Share

บทที่ 3

Auteur: มู่โร่ว
จ้านเฉิงอิ้นยัดกล่องข้าวใส่อกพวกเขา “เดี๋ยวท่านเทพก็ประทานอาหารให้ข้าอีกนั่นแหละ พวกเจ้ารับไว้เถอะ”

นายทหารทั้งสิบคนมองหน้ากัน อยากบ่ายเบี่ยง แต่แล้วก็นึกถึงคนในครอบครัวที่หิวโหยจนเหลือเพียงลมหายใจรวยริน

รู้สึกว่าในอกหนักอึ้งนับพันชั่ง!

อู๋ซานหลางที่ในครอบครัวมีลูกชายอายุยังน้อยใกล้จะหิวตายรับมาคนแรก

เขาคุกเข่าลงข้างหนึ่ง เอ่ยทั้งน้ำตาคลอหน่วย “ขอบคุณท่านแม่ทัพ ข้าสามารถเอากลับไปส่งที่บ้านก่อนได้หรือไม่ ภรรยากับลูกข้าหิวจนใกล้จะไม่ไหวแล้ว”

จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “รีบเอาไปส่งเถอะ!”

อู๋ซานหลางกอดกล่องข้าววิ่งกลับบ้านไปก่อน

นายทหารอีกเก้านายซ่อนกล่องข้าวไว้ในอก นำอาหารกลับไปส่งที่บ้าน

จ้านเฉิงอิ้นกำชับให้พวกเขากลับมาเร็วหน่อย จะได้มากินโจ๊กด้วยกัน

อย่าดูแคลนข้าวกับอาหารหนึ่งกล่องเชียว ถ้านำไปต้มเป็นโจ๊ก คนทั้งครอบครัวรับประทานอย่างประหยัดก็สามารถเก็บไว้กินได้สองวัน ช่วยให้ไม่อดตายในช่วงหลายวันนี้

หากผสมใบไม้เปลือกไม้ลงไปยังสามารถเก็บไว้ได้นานกว่านั้น

ช่วงเวลาหนึ่งก้านธูปผ่านไป นายทหารทั้งสิบก็กลับมา แต่ละคนมีสีหน้าเคร่งเครียด ขอบตาแดงเรื่อ

หลังนั่งลง อาหลี่ก็ยกหม้อโจ๊กเข้ามา

ข้าวครึ่งกล่องนำไปต้มเป็นโจ๊ก ยังมีกับข้าวอีกครึ่งกล่อง

โจ๊กไม่ข้นและไม่ใสเกิน กำลังพอดี

เมื่อรวมกับกับข้าว กลิ่นหอมก็พลันอบอวล

อาหลี่หยิบถ้วยใบเล็กสิบเอ็ดใบออกมาตักแจกจ่ายให้คนละใบ วางลงตรงหน้าเหล่านายทหาร

จ้านเฉิงอิ้นเห็นอย่างนั้นก็กล่าวกับเขาว่า “อาหลี่ กินด้วยกันเถอะ! ท่านไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว”

อาหลี่กินดินขาว ยามนี้ท้องเริ่มป่องออกมาแล้ว

เขาน้ำตาไหล ใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตาตรงหางตา

“ท่านแม่ทัพ ไม่ต้องหรอก ท่านกับทุกท่านตรงนี้เป็นแม่ทัพนายกอง ต้องพึ่งพาพวกท่านขับไล่ศัตรู ควรกินให้มากหน่อย”

จ้านเฉิงอิ้นตักโจ๊กที่เหลือในหม้อใส่ถ้วยเล็ก แล้ววางลงตรงหน้าเขา

เขาประคองโจ๊กร้อนกรุ่น ดีใจจนน้ำตาไหล เดินจากไปพร้อมขอบตาแดงเรื่อ

แต่ละคนได้รับหนึ่งถ้วยเล็ก

แม้จะกินไม่อิ่ม แต่ก็เลิศรสมากพอ โจ๊กที่ใช้ข้าวสวยต้มยังหอมหวนชวนกิน

กินเสร็จก็เลียถ้วย ในโพรงปากยังทิ้งกลิ่นหอมเอาไว้

ทุกคนวางถ้วยลงอย่างตัดใจไม่ได้

ครุ่นคิดว่าในเมื่อเทพยดาทราบว่าพวกเขาขาดแคลนเสบียงและน้ำ สามารถอธิษฐานขอให้ประทานน้ำและเสบียงมาอีกหน่อยได้หรือไม่

ข้าวแปดกล่องไม่พอให้แบ่งกันจริง ๆ!

ยังมีทหารอีกสองหมื่นนายกับราษฎรแปดหมื่นคนที่กำลังลำบากแสนเข็ญเพราะขาดแคลนน้ำและอาหาร

เมื่อคนเราถูกบีบคั้นจนถึงที่สุด ไม่ว่าสิ่งใดล้วนกล้าทำ

ระหว่างทางกลับมา เฉินขุยเห็นสตรีจากสองครอบครัวกำลังร่ำไห้แลกเปลี่ยนลูกกันเพื่อนำไปกินเป็นอาหาร

ยังมีคนเฒ่าคนแก่ในครอบครัวฆ่าตัวตาย เรียกลูกหลานมากินตัวเอง เพื่อให้คนในครอบครัวมีชีวิตรอดต่อไป

เรื่องราวน่าสลดบนโลกมนุษย์แต่ละเรื่องนี้...

พวกเขาไม่กลัวสู้รบจนตัวตาย แต่กลัวการเห็นชาวบ้านอดอยากจนต้องบอกให้คนในครอบครัวมากินเนื้อหนังมังสาของตัวเอง

เจ็บปวดประหนึ่งใช้มีดกรีดหัวใจ

ถ้าสามารถอ้อนวอนต่อท่านเทพให้ประทานน้ำและอาหารลงมามากกว่านี้ได้ โศกนาฏกรรมบนโลกมนุษย์ก็คงจะไม่มีมากมายถึงเพียงนี้!

จ้านเฉิงอิ้นกำหมัดทั้งสองแน่น!

เขาไม่รู้ว่าอาหารและน้ำมาจากไหน

ทั้งไม่กล้าเชื่อว่าบนโลกมีเทพยดาอยู่จริง ๆ

ถ้ามีจริง คนในครอบครัวเขาที่อุทิศตัวเพื่อแผ่นดินเหล่านั้นก็คงไม่ถูกฮ่องเต้พระราชทานความตาย

กองทัพตระกูลจ้านของเขาก็คงจะไม่เหลือไม่ถึงหนึ่งในสิบส่วนแบบนี้!

แต่ด้วยความอับจนปัญญา ความโกรธเกรี้ยวคับแค้นใจทั้งหมดทั้งมวลก็ได้แต่อ้อนวอนขอร้องสิ่งเหนือธรรมชาติมาช่วยคลี่คลายสถานการณ์ยากลำบากในปัจจุบัน!

เขาวิงวอนให้เทพยดาประทานน้ำและอาหารช่วยเหลือราษฎรในเมือง

เขายินดีสร้างวัด กราบไหว้บูชาไปชั่วลูกชั่วหลาน

ต่อให้ต้องสละความชอบทางทหาร อุทิศตนสวดภาวนา ก็หวังว่าเทพยดาจะช่วยเหลือราษฎรในใต้หล้า!

เขากางกระดาษจรดพู่กัน เขียนคำอธิษฐานลงไป

“ข้าแด่ท่านเทพ!”

“แคว้นต้าฉี่ รัชศกชูหยวนปีที่สาม จ้านเฉิงอิ้นแม่ทัพตระกูลจ้าน หนิงกวนโหวขุนนางขั้นหนึ่ง ประจำการที่ด่านเจิ้นกวนทางตะวันตกเฉียงใต้ ภาคตะวันตกเฉียงใต้ในระยะพันลี้ฝนไม่ตกมาเนิ่นนาน แผ่นดินแตกระแหง แม่น้ำเหือดแห้ง ต้นไม้เหี่ยวตาย พันลี้ร้างผู้คน แรงอาฆาตคลุ้งฟ้า!

“ขอท่านเทพโปรดประทานน้ำและอาหาร ช่วยเหลือทหารสองหมื่นนายและราษฎรแปดหมื่นคนในด่านเจิ้นกวน ข้าหวาดหวั่นเหลือประมาณ ท่านเทพโปรดเมตตามนุษย์ผู้ทุกข์ยาก ข้ายินดีสร้างวัด อุทิศตนสวดภาวนา สักการะบูชาไปชั่วลูกชั่วหลาน!”

เขียนเสร็จ เขาก็ไปขอธูปสามดอกมาจากอาหลี่แล้วจุดไฟเผา

ชูธูปคำนับไปทางแจกันสามครั้ง แล้วปักธูปลงในแจกัน

ตามด้วยเผาคำอธิษฐานตามลงไป

*

เย่มู่มู่กินข้าวเสร็จเตรียมเก็บกวาด ทันใดนั้นพลันมีควันลอยออกมาจากในแจกัน

กลิ่นควันคุณภาพต่ำนั้นรมจนเธอกระอักกระไอ

เธอหักตะเกียบ จับจ้องแจกันด้วยสายตาเหี้ยมเกรียม

ถ้ามันกล้าขนขยะมาอีกได้ตายแน่!

ฉับพลันนั้นก็มีขี้เถ้าดำปี๋ก้อนหนึ่งลอยออกมาจากปากแจกัน

ตกลงบนพรมปูพื้นสีขาว ทิ้งรอยดำไว้เป็นทางยาวสายหนึ่ง

ขี้เถ้าดำ ๆ ก้อนนั้นยังคงกลิ้งมาข้างหน้า

นี่คือพรมที่คุณแม่รักมากที่สุดสมัยยังมีชีวิตอยู่ จ่ายค่าขนส่งแพงหูฉี่ซื้อมาจากตะวันออกกลางเชียวนะ!

เธอโมโหจริง ๆ แล้ว

“นอกจากวัน ๆ ขนขยะมาที่บ้านแล้ว แกยังทำอะไรได้อีก?”

“ครอบครัวฉันปรนนิบัติแกเหมือนเป็นสมบัติล้ำค่ามากี่รุ่นต่อกี่รุ่น แต่พอมาถึงรอบฉัน แกกลับทำแบบนี้กับฉันเนี่ยนะ?”

“ฉันติดค้างอะไรแกงั้นเหรอ?”

แจกันขนส่งขยะ!

ได้ มันเริ่มก่อน เธอก็เอาคืนได้เหมือนกัน!

เธอปิดฝากล่องข้าวที่ยังกินไม่หมดแล้วโยนลงไปในแจกัน

จากนั้นก็ไปค้นหาสิ่งของในห้องครัว

ค้นเจอบะหมี่แห้งที่หมดอายุแล้วหนึ่งกล่อง มีทั้งหมดห้าสิบซอง ซองละสองชั่ง โยนทิ้งลงในแจกัน

ยังไม่พอ เธอค้นหาอาหารที่หมดอายุออกมาจากในครัว

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหนึ่งกล่อง ผักดองสิบกว่าซอง เครื่องปรุงที่หมดอายุ ถุงผักอบแห้งรสมันและเค็ม

ในครัวมีตู้แช่แข็งขนาดใหญ่สองเครื่องและตู้เย็นแบบตั้งอีกหนึ่งเครื่อง

ในตู้แช่แข็งมีเนื้ออกไก่ เกี๊ยว หุนทุน[1]และหมั่นโถวที่ไม่รู้ว่าแช่ไว้นานเท่าไรแล้ว...

เธอขนแจกันไปในครัว

แกะกล่องบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแล้วเทลงไปทั้งหมด

โยนผักดองลงไปในนั้นทั้งหมด

เครื่องปรุง ผักอบแห้ง เนื้อแช่แข็งพันปี เกี๊ยว หุนทุน หมั่นโถว...ยัดลงไปในนั้นทั้งหมด

ตู้แช่แข็งสองตู้ ว่างไปแล้วหนึ่งตู้

ในตู้เย็นทรงตั้งมีเครื่องดื่ม เบียร์กับผลไม้ที่ไม่รู้ว่าซื้อมานานเท่าไรแล้ว...

เธอทิ้งลงไปในแจกันทั้งหมดเช่นกัน

จนกระทั่งค้นหาขยะในครัวไม่เจออีกถึงย้ายแจกันกลับไปที่ห้องรับแขก

เธอจ้องมันอย่างดุร้าย ถ้ายังพ่นขยะออกมาอีกก็ลงไปปิดตายอยู่ในห้องใต้ดินก็แล้วกัน!

*

คำอธิษฐานเพิ่งเผาไปได้ไม่นานก็มีบะหมี่แห้งตกลงมาจากแจกัน

บะหมี่ชั้นดี บะหมี่ชั้นดีที่ทำจากแป้งสีขาวขนาดเท่า ๆ กัน

ความประณีตในการทำเส้นบะหมี่นี้ ต่อให้เป็นครัวหลวงในวังก็ยังไม่อาจทำเส้นบะหมี่ออกมาให้มีขนาดเท่า ๆ กันหมดเช่นนี้ได้

จากนั้น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและผักดองก็ร่วงตามลงมา

ความประณีตของซองใส่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปคือสิ่งที่ทหารอย่างพวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

ยังมีผักดอง เฉินอู่ฉีกออกมาซองหนึ่ง ชิมคำเล็ก ๆ

แล้วกระโดดโลดเต้นด้วยความดีอกดีใจ “ท่านแม่ทัพ เกลือขอรับ ผักแท่งพวกนี้มีเกลือ!”

“กองทัพขาดแคลนเกลือมานาน ในที่สุดพวกเราก็ได้กินเกลือเสียที!”

เนื้อที่ถูกแช่เย็นจนแข็งโป๊กตกตามลงมา

ยังกระแทกถูกศีรษะของเฉินขุย

ทุกคนเห็นเนื้อแช่แข็งเต็มโต๊ะแล้วก็ตื่นเต้นยิ่งนัก

“เนื้อขอรับ ท่านแม่ทัพ นี่มันเนื้อแช่แข็ง”

“เนื้อวัว ยังมีเนื้อแพะ ที่เยอะที่สุดคือเนื้อหมู! ท่านแม่ทัพ อธิษฐานขอท่านเทพได้ผลจริง ๆ ด้วย! ประทานอาหารให้พวกเราจริง ๆ!”

มีเนื้อร่วงลงมาสามร้อยกว่าชั่ง ทั้งยังมีสิ่งของร่วงลงมาไม่หยุด

“เกี๊ยว หุนทุนคืออันใดกัน ทำไมไม่เคยเห็นมาก่อน? เอ๊ะ มีหมั่นโถวกับซาลาเปาด้วย!”

“เจ้าสิ่งที่อยู่ในขวดแก้วหลิวหลีสีเขียวนี้คืออันใดกัน? ผีจิ่ว[2]...คือสุรางั้นรึ?”

“ทำไมยังมีน้ำชา แต่ไฉนต้องบรรจุไว้ในขวดสำหรับดื่มด้วย ขวดนี้ทำมาจากวัสดุอันใดกัน ไยจึงไม่เคยเห็นมาก่อน?”

“ท่านแม่ทัพ เกลือบริสุทธิ์ เกลือบริสุทธิ์สีขาวล้วนละขอรับ!”

ครั้นได้ยินว่ามีเกลือ ทุกคนก็วางสิ่งของในมือลงแล้วล้อมเข้าไปดู

“เกลือนี้ขาวมากจริง ๆ ไม่มีสิ่งเจือปนเลยงั้นรึ?”

“เกลือละเอียดประณีตมาก เป็นเม็ด ๆ ชัดเจน เทพเซียนบนสวรรค์ใช้เกลือปรุงอาหารที่วิเศษถึงเพียงนี้เชียว?”

“เทพเซียนบรรจุสุราไว้ในขวดแก้วหลิวหลี ช่างฟุ้งเฟ้ออะไรเช่นนี้!”

นายทหารทั้งสิบคุ้ยดูสิ่งของไม่หยุด หลายสิ่งหลายอย่างล้วนเกินขอบเขตความรู้ของพวกเขา

พวกเขาแยกสิ่งของที่ท่านเทพประทานให้มาตามประเภท

บะหมี่แห้งห้าสิบห่อ

ประเภทเนื้อสัตว์สามร้อยยี่สิบชั่ง

ผีจิ่วในขวดแก้วหลิวหลียี่สิบสี่ขวด

ผลไม้สามชนิด มีผิงกั่ว[3]สิบสองผล สาลี่แปดผล ลูกไม้สีเหลืองยาว ๆ ที่ส่วนปลายงอนไม่รู้ว่าคือผลอันใดอีกสิบลูก!

เกี๊ยวสามถุง หุนทุนห้าถุง ซาลาเปาหมั่นโถวสิบถุง ผักอบแห้งอีกสิบถุง

ผักดองสิบสองซอง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่สิบสี่ซอง

ยังมีน้ำมันอีกหนึ่งขวดเล็ก เกลือหลายถุง เครื่องปรุงสิบซอง...

สิ่งของจำนวนไม่ใช่น้อย ๆ แต่ก็ยังไม่พอให้ทหารและราษฎรทั้งเมืองบริโภค

ด้วยเหตุนี้ จ้านเฉิงอิ้นจึงเขียนคำขอบคุณให้ท่านเทพ

“ขอบคุณท่านเทพที่ประทานอาหารมาให้ อิ้นเรียกร้องมากเกินไป ทำให้ท่านเทพต้องลำบากแล้ว”

“อิ้นเกรงใจยิ่งนักที่รบกวนท่านเทพ อิ้นจะจุดธูปบูชาวันละสามดอกตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”

เขาเขียนจบก็โยนลงไปในแจกัน

โยนไปแล้วค่อยตระหนักว่าลืมเผานี่นา!

[1] หุนทุน ลักษณะคล้ายเกี๊ยว ใช้แป้งแผ่นบางห่อไส้ (มักเป็นไส้หมู) ต้มกินพร้อมกับน้ำซุป

[2] ผีจิ่ว แปลว่า เบียร์ ขณะที่จิ่ว แปลว่า สุรา

[3] ผิงกั่ว แปลว่า แอปเปิล
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 803

    เดิมทีเหวินเหลียนเยว่หลับไปแล้ว ทว่าถูกสายโทรศัพท์ของเย่มู่มู่ทำให้สะดุ้งตื่นเธอถามขึ้นว่า “ฝ่ายเราเป็นคนลงมือก่อนหรือเปล่า?”“ไม่ เป็นการป้องกันตัว อีกฝ่ายห้าร้อยคนถือมีดพุ่งเข้ามา...”“หลูซีกับเฉินขุยจึงลงมือ!”“อีกฝ่ายมีสองคนถูกฟันตาย สี่คนถูกฟันแขนขาขาด พวกเขาตกใจกลัวและเริ่มหนี...”เหวินเหลียนเยว่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ยังดี ๆ เรามีเหตุผล!”“ฉันจะพาทนายไปเดี๋ยวนี้!”เย่มู่มู่ยังคิดจะออกไปตามเฉินขุยกับหลูซี และเรียกให้พวกเขาหยุด...“กลับมา ไม่ต้องตาม!”ฮ่าวอี้บอกกับเย่มู่มู่ว่า “แม้จะเป็นการป้องกันตัว ก็ยากถ้าจะให้รอดร้อยเปอร์เซ็นต์!”“หาทนายที่ดีที่สุด ให้ค่าชดเชยที่เพียงพอ สี่คนที่แขนขาขาดนั่นน่าจะยังต่อเข้าไปได้!”“ให้พวกเขามีท่าทีสำนึกผิดจะต้องดีแน่!”เย่มู่มู่รู้ดีว่า ก่อนหน้านี้ฮ่าวอี้เป็นตำรวจติดอาวุธ ภูมิหลังลึกซึ้ง!“คุณเกี่ยวข้องหรือเปล่า รักษาพวกเขาเอาไว้!”หลูซียังไม่บรรลุนิติภาวะ สองสามปีเขาก็ออกมาได้แล้วถ้าทนายพยายามสักหน่อย ก็เข้าแค่สถานกักขังเด็กและเยาวชน หรือได้รับการประกันตัวออกมาเลย!แต่เฉินขุยฐานะไม่เหมือนกัน เขาเป็นแม่ทัพ เย่มู่มู่ต้องส่งเขากลับยุ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 802

    ครั้งนี้ฟันลงมาเป็นแขน~ครั้งหน้าอาจเป็นหัวคนก็ได้ชายผมเหลืองพูดกับพี่ใหญ่ที่เป็นหัวหน้าว่า “ลูกพี่ ฝีมือของคนคนนี้มัน...”พี่ใหญ่ที่เป็นผู้นำตะโกนขึ้นมาคำหนึ่ง “เถ้าแก่บอกแล้ว ขอแค่จัดการได้สวย จะเพิ่มให้อีกหนึ่งร้อยล้านก็ได้! พวกนายทำอะไรถึงจะหาเงินได้เยอะขนาดนี้?”“ทำงานนี้ อย่างน้อยพวกนายก็ไม่ต้องกังวลเรื่องกินอยู่ไปห้าปี และซื้อบ้านได้!”สองพันห้าร้อยล้าน~ช่างทำให้คนคลั่งจริง ๆภายใต้เงินก้อนโตต้องมีความกล้า!ทุกคนมองไปที่เฉินขุยอย่างบ้าคลั่ง~“ไป จัดการเขาซะ ฟันให้ตาย...”ครั้งนี้ คนยี่สิบกว่าคนพุ่งเข้ามา ด้านหลังยังมีคนหนึ่งร้อยกว่าคนตามมาอีก!เฉินขุยยกดาบม่อเตาขึ้นตวัดไปที่ฝูงชนส่วนหลูซีหลูหมิงชักดาบยาวออกจากฝัก พวกเขาออกโรงแล้ว!ฮ่าวอี้ตะโกนอยู่เบื้องหลังพวกเขา “อย่าฆ่าคน พยายามอย่าฆ่าคน!”“ฆ่าคนเยอะเกินไป พวกนายจะติดคุกเอาได้ คุณหนูเย่ช่วยตามเช็ดตามล้างให้พวกนายไม่ได้นะ!”ครั้นเห็นทั้งสามคนยังคงลงมือ!ฮ่าวอี้ก็อุทาขึ้นมาโดยตรงว่า “จบเห่แล้ว!”เฉินขุยฟันดาบลงไปทีหนึ่ง ถูกคนที่อยู่ตรงหน้าสุดไม่กระดุกกระดิกแล้ว!หลูซีชักดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังออกจากฝัง ศีรษะคนศ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 801

    ในเวลานี้ ในที่สุดแม่ทัพเฉินขุยที่กรนสะเทือนฟ้าอยู่ในรถก็ตื่นขึ้นมาแล้วเสียงหลูหมิงซ้อมคนไม่ได้ทำเขาสะดุ้งตื่นแต่อย่างใด กลับกันเสียงอาวุธที่กระทบไปบนพื้น ในตอนที่อีกฝ่ายเอาอาวุธประเภทมีดออกมาจากในรถกองหนึ่ง ซึ่งเป็นเสียงมีแต่อาวุธประเภทมีดเท่านั้น ดันทำให้เฉินขุยที่ดื่มเบียร์และเหล้าขาวจนเมาแอ๋ตื่นเขาดื่มไปสามโต๊ะ โต๊ะที่สามดื่มเหล้าขาวโดยตรงเมื่อกลับมาถึงโต๊ะของเย่มู่มู่ เขาก็ตะโกนออกมาว่ายุคปัจจุบันข้าวของมากมาย ประชาชนมั่งคั่ง กินเนื้อดื่มเหล้ากล้าได้กล้าเสียเช่นนี้!ขนาดขึ้นรถแล้ว ก็ยังตะโกนลั่นทั้งเมามายว่า “นี่เป็นยุคที่ดียุคหนึ่ง!”แม่ทัพใหญ่สะดุ้งตื่นแล้วเขาเปิดประตูรถ เห็นอีกฝ่ายมีห้าร้อยกว่าคน ถืออาวุธประเภทมีดทำท่าเปี่ยมพลัง มุ่งหน้าเข้ามาใกล้พวกเขาอย่างดุเดือดรุนแรง สมองที่เบลอ ๆ ของเฉินขุยพลันได้สติขึ้นมาทันที เขาตะโกนเสียงดังว่า “ใครกัน มีกล้ามาปล้นท่านเทพ...”เย่มู่มู่ส่งเกราะกันกระสุนให้เขา “อีกฝ่ายคนเยอะ ใส่ไว้ก่อน?”เฉินขุยยื่นมือไปที่เย่มู่มู่ “ท่านเทพ ดาบม่อเตา...”เย่มู่มู่ตอบกลับด้วยความกังวลว่า “ตอนนี้เป็นสังคมที่ปกครองด้วยกฎหมาย จะฆ่าผู้บริสุทธิ์

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 800

    คนผมเหลืองน้ำเสียงติด ๆ ขัด ๆ “พี่ พี่ใหญ่ คนฝึกยุทธ์!”“เขาคือคนฝึกยุทธ์ อีกฝ่ายยังมีคนฝึกยุทธ์แบบนี้อีกเก้าคน ทำยังไงดี?”พี่ใหญ่ที่เป็นหัวหน้าพูดแทรกเขาพร้อมกับด่า “หุบปากไปซะ เขาต่อสู้เก่งแล้วยังไง?”“เรามีคนมากมายขนาดนี้ ที่คืนนี้พาพี่น้องห้าร้อยคนออกมาปฏิบัติการ ก็เพื่อชีวิตของแม่หนูคนนี้!”“ลูกค้าจ่ายเงินมัดจำมาห้าร้อยล้าน หลังจัดการเป้าหมายเสร็จ ยังมีอีกหนึ่งพันห้าร้อยล้าน พอให้พวกพี่น้องกินดีอยู่ดีไปตลอดชีวิต!”“หรือว่าพวกนายคิดจะถอดใจ?”สองพันล้าน~นี่มันสองพันล้านเต็ม ๆ เลยนะ!พวกเขาหาเลี้ยงชีพด้วยวิธีผิดกฎหมาย ในกระเป๋าเสื้อไม่มีเลยสักสลึงเดียว แห้งกรังไม่ง่ายเลยกว่าจะได้รับงานใหญ่ ห้าร้อยคน ทุกคนจะได้รับส่วนแบ่งสี่ล้านต่อให้ต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่ นี่ก็ได้สี่ล้านจริง ๆพวกเขาต้องทำอะไรถึงจะหาเงินได้มากมายขนาดนี้ลูกน้องรอบ ๆ ได้ยินดังนั้น แต่ะคนก็เผยสีหน้าตื่นเต้นออกมาเงินก้อนนี้ พวกเขาต้องคว้ามาให้ได้!คนผมเหลืองกัดฟันเอ่ยขึ้นว่า “ทำครับ ผมต้องเอาเงินนี้มาอยู่ในมือให้ได้!”พี่ใหญ่พูดกับพี่น้องใต้บัญชาต่อ “ไป เอามีดมา...”เปิดที่เก็บของท้ายรถออก อีกฝ่ายถื

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 799

    ฮ่าวอี้ก้าวออกมา แล้วพูดกับลูกพี่คนนั้นว่า “อย่ามาพูดเรื่องไร้สาระกับฉัน บอกมาตามตรง ผู้ทรงอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังพวกนายเป็นใคร?”ลูกพี่คนนั้นถูกคำพูดของหวังเสี่ยวเฉิงเมื่อครู่ทำให้หัวเราะ ยังหัวเราะฮ่า ๆ อยู่เขาออกมาทำมาหากินยี่สิบกว่าปีแล้ว ไม่เคยเห็นเรื่องที่น่าตลกขนาดนี้คนสิบกว่าคน บอกว่าพวกเขาสองร้อยกว่าคน และยังมีคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้มาด้วยอีกสามร้อยคนหนีไม่รอดแล้ว!“เอาละ ส่งตัวแม่หนูคนนั้นออกมา พวกแกจะได้ลำบากน้อย ๆ หน่อย!”“ไม่อย่างนั้น พวกแกมีแต่ต้องตายลูกเดียวเท่านั้น!”รถที่มาด้านหลังเริ่มเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ถึงขั้นปิดถนนทั้งสองข้างเอาไว้คนขับรถบรรทุกที่เดินทางตอนกลางคืน เห็นว่าถนนถูกปิด ก็หาที่กลับหัวรถและแล่นออกไป!หลูซีเขาเปิดที่เก็บของหลังรถ แล้วชักดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังออกมาเล่มหนึ่งเขามองไปที่ฮ่าวอี้ แล้วเอ่ยถามขึ้นว่า “ใช้ดาบได้หรือไม่?”ฮ่าวอี้เรียกตรง ๆ เจ้าตัวดีพกดาบมาด้วย!เขาตอบกลับ “ให้ดีที่สุดไม่ใช้ ถ้าพวกเขาทำอะไรที่เลวร้ายเกินไป มีแนวโน้มที่จะซ้อมคนจนตาย แบบนั้นก็ใช้ได้!”มือทั้งสองของหลูซีกอดดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังเอาไว้ “ดี!”ทว่าหลูหมิงกลับเดิน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 798

    “เอาละ นายไปทำงานเถอะ สืบข้อมูลของเฉินขุยได้แล้วค่อยโทรหานาย!”“ครับหัวหน้า!”หลังฮ่าวอี้วางสาย ก็นั่งยอง ๆ ลงบนพื้นพร้อมหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดตัวหนึ่งนับตั้งแต่มาเป็นบอดี้การ์ดให้เย่มู่มู่ เขาก็มีลางสังหรณ์ว่า ต่อไปเรื่องประหลาดอย่างจู่ ๆ ก็มีคนโผล่ออกมากลางอากาศจะมีเยอะขึ้นทุกวันด้านหลังกำแพงเยื้องเขา หลูซีกำลังลอบมองเขาอยู่ในที่มืด ก่อนจะถอยหลังกลับไปยังห้องจัดเลี้ยงในขณะนี้อาหารมาเสิร์ฟครบแล้ว เหลือสามคนที่ไม่ดื่มเหล้า เหล่าบอดี้การ์ดดื่มกันอย่างสนุกสนานไปแล้วน้อยครั้งที่เย่มู่มู่จะพาหลูซีและหลูหมิงออกมากินอาหารค่ำแน่นอนว่าหวังเสี่ยวเฉิงมาจนคุ้นเคยแล้ว ดื่มเบียร์กับหลูหมิงจนหมดหนึ่งขวดคิดไม่ถึงเลยว่าคอเขาจะอ่อนมาก ยังไม่ได้กินเหล้าขาว เพียงแค่เบียร์ หนึ่งขวดเขาก็ไม่ไหวแล้วหวังเสี่ยวเฉิงตบไหล่หลูหมิง โวยวายถือเป็นพี่เป็นน้องกับเขา“นายนี่คออ่อนชะมัด ยังต้องฝึกอีกเยอะ!”ผ่านไปนานสองนาน ฮ่าวอี้ถึงกลับมาเย่มู่มู่ถามเขา “ไม่มีเรื่องอะไรใช่ไหม?”คิดไม่ถึงเลยว่าฮ่าวอี้จะส่ายศีรษะ แล้วกระซิบบอกเย่มู่มู่ว่า “เราเหมือนจะถูกคนจับตามอง!”หลังจากนั้น เขาก็ล้วงโทรศัพท์ออกมา พบ

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status