Share

91: อ้อมกอดที่โหยหา [2]

Author: Tuk Kung
last update Last Updated: 2025-05-22 16:47:02

“หยกนี้อีกครึ่งหนึ่งอยู่ที่บุตรสาวของข้า และยังเป็นของที่หายากทั่วทั้งใต้หล้านี้มีเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น”

“ท่านทั้งสองรอสักครู่” หยุนชิงมองหยกเพียงแค่นิดเดียวนางก็รู้แล้วว่าอาจูน้อยคือบุตรสาวที่หายไปของผู้สูงศักดิ์ตรงหน้า แต่ก่อนที่นางจะบอกความจริงขอนางได้พูดคุยกับอาจูน้อยก่อน

ผู้สูงศักดิ์ทั้งสองพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ เฝ้ารอหยุนชิงอย่างใจจดจ่อเพียงแค่ได้ข่าวสักนิด หรือมีเบาะแสเพื่อตามหาบุตรสาวก็ยังดี การตามหาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ต้องมีสักวันต้องได้เจอกันอย่างแน่นอนไม่ว่าจะมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตอยู่ก็ยินดี

หยุนชิงหลังจากขอตัวออกมานางเดินตรงไปยังห้องอาจูกำลังเรียนคัดอักษร ก่อนจะพาอาจูไปรู้จักพ่อแม่คงต้องถามความสมัครใจของลูกก่อน ไม่ว่าเด็กน้อยจะตัดสินใจอย่างไรตัวนางกับสามี ก็พร้อมจะเคารพการตัดสินใจอยู่แล้ว

“ท่านอาจารย์ข้าจะขอตัวอาจูสักครู่จะเป็นการรบกวนหรือไม่เจ้าคะ”

“โอ้ ไม่เลยข้าสอนนางเสร็จพอดีตามสบายเถอะ ยังไงข้าขอตัวกลับเลยแล้วกัน”

“ขอบคุณท่านอาจารย์เจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าให้คนไปส่ง” หยุนชิงหันไปบอกให้อาลี่ผู้คอยดูแลอาจู ออกไปจัดหารถม้าเพื่อไปส่งท่านอาจารย์

“ท่านแม่วันนี้ท่านอาจารย์สอนให้จูเขียนตัวอักษรเป็นชื่อตัวเองด้วยเจ้าค่ะ” เด็กน้อยถือกระดาษเขียนด้วยลายมือบิดเบี้ยวมาอวดมารดาเพื่อรอคำชม

“หืม ไหนดูสิเก่งมากเลยลูกสาวใครกันนะ” ชมเด็กสักหน่อยแล้วกันดูหน้าที่คาดหวังนั้นสิ ไม่ชมไม่ได้หรอกเดี๋ยวน้อยใจกันพอดี

“คิก คิก จูเก่ง” เด็กน้อยหัวเราะคิกคักชอบใจกับการเย้าแหย่ของมารดา

หยุนชิงนั่งลงข้างบุตรสาวก่อนจะก้มลงหอมศีรษะทุยนั้นอย่างรักใคร่

“อาจูอยากเจอท่านพ่อกับท่านแม่ที่แท้จริงหรือไม่ลูก”

“อยากเจอเจ้าค่ะ แต่ถ้าเจอแล้วท่านแม่กับท่านพ่อจะยังรักจูหรือไม่เจ้าคะ” เด็กน้อยมองหน้าหยุนชิงด้วยแววตาหมองเศร้า

“ทำไมถึงคิดเช่นนั้นพ่อกับแม่ยังรักเจ้าเสมอ ไม่ว่าจะเป็นใครมาจากไหนอาจูก็เป็นลูกรักของพวกเรา” หยุนชิงดึงตัวเด็กน้อยเข้ามาสวมกอด ส่งมอบความรักทั้งหมดที่มีผ่านอ้อมแขนนี้เพื่อให้เด็กน้อยคลายใจ

“แล้วท่านแม่กับท่านพ่อจะผลักไสให้จูไปอยู่ที่อื่นไหมเจ้าคะ”

“ไม่เลยลูกรัก พ่อกับแม่เคารพการตัดสินใจของเจ้า หากเจ้ายืนยันจะอยู่ที่นี่ไม่ว่าใครก็เอาตัวเจ้าไปไม่ได้ หรือหากเจ้าอยู่กับพ่อและแม่ที่แท้จริง แม่กับท่านพ่อจะไปหาเจ้าบ่อย ๆ ดีไหม หรืออาจูคิดถึงก็มาหาได้มิใช่หรือ”

“อื้ม จูเชื่อท่านแม่เจ้าค่ะ” ในที่สุดเด็กน้อยก็ยิ้มได้ เมื่อความรู้สึกที่ค้างคาใจได้กระจ่างแล้ว

“เจ้าสบายใจแล้ว เราออกไปหาพ่อกับแม่เจ้าดีไหม แม่เชื่อว่าพวกเขาต้องดีใจแน่หากได้เจอเจ้า”

หลังจากที่พูดคุยกับอาจูน้อยจนเข้าใจกันแล้ว หญิงสาวเดินจูงมืออาจูออกมาหาผู้ที่นั่งรออยู่ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ก่อนนางจะถอดสร้อยที่ร้อยหยกชิ้นหนึ่งออกมาจากคออาจู และได้ยื่นให้กับผู้สูงศักดิ์ทั้งสองเพื่อเป็นการยืนยัน

“ใช่หยกชิ้นนี้หรือไม่เจ้าคะ”

“นี่ นี่มัน ลูกพ่อ” เพียงแค่เห็นแวบแรกเขาก็รู้แล้วว่าคือส่วนที่หายไป มือหนาอันสั่นเทายื่นออกมาลูบแก้มกลมอย่างอ่อนโยน น้ำตาของลูกผู้ชายที่ไม่เคยเสียให้ใครมาก่อน บัดนี้มันได้ไหลอาบแก้มไม่หยุดในที่สุดก็ได้เจอกันสักที

“ท่านคือพ่อของข้าหรือเจ้าคะ เช่นนั้นท่านป้าเจียอี…ก็เป็นท่านแม่ของข้าใช่หรือไม่” อาจูน้อยที่ไม่คาดคิดไม่คาดฝันว่าตนจะได้พบพ่อกับแม่ที่แท้จริง และคนคนนั้นก็คือท่านลุงกับท่านป้าใจดีคนที่นางรักอีกด้วย

“ใช่แล้วข้าคือพ่อของเจ้า” อ๋องหนุ่มสวมกอดเด็กน้อยเข้าแนบอกให้สมกับความคิดถึง

“โถ่ อาจูของแม่ก่อนหน้านี้เจ้าคงจะลำบากมากสินะ เจ้าไปอยู่ที่ไหนมารู้หรือไม่พ่อกับแม่ตามหาเจ้าแทบพลิกแผ่นดิน ขอบคุณสวรรค์ที่ให้พวกเราพบเจ้า ขอบคุณพวกเจ้าด้วยนะอาชิงหากไม่ได้พวกเจ้า

ลูกข้าก็ไม่รู้จะเป็นเช่นไร” หนานเจียอีเมื่อทราบว่าอาจูน้อยที่นางรักก็คือบุตรสาวของตน นางแทบจะเก็บความดีใจไม่อยู่ เดินเข้าไปสวมกอดอาจูอีกคน พร้อมปล่อยร้องไห้โฮออกมา

หยุนชิงยืนพิงอกสามีมองภาพสามคนพ่อแม่ลูกกอดกันกลมร้องไห้ไม่หยุด ช่างเป็นภาพที่สวยงามน่ายินดีอะไรเช่นนี้ ความทุกข์ที่พวกเขาสามคนต้องพบเจอ บัดนี้ได้ถูกปลดปล่อยจากความเศร้าโศกด้วยอ้อมกอดของกันและกัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ภพใหม่นี้ข้าอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น   105: ผู้หวังดี [3]

    อ๋องหนุ่มเมื่อได้อ่านเนื้อหาคิ้วหนาขมวดมุ่นจากผู้หวังดีอย่างนั้นหรือ ใครกันผู้หวังดีหรือนี่จะเป็นกลลวง“จะเอาอย่างไรดีขอรับ” หานลู่ถามอย่างเป็นกังวล“หรือเป็นกลลวงขอรับ” หยงเจา“แต่ข้าว่าระวังตัวไว้ก็ดี อย่างไรเสียหากไม่เป็นจริงก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หากเป็นจริงพวกเรายังถือว่าโชคดีรับมือได้ทันมิใช่หรือ” หวังอี้หลินกล่าวถึงความเป็นไปได้ เตรียมการตั้งรับไว้ก่อนเป็นดีที่สุด“ข้าก็คิดเช่นเดียวกันกับอี้หลิน เจ้าเห็นหรือไม่ว่าเป็นผู้ใด” หนานฟาหยางหันกลับไปถามหยุงเจา“กระหม่อมไม่เห็นขอรับพอตามออกไปก็ไม่เห็นผู้ใดแล้ว ฝีมือคนผู้นั้นไม่ธรรมดาแน่นอน” หยงเจากล่าวเสียงเครียด พอเขาหลบธนูได้เขาก็รีบตามออกไปดูตามวิถีธนูดอกนั้นยิงเข้ามา แต่ออกไปแล้วกลับไม่เจอผู้ใดและอีกฝ่ายไม่ทิ้งร่องรอยไว้เลย ธนูที่ถูกยิงมาเป็นเพียงธนูที่หาซื้อได้ทั่วไป ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามาจากที่ไหน“อืม เช่นนั้นเราก็คงได้แต่เตรียมการป้องกันไว้ก่อน แต่เรื่องนี้เราต้องปิดเป็นความลับเพราะข้าเชื่อว่าเสด็จลุงต้องมีสายแทรกซึมอยู่เป็นแน่ หากรู้ว่ามีผู้หวังดีพวกเขาจะไหวตัวทัน”“กระหม่อมมีผู้ที่ไว้ใจได้ขอรับ เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วงให้เป็นห

  • ภพใหม่นี้ข้าอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น   104: ผู้หวังดี [2]

    เพียงไม่นานองครักษ์ก็ได้นำเจ้าเสี่ยวเป่าเดินออกมา หากแต่ยังมีเจ้าหมาตัวสีน้ำตาลเข้ม ร่างกายสูงใหญ่กว่าเจ้าเสี่ยวเป่าเป็นเท่าตัว เดินตามเข้ามาอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด“ตัวสีดำคือเจ้าเสี่ยวเป่า ส่วนตัวสีน้ำตาลคือเจ้าต้าเป่า ข้าจะให้พวกมันทั้งสองอยู่เป็นเพื่อนเล่นกับอาจูระหว่างอยู่ที่นี่” หนานฟาหย่างเอ่ยบอกกับหยุนชิง ที่ดูเหมือนว่าตอนนี้คล้ายกับวิญญาณได้ออกจากร่างไปแล้วเจ้าเสี่ยวเป่าสวนยังพังเละมีต้าเป่าอีกมันจะไม่จัดการนางลงท้องก่อนใช่หรือไม่ ดูท่าทางที่มันสะบัดขนนั้นสิราวกับสิงโตก็ไม่ปาน“มันจะไม่ จะไม่กินพวกข้าใช่ไหมเจ้าคะท่านอ๋อง” หยุนชิงหันไปถามอย่างหวาดกลัว ถึงนางจะเป็นคนรักสัตว์แต่กับเจ้าหมาสองตัวนี้ขอยกเว้นแล้วกันนะ เพราะมันเกินคำว่าน่ารักไปไกลมาก“เจ้าไม่ต้องห่วงหรอกพวกมันถูกฝึกมาอย่างดี มันรู้ว่าควรทำอะไร ข้าจะมอบคนเลี้ยงไว้ดูแลเจ้าไม่ต้องกังวล” หนานฟาหยางเกือบจะหลุดขำ เมื่อเห็นท่าทางเหมือนกับสติหลุดของหยุนชิง“ท่านพ่อวางลูกลง จูจะเป็นเล่นกับเจ้าเสี่ยวเป่า ต้าเป่าเจ้าค่ะ” เด็กน้อยเห็นเพื่อนใหม่ นางตื่นเต้นมากพร้อมกับดิ้นจะลงให้ได้พอเด็กน้อยลงจากอ้อมกอดของผู้เป็นบิดาได้ อาจูรีบ

  • ภพใหม่นี้ข้าอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น   103: ผู้หวังดี [1]

    หลังจากวันที่นางพาอาจูน้อยไปฝากไว้ที่วังอ๋อง เจ้าเด็กน้อยก็เอาแต่บ่นอยากไปเล่นกับเจ้าเสี่ยวเป่าหมาดำร่างยักษ์ ซึ่งมองอย่างไรนางก็หาความน่ารักของมันไม่เจอ ตัวมันสูงใหญ่เห่าออกมาทีหัวใจนางจะวายยังจำได้ในตอนที่มันกระโจนใส่ทหารผู้หนึ่งในขณะที่นายทหารผู้นั้นกำลังจะวิ่งเข้าหาอาจู เพราะเกรงว่าเจ้าเด็กดื้อจะสะดุดขาล้ม เจ้าหมายักษ์นั้นกระโจนใส่เขาครั้งเดียวถึงกลับปลิวล้มหน้าทิ่มแต่ก็แปลกเมื่ออยู่กับเจ้าเด็กดื้อมันกลับทำตัวสงบเสงี่ยมไม่มีท่าทีว่าจะดุร้าย บอกให้นั่งก็นั่ง บอกให้นอนก็นอน ให้ทำอะไรก็ทำ ซ้ำยังทำท่าทีออดอ้อนได้ขัดกับหน้าตาความใหญ่ยักษ์ของตัวมันอีก ก่อนจะกลับยังทำหน้าละห้อยไม่อยากจากกันซะอย่างงั้น“ท่านแม่เมื่อไรจะพาจูไปเล่นกับเจ้าเสี่ยวเป่าอีกเจ้าคะ” เจ้าเด็กน้อยเอียงคอทำตาปริบ ๆ ทำมือประสานกันตรงหน้าอก มองหยุนชิงอย่างวาดหวังหยุนชิงกำลังเย็บชุดเด็กไว้ให้ลูกที่กำลังจะเกิดมาก็ต้องหยุดมือ หันไปมองบุตรสาวพร้อมกับหรี่ตามอง ท่าทางออดอ้อนนั้นคืออะไรแม่รู้ทันเจ้าหรอกนะ รอบนี้แม่ไม่หลงกลสายตาเจ้าแน่นอน“แม่ไม่หลงกลเจ้าหรอกนะไม่ต้องมาอ้อนเจ้ากับเจ้าเสี่ยวเป่าเล่นกันจนสวนในจวนแม่ใหญ่เละหมด”

  • ภพใหม่นี้ข้าอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น   102: ช่วยเหลือชายแปลกหน้า [3]

    เสียงพูดคุยกันของเหล่าลูกจ้างภายในร้าน ทำให้ไป๋ถังที่ยืนฟังอยู่ตรงมุมทางขึ้นบันไดชั้นสองถึงกับยิ้มตาม เห็นรอยยิ้มพวกเขาแล้วก็ช่างทำให้บรรยากาศดียิ่ง“พวกเจ้ามัวแต่คุยอะไรกัน อย่ามัวแต่จับกลุ่มนินทารีบ ๆ ไปทำงานได้แล้ว” ไป๋ถังตะโกนออกมาเสียงดังทำให้เหล่าลูกจ้างที่จับกลุ่มคุยกันถึงกับสะดุ้ง จนต้องรีบแยกย้ายกันไปทำงานตามหน้าที่หลังจากหยุนชิงตรวจบัญชีและทำการแจกจ่ายเงินรางวัลให้กับทุกคนแล้ว ก็ได้เวลากลับไปรับอาจูกลับบ้าน แต่ก่อนที่จะไปรับอาจูหญิงสาวคิดว่าจะไปเดินตลาดซื้อขนมสักหน่อย ในระหว่างที่เดินดูข้าวของต่าง ๆ ไปเรื่อย หยุนชิงดันเห็นชายกลุ่มหนึ่งกำลังแบกร่างของชายตัวโตแต่งตัวไม่เหมือนกับชาวแคว้นหนานชายฉกรรจ์กลุ่มนั้นเมื่อนำร่างชายร่างใหญ่มาทิ้งไว้ตรงตรอกซอยห่างไกลผู้คน ก่อนพวกมันจะจากไปดูเหมือนชายคนนั้นจะฟื้นขึ้นมา พยายามจะวิ่งหนีแต่กลับถูกพวกมันทำร้ายจนเขาสลบไป จากนั้นกลุ่มที่ทำร้ายชายผู้นั้นได้กรอกยาบางอย่างให้เขากินแล้วจึงรีบจากไป“พวกเจ้ารีบไปดูเร็วเข้าเขายังมีลมหายใจหรือไม่” หยุนชิงที่ยืนแอบดูอยู่รีบสั่งให้บ่าวชายที่ติดตามมา ไปดูชายผู้นั้นโดยเร็ว“ยังมีลมหายใจอยู่ขอรับนายหญิง” บ

  • ภพใหม่นี้ข้าอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น   101: ช่วยเหลือชายแปลกหน้า [2]

    ด้านหยุนชิงที่มาถึงยังร้านสุราฟู่หวังแล้วนางได้เดินตรงไปยังห้องทำงานทันที เพราะกว่าสองเดือนแล้วที่ตนไม่ได้เข้ามาเลย ซือซือก็ท้องโตใกล้คลอดแล้วด้วย หยุนชิงจึงให้อีกฝ่ายพักเพื่อรอเตรียมคลอด ช่วงนี้ร้านจึงดูวุ่นวายสักหน่อยเพราะต้องหาคนมาช่วยงานเพิ่ม “ของว่างกับน้ำชาเจ้าค่ะนายหญิง” อาเล่อนำของว่างพร้อมกับน้ำชามาให้เจ้านาย เพราะเห็นว่าช่วงนี้นายหญิงหิวบ่อยนางจึงได้นำเอาขนมมาให้กินรองท้อง ก่อนจะถึงเวลาอาหารเที่ยง“ขอบใจมากอาเล่อเจ้าช่วยไปเรียกพี่ไป๋ถังมาพบข้าทีนะ” หยุนชิงละสายตาจากสมุดบัญชีหันไปบอกอาเล่อที่จัดของว่างให้นางอยู่บนโต๊ะ“เจ้าค่ะนายหญิง”อาเล่อออกไปไม่นานไป๋ถังก็เดินเข้ามายังห้องทำงานของหยุนชิงอย่างรีบร้อน ด้วยอาเล่อได้บอกเขาว่านายหญิงเรียกพบเขาก็กลัวว่าอีกฝ่ายมีเรื่องเร่งด่วนให้ทำ หรือว่าตรวจพบสิ่งผิดปกติของร้าน“อาชิงมีเรื่องอะไรหรือถึงได้เรียกให้หาข้า” เมื่อเข้ามายังในห้องไป๋ถึงจึงรีบถามออกไปอย่างร้อนรน“พี่ถังนั่งลงคุยกันก่อนเถอะ ข้าแค่มีเรื่องจะปรึกษาท่านเท่านั้นไม่มีอะไรร้ายแรงหรอกเจ้าค่ะ”“เจ้ามีเรื่องอะไรหรือ” เมื่อไม่ได้เป็นเรื่องร้ายแรงอะไร ไป๋ถึงจึงมีสีหน้าผ่อนคลายลง

  • ภพใหม่นี้ข้าอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น   100: ช่วยเหลือชายแปลกหน้า [1]

    หยุนชิงเตรียมตัวเข้าเมืองแต่เช้าเนื่องจากเป็นวันที่ครบกำหนดจะต้องเข้าไปดูร้านสุราฟู่หวัง แต่กว่าที่หยุนชิงจะได้ออกเดินทางเพื่อไปตรวจดูกิจการร้านสุราได้ ก็ต้องเปลืองแรงพูดคุยกับสามีอยู่เป็นนาน ด้วยหวังอี้หลินไม่ยินยอมให้ภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ออกไปไหนโดยที่เขาไม่ได้ไปด้วยเพราะอายุครรภ์ของหยุนชิงเกือบจะเข้าเดือนที่สี่แล้ว แต่ท้องนางกลับนูนใหญ่ราวกับไม่ใช่ท้องแรก ทำให้หวังอี้หลินเป็นกังวลมากแต่ก็มีบางคนบอกเขาว่าอาจจะได้ลูกแฝดก็เป็นได้เมื่อมีหลายคนคาดเดามากขึ้นยิ่งทำให้หวังอี้หลินไม่ยอมให้ภรรยาได้ทำอะไรเลย จนเจ้าตัวเกิดอาการเบื่อหน่ายต้องยื่นคำขาดให้สามี หากไม่ยอมให้ตนไปตรวจร้านนางก็จะไม่ยอมให้หวังอี้หลินเข้าใกล้เป็นเวลาหนึ่งเดือน และผู้ที่รักภรรยายิ่งอย่างหวังอี้หลินมีหรือจะไม่ยอม หากไม่ได้เข้าใกล้ภรรยาคงไม่พ้นใจขาดตายเป็นแน่แต่กว่าหยุนชิงจะออกจากบ้านได้ ก็ต้องยอมให้มีผู้ติดตามไปด้วยหลายคน เพื่อความสบายใจของสามีตั้งแต่การทดลองระเบิดคราวนั้น ทั้งท่านอ๋องและหวังอี้หลินก็ดูเหมือนจะสนิทกันมากขึ้น ออกไปข้างนอกทำอะไรบางอย่างด้วยกันตลอด นางก็พอจะเดาได้ว่าเป็นเรื่องอะไรทำได้เพียงแค่เป็นห่วงเพี

  • ภพใหม่นี้ข้าอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น   99: ทดลองระเบิด [3]

    หยุนชิงได้เดินนำทางอ๋องหนานฟาหยางไปยังเชิงเขา ที่ที่นางกับหวังอี้หลินได้จัดเตรียมบางอย่างไว้ ซึ้งตอนนี้หวังอี้หลินกับพวกรวมทั้งบ่าวชายบางส่วนได้ไปรอที่นั่นแล้ว นางจะทำวันนี้คือทดลองระเบิดที่ได้ทำไว้ว่าจะได้ผลหรือไม่ด้วยว่ากลัวจะเป็นอันตรายต่อชาวบ้าน นางจึงให้คนไปแจ้งแก่ผู้นำหมู่บ้านห้ามให้ชาวบ้านเข้ามายังเชิงเขาแถบนี้ โดยนางบอกกับผู้นำหมู่บ้านว่าท่านอ๋องกับพระชายาจะเสด็จมาเพื่อความปลอดภัยและเพื่อความเป็นส่วนตัว อาจมีการฝึกซ้อมของทางจวนอ๋องจะมีเสียงดังสักหน่อย โดยผู้นำหมู่บ้านก็ทำตามเป็นอย่างดีตามที่ได้รับการบอกกล่าวมา ด้วยกลัวว่าชาวบ้านจะตกใจเมื่อเดินมาถึงเชิงเขาอ๋องหนานฟาหยางได้พบกับหวังอี้หลินที่ยืนรออยู่แล้ว เขาแถบนี้ไม่ค่อยมีต้นไม้ มีก้อนหินน้อยใหญ่เรียงรายเต็มไปหมด พื้นที่แถบนี้จึงไม่มีผู้คนหรือสัตว์ป่าเข้ามาเพราะไม่มีอะไรที่สามารถเก็บไปกินเป็นอาหารได้“คารวะท่านอ๋องขอรับ” หวังอี้หลินประสานมือทั้งสองข้างทำความเคารพอ๋องหนุ่ม“ตามสบายเถอะพวกเจ้ามีสิ่งใดให้ข้าดูหรือ”“วันนี้กระหม่อมจะทดลองการใช้ระเบิดขอรับ” หวังอี้หลินบอกถึงจุดประสงค์ที่จะทดลองประสิทธิภาพอาวุธใหม่“ระเบิดหรือ ถ้า

  • ภพใหม่นี้ข้าอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น   98: ทดลองระเบิด [2]

    หนานฟาหยางวางภรรยาลงอย่างเบามือบรรจงสวมชุดให้กับภรรยาจนแล้วเสร็จ จากนั้นจึงได้จับจูงภรรยาสาวมานั่งหน้ากระจก เขาหยิบหวีขึ้นมาสางผมให้จากนั้นม้วนผมเป็นมวยขึ้นเหนือศีรษะ ก่อนจะปักปิ่นรูปผีเสื้อประดับด้วยไข่มุกราตรีสีชมพู เข้ากับชุดก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย“เสด็จพี่ทำผมได้งามนักเพคะ” หนานเจียอีที่หมุนมองด้านซ้ายด้านขวา ได้ชื่นชมฝีมือการทำผมของอ๋องหนุ่มพร้อมกับยิ้มหน้าบานอย่างพอใจ“เมื่อก่อนพี่ทำผมให้เสด็จแม่ทุกวัน ต่อไปพี่จะทำให้เจ้าเช่นนี้ทุกวันดีหรือไม่”“ได้หรือเพคะ” หนานเจียอียิ้มเต็มใบหน้าอย่างมีความสุข หากเมื่อนึกบางอย่างออกใบหน้าหวานกลับหมองเศร้าลง“ได้สิเหตุใดต้องทำหน้าเช่นนั้น” มือหนายื่นออกไปเชยคางภรรยาสาวตรงหน้าให้เงยหน้ามามองที่ตน พร้อมกลับยิ้มให้ด้วยความเอ็นดู“จะไม่เป็นการรบกวนหรือเพคะ”“เราเป็นสามีภรรยากันมิใช่หรือไม่มีสิ่งใดที่รบกวน ต่อไปหากมีสิ่งใดก็ให้บอกกันตามตรงได้หรือไม่” ที่ผ่านมาพวกเขาต่างไม่มีใครยอมพูด ต่างก็จมอยู่กับความคิดของตัวเองมามากพอแล้ว“เพคะหม่อมฉันเข้าใจแล้ว”หนานฟาหยางโน้มลงไปจุมพิตภรรยาด้วยความรักที่มีอยู่มากล้น ร่างบางหลับตาพริ้มตอบรับจูบนั้นด้วยความรัก

  • ภพใหม่นี้ข้าอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น   97: ทดลองระเบิด [1]

    ยามซื่อ (09.00-10.59น.) หนานเจียอีงัวเงียตื่นขึ้นมาในยามสาย เสียงเอะอะมาจากด้านนอกทำให้ผู้ที่นอนอยู่ในห้องรู้สึกตัวตื่น แต่เมื่อปรับสายตาให้มองเห็นชัดเจนขึ้นทำให้นางได้รู้ว่า ห้องที่ดูแปลกตาและใช้หลับนอนทั้งคืนไม่ใช่เรือนนอนของตัวเองข้ามาอยู่ที่ห้องท่านอ๋องได้อย่างไร จำได้ครั้งสุดท้ายคือตนนั่งดื่มเจ้าน้ำองุ่นสีแดง แย่แล้วนี่ยามใดช่างน่าอายซะจริง ร่างบางรีบร้อนลงจากเตียงนุ่มเมื่อเท้าสัมผัสถูกพื้นแข้งขาที่อ่อนแรงทำให้ร่างบางล้มลงกับพื้น นางกำนัลที่รอปรนนิบัติผู้เป็นนายอยู่ด้านนอก เมื่อได้ยินเสียงดังจากข้างในต่างก็รีบเข้ามาดู“พระชายาเจ็บตรงไหนหรือไม่เพคะ” เหล่านางกำนัลเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เพราะตอนที่พวกนางเข้ามาเห็นพระชายานั่งกองอยู่กับพื้นแล้ว อีกอย่างหากท่านอ๋องทราบพวกนางก็ไม่พ้นถูกลงโทษ เรื่องที่ไม่ดูแลพระชายาให้ดี“ไม่เป็นไรข้าเพียงแค่หกล้มนิดหน่อย” หนานเจียอีพูดออกไปเสียงเบาหวิว ด้วยเพราะสังเกตเห็นสายตาของเหล่านางกำนัลทั้งหลายมองมาด้วยสายตาแปลก ๆ จนนางต้องก้มลงมองตนเองพบว่าร่างกายเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าห่มคลุมเพียงส่วนล่างไว้เท่านั้น อีกทั้งยังมีรอยกุหลาบสีเข้มทั่วทั้งตัว บ้าจริ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status