Share

บทที่ 536

Author: โม่เสียวชี่
หลังจากท่านโหวหลินแสดงความขอบคุณเสร็จแล้วก็ออกไป

ภายในห้องทรงอักษรจึงเหลือเพียงเซียวเหอกับฮ่องเต้

เมื่อเห็นสีหน้าหม่นหมองของเซียวเหอ ฮ่องเต้ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ "เป็นอะไรไปหรือ? ไม่พอใจรึ? หรือเจ้าคิดจะกวาดล้างจวนโหวจนหมดสิ้นกันเล่า?"

เซียวเหอรีบประสานมือคำนับ กล่าวเสียงเบา "กระหม่อมมิกล้าพ่ะย่ะค่ะ"

ฝ่าบาทถอนพระทัยเบา ๆ "ตระกูลหลินก็เป็นขุนนางที่บุกเบิกแผ่นดินนี้ หากว่าข้าสามารถไม่ใยดีทุกสิ่งและกวาดล้างตระกูลหลินได้ ป่านนี้ตระกูลหลินก็คงไม่หลงเหลืออยู่แล้ว"

หลังความวุ่นวายของกษัตริย์ทั้งห้า ตระกูลหลินก็ควรจะสิ้นชื่อไปแล้ว

เซียวเหอไม่ได้ตอบอะไร ฝ่าบาทเหลือบตามองเขาอีกครั้ง พลางยิ้มบาง ๆ "ยิ่งไปกว่านั้น นั่นก็คือบ้านเกิดของเนี่ยนเนี่ยน หากเจ้าอยากทำเพื่อเนี่ยนเนี่ยนจริง ๆ เจ้าก็ควรจะเก็บตระกูลหลินไว้"

จะให้เฉียวเนี่ยน ไม่สิ หลินเนี่ยนต้องมีความแค้นลึกฝังใจกับบ้านเกิดของตนเองกระนั้นหรือ?

สีหน้าเซียวเหอเรียบเฉย แต่ก็พยักหน้าเล็กน้อย "ฝ่าบาทตรัสถูกแล้ว"

แต่ในใจเขากลับคิดว่า หากเนี่ยนเนี่ยนยังอยู่ นางจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร?

นางคงไม่สนใจหรอก

นางยังอยากจะตัดขาดกับจวนโหวเสียด้วยซ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
เจ๊แหม่ม คนเดิม
เมื่อไหร่จะจบยืดเกินไปแล้ว
goodnovel comment avatar
Wilaiporn Dangbuddee
งง ว่าอิท่านโหวยังสงสารอิหลินยวนอีก ทั้งที่มันจะฆ่าลูกสาว ตัวเองแท้ๆ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 537

    อย่างไรเสีย เขาก็เคยเป็นแม่ทัพที่นำทัพมาหลายปี หากแม้แต่เล่ห์กลตื้น ๆ ของซุนเซี่ยนเขายังดูไม่ออก ก็เท่ากับเสียชาติเกิดแล้วใบหน้าของซุนเซี่ยนแดงบ้างซีดบ้างสลับกันไปมา"แต่ข้าก็ช่วยเจ้ามาไม่น้อยเลยนะ! อย่าลืมล่ะ ตอนที่เจ้าส่งคนไปตามหาที่แม่น้ำฉางหยาง ข้าก็ให้เจ้ายืมคนให้เจ้าตั้งเยอะ!""พูดถึงเรื่องนั้น…" เสียงของเซียวเหอเย็นเฉียบ สายตาที่มองซุนเซี่ยนก็ปกคลุมด้วยไอสังหาร "หากมิใช่เพราะใต้เท้าซุนตั้งใจแพร่ข่าวให้กระจายไปทั่ว เนี่ยนเนี่ยนคงไม่ตกอยู่ในกำมือโจรภูเขา และคงไม่ตกลงไปในแม่น้ำฉางหยางหรอก!"ได้ยินดังนั้น ซุนเซี่ยนก็สะดุ้งเฮือกในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมเซียวเหอถึงแทงเขาจากด้านหลังทันใดนั้นก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ "เจ้าคนแซ่เซียว! เรื่องนี้เจ้าจะโยนมาให้ข้าไม่ได้! ตอนแรกมันก็เป็นเจ้าต่างหากที่ให้คนปล่อยข่าว ข้าแค่ช่วยนิดหน่อยเอง อีกอย่าง บางทีตอนที่ข้ายังไม่ทันแพร่ข่าวออกไป โจรภูเขาพวกนั้นก็อาจรู้เรื่องอยู่แล้วก็ได้!"ก็ใช่ มันมีความเป็นไปได้นั้นอยู่แต่ตอนนั้นเขาเดาแผนของเนี่ยนเนี่ยนออกแล้ว จึงให้จี้เยว่ไปปิดข่าวไว้ แต่เป็นซุนเซี่ยนนั่นแหละ ที่เอาแต่โหมไฟให้เรื่องใหญ่โต!

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 538

    เฉียวเนี่ยนชะงักไปชั่วขณะยังไม่ทันได้ตั้งสติ ป้าชุนก็รีบพูดขึ้นว่า "อย่าไปฟังป้าตงฮวาพูดเรื่อยเปื่อยเลยนะ ไป๋อวี่กับพรานจากหมู่บ้านใกล้ ๆ อีกหลายคนจะเข้าไปลึกในป่าสักครั้งทุกสองสามเดือนน่ะ ในป่าลึกน่ะ มีของป่าหายากกว่าข้างนอกเยอะ!"ข้างนอกมากสุดก็แค่เจอไก่ป่า กระต่ายป่าแต่ในป่าลึกนั้นไม่เหมือนกันเลยมีทั้งหมูป่า หมี และบางครั้งถึงขั้นเจอเสือก็มีเมื่อหลายปีก่อน ไป๋อวี่เคยขึ้นเขากับกลุ่มพรานพวกนั้นแล้วได้เสือมาหนึ่งตัว พอเอาไปขายที่ในตัวเมือง ก็ได้เงินมาจำนวนมาก พอแบ่งกันแล้ว ไป๋อวี่ก็ไม่ต้องเข้าไปในป่าลึกอีกตลอดทั้งปีแต่ป้าตงฮวากลับแค่นเสียงด้วยความไม่พอใจ "ข้าพูดผิดตรงไหนกัน? ไป๋อวี่เพิ่งเข้าไปในป่าลึกคราวที่แล้ว ยังไม่ถึงเดือนเลยด้วยซ้ำ!"ในเดือนเดียวเข้าไปในป่าลึกถึงสองครั้ง ไม่ใช่เพราะต้องใช้เงินรักษาคนหรือไง?ป้าชุนกลัวว่าเฉียวเนี่ยนจะคิดมากจึงอดไม่ได้ที่จะถลึงตาใส่ป้าตงฮวา "โอ๊ย พูดให้น้อย ๆ หน่อย!"ดูเหมือนป้าตงฮวาเพิ่งรู้ตัว นางจึงหันมายิ้มแห้ง ๆ ให้เฉียวเนี่ยน "อะ… แม่หนูอย่าคิดมากนะ ไป๋อวี่น่ะเก่งจะตาย ไม่มีทางเป็นอะไรแน่นอน!"เฉียวเนี่ยนยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยและพย

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 539

    เขาเองก็ไม่ได้คิดอะไรมากนัก เพียงเอ่ยเสียงทุ้ม "พอดีล่าหมีได้ตัวหนึ่ง จึงต้องรีบลากไปที่ตัวเมืองก่อนที่มันจะตาย"ขณะพูดก็หยิบโสมต้นเล็ก ๆ หนึ่งต้นออกมาจากในอกเสื้อ "พรุ่งนี้รบกวนป้าตุ๋นไก่ใส่โสมให้ทีเถอะนะ"ในหมู่บ้านไม่มีของกินดี ๆ อะไรมากนัก น้ำซุปไก่ก็ถือเป็นของบำรุงชั้นยอดแล้วนางรอดตายมาได้ก็นับว่าโชคดี แต่ร่างกายยังอ่อนแอเกินไป ต้องบำรุงให้มากหน่อยพูดจบก็หยิบเงินตำลึงออกมาสองสามตำลึงและยื่นให้ป้าชุนป้าชุนรีบปฏิเสธ "ไม่เป็นไร ๆ ก่อนหน้านี้ก็ให้มาตั้งห้าตำลึงแล้วไม่ใช่เหรอ?""ก่อนหน้านี้ก็คือก่อนหน้านี้" ฉู่จืออี้แรงเยอะ ป้าชุนไม่อาจฝืนเขาได้ ก็ได้แต่รับมันมาอย่างเลี่ยงไม่ได้"เช่นนั้นรอข้าก่อนนะ เดี๋ยวข้าไปตักข้าวให้เจ้า!"พูดจบก็เดินกลับไปยังบ้านของตัวเองฉู่จืออี้จึงเดินไปที่ครัว ตักน้ำเย็นจากโอ่งมาหนึ่งกระบวยและยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมดจากมุมที่เฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ สามารถมองเห็นแผ่นหลังของเขาขณะดื่มน้ำพอดีรวมถึงคราบเลือดขนาดใหญ่ที่เปรอะอยู่บนเสื้อเขานางขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว เมื่อครู่คำพูดของฉู่จืออี้กับป้าชุนนางก็ได้ยินหมดแล้วล่าหมีงั้นหรือ ต้องอันตรายมากแน่ ๆเ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 540

    นางอดไม่ได้จะมองพิจารณาฉู่จืออี้อีกครั้งถึงแม้ตอนนี้เขาจะสวมเพียงเสื้อผ้าฝ้ายหยาบ ๆ แต่เส้นกล้ามเนื้อบนร่างกลับยังคงเด่นชัดแม้จะเห็นแค่ราง ๆสายตาคมกริบดั่งเหยี่ยว รอยแผลบนใบหน้านั้น กลับยิ่งทำให้โฉมหน้าที่หล่อเหลาอยู่เดิมเพิ่มความคมเข้มดุดันขึ้นมาอีกเป็นอย่างมากอีกทั้งเขายังสามารถฆ่าหมีได้ ถ้าจะจัดการกับนาง ก็คงไม่ยากเลยแต่เฉียวเนี่ยนกลับรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนเลวแม้แต่ชาวบ้านในหมู่บ้านเหอวานต่างก็พูดถึงเขาในทางดี เรียกได้ว่าเป็นคนดีคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ถ้าเป็นคนดีจริง ย่อมไม่บังคับฝืนใจใครคิดได้ดังนั้น เฉียวเนี่ยนจึงสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะตัดสินใจเอ่ยออกไปว่า "พี่ไป๋ ข้าไม่อยากแต่งงาน เงินถุงนี้ ข้ารับไว้ไม่ได้เจ้าค่ะ""..."ฉู่จืออี้เงยหน้าขึ้นมองเฉียวเนี่ยนอย่างตกตะลึง ยามนี้ท้องฟ้าได้มืดสนิท ภายในห้องมีเพียงแสงเทียนริบหรี่ที่ส่องสว่างอยู่เขามองไม่ชัดนักว่าใบหน้าของนางเป็นเช่นไร แต่กลับเห็นชัดถึงดวงตากลมใสคู่นั้น ที่สั่นระริกอย่างตื่นตระหนกฉู่จืออี้จึงรู้ตัวทันทีว่าเป็นเพราะคำพูดของตนเมื่อครู่ทำให้นางเข้าใจผิด จึงเอ่ยอธิบายเบา ๆ "แม้หมู่บ้านเหอวานจะเงียบสงบ แต่ก็ใช่ว่าจะ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1

    แคว้นจิ้ง ยี่สิบแปดเดือนสิบสองมันเป็นวันที่อากาศกำลังหนาวเย็นพอดีเฉียวเนี่ยนซักเสื้อผ้าชุดสุดท้ายในตอนเช้าเสร็จ ยังไม่ทันเช็ดมือที่หนาวจนชาให้แห้งก็ได้ยินนางกำนัลอาวุโสจากกรมซักล้างตะโกนเรียกนางว่า “เฉียวเนี่ยน เร็วเข้า จวนโหวมีคนมารับเจ้าแล้ว!”นางยืนอึ้งอยู่ที่เดิมจวนโหว ช่างเป็นคําที่ทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยยิ่งนักนางเคยเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์ของจวนโหวมาสิบห้าปี แต่เมื่อสามปีก่อนกลับได้รับแจ้งว่าตนเองเป็นตัวปลอมเป็นนางกำนัลอาวุโสที่ทําคลอดในตอนนั้นที่เห็นแก่ตัว นำลูกของตัวเองกับคุณหนูของจวนโหวแลกเปลี่ยนกัน และก่อนตายก็ค้นพบมโนธรรมและบอกความจริงออกมาเฉียวเนี่ยนจําได้แม่นว่าวันนั้นที่ท่านโหวสองสามีภรรยาได้รู้จักกับหลินยวนลุกสาวแท้ๆ นั้นตื่นเต้นแค่ไหน พวกเขากอดกันทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะ ส่วนนางยืนมองอยู่ข้างๆ อย่างทําอะไรไม่ถูก ไม่เข้าใจว่าพ่อแม่ที่ตัวเองเรียกมาสิบห้าปี ทําไมจู่ๆ ถึงไม่ใช่พ่อแม่ของตัวเองแล้วอาจเป็นเพราะมองเห็นความผิดหวังของนางได้ ท่านโหวหลินจึงสัญญากับนางว่า นางยังคงเป็นคุณหนูของจวนโหว และยังให้หลินยวนเรียกนางว่าพี่สาว แม้แต่ฮูหยินหลินก็ยังบอกว่า พวกเขาย

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 2

    เฉียวเนี่ยนชะงักงัน หัวใจที่คิดว่าไม่รู้สึกอะไรอีกแล้วยังคงเต้นผิดจังหวะเพราะเสียงที่คุ้นเคยนั้นนางค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มในรถม้าเป็นแม่ทัพหนุ่มที่ถูกแต่งตั้งผู้นั้น อดีตคู่หมั้นของนาง เซียวเหิงนางแทบจะคุกเข่าลงทันที “บ่าวคารวะแม่ทัพเซียวเจ้าค่ะ”คิ้วของเซียวเหิงขมวดเข้าหากันเล็กน้อย สายตากวาดมองข้อเท้าของนางแวบหนึ่ง เอ่ยถามเสียงเรียบว่า “แม่นางหลินจะกลับจวนหรือ?”เฉียวเนี่ยนหลุบตามองเข่าทั้งสองข้างของตัวเอง แล้วพยักหน้า “เจ้าค่ะ”สิ้นเสียงก็เงียบไปพักหนึ่งเซียวเหิงรอให้นางพูดต่อเพราะเมื่อก่อน ต่อหน้าเขานางมักมีเรื่องพูดไม่จบตลอดเขาไม่ชอบคนพูดมาก แต่เห็นแก่มิตรภาพของทั้งสองตระกูลจึงไม่ตําหนินางมากเกินไป แต่ก็ไม่เคยปิดบังความเบื่อหน่ายของตัวเองบางครั้งถูกรบกวนจนรําคาญจริงๆ ก็จะหยิบขนมกล่องหนึ่งออกมาอุดปากนาง ทุกครั้งที่ถึงเวลานั้น นางมักจะดีใจเหมือนเด็กๆ แต่ปากที่หนวกหูนั้นอย่างมากก็อุดได้แค่ครึ่งก้านธูปเท่านั้นนึกไม่ถึงว่าไม่ได้เจอกันสามปี นางตอบแค่คําสั้นๆ คําเดียวเซียวเหิงลงจากรถม้า ไม่ได้เข้าไปประคองนาง เพียงกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ข้าเข้าวังไปรายงานพอดี แม่นา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 3

    เรือนเก่าของเฉียวเนี่ยนมีชื่อว่าเรือนลั่วเหมยในเรือนเต็มไปด้วยดอกเหมยต่างๆ ตั้งแต่ต้นฤดูหนาว ดอกเหมยในเรือนดอกเหมยจะบานสะพรั่งอย่างแข่งกัน จนกระทั่งต้นฤดูใบไม้ผลิก็จะไม่เหี่ยวเฉาดอกเหมยเหล่านั้น ล้วนเป็นท่านโหวหลินส่งคนไปตามหาจากทั่วแคว้นจิ้งด้วยตนเอง เพียงเพราะเฉียวเนี่ยนในวัยเด็กเคยกล่าวไว้ว่า ดอกไม้ที่โปรดปรานที่สุดในชีวิตนี้ก็คือดอกเหมยจวนโหวต้องใช้เงินหลายร้อยตําลึงในการบํารุงรักษาดอกเหมยเหล่านั้นทุกปีแต่หลังจากหลินยวนกลับมาในปีนั้น ก็บอกแค่ว่าดอกเหมยในสวนของพี่หญิงสวยมาก เรือนดอกเหมยนั้นก็กลายเป็นของหลินยวนแล้วเฉียวเนี่ยนในตอนนั้นเต็มไปด้วยความเคียดแค้น ตอนนี้พอนึกขึ้นได้กลับไม่มีอารมณ์ใดๆหลินยวนต่างหากที่เป็นลูกสาวแท้ๆ ของจวนโหว ของในบ้านนี้ก็ดี คนก็ดี ล้วนเป็นของหลินยวนทั้งนั้นและนางก็เป็นเพียงคนนอกที่มาครอบครองก็เท่านั้นสาวใช้ที่นําทางกลับกระตือรือร้น “สาวใช้ที่เคยรับใช้คุณหนูแต่งงานไปแล้ว ฮูหยินให้บ่าวติดตามคุณหนูต่อไป บ่าวชื่อหนิงซวง ต่อไปหากคุณหนูมีเรื่องอะไรก็สั่งบ่าวได้เลย”หนิงซวงมีใบหน้าอ่อนเยาว์ แก้มอวบอิ่ม เฉียวเนี่ยนเห็นนางคุ้นตาจึงถามว่า “เจ้าเป็นคน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 4

    เมื่อเห็นเจตนาดีของหลินยวนถูกเฉียวเนี่ยนตอกกลับ หลินเย่ว์ก็เก็บความรู้สึกผิดในใจกลับทันที เอ่ยเสียงเย็นชาว่า “เจ้าไม่ต้องทําตัวประหลาดเช่นนี้ ร่างกายบาดเจ็บทําไมไม่บอกตั้งแต่แรก! ไม่มีปากเหรอ?ถ้านางพูดก่อนหน้านี้ เขาจะไปโรงหมอหลวงเพื่อขอยามาให้นางอย่างแน่นอน!“เมื่อครู่กลับอยากบอกว่า ท่านโหวน้อยไม่ให้โอกาส” เฉียวเนี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ในที่สุดก็ดึงมือทั้งสองกลับมาจากมือของฮูหยินหลินดวงตาของหลินเย่ว์มืดมนลง นางกลับจวนไปแล้ว ยังไม่ยอมเรียกเขาว่าพี่ชายอีกความโกรธในใจไม่ลดลง เขาตะคอกเสียงต่ำว่า “ข้าก็อยากถามเหมือนกัน ถึงอย่างไรเจ้าก็เป็นคุณหนูสูงศักดิ์ของจวนโหวของข้า ตั้งแต่เด็กก็ฝึกวรยุทธ์กับอาจารย์วรยุทธ์ของจวนนี้ ในกรมซักล้างนั้นมียอดฝีมือคนไหนกันแน่ที่ทําร้ายเจ้าได้ถึงเพียงนี้?”คําพูดเพียงประโยคเดียวทําให้เฉียวเนี่ยนใจหายวาบนางหลุบตาลงดึงแขนเสื้อลง น้ำเสียงอ่อนโยนกลับแฝงไว้ด้วยความหนาวเหน็บที่ทําให้คนตัวสั่นเทิ้ม “ตอนแรกก็เคยต่อต้าน เหมือนที่ท่านโหวน้อยกล่าวไว้ นางบ่าวในวังเหล่านั้นล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าจริงๆ แต่พวกนางสู้ข้าไม่ได้ก็จะใช้เล่ห์เหลี่ยมในที่มืด! อย่า

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 540

    นางอดไม่ได้จะมองพิจารณาฉู่จืออี้อีกครั้งถึงแม้ตอนนี้เขาจะสวมเพียงเสื้อผ้าฝ้ายหยาบ ๆ แต่เส้นกล้ามเนื้อบนร่างกลับยังคงเด่นชัดแม้จะเห็นแค่ราง ๆสายตาคมกริบดั่งเหยี่ยว รอยแผลบนใบหน้านั้น กลับยิ่งทำให้โฉมหน้าที่หล่อเหลาอยู่เดิมเพิ่มความคมเข้มดุดันขึ้นมาอีกเป็นอย่างมากอีกทั้งเขายังสามารถฆ่าหมีได้ ถ้าจะจัดการกับนาง ก็คงไม่ยากเลยแต่เฉียวเนี่ยนกลับรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนเลวแม้แต่ชาวบ้านในหมู่บ้านเหอวานต่างก็พูดถึงเขาในทางดี เรียกได้ว่าเป็นคนดีคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ถ้าเป็นคนดีจริง ย่อมไม่บังคับฝืนใจใครคิดได้ดังนั้น เฉียวเนี่ยนจึงสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะตัดสินใจเอ่ยออกไปว่า "พี่ไป๋ ข้าไม่อยากแต่งงาน เงินถุงนี้ ข้ารับไว้ไม่ได้เจ้าค่ะ""..."ฉู่จืออี้เงยหน้าขึ้นมองเฉียวเนี่ยนอย่างตกตะลึง ยามนี้ท้องฟ้าได้มืดสนิท ภายในห้องมีเพียงแสงเทียนริบหรี่ที่ส่องสว่างอยู่เขามองไม่ชัดนักว่าใบหน้าของนางเป็นเช่นไร แต่กลับเห็นชัดถึงดวงตากลมใสคู่นั้น ที่สั่นระริกอย่างตื่นตระหนกฉู่จืออี้จึงรู้ตัวทันทีว่าเป็นเพราะคำพูดของตนเมื่อครู่ทำให้นางเข้าใจผิด จึงเอ่ยอธิบายเบา ๆ "แม้หมู่บ้านเหอวานจะเงียบสงบ แต่ก็ใช่ว่าจะ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 539

    เขาเองก็ไม่ได้คิดอะไรมากนัก เพียงเอ่ยเสียงทุ้ม "พอดีล่าหมีได้ตัวหนึ่ง จึงต้องรีบลากไปที่ตัวเมืองก่อนที่มันจะตาย"ขณะพูดก็หยิบโสมต้นเล็ก ๆ หนึ่งต้นออกมาจากในอกเสื้อ "พรุ่งนี้รบกวนป้าตุ๋นไก่ใส่โสมให้ทีเถอะนะ"ในหมู่บ้านไม่มีของกินดี ๆ อะไรมากนัก น้ำซุปไก่ก็ถือเป็นของบำรุงชั้นยอดแล้วนางรอดตายมาได้ก็นับว่าโชคดี แต่ร่างกายยังอ่อนแอเกินไป ต้องบำรุงให้มากหน่อยพูดจบก็หยิบเงินตำลึงออกมาสองสามตำลึงและยื่นให้ป้าชุนป้าชุนรีบปฏิเสธ "ไม่เป็นไร ๆ ก่อนหน้านี้ก็ให้มาตั้งห้าตำลึงแล้วไม่ใช่เหรอ?""ก่อนหน้านี้ก็คือก่อนหน้านี้" ฉู่จืออี้แรงเยอะ ป้าชุนไม่อาจฝืนเขาได้ ก็ได้แต่รับมันมาอย่างเลี่ยงไม่ได้"เช่นนั้นรอข้าก่อนนะ เดี๋ยวข้าไปตักข้าวให้เจ้า!"พูดจบก็เดินกลับไปยังบ้านของตัวเองฉู่จืออี้จึงเดินไปที่ครัว ตักน้ำเย็นจากโอ่งมาหนึ่งกระบวยและยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมดจากมุมที่เฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ สามารถมองเห็นแผ่นหลังของเขาขณะดื่มน้ำพอดีรวมถึงคราบเลือดขนาดใหญ่ที่เปรอะอยู่บนเสื้อเขานางขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว เมื่อครู่คำพูดของฉู่จืออี้กับป้าชุนนางก็ได้ยินหมดแล้วล่าหมีงั้นหรือ ต้องอันตรายมากแน่ ๆเ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 538

    เฉียวเนี่ยนชะงักไปชั่วขณะยังไม่ทันได้ตั้งสติ ป้าชุนก็รีบพูดขึ้นว่า "อย่าไปฟังป้าตงฮวาพูดเรื่อยเปื่อยเลยนะ ไป๋อวี่กับพรานจากหมู่บ้านใกล้ ๆ อีกหลายคนจะเข้าไปลึกในป่าสักครั้งทุกสองสามเดือนน่ะ ในป่าลึกน่ะ มีของป่าหายากกว่าข้างนอกเยอะ!"ข้างนอกมากสุดก็แค่เจอไก่ป่า กระต่ายป่าแต่ในป่าลึกนั้นไม่เหมือนกันเลยมีทั้งหมูป่า หมี และบางครั้งถึงขั้นเจอเสือก็มีเมื่อหลายปีก่อน ไป๋อวี่เคยขึ้นเขากับกลุ่มพรานพวกนั้นแล้วได้เสือมาหนึ่งตัว พอเอาไปขายที่ในตัวเมือง ก็ได้เงินมาจำนวนมาก พอแบ่งกันแล้ว ไป๋อวี่ก็ไม่ต้องเข้าไปในป่าลึกอีกตลอดทั้งปีแต่ป้าตงฮวากลับแค่นเสียงด้วยความไม่พอใจ "ข้าพูดผิดตรงไหนกัน? ไป๋อวี่เพิ่งเข้าไปในป่าลึกคราวที่แล้ว ยังไม่ถึงเดือนเลยด้วยซ้ำ!"ในเดือนเดียวเข้าไปในป่าลึกถึงสองครั้ง ไม่ใช่เพราะต้องใช้เงินรักษาคนหรือไง?ป้าชุนกลัวว่าเฉียวเนี่ยนจะคิดมากจึงอดไม่ได้ที่จะถลึงตาใส่ป้าตงฮวา "โอ๊ย พูดให้น้อย ๆ หน่อย!"ดูเหมือนป้าตงฮวาเพิ่งรู้ตัว นางจึงหันมายิ้มแห้ง ๆ ให้เฉียวเนี่ยน "อะ… แม่หนูอย่าคิดมากนะ ไป๋อวี่น่ะเก่งจะตาย ไม่มีทางเป็นอะไรแน่นอน!"เฉียวเนี่ยนยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยและพย

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 537

    อย่างไรเสีย เขาก็เคยเป็นแม่ทัพที่นำทัพมาหลายปี หากแม้แต่เล่ห์กลตื้น ๆ ของซุนเซี่ยนเขายังดูไม่ออก ก็เท่ากับเสียชาติเกิดแล้วใบหน้าของซุนเซี่ยนแดงบ้างซีดบ้างสลับกันไปมา"แต่ข้าก็ช่วยเจ้ามาไม่น้อยเลยนะ! อย่าลืมล่ะ ตอนที่เจ้าส่งคนไปตามหาที่แม่น้ำฉางหยาง ข้าก็ให้เจ้ายืมคนให้เจ้าตั้งเยอะ!""พูดถึงเรื่องนั้น…" เสียงของเซียวเหอเย็นเฉียบ สายตาที่มองซุนเซี่ยนก็ปกคลุมด้วยไอสังหาร "หากมิใช่เพราะใต้เท้าซุนตั้งใจแพร่ข่าวให้กระจายไปทั่ว เนี่ยนเนี่ยนคงไม่ตกอยู่ในกำมือโจรภูเขา และคงไม่ตกลงไปในแม่น้ำฉางหยางหรอก!"ได้ยินดังนั้น ซุนเซี่ยนก็สะดุ้งเฮือกในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมเซียวเหอถึงแทงเขาจากด้านหลังทันใดนั้นก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ "เจ้าคนแซ่เซียว! เรื่องนี้เจ้าจะโยนมาให้ข้าไม่ได้! ตอนแรกมันก็เป็นเจ้าต่างหากที่ให้คนปล่อยข่าว ข้าแค่ช่วยนิดหน่อยเอง อีกอย่าง บางทีตอนที่ข้ายังไม่ทันแพร่ข่าวออกไป โจรภูเขาพวกนั้นก็อาจรู้เรื่องอยู่แล้วก็ได้!"ก็ใช่ มันมีความเป็นไปได้นั้นอยู่แต่ตอนนั้นเขาเดาแผนของเนี่ยนเนี่ยนออกแล้ว จึงให้จี้เยว่ไปปิดข่าวไว้ แต่เป็นซุนเซี่ยนนั่นแหละ ที่เอาแต่โหมไฟให้เรื่องใหญ่โต!

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 536

    หลังจากท่านโหวหลินแสดงความขอบคุณเสร็จแล้วก็ออกไปภายในห้องทรงอักษรจึงเหลือเพียงเซียวเหอกับฮ่องเต้เมื่อเห็นสีหน้าหม่นหมองของเซียวเหอ ฮ่องเต้ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ "เป็นอะไรไปหรือ? ไม่พอใจรึ? หรือเจ้าคิดจะกวาดล้างจวนโหวจนหมดสิ้นกันเล่า?"เซียวเหอรีบประสานมือคำนับ กล่าวเสียงเบา "กระหม่อมมิกล้าพ่ะย่ะค่ะ"ฝ่าบาทถอนพระทัยเบา ๆ "ตระกูลหลินก็เป็นขุนนางที่บุกเบิกแผ่นดินนี้ หากว่าข้าสามารถไม่ใยดีทุกสิ่งและกวาดล้างตระกูลหลินได้ ป่านนี้ตระกูลหลินก็คงไม่หลงเหลืออยู่แล้ว"หลังความวุ่นวายของกษัตริย์ทั้งห้า ตระกูลหลินก็ควรจะสิ้นชื่อไปแล้วเซียวเหอไม่ได้ตอบอะไร ฝ่าบาทเหลือบตามองเขาอีกครั้ง พลางยิ้มบาง ๆ "ยิ่งไปกว่านั้น นั่นก็คือบ้านเกิดของเนี่ยนเนี่ยน หากเจ้าอยากทำเพื่อเนี่ยนเนี่ยนจริง ๆ เจ้าก็ควรจะเก็บตระกูลหลินไว้"จะให้เฉียวเนี่ยน ไม่สิ หลินเนี่ยนต้องมีความแค้นลึกฝังใจกับบ้านเกิดของตนเองกระนั้นหรือ?สีหน้าเซียวเหอเรียบเฉย แต่ก็พยักหน้าเล็กน้อย "ฝ่าบาทตรัสถูกแล้ว"แต่ในใจเขากลับคิดว่า หากเนี่ยนเนี่ยนยังอยู่ นางจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร?นางคงไม่สนใจหรอกนางยังอยากจะตัดขาดกับจวนโหวเสียด้วยซ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 535

    มองแผ่นหลังของเซียวเหิงลับตาไป เซียวเหอก็จึงหรี่ตาลงด้วยแววตาลึกล้ำ ก่อนจะหันกายมุ่งหน้าสู่ห้องทรงอักษรภายในห้องทรงอักษร นอกจากเซียวเหอแล้ว ยังมีท่านโหวหลินอยู่ด้วยเรื่องราวผ่านพ้นมานานเพียงนี้แล้ว แต่ท่านโหวหลินกลับดูชราลงไปถนัดตา เดิมทีเพียงขมับขาวซีดเล็กน้อย บัดนี้กลับกลายเป็นศีรษะขาวโพลนทั้งหัวฮ่องเต้ทอดพระเนตรเห็นท่านโหวหลินเป็นเช่นนั้น ก็รู้สึกสะท้อนพระทัยอยู่ไม่น้อย จึงตรัสขึ้นอย่างอดมิได้ว่า "พูดมาเถอะ เรื่องทั้งหมดเป็นอย่างไรกันแน่?"ท่านโหวหลินไม่กล่าวสิ่งใดเซียวเหอจึงก้าวขึ้นข้างหน้า คารวะหนึ่งครั้งแล้วกล่าวขึ้นว่า "ขอพระราชทานกราบทูล ฝ่าบาท สามปีก่อน ท่านโหวหลินตาถั่ว มองคนผิด เอาสตรีที่แอบอ้างว่าเป็นบุตรสาวสายตรงแห่งจวนโหว หรือก็คือหลินยวนนั้น มารับไว้เป็นลูกสาว ส่วนบุตรสาวแท้ ๆ กลับถูกนับว่าเป็นบุตรสาวบุญธรรม เท่ากับเป็นการลวงเบื้องบน ก่อให้บุตรสาวที่แท้แห่งจวนโหวต้องทนทุกข์ทรมานถึงสามปี บัดนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมเป็นตาย ขอฝ่าบาททรงโปรดสอบสวนให้ถึงที่สุดด้วยเถิด"คำว่าลวงเบื้องบนเปรียบดั่งศิลาก้อนใหญ่กระแทกลงมา ท่านโหวหลินทรุดตัวคุกเข่าลงในทันทีแต่กลับหาได้กล่าว

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 534

    ในเมืองหลวง ภายในพระราชวังเซียวเหอเข้าวังครั้งนี้ตามพระราชโองการท้องพระโรงอันกว้างใหญ่ ขุนนางฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ต่างยืนเรียงรายอยู่สองฟาก ซ้ำเซียวเหอเองแม้จะมาในคราบชาวบ้านธรรมดา ทว่ากลับก้าวเดินอย่างมั่นคง ไม่รีบร้อน ไม่ช้าเกินไปเพียงไม่นาน เซียวเหอก็เดินไปถึงกลางท้องพระโรง พลางสะบัดชายเสื้อเบา ๆ คุกเข่าลงข้างหนึ่ง “ข้าน้อยเซียวเหอ ขอถวายบังคมฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”ขณะนั้นเอง ข้างกายเขายังมีอีกผู้หนึ่งที่คุกเข่าอยู่เช่นกันซุนเซี่ยนเมื่อเห็นเซียวเหอ เหงื่อเม็ดโตบนหน้าผากของซุนเซี่ยนก็ไหลลงมาอย่างไม่อาจควบคุมได้ ความโกรธแค้นลุกลามอยู่ในอก แต่ต่อหน้าฮ่องเต้ แม้แต่จะชำเลืองมองเซียวเหอสักนิดก็ยังไม่กล้าแล้วเสียงของฮ่องเต้ก็ดังขึ้น "ซุนเซี่ยนไร้ความสามารถ ปลดออกจากตำแหน่งขุนนางทันที ถอดเบี้ยหวัดทั้งหมด! นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ตำแหน่งผู้บัญชาการกองทหารรักษาพระองค์ ให้เซียวเหอรับหน้าที่แทน!"เมื่อได้ยินดังนั้น เซียวเหอก็โค้งตัวทำความเคารพช้า ๆ "ข้าน้อยน้อมรับพระราชโองการพ่ะย่ะค่ะ"ซุนเซี่ยนย่อมไม่เต็มใจแต่เมื่อวานนี้ที่ท้องพระโรง ราชครูชิวเป็นหัวเรือใหญ่ ร่วมกับบรรดาขุนนางอีกนับสิบคน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 533

    ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงบางอย่างดังกรอบแกรบมาจากในเรือน"เพล้ง!"ฉู่จืออี้ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะวางขวานในมือลง ลุกเดินไปยังหน้าประตูร่างของเขานั้นสูงใหญ่เกินไปเพียงแค่ยืนตรงประตู ก็สามารถบดบังแสงจากด้านนอกไว้ได้เกือบหมด ทำให้บรรยากาศในห้องพลันมืดลงอย่างเห็นได้ชัดเฉียวเนี่ยนเงยหน้าขึ้นมองฉู่จืออี้ แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด "ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าต้องการจะดื่มน้ำ แต่จับไม่มั่น…"ถ้วยจึงร่วงตกแตกกระจายเศษถ้วยกระจายเต็มพื้นฉู่จืออี้มองไปยังเศษถ้วยข้างเท้าของนาง ก่อนจะยกเท้าก้าวเข้าไป ดึงแขนเสื้อที่ม้วนขึ้นขณะฟืนลง แล้วยื่นแขนขวาออกไปให้นาง "เจ้าไปนั่งก่อน ข้าจะเก็บเอง"ขาซ้ายของเฉียวเนี่ยนไม่สามารถแตะพื้นได้ ขณะนี้เท้าขวาของนางก็ล้อมรอบด้วยเศษถ้วย หากเผลอเหยียบเข้าไปล่ะก็คงแย่แน่เฉียวเนี่ยนจึงไม่เกรงใจนัก ยื่นมือขึ้นจับแขนเขาไว้เเขนนั้นแน่นแข็งราวกับเหล็กกล้าเฉียวเนี่ยนอดตกใจไม่ได้ ก็แค่พรานป่า เหตุใดร่างกายถึงได้กำยำยิ่งกว่าทหารในกองทัพเสียอีก?แต่บนใบหน้ากลับไม่เผยอารมณ์ใดออกมา นางกลับไปนั่งที่ข้างเตียง ก่อนจะเห็นเขาเดินไปที่ประตู หยิบไม้กวาดมากวาดเศษถ้วยทั้งหมดลงกระด้ง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 532

    ในเวลาเดียวกัน ที่หมู่บ้านเหอวานห่างออกไปถึงสามร้อยลี้ เฉียวเนี่ยนยังคงเหม่อมองกำไลหยกที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ นั้นนางไม่ใช่คนที่ชอบคิดวกวนไปมา เมื่อเห็นกำไลหยกแตก นางย่อมรู้สึกเศร้าและเจ็บปวดแต่เมื่อนางลองคิดกลับกัน การที่นางลอยมาตั้งไกลจากเมืองหลวงถึงที่นี่แล้วยังรอดชีวิตมาได้ อาจเป็นเพราะกำไลหยกที่แม่ของจิ่งเหยียนให้มานั้นช่วยปัดเป่าเคราะห์ภัยก็เป็นได้ความคิดเช่นนี้ แม้จะทำให้นางยิ่งรู้สึกเสียใจ แต่ในใจก็พลันมีไออุ่นลอยแทรกขึ้นมานางมักจะรู้สึกว่า ในความลี้ลับเหนือธรรมชาติ จิ่งเหยียนได้ปกป้องนางไว้ครั้งแล้วครั้งเล่าฉู่จืออี้นั่งลงหน้ากองฟืนอีกครั้งหยิบขวานขึ้น วางฟืนให้มั่น เสียง 'ผั่บ' ดังขึ้น ฟืนก็แยกออกเป็นสองท่อนเรียบร้อยเขาเงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัว มองเข้าไปในเรือนหน้าต่างไม้เปิดแง้มอยู่ เห็นเลือนลางถึงมือของนางที่กำลังประคองกำไลหยกไว้ฉู่จืออี้รู้ว่าจิ่งเหยียนมีน้องสาวคนหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เขากับจิ่งเหยียนถูกล้อมอยู่ในหุบเขา เขาเคยถามจิ่งเหยียนว่าในครอบครัวยังมีใครเหลืออยู่บ้างจิ่งเหยียนบอกว่า เขามีน้องสาวคนหนึ่ง ความปรารถนาสูงสุดของเขาตลอดชีวิต คืออยากให้น้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status