Share

บทนำ ฝันร้าย 5

Auteur: LIttlelion
last update Dernière mise à jour: 2025-06-07 21:45:42

ตกดึกข้านั่งหลุบตามองท้องตัวเองด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งโกรธ เกลียด แค้น ตั้งใจจะหลีกหนีออกไปอยู่ที่อื่น พอคลอดออกมาก็จะมอบเด็กให้เป็นบุตรคนเล็กของท่านพ่อ นี่คือแผนการที่ผุดขึ้นมาในหัวก่อนหน้านี้

แต่คำกล่าวของเจี่ยเจียกลับลบล้างความคิดเห็นแก่ตัวนี้ เด็กที่เกิดมาไม่ผิด ที่ผิดคือบุรุษต่ำทรามผู้นั้น

เอาเถิด…วันนี้ยังไม่อาจทำใจได้ พลันพออุ้มท้องไปประเดี๋ยวก็เกิดความผูกพันขึ้นมาเอง ข้ากล่าวปลอบใจตนเองอยู่นานก็ถึงคราเข้านอน สูดดมกลิ่นหอมของสมุนไพรคลายความเครียดที่พ่อบ้านหมิงนำมาให้ยามเย็น และนอนหลับสนิทลงไปในที่สุด

ความมืดที่จมดิ่งและเงียบสงบ แต่มิใช่ว่าจะไม่มีพายุ เปรียบดั่งใจมนุษย์ ความกลัวที่เกิดขึ้นจากการทรมาน ความเจ็บที่เกิดขึ้นจากการไม่ยินยอม และการยัดเยียดในสิ่งที่ไม่ต้องการ เป็นสิ่งที่ส่งผลตรงกับจิตใจและความรู้สึกของคนเรา

ภายนอกที่สงบนิ่ง หากจิตใจและความรู้สึกยังจดจำ มันยังฝังรากลึกอยู่ภายใต้จิตใจของพวกเขา

ไป๋ซิงหนี่ว์เองก็เป็นเช่นนั้น ความเจ็บปวดนี้ถูกระบายออกมาจากจิตใต้สำนึกยามนางนอนหลับ ทุกค่ำคืนฝันร้ายนั้นจะวกกลับมาใหม่ ต้นขาทั้งสองสั่นระริกแนบเข้าหากัน ฝ่ามือจิกลงที่นอนเกร็งจนเห็นเส้นเลือด

ความเจ็บทางกายที่ไม่ยินยอม และทางใจที่ถูกยัดเยียด มิต้องเอ่ยถึงเลยว่าสำหรับครั้งแรกของสตรีจะโหดร้ายแค่ไหน มันปวดร้าวฉีกขาด เจ็บแสบมากเพียงใด เมื่อมิได้มีความรู้สึกร่วมด้วย ยังต้องใช้เวลาในการรักษาตัวอยู่นาน และลำบากในการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก

ความเลวร้ายทั้งหมดคือสิ่งที่จิ้นฝานทิ้งเอาไว้ให้กับนาง นางที่ไม่เคยข้องแวะกับเขา หรือยุ่งเกี่ยวกับเขาแม้แต่น้อย นางที่แทบไม่เคยสนทนาด้วย แต่ไฉนกลับเป็นที่ระบายอารมณ์ใคร่ของเขาไปได้

ณ กลางดึกนี้ ดวงหน้างามซีดเซียวทรุดโทรมตามสภาพจิตใจ นอนกระสับกระส่าย เหงื่อผุดเต็มกรอบหน้า และแผ่นหลัง เสียงคร่ำครวญที่ดังลอดออกปากริมฝีปากแห้ง คำกล่าวเว้าวอนขอความเห็นใจจากปีศาจชั่วช้าที่นางเผชิญอยู่ในฝัน ฝ่ามือใหญ่ของมันเอื้อมเข้ามาใกล้ ดวงหน้าหยิ่งทระนงกำลังยิ้มเยาะบีบแขนนางเอาไว้แน่น

ความเจ็บปวดนี้ถ้าไม่รู้สึกหรือเจอด้วยตนเอง ไม่ละเอียดลออต่อความนึกคิดหรือเห็นใจแล้วไซร้ ก็ไม่อาจเข้าใจความทุกข์ที่นางเผชิญอยู่ได้ มันถือเป็นฝันร้ายตามหลอกหลอนให้ทรมานใจ ราวกับเป็นเงาตามตัวมิมีผิด

“ข้าเจ็บ...ปล่อยข้าคุณชายจิ้น!” พรึบ! ข้าสะดุ้งกายตื่นขึ้นมากลางดึกจนกลายเป็นเรื่องปกติ นอนหายใจเข้าออกๆ ให้ใจเย็นลง แล้วยกแขนเช็ดเหงื่อที่ไหลเปียกหน้า

มันถึงคราที่ข้าจะต้องจริงจังต่อความรู้สึกตัวเองเสียที มิเช่นนั้นอาจจะส่งผลต่อเด็กในท้องได้ ถ้านอนหลับครึ่งๆ กลางๆ เช่นนี้

วันรุ่งขึ้น

ข้าตื่นแต่เช้าขึ้นมาอ้วกด้วยอาการแพ้ท้อง หาใช่เพราะอาการเครียดอย่างที่เคยคิดเอาไว้ เมื่อจัดการตัวเองเข้าที่แล้วจึงเดินไปร่วมกินมื้อเช้าที่ตัวคฤหาสน์อย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว

ข้ามองถ้วยข้าวตนเอง ใจจดใจจ่อเพื่อจะหาวิธีรักษาอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นทุกๆ คืน เพราะเวลานี้ตัวข้าหาใช่คนเดียวเหมือนเมื่อก่อน ตั้งใจว่าจะดูแลเด็กที่เกิดมาให้ดี และไม่ทำร้ายเขา ผู้บริสุทธิ์ที่เกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งวุ่นวายมันมิใช่ความผิดของเขาที่ต้องมาร่วมรับกรรมนี้

ไป๋ซิงหนี่ว์อยู่ในความคิดของตนเอง เหม่อมองถ้วยข้าว ส่วนมือก็คีบอาหารร่วงหล่นวนเวียนอยู่เช่นนั้น ทำให้ไป๋มี่อิงที่นั่งสนทนาหยอกเย้ากับเหล่าฮูหยินทั้งสองนั่นคือ เยี่ยเปาและจิวเซียนจึงเอ่ยขึ้น

“เม่ยเหม่ย…วันนี้ออกไปเที่ยวเล่นที่โรงเตี๊ยมหรือไม่ วันนี้ข้าจะพาจิวเซียนและคุณชายเยี่ยไปด้วย ถ้าไปกันหลายๆ คนคงจะสนุกสนานกันมิน้อย”

“เจี่ยเจีย…” ข้าได้สติคืนกลับ ลังเลใจอยู่ว่าจะไปดีหรือไม่ แต่เกือบหนึ่งเดือนมานี้ก็เอาแต่อยู่ในคฤหาสน์ ข้าควรจะออกไปเปิดหูเปิดตาเสียหน่อย อย่างน้อยๆ ข้าควรจะไปพบปะผู้คน ดีกว่าอุดอู้จมอยู่แต่ในความคิดของตนเอง ถึงได้กล่าวตกลงออกไป

“ไปเจ้าค่ะ”

“เยี่ยมไปเลย…” ไป๋มี่อิงกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้มกว้าง เวลารวบรัดเข้ามาทุกที ปล่อยรั้งไว้นานกว่านี้มีหวังท้องไป๋ซิงหนี่ว์คงโตขึ้นจนเห็นได้ชัดเจน นางต้องรีบจัดการให้เสร็จภายในสามเดือนนี้

เมื่อกินข้าวเช้าเสร็จข้าจึงขอตัวกลับไปผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ชุดใหม่ อืม...ว่าแต่แต่งกายเช่นไรดี ข้าเลือกหยิบอาภรณ์ที่ออกแบบเรียบง่ายสามชุด จากนั้นมินานก็มีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นพร้อมกับเสียงสาวใช้ของเจี่ยเจีย

“เสี่ยวเมิ่งเองเจ้าค่ะคุณหนูรอง คุณหนูใหญ่ส่งข้ามาเป็นบ่าวประจำตัวดูแลท่าน” เสี่ยวเมิ่งเอ่ย

“เข้ามาเลย ข้ามิได้ขัดไม้” ข้าตอบนาง

“ว่าแต่คุณหนูทำอันใดอยู่หรือเจ้าคะ” เสี่ยวเมิ่งเอ่ยถามคุณหนู

“กำลังเลือกชุดอยู่ เจ้าว่าข้าควรจะใส่สีไหนดี ระหว่างสีเหลืองกับสีฟ้า” ข้าเอ่ยถาม

“สีไหนก็เหมาะกับคุณหนูทั้งนั้นเลยเจ้าค่ะ” เสี่ยวเมิ่งปากหวานกล่าวเอาใจ

“ตอบมา ข้าต้องการให้เจ้าเลือก มิใช่มากล่าวเอาใจเช่นนี้” ข้าเอ่ยไปตามตรง

เสี่ยวเมิ่งยิ้มแห้งๆ นางลืมนึกไปเลยว่าคุณหนูใหญ่กับคุณหนูรองนั้นต่างกัน คุณหนูใหญ่อะลุ่มอล่วยอะไรก็ได้ อีกทั้งยังใจดี แต่คุณหนูรองนั่นค่อนข้างเนี้ยบเป็นพิเศษ ถ้าจะกล่าววาจาหยอกล้อเล่นด้วยจะถูกตอกกลับตรงไปตรงมาเช่นนี้

“แฮ่ม...สีเหลืองก็ดีนะเจ้าคะ ดูสดใสดี” เสี่ยวเมิ่งกระแอมคอก่อนจะกล่าวออกไป

“เอาสีเหลืองตามเจ้ากล่าว...ประเดี๋ยวมาช่วยทำผมให้ข้าด้วย” ข้ากล่าวจบก็เดินไปหลังฉากไม้กั้นฉลุลายเถาวัลย์องุ่น ผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ให้เรียบร้อย และเดินกลับมานั่งโต๊ะเครื่องแป้ง

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๕ แผนการของคนซื่อ / 2

    รอดในเมืองหลวง คอยส่งข่าวให้พวกที่หนีรอดไป นับว่าเป็นอีกหนึ่งแผนการที่อาจจะบรรลุผลได้เช่นกัน“สั่งงานเช่นนี้หมายความว่าวันพรุ่งท่านจะไม่เข้าวังหลวงหรือขอรับ” ผู้ช่วยเขาเอ่ยถามอย่างสงสัยจิ้นฝานปรายตาไปมองผู้ช่วยของเขาก่อนจะพยักหน้ารับ แล้วกล่าวออกไปเสียงเนือยๆ“เข้าไปยามบ่าย แต่ก็จัดการตามที่ข้าบอกเอาไว้ก่อน คัดคนของเราที่พอจะคล้ายพวกมันมา”ตอนเช้าเขาต้องไปดูความคืบหน้าของเรื่องโรคระบาด ที่คฤหาสน์อวี้เป็นสถานที่เอาไว้สำหรับกลุ่มคนที่เขาจัดขึ้นโดยเฉพาะ จากนั้นตอนบ่ายก็ต้องเข้าไปดูงานในวังหลวงต่อนับว่าเป็นปีที่เขาเหน็ดเหนื่อยเอาการ แต่ดีหน่อยพอกลับเรือนซือซือ ความเหนื่อยล้าทั้งหมดก็ได้หายไปหมดสิ้น ที่นั่นคล้ายกับยาชูกำลังอย่างไรอย่างนั้น“ได้เลยขอรับ” ผู้ช่วยเขากล่าว และเข้าไปจัดการงานเบื้องหน้าต่อ ต้องเก็บกวาดสถานที่นี้ให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม ทำเหมือนว่าก่อนหน้านี้ไม่มีการต่อสู้เกิดขึ้นจิ้นฝานมองรถม้าที่เขานั่งมาตอนเย็น สภาพดูไม่จืด ล้อหลุดออกหนึ่งข้าง ด้านข้างมีรอยดาบฟันเข้าไปลึกอยู่มาก ไม่อยากนึกเลยว่าถ้าเขาไม่เอะใจขึ้นมาก่อน ยามนี้ไม่เป็นเขาก็เป็นคุณหนูรองที่ได้รับบาดเจ็บแทน ดีที่

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๕ แผนการของคนซื่อ / 1

    ๑๕แผนการของคนซื่อม้าสีดำตัวใหญ่ก้าวเดินเป็นจังหวะไม่ช้า และไม่เร็วเกินไป เดินผ่านม่านหมอกเย็นๆ ไปตามเส้นทางของถนนที่ทอดยาว สายลมที่พัดทำให้หมอกลอยคลุ้งกระจาย คนทั้งสองไม่อาจคาดเดาว่าเป็นหมอกที่เกิดจากอะไรอาจจะเกิดจากอากาศที่เย็นลง หรือไอร้อนระเหยของพื้นถนน มันอาจจะลอยมาจากการเผาฝืนแก้หนาวของชาวบ้านก็ได้ คนทั้งสองจมูกเย็นเกินกว่าจะได้กลิ่นควันเหล่านี้ อากาศเย็นๆ หมอกขาวๆ นั่งกอดกันบนหลังม้าคงจะอุ่นกายอุ่นใจไม่น้อยช่วงเวลาแห่งการสร้างสายใยความสัมพันธ์นี้ที่ได้ถักทอขึ้นมาอย่างเงียบๆ ได้เดินทางมาถึงหน้าจวนตระกูลจิ้นจิ้นฝานลงจากหลังม้า และไม่ลืมที่จะยื่นแขนขึ้นไปรับฮูหยินของเขาลงมาด้านล่าง จัดแจงจับเสื้อคลุมที่บิดเบี้ยวไปด้านข้างของนางให้เข้าที่เรียบร้อย“จมูกไม่หายแดงเสียที” เขากล่าวบ่นขึ้น หลุบตามองปลายจมูกของนาง “ก็อากาศมันหนาวนี่เจ้าคะ” ข้าเบี่ยงตาไปมองทางอื่น บอกตามตรงทำตัวไม่ถูกจริงๆ ก่อนหน้านี้ก็พึ่งถูกขโมยจูบ ตลอดทางพวกเราทั้งสองก็นั่งเงียบมาตลอดไม่มีการสนทนาใดๆ หลังจากเหตุการณ์นั้นอีกทั้งข้ายังใจง่ายยอมให้เขากอดเช่นนั้นโดยไม่บ่น โดยไม่ว่าเลยสักคำเดียว น่าโมโหตัวข้าเองยิ่งนั

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๔ นํ้าผึ้งพระจันทร์ / 13

    “มีอันใดรึเจ้าคะ”“มี ลองแหงนหน้าขึ้นไปมองด้านบน” จิ้นฝามก้มหน้าลงตอบนาง“แหงนหน้าหรือ” ข้าเอ่ย แล้วทำตามที่เขาบอกมองภาพด้านบนนี้ มีริ้วสีขาวพร่างพราวลงมา ท่ามกลางพระจันทร์สีนวล นับว่าแปลกนัก วันใดที่หิมะตกไม่มีทางที่จะมองเห็นพระจันทร์ได้ มันช่างน่าอัศจรรย์มากยิ่งเงาดำเริ่มคืบคลานบดบังสายตาของข้า แทนที่ด้วยใบหน้าคุณชายจิ้น ไออุ่นสีขาวที่พ่นออกมาทางจมูก รดลงมาที่หน้าของข้า ความรู้สึกนี้เหมือนทุกสิ่งหยุดนิ่ง มีเพียงแค่พวกเราทั้งสองคนเท่านั้น ที่ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของกันและกันเมื่อหายใจเข้ารอบที่สามในขณะที่เราทั้งสองสบตากันนั้น ริมฝีปากของเขาก็ประทับลงมาอย่างนุ่มนวล และแผ่วเบามันรู้สึกอุ่นๆ ร้อนๆ ตรงริมฝีปากข้าเอง หนวดที่ขึ้นตอสีเขียวถูลงที่คาง และมือของเขาประคองที่หัวข้าเอาไว้เป็นการจูบที่แตะลงมาเท่านั้น และนิ่งค้าง พอๆ กับความรู้สึกที่ตกใจ และตกตะลึงกับสัมผัสนี้จิ้นฝานวางปากประทับลงอยู่นานหนึ่งอึดใจ แล้วดึงหน้ากลับมาเลียริมฝีปากด้วยเอง พลางขมวดคิ้วเข้าอย่างสงสัย“ทำไมปากท่านถึงหวาน”“ข้า... ข้าดื่มข้าวหมักนํ้าผึ้งมา” ข้าตอบพลางหายใจหอบ แต่ทว่ามือของคุณชายจิ้นยังประคองเอาไว้ที

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๔ นํ้าผึ้งพระจันทร์ / 12

    อี๋เสี่ยวควนคั่วได้ยินล่ามแปลประโยคที่จิ้นฝานกล่าวก็ยิ่งขบขันเข้าไปใหญ่ แบบนี้ในเผ่าของเขาเรียกว่ากลัวภรรยา แต่ถ้าเสนาบดีจิ้นเอ่ยออกมาเช่นนี้เขาก็จะเชื่อว่าแค่เกรงใจนางเท่านั้นเมื่อคิดเช่นนั้นก็หันไปมองโต้วตู่จื่อที่นั่งอยู่ เห็นตัวเล็กบอบบางคงจะร้ายไม่น้อยตอนอยู่ที่บ้าน ถึงกับทำให้บุรุษที่ขึ้นชื่อเป็นพยัคฆ์คู่ฝ่ายขวาของแคว้นซิ่นหมอบลงได้งานเลี้ยงดำเนินไปจนจบลง จิ้นฝานสั่งการลูกน้องตัวเองสองสามประโยค จากนั้นถึงจะเดินไปรับฮูหยินน้อยที่ยืนรํ่าลาเหล่าฮูหยินทั้งสามคน ก่อนจะหมุนกายกลับมาหาเขาสีหน้าของนางเรียบเฉยไม่มีรอยยิ้มใดๆ ปรากฏให้เห็นมีเพียงคิ้วได้รูปที่กดตํ่าลงเหมือนไม่ชอบใจอะไรในตัวเขาขณะนี้“ฮูหยินน้อยมานี่มา” จิ้นฝานเอ่ยเรียกนาง ยื่นมือออกไปด้านหน้ารอให้นางจับ“…….” ข้ามองหน้าคุณชายจิ้น เหตุใดต้องให้สาวงามใช้ซาลาเปาคู่มานั่งถูไถได้หน้าตาเฉย เขามียางอายบ้างหรือไม่!ดูท่าโต้วตู่จื่อนี้จะดื้อเอาเรื่อง จิ้นฝานมองไป๋ซิงหนี่ว์อย่างอ่อนใจ และเดินเข้าไปใกล้ก้มหน้าลงกล่าวเสียงแผ่ว“ขากลับจะควบม้ากลับกัน แต่ว่าข้าขอเสื้อคลุมของท่านได้หรือไม่ เอาไว้จะหาซื้อตัวใหม่มาคืนให้”“ข้าไม่เข้าใจ..

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๔ นํ้าผึ้งพระจันทร์ / 11

    “นํ้าข้าวหมักนํ้าผึ้งนี้ ได้ยินขันทีกล่าวว่าเผ่าอิงคาขนมา” ฮูหยินหลันกล่าว พลางยกขึ้นจิบรสชาติหวานปลายลิ้นของมันในแก้ว“รสชาติเป็นเช่นไรบ้างฮูหยินหลัน” ฮูหยินที่นั่งด้านทางขวาเอ่ยถาม“รสชาติดี กินง่ายเจ้าค่ะ” ฮูหยินหลันเอ่ยตอบ“นํ้าข้าวหมักนี้กินแล้วเมาหรือไม่” ถึงตาข้าเอ่ยถามบ้าง อยากจะลองกิน แต่กลัวจะเมาเหมือนครั้งที่แล้ว“ไม่เมาเจ้าค่ะ” ฮูหยินหลันหันไปตอบอย่างมั่นใจข้ามองสีหน้าของฮูหยินหลันอย่างชั่งใจอยู่มาก อะไรหมักๆ ไม่อยากกินเข้าปากเลย แต่กลิ่นมันหอมข้าวอ่อนๆ จะไม่ลองก็กระไรอยู่ ประเดี๋ยวจะเสียเที่ยวเอาได้ มิใช่ว่าจะหาดื่มของแปลกต่างถิ่นได้เช่นนี้ ว่าแล้วก็ค่อยๆ จิบตามที่คุณชายจิ้นบอกเอาไว้ละกันเสียงกลองแผ่วลง พวกนางรำของเผ่าอิงคาก็เข้าไปนั่งลงตามโต๊ะขุนนาง และบุรุษในงานเลี้ยง ข้ามองตามสะโพกงอนงาม ตามจังหวะการก้าวเท้าเดินไปด้วยของพวกนางแต่คิดไม่ถึงว่าจะมีสาวงามหนึ่งในนั้นดวงหน้าคมเข้ม เดินเข้าไปนั่งลงด้านข้างคุณชายจิ้นจากนั้นนางก็เอื้อมมือไปหยิบจอกสุราขนาดใหญ่รินลงไปให้เขา แล้วยื่นขึ้นไปป้อนถึงปาก ข้าหรี่ตาลงมองให้ชัดเจน อยากรู้ว่าเขาจะทำอย่างไรต่อจิ้นฝานหลุบตาลงมองจอกสุราส

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๔ นํ้าผึ้งพระจันทร์ / 10

    “ฟางซายจือ เหลียงเหลง หวู่ต้าตั๋ว ดานตรง ซีจงจึ่ย ฮ่างซี” อี๋เสี่ยวควนคั่วตอบออกไป พร้อมกับชูจอกสุราสีทองให้จิ้นฝาน“ท่านอี๋เสี่ยวกล่าวว่า ดีมาก แต่ขาดการระบำ และสาวงาม แต่สุรานี้อร่อยถูกปากเขานัก” ล่ามภาษาได้แปลออกมาให้ท่านเสนาบดีจิ้นฟัง“บอกเขาว่าไม่นานเกินรอ” จิ้นฝานเอ่ยขึ้นต่อ“จางไจ่ บู่ลู่” ล่ามหันไปแปลให้อี๋เสี่ยวควนคั่วฟังอย่างรวดเร็วอี๋เสี่ยวควนคั่วที่ได้ยินก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ตบหน้าตักตัวเองไปหนึ่งที แล้วกล่าวออกมาเป็นภาษาถิ่นของแผ่นดินหยวนโปวที่เขาพอจะรู้มาบ้าง แต่ก็ไม่เก่งจนสนทนากันได้อย่างเข้าใจ และฉะฉาน“เยี่ยม เยี่ยม!”จิ้นฝานพยักหน้ารับอี๋เสี่ยวควนคั่ว หันไปมองกลุ่มคนพิเศษ ที่เขาจัดขึ้นมาเพื่อหาวิธียุติโรคระบาดชายแดน หนึ่งในนั้นก็มีเจิ้งหรินอี้ด้วยเช่นกัน กำลังจับกลุ่มคุยกันอยู่อีกมุมหนึ่ง จากนั้นก็กวาดตามองฮูหยินน้อยของเขาว่ายามนี้นางอยู่ที่ไหนเขามองเห็นสาวงามเด่นสะดุดตา เพราะเสื้อคลุมขนสัตว์สีขาวที่ฟูฟ่อง กำลังยืนสนทนากับสตรีนางอื่นอีกสี่คน แล้วยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะน้อยๆ ออกมา“ยินดีด้วยนะเจ้าค่ะ ที่ได้เป็นฮูหยินขั้นหนึ่งแล้ว งานเลี้ยงในวังหลวงครั้งที่แล้วข้า

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status