"ท่านแม่!"“ปล่อยเขาซะ!”เสียงของหลินอวี๋และเสี่ยวเมาที่ดังขึ้นพร้อมกันแตกต่างกันก็คือเสียงเล็ก ๆ ของเสี่ยวเมาที่ยังมึนงงอยู่บ้าง เขาไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้แต่น้ำเสียงของหลิงอวี๋นั้นเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งบรรยากาศเย็นยะเยือกที่แผ่ออกมาทำให้แม่นมที่อยู่ใกล้นางตัวสั่นไปหมดโดยไม่รู้ตัว“เสี่ยวเมาไม่ต้องกลัว!”เมื่อเห็นเสี่ยวเมาจ้องมองมาที่นาง หลิงอวี๋ก็ลดรังสีอมหิตลงไปได้บ้างนางยิ้มให้เสี่ยวเมาอย่างอ่อนโยน "พวกเรามาเล่นเกมกันนะ ปิดหู หลับตาไว้ จบเกมแล้วค่อยลืมตานะ!"“ขอรับ ข้าจะเชื่อฟังท่านแม่!”หลิงอวี๋ไม่เคยยิ้มให้เสี่ยวเมาอย่างอ่อนโยนเช่นนี้มาก่อน เสี่ยวเมาหลับตา และเอามือเล็ก ๆ ปิดหูของเขาไว้อย่างเชื่อฟังเชื่อฟังจริง ๆ !หลิงอวี๋พยักหน้าอย่างชื่นชมเมื่อนางหันหน้ากลับไป รอยแผลที่บนใบหน้าน่าเกลียดดูน่ากลัวเป็นพิเศษ และแผ่บรรยากาศเย็นเยียบกดดันออกมา“ข้าบอกให้ปล่อย ไม่ได้ยินรึ?”หลิงอวี๋ยื่นมือชี้ไปที่แม่นมที่กำลังอุ้มเสี่ยวเมา น้ำเสียงของนางเย็นชาราวกับยมทูตจากนรก!"ได้สิ ถ้าเจ้าอยากให้พวกเราปล่อยเสี่ยวเมาไป ก็แค่คุกเข่าลงคำนับให้พวกเราสามครั้ง ไม่สิ... สาม
หลิงอวี๋มองพวกเขาทั้งสามด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นก็เก็บมีดผ่าตัดเหน็บซ่อนไว้ที่เข็มขัดคาดเอวนางฉวยโอกาสหยิบมีดขึ้นมาตอนที่เข้าไปแย่งตัวเสี่ยวเมาไม่ทัน!สำหรับเรื่องเจ้าปากเบี้ยวนั่นถือว่าบทเรียนที่แสนเข็ดหลาบ!ต่อไปต้องพกของสิ่งนี้ติดตัวไว้ตลอด!เพิ่งตัดเอ็นข้อมือข้อเท้าของพวกนางรับใช้และแม่นมสายตาสั้นพวกนั้นไป"ในห้องถูกพวกนางทำสกปรกไปหมด พวกเราออกไปสูดอากาศข้างนอกกันเถอะ..."กลิ่นเลือดและปัสสาวะคละคลุ้งไปทั่วห้อง ซึ่งทำให้หลิงอวี๋อึดอัดมากนางเดินออกไปพร้อมกับอุ้มเสี่ยวเมาไว้ในอ้อมแขนดวงอาทิตย์ที่สาดแสงเจิดจ้าในลานบ้าน หลิงอวี๋หรี่ตา แสงแดดช่างอบอุ่นมาก!นางรู้ว่าการทำร้ายหลินผิงและพวกแม่นม จะดึงดูดให้เซียวหลินเทียน หรือพี่น้องตระกูลชิวมาที่นี่ในไม่ช้าแต่หลิงอวี๋ไม่เสียใจเลยสักนิด!ในยุคที่แปลกประหลาดนี้ นางอยากมีชีวิตรอด มีชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป!นางไม่อยากถูกลากไปอีกรอบ!หากนางต้องการปกป้องเสี่ยวเมาและคนรอบข้าง นางต้องยืนหยัดอย่างเข้มแข็ง...“หลิงอวี๋!”เซียวหลินเทียนที่องครักษ์พาเข้ามา เขาเห็นหลิงอวี๋นั่งอยู่ใต้ชายคาและอุ้มเสี่ยวเมาเอาไว้เสี่ยวเมาที่อยู่ในอ้อมแข
แม่นมลี่โขกหัวคำนับขอร้องจนเลือดกระเด็นออกมา เลือดไหลหยดลงมาที่หน้าผากของนาง!นี่ทำให้เสี่ยวเมาทั้งเศร้าและหวาดกลัว!ขอบตาของหลิงอวี๋แดงรื้นไปด้วยน้ำตา และนางตะโกนอย่างทรมานใจว่า "แม่นมลี่ ลุกขึ้น อย่าขอร้องเขา!""มาถึงวันนี้แล้ว ข้าอยากดูสิว่า เซียวหลินเทียนจะตัดเส้นเอ็นข้ายังไง!"แม่นมลี่ยิ่งกระวนกระวายใจ กลัวว่าเซียวหลินเทียนจะโกรธ ดังนั้นนางจึงยังคงก้มหน้าและขอร้องต่อไป“เสี่ยวเมา ไม่ต้องกลัว ไปช่วยพยุงแม่นมลุกขึ้นมา!”หลิงอวี๋ดันตัวเสี่ยวเมาเบา ๆเมื่อเห็นว่า ชิวเฮ่ากำลังเข้ามาใกล้ เสี่ยวเมาก็วิ่งไปด้านหน้า และยืนขวางอยู่ข้างหน้าหลิงอวี๋เขาพยายามปกป้องหลิงอวี๋ด้วยร่างกายเล็ก ๆ ของเขา!เขาตะโกนว่า "ในเมื่อท่านแม่ต้องตาย เสี่ยวเมาและแม่นมก็จะไปตายพร้อมกับท่านแม่!"หัวใจที่หนาวเหน็บของหลิงอวี๋รู้สึกอบอุ่นทันทีจากสิ่งเสี่ยวเมาได้กระทำ!อดีตหลิงอวี๋เมินเฉยต่อเด็กที่น่ารักขนาดนี้ได้อย่างไร!แทนที่จะปฏิบัติต่อเซียวหลินเทียนด้วยความจริงใจ ควรใช้ความรักนี้กับเสี่ยวเมาแทนมากกว่าบุตรที่มีน้ำใจและกตัญญูเช่นนี้ หลิงอวี๋ควรจะเป็นแม่ที่มีความสุขที่สุดในโลก!ไม่ใช่เอาความรักไปทุ่ม
ไป่สือออกมาหลังจากที่เขาเข้าไปได้สักพักด้วยสีหน้าที่ย่ำแย่มากโดยไม่ทันให้เซียวหลินเทียนถาม เขารีบบอกด้วยตัวเอง "ถวายบังคมทูลท่านอ๋อง ในยามีสารหนูอยู่พ่ะย่ะค่ะ!"“ท่านอ๋อง กระหม่อมสาบานต่อสวรรค์ ยาที่กระหม่อมสั่งไม่มีสารหนูพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนโบกมือ "เอาเถอะ ข้าเชื่อในตัวท่าน!"ชิวเฮ่ากลอกตาไปทางหลินผิง รีบวิ่งไปคว้ามือนางแล้วตะคอกถาม "บ่าวชั่ว บอกมา ทำไมถึงมีสารหนูในยาได้"“เจ้าคิดใส่ร้ายท่านไป๋รึ?”หลิงผิงถูกเขาบีบไหล่อย่างแรง เจ็บมากยิ่งนักนางรู้ว่าชิวเฮ่ากำลังเตือนนางว่าอย่าพูดเรื่องไร้สาระ!“ท่านอ๋อง! บ่าวผิดไปแล้ว!” หลิงผิงคุกเข่าอ้อนวอน"บ่าวไม่รู้ว่าสารหนูมาจากที่ใด บ่าวสาบานต่อสวรรค์ บ่าวไม่มีเจตนาจะทำร้ายพระชายาเพคะ!""แล้วสารหนูมาจากที่ใด?"ชิวเฮ่าพูดด้วยความโกรธ "มันมีขาวิ่งเข้าไปเองงั้นรึ?"หลิงผิงก้มหน้าลงและสะอื้นไห้ "บ่าวไปที่คลังเพื่อรับยาตามเทียบยาที่ท่านไป๋สั่ง บ่าวจัดการต้มยาเองทั้งหมด!"“ตอนที่บ่าวต้มยา พ่อครัวทุกคนในครัวล้วนเห็นอยู่ด้วยกันทั้งหมด บ่าวจะเอาโอกาสที่ไหนลงมือได้เพคะ!”“หลังจากต้มยาเสร็จแล้ว บ่าวและแม่นมหลี่นำมาส่งยาด้วยกัน พวกนางเ
หลิงอวี๋ค่อย ๆ เดินไปข้าง ๆ เซียวหลินเทียนนางเห็นใบหน้าด้านข้างเซียวหลินเทียนสันกรามคมชัดคิ้วที่เฉียงตรงของเขา ดวงตาสีดำที่เฉียบคม ริมฝีปากบางและเม้มเล็กน้อย ล้วนแสดงถึงความสง่างามและสูงศักดิ์!เหมือนอินทรีในยามราตรี เย็นชาและหยิ่งยโส!ชายผู้นี้รูปหล่อยิ่ง!และเย็นชามากด้วย!เซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ พร้อมกับขมวดคิ้วแสดงท่าทีรังเกียจ เขาไม่ชอบให้นางอยู่ใกล้เขามากนักหลิงอวี๋พูดอย่างไม่รีบร้อนอะไร "ท่านอ๋อง คิดว่าหลิงผิงพูดความจริงหรือไม่?"เซียวหลินเทียนยิ้มอย่างเย็นชาและไม่พูดหลิงอวี๋ยิ้ม "หม่อมฉันเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้! และท่านอ๋องเองก็เป็นผู้ตัดสิน!"“ในเมื่อท่านอ๋องไม่เชื่อหม่อมฉัน ดังนั้นหม่อมฉันพูดไปท่านก็คงไม่ฟัง!”“งั้นท่านอ๋องก็ตัดสินซะสิ!”คิ้วของเซียวหลินเทียนกระตุกหลิงอวี๋หาว่าเขาจะตัดเอ็นของนางโดยไม่ถามอะไรเลยงั้นหรือ?“ท่านอ๋อง สิ่งที่บ่าวพูดนั้นเป็นความจริง! ท่านอ๋องจะเข้าข้างพระชายาเพียงเพราะบ่าวมีฐานะต่ำต้อยหรือเพคะ!”หลิงผิงร้องไห้ "พระชายาตัดเส้นเอ็นบ่าวขาดแล้ว ท่านยังไม่ยอมรับผิดอีกหรือ?"“ท่านยังอยากจะเอาชีวิตบ่าวอีก ทำไมท่านถึงเลวทรามเ
หลิงอวี๋คิดว่ามันมีค่าสองร้อยตำลึง แต่นางกลับไม่รู้อะไรเลย!เซียวหลินเทียนจำได้ว่าในสมัยก่อน ตอนที่พระสนมผู้เป็นมารดาได้ความโปรดปรานจากจักรพรรดิ จักรพรรดิหวู่อันประทานต่างหูคู่หนึ่งที่ทำโดยเหลียนหมิงครั้งแรกที่เซียวหลินเทียนรู้เกี่ยวกับเหลียนหมิงคือ ตอนที่พระสนมอธิบายที่มาของต่างหูให้เขาฟัง“หลิงอวี๋ พูดต่อไป!”ชิวเฮ่ามองไปที่ปิ่นปักผมด้วยความประหลาดใจ และถามอย่างไม่แน่ใจว่า "ท่านอ๋อง ปิ่นนี้มีมูลค่าสองร้อยตำลึงจริงหรือพ่ะย่ะค่ะ?"เซียวหลินเทียนพยักหน้าเล็กน้อยชิวเฮ่าจ้องไปที่หลินผิงอย่างดุดัน แม้ว่าหลินผิงจะคุกเข่า แต่นางก็กลัวมากจนร่างกายของนางซวนเซไปหมด!แย่แล้ว! บอกไม่ได้จริง ๆ !แต่นางกลอกตาแอบพูดในใจ ถ้าบอกไม่ได้ นางตายแน่!อย่างไรก็ตาม ชิวเฮ่าและชิวเหวินซวงอยู่ข้างนาง พวกเขาย่อมจะปกป้องตน!หลินผิงยังยืนกราน "บ่าวมิรู้ว่ามันมีค่าเท่าไหร่! บ่าวกล้าสาบานต่อสวรรค์ นี่เป็นสิ่งที่พระชายาประทานให้จริง ๆ!"เมื่อเห็นว่านางยังคงดื้อดึงอยู่ในตอนนี้ หลิงอวี๋ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา“สวรรค์คงยุ่งเกินกว่าจะดูแลเจ้าแล้ว!”“เจ้าต้องเลิกนิสัยสาบานพร่ำเพรื่อซะนะ ถ้าพูดมากไปมันจะไม
"ไม่งั้นรึ?"เซียวหลินเทียนขมวดคิ้วทันที และมองไปที่หลิงอวี๋อย่างประหลาดใจผู้หญิงคนนี้? ผู้ใดมอบความกล้าให้นางบอกว่าไม่?เมื่อก่อนเมื่อเขาขมวดคิ้ว นางก็จะตัวสั่นด้วยความตกใจพูดตะกุกตะกักไปหมด!ตอนนี้กลับกล้าพูดเองว่าไม่งั้นหรือ?“สมเหตุสมผลแล้ว! ในเมื่อท่านกำลังตัดสินอย่างเป็นธรรมอยู่ ท่านอ๋องในฐานะที่เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มันเกินไปหรือไม่ที่หม่อมจะขอความเป็นธรรม?”หลิงอวี๋ไม่ได้กลัวแต่อย่างใด และยังเผชิญหน้ากับเขาอย่างตรงไปตรงมา"ใครก็ตามที่มีตา ก็เห็นอยู่มิใช่รึสิ่งที่ชิวเฮ่าทำกับข้า!"“ท่านอ๋อง ท่านเชื่อเขา แต่ท่านทรงบังคับให้หม่อมฉันเชื่อเขาด้วยมิได้หรอกเพคะ!”เซียวหลินเทียนกัดฟันแน่น แต่เขาไม่สามารถเถียงสิ่งที่หลิงอวี๋พูดได้!หลิงอวี๋ถูกชิวเฮ่าลากไปทุบตี และเกือบถูกเจ้าปากเบี้ยวทำการหยามเกียรตินาง!นางจะเกลียดแค้นชิวเฮ่าก็ถือเป็นเรื่องปกติ!“ท่านอ๋อง! หรือว่าให้บ่าวไปดีไหมขอรับ!”พ่อบ้านฟั่นเพิ่งมาที่นี่ได้สักพักหนึ่ง เห็นเซียวหลินเทียนเงียบไป เขาก็เลยออกมาพูดขึ้นหลิงอวี๋ไม่รู้ว่าพ่อบ้านฟั่นมาที่นี่เพื่อล้างแค้นแทนเจ้าปากเบี้ยวของเขา!เจ้าปากเบี้ยวเป็นล
เสี่ยวเมาเข้าไปได้ไม่นาน พ่อบ้านฟั่นก็นำแม่นมคนหนึ่งถือถุงใส่ของเอาไว้ “กราบบังคมทูลท่านอ๋อง นี่คือของที่หาพบในห้องของหลิงผิงเพคะ!” พ่อบ้านฟั่นส่งสัญญาณให้แม่นมนำห่อของนั้นมาด้านหน้าของเซียวหลินเทียน แม่นมเปิดออกมา ด้านในนั้นมีเครื่องประดับเรียบง่าย และยังมีชุดอีกสองสามชุด เซียวหลินเทียนเพียงแต่กวาดตามอง แล้วเอ่ยออกมา “หลิงอวี๋ เข้ามาดูเองว่าชิ้นใดเป็นของเจ้า?” หลิวอวี๋ยังไม่คุ้นเคยกับของตนเองมากนัก จึงเอ่ยออกมา “แม่นมลี่จัดการของของข้ามาโดยตลอด แม่นมลี่ ท่านไปดู!” แม่นมลี่เดินเข้ามา มองอย่างละเอียดแล้ว ก็ชี้ไปยังเครื่องประดับเอ่ยออกมา “ทั้งหลายชิ้นนี้ล้วนแต่ไม่ใช่ของพระชายา มีเพียงแค่กระโปรงสองตัวนี้ที่เป็นของพระชายาเพคะ!” หลิงผิงมองไปยังชิวเหวินซวงด้วยความประหลาดใจ นางยังคิดว่าพ่อบ้านฟั่นไปค้นหานั้น จะต้องยืนอยู่ข้างตนเอง ช่วยนางเก็บของแอบซ่อนเอาไว้ ไหนเลยจะคิดว่าพ่อบ้านฟั่นกลับนำชุดของหลิงอวี๋ที่นางนำติดมือไปด้วยกลับมา! ชิวเหวินซวงลอบทำท่าทางให้นางสงบลง หลิงผิงจึงวางใจลงได้ครึ่งหนึ่ง แล้วมองไปยังเครื่องประดับอย่างตั้งใจ เมื่อเห็นว่าในนั้นมีหยกแขวนแปลกตาอยู่ชิ้นหน
“ข้ามีนามว่าหลานฮุ่ยจวน ข้าเป็นคนให้กำเนิดเจ้ามา เป็นแม่ของเจ้า!”ท่านอาสุ่ยเอ่ยต่อ “อาอวี๋ แม่รอเจ้ามาหลายปีแล้ว ขอเพียงเจ้าเปิดห้องขังนี้ แม่ก็จะอยู่กับเจ้าตลอดไปได้!”หลิงอวี๋เห็นแสงสีรุ้งเหล่านั้นจางลงไป จากนั้นนางก็มาอยู่ในห้องขังที่มืดมิดห้องหนึ่งสตรีที่สวมอาภรณ์เก่า ๆ ผู้หนึ่งกำลังถูกขังอยู่ในกรงเหล็ก บนใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ ดูราวกับว่าถูกทุบตีมาอย่างสาหัสเมื่อนางเห็นหลิงอวี๋ สตรีผู้นั้นก็พุ่งเข้ามาคว้าลูกกรงไว้แล้วเรียกนางด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวังใบหน้านั้นมีความอ่อนโยนและค่อนข้างคุ้นเคย หลิงอวี๋จึงเดินเข้าไปหาโดยมิรู้ตัว“ท่านคือท่านแม่ของข้าหรือ?”นางเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสับสน“ข้าคือแม่ของเจ้า… อาอวี๋ เจ้าคือลูกที่ข้าอุ้มท้องมาสิบเดือนและให้กำเนิดเจ้ามา เหตุใดเจ้าจึงจำข้ามิได้เล่า?”“อาอวี๋ แม่ก็มิอยากแยกจากเจ้าเช่นกัน แต่คนเลวพวกนั้นมาพรากเราออกจากกัน พวกเขาขังแม่ไว้ที่นี่ ทุบตีทำร้ายแม่ ทรมานแม่!”สตรีผู้นั้นสะอื้นพลางเอ่ยออกมา “แม่คิดถึงเจ้าตลอดเวลาที่อยู่ในคุก ที่เจ้ามาหาที่นี่มิใช่ว่าเพื่อจะมาช่วยเหลือแม่หรอกหรือ?”“เจ้ารีบไขประตูช่วยแม่ออ
“มิใช่ ข้ามีนามว่าสิงอวี๋ พวกเขาจำคนผิดแล้ว!”แม้ว่าหลิงอวี๋จะชอบเสียงของสตรีผู้นี้ แต่จะฟังแค่ประโยคเดียวของนางแล้วยอมรับตัวตนเลยก็คงมิได้ท่านอาสุ่ยยิ้มออกมาแล้วทำไม้ทำมือไปทางเจ้าแห่งทะเลเจ้าแห่งทะเลยกมือขึ้นมา จากนั้นองครักษ์ผู้หนึ่งก็ก้าวเข้ามาเปิดกลไกของกรงเหล็ก ประตูเหล็กจึงเลื่อนขึ้นไป และท่านอาสุ่ยก็เดินเข้าไปหลิงอวี๋รู้สึกหวั่นใจขึ้นมา นี่เจ้าแห่งทะเลต้องการจะทำกระไร?เขาพาท่านอาสุ่ยที่ดูประหลาดผู้นี้มาก็เพราะคิดจะเกลี้ยกล่อมตนหรือ?“สิงอวี๋ เจ้าแห่งทะเลตรัสว่าท่านเป็นบิดาของเจ้า และระหว่างเจ้ากับเจ้าแห่งทะเลก็มีเรื่องเข้าใจผิดกันบางอย่าง เจ้าแห่งทะเลทรงให้ข้ามาเกลี้ยกล่อมเจ้าว่าอย่าได้ดื้อดึงกับท่านเลย”ท่านอาสุ่ยเอ่ยออกมาอย่างอ่อนโยน “พ่อลูกกันมิโกรธกันข้ามวันข้ามคืน หากมีเรื่องอันใดเข้าใจผิดกัน พูดกันตรง ๆ ก็จบ!”“เจ้าบอกกับอามาว่า เหตุใดเจ้าจึงมิยอมรับบิดาของเจ้า?”หลิงอวี๋เหลือบมองเจ้าแห่งทะเลที่ยืนอยู่ด้านข้างแล้วยิ้มบาง ๆ “มิใช่ว่าข้ามิยอมรับพ่อ แต่พวกเขาจำคนผิดจริง ๆ เจ้าค่ะ!”“ข้ามิใช่หลิงอวี๋ และมิใช่บุตรีของเจ้าแห่งทะเลแน่นอน! ข้าสกุลสิง ท่านพ่อท่านแม่ขอ
หลิงอวี๋มองชายาเจ้าแห่งทะเลที่เดินออกไป แววตาพลันเย็นเยียบลงนางมิคิดว่าชายาเจ้าแห่งทะเลจะมาที่นี่ด้วยตนเองเพียงเพื่อกล่าวถึงเรื่องไร้สาระเหล่านี้ชายาเจ้าแห่งทะเลต้องมีแผนสำรองอื่นอีกแน่นอน“ศิษย์พี่ ชายาเจ้าแห่งทะเลคิดจะทำอะไรกันแน่เจ้าคะ?”เถาจื่อถามอย่างสงสัย “เหตุใดพวกเขามิพาพวกเราไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์?”ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนยังคิดอยู่ว่า หากมิสามารถพาหลิงอวี๋ออกมาได้ ก็จะไปซุ่มรออยู่ใกล้ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อเตรียมพร้อมชิงตัวคนทว่ายามนี้ชายาเจ้าแห่งทะเลกลับมิเล่นตามตำรา เพียงแค่กักตัวหลิงอวี๋ไว้ในจวนเจ้าแห่งทะเล พวกเขามิกังวลว่าจะเกิดเรื่องมิคาดฝันขึ้นหรือไร?“มีความเป็นไปได้สองอย่าง ประการแรกคือ บางทีวิธีนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาอาจจะมิใช่วิธีสลายเลือดละลายกระดูกตามข่าวลือ แต่อาจจะเป็นวิธีอื่น!”“อย่างไรเสียข่าวลือเหล่านี้ก็แพร่มาหลายร้อยปีแล้ว อาจเป็นไปได้ว่า ตระกูลหลงจงใจปล่อยข่าวออกมาก็เพื่อข่มขวัญผู้ที่ละโมบอยากได้หยกหล้าสุขาวดี!”หลิงอวี๋วิเคราะห์อย่างใจเย็น“ส่วนอีกความเป็นไปได้หนึ่งก็คือ ตัวหยกหล้าสุขาวดีเองยังมีความลับอยู่ เจ้าแห่งทะเลมิรู้ ทว่าเขาคิดว่าข้ารู้ จ
ภารกิจของชายาเจ้าแห่งทะเลคือการงัดปากหลิงอวี๋ให้บอกวิธีเข้าไปในหยกหล้าสุขาวดีภารกิจนี้ยากยิ่ง!ชายาเจ้าแห่งทะเลยังมิอาจพูดตรง ๆ ได้ มิฉะนั้นก็เท่ากับเป็นการชี้ให้หลิงอวี๋ล่วงรู้ถึงความมิรู้ของพวกเขาเกี่ยวกับหยกหล้าสุขาวดีทั้งยังจะกระตุ้นให้หลิงอวี๋ไปค้นพบความลับของหยกหล้าสุขาวดี ถึงกาลนั้นเจ้าแห่งทะเลต้องการครอบครองหล้าสุขาวดีก็คงยากยิ่งกว่าการขึ้นสวรรค์เสียอีกเมื่อครู่ชายาเจ้าแห่งทะเลกำลังครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะทำอย่างไรให้หลิงอวี๋ประนีประนอมยอมบอกความลับของหยกหล้าสุขาวดีออกมาอย่างว่าง่าย แต่คิดไปคิดมาก็ยังไม่มีแผนการที่ดีเลยนางทำได้เพียงลองหยั่งเชิงดูก่อน ดูว่าจะสามารถใช้เซียวหลินเทียนและบุตรชายของหลิงอวี๋มาเกลี้ยกล่อมให้นางคายความลับออกมาได้หรือไม่“หลิงอวี๋ เจ้าอย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ ฟังเงื่อนไขที่ข้าจะมอบให้เจ้าก่อน!”ชายาเจ้าแห่งทะเลระงับโทสะไว้ และกล่าวอย่างเยือกเย็น “เจ้าคือฮองเฮาแห่งฉินตะวันตก เซียวเยวี่ยบุตรชายเจ้าคือรัชทายาทแห่งฉินตะวันตก แต่ไหนแต่ไรแผ่นดินนั้นของพวกเจ้ากับพวกเราก็มิเคยก้าวก่ายกัน!”“อีกทั้งสามีข้าก็คือบิดาของเจ้า พวกเราก็มิได้อยากจะฆ่าล้างพวกเจ้าหรอก
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว