ในความเป็นจริงแล้ว บริษัทของพ่อเธอยังต้องลงทุนเพื่อฟื้นฟูเงินทุนอีกด้วย!เธอต้องการเงินจำนวนมาก!อีกทั้งตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิตของเธอ เย่มู่มู่ตกอยู่ในความเงียบงันอยู่ ๆ จ้านเฉิงอิ้นก็หยุดชะงัก ถึงแม้เขาจะมองไม่เห็นเย่มู่มู่ แต่ก็รู้สึกได้ว่านางไม่ร่าเริงเพราะเหตุผลบางอย่างเมื่อก่อนนางมักจะถกเถียงปัญหากับจ้านเฉิงอิ้นอย่างกระตือรือร้น ส่งอะไรมาเพื่อทำให้ปศุกรมีชีวิตดีขึ้น ให้การสนับสนุนกองทัพตระกูลจ้านอย่างภักดียิ่งขึ้น ทว่าวันนี้นางกำลังตกอยู่ในความเงียบงันหรือว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางอย่างนั้นหรือ?อยู่ ๆ จ้านเฉิงอิ้นก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างกะทันหัน กล่าวกับเย่มู่มู่ว่า “ท่านเทพ มั่วฝานไม่ได้เจอหลูซีกับหลูหมิงมานานแล้ว เรียกพวกเขาทั้งสองมาได้หรือไม่ขอรับ มั่วฝานอยากจะพูดคุยกับพวกเขาสักครั้ง!”เย่มู่มู่ลังเลเล็กน้อย จากนั้นก็ตอบว่า “หลูซียังไม่เลิกเรียน หลูหมิงอยู่ที่คฤหาสน์ ให้ข้าไปตามเขามาหรือไม่?”“ขอรับ!”เธอนำแจกันมาวางไว้ในห้องห้องรับแขก จากนั้นก็เรียกหลูหมิงมาหลังจากหลูหมิงมาแล้ว เย่มู่มู่ก็กล่าวว่า “มั่วฝานไม่ได้เจอพวกเจ้ามานานแล้ว จ
เย่มู่มู่มีร้องไห้ออกมาอย่างมีความสุข!ในที่สุดก็มีดินแดนเป็นของตนเองแล้ว!ในที่สุด~ทั้งยังเป็นอาณาเขตของเผ่าตงหมาน สองชนเผ่าใหญ่ ประชาชนหนึ่งล้านกว่าคน!ช่างดีจริง ๆ !ช่างดีเหลือเกิน!เธอรู้สึกได้ถึงความเปียกชื้นที่ข้างแก้ม เมื่อยื่นมือมาสัมผัสก็พบว่าทั้งหมดคือน้ำตา น้ำตาที่ไหลลงมาไม่หยุด!จ้านเฉิงอิ้นราบรื่นอย่างมาก เขาพิชิตสองเผ่าใหญ่ได้โดยไม่สิ้นเปลืองกำลังทหารพวกเขาจะต้องมีความสุขมากเป็นแน่ ไม่แน่ในเวลานี้อาจจะกำลังเฉลิมฉลองอยู่ก็เป็นได้!ตอนนี้เย่มู่มู่ลำบากมาก เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากรองลงมาจากหลังที่พ่อและแม่ของเธอเสียชีวิตก็ว่าได้แต่ว่า เธอคิดว่าทั้งหมดนี้มันคุ้มค่าจ้างเฉิงอิ้นสมควรได้รับการสนับสนุนของเธออย่างเต็มที่และจะไม่เสียใจภายหลัง!เธอเก็บกระดาษทั้งหมดขึ้นมา แล้วมองมองดูกระดาษแต่ละแผ่นความท้าทายของเผ่าตงหมานในตอนนี้ก็คือไม่มีเสบียงอาหาร ไม่มีพืชที่เป็นอาหารสัตว์ และไม่มีแหล่งน้ำทว่าของพวกนี้ล้วนแต่จำเป็นต้องใช้เงินยากยากเกินไปแล้ว!เย่มู่มู่เอาหน้าผากวางไว้บนแจกัน จนเกิดเสียงดังตึงทันใดนั้นเอง เธอก็รู้สึกถึงที่ว่างเปล่าภายในแจกัน น้ำในทะเลสา
“ไม่ง่ายเลยกว่าฉันจะได้มาอยู่ในมือ หาซื้อบ้านเรียบร้อยแล้วด้วย ตอนนี้คุณกลับมาบอกผมว่า รายชื่อถูกระงับเอาไว้งั้นเหรอ! ใครระงับเอาไว้ แม่มันเถอะ ฉันจะฆ่าเข้าให้ตาย!”ซูเหลียงพูดแทรกคำพร่ำบ่นของเขา “ตอนนี้มีคนเทคโอเวอร์หุ้นของฟู่ลี่กรุ๊ปไปแล้ว รีบหนีไปซะ ถ้าบริษัทล้มละลาย หุ้นของพวกคุณจะกลายเป็นแค่เศษกระดาษกองหนึ่งเท่านั้น!”เขาตัดสายแล้ว ก็หันไปมองลู่ฉิงยวนที่หน้านิ่วคิ้วขมวด“ประธานลู่ครับ คุณทำแบบนี้จะจีบคุณหนูเย่ไม่ติด เพราะมาถึงคุณก็ดีกับเธอขนาดนี้ จะทำให้เธอรู้สึกต้องรับผิดชอบมากมาย”“ผมแนะนำให้คุณไปนัดเธอกินข้าวเที่ยงที่โรงเรียนของเธอ!”“เธอเป็นคนมีมารยาท คงไม่มีทางปฏิเสธคุณแน่นอน แบบนี้ไม่นานคุณก็จะจีบสาวสวยติดแล้ว!”ลู่ฉิงยวนกวาดสายตามองเขาด้วยแววตาเย็นชาทีหนึ่งซูเหลียงรีบหันหน้าไปแล้วปิดปากเงียบ!เมื่อกี้เขาบังอาจเกินไปแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะกล้าสอนประธานลู่จีบสาว!*หลังเย่มู่มู่กลับมาถึงคฤหาสน์ เหวินเหลียนเยว่และจางเฉินซีก็ออกไปกันหมดแล้วเซิ่นอันที่วิ่งหาลูกค้าอยู่ข้างนอกตลอด ก็กลับมาถึงห้องทำงานแล้วเขาเห็นเย่มู่มู่กดเครื่องคิดเลขอย่างต่อเนื่อง ก็ถามขึ้นด้วยความระม
สุดท้าย เย่มู่มู่รับดอกไม้เอาไว้ด้วยความสงสัยทีแรกลู่ฉิงยวนคิดจะไปเป็นแขกในคฤหาสน์ของเย่มู่มู่ แต่เธอไม่ได้เอ่ยปากรั้งเอาไว้ท้ายที่สุดเขาก็จากไปอย่างอาลัยอาวรณ์!บนรถ ลู่ฉิงยวนถามเลขาซูเหลียง “ตอนเที่ยงที่เย่มู่มู่ออกไป เธอไปที่ไหน?”ตอนเธอไป เห็นได้ชัดว่าร้อนใจอย่างมาก ฝีเท้าพันกันไปหมดทว่าขณะที่เย่มู่มู่ลงจากรถ กลับมีท่าทางแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงสีหน้าบนหน้าไม่ได้ร้อนใจขนาดนั้น!ซูเหลียงดันแว่น แล้วตรวจดูข้อมูล ก่อนจะตอบกลับลู่ฉิงยวนว่า “คุณหนูเย่รู้จักผู้อาวุโสจาง นักลงทุนเสี่ยงภัยที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศ...”มู่ฉีซิวพลันเอ่ยเสียงสูง “นายหมายถึงจางเต๋ออวี้แห่งวงการลงทุน?”“ใช่ครับ ผู้อาวุโสจางเต๋ออวี้!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลู่ฉิงยวนก็หลับตาลงทั้งสองข้าง นิ้วพลางบีบจมูก“เธอรู้จักจางเต๋ออวี้ได้ยังไง?”“ผู้อาวุโสมู่เป็นคนแนะนำให้ครับ ผู้อาวุโสมู่เขาเป็นผู้มีชื่อเสียงในวงการสะสมภายในประเทศ และเป็นผู้ทรงอิทธิพลในการศึกษาประวัติศาสตร์”“อ้อจริงสิ ยังมีสวี่จือหลินอีกคนครับ เป็นผู้นำตระกูลของตระกูลสวี่ พวกเขาสามคนสนิทสนมกันอย่างมาก ต่างรู้จักกับคุณหนูเย่ หลังคุณหนูเย่มาที่
“ทายาทเศรษฐีในความทรงจำของผมล้วนมีแต่สำมะเลเทเมาเคล้าผู้หญิงไปวัน ๆ ขับรถสปอร์ตโอ้อวดไปตามท้องถนน เปลี่ยนแฟนทุก ๆ สัปดาห์ กระทั่งตัวเองยังจำชื่อของแฟนไม่ได้!”“ไม่คิดเลยว่าเขาจะมีใจฝักใฝ่ด้านธุรกิจขนาดนี้?”เย่มู่มู่พยักหน้า “หวังว่าพวกเขาจะราบรื่นนะคะ!”ฮ่าวอี้กล่าวขึ้นอีกว่า “เถ้าแก่ครับ เรื่องในสนามธุรกิจ ผมช่วยไม่ได้ แต่...”“ผมมีเพื่อนร่วมรบที่เกษียณจากกองกำลังตำรวจติดอาวุธอยู่หลายคน บางส่วนไปเปิดบริษัทนักสืบเอกชน ขอให้ผมแนะนำงานให้ ถ้าคุณมีต้องการอะไร ก็บอกผมนะครับ!”“ได้ค่ะ~”เย่มู่มู่นึกถึงพวกผู้บริหารชั้นสูงของฟู่ลี่กรุ๊ปพ่อเป็นคนเลื่อนขั้นคนพวกนี้มา พวกเขาเข้ามาทำงานที่บริษัทตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท พ่อเชื่อใจพวกเขามาก ถึงได้เลื่อนขั้นพวกเขาขึ้นมาเองกับมือ และรับผิดชอบงานบริหารระดับสูงและหุ้นเดิมหกสิบกว่าเปอร์เซ็นต์ของพ่อ ค่อย ๆ ร่อยหรอไปทีละนิด เพรราะพ่อให้พวกเขาเป็นรางวัลสุดท้ายพวกเขากลับปอกลอกจนเกลี้ยง หนำซ้ำยังให้เย่มู่มู่แบกรับภาระหนี้สินมากกว่าสามหมื่นล้านหากรู้ อสังหาริมทรัพย์ของพ่อและแม่ ก็แค่ไม่กี่พันล้าน ที่มีค่าก็คือหุ้นของบริษัททว่าตอนนี้ หุ้นเหล่
เย่มู่มู่มองตามผู้อาวุโสทั้งสามท่านนำวัตถุโบราณสองลังไปเก็บที่ศูนย์การค้าระหว่างประเทศทั้งโหวกเหวกโวยวายและขึ้นรถไปกับหลูซี!เธอเปิดแอปพลิเคชันธนาคารในโทรศัพท์ แล้วกดเช็กเงินที่ได้มาในวันนี้ราชโองการเจ็ดพันห้าร้อยล้านกระถางทองหนึ่งหมื่นห้าพันล้านพวกม้าทอง ลิงทอง ราคาหกพันล้านทองรูปขนม เกือกม้าทอง สร้อยทอง ราคาประมาณหนึ่งพันสองร้อยห้าสิบล้านกระบี่ทองคำราคาหนึ่งพันห้าร้อยล้านตอนนี้ในมือเธอมีทั้งหมดสามหมื่นหนึ่งพันสองร้อยห้าสิบล้านเงินพวกนี้โปะหนี้ของบริษัทได้จนหมด และยังเหลืออีกนิดหน่อยด้วยแต่จะดำเนินกิจการบริษัทใหม่อีกครั้งคงจะยากเกินไปและในจังหวะนี้เอง จางเฉินซีก็โทรหาเย่มู่มู่ คงเป็นเพราะได้ยินว่าเธอถูกคนวางแผนทำให้ซวยเงินสดยังขาดอีกมาก หากจัดการไม่ได้จะล้มละลาย“เถ้าแก่ คุณเป็นยังไงบ้าง โอเคไหม?”“ผมได้ยินเหวินเหลียนเยว่บอกว่า บริษัทคุณใกล้จะเจ๊งแล้ว แถมยังติดหนี้อีกหลายพันล้าน เงินที่คุณให้ผม ผมยังเหลืออีกสามพันล้าน ไม่งั้นโอนกลับไปให้คุณก่อนดีไหม?”หลังจากนั้น เด็กหนุ่มก็พูดกับตัวเองว่า “เฮ้อ ไม่ง่ายเลยกว่าผมจะลงทุนไปหลายพันล้านได้ ลงทุนในบริษัทที่ถูกใจก่อ
ผู้อาวุโสสวี่เลือกแผ่นทองรูปทรงขนมแผ่นแป้งสองสามแผ่น สร้อยทอง ทองหยวนเป่า เกือกม้าทองคำออกมาจากลังแรก...และยังเลือกหยกแขวนสองสามชิ้น เข็มขัดหยก ตะขอหยกออกมาอีกด้วย...เขาให้พ่อบ้านหาเครื่องชั่งดิจิตอลหน่วยกรัมมาวางแผ่นทองรูปทรงขนมแผ่นแป้งแผ่นหนึ่งลงไป โอ้โฮ คิดไม่ถึงเลยว่าจะหนักสองร้อยกว่ากรัมทองบริสุทธิ์ ราคาอยู่ที่หกแสนเขารับทั้งหมดแล้วให้ราคาเหมา หอบนี้ให้สองร้อยห้าสิบล้านของดีอีกสองสามอย่าง ถูกผู้อาวุโสมู่และผู้อาวุโสจางเหมาไปหมดแล้วผู้อาวุโสจางเหมาม้าทอง ลิงทองและเตาผิงทอง...ผู้อาวุโสมู่กลับหยิบกระบี่ทองด้ามหนึ่งออกมาศึกษาวิจัยสุดท้ายพวกเขาก็บอกราคา ผู้อาวุโสจางมีพวกม้าทองต่าง ๆ ให้หกพันล้านผู้อาวุโสมู่มีกระบี่ทองให้หนึ่งพันห้าร้อยล้านส่วนเกือกม้าทอง สร้อยทอง ทองรูปขนม ทองหยวนเป่า...ทั้งสองแบ่งกันทั้งหมด คนหนึ่งให้สี่ร้อยล้าน อีกคนให้สามร้ายสี่สิบล้านของเหล่านี้ ทำเอาเงินสดของพวกเขาสามคนเกลี้ยงกระเป๋ากันเลยทีเดียวทีแรกหลูหมิงคิดจะเปิดลังที่สอง ทว่าถูกผู้อาวุโสมู่ห้ามเอาไว้“ไม่มีเงินแล้ว อีกหนึ่งเดือนค่อยเปิด! ฉันขอขายสินทรัพย์ที่ต่างประเทศก่อน แล้วโอนเ
ผู้อาวุโสจางเองก็รู้ว่าเรื่องนี้โจมตีเย่มู่มู่ค่อนข้างหนักหน่วง“พวกเขารังแกคนตัวคนเดียวชัด ๆ เรื่องนี้คุณวางใจนะครับ ผมจะช่วยคุณให้ได้แน่นอน!”ผู้อาวุโสจางพูดจบก็ไปโทรศัพท์พวกเขาโทรศัพท์อยู่ในห้องรับแขก ไม่ได้เลี่ยงเย่มู่มู่แต่อย่างใดไม่รู้ว่าผู้อาวุโสจางโทรหาใคร เท้าสะเอวตะคอกเสียงดัง“ไปสืบบริษัทเฉาหยางนี่มาให้ชัดเจน ใครทำธุรกิจกับพวกเขา?”“บริษัทเฉาหยางทำไมน่ะเหรอ? ล่วงเกินฉันน่ะสิ ต่อไปใครทำธุรกิจกับพวกเขา ก็เท่ากับล่วงเกินฉัน!”ผู้อาวุโสสวี่เองก็กำลังคุยสาย “บริษัทพลังงานใหม่บริษัทลูกนั่น ตัดชื่อออกจากรายชื่อซะ?”“บัญชีรายชื่อเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ตัดออกไม่ได้? งั้นก็บอกให้พวกเขาเปลี่ยน กระบวนการพ้นออกจากฟู่ลี่กรุ๊ปของพวกเขาไม่สมบูรณ์แบบ ชื่อของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ก็ไม่มี สนับสนุนบริษัทที่ลืมบุญคุณแบบนี้ ไม่รู้ว่าวันไหนจะแว้งกัดนาย!”“สรุปก็คือ ฉันไม่เห็นด้วยที่จะเอาบริษัทนี้เข้าบัญชีรายชื่อ!”“ถ้าเกิดเรื่องแล้ว พวกนายก็พยายามมาหาฉัน! ฉันจะรับผิดชอบ...”หลังทั้งสองคนโทรศัพท์เสร็จ ก็ขยับเข้ามาปลอบเย่มู่มู่ผู้อาวุโสสวี่กล่าว “มู่มู่ ที่เราช่วยคุณได้ต้องช่วยคุณได้อย่างแ
และยังมีหยกสลักบางส่วนอีกด้วย อาทิหยกแขวน ห่วงหยกแขวนเอว เข็มขัดหยก...ผู้อาวุโสทั้งสามคนต่างตื่นเต้นอย่างไร้ที่เปรียบราวกับหนูตกถังข้าวสารก็มิปาน ลูบอันนั้นที สัมผัสอันนี้ที!พวกเขานำม้าทอง กระถางทองและกระบี่ทองออกมา...ทุกคนเห็นตราประทับที่จักรพรรดิราชวงศ์ต้าฉี่ใช้เบื้องล่างม้าทองหยกแขวนและห่วงหยก เข็มขัดหยก แกะสลักลาย ส่วนใหญ่ปรากฏเป็นลายมังกรและหงส์“นี่ ๆ มันของที่จักรพรรดิราชวงศ์ต้าฉี่ใช้ทั้งนั้นนี่!”“ดูจากงานฝีมือแกะสลักลาย วิธีฉลุลวดลายเป็นเส้นนี่แล้ว นี่เป็นของต้าฉี่เมื่อสองพันปีก่อน ยอดเยี่ยมยิ่งกว่างานฝีมือในยุคปัจจุบันของเรามาก!”“สวย สวยงามมาก ๆ มิหนำซ้ำยังเก็บได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นวัตถุโบราณที่ยังมีอยู่ในโลกตอนนี้มากที่สุด จำนวนมากที่สุด และสวยงามมากที่สุด!”“ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าเก็บมาจนถึงตอนนี้ได้ยังไง วัตถุโบราณเหล่านี้สวยมาก ๆ!”ผู้อาวุโสสวี่กอดกระถางทองชิ้นหนึ่งไม่ยอมปล่อยมือ เนื่องจากเขาเห็นอักษรภาพที่สลักเอาไว้อยู่ข้างในกระถางทอง ตรงก้นประทับว่าใช้สำหรับฮ่องเต้กระถางทองหนักมาก มีสิบกว่ากิโลกรัมแค่ใช้ราคาทองในปัจจุบันเปรียบเทียบ มีมากกว่าสืบล้านแน่น