วันต่อมา...
“แม่รักลูกนะ
“หนูก็รักแม่ค่ะ”
น้ำหนึ่งกอดลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอไว้แน่น มือบางลูบลงที่หัวน้อยๆ ของเด็กสาวตรงหน้าอย่างทะนุถนอม ก่อนที่ทั้งคู่จะคลายอ้อมกอดออกจากกัน หญิงสาวจึงเดินเข้าไปกอดยายของเธอที่ยืนอยู่ไม่ได้
“อยู่กับพี่เขาก็อย่าดื้อ ตั้งใจเรียนนะลูก จุ๊บ~” ยายแม้นเอ่ยบอกกับร่างบางเสียงอ่อนพร้อมกับจุ๊บลงที่หน้าผากหลานสาวอย่างอ่อนโยน
“จ้ะยาย”
“เดินทางปลอดภัยนะลูก” นทีกอดตอบลูกสาวตัวน้องของเขา มือหนาลูบลงที่หัวของเธออย่างอ่อนโยน ก่อนที่เขาจะกระซิบเบาๆ ที่ข้างหนูของเธอเพื่อให้รู้กันเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น
“ถ้าหนูอยากจะหนีก็โทรบอกมาหาพ่อ พ่อจะรีบไปพาลูกหนีได้ทุกเวลาที่หนูต้องการ เข้าใจไหมยัยหนูน้อยของพ่อ...?”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
“หรือถ้าหนูอยู่แล้วไม่มีความสุขก็กลับมาบ้านเรานะลูก พ่อจะรออยู่ที่บ้านเสมอ”
“จ้ะพ่อ” น้ำมนต์ยกยิ้มออกมาพร้อมกับพยักหน้าให้กับบิดาของเธอเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเดินไปยืนอยู่ข้างกายของหมอเพิร์ช
“พวกเราลาครับ สวัสดีครับ / สวัสดีค่ะ”
น้ำมนต์โบกมือลาพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้กับทุกคน ก่อนที่หญิงสาวจะหันไปร่ำลากุมารน้อยทั้งสองตนเสียงอ่อน ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้ตามกลับไปกับน้ำมนต์ด้วยเนื่องจากหญิงสาวขอร้องเอาไว้ ช่วงนี้เกิดเรื่องมากมายขึ้นในหมู่บ้านถ้าพวกเขาอยู่ที่นี้คอยดูแลทุกคนหญิงสาวจะสบายใจมากกว่า
“หนูไปก่อนนะจ๊ะ”
‘ระวังตัวด้วยนะ’
‘ถ้ามีอะไรก็เรียกพวกพี่เลยเข้าใจไหม’
“เข้าใจจ้ะ หนูจะดูแลตัวเองอย่างดี”
“ไปก่อนนะคะ”
“เดินทางปลอดภัยนะลูก”
กรุงเทพมหานคร...
“ถ้าหนูไม่ได้ยินจากปากพี่เพิร์ชหนูคงไม่เชื่อว่าเสือสมิงมีจริง” น้ำมนต์ที่กำลังนอนซุกหน้าลงกับอกแกร่งของชายหนุ่ม พร้อมกับโอบกอดรอบเอวสอบของเขาอย่างออดอ้อน ก่อนที่เธอจะเอ่ยออกกับเขาออกมาเสียงอ่อน
“ถ้าพี่ไม่เห็นกับตาพี่ก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันครับ” เพิร์ชเอ่ยบอกกับหญิงสาวพร้อมกับลูบลงที่หัวน้อยๆ ของเธออย่างอ่อนโยน ก่อนที่เขาจะก้มหน้าลงไปมองใบหน้าสวยของแฟนสาวในอ้อมกอดอีกครั้ง
“หนูครับ”
“คะ?”
จุ๊บ!!!
“นอนได้แล้วครับวันนี้เราเดินทางกันมาทั้งวันแล้ว” เพิร์ชจุ๊บลงที่หน้าผากของหญิงสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เขาจะเอ่ยบอกกับร่างบางตรงหน้าเสียงหวาน
“ฝันดีนะครับ”
“ฝันดีนะคะ”
เพิร์ชกระชับกอดร่างบางให้แน่นขึ้นก่อนที่ทั้งคู่จะเผลอหลับไปเพราะความเหนื่อยล้า ตั้งแต่วันที่ทั้งคู่เปิดตัวคบกันอย่างจริงจังเพิร์ชก็แสดงความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อคนรักออกมาอย่างเปิดเผยต่อหน้าทุกคน
เช้าวันต่อมา...
“ลุงเพิร์ชกับน้าน้ำมนต์ตื่นกันแล้วเหรอคะ?” เสียงเจื้อยแจ้วของฮาญาลูกสาวของพ่อฮันเตอร์กับแม่ตะวันดังขึ้นมาจากด้านล่าง ก่อนที่เพิร์ชจะจูงมือน้ำมนต์เดินลงมาด้านล่าง
“ใครเหรอคะ?” น้ำมนต์ส่งยิ้มหวานไปให้กับเด็กสาว ก่อนที่เธอจะหันไปถามชายหนุ่มข้างกายด้วยความสงสัย
“ฮาญาครับ ลูกสาวของไอ้ฮันเตอร์กับตะวัน”
“อ่อ พี่สาวของน้องเฮคเตอร์เหรอคะ?”
“ใช่ครับ”
“สวัสดีค่ะน้องฮาญา” ฮาญายกยิ้มออกมาก่อนที่เธอจะย่อตัวนั่งลงตรงหน้าของเด็กสาว ก่อนที่เธอจะเอ่ยทักทายร่างเล็กตรงหน้าอย่างเป็นกันเอง
“สวัสดีค่ะคุณน้าน้ำมนต์ ตัวจริงสวยมากเลยค่ะ” ฮาญาเดินเข้าไปหาหญิงสาวก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปกอดร่างบางตรงหน้าเอาไว้อย่างอ่อนโยน
“ขอบคุณค่ะ ฮาญาก็น่ารักน่าเอ็นดูมากเลย” น้ำมนต์เอ่ยบอกกับเด็กสาวตรงหน้าพร้อมกับบีบแก้มเธออย่างเอ็นดู
“ไม่ได้เจอกันนานฮาญาไม่คิดถึงลุงเพิร์ชบ้างเหรอครับ?” ชายหนุ่มย่อตัวนั่งลงข้างกายของแฟนสาว ก่อนที่เขาจะเอ่ยถามเด็กสาวตรงหน้าเสียงอ่อน
“โอ้ ฮาญารักลุงเพิร์ชที่สุดเลยค่ะ”
“หึหึ ลุงก็รักฮาญาเหมือนกันครับ”
ฮาญาขยับเข้าไปกอดลุงเพิร์ชของเธอเอาไว้แน่น ก่อนที่เด็กสาวจะนึกอะไรขึ้นมาได้เธอผละออกจากวงแขนของลุงเพิร์ช ก่อนจะเอ่ยบอกกับทั้งสองคนเสียงใส
“เราเขาไปทานอาหารเช้ากันเถอะค่ะ ทุกคนกำลังรอลุงเพิร์ชกับน้าน้ำมนต์อยู่ค่ะ”
“ครับ”
“ทุกคนเหรอคะ?” น้ำมนต์หันไปถามร่างสูงข้างกายด้วยความสงสัย แต่ขาเรียวก็เดินตามเด็กน้อยเข้าไปยังห้องรับประทานอาหารที่อยู่ไม่ไกล
“ยินดีตอนรับน้องน้ำมนต์เข้าสู่ครอบครัวของเราครับ”
หลังจากที่แนะนำน้ำมนต์ให้กับทุกคนได้รู้จักเรียบร้อยแล้ว สกายจึงยกแก้วอเมริกาโน่ขึ้นมาก่อนที่เขาจะเอ่ยบอกกับทุกคนบนโต๊ะอาหารอย่างเป็นกันเอง ในขณะที่เด็กๆ ก็พากันยกแก้มนมสดตรงหน้าของตัวเองขึ้นมาด้วยเช่นกัน
“ขอบคุณมากนะคะ น้ำมนต์รู้สึกเป็นเกียรติมากค่ะที่ได้มากอยู่ตรงนี้กับทุกๆ คน”
“ถ้าน้ำมนต์อยากรู้ว่าจะจัดการกับผู้ชายแก๊งนี้ได้ยังไงปรึกษาพี่กับพี่ตะวันได้ตลอดเวลาเลยนะ”
“ขอบคุณมากค่ะ ถ้าอย่างนั้นหนูไม่เกรงใจแล้วนะคะมีเรื่องอยากปรึกษาพี่ๆ เยอะเลยค่ะ” น้ำมนต์ยกยิ้มออกมาก่อนที่เธอจะเอ่ยบอกกับชูใจและตะวันเสียงสดใส
“เดี๋ยวเราสร้างไลน์กลุ่มกัน”
“ค่ะ”
“เริ่มน่ากลัวเข้าไปทุกวันแล้วว่ะ” สกายพึมพำออกมาก่อนที่มองไปยังชูใจแฟนสาวของเขาด้วยสาวตาเจ้าชู้
“ไม่ได้ทำอะไรผิดมีอะไรต้องกลัววะ?” มุมปากหนาของฮันเตอร์ยกยิ้มออกมา ก่อนที่เขาจะแกล้งเอ่ยถามเพื่อนรักออกมาด้วยความสงสัย
“นั่นสิ คุณสกายไปทำอะไรไว้รึเปล่าครับ?” เพิร์ชช่วยขยี้ด้วยอีกคน
“ได้ทีเอาใหญ่เลยนะครับ”
เพื่อนรักทั้งสามคนจ้องเขม่งใส่กัน ในขณะที่เด็กๆ ยังคงทานอาหารเช้าตรงหน้ากันอย่างเอร็ดอร่อย ตอนนี้เด็กๆ ยังอยู่ในช่วงปิดเทอมกันอยู่ตอนเช้าพวกเขาจึงยังไม่ต้องรีบร้อนไปไหน จะมีก็ตอนบ่ายที่เด็กๆ มีเรียนพิเศษในวิชาที่ตัวเองสนใจเท่านั้น
“อร่อยไหมคะ?” น้ำมนต์หันไปถามฮาญาก่อนที่เธอจะตักปีกไก่ทอดให้กับเด็กสาวตรงหน้า
“ขอบคุณค่ะ” ฮาญายกมือไว้น้ำมนต์อย่างนอบน้อมก่อนที่เธอจะทานข้าวตรงหน้าต่อ...
“ทานเยอะๆ นะคะ”
“ค่ะ”
“น้ำครับ ทานเยอะๆ นะครับ” ไต้ฝุ่นยืนแก้วน้ำมาให้กับฮาญาก่อนที่เด็กชายจะมัดผมที่ลงมาปรกหน้าเด็กสาวอย่างอ่อนโยน
“ขอบคุณค่ะ ฮาญาจะทานให้หมดเลยค่ะ”
“เก่งมากครับ”
“น่ารักจังเลยค่ะ” น้ำมนต์ยกยิ้มออกมาก่อนที่เธอจะหันไปมองคนรักที่กำลังจับจ้องมาที่เธออยู่ก่อนแล้ว
“หนูก็ทานเยอะๆ นะครับ”
“รับทราบค่ะ”
4 ปีต่อมา...
ณ ปราณบุรี
หลังจากที่แฟนสาวของพวกหนุ่มๆ ได้ทำความรู้จักกันเรียบร้อยแล้วทุกคนก็สนิทสนมกันได้อย่างรวดเร็วจนแฟนหนุ่มของพวกเธอยังต้องแปลกใจ พอมีเวลาว่างพร้อมกันทีไรพวกสาวๆ ก็จะนัดรวมตัวกันแทบจะทุกที และครั้งนี้ที่ต่างออกไปจากทุกครั้งก็คงจะไปสถานที่ที่พวกเธอนัดเจอกัน
ปราณบุรีเป็นอีกหนึ่งอำเภอที่อยู่ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีทะเลที่สวยงามเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักและคึกคักที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัด
และเนื่องจากครั้งนี้ทุกคนตั้งใจจะมาฉลองล่วงหน้าให้กับน้ำมนต์ก่อนที่เธอจะเรียนจบ คนที่ได้รับหน้าที่ในการเลือกสถานที่ในครั้งนี้จึงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากน้ำมนต์
“พวกพี่เขาถึงบ้านพักแล้วค่ะ” น้ำมนต์เงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์มือถือของตัวเองก่อนจะเอ่ยบอกกับร่างสูงเสียงอ่อน เนื่องจากหมอเพิร์ชติดประชุมกับคณะแพทย์ต่างชาติจึงทำให้ทั้งคู่ออกมาช้ากว่าคนอื่น
“อีกเดี๋ยวพวกเราก็ถึงแล้วครับ”
“ค่ะ” น้ำมนต์ยกยิ้มออกมาก่อนที่เธอจะมองออกไปรอบๆ สองข้างทางที่มืดสนิทมีเพียงแสงไฟจากหน้ารถของเธอเท่านั้นที่ยังคงส่องสว่างนำทางเขาและเธอไปยังหมุดหมายที่ได้ตั้งเอาไว้
‘ถ้ามากลางวันวิวข้างทางคงจะสวยน่าดูเลย’ น้ำมนต์ได้แต่บอกกับตัวเองอยู่ภายในใจ ก่อนที่คิ้วเรียวจะขมวดเข้าให้กับเล็กน้อยเพราะรู้สึกถึงความผิดปกติที่ด้านนอก
‘น่าแปลกที่ถนนมืดขนาดนี้ แต่กลับไม่มีแม้แต่ดวงวิญญาณของเจ้าที่เจ้าทางเลยสักองค์’
“คิดอะไรอยู่ครับ?” เพิร์ชเอื้อมมือมากุมมือบางของคนรักเอาไว้ ก่อนที่เขาจะเอ่ยถามเธอออกมาด้วยความเป็นห่วง สีหน้าของเธอแสดงความกังวลออกมาอย่างชัดเจน เขาจึงคิดไปเองว่าเธอกำลังรู้สึกกลัวอะไรบางอย่างที่อยู่ด้านนอก
“ไม่มีอะไรค่ะ”
“จริงนะครับ?” เพิร์ชเอ่ยถามออกมาอีกครั้ง ในขณะที่ตาคมยังคงจับจ้องไปยังถนนเบื้องหน้า เนื่องจากเขาไม่ค่อยคุ้นเคยกับเส้นทางตรงหน้าเท่าไหร่นักเพราะฉะนั้นเขาจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด
“จริงค่ะ”
“ไนร่า” เพิร์ชร้องออกมาด้วยความตกใจพร้อมกับหักพวงมาลัยหลบหญิงสาวร่างผอมซีดที่ยืนขวางถนนอยู่ไม่ไกล ก่อนที่รถหรูจะเสียหลักพุ่งไปชนกับต้นไม้ใหญ่และพลิกคว่ำ
“พี่เพิร์ช อ้ายยยยย!!!”
ร่างของเพิร์ชและน้ำมนต์กระแทกถุงลมนิรภัยอย่างแรง ในขณะที่แขนแกร่งยังคงปกป้องร่างบางจากแรงกระแทก แต่ดูเหมือนไม่ว่าเขาจะพยายามเท่าไหร่เธอก็ยังคงเจ็บปวดอยู่ดี
“น้ำมนต์”
“นะ น้ำมนต์” เพิร์ชร้องเรียกร่างบางข้างกายเสียงสั่นด้วยความเป็นห่วง ก่อนที่เขาจะพยายามปลดเข็มขัดนิรภัยของตัวเองออกแล้วคลานไปช่วยหญิงสาวข้างกายในทันที
“...” ความเจ็บปวดและรอยบาดแผลบนร่างกายไม่สามารถหยุดเขาได้เลยแม้แต่น้อย ชายหนุ่มใช้แรงทั้งหมดที่เขามีดึงร่างบางที่ไม่ได้สติออกมาก่อนที่เขาจะอุ้มร่างบางออกมาให้ห่างจากตัวรถ ก่อนที่แสงไฟของรถอีกครั้งจะจอดรถด้านหลังของเขา
“มีใครเป็นอะไรรึเปล่าครับ” พลเมืองดีรีบวิ่งลงมาดูเหตุการณ์ก่อนที่เขาจะเอ่ยถามชายหนุ่มออกมาอย่างร้อนใจ
“โทรตามรถพยาบาลให้ผมที”
“คะ ครับ”
“น้ำมนต์ น้ำมนต์ ได้ยินเสียงพี่ไหมครับ” เพิร์ชร้องเรียกร่างบางที่นอนแน่นิ่งอยู่ตรงหน้าด้วยความเป็นห่วง ก่อนที่เขาจะพยายามตรวจร่างกายของเธอเท่าที่เขาจะทำได้ จังหวะการเต้นของหัวใจยังคงเต้นในจังหวะที่สม่ำเสมอจะมีก็แต่บาดแผลภายนอกที่ค่อนข้างสาหัส ‘ยังไงก็ต้องไปโรงพยาบาลให้ไวที่สุด’
มือหนาดึงผ้าเช็ดหน้าของตัวเองออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ก่อนที่เขาจะวางมันลงบนบาดแผลบนหน้าผากของเธอพร้อมกับกดมือลงเพื่อพยายามห้ามเลือดที่กำลังไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย
“พี่ขอโทษ ไม่ต้องกลัวนะครับเด็กดียังไงหนูก็ต้องปลอดภัย ฮึก” เพิร์ชพร่ำบอกกับหญิงสาวตรงหน้าเสียงสั่น ตาคมที่ฉายแววเจ็บปวดปนรู้สึกผิดจ้องมองไปที่เธอตาไม่กระพริบ ‘ถ้าหนูเป็นอะไรไปพี่คงอยู่ต่อไปไม่ได้’ น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาอาบแก้มทั้งสองข้างของเขาอย่างไม่อาย
“รถฉุกเฉินกำลังมาครับ”
“ขอบคุณครับ”
“น้องผู้หญิงต้องไม่เป็นไรครับ ว่าแต่พวกคุณกำลังจะไปไหนกันเหรอครับ ทำไมถึงได้มาทางนี้ได้...”
“ทำไมครับ?” เพิร์ชเอ่ยถามพลเมืองดีคนเดิมกลับไปด้วยความสงสัย
“คนแถวนี้เขารู้กันดีครับ...กลางค่ำกลางคืนไม่มีใครเขามาทางนี้กันหรอกครับ คุณรู้ไหมว่าข้างหน้าเป็นเหวลึกลงไปในทะเล ถ้าคุณขับต่อไปแล้วหักเลี้ยวไม่ทันมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุใหญ่กว่านี้ได้เลยนะครับ”
“จริงเหรอครับ?”
“จริงสิครับ มีรถหลายคันตกลงไปตรงนั้น ชาวบ้านแถวนี้เขารู้ดีไม่มีใครกล้าเข้ามาหรอกครับ”
วี้ หว่อ วี้ หว่อ~~ วี้ หว่อ วี้ หว่อ~~
“รถพยาบาลมาแล้วครับ”
เพิร์ชอุ้มร่างบางของคนรักขึ้นไปบนเก้าอี้สำหรับเคลื่อนย้าย ก่อนที่ชายหนุ่มจะกระโดดขึ้นรถไปกับคนรักเขาเดินไปหาพลเมืองดีที่เข้ามาช่วยเขาเอาไว้ ก่อนจะยื่นนามบัตรของตัวเองไปให้กับคนตรงหน้า
“ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณต้องการความช่วยเหลือมาหาผมได้ตามที่อยู่นี่นะครับ ขอบคุณมากครับ” เพิร์ชยกมือไหว้ชายตรงหน้าอย่างนอบน้อมก่อนที่เขาจะขึ้นรถฉุกเฉินไปกับคนรัก ไม่รอช้าทันทีที่ทุกอย่างพร้อมแล้วรถฉุกเฉินจึงถูกขับออกไปในทันที
“อ้าวไปกันหมดเลย แล้วกูจะอยู่ทำไม...ก็เผ่นสิวะ” ชายร่างท่วมรีบวิ่งกลับไปยังรถของตัวเอง ก่อนที่เขาจะขับรถออกไปยังทิศทางเดิมที่เขาขับเข้ามาในทันที
‘ช่วยด้วยค่ะ’ หญิงสาวคนหนึ่งยืนโบกรถอยู่ข้างทางที่เขากำลังขับผ่าน
‘มีอะไรให้พี่ช่วยรึเปล่าครับน้อง’
‘ทางนั้นมีคนต้องการความช่วยเหลือพี่เข้าไปช่วยพวกเขาทีนะคะ’
‘อะ เอ่อ’
‘นะคะ...ถ้าพี่เข้าไป และเจอเขา’
‘อะ เอ่อ’
‘เขาจะสามารถช่วยชีวิตของลูกชายพี่ได้นะคะ’
‘ช่วยลูกพี่ได้?’
‘นะคะ’
‘ได้ๆ’ ถึงชายหนุ่มจะไม่รู้ว่าหญิงชุดขาวคนนี้คือใคร แต่ถ้าเป็นเรื่องของลูกชายเขา เขาก็อยากจะลองมันดูสักตั้ง…
ลูกชายคนแรกของเขาพึ่งคลอดออกมาได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น แต่กลับตรวจพบว่าเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วในเด็ก วันนี้เขาตัดสินใจเดินทางไปยืมเงินเพื่อนแต่ก็ถูกปฏิเสธกลับมา ตอนนี้เขาจนหนทางที่จะไปต่อแล้วชีวิตลูกของเขาทั้งคนเขายังปกป้องไว้ไม่ได้
“เธอคนนั้นน่าจะไม่ใช่คน...นี่กูโดนผีหลอกจริงๆ เหรอวะ ชีวิตกูทำไมมันถึงได้ซวยซ้ำซวยซ้อนแบบนี้วะเนี่ย”
ชายหนุ่มลูบแขนของตัวเองอย่างแรง ทันทีที่เขานึกถึงเหตุการณ์ที่พึ่งไปประสบพบเจอมาด้วยตัวเองจากก่อนหน้านี้ ‘หญิงสาวคนนั้นเป็นใคร?’ ยังคงเป็นปริศนากับเขาอยู่เลย แต่ถ้าเธอคนนั้นจะไม่ใช่คน ก็คงจะเป็นดวงวิญญาณที่ดีที่มาขอร้องให้เขาไปช่วยกับเหลือคน
“แค่คิดถึงก็ขนลุกแล้ว”
9 ปีต่อมา... “น้ำฟ้าพร้อมนะ”“พร้อมค่ะ” น้ำฟ้าในวัย 8 ขวบเอ่ยบอกกับเพื่อนของเธอในวัยเดียวกันเสียงอ่อน ก่อนที่เด็กสาวทั้งสองคนจะพากันกระโดดลงมาจากชิงช้า ด้วยความเป็นเธอโตมากับพี่ๆ ที่เป็นผู้ชาย ทำให้เด็กหญิงน้ำฟ้าดูแก่นแก้วกว่าเด็กสาวในวัยเดี๋ยวกัน“อะ โอ้ยยยย!!!”“บันนี่!!!” น้ำฟ้าร้องเรียกเพื่อนของเธอออกมาด้วยความตกใจ ก่อนที่เธอจะรีบวิ่งเข้าไปดูเพื่อนรักในทันที“เราขอดูหน่อยนะ” มือบางนวดข้อเท้าของเพื่อนตัวเองเบาๆ ก่อนที่เด็กหญิงจะเปิดกระเป๋าและหยิบยาขึ้นมาทาให้กับคนตรงหน้าอย่างเบามือ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อยก่อนที่น้ำฟ้าจะลุกวิ่งออกไปทางโรงอาหารที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล“น้ำฟ้า”“ไปไหนมาเหรอ?”“ไปทำที่ประคบเย็นมาน่ะ น่าจะช่วยแก้ปวดได้ดีกว่า”“เราประคบเย็นให้แล้วอาจจะช่วยบันนี่เบาปวดลงได้บ้าง กลับบ้านไปพยายามอย่าให้บริเวณที่เจ็บโดนความร้อนนะ”“ทำไมละ?” บันนี่เอ่ยถามน้ำฟ้าออกมาด้วยความสงสัย ก่อนที่เธอจะมองไปที่เพื่อนรักอย่างรอคำตอบ“ถ้าเส้นเลือดบริเวณนี้ขยายตัวมันจะทำให้บันนี่ปวดและก็จะหายช้าลงด้วย” น้ำฟ้าอธิบายให้เพื่อนของเธอฟังอย่างใจเย็น ก่อนที่เธอจะเก็บอุปกรณ์ลงกระเป๋าเป้ของตัว
“พี่เพิร์ชจะรีบไปไหนคะ?” น้ำมนต์เอ่ยถามชายหนุ่มออกมาด้วยความสงสัย ก่อนที่เขาจะวางร่างบางของเธอลงบนเตียงอย่างเบามือ“รีบตามไอ้ฮันเตอร์ครับ”“พี่ฮันเตอร์ทำไมคะ?”“ไอ้ฮันเตอร์มันลูก 4 แล้วนะครับเราต้องรีบตามไป” เพิร์ชยกยิ้มออกมาก่อนที่เขาจะ กระโดดขึ้นไปคล่อมร่างบางของคนรักเอาไว้ในทันที ชายหนุ่มค่อยๆ โน้มใบหน้าหล่อเหลาของเขาลงใกล้กับใบหน้าของหญิงสาว...“เดี๋ยวค่ะ...”“ครับ?”“หนูขออาบน้ำก่อนได้ไหมคะ?”“หึหึ ได้สิครับ” เพิร์ชหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างรู้ทันในความคิดของของร่างบางตรงหน้า ก่อนที่ชายหนุ่มจะหลบทางเพื่อให้เธอลุกขึ้นไปอาบน้ำได้สะดวกยิ่งขึ้น“ขอบคุณค่ะ”“ต้องการผู้ช่วยถอดชุดไหมครับ?”“ขอบคุณค่ะ แต่ไม่ดีกว่าหนูไม่อยากรบกวนพี่เพิร์ช”น้ำมนต์ถอดชุดเดรสของตัวเองออกจากร่างบางของตัวเองต่อหน้าหมอเพิร์ช ก่อนที่เธอจะเดินเข้าห้องน้ำไปหญิงสาวหันกลับมามองชายหนุ่ม พร้อมกับยกยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา“หึหึ”“...” น้ำมนต์เดินเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนที่เธอจะหยุดยืนอยู่ที่หน้ากระจกเงา หญิงสาวมองไปยังนิ้วนางข้างซ้ายของตัวเองก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าของตัวเองที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มหวานอีกครั้ง“ไม่อยา
ณ บ้านพักตากอากาศปราณบุรี“พวกเราจะใส่ได้จริงๆ เหรอ?” ตะวันที่นั่งเงียบดูน้ำมนต์กับชูใจลองชุดอยู่นานเอ่ยถามขึ้น พร้อมกับมองชุดบิกินี่สีชมพูบานเย็นในมือของตัวเองอย่างหนักใจ ตะวันจำได้ดีว่าครั้งล่าสุดที่เธอใส่บิกินี่โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากสามีของเธอมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง“ใส่ได้ค่ะ เชื่อชูใจสิพี่ตะวัน”“จริงด้วยค่ะ มีแต่พวกเราพี่ฮันเตอร์ไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ”“เอางั้นก็ได้จ้ะ” ตะวันเอ่ยบอกกับน้องๆ ก่อนที่เธอจะเดินไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำทันที“ถ้าไม่มีผ้าก๊อซปิดแผลคงจะสวยกว่านี้นะคะ” น้ำมนต์มองตัวเองในกระจกก่อนที่เธอจะยู่หน้าขึ้นมาเล็กน้อย ทันทีที่เห็นผ้าก๊อซแปะอยู่บนหน้าผากของเธอ“ไหนพี่ขอดูหน่อยสิ” ชูใจเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของน้ำมนต์ ก่อนที่มือบางจะประคองปลายคางของหญิงสาวพร้อมกับหมุนไปทางซ้ายทีขวาทีเพื่อดูความเรียบร้อยให้กับคนตรงหน้า“เป็นไงบ้างค่ะ?”“ไม่ว่ามุมไหนน้ำมนต์ก็สวย เดี๋ยวตอนถ่ายรูปถ่ายมุมนี้นะพี่รับรองความปัง”“ค่ะ”“แล้วบิกินี่สีฟ้าแบบนี้เข้ากับหนูไหมคะพี่ชูใจ?”“สวยมากค่ะลูกสาว” ชูใจเอ่ยบอกกับน้ำมนต์เสียงหวาน พร้อมกับมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกอย่างช่างใจ บิกินี่สีส้มแบบนี้ยิ
ณ โรงพยาบาลเอกชน“ไอ้เพิร์ช / ไอ้เพิร์ช” เสียงของฮันเตอร์กับสกายร้องเรียกเพิร์ชรักของเขาออกมาเสียงหลง ก่อนที่ทั้งคู่จะวิ่งมาหาชายหนุ่มอย่างร้อนใจสกายจับตัวเพิร์ชหมุนไปมาเพื่อสำรวจความเรียบร้อย จนชายหนุ่มที่พึ่งประสบอุบัติเหตุมาได้ไม่นานเวียนหัวไปหมด แต่เพิร์ชก็ไม่ได้คิดจะห้ามปรามอะไรเพราะเขารู้ดีว่าเพื่อนรักเป็นห่วงเขามาก และที่สำคัญเขามีคนให้ต้องสนใจมากกว่า ‘น้ำมนต์’“น้ำมนต์ล่ะคะ?” ตะวันที่ยืนเงียบอยู่นานเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง ทันทีที่ทุกคนรู้ว่าหมอเพิร์ชกับน้ำมนต์ประสบอุบัติเหตุก็รีบพากันมาที่โรงพยาบาลในทันที โดยมีชูใจคอยดูแลเด็กๆ อยู่ที่บ้านพัก...“อยู่ในห้องฉุกเฉินครับ”“น้องเป็นยังไงบ้าง?” ฮันเตอร์เอ่ยถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปตบไหล่แกร่งของเพื่อนรักเพื่อปลอบใจเพิร์ช สกาย และฮันเตอร์เป็นเพื่อนกันมานานแค่มองตาก็รู้ใจแล้ว ถึงบุคลิกของเพิร์ชจะดูเป็นคนขรึมๆ ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกกับใครทั้งนั้น แต่ครั้งนี้มันต่างไปเพิร์ชที่เก็บสีหน้าเก่งมาตลอดกลับแสดงความกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด“ยังไม่ออกมาเลยว่ะ”“...”“กูเคยคิดว่าตัวเองเป็นหมอที่เก่งช่วยคนมาได้ไม่รู้
วันต่อมา...“แม่รักลูกนะ“หนูก็รักแม่ค่ะ”น้ำหนึ่งกอดลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอไว้แน่น มือบางลูบลงที่หัวน้อยๆ ของเด็กสาวตรงหน้าอย่างทะนุถนอม ก่อนที่ทั้งคู่จะคลายอ้อมกอดออกจากกัน หญิงสาวจึงเดินเข้าไปกอดยายของเธอที่ยืนอยู่ไม่ได้“อยู่กับพี่เขาก็อย่าดื้อ ตั้งใจเรียนนะลูก จุ๊บ~” ยายแม้นเอ่ยบอกกับร่างบางเสียงอ่อนพร้อมกับจุ๊บลงที่หน้าผากหลานสาวอย่างอ่อนโยน“จ้ะยาย”“เดินทางปลอดภัยนะลูก” นทีกอดตอบลูกสาวตัวน้องของเขา มือหนาลูบลงที่หัวของเธออย่างอ่อนโยน ก่อนที่เขาจะกระซิบเบาๆ ที่ข้างหนูของเธอเพื่อให้รู้กันเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น“ถ้าหนูอยากจะหนีก็โทรบอกมาหาพ่อ พ่อจะรีบไปพาลูกหนีได้ทุกเวลาที่หนูต้องการ เข้าใจไหมยัยหนูน้อยของพ่อ...?”“เข้าใจแล้วค่ะ”“หรือถ้าหนูอยู่แล้วไม่มีความสุขก็กลับมาบ้านเรานะลูก พ่อจะรออยู่ที่บ้านเสมอ”“จ้ะพ่อ” น้ำมนต์ยกยิ้มออกมาพร้อมกับพยักหน้าให้กับบิดาของเธอเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเดินไปยืนอยู่ข้างกายของหมอเพิร์ช“พวกเราลาครับ สวัสดีครับ / สวัสดีค่ะ”น้ำมนต์โบกมือลาพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้กับทุกคน ก่อนที่หญิงสาวจะหันไปร่ำลากุมารน้อยทั้งสองตนเสียงอ่อน ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้ตามกลับ
“ตรงนี้เงียบดีนะครับ” เพิร์ชเอ่ยขึ้นมาก่อนที่ชายหนุ่มจะจูงมือบางให้เดินตามเขาขึ้นไปยังศาลากลางน้ำ ดอกบัวชมพูที่บานสะพรั่งอยู่ในสระน้ำตรงหน้ายิ่งมองดูยิ่งน่าหลงไหล“ลมเย็นดีด้วยนะคะ” น้ำมนต์เดินไปนั่งลงบนม้านั่งพร้อมกับทอดสายตามองไปที่สระน้ำเบื้องหน้า“ครับ อากาศน่านอนจริงๆ” เพิร์ชเอ่ยบอกกับร่างบางเสียงอ่อน ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงนอนหนุนตักของเธอ ชายหนุ่มดึงมือบางไปกุมเอาไว้ที่อกแกร่งของเขา พร้อมกับนิ้วเรียวลูบลงที่หลังมือบางของเธอเบาๆ“พี่เพิร์ชเก่งมากเลยนะคะเข้ากับที่บ้านของหนูได้เป็นอย่างดีเลย”“ก็พี่รักลูกสาวเขานี่ครับ พี่ก็ต้องทำให้พวกเขารักและไว้ใจพี่” มุมปากของชายหนุ่มยกยิ้มหวานออกมาพร้อมกับเอ่ยบอกกับเธอออกไปเสียงอ่อน“หนูรักพี่เพิร์ชนะคะ”จุ๊บ!!!“พี่ก็รักหนูครับ” ริมฝีปากหนาจุ๊บลงที่หลังมือของหญิงสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เขาจะเอ่ยบอกกับคำรักกับเธอออกไป‘น่าอิจฉาคนมีความรักจริงๆ โวย’‘เออวะ กลางนาก็ยังไม่เว้น’เสียงของใบเงินกับใบทองดังขึ้นมาจากด้านหลังของต้นไม้ใหญ่ ก่อนที่ร่างของกุมารน้อยทั้งสองตนจะค่อยๆ ปรากฏขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะลุกออกจากตักของหญิงสา