Beranda / โรแมนติก / มังกรหวนคืนบัลลังก์ / ตอนที่9.ทำอย่างอื่นได้หรือไม่

Share

ตอนที่9.ทำอย่างอื่นได้หรือไม่

Penulis: Bunmeebooks
last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-02 16:49:34

“ให้ข้าช่วยทำงานอย่างอื่นได้หรือไม่ หาบน้ำ ผ่าฟืนหรือล้างจานก็ได้”

เขาลั่นวาจาออกไปทั้ง ๆ ที่ตนเองไม่เคยทำสักอย่าง แต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องนอนกับผู้หญิงเพื่อแลกเบี้ย

“เจ้าคิดว่าล้างจาน ผ่าฟืนกี่ชาติถึงจะชดใช้ค่ายา ค่าเสื้อผ้าที่เจ้าสวมใส่ได้ เหอะ ! อย่างไรเสียเจ้าก็ต้องรับแขก !”

“ขะ... ข้าทำไม่เป็น”

เมื่อต่อรองไม่ได้ผล เขาก็ต้องใช้วิธีโกหก เพราะตนตอนนี้ คือ เด็กหนุ่มวัยสิบแปดบางทีอาจจะยังไม่เคยเรียนรู้อย่างว่ามาก่อน

วาจาของเขาทำให้ทั้งเจียวมี่ และผู้คุมต่างหัวเราะลั่น

“เจ้าไม่ต้องกังวลไป... ข้าได้เตรียมผู้ฝึกสอนให้เจ้าแล้ว เหมยฮวาเข้ามาได้แล้ว”

ประโยคหลังแม่เล่าตะโกนออกไปทางประตู  ไม่นานนักสตรีวัยสามสิบห้าในชุดบางเบา ก็เดินเข้ามาในห้อง

จากนั้น เจียวมี่ก็ลุกขึ้น แล้วเอ่ยว่า

“ช่วยสอนเด็กใหม่ที”

สิ้นคำ นางก็เดินออกไป

เฉินเฉิงเห็นเช่นนั้นจึงสาวเท้าจะออกจากห้องไปเช่นกัน แต่ถูกผู้คุมซ่องทั้งสองผลักเข้ามาในห้องเต็มแรงจนล้มลงไปกับพื้น

“นายหญิงสั่งว่า เจ้าต้องเรียนรู้งานกับเหมยฮวาจนครบทุกกระบวนท่าจึงจะออกจากห้องนี้ไปได้”

จบคำพวกมันก็กระแทกประตูปิดดัง ปัง !

เหมยฮวา ย่อตัวลงนั่งข้าง ๆ บุรุษหนุ่ม นางฉีกยิ้มอย่างยินดีที่สุดในชีวิตที่ได้มีโอกาสร่วมเตียงกับบุรุษรูปงามเกินมนุษย์เช่นนี้

“มาเถอะ... ข้าจะสอนท่านให้ครบทุกกระบวนท่า”

มือเหี่ยวย่นของนางวางลงบนไหล่เขา

เฉินเฉิงถึงกับผงะ รีบเบี่ยงตัวหลบแล้วคลานหนีอย่างลนลาน

“ยะ... อย่าเข้ามานะ”

เขาร้องเสียงสั่น ใบหน้าที่โน้มลงมาใกล้เขานั้น พอกแป้งเพื่อกลบริ้วรอยบนใบหน้าจนหนาเตอะ ริมฝีปากแดงฉาน ยามนางยิ้มให้ราวกับภูตผีแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว จนส่วนที่แสดงความบุรุษของเขาแทบจะหดเข้าไปภายในกายอยู่แล้ว

- ให้ตายเถอะ แม้แต่นางกำนัลชั้นต่ำที่สุดในตำหนักเขา ยังสวยกว่าสตรีผู้นี้เป็นร้อยเท่า ! -

“หากไม่เข้าใกล้ท่าน.... แล้วข้าจะสอนได้อย่างไร”

นางทั้งเอ่ยวาจา ทั้งถาโถมตัวเข้าหาเขาคล้ายกับจะกระโจนเข้ากอดเขาก็มิปาน

“อ๊าก...”

เฉินเฉิงกลิ้งตัวหลบไปอีกทางอย่างหวาดผวา เมื่อครู่ที่นางกระโดดเข้าหานั้น อาภรณ์ของนางได้เผยอออกจนเห็นทรวงอกห้อยโตงเตงราวกับบวบเหี่ยว ยิ่งเพิ่มความสยองมากขึ้นจนเขาแทบอยากจะกลั้นใจตาย

“ปล่อยข้าไปเถอะ”

“ข้าไม่ได้จะฆ่าเจ้าเสียหน่อย พวกเรากำลังจะทำเรื่องสนุก ๆ กันต่างหาก”

นางมองเขาคล้ายกับอาหารทิพย์ที่หากินได้ยากยิ่ง ก่อนจะกระโจนเข้าหาเขาอีกครั้ง

ตุบ !

ร่างของนางคร่อมบุรุษหนุ่มเอาไว้ได้ จากนั้นนางก็ระดมจูบเขาไปทั้งใบหน้า

“อ๊าก...... ช่วยด้วยยยยย .... ช่วยข้าด้วย...”

เฉินเฉิงตะโกนสุดเสียง ทั้งผลัก ทั้งดันร่างเหมยฮวาออกจากตัว แต่นางกลับกอดเขาเป็นพัลวันอย่างเหนียวหนึบราวกับมือปลาหมึก หรือวันนี้เขาต้องสังเวยความเป็นบุรุษให้กับสตรีอัปลักษณ์ผู้นี้แล้วจริง ๆ

1 ชั่วยามผ่านไป

เจียวมี่ก็เดินนวยนาดมาหยุดที่ประตูหน้าห้องฝึกรับแขก

“สองคนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง”

นางเอ่ยถามผู้คุมซ่องสองนายที่เฝ้าห้องนี้เอาไว้

“เสียงเงียบไปนานแล้วขอรับ คาดว่าคงจะนอนกระเส่ากอดกันกลม”

ผู้คุมซ่องนายหนึ่งรีบเอ่ยรายงานยิ้ม ๆ เพราะตลอดระยะเวลาที่เขายืนเฝ้าอยู่ด้านนอกนั้นได้ยินเสียงกรีดร้องของทั้งคู่ดังเป็นระยะ ๆ อีกทั้งยังมีเสียงโครมครามแววมาให้ได้ยินไม่ขาดสาย และเพิ่งเงียบเสียงลงไปราว ๆ ครึ่งชั่วยามก่อนที่นายหญิงจะมาถึง

เจียวมี่พยักหน้ารับทราบ แล้วปรายตาส่งสัญญาณให้ผู้คุมซ่องเปิดประตู

แอ๊ด.........

ภาพแรกที่ปรากฏสู่สายตาของเจียวมี่คือ เหมยฮวานั่งอย่างหมดอาลัยตายอยู่ที่โต๊ะ ผมเผ้ายุ่งเหยิง แต่เสื้อผ้ามิได้หลุดลุ่ยแต่ประการใด คิ้วที่บรรจงวาดจนสวยขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย

“เหมยฮวา เจ้าสอนงานเฉินเฉิงเรียบร้อยแล้วรึ”

“จะสอนได้อย่างไร บุรุษโฉมงามของท่านเอาแต่วิ่งหนีข้า ข้าจนปัญญาที่จะสอนเขาแล้ว”

เหมยฮวาตอบด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย นางเคยเป็นสตรีอันดับหนึ่งในหอคณิกามาก่อน จากนั้นก็ผันตัวมาเป็นครูฝึกเรื่องบนเตียงให้กับบรรดาบุรุษหนุ่มของหอไซ้ยเกอ ผู้ชายผ่านมือนางมานับพันคาดไม่ถึงว่าวันนี้จะถูกเด็กหนุ่มปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมฉีกหน้าเอาเสียได้

“แม้แต่เจ้าก็ปราบเขาไม่ได้เชียวรึ”

เจียวมี่โพล่งออกมา

เหมยฮวาพยักหน้ายอมรับความพ่ายแพ้อย่างสิ้นท่า เจียวมี่ถึงกลับเอามือลูบอกแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อระงับความโกรธ พลางปลอบตนเองว่า หากอยากได้เพชรดีไว้ประดับหอต้องใจเย็น ๆ

“แล้วเจ้าเด็กหนุ่มนั่นอยู่ที่ใด”

“ตรงนู้น”

เหมยฮวาชี้มือไปที่หน้าต่าง

เจียวมี่เบิกตากว้างแล้วเอ่ยเสียงดังลั่นด้วยความตื่นตระหนกว่า

“เจ้าอย่าบอกนะว่า มันกระโดดลงจากหอตายไปแล้ว !”

“ไม่ใช่ ท่านมาดูนี่”

เหมยฮวาลากมือแม่เล้ามาที่หน้าต่าง แล้วชี้ให้ดูบุรุษในอาภรณ์หลุดลุ่ย ยืนอยู่บนหลังคาชั้นสอง พลางเกาะขอบหน้าต่างชั้นสามของหอเอาไว้แน่น

“เจ้าลงไปทำอะไร รีบขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ”

คราวนี้ นางโกรธจนควันออกหูแล้วจริง ๆ นางหมดเบี้ยไปกับบุรุษรูปงามผู้นี้ไปมากโข แต่เขากลับไม่เชื่อฟังนางแม้แต่น้อย และหากเขาผลัดตกลงไปตาย ชื่อเสียงหอไซ้ยเกอจะเสื่อมเสียแค่ไหน ชาวบ้านต้องเอานางไปวิจารณ์แน่ ๆ ว่า บังคับบุรุษให้ขายตัว !

“ข้าไม่ขึ้น.... จนกว่าท่านจะรับปากว่า จะไม่ให้ข้าทำงานรับแขกเป็นอันขาด”

เฉินเฉิงตะเบ็งเสียงตอบกลับมา เขายอมตายดีกว่ายอมนอนกับสตรีหนังหย่อนหน้าเหยี่ยวเหล่านั้น !  แม้ในชาติภพที่แล้วเขาจะเป็นฮ่องเต้ที่ลุ่มหลงในอิสตรี มีสนมนับพันก็เถอะ แต่อย่างน้อยพวกนางก็เป็นหญิงงามทั้งสิ้น ไม่เหี่ยว ไม่หย่อนเหมือนสตรีที่มาเยือนที่หอนี้

“เฉินเฉิง ! เจ้าอย่าได้คืบแล้วจะเอาศอก !”

เจียวมี่ชี้นิ้วไปที่เฉินเฉิงด้วยความเกรี้ยวกราด จากนั้นก็ระบายโทสะออกมาเป็นคำพูดว่า

 “ผอมบางเช่นเจ้าแม้แต่แรงฆ่าไก่สักตัวยังไม่มี มีดีอย่างเดียวก็แค่รูปโฉม ข้าให้เจ้ารับแขกก็ถือว่าเมตตาเจ้ามากแล้ว ที่สำคัญบุรุษรับแขกสมัยนี้ล้วนมีหน้ามีตาทั้งสิ้น เป็นรองก็เพียงแค่ชายบำเรอของจักรพรรดินีก็เท่านั้น”

“....ชายบำเรอ... จักรพรรดินี .... ก็คือ สามีที่คอยปรนนิบัติเฟิ่งอี๋นะสิ...”

เฉินเฉิงพึมพำเบา ๆ อย่างครุ่นคิดบางอย่าง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • มังกรหวนคืนบัลลังก์   ตอนที่46. จบ

    “หม่อมฉันหนิงเฟยขออภัยที่เสียกิริยาแล้ว เนื่องจากหม่อมฉันอยากจะท่องบทกลอนถวายฝ่าบาทสักบทเพคะ”“เจ้า !.....”ใต้เท้าหมิงฉางกำลังจะอ้าปากตวาดนางอีกรอบ แต่เฉินเฉิง รีบยกมือขึ้นห้ามแล้วเอ่ยว่า“ว่ามาเถอะ”น้ำเสียงของเขาสั่นอย่างห้ามไม่ได้ เขากลั้นใจรอฟังกลอนบทนั้นโดยไม่รู้ตัว“เจ้าคือสตรีเพียงหนึ่งเดียวในใจข้า ด้วยปัญญาล้ำเลิศเป็นหนึ่งในใต้หล้าในใจข้าเจ้าคือยอดบุปผาสง่างาม ทุกโมงยามเคียงคู่ครองบัลลังก์”เมื่อนางเอ่ยบทกลอนนี้จบลง เฉินเฉิงไม่ลังเลอีกต่อไปประกาศก้องให้ได้ยินทั่วกันทั้งท้องพระโรงว่า“จากนี้ไปหนิงเฟยเป็นฮองเฮาของเราแต่เพียงผู้เดียว”ทุกคนในท้องพระโรงต่างตะลึงอ้าปากค้างไปตามกัน ๆ ฮ่องเต้ที่ไม่แตะต้องสตรีมากกว่าสิบปี บัดนี้กลับประกาศแต่งตั้งดรุณีน้อยเป็นฮองเฮาทันทีที่พบหน้า และยังไม่ทันที่เหล่าขุนนางจะหายตกตะลึง ฮ่องเต้ก็รับสั่งว่า“ทุกคนออกไปให้หมด ข้าจะอยู่กับฮองเฮาของเราเพียงลำพัง”เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนก็ออกไปจากท้องพระโรงด้วยความงวยงง แต่ก็มิได้มีผู้ทัดทานเพราะการที่ฮ่องเต้ยอมแตะต้องสตรีย่อมเป็นเรื่องดีแน่เมื่ออยู่กันเพียงลำพัง เฉินเฉิงรีบสาวเท้าเข้ามาหาสตรีเบื้องล่าง

  • มังกรหวนคืนบัลลังก์   ตอนที่45.เพียงเท่านี้

    ราชครูต้าเว่ยร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เลือดพุ่งออกมาจากร่างไหลทะลักเปรอะเปื้อนแท่งทองคำบนพื้นเหล่านั้น แล้วเขาก็ล้มลงสิ้นใจตายจากนั้นเมื่อเห็นว่าทหารฝ่ายตรงข้ามถูกจับกุมเอาไว้หมดแล้ว ลี่จู่จึงนำกำลังทหารไปยังตำหนักของหลวนถงในลำดับต่อไป จนในที่สุดเขาก็ควบคุมสถานการณ์ความวุ่นวายภายในวังหลังเอาไว้ได้หลังเหตุการณ์ก่อกบฏสิ้นสุดลง แม่ทัพฉีเฮาและใต้เท้าจ้านได้อัญเชิญเฉินเฉิงฮ่องเต้ขึ้นครองบัลลังก์ตามราชโองการของจักรพรรดินีเมื่อเฉินเฉิงฮ่องเต้นั่งบนบัลลังก์มังกรด้วยวัยเพียงสิบแปดพรรษา แล้วเขาก็ได้ทำตามคำขอของจักรพรรดินีทุกประการถึงแม้ว่าหน่วยพยัคฆ์ทมิฬจะถูกเชิดชูให้เป็นกองทหารที่แข็งแกร่งที่สุดในแผ่นดิน ภายใต้การดูแลขององค์ฮ่องเต้โดยตรง แต่สองพี่น้องฝาแฝดลี่จ้ง และลี่จู่ก็ไม่คิดรับใช้ราชสำนักอีกต่อไปจึงขอพระราชทานราชานุญาตให้พวกตนออกจากตำแหน่งแม่ทัพ และรองแม่ทัพของหน่วยพยัคฆ์ทมิฬบุรุษทั้งสองในอาภรณ์สีเรียบนั่งบนอาชาพ่วงพีด้วยกิริยาองอาจ ม้าเหยาะย่างผ่านฝูงชนที่กำลังมุงดูป้ายประกาศของทางการ เรื่อง จักรพรรดินีฟางเหรินผู้ไร้คุณธรรมสังหารองค์หญิงฟางหรง ชาวบ้านต่างก่นด่าสาปแช่งจักรพรรดินีด้วย

  • มังกรหวนคืนบัลลังก์   ตอนที่44. รับปาก

    “เฟิ่งอี๋....ข้าจะพาเจ้ากลับวังหลวงไปรักษา... เจ้าอดทนสักหน่อยนะ.. เฟิ่งอี๋”เฉินเฉิงใช้แขนเสื้อซับเลือดให้นางอย่างกระวนกระวาย เลือดของนางออกมากเกินไปแล้ว เขาต้องพานางกลับวังไปรักษา จึงพยายามออกแรงเพื่ออุ้มนางให้ลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล สุดท้ายก็ต้องจำยอมทรุดตัวลงนั่งกอดนางไว้แนบอกตามเดิมเพราะเสียงผะแผ่วของนางดังขึ้นว่า“ฝ่าบาท... ไม่มีประโยชน์เพคะ”เสียงขาดหายเป็นห้วง ๆ ของนางทำให้เขาไม่กล้าเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป เพราะเกรงว่าหากเขาขยับเพียงน้อยนิด ลมหายใจของนางก็จะถูกสายลมช่วงชิงไป“หม่อมฉันขอให้ฝ่าบาทรับปากสามประการ.... ประการแรก ฝ่าบาทโปรดอภัยโทษให้แก่หลวนถงทุกคน ประการที่สองขอฝ่าบาทโปรดดูแลหน่วยพยัคฆ์ทมิฬแทนหม่อมฉันด้วย”ลี่จ้งได้ยินดังนั้น ก็สะอื้นไห้หนักขึ้น แม้จวบจนวินาทีสุดท้ายพระนางยังทรงรักและห่วงใยชีวิตข้ารับใช้อย่างพวกเขาหลังจากนี้หากพระนางไม่ขออภัยโทษ หลวนถงที่มีฐานะเป็นชายาบำเรอของจักรพรรดินีต้องถูกประหารให้ตายตกตามกันไป ส่วนหน่วยพยัคฆ์ทมิฬนั้นได้ขึ้นชื่อว่าปฏิบัติการโหดเหี้ยมอำมหิตมีศัตรูมากมาย หากพระนางสิ้นลงเหล่าขุนนางที่มีใจเจ็บแค้นต้องถวายฎีกาให้ลงทัณฑ์พวกเขาปางตายเป็น

  • มังกรหวนคืนบัลลังก์   ตอนที่43.โปรดวางใจ

    ใต้เท้าจ้านรับม้วนราชโองการสีทองไว้ด้วยมือสั่นระริก หัวของเขาถึงกับสรรหาถ้อยคำที่จะเอ่ยออกมาไม่ถูก การสนทนาของแม่ทัพทั้งสองเมื่อครู่ทำให้เขาพอจะคาดเดาได้ว่า แม่ทัพฉีเฮาเป็นสายลับขององค์จักรพรรดินีที่แฝงตัวอยู่ข้างกายองค์หญิงฟางหรง มิน่าเล่า แม้นว่าจะอยู่ไกลถึงพันลี้ แต่พระนางยังทรงล่วงรู้แผนการขององค์หญิงมาตลอดราวกับว่าเห็นได้ด้วยตาตนเอง“พระนางทรงรับสั่งเอาไว้ว่า... เมื่อปราบกบฏเรียบร้อยแล้วให้ท่านเป็นผู้ประกาศราชโองการนี้”ลี่จ้งเอ่ยด้วยเสียงหนักแน่นใต้เท้าจ้านได้ยินดังนั้น พลันรู้สึกว่าม้วนราชโองการในมือหนักขึ้นมาเป็นร้อยเท่าพันทวี เหงื่อเม็ดใหญ่ถึงกับไหลย้อยลงที่ขมับ“ท่านโปรดวางใจเถิด ข้าจะทำตามนั้น”ใต้เท้าจ้านแบกรับหน้าที่สำคัญเอาไว้ด้วยใจ ในอกเขาคล้ายกับมีความตื้นตันลูกใหญ่ถาโถมขึ้นมาจนรู้สึกตีบตันที่ลำคอ เมื่อรู้ว่าจักรพรรดินีที่ใคร ๆ ต่างมองว่าโหดเหี้ยมอำมหิต ไร้คุณธรรม แต่ความจริงแล้วที่พระองค์ทรงทำทั้งหมดก็เพื่อปกป้องบัลลังก์มังกรเพื่อคืนให้แก่ฮ่องเต้“เหตุใดพระนางต้องกระทำการที่เลี่ยงแก่ชีวิตตนเองเช่นนี้ด้วย”แม่ทัพฉีเฮาเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด กลยุทธ์ในการศึกมีมากก

  • มังกรหวนคืนบัลลังก์   ตอนที่42.ท้าทาย

    คำถามที่เป็นเหมือนดังเช่นคำตัดพ้อของเฟิ่งอี๋ทำให้เฉินเฉิงชะงักไป ทุกถ้อยคำที่นางเอ่ยมาล้วนตรงกับสิ่งที่เขาคิดทั้งสิ้น หากตอนนั้นนางบอกเขาตรง ๆ ว่าน้องสาวสายเลือดเดียวกันคิดจะฆ่าเขาเพื่อชิงบัลลังก์ เขาก็คงไม่เชื่อ และจะระแวงสงสัยนางเสียอีกว่ายั่วยุให้เขาสังหารพี่น้อง ดังนั้น นางจึงใช้ตนเองเป็นเหยื่อล่อ เพื่อพิสูจน์ความจริงให้เขาเห็นกับตาตนเององค์หญิงฟางหรงยิ้มเยาะออกมาแล้วเอ่ยยั่วอารมณ์เฟิ่งอี๋ว่า“ฮองเฮา... ท่านทรงรักฝ่าบาทยิ่งนัก ทั้ง ๆ ที่ฝ่าบาทเคยพระราชแพรขาวปลิดชีพท่านจนตายมาแล้ว นอกจากท่านจะไม่แค้นแล้วยังปกป้องเขา ช่างโง่งมจริง ๆ”“ฟางหรง ! เจ้าหยุดกล่าววาจาเหลวไหลได้แล้ว”เฉินเฉิงตวาดออกมาด้วยความโมโหที่นางตั้งใจยั่วยุให้เขาและเฟิ่งอี๋ขัดแย้งกันอีก ทั้งยังกลัวว่านางจะไม่ให้อภัยเขา“หม่อมฉันก็ไม่ได้โง่พอให้องค์หญิงได้ครอบครองบัลลังก์มังกรได้อย่างสมใจนึกหรอกเพคะ”เฟิ่งอี๋เชิดหน้าตอบกลับอย่างท้าทาย“เจ้า !”ฟางหรงชี้นิ้วสั่นระริกไปใบหน้าหยิ่งผยองของสตรีอีกคน ขบฟันแน่นด้วยความโกรธเมื่อถูกยอกย้อนกลับในขณะที่สถานการณ์ตรงหน้ากำลังตึงเครียด สื่อหม่าก็ร้องโอดครวญขึ้นมาว่า “โอ๊ย... องค

  • มังกรหวนคืนบัลลังก์   ตอนที่41.ถูกพิษ

    เมื่อนางกินไก่ตุ๋นที่เฉินเฉิงนำมาให้จนหมดแล้วรู้สึกง่วง และอ่อนเพลียมากจึงเผลอหลับไป ครั้นเมื่อรู้สึกตัวขึ้นมายังรู้สึกว่าเหมื่อยล้าไปหมด เหงื่อผุดซึมตามตัวคล้ายกับว่าภายในร่างกายกำลังต่อต้านกับพิษ“ลี่จู่... ลี่จ้ง...”เฟิ่งอี๋ส่งเสียงเรียกขันทีข้างกายเสียงเบา ไม่นานนักผู้ภักดีทั้งสองก็ปรากฏกายขึ้นข้างแท่นบรรทม“พระนางทรงเป็นอะไรพ่ะย่ะค่ะ สีหน้าไม่สู้ดีนัก”ลี่จู่รีบเข้าไปประคองนางลุกขึ้น ส่วนลี่จ้งนั้นรีบหาผ้าชุบน้ำมาซับใบหน้านางเพื่อให้รู้สึกดีขึ้น“เราคิดว่า... เรากำลังถูกพิษ”“กระหม่อมจะไปสังหารฮ่องเต้เดี๋ยวนี้ !”ลี่จ้งขว้างผ้าในมือทิ้ง ผุดลุกขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด คนที่อยู่กับพระนางตลอดช่วงเย็นนี้มีเพียงเฉินเฉิงผู้เดียวเท่านั้น ดังนั้น คนที่วางยาพิษพระนางจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเขา“ช้าก่อน”เฟิ่งอี๋รีบเอ่ยห้าม เพราะรู้ว่าลี่จ้งวรยุทธ์สูงมากแค่ไหน เพียงแค่พริบตาเดียวก็สามารถปลิดชีพบุรุษอ่อนแอย่างเฉินเฉิงได้แล้ว“ฝ่าบาททรงทำร้ายพระนางครั้งแล้วครั้งเล่า เหตุใดพระนางยังทรงอาลัยอาวรณ์ฝ่าบาทอยู่อีกเล่า”ลี่จู่เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เขามิได้ใจแข็งดั่งเช่นพี่ชายฝาแฝด เมื่อรู้สึกปวดใจแ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status