบตาเดียว วันนี้ก็ถึงวันเกิดของเซียวจิงมั่วเซียวลี่มาถึงเป็นคนแรกเขาถือเทียบเชิญที่เซียวจิงมั่วเขียนให้ไว้ในมือ เมื่อมาถึงประตูของจวนอี้อ๋อง ก็เอ
หลังจากเซียวจิ่งอี้ไปที่เรือนชิงเฟิงคราหนึ่ง ก็หาโอกาสถามอวิ๋นฝูหลิงว่า “ข้าเห็นสิ่งของแปลก ๆ ที่ทำจากไม้มากมายในเรือนชิงเฟิง เจ้าให้คนทำสิ่งเหล่านั้นเพื่ออะไรหรือ?”“หลังจากทำเสร็จแล้วท่านก็จะรู้เอง” อวิ๋นฝูหลิงพูดจบ ก็กล่าวเตือนอีกครา “นี่เป็นของขวัญวันเกิดที่ข้าจะมอบให้จิงมั่ว”“ท่านอย่าให้เขารู้เชียว ข้าอยากทำให้เขาประหลาดใจสักครา!”เซียวจิ่งอี้เลิกคิ้ว ในใจยิ่งอยากรู้อยากเห็นกว่าเดิมเขาพยักหน้ากล่าวว่า “ข้าเข้าใจแล้ว”ขณะที่สองสามีภรรยาพูดคุยกัน ทันใดนั้นเองเซียวจิงมั่วก็กระโดดออกมาอย่างกะทันหัน “ท่านพ่อ ท่านแม่...”อวิ๋นฝูหลิงถูกเขาทำให้ตกใจจนสะดุ้งเซียวจิ่งอี้เห็นเช่นนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะหน้าถมึงทึง“จู่ ๆ ทำเสียงดังอันใดกัน ดูสิทำแม่ของเจ้าตกใจหมดแล้ว มิใช่ว่าพ่อเคยสอนเจ้าแล้วหรือ ผู้สูงศักดิ์ต้องทำตัวให้เหมาะสม...”เซียวจิงมั่วก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าตัวเองจะทำให้มารดาตกใจ จึงรีบก้าวไปด้านหน้ากอดอวิ๋นฝูหลิงไว้“ท่านแม่ ท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่ ทั้งหมดเพราะจิงมั่วไม่ดีเอง!”อวิ๋นฝูหลิงลูบหน้าอก เห็นดวงตาของเขาแดงเรื่อ ก็รู้ว่าพวกเขาสองสามีภรรยาคุยซุบซิบกัน จนไม่ทันสังเก
“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีวัดแห่งหนึ่ง...”น้ำเสียงอ่อนโยนกระจ่างใสดังขึ้นในห้อง เล่านิทานออกมาอย่างน่าฟังลมเหนือพัดมา ลมหนาวจับใจ ทว่าในห้องหลับอบอุ่นเช้าวันรุ่งขึ้นหลังรับประทานอาหารเช้า เซียวจิ่งอี้เรียนหนังสือในห้องทรงพระอักษรเป็นเพื่อนเซียวจิงมั่วเขาได้รู้ผลการเรียนของเซียวจิงมั่วในช่วงนี้จากอาจารย์ของห้องทรงพระอักษรพอดีอวิ๋นฝูหลิงเริ่มจัดการหน้าที่ซึ่งคั่งค้างอยู่ระหว่างช่วงที่นางออกไปข้างนอกมีพวกพ่อบ้านฝู หลิงโหยวและสวี่ตง แม้ว่าอวิ๋นฝูหลิงจะออกไปข้างนอกระยะหนึ่ง แต่ทุกสิ่งในจวนอ๋องก็ยังเป็นปกติ ไม่มีเรื่องใหญ่อันใดเกิดขึ้น ทางด้านสำนักช่วยชีพกับสวนสมุนไพรก็ดำเนินการได้ตามปกติมีผู้ช่วยที่แบ่งเบาภาระได้ช่างรู้สึกดียิ่งนัก!อวิ๋นฝูหลิงกำลังดูสมุดบัญชี ก็ได้ยินคนเข้ามารายงาน “พระชายา ช่างไม้จางมาถึงแล้วขอรับ”เซียวจิ่งอี้มีผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีความสามารถทุกแขนงอยู่ไม่น้อย ก่อนหน้านี้อวิ๋นฝูหลิงเคยขอเขาว่าต้องการช่างที่ทำงานไม้เก่ง ๆ สักหลายคนหน่อยช่างไม้จางผู้นี้มีฝีมือโดดเด่นที่สุดในบรรดาช่างไม้เหล่านั้นหลังจากกลับมาเมื่อวาน อวิ๋นฝูหลิงก็ให้คนไปแจ้งข่าวช่างไม้