“อื้อออ...” น่านน้ำครางเสียงหวานในลำคอ ขยับตัวแอ่นร่างบดเบียดเข้าหาคนบนร่าง วงแขนเล็กยกขึ้นโอบกอดร่างใหญ่ที่ยังอยู่ในสภาพเสื้อผ้าครบชุด ศีรษะทุยเล็กนอนแนบไปกับโซฟาตัวใหญ่ หญิงสาวหลับตาพริ้มอย่างรอคอย เมื่อภูชิตผละจากริมฝีปากบาง ใบหน้าคมเข้มค่อยๆลากเลื่อนลงมาตามลำคอระหง ลิ้นร้อนสากตวัดทักทายผิวเนื้อเนียนนุ่มที่ใบหน้าเคลื่อนผ่าน อกอวบถูกครอบครองดูดดึงและขบเม้มเบาๆที่ปลายยอด มือใหญ่เคลื่อนต่ำลงลูบไล้หน้าท้องเนียนเรื่อยไปจนถึงเนินอวบกลางกายสาว นิ้วเรียวใหญ่ถูกส่งเข้าไปสำรวจช่องทางรักช้าๆ สะโพกสวยยกขึ้นสอดรับทันที
“อา...คุณภู” ความนุ่มลื่นและชุ่มฉ่ำทำให้คนที่ได้สัมผัสหัวใจกระตุก ภูชิตค่อยๆเคลื่อนกายจนใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกับดอกไม้สีสวย นิ้วเรียวใหญ่ที่นำทางมาก่อนแล้วขยับเข้าออกในช่องทางคับแน่นเป็นจังหวะ น่านน้ำบิดเร่าไปกับความร้อนแรงที่แทรกลงในกาย
“อ๊า...คุณภูขา” เสียงหวานครวญครางราวกับจะขาดใจ เมื่อปากร้อนฉกลงบนเนื้อนุ่มฉ่ำหวานสีสด ที่ถูกหัวแม
ภูชิตรีบแต่งตัวแล้วผลุนผลันออกจากห้องของตนเองไปทันที โดยไม่สนใจผู้หญิงที่อยู่ในห้องน้ำแม้แต่น้อย ชายหนุ่มเดินตรงไปเปิดประตูห้องของน่านน้ำ แต่ปรากฏว่ามันถูกล็อกจากด้านใน มือใหญ่เคาะประตูห้องรัวตามแรงอารมณ์ เขาหงุดหงิดที่เกิดเรื่องต่างๆมาตั้งแต่หัวค่ำ พอถึงเวลาพักผ่อนกลับมาเกิดเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องอีก“น้ำเปิดประตูเดี๋ยวนี้ เรามีเรื่องต้องคุยกัน” ภูชิตรอฟังคนที่อยู่ด้านใน แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ เขาถอนหายใจแรง เดินลงไปด้านล่างของบ้าน ปากก็ตะโกนหาลูกน้องคนสนิทปาวๆ“ไอ้สิน! ไอ้สิน!” ภูชิตเดินลงบันไดมาจนถึงหน้าบ้าน คนถูกเรียกรีบวิ่งกระหืดกระหอบมาหาหน้าตาตื่น“กุญแจสำรองอยู่ไหน” เสียงเกรี้ยวกราดของภูชิตทำให้นายสินก้มหน้าต่ำยืนนิ่ง“อยู่ไหนไอ้สิน ไปหามาสิ ยืนเซ่ออยู่ทำไม”&nbs
ผ้าขนหนูอุ่นผืนเล็กที่วางลงปิดเปลือกตาทำให้ภูชิตตกใจเล็กน้อย แต่มือเล็กที่ตามมาบีบคลึงขมับให้อย่างเอาใจทำให้เขายิ้มออกมา“น่ารักจัง คนเก่งของผม” ชายหนุ่มปล่อยให้คนนวดทำตามใจ เพราะคิดว่าเป็นคนที่เขากำลังคิดถึงอยู่นั่นเอง ความตึงเครียดมาตั้งแต่ตอนหัวค่ำค่อยๆผ่อนคลาย มือเล็กบีบนวดเรื่อยลงมายังบ่าไหล่ ภูชิตรู้สึกสบายตัวจนครางเบาๆในลำคอ“อืมมม” คนนวดยิ้มอย่างพอใจ ขณะนวดให้ชายหนุ่มสายตายังซุกซนมองสำรวจไปตามเรือนร่างกำยำ จนอดไม่ได้ที่จะลูบไล้ตามความต้องการของตัวเอง สักครู่เดียวลมหายใจของคนถูกนวดก็เป็นจังหวะสม่ำเสมอ“นาย...นายขา” หวานแหววก้มลงเรียกชิดใบหูของชายหนุ่ม ภูชิตยังคงนอนนิ่งไม่ตอบรับใดๆ คนเรียกจึงยิ้มกริ่ม“หวานแหววอาบน้ำให้นะจ๊ะ” หญิงสาวลุกขึ้นยืนปลดเปลื้องเสื้อผ้าตนเองออก ขณะที่สายตายังจับจ้อง
“เอามาพร้อมกันเลย นายกับคุณน้ำทำงานอยู่ในห้องยังไม่ออกมาเลยตั้งแต่เช้า” หวานแหววเบ้ปากเมื่อได้ยินคำบอกเล่าของแตงอ่อน“ทำงานหรืองาบกันอยู่” นางแหวนหันไปหยิกลูกสาวทันที“โอ๊ย! แม่...”“ปรามๆมันไว้บ้างนะพี่แหวน ฉันล่ะหวั่นใจแทนพี่จริงๆ ระวังจะโดนไล่ออกจากไร่เพราะลูกสาวตัวเองนะ” แตงอ่อนยื่นมือไปรับปิ่นโตจากนางแหวน พร้อมกับชำเลืองตามองหวานแหววแล้วส่ายศีรษะ ก่อนจะเดินไปยังรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ หวานแหววมองตามนางแตงอ่อนอย่างไม่พอใจ“คอยดูนะแม่ ถ้าฉันได้เป็นนายหญิงที่นี่เมื่อไร ฉันจะไล่น้าแตงอ่อนออกจากไร่คนแรกเลย”“นังหวานแหวว! หยุดพูดได้แล้ว ไปๆเก็บของช่วยกัน” หวานแหววเก็บโน่นเก็บนี่กระแทกกระทั้นเสียงดังอย่างหงุดหงิด&
“ถ้าไม่ตอบผมจะหยุดแล้วนะ ผมยอมแพ้” ภูชิตชักมือกลับ แล้วลุกขึ้นนั่ง น่านน้ำมองสบตาอย่างอ้อนวอน หญิงสาวกัดริมฝีปากไว้ไม่กล้าเอ่ยขอใดๆออกไป แต่ร่างสาวกลับบิดส่ายทรมานรอคอยการปลดปล่อย รอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์จ้องมองกลับอย่างท้าทาย คิ้วเข้มเลิกสูงเป็นเชิงถามเพื่อขอให้เธอตอบ“คุณภูขา ช่วยน้ำด้วย” เสียงหวานสั่นพร่ายามเอ่ยร้องขอ“ช่วยอะไรล่ะคนสวย อยากให้ผมช่วยยังไง” คนที่รอท่าอยู่แล้วขยับทาบทับร่างเล็กยั่วยวนอีกครั้ง น่านน้ำใช้ขาเรียวตวัดรัดเอวสอบทันที แต่ภูชิตกลับไม่ได้เติมเต็มให้หญิงสาวอย่างที่เธอกำลังรอคอยอยู่ สะโพกสวยยกเชิดเบียดชิดอยู่กับมัดกล้ามหน้าท้องที่เรียบตึงของเขา“คุณภู น้ำทรมาน...อา...” แปลงดอกไม้ชุ่มฉ่ำเบียดเสียดสีกับเรือนกายหนั่นแน่น มันไม่ได้ทำให้ความทรมานทุเลาลงเลย หากแต่เป็นการเพิ่มความซ่านสะท้านจนร่างสาวแทบจะแตกเป็นเสี่ยง&nb
“เหนื่อยจังเลยค่ะ” เป็นน่านน้ำเองที่ต้องประท้วง เมื่อคนที่คร่อมทับแผ่นหลังเธอไว้ไม่ยอมปล่อยร่างเธอเสียที“อืม...อยากอยู่อย่างนี้นานๆ” ภูชิตพลิกกายนั่งพิงพนักโซฟา โดยไม่ลืมที่จะเกี่ยวเอวคอดรั้งร่างบางให้นั่งบนตักตัวเอง ในขณะที่กลางกายยังคงประสานกันแนบแน่น น่านน้ำเอนร่างแนบหลังเนียนไปกับแผ่นอกกว้าง ศีรษะทุยพิงซบบ่ากว้างแล้วหลับตาลงอย่างอ่อนแรง ริมฝีปากหนาจูบซับขมับอ่อนโยน มือใหญ่ลูบไล้ร่างนุ่มนิ่มทะนุถนอม“พักยกก่อนนะ ที่รักของผม” เสียงทุ้มกระซิบใกล้หูเล็ก คนเหนื่อยล้าที่กำลังเข้าสู่ห้วงนิทราได้ยินเสียงนั้นแผ่วเบานักคุณภูให้น้ำเป็นที่รักแล้วใช่ไหมคะคำถามนั้นดังก้องในใจ เพราะเหนื่อยนัก เหนื่อยจนไม่สามารถขยับปากถามออกไปอย่างใจคิด วงแขนแกร่งกอดรัดกายสาวแน่นขึ้น คนไม่หลับลูบไล้จับคลำร่างเล็ก
ลำแขนเรียวเกี่ยวรัดร่างใหญ่แน่น สะโพกเต่งตึงยกขึ้นเร่งเร้าให้ชายหนุ่มแทรกเข้าหาตนเอง ภูชิตขยับสะโพกสอบค่อยๆสอดดันความแข็งแกร่งเข้าไปตามทางรักอุ่นลื่น น้ำหวานที่อาบเอิบชุ่มฉ่ำช่วยให้การเดินทางเข้าไปเติมเต็มสะดวก หากแต่ความคับแน่นยังคงรัดรึงจนเขาแทบขาดใจ“อืมมม...น้ำของผม” ใบหน้าหล่อเข้มเคลื่อนต่ำลงดูดดึงเม็ดลูกกวาดสีหวาน กวาดลิ้นละเลงเน้นหนักจนร่างเล็กบิดเร่าแอ่นอกเชื้อเชิญให้เขาครอบครองเต็มที่“คุณภูขา อื๊อ!” ภูชิตใช้แขนแกร่งสอดใต้เอวคอดรั้งร่างบางให้ลุกขึ้น ขณะที่สองร่างยังคงสอดประสานกันแนบแน่น คนตัวใหญ่ขยับร่างนั่งพิงพนักโซฟาวางเท้าสองข้างบนพื้น วงแขนแกร่งกอดรัดร่างเล็กแนบแน่น ขาเรียวรัดเอวสอบไว้ตามสัญชาตญาณ วงแขนเล็กโอบรอบคอแกร่ง ใบหน้าแดงเรื่อแหงนเงยหลับตาพริ้ม ภูชิตพรมจูบทั่วดวงหน้าเนียน แล้วเคลื่อนริมฝีปากครอบครองริมฝีปากบาง รสจูบซาบซ่านดูดดื่มหวานล้ำ ต่างฝ่ายต่างบดเคล้าริมฝีปากหากันอย่างกระหายหิว 
“อื้อออ...” น่านน้ำครางเสียงหวานในลำคอ ขยับตัวแอ่นร่างบดเบียดเข้าหาคนบนร่าง วงแขนเล็กยกขึ้นโอบกอดร่างใหญ่ที่ยังอยู่ในสภาพเสื้อผ้าครบชุด ศีรษะทุยเล็กนอนแนบไปกับโซฟาตัวใหญ่ หญิงสาวหลับตาพริ้มอย่างรอคอย เมื่อภูชิตผละจากริมฝีปากบาง ใบหน้าคมเข้มค่อยๆลากเลื่อนลงมาตามลำคอระหง ลิ้นร้อนสากตวัดทักทายผิวเนื้อเนียนนุ่มที่ใบหน้าเคลื่อนผ่าน อกอวบถูกครอบครองดูดดึงและขบเม้มเบาๆที่ปลายยอด มือใหญ่เคลื่อนต่ำลงลูบไล้หน้าท้องเนียนเรื่อยไปจนถึงเนินอวบกลางกายสาว นิ้วเรียวใหญ่ถูกส่งเข้าไปสำรวจช่องทางรักช้าๆ สะโพกสวยยกขึ้นสอดรับทันที“อา...คุณภู” ความนุ่มลื่นและชุ่มฉ่ำทำให้คนที่ได้สัมผัสหัวใจกระตุก ภูชิตค่อยๆเคลื่อนกายจนใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกับดอกไม้สีสวย นิ้วเรียวใหญ่ที่นำทางมาก่อนแล้วขยับเข้าออกในช่องทางคับแน่นเป็นจังหวะ น่านน้ำบิดเร่าไปกับความร้อนแรงที่แทรกลงในกาย“อ๊า...คุณภูขา” เสียงหวานครวญครางราวกับจะขาดใจ เมื่อปากร้อนฉกลงบนเนื้อนุ่มฉ่ำหวานสีสด ที่ถูกหัวแม
น่านน้ำผละออกจากร่างของภูชิต นั่งคุกเข่าลงระหว่างขาของชายหนุ่ม เข็มขัดตะขอซิปกางเกงถูกปลดออกหมดแล้วด้วยฝีมือของเธอเอง ใบหน้าสวยแหงนขึ้นมองใบหน้าหล่อเข้ม เขายังหลับตาพริ้มรอคอยในสิ่งที่เธอจะทำให้ ปากจิ้มลิ้มพ่นลมออกมาเบาๆ สายตาหลุบลงมองความโป่งพองที่กลางกายของคนตัวใหญ่ ที่ซ่อนอยู่ภายใต้กางเกงในสีขาว มือเล็กสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัดขณะที่เอื้อมไปเกี่ยวขอบกางเกงชั้นใน และเมื่อออกแรงรั้งเพียงนิด อะไรที่มันขยับขยายใหญ่โตและรอท่าจะออกมาสู่สายตาเธออยู่แล้ว ก็ดีดผึงผงาดง้ำตั้งโด่ขึ้นมาทันที น่านน้ำตาเบิกโพลง อ้าปากค้าง มือไม้สั่นไร้สิ้นเรี่ยวแรง เธอเคยเห็นมาก่อนแล้ว ใกล้ชิดกันมาก็หลายครั้ง แต่ไอ้การที่มานั่งจ้องระยะประชิดขนาดนี้ มันทำให้การหายใจทางจมูกอย่างเดียว ดูเหมือนร่างกายเธอจะได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอเสียแล้ว เธอจำเป็นต้องสูดลมหายใจเข้าทางปากเพื่อรับออกซิเจนให้มากขึ้น หัวใจเต้นรัวเร็วสะท้อนอยู่ในอก จนหูแว่วได้ยินเสียงจังหวะเต้นของหัวใจตนเอง ท้องไส้เธอพานปั่นป่วนขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุ สมองโหวงๆดวงตาพร่าเลือน ความใหญ่โตที่ตระหง่านอยู่ตรงหน้าเริ่มกลายเป็นภาพซ้อน 
“อุ๊ย! คุณภู...ทำอะไรคะ” ภูชิตไม่ตอบ เขาคลี่ยิ้มละลายใจให้เธอ มือใหญ่จับพนักเก้าอี้ตัวที่เธอนั่งอยู่หมุนให้คนตัวเล็กหันมาสบตากัน น่านน้ำเงยหน้ามองเขาอย่างไม่เข้าใจ ก็เมื่อคืนกับเมื่อเช้าจนกระทั่งถึงเมื่อครู่นี้ เขายังอยู่เฉยเมยกับตัวตนของเธออยู่นี่นา แล้วอยู่ดีๆมาทำเป็นใส่ใจเข้าใกล้ทำไม“หอมแก้มเมีย คิดถึง งานยุ่ง” คำพูดของเขาดูเหมือนจะคลี่คลายปมปริศนาในใจของเธอได้ทั้งหมด ใบหน้าหล่อเข้มก้มลงจนเกือบชิดใบหน้านวลของเธอ น่านน้ำหลับตาลงเมื่อริมฝีปากหยักครอบครองริมฝีปากบางของตัวเอง มือเล็กยกขึ้นวางทาบบนหน้าอกกว้าง ใบหน้างามแหงนเงยเพื่อรับจูบจากเขาอย่างเต็มใจ เธอยอมรับกับตัวเองว่าจูบของเขาทำให้เธอรู้สึกวาบหวามเบาหวิวราวกับล่องลอยอยู่บนปุยเมฆ“อื้มมม” เสียงทุ้มครางอย่างพอใจ เมื่อเรียวลิ้นเล็กเกี่ยวรัดกระหวัดตอบโต้ลิ้นสากของตน มือของภูชิตข้างหนึ่งยังจับอยู่บนพนักเก้าอี้เพื่อพยุงร่างใหญ่ ขณะที่อีกข้างเริ่มรุกรานกอบกุมอกอวบพอดีมืออย่างปลุกเร้า“อ๊ะ...คุณภูคะ” น่านน้ำอุทานเบาๆ เมื่อภูชิตสอดมือหายเข้าไปในสาบเสื้อที่ถูกแกะกระดุมออกตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ใบหน้าสากผละจา