ตอนที่ 69 ความกังวลที่ถูกซ่อนของพ่อแม่

---

ตอนที่ 69 ความกังวลที่ถูกซ่อนของพ่อแม่

ขณะที่ อเล็กซานเดอร์ ดำดิ่งลงสู่ความมืดมิดของอดีตตระกูล คริสเตียน และ แพรไหม ผู้เป็นพ่อและแม่ ก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติในตัวลูกชาย สัญชาตญาณของคนเป็นพ่อเป็นแม่บอกพวกเขาว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล และสิ่งที่พวกเขากลัวที่สุดกำลังจะหวนกลับมา นั่นคือ เงาจากอดีต ที่พวกเขาพยายามปกปิดมาตลอดชีวิต เพื่อปกป้องลูกชายเพียงคนเดียว

ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา คริสเตียน และ แพรไหม สังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในตัว อเล็กซานเดอร์ อย่างชัดเจน เขาดูเคร่งเครียดมากขึ้น เก็บตัวมากขึ้น และมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในห้องทำงานส่วนตัว หรือในหอจดหมายเหตุของคาร์ดินัล ใบหน้าของเขาดูอ่อนล้าและมักจะเหม่อลอยอยู่บ่อยครั้ง

“อเล็กซานเดอร์พักผ่อนน้อยเกินไปหรือเปล่าคะคุณ” แพรไหมเอ่ยถามคริสเตียนด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงในคืนหนึ่งขณะที่พวกเขากำลังทานอาหารเย็นกัน “ช่วงนี้เขาดูเหนื่อยๆ นะ”

คริสเตียนพยักหน้า สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลเช่นกัน “ผมก็รู้สึกอย่างนั้นครับแพรไหม เขามีอะไรในใจแน่ๆ”

พวกเขาพยายามสอบถามลูกชายหลายครั้ง แต่อเล็กซานเดอร์ก็มักจะตอบเลี่ยงๆ ว่าเป็นเรื่องงาน หรือเรื่องโปรเจกต์ใหม่ที่ต้องใช้ความคิดมาก ทำให้พ่อแม่ไม่อาจซักไซ้ได้มากไปกว่านี้

“เขาก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะแม่” คริสเตียนปลอบแพรไหม “บางเรื่องเขาก็คงอยากจัดการด้วยตัวเอง”

แต่ลึกๆ ในใจของคริสเตียน เขากลับมีความรู้สึกบางอย่างที่ผุดขึ้นมา เป็นความรู้สึกที่เขาเคยสัมผัสมาแล้วเมื่อหลายสิบปีก่อน ความรู้สึกของการถูกคุกคามจากเงาที่ไม่อาจจับต้องได้ เขาอดคิดไม่ได้ว่า เรื่องราวในอดีต ที่เขาพยายามฝังกลบมาตลอด กำลังจะถูกขุดคุ้ยขึ้นมาอีกครั้ง

สำหรับ แพรไหม สัญชาตญาณความเป็นแม่ของเธอบอกว่าเรื่องที่อเล็กซานเดอร์กำลังเผชิญนั้นไม่ใช่แค่เรื่องงานทั่วไป เธอรู้จักลูกชายดีกว่าใคร และรู้ว่าเวลาที่เขาเก็บซ่อนความรู้สึก มันมักจะเป็นเรื่องที่สำคัญและละเอียดอ่อนมาก

แพรไหมแอบสังเกตพฤติกรรมของอเล็กซานเดอร์อย่างเงียบๆ เธอเห็นเขาใช้เวลากับ เดฟ บ่อยขึ้นอย่างผิดสังเกต และมีการพูดคุยกันอย่างเคร่งเครียดในบางครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ปกติแล้วเดฟจะไม่ทำหากไม่ใช่เรื่องที่สำคัญจริงๆ และเธอก็ยังเห็นอเล็กซานเดอร์นำแฟ้มเอกสารเก่าๆ กลับขึ้นมาอ่านในห้องทำงานส่วนตัวบ่อยครั้ง

คืนหนึ่ง แพรไหมเดินผ่านห้องทำงานของอเล็กซานเดอร์ที่เปิดแง้มไว้ เธอเห็นเขานั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน แสงไฟสลัวๆ ส่องกระทบกองเอกสารที่ดูเก่าแก่ และมีรูปภาพบางอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะ แพรไหมพยายามไม่รบกวน แต่สายตาของเธอก็พลันเหลือบไปเห็น ชื่อบุคคล ที่ปรากฏอยู่ในเอกสารบางชุด ชื่อนั้นทำให้หัวใจของเธอเต้นระรัวอย่างรุนแรง

นั่นคือชื่อของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ เหตุการณ์ในอดีต ที่คริสเตียนเคยพยายามจัดการและปกปิดไว้เมื่อหลายสิบปีก่อน เหตุการณ์ที่ทำให้ตระกูลคาร์ดินัลต้องแปดเปื้อน และเป็นความเจ็บปวดที่แพรไหมพยายามลืมเลือนมาตลอด

แพรไหมรู้สึกเหมือนถูกกระแสไฟฟ้าช็อตไปทั้งตัว ความกังวลที่ถูกซ่อนไว้ในใจมานานนับสิบปี พลันปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรง เธอรู้แล้วว่าอเล็กซานเดอร์กำลังขุดคุ้ยเรื่องอะไรอยู่ และความกลัวที่ว่าลูกชายจะต้องมาเผชิญหน้ากับความมืดมิดของอดีตตระกูลก็เข้าครอบงำจิตใจเธอ

แพรไหมเดินกลับไปหาคริสเตียนในห้องนั่งเล่น สีหน้าของเธอซีดเผือดจนคริสเตียนสังเกตเห็นได้ทันที

“แพรไหม คุณเป็นอะไรไป” คริสเตียนถามด้วยความตกใจ

“อเล็กซานเดอร์… เขากำลังสืบค้นเรื่องนั้นค่ะคุณ” แพรไหมพูดเสียงสั่น น้ำตาคลอเบ้า “เรื่องที่ดินทางใต้… เรื่องในอดีตของเรา”

คริสเตียนนิ่งไปทันที ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาจ้องมองภรรยาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความกังวลและความเสียใจ

“เขารู้ได้ยังไง” คริสเตียนพึมพำ “ผมคิดว่าผมเก็บมันไว้ดีที่สุดแล้วนะ”

“ไม่ว่าจะเก็บดีแค่ไหน สักวันมันก็ต้องถูกเปิดเผยค่ะคุณ” แพรไหมกล่าวด้วยความเจ็บปวด “ฉันกลัว… กลัวว่าเขาจะรับไม่ได้ กลัวว่าอดีตที่สกปรกจะมาทำลายชีวิตที่บริสุทธิ์ของลูกเรา”

คริสเตียนดึงแพรไหมเข้ามากอดแน่น เขารู้ดีว่าความกังวลของภรรยาไม่ได้เกินจริง เพราะเขาเองก็แบกรับความลับนี้มาตลอดชีวิต และเคยพยายามทำทุกอย่างเพื่อปกป้องอเล็กซานเดอร์จากเงาของอดีตนั้น

“เราต้องคุยกับเขาครับแพรไหม” คริสเตียนกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ก่อนที่เขาจะไปรู้ความจริงจากคนอื่น หรือตีความผิดไปเอง”

ในอีกมุมหนึ่ง ลลิล ที่ใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดมิเนียมของอเล็กซานเดอร์ ก็รับรู้ได้ถึงความเครียดที่แผ่ออกมาจากตัวเขา แม้เขาจะพยายามทำตัวให้ปกติ แต่เธอสัมผัสได้ว่าเขาปิดบังบางอย่างไว้

เธอเห็นเขาคุยโทรศัพท์กับเดฟบ่อยขึ้น และมักจะใช้เวลานานในห้องทำงาน แม้เธอจะถามด้วยความเป็นห่วง เขาก็ยังคงตอบเลี่ยงๆ ทำให้ลลิลรู้สึกน้อยใจเล็กน้อย ความรู้สึกที่เคยคิดว่าพวกเขาจะไม่มีความลับต่อกันกำลังถูกทดสอบ

“คุณอเล็กซ์ มีอะไรในใจหรือเปล่าคะ” ลลิลถามเขาในคืนหนึ่งขณะที่นอนซบอยู่บนอกของเขา มือเรียวของเธอลูบไล้แผงอกแกร่งของเขาเบาๆ

อเล็กซานเดอร์หลับตาลง เขาอยากจะระบายทุกอย่างให้เธอฟังเหลือเกิน แต่อีกใจหนึ่งก็กลัวว่าความจริงอันมืดมิดของตระกูลจะทำให้เธอตกใจ และอาจจะมองเขาหรือครอบครัวของเขาเปลี่ยนไป

“ไม่มีอะไรครับคุณ แค่เรื่องงานที่มันซับซ้อนนิดหน่อย” เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้เป็นปกติที่สุด

ลลิลรู้ว่าเขาโกหก แต่เธอก็เลือกที่จะไม่กดดัน เธอเชื่อมั่นในความรักของเขา และหวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะเปิดใจกับเธอทั้งหมด เธอทำได้เพียงแค่กอดเขาแน่นขึ้น และส่งผ่านความรักและความห่วงใยให้เขาอย่างเงียบๆ

ในใจของอเล็กซานเดอร์ เขารู้สึกผิดที่ต้องปิดบังลลิล แต่เขาก็ยังคงลังเลที่จะเปิดเผยความจริงทั้งหมด เพราะเขายังคงสืบค้นอยู่ และยังไม่รู้ว่าความจริงทั้งหมดนั้นจะนำไปสู่ผลลัพธ์แบบไหน เขาต้องการที่จะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดให้ถ่องแท้ก่อนที่จะนำมาบอกกับคนที่เขารักที่สุด

คริสเตียนและแพรไหมตัดสินใจว่าถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับอเล็กซานเดอร์ และเปิดเผยความจริงทั้งหมดที่พวกเขาเคยปิดบังไว้ เพื่อให้ลูกชายเข้าใจถึงที่มาที่ไป และเพื่อปกป้องเขาจากผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

แต่ก่อนที่จะถึงวันนั้น ความกังวลและความเครียดก็กัดกินจิตใจของทั้งสามคน อเล็กซานเดอร์กับความจริงที่เขากำลังค้นพบ คริสเตียนและแพรไหมกับความลับที่พวกเขาพยายามปกปิดมาตลอดชีวิต และลลิลกับความรู้สึกที่ว่าคนรักกำลังปิดบังอะไรบางอย่างจากเธอ

ปมในอดีตกำลังจะถูกคลี่คลาย และมันจะส่งผลกระทบต่อทุกคนในตระกูลคาร์ดินัลอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ อเล็กซานเดอร์ คาร์ดินัล กำลังจะถูกทดสอบอย่างแท้จริง ทั้งในฐานะผู้นำของตระกูล และในฐานะคนที่ต้องรับผิดชอบต่ออดีตเพื่อสร้างอนาคตที่สะอาดและมั่นคงให้กับคนที่เขารักที่สุด