ห้องทำงานของนายอาจารย์แพทย์พีรดนย์ ธาดาศิริกุล (ศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก)
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!!
“เชิญครับ”
“มาอยู่กันที่นี่เองทั้งคุณพ่อ คุณลูกเลยนะคะ”
“ยิ้มมาขนาดนี้มีเรื่องอะไรดีๆ เหรอครับ” หมอพอลยกยิ้มออกมาก่อนที่เขาจะเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าออกมาสีหวานต่อหน้าต่อตาลูกชายเพียงคนเดียวของพวกเขา
“แมรี่จับจองหนูน้ำมนต์ให้กับตาเพิร์ชเรียบร้อยแล้วค่ะ”
“ว่าอย่างไรนะครับแม่?” เพิร์ชลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพร้อมกับเอ่ยถามคุณแม่ของเขาออกไปอย่างอึ้ง ชายหนุ่มจ้องมองไปยังหญิงวัยกลางคนตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาพึ่งจะได้ยิน
“เพิร์ชลูกต้องแต่งงานกับหนูน้ำมนต์”
“ไม่มีทางครับ”
“ทำไมล่ะ? น้องไม่ดีตรงไหน?”
“ไม่ใช่ว่าน้องไม่ดีครับ แต่เราไม่ได้รักกัน และที่สำคัญเรารู้จักกันยังไม่ถึง 24 ชั่วโมงเลยนะครับ” เพิร์ชพยายามอธิบายให้กับมารดาของเขาได้ฟัง
“นั่นแหละที่แม่กำลังจะบอก...เพิร์ชต้องทำอย่างไรก็ได้ให้น้องตกหลุมรัก และลูกก็ต้องรักน้องด้วย”
“อะไรนะครับ?”
“เดี๋ยวนี้หูไม่ดีแล้วเหรอเรา” แมรี่ยกยิ้มขึ้นมาพร้อมกับเอ่ยแซวลูกชายเพียงคนเดียวของเธออย่างเอ็นดู
“แม่ครับ”
“ลูกอาจจะจำไม่ได้เมื่อ 30 ปีที่แล้วยายแม้นเคยบอกพ่อกับแม่ไว้ว่าก่อนลูกจะอายุคบ 37 ปีลูกจะเจอกับเคราะห์ใหญ่ และตอนนี้มันก็เป็นอย่างที่ท่านพูดจริงๆ”
“...”
“ยายแม้นยังบอกอีกว่าลูกต้องแต่งงานกับหลานสาวของแก แม่เชื่อว่าถ้าท่านไม่เห็นอะไรท่านคงไม่พูดแบบนั้นออกมา เพราะตอนนั้นน้ำหนึ่งพึ่งจะอายุ 18 ปีเองใครจะรู้ว่าเธอจะมีลูกสาว...จริงไหมคะคุณ?”
“จะ จริงครับ”
“พ่อครับ”
“เพื่อความสบายใจของแม่น่ะเพิร์ช ตั้งแต่ลูกเกิดมาแม่ไม่เคยขออะไรลูกเลย แต่ครั้งนี้ถือว่าแม่ขอเธอนะ ทำให้แม่สักครั้งเถอะนะลูก”
“...”
“ถ้าในอนาคตลูกไม่ได้รักน้องจริงๆ แม่ก็จะไม่บังคับลูกทั้งสองคน แต่ขอให้ได้รองศึกษากันและกันก่อนเถอะนะคะ”
“ก็ได้ครับแม่...ถ้าเด็กคนนั้นปฏิเสธเพิร์ชขึ้นมาวันไหน แม่ต้องหยุดทันทีนะครับ”
“ก็ได้ค่ะ แม่จะหยุด”
แมรี่ตอบรับคำขอของลูกชายเสียงอ่อน ก่อนที่เธอจะหันไปส่งยิ้มให้กับสามีของเธออย่างมีเลศนัย ร่างบางเดินไปนั่งลงข้างกายของสามี ก่อนที่เธอจะเอ่ยบอกกับลูกชายอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่สดใสเช่นเดิม
“แม่ให้ทุนหนูน้ำมนต์เรียนต่อจนจบปริญญา แม่จะจัดการทุกเรื่องให้น้องเอง ส่วนเรื่องที่พัก...”
“แม่ครับ?”
“มหาลัยของน้องอยู่แถวบ้านของลูกพอดี ลูกอาศัยอยู่คนเดียวในคฤหาสน์หลังใหญ่ มีห้องนอนก็ตั้งหลายห้องแบ่งให้กับน้องสักห้องไม่ได้เหรอคะ”
“...”
“หรือว่าลูกซ่อนใครไว้?”
“ไม่ได้ซ่อนใครทั้งนั้นแหละครับ แต่น้องเป็นผู้หญิงมาอยู่บ้านผู้ชายแบบนี้จะดูไม่ดีเอานะครับ”
“เป็นห่วงน้องเหรอคะ แบบนี้แม่ก็มีหวังน่ะสิ”
“แม่ครับ”
“แม่แค่หยอกเล่น แต่ก็แอบหวังจริงๆ นะ”
“...”
“ทุกคนจะรู้ว่าลูกกับน้องก็คู่หมั้นกัน ทีนี้อยู่ด้วยกันก็คงไม่แปลกแล้วใช่ไหม?”
“ไม่ว่ายังไงน้องก็เสียหายนะครับคุณแม่”
“ไม่ต้องห่วงเรื่องคนอื่น เพราะถ้าสุดท้ายลูกไม่ต้องการน้อง หรือน้องไม่ต้องการลูกจริงๆ แม่จะเป็นคนรับผิดชอบทุกอย่างเอง” แมรี่เอ่ยบอกกับลูกชายเสียงเรียบ พร้อมกับจ้องมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มตรงหน้านิ่งๆ เพื่อแสดงให้เขารู้ว่าเธอไม่ได้พูดเล่นๆ เพราะแค่ต้องการให้เค้าตอบตกลง
“ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงครับ...เพิร์ชขอตัวก่อนนะครับมีตรวจคนไข้ครับ”
“ค่ะ / ไปเถอะลูก”
ปึง!!!
“ทำแบบนี้จะดีเหรอคุณ?” หมอพอลเอ่ยถามภรรยาของเขาออกมาทันทีที่ลูกชายของเขาเดินออกไปจากห้อง ลึกๆ แล้วเขาก็ไม่ได้เห็นด้วยสักเท่าไหร่กับสิ่งที่ภรรยาของเขาทำ แต่เขาก็ไม่อยากขัดเพราะมันเป็นทางออกเดียวที่จะทำให้เธอสบายในเรื่องลูก
“แมรี่คิดเอาไว้แล้วค่ะ ถ้าสุดท้ายเด็กทั้งสองคนไปด้วยกันไม่ได้จริงๆ แมรี่จะเป็นคนยุติเรื่องทั้งหมดด้วยตัวเองค่ะ”
หลายวันต่อมา...
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!
“ขออนุญาตตรวจคนไข้ครับ” หมอเพิร์ชเดินเข้ามาพร้อมกับนางพยาบาล ชายหนุ่มเอ่ยบอกกับญาติคนไข้อย่างนอบน้อมก่อนที่เขาจะหยุดยืนอยู่ข้างเตียงคนไข้ของเขา
น้ำมนต์มองไปยังร่างสูงที่กำลังเดินเข้ามาก่อนที่เธอจะก้มหน้าลงมองพื้นทันที เพราะทุกครั้งที่อยู่ใกล้เขา ดวงวิญญาณก็จะปรากฏขึ้นมาให้เธอได้เห็นทุกครั้งไป
ในเมื่อยายแม้นก็ไม่รู้ว่าเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง เธอก็คงหมดปัญญาจะจัดการกับมันแล้วล่ะ ทำได้เพียงแค่หลบสายตาจากดวงวิญญาณพวกนั้น ไม่ให้พวกมันรู้ว่าเธอมองเห็นซึ่งแน่นอนว่ามันไม่มีปัญหาน้ำมนต์ทำแบบนั้นมาตั้งแต่จำความได้
“อาการโดยรวมดีขึ้นมากแล้วนะครับ คุณยายยังรู้สึกปวดบริเวณแผลที่พึ่งผ่าตัดอยู่ไหมครับ?”
“ยายไม่ค่อยเจ็บแล้วหมอ เมื่อไหร่ยายถึงจะได้ออกจากโรงพยาบาลสักที อยู่ที่นี่นานๆ ยายชักจะเบื่อแล้วสิ”
“ผมอยู่อาการขอคุณยายอีกสัก 3-4 วันนะครับ ผมอยากให้คุณยายพักผ่อนให้เพียงพอ”
“นั่นสิอยู่ด้วยกันก่อนนะคะพี่แม้น” แมรี่เอ่ยออกมาเสียงอ่อนพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้กับหญิงชราตรงหน้า
“เฮ้ออออ!!! ยายเบื่อห้องสี่เหลี่ยมนี่จะแย่อยู่แล้ว”
“อีกไม่กี่วันเองค่ะ”
“จ้ะ...”
“ว่าแต่เพิร์ชหลังจากตรวจเสร็จลูกว่างแล้วใช่ไหมคะ?”
“ครับ”
“พอดีเลยหนูน้ำมนต์ยังไม่ได้ทานอะไร เพิร์ชพาน้องออกไปทานสิ...?”
“...ครับ” เพิร์ชมองหน้าแม่ของตัวเองอย่างรู้ทัน ก่อนที่เขาจะตอบตกลงกลับไปอย่างจำยอม
“หนูน้ำมนต์ไปทานข้าวกับพี่เขาสิลูก”
“คะ? อ่อค่ะ” น้ำมนต์ตอบรับคำของหญิงวัยกลางคนตรงหน้าอย่างงงๆ แต่เธอก็ทำตามอย่างว่าง่าย
“เชิญครับ”
น้ำมนต์ก้มหัวให้ชายหนุ่มตรงหน้าเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเดินนำเขาออกไปจากห้องพักฟื้น
“อยากทานอะไร?” เพิร์ชเอ่ยถามร่างบางที่เดินนำหน้าออกไปเสียงเรียบ
“แล้วแต่พี่เพิร์ชเลยค่ะ”
“หิวไม่ใช่รึไง?”
“อะ เอ่อค่ะ” น้ำมนต์อึกอักไม่กล้าตอบอะไรเขากลับไป เธอจะบอกว่าเธอพึ่งทานก็ไม่ได้เดี๋ยวจะพูดไม่ตรงกับป้าแมรี่ จะให้โกหกเขากลับไปก็ไม่กล้าอีก พอได้อยู่กับเขาสองต่อสองทำให้เธอรู้ได้ในทันทีว่าอาจารย์หมอหนุ่มคนนี้ดูน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก
“ว่าไง?”
“คะ คือว่า...”
“ตามฉันมานี่” เพิร์ชเอ่ยบอกกับร่างบางตรงหน้าเสียงเรียบ ก่อนที่เขาจะเดินนำเธอยังห้องพักของเขาที่อยู่ไม่ไกล
“ค่ะ”
ห้องทำงานของนายแพทย์พีรดนย์ ธาดาศิริกุล (ศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก)
“...อึก...” น้ำมนต์เงยหน้าขึ้นไปอ่านป้ายชื่อตรงหน้าก่อนที่เธอจะกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ‘น้ำมนต์เธอจะช่วยเขาได้จริงๆ น่ะเหรอ’
“เข้ามาสิ”
“อะ อ่อขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเอ่ยขอบคุณชายหนุ่มตรงหน้าที่เปิดประตูห้องรอเธออยู่ก่อนแล้ว
น้ำมนต์เดินเข้าไปยังห้องพักของอาจารย์หมอเพิร์ชทามกลางสายตาของบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลที่พากันจับจ้องมาที่เธอเป็นตาเดียวด้วยความสงสัย
ตั้งแต่หมอเพิร์ชเข้ามาทำงานที่นี่พวกเขาไม่เคยเห็นคุณหมอควงใครเลยสักคน นั่นก็แสดงว่ากับสาวน้อยคนนี้ต้องมีอะไรที่พิเศษอย่างแน่นอน
“...” น้ำมนต์ชะงักนิ่งงันไปทันทีที่เธอสบตาเข้ากับดวงวิญญาณของผู้หญิงคนหนึ่ง น้ำมนต์จำเธอได้ดีเธอมันจะติดตามและวงเวียนอยู่รอบตัวของคุณหมอ เรียวยังคงก้าวต่อไปข้างหน้าแต่สายตายังคงจับจ้องไปยังดวงวิญญาณตรงหน้า
‘กรี๊ดดดดด~ ออกไป ออกไปจากชีวิต...’
“อ๊ะ!!!” น้ำมนต์สะดุดขาตัวเอง แต่ก่อนที่เธอจะเสียหลักล้มลงไปแขนแกร่งของเจ้าของห้องก็คว้าร่างบางของเธอเอาไว้ได้ทัน และทันทีที่ชายหนุ่มสัมผัสโดนตัวของน้ำมนต์ ดวงวิญญาณตรงหน้าก็สลายหายไปในทันทีต่อหน้าต่อตาของเธอ
“หายไปแล้ว?” น้ำมนต์พึมพำออกมาพร้อมกับมองไปรอบห้อง เธอไม่เห็นดวงวิญญาณเลย คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างกำลังใช้ความคิดจนกระทั่ง...
“เธอพูดว่าอะไรนะ?”
“อะ อ่อเปล่าค่ะ” น้ำมนต์กับเพิร์ชผละออกจากกัน ก่อนที่ร่างบางจะหันไปทางซ้ายทีขวาทีอย่างทำตัวไม่ถูก
“นั่งก่อนสิ”
“ขอบคุณค่ะ”
น้ำมนต์นั่งลงยังโซฟาตรงหน้าตามที่ชายหนุ่มเอ่ยบอกกับเธออย่างว่างง่าย ในขณะที่สายตายังคงสอดส่องหาดวงวิญญาณที่เธอเห็นก่อนหน้านี้ แต่ก็ไร้วี่แววของดวงวิญญาณพวกนั้น
‘น่าแปลกจัง?’
“ฉันต้องทำยังไงเธอถึงจะออกไปจากชีวิตฉัน”
“คะ?”
“หูเธอคงไม่ได้หนวกหรอกนะ...”
“ค่ะ...หูของหนูไม่ได้หนวก” น้ำมนต์เงยหน้าขึ้นมาสบตากับร่างสูงตรงหน้า ก่อนที่เธอจะเอ่ยบอกกับชายตรงหน้าเสียงดังฟังชัด ในขณะที่ใบหน้าสวยหวานยังคงแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม
น้ำมนต์พอจะรู้จักนิสัยของอาจารย์หมอเพิร์ชมาจากป้าแมรี่ ซึ่งเป็นคุณแม่ของเขามาบ้างแล้ว
‘พี่เขาเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างปากร้าย แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นคนใจดีมากจ้ะ’
‘ถึงภายนอกเขาจะดูเป็นคนเย็นชา แต่พี่เขามีหัวใจนะลูก แต่อาจจะยังไม่เคยได้ใช่มันกับใครก็เท่านั้นเอง’
‘ยังไงป้าก็ขอฝากหนูน้ำมนต์ด้วยนะลูก’
“หนูได้ยินคำที่พี่เพิร์ชพูดออกมาทุกคำเลยค่ะ”
“...”
“ถ้าพี่เพิร์ชอยากให้หนูออกไปจากชีวิต หนูคงทำให้ไม่ได้ เพราะรับปากกับคุณป้าไปแล้ว แต่ถ้าพี่ต้องการแบบนั้นจริงๆ”
“พี่เพิร์ชก็ต้องรักษาตัวให้ปลอดภัย เรามีเวลาแค่ 8 เดือนเองค่ะ”
“เธอหมายความว่าอะไร?”
“ถ้าพี่เพิร์ชดูแลตัวเองให้ปลอดภัยไปจนถึงอายุ 37 ปี พี่เพิร์ชกับหนูก็จะเป็นอิสระค่ะ”
“เรื่องไร้สาระ เธอเชื่อเรื่องพวกนี้จริงๆ งั้นเหรอ?”
“ค่ะ หนูเชื่อ”
“ฉันจะบอกอะไรให้นะ...ที่ฉันประสบอุบัติเหตุเพราะฉันพักผ่อนไม่เพียงพอ มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเคราะห์อะไรนั่นหรอก”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง พี่เพิร์ชเคยฝันถึงผู้หญิงบ้างรึเปล่าคะ?”
“...”
“เคยรู้สึกบ้างไหมคะว่าตัวเองไม่ได้อยู่คนเดียว?” น้ำมนต์จ้องหน้าหมอหนุ่มต้องหน้านิ่งๆ ก่อนที่มุมปากของเธอจะกระตุกยิ้มออกมา ปฏิกิริยาที่เขาแสดงออกมันทำให้น้ำมนต์มั่นใจได้ในทันที ‘เข้าฝันเขาด้วยสินะคะ’ น้ำมนต์ได้แต่บอกตัวเองอยู่ภายในใจ
“เพ้อเจ้อ!! เธอพูดอะไรของเธอ ฉันไม่เข้าใจ?”
“ค่ะ พี่เพิร์ชจะคิดแบบนี้ก็ไม่แปลก เพราะพี่ไม่ได้เห็นอย่างที่หนูเห็น”
“เห็น?”
“พี่เพิร์ชอาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่หนูพูด แต่หนูอยากขอให้พี่อดทนแค่ 8 เดือนเองค่ะ เพื่อความสบายใจของคุณป้า”
“หึหึ ฉันน่ะอดทนได้อยู่แล้ว เธอบอกกับตัวเองเถอะว่าจะอดทนกับคนอย่างฉันได้นานแค่ไหน”
“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ น่ากลัวกว่าพี่เพิร์ชหนูก็เคยเจอมาแล้ว...แค่นี้จิบๆ ค่ะ” น้ำมนต์ยกยิ้มหวานออกมา พร้อมกับเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าออกไปด้วยน้ำเสียงที่สดใสอย่างเช่นทุกครั้ง
“...”
คิ้วหน้าของชายหนุ่มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขาเธอดูไม่เหมือนกับผู้หญิงที่เขาเคยเจอมาเลยสักคน ไม่เคยมีใครกล้ายืนเผชิญหน้า และพูดต่อปากต่อคำกับเขาได้แบบเธอ ‘น่าสนใจดีนี่...’
“ไปทานข้าวกันเลยไหมคะ?”
“...”
“อยู่ดีๆ หนูก็รู้สึกหิวขึ้นมาเลยค่ะ แต่ว่ามื้อนี้หนูขอเป็นคนเลี้ยงเองนะคะ”
“...”
9 ปีต่อมา... “น้ำฟ้าพร้อมนะ”“พร้อมค่ะ” น้ำฟ้าในวัย 8 ขวบเอ่ยบอกกับเพื่อนของเธอในวัยเดียวกันเสียงอ่อน ก่อนที่เด็กสาวทั้งสองคนจะพากันกระโดดลงมาจากชิงช้า ด้วยความเป็นเธอโตมากับพี่ๆ ที่เป็นผู้ชาย ทำให้เด็กหญิงน้ำฟ้าดูแก่นแก้วกว่าเด็กสาวในวัยเดี๋ยวกัน“อะ โอ้ยยยย!!!”“บันนี่!!!” น้ำฟ้าร้องเรียกเพื่อนของเธอออกมาด้วยความตกใจ ก่อนที่เธอจะรีบวิ่งเข้าไปดูเพื่อนรักในทันที“เราขอดูหน่อยนะ” มือบางนวดข้อเท้าของเพื่อนตัวเองเบาๆ ก่อนที่เด็กหญิงจะเปิดกระเป๋าและหยิบยาขึ้นมาทาให้กับคนตรงหน้าอย่างเบามือ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อยก่อนที่น้ำฟ้าจะลุกวิ่งออกไปทางโรงอาหารที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล“น้ำฟ้า”“ไปไหนมาเหรอ?”“ไปทำที่ประคบเย็นมาน่ะ น่าจะช่วยแก้ปวดได้ดีกว่า”“เราประคบเย็นให้แล้วอาจจะช่วยบันนี่เบาปวดลงได้บ้าง กลับบ้านไปพยายามอย่าให้บริเวณที่เจ็บโดนความร้อนนะ”“ทำไมละ?” บันนี่เอ่ยถามน้ำฟ้าออกมาด้วยความสงสัย ก่อนที่เธอจะมองไปที่เพื่อนรักอย่างรอคำตอบ“ถ้าเส้นเลือดบริเวณนี้ขยายตัวมันจะทำให้บันนี่ปวดและก็จะหายช้าลงด้วย” น้ำฟ้าอธิบายให้เพื่อนของเธอฟังอย่างใจเย็น ก่อนที่เธอจะเก็บอุปกรณ์ลงกระเป๋าเป้ของตัว
“พี่เพิร์ชจะรีบไปไหนคะ?” น้ำมนต์เอ่ยถามชายหนุ่มออกมาด้วยความสงสัย ก่อนที่เขาจะวางร่างบางของเธอลงบนเตียงอย่างเบามือ“รีบตามไอ้ฮันเตอร์ครับ”“พี่ฮันเตอร์ทำไมคะ?”“ไอ้ฮันเตอร์มันลูก 4 แล้วนะครับเราต้องรีบตามไป” เพิร์ชยกยิ้มออกมาก่อนที่เขาจะ กระโดดขึ้นไปคล่อมร่างบางของคนรักเอาไว้ในทันที ชายหนุ่มค่อยๆ โน้มใบหน้าหล่อเหลาของเขาลงใกล้กับใบหน้าของหญิงสาว...“เดี๋ยวค่ะ...”“ครับ?”“หนูขออาบน้ำก่อนได้ไหมคะ?”“หึหึ ได้สิครับ” เพิร์ชหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างรู้ทันในความคิดของของร่างบางตรงหน้า ก่อนที่ชายหนุ่มจะหลบทางเพื่อให้เธอลุกขึ้นไปอาบน้ำได้สะดวกยิ่งขึ้น“ขอบคุณค่ะ”“ต้องการผู้ช่วยถอดชุดไหมครับ?”“ขอบคุณค่ะ แต่ไม่ดีกว่าหนูไม่อยากรบกวนพี่เพิร์ช”น้ำมนต์ถอดชุดเดรสของตัวเองออกจากร่างบางของตัวเองต่อหน้าหมอเพิร์ช ก่อนที่เธอจะเดินเข้าห้องน้ำไปหญิงสาวหันกลับมามองชายหนุ่ม พร้อมกับยกยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา“หึหึ”“...” น้ำมนต์เดินเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนที่เธอจะหยุดยืนอยู่ที่หน้ากระจกเงา หญิงสาวมองไปยังนิ้วนางข้างซ้ายของตัวเองก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าของตัวเองที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มหวานอีกครั้ง“ไม่อยา
ณ บ้านพักตากอากาศปราณบุรี“พวกเราจะใส่ได้จริงๆ เหรอ?” ตะวันที่นั่งเงียบดูน้ำมนต์กับชูใจลองชุดอยู่นานเอ่ยถามขึ้น พร้อมกับมองชุดบิกินี่สีชมพูบานเย็นในมือของตัวเองอย่างหนักใจ ตะวันจำได้ดีว่าครั้งล่าสุดที่เธอใส่บิกินี่โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากสามีของเธอมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง“ใส่ได้ค่ะ เชื่อชูใจสิพี่ตะวัน”“จริงด้วยค่ะ มีแต่พวกเราพี่ฮันเตอร์ไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ”“เอางั้นก็ได้จ้ะ” ตะวันเอ่ยบอกกับน้องๆ ก่อนที่เธอจะเดินไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำทันที“ถ้าไม่มีผ้าก๊อซปิดแผลคงจะสวยกว่านี้นะคะ” น้ำมนต์มองตัวเองในกระจกก่อนที่เธอจะยู่หน้าขึ้นมาเล็กน้อย ทันทีที่เห็นผ้าก๊อซแปะอยู่บนหน้าผากของเธอ“ไหนพี่ขอดูหน่อยสิ” ชูใจเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของน้ำมนต์ ก่อนที่มือบางจะประคองปลายคางของหญิงสาวพร้อมกับหมุนไปทางซ้ายทีขวาทีเพื่อดูความเรียบร้อยให้กับคนตรงหน้า“เป็นไงบ้างค่ะ?”“ไม่ว่ามุมไหนน้ำมนต์ก็สวย เดี๋ยวตอนถ่ายรูปถ่ายมุมนี้นะพี่รับรองความปัง”“ค่ะ”“แล้วบิกินี่สีฟ้าแบบนี้เข้ากับหนูไหมคะพี่ชูใจ?”“สวยมากค่ะลูกสาว” ชูใจเอ่ยบอกกับน้ำมนต์เสียงหวาน พร้อมกับมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกอย่างช่างใจ บิกินี่สีส้มแบบนี้ยิ
ณ โรงพยาบาลเอกชน“ไอ้เพิร์ช / ไอ้เพิร์ช” เสียงของฮันเตอร์กับสกายร้องเรียกเพิร์ชรักของเขาออกมาเสียงหลง ก่อนที่ทั้งคู่จะวิ่งมาหาชายหนุ่มอย่างร้อนใจสกายจับตัวเพิร์ชหมุนไปมาเพื่อสำรวจความเรียบร้อย จนชายหนุ่มที่พึ่งประสบอุบัติเหตุมาได้ไม่นานเวียนหัวไปหมด แต่เพิร์ชก็ไม่ได้คิดจะห้ามปรามอะไรเพราะเขารู้ดีว่าเพื่อนรักเป็นห่วงเขามาก และที่สำคัญเขามีคนให้ต้องสนใจมากกว่า ‘น้ำมนต์’“น้ำมนต์ล่ะคะ?” ตะวันที่ยืนเงียบอยู่นานเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง ทันทีที่ทุกคนรู้ว่าหมอเพิร์ชกับน้ำมนต์ประสบอุบัติเหตุก็รีบพากันมาที่โรงพยาบาลในทันที โดยมีชูใจคอยดูแลเด็กๆ อยู่ที่บ้านพัก...“อยู่ในห้องฉุกเฉินครับ”“น้องเป็นยังไงบ้าง?” ฮันเตอร์เอ่ยถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปตบไหล่แกร่งของเพื่อนรักเพื่อปลอบใจเพิร์ช สกาย และฮันเตอร์เป็นเพื่อนกันมานานแค่มองตาก็รู้ใจแล้ว ถึงบุคลิกของเพิร์ชจะดูเป็นคนขรึมๆ ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกกับใครทั้งนั้น แต่ครั้งนี้มันต่างไปเพิร์ชที่เก็บสีหน้าเก่งมาตลอดกลับแสดงความกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด“ยังไม่ออกมาเลยว่ะ”“...”“กูเคยคิดว่าตัวเองเป็นหมอที่เก่งช่วยคนมาได้ไม่รู้
วันต่อมา...“แม่รักลูกนะ“หนูก็รักแม่ค่ะ”น้ำหนึ่งกอดลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอไว้แน่น มือบางลูบลงที่หัวน้อยๆ ของเด็กสาวตรงหน้าอย่างทะนุถนอม ก่อนที่ทั้งคู่จะคลายอ้อมกอดออกจากกัน หญิงสาวจึงเดินเข้าไปกอดยายของเธอที่ยืนอยู่ไม่ได้“อยู่กับพี่เขาก็อย่าดื้อ ตั้งใจเรียนนะลูก จุ๊บ~” ยายแม้นเอ่ยบอกกับร่างบางเสียงอ่อนพร้อมกับจุ๊บลงที่หน้าผากหลานสาวอย่างอ่อนโยน“จ้ะยาย”“เดินทางปลอดภัยนะลูก” นทีกอดตอบลูกสาวตัวน้องของเขา มือหนาลูบลงที่หัวของเธออย่างอ่อนโยน ก่อนที่เขาจะกระซิบเบาๆ ที่ข้างหนูของเธอเพื่อให้รู้กันเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น“ถ้าหนูอยากจะหนีก็โทรบอกมาหาพ่อ พ่อจะรีบไปพาลูกหนีได้ทุกเวลาที่หนูต้องการ เข้าใจไหมยัยหนูน้อยของพ่อ...?”“เข้าใจแล้วค่ะ”“หรือถ้าหนูอยู่แล้วไม่มีความสุขก็กลับมาบ้านเรานะลูก พ่อจะรออยู่ที่บ้านเสมอ”“จ้ะพ่อ” น้ำมนต์ยกยิ้มออกมาพร้อมกับพยักหน้าให้กับบิดาของเธอเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเดินไปยืนอยู่ข้างกายของหมอเพิร์ช“พวกเราลาครับ สวัสดีครับ / สวัสดีค่ะ”น้ำมนต์โบกมือลาพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้กับทุกคน ก่อนที่หญิงสาวจะหันไปร่ำลากุมารน้อยทั้งสองตนเสียงอ่อน ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้ตามกลับ
“ตรงนี้เงียบดีนะครับ” เพิร์ชเอ่ยขึ้นมาก่อนที่ชายหนุ่มจะจูงมือบางให้เดินตามเขาขึ้นไปยังศาลากลางน้ำ ดอกบัวชมพูที่บานสะพรั่งอยู่ในสระน้ำตรงหน้ายิ่งมองดูยิ่งน่าหลงไหล“ลมเย็นดีด้วยนะคะ” น้ำมนต์เดินไปนั่งลงบนม้านั่งพร้อมกับทอดสายตามองไปที่สระน้ำเบื้องหน้า“ครับ อากาศน่านอนจริงๆ” เพิร์ชเอ่ยบอกกับร่างบางเสียงอ่อน ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงนอนหนุนตักของเธอ ชายหนุ่มดึงมือบางไปกุมเอาไว้ที่อกแกร่งของเขา พร้อมกับนิ้วเรียวลูบลงที่หลังมือบางของเธอเบาๆ“พี่เพิร์ชเก่งมากเลยนะคะเข้ากับที่บ้านของหนูได้เป็นอย่างดีเลย”“ก็พี่รักลูกสาวเขานี่ครับ พี่ก็ต้องทำให้พวกเขารักและไว้ใจพี่” มุมปากของชายหนุ่มยกยิ้มหวานออกมาพร้อมกับเอ่ยบอกกับเธอออกไปเสียงอ่อน“หนูรักพี่เพิร์ชนะคะ”จุ๊บ!!!“พี่ก็รักหนูครับ” ริมฝีปากหนาจุ๊บลงที่หลังมือของหญิงสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เขาจะเอ่ยบอกกับคำรักกับเธอออกไป‘น่าอิจฉาคนมีความรักจริงๆ โวย’‘เออวะ กลางนาก็ยังไม่เว้น’เสียงของใบเงินกับใบทองดังขึ้นมาจากด้านหลังของต้นไม้ใหญ่ ก่อนที่ร่างของกุมารน้อยทั้งสองตนจะค่อยๆ ปรากฏขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะลุกออกจากตักของหญิงสา