Share

บทที่ 17

Author: กานเฟย
"ท่านแม่!"

“ปล่อยเขาซะ!”

เสียงของหลินอวี๋และเสี่ยวเมาที่ดังขึ้นพร้อมกัน

แตกต่างกันก็คือเสียงเล็ก ๆ ของเสี่ยวเมาที่ยังมึนงงอยู่บ้าง เขาไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้

แต่น้ำเสียงของหลิงอวี๋นั้นเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง

บรรยากาศเย็นยะเยือกที่แผ่ออกมาทำให้แม่นมที่อยู่ใกล้นางตัวสั่นไปหมดโดยไม่รู้ตัว

“เสี่ยวเมาไม่ต้องกลัว!”

เมื่อเห็นเสี่ยวเมาจ้องมองมาที่นาง หลิงอวี๋ก็ลดรังสีอมหิตลงไปได้บ้าง

นางยิ้มให้เสี่ยวเมาอย่างอ่อนโยน "พวกเรามาเล่นเกมกันนะ ปิดหู หลับตาไว้ จบเกมแล้วค่อยลืมตานะ!"

“ขอรับ ข้าจะเชื่อฟังท่านแม่!”

หลิงอวี๋ไม่เคยยิ้มให้เสี่ยวเมาอย่างอ่อนโยนเช่นนี้มาก่อน เสี่ยวเมาหลับตา และเอามือเล็ก ๆ ปิดหูของเขาไว้อย่างเชื่อฟัง

เชื่อฟังจริง ๆ !

หลิงอวี๋พยักหน้าอย่างชื่นชม

เมื่อนางหันหน้ากลับไป รอยแผลที่บนใบหน้าน่าเกลียดดูน่ากลัวเป็นพิเศษ และแผ่บรรยากาศเย็นเยียบกดดันออกมา

“ข้าบอกให้ปล่อย ไม่ได้ยินรึ?”

หลิงอวี๋ยื่นมือชี้ไปที่แม่นมที่กำลังอุ้มเสี่ยวเมา น้ำเสียงของนางเย็นชาราวกับยมทูตจากนรก!

"ได้สิ ถ้าเจ้าอยากให้พวกเราปล่อยเสี่ยวเมาไป ก็แค่คุกเข่าลงคำนับให้พวกเราสามครั้ง ไม่สิ... สาม
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter
Mga Comments (1)
goodnovel comment avatar
Eang Ubon
น่าติดตาม.........
Tignan lahat ng Komento

Pinakabagong kabanata

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2584

    เผยอวี้และฉินซานเป็นผู้มีประสบการณ์ ด้วยความที่เป็นทหารอาชีพเมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ สิ่งแรกที่คำนึงถึงก็คือการรักษากำลังของฝ่ายตนไว้ภายใต้การนำของเผยวี่และฉินซาน ทุกคนต่างรีบถอยกลับไปยังหมู่บ้านตระกูลอู เผยอวี้ดึงอูจาและฉินซานมาช่วยกันสร้างสิ่งกีดขวางอย่างเร่งรีบบริเวณหน้าเส้นทางภูเขา ซึ่งเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านตระกูลอูทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน มินานก็ก่อกำแพงหินขึ้นมาได้สำเร็จด้วยวิธีนี้ แม้ว่าตระกูลใหญ่เหล่านั้นจะบุกขึ้นมา เพียงแค่จัดวางพลธนูซุ่มโจมตีไว้ ก็สามารถสร้างสภาวะที่คนผู้เดียวสามารถต้านทานคนนับหมื่นได้อูจาก็รีบเรียกคนในตระกูลของตนมาช่วยกันซ่อนเสบียงอาหารณ เวลานี้ พวกเขามิได้คิดที่จะอ้อนวอนสวรรค์ให้มาช่วยเหลืออีกต่อไปแล้ว เมื่อเทียบกับเทพเจ้าที่เลื่อนลอยและว่างเปล่า การช่วยเหลือตนเองคือหนทางเดียวที่จะรอดชีวิตขณะที่ทุกคนกำลังง่วนอยู่กับงานของตน ทันใดนั้นฝนก็เทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก อุณหภูมิลดลงอย่างฮวบฮาบจนทุกคนหนาวสั่นไปตาม ๆ กันท่านผู้เฒ่าเย่เงยหน้ามองท้องฟ้าที่มืดครึ้มด้วยหัวใจที่หนักอึ้งก่อนหน้านี้เย่ซงเฉิงเคยกล่าวไว้ว่าแดนเทพจะประสบกับมหาภัยพิบัติครั้งใหญ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2583

    “ไท่จี๋” คือสนามพลังแห่งความสามัคคีที่ถือกำเนิดจากฟ้าดิน เป็น “ประตูแห่งสัจธรรมทั้งปวง” อันเป็นที่มาของสรรพสิ่ง และเป็นแก่นแท้แห่งจักรวาล...เมื่อใช้สรรพสิ่งเป็นต้นกำเนิด นั่นก็คือแก่นแท้ของจักรวาล!หลิงอวี๋เองก็มิทันตระหนักว่า ขณะที่ความคิดในหัวของนางโลดแล่นไปนั้นจิตสำนึกของนางก็ร่ายรำตามไปด้วยพลังปราณของหยกหล้าสุขาวดีพลุ่งพล่าน พลังที่เคยถูกผนึกไว้ก็ทะลักทลายออกมาตามพลังแห่งจิตที่แข็งแกร่งขึ้นของนางแสงสีทองอันเชี่ยวกรากแผ่กระจายออกไปทุกทิศทางราวกับสัญลักษณ์ไท่จี๋ที่ขยายตัวออกไปมิสิ้นสุด...หยกหล้าสุขาวดีของหลิงอวี๋ได้เปิดประตูมิติแห่งกาลเวลาออกแล้วในขณะที่ยอดเขาเฟยหวงทั้งลูกกำลังพังทลายลง หลิงอวี๋ได้โอบกอดเซียวหลินเทียนที่หมดสติและพิงอยู่บนร่างของนางไว้ทั้งสองร่วงหล่นเข้าสู่ประตูมิติแห่งกาลเวลาพร้อมกันเหมือนกับที่ท่านผู้เฒ่าเย่ได้กล่าวไว้ ต่อให้หยกหล้าสุขาวดีจะทรงพลังเพียงใด ก็มิสามารถก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนที่ทำลายล้างขนาดแผ่นดินไหวภูเขาถล่มเช่นนี้ได้เหตุการณ์แผ่นดินไหวภูเขาถล่มนั้นมีเบื้องลึกเบื้องหลังอื่นแต่ทุกสิ่งล้วนเป็นชะตาลิขิต หลิงอวี๋มิอาจล่วงรู้ได้ว่า ในขณ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2582

    “เสี่ยวชี หากเจ้ารู้สึกว่าความสามารถของเจ้าครอบคลุมไปถึงแดนเทพหรือแม้กระทั่งใต้หล้าที่กว้างใหญ่กว่านั้น ใต้หล้าของเจ้าก็จะยิ่งไพศาลยิ่งขึ้น!”“สุขาวดี แสดงถึงปัญญาผ่านการเปลี่ยนแปลง หล้า แสดงถึงความสามารถผ่านความเรียบง่าย หากเข้าถึงแก่นแท้ของมันได้ ก็เท่ากับเข้าถึงวิถีแห่งฟ้าดินและสรรพสิ่งได้”“เพียงแค่เจ้าเข้าใจถึงแก่นแท้ของมันได้ เจ้าก็อาจกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่! กลายเป็นปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในแผ่นดินผืนนี้!”ทุกถ้อยคำของเย่ซงเฉิงทำให้หลิงอวี๋รู้สึกราวกับว่าตนเองกำลังปีนป่ายยอดเขาสูงชันลูกหนึ่งนางต้องพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อปีนขึ้นไปให้ถึงยอดเขา แล้วนางจึงจะสำเร็จ!นางพยายามครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็มิอาจปีนขึ้นไปได้เย่ซงเฉิงร้อนใจดั่งไฟสุม เขาซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ต้นเดียวกับที่หลิงอวี๋อยู่ แม้จะใช้วิชาพรางตาทำให้คนอื่นมองมิเห็นตัวตนของเขา แต่เย่ซงเฉิงกลับมองเห็นสถานการณ์ในสนามรบได้อย่างชัดเจนเขาเห็นว่าเซียวหลินเทียนสิ้นไร้ไม้ตอกแล้ว และถูกฝ่ามือของหลงหมิงซัดจนจมลงไปในหล่มโคลนเย่ซงเฉิงสุดที่จะทนได้อีกต่อไป เขาตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว พลางทาบฝ่ามือลงบนแผ่นหลังของหลิงอวี๋

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2581

    ลำแสงสีทองยังคงพวยพุ่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่องมิขาดสาย พร้อมกับแผ่นดินที่สั่นสะเทือนรุนแรงยิ่งขึ้นกว่าที่พวกเขาจะทั้งกลิ้งทั้งคลานหนีมาถึงกลางเขา ยอดเขาเฟยหวงก็ถูกทำลายไปแล้วกว่าครึ่งยอดเขาสูงตระหง่านที่เมื่อครู่ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ระหว่างฟ้ากับดิน บัดนี้กลับดูราวเหมือนถูกคมดาบขนาดยักษ์ตัดส่วนยอดหายไปครึ่งหนึ่งพลังทำลายล้างมหาศาลเช่นนี้ล้วนเป็นฝีมือของหลิงอวี๋อย่างนั้นหรือ?จงเจิ้งคุนและเหล่าผู้นำตระกูลใหญ่ที่หนีไปยังที่ปลอดภัยแล้วต่างพากันตกตะลึงอย่างมิเชื่อสายตาพวกเขามองไปยังลำแสงสีทองที่ลอยสูงขึ้นไปถึงกลางอากาศ หลิงอวี๋ผู้นี้ หรือว่านางจะน่ากลัวยิ่งกว่าหลงอี้ในตอนนั้นเสียอีก?แต่แล้วก็พลันเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขึ้นอีกระลอกครั้งนี้มิใช่แค่ยอดเขาเฟยหวงที่สั่นไหว แต่เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งลูกที่กำลังสั่นสะเทือนทันใดนั้นหัวใจของท่านผู้เฒ่าเย่ก็สั่นสะท้านขึ้นมา เขาตะโกนลั่น “จงเจิ้งคุน พวกเจ้ากับสำนักซิงหลัวไปทำกระไรกันมา?”“หรือว่าพวกเจ้าปล่อยฝูไห่ออกมา?”“แรงสั่นสะเทือนระดับนี้มิใช่ฝีมือของหลิงอวี๋แน่นอน!”ต่อให้หยกหล้าสุขาวดีจะเป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ ก็มิอาจมีพลังทำลายล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2580

    เศษเนื้อและโลหิตสาดกระเซ็นไปทั่วทิศทาง ชิ้นส่วนจำนวนมิน้อยกระเด็นไปเปรอะเปื้อนบนร่างของทุกคนจงเจิ้งคุนเองก็เช่นเดียวกับเผยอวี้ เดิมทีคิดจะพุ่งเข้าไปในแสงเพลิงเพื่อชิงหยกหล้าสุขาวดี แต่กลับช้าไปก้าวหนึ่งด้วยความช้าเพียงก้าวเดียวนี้เองที่ทำให้พวกเขาได้เห็นการตายของหลงซินในระยะที่ใกล้กว่าใครทั้งหมดด้วยระยะที่ใกล้ขนาดนี้ เศษเนื้อและเลือดของหลงซินจึงสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนเต็มศีรษะและใบหน้าของเผยอวี้กับจงเจิ้งคุนเศษเนื้อที่เหนียวเหนอะหนะและยังคงความอุ่นจากร่างกายมนุษย์นั้นทำให้เผยอวี้รู้สึกขยะแขยงจนอยากจะอาเจียนเขาตกใจจนกระทั่งลืมที่จะหลบหลีกเป็นเย่ซื่อฝานที่เห็นท่ามิดีจึงรีบพุ่งเข้ามา “ท่านแม่ทัพเผย ไปกันเถิด!”“หลิงอวี๋ยังสามารถปล่อยพลังเช่นนี้ออกมาได้ นางต้องมิเป็นอันใดแน่นอน! เรารีบไปกันเถิด!”เผยอวี้ถูกเขาคว้าจับไว้และพาเดินโซซัดโซเซออกไปในเวลานี้ ต้นไม้บนยอดเขาถูกทำลายไปแล้วกว่าครึ่ง และยอดเขาครึ่งหนึ่งก็ได้หายไปในหุบเหวลึกเป็นดังที่ท่านผู้เฒ่าเย่กล่าวไว้ หากมิไปตอนนี้ ทุกคนคงต้องถูกฝังอยู่ที่ยอดเขานี้“เดี๋ยวก่อน... ข้าต้องไปหาเซียวหลินเทียน!”เมื่อเผยอวี้เห็นเส้นทา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2579

    หลังจากผ่านเหตุการณ์เรื่องกู่ซากศพ หลงหมิงก็เริ่มหวาดระแวงในความสามารถของสวินเย่แล้วเมื่อเห็นเซียวหลินเทียนที่ควรจะตายไปแล้วกลับลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง หลงหมิงก็พลันตื่นตัวระวังภัยขึ้นมาทันทีทว่า ก่อนที่หลงหมิงจะได้ทันเคลื่อนไหว ก็เห็นม่านหมอกสีดำชั้นหนึ่งปรากฏขึ้นห่อหุ้มร่างกายของเซียวหลินเทียน ยิ่งม่านหมอกสีดำนั้นหนาทึบขึ้นเท่าใด กลิ่นอายพลังหยินอันหนาวเหน็บน่าสะพรึงกลัวก็ยิ่งแผ่กระจายออกมาในฉับพลันในใจของหลงหมิงพลันเกิดลางสังหรณ์ที่มิดีขึ้นมาขณะที่เขากำลังจะซัดฝ่ามือเข้าใส่เซียวหลินเทียน ร่างของเซียวหลินเทียนก็พุ่งเข้าใส่หลงหมิงประดุจลูกศรที่หลุดจากแหล่ง ดุจดังอสูรร้ายที่หลุดออกจากกรงขังด้วยความเร็วที่น่าสะพรึงกลัวปานสายฟ้าฟาดคลื่นพลังงานอันมหาศาลปะทุออกมาจากม่านหมอกสีดำอันหนาทึบนั้นในสายตาของหลงหมิง ดูเหมือนว่าเซียวหลินเทียนจะกลายร่างเป็นเงามายานับพันนับหมื่น โจมตีเข้ามาหาตนด้วยความเร็วที่เหนือจินตนาการราวกับภูตผีปีศาจ“เปรี้ยง!”การโจมตีครั้งนี้รุนแรงดุจดั่งคลื่นคลั่งในทะเลพิโรธ คลื่นพลังยุทธ์อันแข็งแกร่งได้แผ่กระจายออกไปรอบทิศทั่วบริเวณพลันสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นราว

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status