ตอนที่ 70 การเผชิญหน้ากับความจริง

---

ตอนที่ 70 การเผชิญหน้ากับความจริง

ความลับที่ถูกเก็บงำมานานหลายทศวรรษกำลังจะถูกเปิดเผย ในที่สุด อเล็กซานเดอร์ ก็รวบรวมข้อมูลได้มากพอที่จะเผชิญหน้ากับ คริสเตียน และ แพรไหม ผู้เป็นพ่อและแม่ การสนทนาครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการคลี่คลายปมในอดีต แต่ยังเป็นบททดสอบความผูกพันของครอบครัวคาร์ดินัล และความเชื่อมั่นในกันและกัน

ในคืนวันหนึ่ง อเล็กซานเดอร์กลับมายังคฤหาสน์คาร์ดินัล เขาสังเกตเห็นรถของ ลลิล จอดอยู่ด้วย แสดงว่าเธอกำลังรอเขาอยู่ แต่ก่อนที่จะไปหาเธอ อเล็กซานเดอร์ตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับพ่อแม่ก่อน เขาเรียกทั้งคริสเตียนและแพรไหมมายังห้องรับแขกส่วนตัว บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความตึงเครียด แสงไฟสลัวๆ ส่องกระทบใบหน้าของทั้งสามคนที่เต็มไปด้วยความกังวล

“พ่อครับ แม่ครับ ผมมีเรื่องอยากจะคุยด้วยครับ” อเล็กซานเดอร์เริ่มต้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาไม่ได้ใช้คำเรียกเล่นๆ หรือน้ำเสียงสบายๆ เหมือนที่เคยทำ

คริสเตียนและแพรไหมมองหน้ากัน พวกเขารู้ดีว่าวันนี้จะต้องมาถึง และเตรียมใจมาระดับหนึ่งแล้ว

อเล็กซานเดอร์วางแฟ้มเอกสารเก่าสีน้ำตาลที่เขาค้นพบลงบนโต๊ะกลางเบื้องหน้าพวกเขา แฟ้มที่เต็มไปด้วยหลักฐานและภาพถ่ายที่เขาได้รวบรวมมา

“ผมเจอแฟ้มนี้ครับ” อเล็กซานเดอร์กล่าว “เอกสารเกี่ยวกับโครงการที่ดินทางใต้เมื่อสามสิบปีก่อน”

คริสเตียนนิ่งไปทันที ใบหน้าของเขาซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด แพรไหมเอามือกุมหน้าอกแน่น ดวงตาของเธอแดงก่ำทันทีที่เห็นแฟ้มนั้น

“ผมสืบค้นมาทั้งหมดแล้วครับพ่อ” อเล็กซานเดอร์กล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวด “เรื่องการเวนคืนที่ไม่เป็นธรรม การใช้กำลัง การที่ชาวบ้านต้องเสียที่ดินโดยไม่ได้รับค่าชดเชยที่เหมาะสม…”

เขาเว้นจังหวะไปชั่วครู่ ดวงตาคู่คมจ้องมองไปที่คริสเตียนและแพรไหมอย่างจริงจัง

“ทำไมพ่อกับแม่ถึงไม่เคยบอกเรื่องนี้กับผมครับ” คำถามนั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง “ทำไมต้องปิดบังความจริงที่มืดมิดขนาดนี้เอาไว้”

คริสเตียนถอนหายใจยาวๆ อย่างหนักอึ้ง เขารู้ว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องเปิดเผยความจริงทั้งหมด เขาหันไปมองแพรไหม ซึ่งพยักหน้าให้กำลังใจเขา

“อเล็กซานเดอร์… ลูกสมควรที่จะรู้ความจริง” คริสเตียนเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง แต่เต็มไปด้วยความหนักใจ “เรื่องนี้มันซับซ้อนกว่าที่ลูกคิด”

คริสเตียนเริ่มเล่าเรื่องราวในอดีตอย่างละเอียด เขาเล่าถึงช่วงเวลาที่ตระกูลคาร์ดินัลยังอยู่ในยุคของธุรกิจสีเทา การต้องแก่งแย่งชิงดีกับกลุ่มอิทธิพลมืดต่างๆ เพื่อความอยู่รอดในเวลานั้น

เขาเล่าถึงโครงการพัฒนาที่ดินทางใต้ ซึ่งเดิมทีเป็นวิสัยทัศน์ของ อาของคริสเตียน ซึ่งเป็นผู้บริหารในยุคนั้น โดยมีตระกูลที่มีอิทธิพลมืดตระกูลหนึ่งเป็นผู้ดำเนินการเบื้องหลัง ซึ่งเป็นตระกูลที่พยายามแทรกแซงธุรกิจของคาร์ดินัลมาโดยตลอด

“ในตอนนั้น… คาร์ดินัลยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะปฏิเสธพวกเขาได้” คริสเตียนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “พวกเขาใช้ชื่อของคาร์ดินัลเป็นเครื่องบังหน้า เพื่อดำเนินการที่ไม่ชอบมาพากล”

เขาเล่าถึงการที่เขารับรู้ถึงความไม่ถูกต้อง และพยายามต่อต้าน แต่ด้วยอำนาจและอิทธิพลที่ยังไม่เพียงพอ ทำให้เขาไม่สามารถหยุดยั้งสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด

“พ่อเสียใจนะลูก” คริสเตียนกล่าวพร้อมกับมองหน้าลูกชาย “พ่อไม่สามารถปกป้องชาวบ้านเหล่านั้นได้ทั้งหมดในตอนนั้น”

แต่หลังจากที่คริสเตียนขึ้นมาเป็นผู้นำของตระกูลคาร์ดินัลอย่างเต็มตัว เขาก็ได้ใช้ทุกวิถีทางเพื่อแก้ไขความผิดพลาดในอดีตอย่างเงียบๆ เขาตามสืบหาข้อมูลผู้เสียหาย พยายามเยียวยาด้วยการส่งเงินช่วยเหลือ และใช้ช่องทางลับในการคืนที่ดินบางส่วนให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงการเปลี่ยนทิศทางของธุรกิจคาร์ดินัลให้ขาวสะอาดและโปร่งใสมากขึ้น

“พ่อพยายามแก้ไขทุกอย่างแล้วลูก” คริสเตียนกล่าว “แต่พ่อเลือกที่จะปิดบังเรื่องนี้จากลูก เพราะพ่อไม่อยากให้ลูกต้องมาแบกรับภาระที่หนักอึ้งนี้ พ่ออยากให้ลูกสร้างอนาคตที่สดใส ไม่ต้องมาจมปลักอยู่กับความมืดมิดในอดีต”

แพรไหม ซึ่งนั่งฟังมาตลอด ก็เอื้อมมือไปกุมมือคริสเตียนแน่น น้ำตาของเธอไหลอาบแก้ม

“แม่ก็เห็นด้วยกับพ่อค่ะลูก” แพรไหมเอ่ยขึ้นเสียงสั่น “แม่เองก็เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และแม่ก็พยายามที่จะลืมมันไป เพื่อที่เราจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับลูกได้อย่างบริสุทธิ์ใจ”

เธอเล่าถึงความเจ็บปวดที่เธอเคยแบกรับในช่วงที่คริสเตียนต้องต่อสู้กับอิทธิพลมืด และพยายามแก้ไขอดีตเพียงลำพัง “แม่ไม่อยากให้ลูกต้องมาเจอความเจ็บปวดแบบนั้น”

“แม่รักลูกที่สุดอเล็กซานเดอร์ แม่กับพ่อทำทุกอย่างเพื่อลูก เพื่อปกป้องลูกจากเรื่องราวที่เลวร้ายเหล่านั้น” แพรไหมกล่าว น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความรักอันบริสุทธิ์ของแม่

อเล็กซานเดอร์ฟังเรื่องราวทั้งหมดด้วยความรู้สึกที่ปนเปกันไปหมด มีทั้งความโกรธ ความผิดหวังในสิ่งที่เคยเกิดขึ้น และความเจ็บปวดที่พ่อแม่ต้องแบกรับความลับนี้มาตลอดชีวิต

เขาเข้าใจในเหตุผลที่พ่อแม่เลือกที่จะปิดบัง เพราะต้องการปกป้องเขา แต่เขาก็อดคิดไม่ได้ว่าการที่เขาต้องมารับรู้ความจริงทั้งหมดในวันนี้ มันก็เป็นสิ่งที่ยากลำบากไม่แพ้กัน

เมื่อมองเห็นน้ำตาของแพรไหม และแววตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวังของคริสเตียน อเล็กซานเดอร์ก็สัมผัสได้ถึงความรักที่ยิ่งใหญ่ที่พ่อแม่มีให้เขา และความเสียสละที่พวกเขาทำเพื่อเขามาตลอด

“ผมเข้าใจแล้วครับพ่อ แม่” อเล็กซานเดอร์กล่าวเสียงเบา “ผมไม่ได้โกรธพ่อกับแม่นะครับ ผมแค่… เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น”

เขาลุกขึ้นเดินเข้าไปสวมกอดคริสเตียนและแพรไหมแน่น เป็นอ้อมกอดที่เต็มไปด้วยความรัก ความเข้าใจ และการให้อภัย

“เราจะแก้ไขมันด้วยกันครับ” อเล็กซานเดอร์กล่าว “เราจะแก้ไขความผิดพลาดในอดีต และสร้างอนาคตที่โปร่งใสให้กับคาร์ดินัล”

ในขณะที่ทั้งสามคนกำลังปลดปล่อยความรู้สึกกันอยู่นั้น เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น เดฟ เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับใบหน้าเคร่งเครียด

“นายท่านครับ มีแขกมาขอพบครับ” เดฟกล่าว

อเล็กซานเดอร์พยักหน้าอนุญาต ชายหญิงคู่หนึ่งที่ดูมีอายุ และมีสีหน้าเศร้าสร้อย ก้าวเข้ามาในห้อง พร้อมกับชายหนุ่มอีกคนหนึ่งที่ดูจะเป็นลูกชายของพวกเขา

“ผมขอแนะนำครับ นายท่าน นี่คือ คุณธนา และ คุณรุ่งทิวา พร้อมด้วย คุณภาณุ ลูกชายของพวกเขา” เดฟแนะนำด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “พวกเขาคือ… ผู้ที่เคยได้รับผลกระทบจากโครงการที่ดินทางใต้เมื่อสามสิบปีก่อนครับ”

คริสเตียนและแพรไหมมองหน้ากันด้วยความตกใจ พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะมีผู้เสียหายมาปรากฏตัวในเวลานี้ ยิ่งไปกว่านั้น คุณธนาและคุณรุ่งทิวาก็จำคริสเตียนได้ทันที ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งความโกรธ ความเจ็บปวด และความประหลาดใจ

อเล็กซานเดอร์เองก็ประหลาดใจกับการปรากฏตัวของพวกเขา แต่เขาก็รวบรวมสติได้อย่างรวดเร็ว เขาเหลือบมองเดฟ ซึ่งส่งสัญญาณเล็กน้อยว่าเขาเป็นคนจัดแจงให้ทั้งหมด เพื่อให้อเล็กซานเดอร์ได้เผชิญหน้ากับความจริงอย่างสมบูรณ์

“สวัสดีครับคุณธนา คุณรุ่งทิวา คุณภาณุ” อเล็กซานเดอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สุภาพและจริงใจ “ผม อเล็กซานเดอร์ คาร์ดินัล ผมเพิ่งได้รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต และผมเสียใจกับสิ่งที่ตระกูลของผมเคยทำลงไป”

ฉากนี้เป็นการเปิดเผยความจริงที่สมบูรณ์แบบ ทั้งความจริงจากภายในครอบครัว และความจริงที่มาจากผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง อเล็กซานเดอร์รู้แล้วว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียวในการเผชิญหน้ากับอดีตนี้ และนี่คือจุดเริ่มต้นของการแก้ไขทุกสิ่งอย่างแท้จริง